ไมโครซอฟท์เปิดบริการ Microsoft Azure Modular Datacenter (MDC) บริการศูนย์ข้อมูลพร้อมใช้แบบยกไปที่ไหนก็ได้ เหมาะกับภารกิจนอกสถานที่ เช่น ศูนย์บัญชาการเคลื่อนที่, การช่วยเหลือภัยพิบัติ, ปฎิบัติการทางทหาร, ไปจนถึงการสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ โดยที่คนทำงานหน้างานต้องการเชื่อมต่อกับศูนย์ข้อมูลที่ความเร็วสูง
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา Northrop Grumman บริษัทด้านอากาศยานของสหรัฐฯ ได้ยิงยาน MEV-2 (Mission Extension Vehicle) หุ่นยนต์อัตโนมัติที่จะทำหน้าที่ยืดอายุดาวเทียมสื่อสารที่กำลังใช้งานเป็นครั้งแรก โดยน่าจะยืดอายุดาวเทียม Intelsat 1002 ออกไปอีกอย่างน้อย 5 ปี
จีนเปิดใช้งานระบบดาวเทียมนำทาง BeiDou ครบทั้งโลกเป็นทางการหลังจากยิงครบทั้งระบบที่วางแผนไว้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยสี จิ้นผิง เป็นผู้กล่าวเปิดที่หอประชุมใหญ่ของประชาชน (the Great Hall of the People in Beijing) ด้วยตัวเอง โดยก่อนหน้านี้ระบบอยู่ระหว่างการทดสอบขั้นสุดท้าย
ระบบดาวเทียม BeiDou นอกจากสามารถส่งข้อมูลเวลาเพื่อนำทางด้วยความแม่นยำสูงแล้ว ยังสามารถส่งข้อความไม่เกิน 1,200 ตัวอักษรจีน หรือส่งภาพให้แก่กัน
ที่มา - Japan Times
รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศว่ารัฐบาลสหรัฐฯ เห็นชอบลดเงื่อนไขการพัฒนาจรวดเชื้อเพลิงแข็ง เปิดทางให้เกาหลีใต้สามารถพัฒนาจรวดพิสัยไกล รวมถึงจรวดนำส่งดาวเทียมวงโคจรระดับต่ำ 500 ถึง 2,000 กิโลเมตร หลังจากทั้งสองชาติมีข้อตกลงจำกัดการพัฒนาจรวดประสิทธิภาพสูงไว้ตั้งแต่ปี 1979
หลังจากจีนปล่อยดาวเทียมระบุพิกัด BeiDou (เป่ยโตว แปลว่า ดาวไถ) ดวงสุดท้าย มีรัศมีทำงานครอบคลุมทั่วโลกแล้ว บริษัทแอปแชร์จักรยานต่างๆ ก็ออกมาขานรับ พร้อมใช้งานระบบระบุพิกัด BeiDou ของรัฐบาลจีนเพื่อเพิ่มความแม่นยำให้กับการระบุตำแหน่ง ร่วมกับระบบ GPS ที่รัฐบาลสหรัฐเป็นเจ้าของ
BeiDou (เป่ยโตว ไม่ใช่ ไป่ตู้) เป็นเครือข่ายดาวเทียมระบุพิกัดของประเทศจีน สร้างมาใช้ทดแทนระบบ GPS ที่เป็นเป็นระบบระบุพิกัดที่รัฐบาลสหรัฐเป็นเจ้าของ รัฐบาลจีนพยายามพัฒนาเครือข่ายดาวเทียมระบุพิกัดของตัวเองมาตั้งแต่ปี 1990 เพื่อให้ใช้งานได้แม้เกิดข้อพิพาทกับสหรัฐ และเป็นการขยายการครอบคลุมของเทคโนโลยีจีนไปทั่วโลกอีกด้วย
SpaceX ยิงดาวเทียมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยภารกิจหลักคือการยิงดาวเทียม Starlink แต่ความพิเศษของรอบนี้คือการนำส่งดาวเทียม SkySat 16-18 รวมสามดวงขึ้นไปด้วยตามโครงการ Rideshare ที่เปิดตัวเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
