ในระหว่างการให้สัมภาษณ์ผ่าน Nokia Conversations คุณ Stephen Elop ระบุว่าแอพพลิเคชันสำหรับการใช้งานในท้องถิ่น [มิใช่แอพฯ ที่คนส่วนใหญ่จากหลายประเทศใช้งาน เช่น WhatsApp] เป็นสิ่งที่สำคัญและโนเกียจะพยายามรวมศูนย์และนำเสนอต่อผู้ใช้งานหลากหลายกลุ่มโดยการรวม App Store สำหรับแอพฯ บน S40, Symbian และ Windows Phone 7 เข้าด้วยกัน
นอกจากนั้น คุณ Brandon Watson ได้กล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า โนเกียจะมุ่งทำตลาดในหลายประเทศมากยิ่งขึ้น (รวมถึง ประเทศจีน อินเดีย และรัสเซีย) ซึ่งการมี App Store ในประเทศเหล่านั้นจะช่วยให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงและขายแอพฯ เฉพาะกลุ่มลูกค้าในแต่ละประเทศได้
Stephen Elop ให้สัมภาษณ์กับบล็อก Nokia Conversations ภาคภาษาจีน (ของโนเกียทำเอง) เขาให้ข้อมูลว่ามือถือ Symbian น่าจะ (expected) ได้รับซอฟต์แวร์อัพเดตจนถึงปี 2016
ก่อนหน้านี้ Elop และโนเกียพูดเพียงแค่ว่าจะลงทุนใน Symbian ต่อไป แต่ยังไม่เคยบอกว่าถึงเมื่อไร นี่เป็นครั้งแรกที่มีตัวเลขชัดๆ ออกมา (และ 2016 เป็นตัวเลขที่เกินความคาดหมายของหลายๆ คน) บทสัมภาษณ์มีฉบับแปลภาษาอังกฤษ อ่านได้ตามลิงก์
Elop ยังบอกด้วยว่าตอนนี้มือถือที่เขาใช้อยู่คือ Nokia Oro
ที่มา - All About Symbian
นอกจากที่คุณ Jo Harlow หัวหน้าฝ่ายสมาร์ทโฟนของโนเกียได้เปิดเผยผ่าน Forbes ไปก่อนหน้านี้ว่าบริษัทยังเดินตามแผนปล่อยสมาร์ทโฟนรัน Windows Phone 7 ตัวแรกในปีนี้ เธอยังได้ให้สัมภาษณ์กับ PC Magazine ว่าหลังจากบริษัทเปิดตัวรุ่นแรกออกสู่ตลาดแล้วก็จะพยายามเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ทุก 2-3 เดือน
คุณ Harlow ยังเสริมว่า ที่สมาร์ทโฟนรัน Windows Phone 7 รุ่นใหม่ออกสู่ตลาดช้าก็เนื่องจากผู้ผลิตอย่างเอชทีซีและซัมซุงมองว่ามันเป็นแพลตฟอร์มที่รองจากแพลตฟอร์มอื่น แต่สำหรับโนเกียแล้ว Windows Phone 7 ถือเป็นแพลตฟอร์มเบอร์หนึ่งของบริษัทได้เดิมพันอนาคตไว้แล้ว
ถ้ายังจำกันได้เมื่อก่อนเราเคยมีโทรศัพท์ที่จับกลุ่มตลาดบนที่มักมีดีไซน์ที่เรียบหรู ทำด้วยวัสดุชั้นดีอย่าง Vertu ซึ่งช่วงหลังได้ถูกกระแส iPhone กลบไปบ้าง มาวันนี้โนเกียออกโทรศัพท์จับตลาดนี้อีกครั้งด้วย Nokia Oro ครับ
แม้ว่าด้านคุณสมบัติทั่วไปนั้นตัวโทรศัพท์ที่ออกใหม่นี้จะไม่แตกต่างจากโทรศัพท์โนเกียรุ่นใหม่ทั่วไป เช่นมีหน้าจอ 3.5 นิ้ว AMOLED, 3G/WiFi, กล้อง 8 ล้านพิกเซลพร้อมอัดวิดีโอความละเอียด 720p และใช้ระบบปฏิบัติการ Symbian Anna แต่เจ้าโทรศัพท์ Nokia Oro ที่ว่านี่มีความพิเศษตรงที่ตัวเครื่องนั้นทำจากทอง 18 กะรัต, ปุ่มกดหลักที่ทำจากคริสตอลแบบแซฟไฟร์ และหน้ากากหลังที่เป็นหนังแท้จากสกอตแลนด์
