Rovio ได้ประกาศ Angry Birds ภาคใหม่ ที่แม้จะเป็นการพุ่งชนเล็กๆ ของนกธรรมดาตัวหนึ่ง แต่มันจะเป็นการพุ่งชนที่ยิ่งใหญ่ของหมู่มวลนกทั้งรัง เพราะว่าคราวนี้ เจ้านกจะได้ออกไปตะลุยอวกาศกับเค้าแล้ว
เสียดายว่ารายละเอียดส่วนใหญ่ถูกเก็บไว้ในแฟ้มลับสุดยอด ที่พอจะรู้คือได้ NASA และ National Geographic มาร่วมงาน ตอนนี้ก็คงได้แต่คาดเดาว่า ระบบฟิสิกส์ที่ไร้แรงโน้มถ่วงจะเป็นอย่างไร การโจมตีด้วยความเร็วแสงจะเป็นไปได้หรือไม่ เพราะว่าตัวเกมจะมาให้เล่นกันวันที่ 22 มีนาคมนี้ครับ
ที่มา: Engadget
เมื่อวันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา นางลินดา เคอร์ตัน (Linda Cureton) ซีไอโอขององค์การอวกาศนาซ่า (NASA) ได้เขียนบนบล็อกของนาซ่าว่า "เดือนนี้นับเป็นจุดสิ้นสุดของยุคแห่งวิชาการคอมพิวเตอร์ที่นาซ่าอีกหนึ่งยุค ศูนย์การบินอวกาศมาร์แชล (Marshall Space Flight Center) ได้ทำการปิดเครื่อง IBM Z9 ซึ่งเป็นเครื่องเมนเฟรมเครื่องสุดท้ายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว"
หลายคนอาจจำข่าว Nexus S ออกนอกโลก บินไปกับกระสวยอวกาศเที่ยวสุดท้าย เมื่อเดือนกรกฎาคมกันได้ เวลาผ่านมาสองเดือน กูเกิลเพิ่งปล่อยวิดีโอของ Nexus S ในอวกาศมาให้ดูกัน
Nexus S เคยถูกส่งขึ้นไปถึงขอบอวกาศกับบอลลูนฮีเลียมมาแล้วรอบหนึ่ง แต่สุดท้ายก็ได้ขึ้นไปในอวกาศจริงๆ สักที เพราะ Nexus S เป็นหนึ่งในผู้โดยสารของกระสวยอวกาศแอตแลนติสในการเดินทางครั้งสุดท้ายก่อนสั่งลา
ภารกิจของ Nexus S กับการท่องอวกาศครั้งนี้คือช่วยการทดลองควบคุมดาวเทียมด้วยโทรศัพท์มือถือ (โครงการ SPHERES อ่านรายละเอียดใน JuSci) การทดลองครั้งนี้ทำให้ Nexus S กลายเป็นมือถือเชิงพาณิชย์รุ่นแรกที่ NASA รับรองให้ออกไปท่องอวกาศ และใช้งานบนสถานีอวกาศนานาชาติได้
เอชพีประกาศชัยชนะในการประมูลงานบริการไอทีให้กับนาซ่าระยะเวลาสิบปี มูลค่าสัญญา 2.5 พันล้านดอลลาร์ โดยเอาชนะบริษัทผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางอย่าง Lockheed Martin ที่มีสัญญากับนาซ่าจำนวนมากไปได้
ทางด้าน Lockheed Martin ออกมาแสดงความผิดหวังกับผลการประมูลนี้โดยชี้ว่าบริษัทน่าจะมีความเข้าใจในนาซ่ามากกว่า
ทางด้านเอชพีแถลงข่าวนี้พร้อมกับสำทับอีกหน่อยว่าปีนี้เอชพีมีสัญญากับรัฐบาลอย่างน้อยเจ็ดสัญญาก่อนหน้านี้ โดยมีมูลค่าตั้งแต่ 20 ล้านไปจนถึง 3 พันล้านดอลลาร์
ที่มา - Wall Street Journal