SkySat เป็นดาวเทียมโดย Planet Labs บริษัทดาวเทียมเอกชนที่ให้บริการสำรวจพื้นที่ด้วยดาวเทียมภาพถ่ายดาวเทียมในย่านแสงสายตามองเห็นหรือย่ายใกล้อินฟราเรด หรือภาพขาวดำแบบ panchromatic ที่ไวต่อแสงทุกผ่านที่สายตามองเห็น โดยทาง Planet Labs มีกำหนดส่งดาวเทียม SkySat อีก 3 ดวง (รวม 6 ดวง) ไปกับโครงการ Rideshare ของ SpaceX โดยดาวเทียมชุดใหม่นี้จะใช้เซ็นเซอร์ความละเอียด 50 เซนติเมตร
Huawei ประกาศความร่วมมือกับ China Unicom เตรียมสร้างดาวเทียมวงโคจรต่ำเพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ต โดยระบุว่าโครงการนี้จะเป็นการสาธิตว่า 5G และการสื่อสารผ่านดาวเทียมจะทำงานร่วมกันได้อย่างไร
ตัวโครงการระบุเพียงว่าเป็นการให้บริการผ่านดาวเทียมวงโคจรต่ำแบบเดียวกับ Starlink ของ SpaceX จากเดิมที่อินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมทุกวันนี้มักเป็นดาวเทียมวงโคจรค้างฟ้าให้บริการพื้นที่แบบตายตัว ขณะที่ดาวเทียมวงโคจรต่ำนั้นจะเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ เมื่อเทียบกับพื้นผิวโลก ทำให้ต้องมีดาวเทียมจำนวนมากเพื่อให้บริการในพื้นที่ได้ตลอดเวลา
Mark Gurman จากสำนักข่าว Bloomberg รายงานว่าแอปเปิลได้ซุ่มตั้งทีมงานลับซึ่งมีสมาชิกราว 10 คน จากทั้งฝั่งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ เพื่อทำงานด้านเทคโนโลยีการส่งข้อมูลไร้สายผ่านดาวเทียมรูปแบบใหม่โดยเฉพาะ โดยมีอดีตวิศวกรกูเกิล 2 คน จากบริษัทภาพถ่ายดาวเทียม Skybox Imaging ที่กูเกิลซื้อกิจการไปเป็นหัวหน้าทีม
เป้าหมายของโครงการดังกล่าว เพื่อศึกษาหาแนวทางในการส่งข้อมูลโดยตรงผ่านดาวเทียม ไปยังอุปกรณ์ของแอปเปิลเลย ซึ่งหากทำสำเร็จจะช่วยลดการพึ่งพาการส่งข้อมูลผ่านผู้ให้บริการเครือข่ายภาคพื้น รายงานระบุว่าโครงการดังกล่าวกำหนดกรอบเวลาไว้ 5 ปี ในการพัฒนาให้ออกมาใช้งานได้
รัฐบาลจีนประกาศว่าภายในปีหน้า ระบบดาวเทียมนำทาง BeiDou-3 จะให้บริการได้ครบทั้งโลก นับเป็นครั้งแรกที่ระบบดาวเทียมของจีนจะมีความพร้อมเท่ากับระบบ GPS ของสหรัฐฯ
จีนเริ่มยิงดาวเทียม BeiDou มาตั้งแต่ปี 2000 และเริ่มยิง BeiDou-3 ในปี 2015 โดยวางแผนให้มีดาวเทียมทั้งหมด 35 ดวง กระจายอยู่ 3 วงโคจร คือ วงโคจรค้างฟ้า, วงโคจรค้างฟ้าแบบเอียง (incline geosynchronous orbit), และดาวเทียมระดับกลาง (medium earth orbit)
ที่มา - Abacus News
SpaceX ประกาศความสำเร็จในการนำส่งดาวเทียมให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง Starlink เป็นชุดที่สอง หลังจากนำส่งชุดแรกไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ทางบริษัทระบุว่าภารกิจนี้เป็นภารกิจที่มีน้ำหนักสัมภาระหนักที่สุดที่เคยมีมา ไม่ชัดเจนว่าทำไมน้ำหนักต่างจากการส่ง Starlink รอบแรก แต่ตัวดาวเทียมอาจจะมีการปรับปรุง โดยภารกิจนี้ตัวจรวดนั้นใช้เป็นครั้งที่สี่นับว่าเป็นการใช้ซ้ำมากที่สุด และตัวปลอกหุ้มสัมภาระ (fairing) ก็เคยถูกใช้งานมาก่อนแล้ว นับเป็นภารกิจแรกที่ถูกใช้ซ้ำ