Forbes มีโอกาสสัมภาษณ์ Jo Harlow หัวหน้าฝ่ายสมาร์ทโฟนของโนเกีย ซึ่งเผยข้อมูลของมือถือ WP7 จากโนเกียเพิ่มขึ้นอีกหน่อย
ถึงแม้ผู้บริหารของ ST-Ericsson อ้างว่า Windows Phone จากโนเกียจะใช้ชิปของตน แต่ล่าสุดโฆษกของโนเกียก็ได้ยืนยันกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า Windows Phone ที่โนเกียจะวางจำหน่ายในปีหน้าจะใช้ชิปจาก Qualcomm
เขายังกล่าวเสริมด้วยว่า โนเกียก็ยังเปิดโอกาสให้บริษัทอื่นมาผลิตชิปให้กับ Windows Phone ของตนอยู่ ไม่ได้ปิดกั้นให้เฉพาะบริษัทใดบริษัทหนึ่งเท่านั้นแต่อย่างไร
ระหว่างที่หลายคนกำลังรอดู Windows Phone จากโนเกียว่าจะออกมาแบบไหน ล่าสุด Forbes ได้อ้างข้อมูลบางส่วนจากการสัมภาษณ์ Carlo Bozotti ซึ่งเป็น Chief Executive ของ ST-Ericsson ที่ระบุว่าบริษัทจะเป็นผู้ผลิตชิปรายสำคัญให้แก่ Nokia ระหว่างการให้สัมภาษณ์แก่นักวิเคราะห์ประจำปีของบริษัท
ข่าวเกี่ยว Nokia N9 มีมานานแล้วในที่สุดก็ได้เผยให้เห็นต่อชาวโลกแล้ว หน้าตาคล้ายกับ E7 มาพร้อมกล้องเลนส์มุมกว้างระยะโฟกัส 28mm ของ Carl Zeiss ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล Auto Focus ไฟ Flash คู่แบบ LED โดยคาดว่าน่าจะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ MeeGo
ที่มา - GSMArena
ขอเตือนก่อนนะครับว่านี่เป็นข่าวลือจากเว็บ Engadget ที่อ้างรายงานของ Eldar Murtazin ว่าไมโครซอฟท์กำลังเจรจาที่จะซื้อกิจการโทรศัพท์มือถือของโนเกีย แม้ว่า Eldar ได้บอกไว้ว่าเขาไม่มีข้อมูลอื่น ๆ นอกจากนี้ ก่อนหน้านี้เขาให้ข่าวเรื่องที่โนเกียจะทิ้ง Symbian มาใช้ Windows Phone เป็นระบบปฏิบัติการหลักเมื่อปลายปีที่แล้ว แต่แล้วข่าวนั้นก็เป็นจริงในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
สำหรับไมโครซอฟท์ เรื่องเงินคงจะไม่เป็นปัญหา ก่อนหน้านี้ไมโครซอฟท์เคยเสนอที่จะซื้อยาฮูด้วยราคา 44 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคาตลาด (Market Cap) ของโนเกียในเวลานี้ นอกจากนี้ CEO คนปัจจุบันก็ยังเคยเป็นพนักงานระดับสูงของไมโครซอฟท์มาก่อน การตกลงการซื้อขายจึงไม่น่าจะเป็นเรื่องยากสำหรับสองบริษัทนี้
ทุกคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า ตอนนี้โนเกียกำลังเป็นพันธมิตรกับไมโครซอฟท์ในการผลิต Windows Phone 7 และก็มีความคิดเห็นต่างๆ นาๆ ว่า แท้จริงแล้วก็เหมือนกับโนเกียถูกซื้อโดยไมโครซอฟท์กลายๆ ไปแล้วนั่นเอง
และตอนนี้ Eldar Murtazin แหล่งข่าวที่เดิมที่เคยเป็นต้นข่าวลือเรื่องโนเกียจะหันมาใช้ระบบปฎิบัติการ Windows Phone 7 ทำให้ข่าวนี้ดูน่าเชื่อถือมากขึ้น เขาได้รายงานบนบล็อกของเขาว่า สัปดาห์หน้านี้โนเกียจะเข้าเจรจากับไมโครซอฟท์เพื่อขายฝ่ายโทรศัพท์ให้ไมโครซอฟท์ และดูเหมือนว่าทั้งสองบริษัทจะดูรีบร้อนให้การซื้อขายนี้จบลงภายในสิ้นปีนี้ด้วยเหตุผลบางประการอีกด้วย