Douglas H. Wheelock นักบินอวกาศของ NASA และเป็นผู้บัญชาการคนปัจจุบันของสถานีอวกาศนานาชาติ ได้ถ่ายภาพจากบนสถานีอวกาศนานาชาติ แล้วเผยแพร่ใน Twitter ให้โลกได้รับรู้
ผู้สนใจสามารถติดตามเขาได้ที่ @Astro_Wheels เข้าใจว่า "ขอภาพ" ได้ด้วย เช่น ภาพของประเทศไอร์แลนด์ยามค่ำคืน
Wheelock มีความสนใจเทคโนโลยีอย่างมาก นอกจากทวีตจากอวกาศแล้ว เขายังเคย "เช็คอิน" สถานีอวกาศนานาชาติในบริการ Foursquare อีกด้วย (ข่าว)
บริการประมวลผลบนกลุ่มเมฆ ไม่ว่าจะเป็น EC2, App Engine หรือ Azure ล้วนเป็นแพลตฟอร์มปิดด้วยกันทั้งสิ้น คำถามคือถ้าหากว่าเราต้องการสร้างกลุ่มเมฆขึ้นเองจะต้องทำอย่างไรดี คำตอบอาจเป็น OpenStack
OpenStack คือชุดซอฟต์แวร์แบบโอเพนซอร์สสำหรับสร้างระบบ cloud computing ตัวตั้งตัวตีในเรื่องนี้คือ Rackspace ผู้ให้บริการโฮสติ้งรายใหญ่ ซึ่งบริจาคโค้ดของระบบ cloud ที่ตัวเองใช้อยู่ (Rackspace Cloud Files) ให้เป็นโอเพนซอร์ส นอกจากนี้ยังมี NASA ที่บริจาคโค้ดโครงการ NASA Nebula มาร่วมอีกราย ซึ่งโค้ดสองชุดจะรวมเป็นซอฟต์แวร์ตัวเดียวกันในอนาคต
NASA ทำเก๋ ส่งเกม Moonbase Alpha ให้ทดลองใช้ชีวิตอยู่บนดวงจันทร์ เล่นได้ทั้งโหมดคนเดียวกับมัลติเพลเยอร์ ผู้เล่นจะได้รับภารกิจให้กู้ระบบช่วยชีวิตที่ได้รับผลกระทบจากเศษอุกกาบาต
เกมนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Learning Technologies ซึ่งมีเป้าหมายคือเผยแพร่เนื้อหาของ NASA ผ่านสื่อต่างๆ เช่น เกม หรือระบบโลกเสมือนจริง เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ในระยะยาว ที่สำคัญ Moonbase Alpha เป็น "ภาคต้น" ของเกมออนไลน์แบบ MMO ที่ชื่อ Astronaut: Moon, Mars & Beyond ที่จะตามมาในไม่ช้า
หลังจากที่ NASA เคยให้ส่งชื่อไปดวงจันทร์เมื่อกลางปีที่แล้ว มาวันนี้ NASA ได้เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจ สามารถส่งชื่อของตนเองไปกับ Mars Science Laboratory rover (หุ่นยนต์อวกาศสำรวจดาวอังคาร) เพียงเข้าไปที่เว็บ SEND YOUR NAME TO MARS กรอกชื่อ, นามสกุล, ประเทศ และรหัสไปรษณีย์ เพียงเท่านี้ชื่อของคุณก็จะได้รับการนำไปบันทึกบนไมโครชิปที่จะติดไปกับ Mars Science Laboratory rover ก่อนมุ่งหน้าสู่ดาวอังคารในปี 2011 แถมยังสามารถสร้างเกียรติบัตรเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้อีกด้วยนะ (น่าเสียดายที่ระบบไม่รองรับภาษาไทย)
ภารกิจแรกของการส่งยานสำรวจ CO2 ของนาซ่าล้มเหลวเหตุจากจรวดทำงานผิดปกติ
เจ้าหน้าที่กล่าวว่าปัญหาเกิดจากเปลือก(fairing)ที่หุ้มดาวเทียมตรงหัวจรวดล้มเหลวในการแยกตัว หากผลการตรวจสอบได้รับการยืนยันเราคงจะสูญเสียภารกิจนี้ไป