องค์การระบบดาวเทียมนำทางยุโรป (European GNSS Agency - GSA) ประกาศว่าระบบดาวเทียมนำทาง Galileo กลับมาใช้งานได้แล้ว หลังจากระบบล่มไปตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ดี ทาง GSA เตือนว่าผู้ใช้อาจจะพบเหตุการณ์ระบบผิดปกติบ้าง
แถลงล่าสุดทาง GSA ระบุว่าสาเหตุเกิดจากอุปกรณ์ในสถานีภาคพื้นดินขัดข้อง ทำให้ไม่สามารถคำนวณเวลาและทำนายวงโคจรของดาวเทียมในระบบได้แม่นยำ โดยหลังจากนี้จะตั้งกรรมการอิสระเข้ามาสอบสวนสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
ระบบดาวเทียม Galileo เริ่มมีปัญหาตั้งแต่วันที่ 11 ที่ผ่านมา จนกระทั่งหยุดทำงานไปทั้งระบบในวันที่ 13 หากนับรวมตั้งแต่ระบบไม่เสถียรก็จะรวมเป็นหนึ่งสัปดาห์เต็มๆ
ระบบดาวเทียมนำทาง Galileo ของสหภาพยุโรปล่มทั้งระบบตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมาหลังจากมีปัญหากับ "โครงสร้างพื้นฐานภาคพื้นดิน"
แหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวตน ระบุกับ BBC ว่าโครงสร้างที่เป็นต้นเหตุคือ ฐานปรับเวลาความแม่นยำสูงในอิตาลี
Galileo เพิ่งยิงครบเครือข่ายเมื่อปีที่แล้ว แต่ยังเปิดใช้งานไม่ครบ โดยตอนนี้มีดาวเทียมทำงานอยู่ 22 ดวง และทั้งโครงการยังอยู่ในช่วง "ทดสอบการทำงาน" ทำให้ยังไม่มีระบบใดพึ่งพา Galileo เต็มตัว และอุปกรณ์ส่วนมากที่รองรับก็มักรองรับระบบดาวเทียมนำทางอื่นๆ เช่น GPS หรือ Glonass ไปพร้อมกัน
Kuiper System บริษัทลูกของ Amazon ยื่นขออนุญาต FCC (กสทช. สหรัฐฯ) ยิงดาวเทียมจำนวน 3,236 ดวง เพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตทั่วโลก หลังจากเปิดบริษัทลูกเป็นทางการตั้งแต่เดือนเมษายน
ดาวเทียมทั้งหมดถูกจัดกลุ่มเป็น 96 วงโคจร แต่ละวงโคจรมีดาวเทียม 28-36 ดวง ระดับวงโคจรที่ 589 กิโลเมตร ถึง 629 กิโลเมตร ตัวดาวเทียมมีอายุใช้งานประมาณ 7 ปี และใช้คลื่นความถี่ย่าน Ka
ตอนนี้ยังไม่มีกำหนดแน่ชัดว่า Kuiper จะส่งดาวเทียมทั้งหมดเมื่อใด แต่เอกสารที่ยื่นไว้ตั้งแต่ปี 2016 ระบุว่าจะใช้วงโคจรแรกวันที่ 1 มกราคม 2020 และแม้จะครอบคลุมประชากรโลกถึง 95% แต่เอกสารก็ระบุว่าพื้นที่ให้บริการจะไม่ครอบคลุมรัฐอลาสก้าของสหรัฐฯ
SoftBank ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือของญี่ปุ่น ประกาศเปิดตัวบริการใหม่ปลายปีนี้ โดยจะให้บริการระบุตำแหน่งพิกัดแบบความแม่นยำสูง RTK (Real Time Kinematic) อาศัยใช้ข้อมูลจากดาวเทียม Michibiki ที่เป็นดาวเทียมสำหรับระบุพิกัดตำแหน่งความละเอียดสูง เชื่อมต่อกับสถานีฐานในภาคพื้น ทำให้ได้ความละเอียดที่ระดับเซนติเมตร
ตามแผน SoftBank จะให้บริการดังกล่าวแบบทดลองบางส่วนก่อน จากนั้นจึงขยายให้บริการทั่วประเทศญี่ปุ่นต่อไป
ความร่วมมือเบื้องต้นของ SoftBank จะนำระบบระบุพิกัดนี้ไปใช้กับพาร์ทเนอร์ 3 ราย ได้แก่ ยานยนต์ไร้คนขับในภาคเกษตรกรรมของยันม่าร์ ใช้ในโดรนตรวจสอบพื้นที่ก่อสร้างกับบริษัท Kajima และใช้กับระบบรถบัสไร้คนขับของ SB Drive (ซึ่ง SoftBank ถือหุ้นใหญ่)