วันนี้โนเกียประกาศว่าจะเริ่มรีแบรนด์บริการต่างๆ ที่อยู่ภายใต้ชื่อ Ovi (อาทิ Ovi Maps) ไปอยู่ภายใต้ชื่อ Nokia ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีนี้ โดยการรีแบรนด์นี้จะไปสิ้นสุดราวสิ้นปีหน้า (ค.ศ.2012)
เป็นที่น่าสังเกตว่าปีหน้าเป็นปีที่โนเกียอ้างว่าจะเปลี่ยนผ่านจากซิมเบียนไปสู่ Windows Phone 7 อย่างสมบูรณ์ จึงมีความเป็นไปได้สูงที่การรีแบรนด์ Ovi ครั้งนี้ก็เพื่อจะให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจร่วมกับไมโครซอฟท์ในอนาคต
หลังจากโนเกียถอนตัวออกจาก MeeGo ไปส่วนใหญ่ (เหลืออยู่บ้าง) ความไม่ชัดเจนที่เกิดขึ้นก็ตกอยู่กับ Qt อีกส่วนหนึ่งว่าโนเกียจะเอาอย่างไรกับเทคโนโลยีนี้อย่างไรต่อไป ล่าสุด Lars Knoll นักพัฒนาจากทีม Qt ก็ออกมาแถลงแผนการพัฒนา Qt 5 แล้ว โดยยังยืนยันว่าโนเกียจะให้การสนับสนุน Qt ต่อไป และ Qt 5 Beta จะมาภายในปีนี้ และรุ่นจริงจะออกในปี 2012 โดยความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นได้แก่
ความคืบหน้าล่าสุดของกรณีเครื่องหมายการค้า "App Store" ของแอปเปิล
ไมโครซอฟท์และผู้ผลิตมือถือรายใหญ่ 3 รายคือ HTC, Nokia, Sony Ericsson ร่วมกันยื่นคัดค้านการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า "App Store" ของแอปเปิลในทวีปยุโรป โดยให้เหตุผลว่าคำนี้ขาดความเฉพาะ (distinctiveness) จึงไม่ควรอนุมัติสิทธิบัตรนี้แก่แอปเปิล
ที่มา - GeekWire
บริษัทวิจัย Pyramid Research พยากรณ์ส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนโลกไปจนถึงปี 2015 โดยระบุว่า Windows Phone จะแซง Android ขึ้นเป็นแพลตฟอร์มอันดับหนึ่งในช่วงต้นปี 2013
เหตุผลสนับสนุนของ Pyramid Research คือการจับมือกันระหว่าง 2 ยักษ์ โนเกียและไมโครซอฟท์ จะส่งผลสะเทือนวงการอย่างมาก และจะเริ่มสำแดงเดชอย่างเต็มที่ในช่วงปลายปี 2013 โดยโนเกียจะช่วยแก้ปัญหาของ Windows Phone เรื่องราคาของฮาร์ดแวร์ให้ต่ำลงในระดับที่น่าดึงดูด
นอกจากนี้ ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์รายอื่นๆ อย่าง Samsung, LG, Sony Ericsson ก็ยังอยากมีส่วนร่วมกับ Windows Phone อยู่ในอนาคต และอัตราการเติบโตของ Android เองจะช้าลงกว่าช่วงปีสองปีนี้
หลังจากที่ซีอีโอ Stephen Elop เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าจะต้อง"ลดจำนวนพนักงานจำนวนมาก" วันนี้โนเกียประกาศแผนการลดจำนวนพนักงานถึงสี่พันคน โดยจะทำการปลดพนักงานออกเป็นช่วงๆจนครบสี่พันคนภายในสิ้นปีหน้า โดยที่สำนักงานที่จะมีคนออกมากที่สุดคือที่ฟินแลนด์ เดนมาร์ก และสหราชอาณาจักร
นอกจากนั้นโนเกียจะย้ายกิจการทั้งหมดที่เกี่ยวกับซิมเบี้ยน รวมถึงพนักงานอีกสามพันคน ไปอยู่กับบริษัทแอคเซนเจอร์