ยานสำรวจคาร์บอนในระดับวงโคจร หรือ Orbiting Carbon Observatory (OCO) มีจุดมุ่งหมายที่จะชี้ตำแหน่งหลักบนผิวโลกว่าที่ใดที่ปล่อย หรือดูดซับคาร์บอน
หลายคนอาจจะรู้ว่าการออกแบบอินเทอร์เน็ตนั้นมีเป้าหมายว่าจะสร้างเครือข่ายที่ทนทานต่อสงครามนิวเคลียร์ ซึ่งแม้เอาเข้าจริงแล้วหลายรายงานจะระบุว่ามันทนไม่ได้จริงๆ ก็ตามแต่อินเทอร์เน็ตก็ทำงานได้ค่อนข้างน่าเชื่อถือตลอดเวลาหลายปีมานี้
แต่กับอวกาศนั้นโจทย์จะต่างกันออกไป เพราะการเชื่อมต่อข้ามดวงดาวนั้นมีเงื่อนไขต่างกันหลายอย่างเช่น การสื่อสารออกแบบขาดช่วงไปเป็นชั่วโมง, วัน, หรือกระทั่งเดือน ก่อนที่จะกลับมาติดต่อกันได้ใหม่ อีกทั้งดีเลย์ในการติดต่อก็สูงมาก เช่นดาวอังคารนั้นใช้เวลาส่งข้อมูลถึงโลกอยู่ในช่วง 3.5 ถึง 20 นาที
NASA รายงานว่าเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพาบน International Space Station (ISS) ถูกตรวจพบ malware อยู่และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการพบไวรัสและหนอนคอมพิวเตอร์ในวงโคจร เรื่องนี้ถูกรายงานโดย เจ้าหน้าที่ Sergey Volkov เขาเขียนรายงานสถานะประจำวันหลังจากตรวจพบ malware ด้วยโปรแกรม Norton Antivirus ขณะที่กำลังดูภาพจากการ์ดหน่วยความจำบนเครื่องคอมพิวเตอร์พกพาสัญชาติรัสเซียชื่อ RSS-2
งานนี้ Norton ได้หน้าไปเต็มๆอย่างน้อยก็สองเรื่องคือคุณภาพดีจนผ่านการคัดเลือกให้ไปใช้บนอวกาศและตรวจพบ malware นอกโลก(malware นี้ไม่ได้มาจากนอกโลกนะครับ)
ที่มา - ComputerWorld
กระสวยอวกาศที่เราเห็นใช้กันอยู่ทุกวันนี้นั้นเริ่มโครงการกันมาตั้งแต่ช่วงปี 1970 ในชื่อโครงการ Space Transportation System (STS) จนกระทั่งขึ้นสู่อวกาศครั้งแรกในปี 1981 จนถึงวันนี้ก็เกือบสามสิบปีแล้วที่กระสวยอวกาศทำงานในภารกิจต่างๆ จำนวนมาก และโครงการนี้ก็กำลังจะถึงจุดสิ้นสุดลง โดยนาซ่าได้ออกประกาศล่วงหน้าว่าภารกิจนับจากวันนี้ไปถึงปี 2010 นั้นจะมีอีกสิบภารกิจที่จะทำในช่วงสองปีข้างหน้า
100 ปีหลังเหตุการณ์การระเบิดที่ทุ่ง Tunguska ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าโลกยังไม่มีการเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับหายนะดังกล่าว
การระเบิดที่ทุ่ง Tunguska กินอาณาบริเวณ 2,000 ตารางกิโลเมตร มีความรุนแรงเทียบเท่าระเบิดปรมาณูที่ Hiroshima 200 ลูก ซึ่งอาจมีผู้เสียชีวิตหลายล้านคน หากการระเบิดนี้เกิดในเมืองใหญ่