เมื่อปลายปีที่แล้ว AWS เปิดตัว Ground Station บริการให้เช่าสถานีภาคพื้นสำหรับรับข้อมูลจากดาวเทียมส่งเข้าคลาวด์ หลังจากเปิดให้บริการแบบพรีวิวมาสักระยะ วันนี้ AWS Ground Station ก็ได้เข้าสู่สถานะ GA แล้ว
วิธีใช้ AWS Ground Station ผู้ใช้จะต้องเพิ่มดาวเทียมเข้าไปในบัญชี AWS โดยจะต้องให้ NORAD ID และข้อมูลอื่น ๆ และใช้เวลารอตามกระบวนการ 2 วัน จากนั้นให้เลือกสถานีภาคพื้นที่จะรับข้อมูลจากดาวเทียม โดยการเลือกสถานีจะต้องขึ้นกับวงโคจรของดาวเทียมและเวลาที่จะรับข้อมูล
โครงการ Starlink เป็นโครงการของ SpaceX มีเป้าหมายปล่อยดาวเทียมขนาดเล็กนับหมื่นดวงเพื่อสร้างโครงข่ายสำหรับปล่อยสัญญาณอินเทอร์เน็ตให้ครอบคลุมทั้งโลก
เมื่อวานนี้ SpaceX ได้ทดสอบติดเครื่องจรวดแบบอยู่กับที่ (static fire test) ซึ่งก็ทดสอบผ่านด้วยดี และล่าสุดประกาศยิงจรวด Falcon 9 เพื่อปล่อยดาวเทียมล็อตแรกของโครงการนี้จำนวน 60 ดวงในวันที่ 16 พฤษภาคม เวลา 9:30 น. ตามเวลาประเทศไทย ที่ฐานยิงบริเวณแหลมคานาเวอรัล
ก่อนหน้านี้เราเห็นข่าว SpaceX กำลังระดมทุนเพื่อโครงการ Starlink ยิงดาวเทียมวงโคจรต่ำเป็นหลักหมื่นดวง เพื่อให้บริการบรอดแบนด์
ล่าสุด Amazon ก็เริ่มโครงการแบบเดียวกัน โดยตั้งบริษัทลูกชื่อว่า Kuiper Systems LLC เพื่อทำ Project Kuiper ยิงดาวเทียมวงโคจรต่ำจำนวน 3,236 ดวง เพื่อให้บริการบรอดแบนด์ความเร็วสูงกับพื้นที่ที่ขาดแคลนอินเทอร์เน็ต
ดาวเทียมของ Project Kuiper แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม 3 ระดับความสูง ครอบคลุมประชากรโลก 95% ได้แก่
เมื่อวานเวลา 22:31 น. ตามเวลาประเทศไทย SpaceX ได้ยิงจรวด Falcon 9 ขึ้นจากฐานทัพอากาศ Vandenberg Air Force Base ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ภายใต้ภารกิจชื่อ Iridium-8 ซึ่งเป็นการปล่อยดาวเทียม Iridium NEXT จำนวน 10 ดวง โดยภารกิจครั้งนี้พิเศษตรงที่เป็นภารกิจครั้งสุดท้ายของสัญญาระหว่าง SpaceX กับ Iridium Communications ที่ว่าจ้างให้ SpaceX ปล่อยดาวเทียมสู่วงโคจร Low Earth Orbit ทั้งสิ้น 75 ดวง กินระยะเวลา 2 ปีพอดี ซึ่งภารกิจแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2017
หลังแยกกับจรวดส่วนหัว บูสเตอร์ก็ได้บินกลับมาลงจอดบนฐานลอยน้ำ Just Read the Instructions ในมหาสมุทรแปซิฟิก
Wall Street Journal รายงานว่าบริษัท SpaceX ของ Elon Musk ระดมเงินทุนรอบใหม่อีก 500 ล้านดอลลาร์
การระดมทุนรอบนี้ทำในวงปิด (private round) และยังไม่ได้ประกาศต่อสาธารณะ แต่นักลงทุนบางส่วนก็คือผู้ถือหุ้นเดิมของ SpaceX อยู่แล้ว เช่น กองทุน Baillie Gifford ของสกอตแลนด์
ตามข่าวบอกว่าเงินทุนก้อนนี้จะนำไปใช้กับโครงการ Starlink การยิงดาวเทียมวงโคจรต่ำนับหมื่นดวง (เป้าหมายทั้งหมดคือ 12,000 ดวง) เพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์จากบนฟ้า