รวมแล้วโนเกียจะเสียพนักงานไปถึงเจ็ดพันคน จากจำนวนทั้งหมดทั่วโลกหนึ่งแสนสามหมื่นคน คิดเป็นประมาณร้อยละห้าของพนักงานทั้งหมด
วันนี้โนเกียได้ตัดสินใจแล้วว่าจะย้ายทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา Symbian ให้กับบริษัทที่ปรึกษาชื่อดัง Accenture แทน ที่น่าดีใจด้วยก็คือพนักงานโนเกียที่เกี่ยวข้องกว่า 3,000 คน ที่ไม่ต้องตกงาน แต่ต้องทำงานให้กับเจ้านายใหม่เท่านั้น ซึ่งก็หมายความว่าโนเกียได้รักษาสัญญาที่ให้ไว้ในคราวแล้วว่าจะลดจำนวนพนักงานโดยไม่มีใครตกงานได้ โดยการเปลี่ยนแปลงจะเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ไปจนถึงสิ้นปีหน้า
อีกอย่างที่น่าสนใจก็คือในสัญญาที่โนเกียทำไว้กับ Accenture ทั้งสองบริษัทยังจะต้องร่วมกันในการสร้างซอฟต์แวร์และบริการบนแพลทฟอร์ม Windows Phone ต่อไป
ที่มา - Engadget
ข่าวนี้ถือว่าไม่ผิดคาดนักถ้าดูกันตามแผนการของโนเกียช่วงที่ผ่านมา โดยโนเกียประกาศวันนี้ว่าบริษัทจะปลดพนักงาน 4,000 อัตรา และโอนย้ายพนักงาน 3,000 คนด้าน Symbian ไปอยู่กับ Accenture ซึ่งโนเกียจะเอาท์ซอร์สงานเกี่ยวกับ Symbian ทั้งหมดไปยัง Accenture หลังจากนี้
การปรับลดนี้จะกระทบกับพนักงานในฟินแลนด์ เดนมาร์ก และอังกฤษเป็นส่วนใหญ่ โดยกระบวนการปรับลดนี้จะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในสิ้นปี 2012
ที่มา: Reuters
หน่วยงานที่ไม่ค่อยถูกพูดถึงนักในกรณีข้อตกลงโนเกีย-ไมโครซอฟท์คือบริษัทแผนที่ NAVTEQ ซึ่งเป็นบริษัทลูกของโนเกีย ถึงแม้ว่างานของ NAVTEQ จะมีส่วนทับซ้อนกับ Bing Maps ก็ตาม
ล่าสุดมีเอกสารภายในของโนเกียหลุดออกมาถึงเว็บไซต์ Phone Scoop ระบุว่าโนเกียกำลังจัดโครงสร้างองค์กรของ NAVTEQ ใหม่ โดยโนเกียจะนำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับ location ทั้งหมด (รวมถึง NAVTEQ) มาสร้างเป็นหน่วยธุรกิจ (business unit) ใหม่เพียงหน่วยเดียว
หน่วยธุรกิจนี้มีเป้าหมาย 3 ประการ
ภายหลังจากโนเกียประกาศผลประกอบการไตรมาสล่าสุด เลยทำให้ตอนนี้แอปเปิลกลายเป็นบริษัทจำหน่ายโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่ที่สุดในแง่รายได้แซงหน้าโนเกียไปแล้ว
โนเกียแถลงผลประกอบการไตรมาสแรกประจำปี 2011 ซึ่งคาดการณ์กันว่าบริษัทจะมีผลประกอบการแย่ตลอดปีนี้ภายหลังประกาศยุทธศาสตร์ Windows Phone 7 ร่วมกับไมโครซอฟท์ ที่น่าจะมีผลต่อยอดขายสินค้าปัจจุบัน รายละเอียดเป็นดังนี้ครับ
หลังจากได้เปิดแถลงความสัมพันธ์ที่สร้างความฮือฮาให้คนทั้งโลกมานานพอสมควรแล้ว ก็ถึงเวลาแล้วที่ Nokia และ Microsoft จะจับมือกันมาลงนามเซ็นสัญญาข้อตกลงระหว่างสองบริษัท
สำหรับการลงนามครั้งนี้ทางลูกทีมของ Microkia ได้กล่าวว่าพวกเขาได้ทำงานการอย่างหนักในพัฒนาอุปกรณ์ Nokia Windows Phone และจะสามารถออกสู่ตลาดได้แน่นอนในปี 2012 แต่พวกเขาก็ยังหวังว่าจะสามารถออกสู่ตลาดได้ทันในปี 2011 แม้ว่ามันจะเป็นไปได้ยากก็ตาม