ทฤษฎีหนึ่งที่อธิบายเหตุการณ์นี้คือ เกิดจากอุกกาบาตชนโลก หรือระเบิดขณะอยู่ในอากาศเหนือพื้นที่ดังกล่าว
เมื่อพูดถึงการพยากรณ์อากาศ เราคงคิดถึงฝนตกหรือแดดออกกันเป็นหลัก แต่ความจริงแล้วสภาพภูมิอากาศในอวกาศก็มีผลต่อชีวิตของเราไม่น้อย โดยเฉพาะลมสุริยะ (Solar Wind) ที่มีผลต่อการผลิตกระแสไฟฟ้าและเคยเป็นต้นเหตุให้ไฟดับในแคนาดากว่าเก้าชั่วโมงในปี 1989 สร้างความเสียหายมูลค่ามหาศาล ตอนนี้นาซ่าจึงเริ่มโครงการ Solar Shield ที่จะวิจัยสร้างโมเดลในคอมพิวเตอร์เพื่อพยากรณ์สภาพลมสุริยะ
โครงการนี้อาศัยข้อมูลดิบจากดาวเทียม SOHO และโครงการ Advanced Composition Explorer (ACE) และมีเป้าหมายที่จะพยากรณ์ในสองระดับคือระยะยาวหนึ่งถึงสองวัน และระยะสั้นประมาณครึ่งชั่วโมง
นาซ่าเปิดโอกาสให้คุณส่งชื่อตัวเองไปกับยานสำรวจ ที่จะออกเดินทางไปทำแผนที่พื้นผิวดวงจันทร์ภายในปีนี้
นาซ่าต้องการรายชื่อ 1,000,000 ชื่อเพื่อสลักลงบนไมโครชิพที่จะติดไปกับยาน Lunar Reconnaissance Orbiter หลังจากร่วมลงชื่อแล้ว นาซ่าก็จะออก certificate ให้ด้วยนะ
ใครอยากส่งชื่อก็เข้าลิ้งค์นี้เลยครับ ถึงจะเกินหนึ่งล้านไปแล้ว แต่ก็ยังมีใบ certificate ไว้ให้ดู
เป็นที่ทราบกันว่า ปริมาณน้ำแข็งที่ขั้วโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลนั้น มีความหนาลดลงทุกปี ตามอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกที่เพิ่มขึ้น
นักวิจัยจาก National Snow and Ice Data Center มหาวิทยาลัย Colorado ได้แสดงความเป็นห่วงว่า ฤดูร้อนในปีนี้มีโอกาสเป็นไปได้ที่น้ำแข็งบนขั้วโลกเหนือจะละลายจนหมด เนื่องจากชั้นน้ำแข็งที่เคลือบผิวหน้าทะเลเอาไว้บางลงมากเป็นประวัติการณ์ โดยเป็นผลเนื่องมาจากปรากฏการณ์ Arctic Oscillation ทำให้อัตราการไหลของน้ำแข็งขั้วโลกลงสู่ทะเลเร็วขึ้น เหลือเพียงชั้นน้ำแข็งบาง ๆ อายุ 1 ปีเท่านั้น
ผลการวิเคราะห์พื้นผิวดาวอังคารจากข้อมูลที่ส่งมาโดยยาน Mars Reconnaissance Orbiter และ Mars Global Surveyor เผยถึงแอ่งขนาดใหญ่ทางซีกโลกเหนือของดาวอังคาร ความกว้างประมาณ 5,300ไมล์ กินพื้นที่ถึง 40% ของพื้นผิวดาวอังคารทั้งหมด
ผลการวิเคราะห์ระบุว่าแอ่งขนาดใหญ่นี้เกิดจากการพุ่งชนของอุกกาบาตที่มีความกว้างประมาณ 1,200ไมล์ ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าพลูโตซะอีก
นี่อาจเป็นคำตอบของปริศนาตั้งแต่ยุค 70 ที่ว่าเหตุใดดาวอังคารจึงมีพื้นผิวทางซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้ต่างกันโดยสิ้นเชิง