ทางด้านทีมพัฒนาของ Nokia ได้เริ่มพัฒนาบริการและแอพพลิเคชั่นหลักๆ สำหรับ Windows Phone เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยอาศัย Windows Marketplace ในการทำตลาด นอกจากนั้นแล้วแอพพลิเคชั่นที่จะถูกพัฒนาขึ้นนั้นสามารถนำไปใช้ได้ทั้งบน Windows Phone, Symbian และ Series 40 อีกด้วย
เมื่อปีที่แล้วเรามีมหากาพย์ระหว่างรัฐบาลอินเดียกับ RIM เรื่องการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกส่งผ่านเครือข่าย BlackBerry (รายอื่นที่โดนด้วยคือ Skype และ Gmail แต่ไม่เด่นเท่า RIM) ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้ข้อยุติ
ล่าสุดกรมโทรคมนาคม (Department of Telecommunications) ของอินเดียกำลังขยายผลจาก BlackBerry ไปยังระบบ push mail ของโนเกียด้วย โดยสั่งให้ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมหยุดให้บริการ Nokia Push Mail จนกว่าโนเกียจะยอมให้หน่วยงานรัฐบาลเข้าถึงทราฟฟิกได้
Indoor Navigation จะเป็นระบบนำทางสำหรับที่ใช้ในอาคาร ระบบนี้ใช้ตัวส่งสัญญาณที่จะทำหน้าที่เหมือนกับดาวเทียม โดยจะนำทางไปยังจุดต่างๆ ภายในอาคารที่กว้างขวางเช่น สนามบิน ระบบนี้จะให้ความแม่นยำสูงคาดเคลื่อนไม่เกิน 30 เซนติเมตร
อย่างไรก็ตามทาง Nokia เองก็ไม่ได้บอกว่าระบบนี้จะสามารถใช้งานจริงได้เมื่อได เราอาจคงต้องคอยกันอีกนานเลย
ที่มา - GSMArena
เป็นที่ทราบกันดีว่าโนเกียจะทำโทรศัพท์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows Phone 7 และตอนนี้ก็ได้มีข่าววงในออกมา
จากข่าวบอกมาว่าโทรศัพท์รุ่นใหม่ของโนเกีย W-Series จะออกมาสองรุ่นคือ "W7" ที่ไส้ในจะทำมาจาก X7 และ "W8" ก็ทำนองเดียวกันคือมาจาก N8 นั้นเอง โดยตัวต้นแบบนั้นใช้ชิปเซ็ทของ Qualcomm ตามที่ไมโครซอฟท์ได้กำหนดสเปคเอาไว้
ตัว W7 คาดว่าน่าจะเป็นโทรศัพท์ Windows Phone 7 ตัวแรกของโนเกียที่ได้ออกสู่ตลาดช่วงปลายปีนี้หรือช้าสุดต้นปีหน้า โดยจะมาพร้อมกับกล้อง 8 ล้านพิเซล พร้อม auto focus และ flash
ที่มา - Engadget
ในโอกาสเดียวกับที่เปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ Nokia X7 และ Nokia E6 โนเกียก็เปิดตัวระบบปฏิบัติการ Symbian รุ่นใหม่ที่เรียกว่า "Anna" (หรือเดิมคือ PR2) ไปพร้อมกัน
พูดง่ายๆ ว่า Symbian "Anna" คือ Symbian^4 นั่นล่ะครับ เพียงแต่หลังจาก Symbian^3 เป็นต้นมา โนเกียเลิกนับเวอร์ชันของ Symbian และเปลี่ยนมาเป็นการอัพเดตย่อยหลายๆ ครั้งต่อปีแทน (ส่วนเหตุผลว่าทำไมใช้ชื่อ "Anna" นั้นไม่ได้ระบุไว้)
ของใหม่ของ Symbian Anna มีดังนี้
ไอคอนใหม่ เราเห็นข่าวกันมาสักระยะแล้ว (ข่าวเก่า 1, ข่าวเก่า 2)