ที่มา NASA
นักวิทยาศาสตร์ของ NASA ประกาศว่ายานฟินิกซ์ (Mars Phoenix Lander) ขุดพบน้ำแข็งบนดาวอังคาร โดยยานฟินิกซ์จะเก็บตัวอย่างของน้ำแข็งเพื่อทำการวิเคราะห์ต่อไป
ก่อนหน้านี้ ยานฟินิกซ์ได้ถ่ายภาพวัตถุสีขาวขนาดเล็กชิ้นหนึ่งที่พบในหลุมที่ขุดไว้ ยานฟินิกซ์ได้ถ่ายภาพวัตถุชิ้นนี้ในอีก 4 วันถัดมาและพบว่ามันได้ระเหิดหายไป
ปีเตอร์ สมิธ หัวหน้าทีมสอบสวนของโครงการฟินิกซ์กล่าวว่า "มันต้องเป็นน้ำแข็งอย่างแน่นอน ก้อนวัตถุเหล่านี้หายไปภายในเวลาไม่กี่วัน นี่คือหลักฐานที่ประจักษ์ชัดที่สุดว่ามันคือน้ำแข็ง มีบางคนตั้งคำถามว่ามันอาจเป็นเกลือ แต่เกลือไม่อาจเป็นเช่นนี้ได้"
การค้นพบครั้งนี้ช่วยยืนยันสมมติฐานที่ว่ามีน้ำแข็งอยู่ใต้พื้นผิวของดาวอังคาร
หลังจากที่ได้ลงจอดบนพื้นดาวอังคารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ Mars Phoenix Lander สามารถส่ง tweets มายังแฟน ๆ ชาว twitter ที่สนใจติดตามข่าวสารได้แบบทันต่อเหตุการณ์ โดยผู้ที่สนใจสามารถติดตาม Mars Phoenix Lander ได้ที่ twitter.com/MarsPhoenix
ที่จริงแล้ว ผลงาน tweets ของ Mars Phoenix Lander ที่ส่งมาเหมือนกับเป็นการเล่าเรื่องราวแบบบุคคลที่ 1 นี้ เป็นของ Veronica Mcgregor หนึ่งในสมาชิกของ Jet Propulsion Laboratory (JPL) ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยงานของ NASA ที่เป็นผู้ออกแบบ Mars Phoenix Lander นี่เอง (ไม่ได้ส่งมาจากดาวอังคารจริง ๆ)
เช้านี้ตามเวลาในประเทศไทย (หรือราวเกือบ 5 โมงเย็นที่แคลิฟอร์เนีย) ทีม Jet Propulsion Lab ของนาซ่า ต่างโห่ร้องแสดงความยินดี หลังลุ้นระทึกกับการลงจอดบนดาวอังคารของยาน "ฟินิกซ์" ตลอด 7 นาทีที่เข้าสู่ชั้นบรรยากาศ และปรากฏว่ายานลงจอดอย่างสมบูรณ์
การลงจอดดาวอังคารไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีหลายโครงการที่ล้มเหลวไปแล้ว และโครงการ "ฟินิกซ์" นี้ ก็ได้ชื่อมาด้วยเหตุของการฟื้นคืนชีพมาใหม่จากกองเถ้าถ่านของโครงการเดิม โดยในครั้งนี้ ไม่ได้ใช้ระบบถุงลมในการชะลอความเร็วลงสู่พื้นเหมือนเมื่อครั้งยาน Pathfinder ลงจอด แต่ใช้การยิงจรวดขับดันที่ขายาน ซึ่งจะเป็นเทคนิคที่จะใช้เมื่อมีการส่งมนุษย์ไปดาวอังคารจริง ความสำเร็จครั้งนี้จึงเป็นเครื่องสนับสนุนการใช้วิธีการนี้ได้
NASA ประกาศรับสมัครผู้เข้าร่วมทดลองเกี่ยวกับผลของสภาวะไร้น้ำหนักที่มีต่อร่างกายมนุษย์ ซึ่งก่อให้เกิดปัญหากล้ามเนื้อลีบ กระดูกพรุน ซึ่งจำเป็นที่นักบินอวกาศจะต้องปรับตัว เมื่อกลับเข้าสู่แรงโน้มถ่วงปกติบนโลก
ตามกติกา ผู้เข้าร่วมทดลอง จะต้องไม่สูบบุหรี่ ไม่มีประวัติโรคหัวใจ โรคระบบประสาทและกล้ามเนื้อ และโรคทางเดินอาหาร โดยจะมีการตรวจคัดกรองก่อน
การทดลองจะใช้เวลาประมาณ 120 วัน โดยใน 15 วันแรก คุณสามารถทำกิจกรรมได้ตามปกติภายในสถานที่ทดลองที่จัดไว้ให้ รวมทั้งรับการตรวจร่างกายระบบต่าง ๆ ตั้งแต่ระบบกล้ามเนื้อ กระดูก ระบบไหลเวียนโลหิต ระบบประสาทและสมอง และระบบภูมิคุ้มกัน
นักวิจัยที่มหาวิทยาลัย Leicester ได้ลองตรวจสอบถึงต้นทุนของการส่ง SMS เทียบกับค่าใช้จ่ายในการรับภาพจากดาวเทียม Hubble พบว่าการส่งข้อมูลผ่าน SMS แต่ละเมกกะไบต์นั้นจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 374.49 ปอนด์อังกฤษ หลังจากนั้นเขาได้สอบถามข้อมูลไปยังองค์กรนาซ่าว่าค่าใช้จ่ายสำหรับการรับภาพจากดาวเทียม Hubble นั้นเป็นเท่าใหร่ จึงได้รับคำตอบว่าอยู่ที่ 8.5 ปอนด์ต่อเมกกะไบต์
อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายของนาซ่ายังไม่ได้รวมถึงค่าบำรุงรักษา และค่าแรงของผู้ดูแลระบบ ทำให้ต้องมีการประมาณการใหม่เพื่อเพิ่มค่าใช้จ่ายเหล่านี้เข้าไป แต่จากการประมาณการ ค่าใช้จ่ายรวมนั้นไม่มีทางเกิน 85 ปอนด์ต่อเมกกะไบต์ไปได้ ทำให้ค่าส่ง SMS นั้นแพงกว่าอย่างน้อยๆ สี่เท่าตัว
อาจจะได้เวลาหาทางใหม่ๆ ในการส่ง SMS แล้วสินะ
เมื่อปี 2003 กระสวยอวกาศโคลัมเบียเกิดระเบิดระหว่างการกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศทำให้ลูกเรือทั้งเจ็ดคนเสียชีวิต และหนึ่งในสิ่งของที่บรรทุกลงมาด้วยคือข้อมูลจากการทดลอง CVX-2 ที่ทำกันมานานกว่า 20 ปี ทำให้ข้อมูลข้างในมีความสำคัญมหาศาล แม้การทดลองครั้งนี้ตั้งใจว่าข้อมูลทั้งหมดจะถูกส่งมาทางสัญญาณวิทยุ แต่เนื่องจากมีข้อผิดพลาดในการสื่อสารให้ต้องมีการขนตัวฮาร์ดิกส์กลับมาสู่พื้นโลก
หลังจากแข่งขันกันมาหลายสิบปี นาซ่าอาจจะกำลังถูกบังคับให้ไปใช้บริการขนส่งอุปกรณ์และลูกเรือขึ้นสู่อวกาศจากบริษัทของรัสเซียในที่สุด เนื่องจากบริษัทสองบริษัทที่รับเงินสนับสนุนการวิจัยจากนาซ่าคือ SpaceX และ Rocketplane Kistler นั้นไม่สามารถหาเงินทุนมาพัฒนาจรวดของตนต่อไปได้ แม้ทางนาซ่าจะสนับสนุนเงินทุนไปแล้วถึง 32 ล้านดอลลาร์ โดยในตอนนี้เองบริษัท SpaceX ออกมายืนยันว่ายังไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่นาซ่าต้องใช้บริการจากบริษัทรัสเซีย แต่อย่างใดก็ตาม บริษัทเอกชนของสหรัฐก็ยังไม่สามารถแสดงศักยภาพในการส่งมนุษย์ขึ้นสู่อวกาศได้