ที่ผ่านมา SpaceX ระดมทุนไปทั้งหมด 17 รอบ ได้เงินไป 2.2 พันล้านดอลลาร์ ส่วนการระดมทุนรอบล่าสุดทำให้บริษัทมีมูลค่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์แล้ว
ที่งาน re:Invent วันนี้ AWS เปิดตัวบริการ AWS Ground Station ให้บริการสถานีภาคพื้นดาวเทียม พร้อมไฟเบอร์ความเร็วสูงเชื่อมตรงเข้าสู่ศูนย์ข้อมูล AWS ที่ใกล้ที่สุด
กลุ่มลูกค้าของ Ground Station คือผู้ใช้บริการดาวเทียมที่ต้องการส่งข้อมูลจำนวนมากๆ มาเก็บไว้บนคลาวด์ ปัญหาคือผู้ให้บริการดาวเทียมมักสร้างระบบสถานีของตัวเองที่มีราคาแพงเป็นหลักล้านดอลลาร์ต่อสถานี ทำให้ AWS พยายามหาโซลูชันที่มีราคาถูกกว่า และจ่ายเฉพาะเท่าที่ใช้งาน ไม่ต้องเซ็นสัญญาระยะยาว
SpaceX ยื่นเรื่องต่อ FCC เกี่ยวกับแผนการปล่อยดาวเทียมอินเทอร์เน็ตที่ FCC อนุมัติไปตั้งแต่ต้นปี จากเดิมที่จะปล่อย 4,425 ดวงไปโคจรรอบโลกที่ความสูงระหว่าง 1,110 - 1,325 กม. โดยในจำนวนนี้ระบุว่า 1,600 ดวงจะอยู่ที่ความสูง 1,110 กม.
ล่าสุดเปลี่ยนเป็น 1,584 ดวงความสูง 550 กม. ส่วนที่เหลือยังเหมือนเดิม
สาเหตุสำคัญคือ SpaceX ค้นพบว่าการปล่อยดาวเทียม 1,584 ดวงที่ความสูงเพียง 550 กม. มีประสิทธิภาพไม่ต่างจาก 1,600 ดวงที่ความสูง 1,110 กม. ประกอบกับวงโคจรของดาวเทียมที่ต่ำกว่า จะช่วยให้เมื่อดาวเทียมหมดอายุการใช้งาน (คาดว่าน่าจะราว 5 ปี) จะตกลงสู่โลกและถูกชั้นบรรยากาศเผาไหม้ได้ง่ายกว่า ลดปัญหาขยะอวกาศไปในตัว
สหราชอาณาจักร (อังกฤษ) เตรียมวางแผนสร้างระบบดาวเทียมนำทางของตัวเอง หลังสหภาพยุโรปยืนยันว่าจะถือว่าอังกฤษเป็นประเทศนอกกลุ่มสหภาพที่ไม่ได้รับสิทธิ์ในการรับงานระดับความมั่นคงสูง และการเข้าถึงข้อมูลระดับความมั่นคง ของระบบดาวเทียม Galileo
หนังสือพิมพ์ Sunday Telegraph อ้างแหล่งข่าวระบุว่ากระทรวงการคลังได้อนุมัติงบประมาณสำหรับการศึกษาการสร้างระบบดาวเทียมเองแล้วเป็นเงิน 100 ล้านปอนด์ และจะประกาศในสัปดาห์นี้
เดือนกรกฎาคมนี้จีนยิงดาวเทียม BeiDou-3 สองครั้งภายในเดือนเดียว ทำให้ดาวเทียม BeiDou-3 ขึ้นสู่วงโคจร 10 ดวงแล้ว และคาดว่าจะขึ้นสู่วงโคจรภายในปีนี้ 18 ดวง ครอบคลุมพื้นที่ตามแผนการ Belt and Road ของจีน
กำหนดการยิงดาวเทียมในระบบ BeiDou-3 จะครบ 35 ดวง ให้บริการได้ทั่วโลกในปี 2020 นับเป็นระบบดาวเทียมนำทางระบบที่สี่ในโลกที่ให้บริการครอบคลุมทั้งโลก ต่อจาก GPS, GLONASS, และ Galileo
Galileo ของสหภาพยุโรปเพิ่งยิงครบ 24 ดวงตามที่ออกแบบไว้ในเดือนนี้ แต่กว่าจะเริ่มให้บริการทั้งโลกได้จริงน่าจะช่วงปลายปี
ที่มา - beidou.gov.cn
สหภาพยุโรปตัดสินใจโหวตตัดสหราชอาณาจักร (อังกฤษ) ออกจากความร่วมมือในโครงการดาวเทียมนำทาง Galileo ทำให้บริษัทในสหราชอาณาจักรไม่สามารถเข้าร่วมโครงการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยระดับสูงได้ โดยหากมีความร่วมมือใดก็ถือว่าเป็นความร่วมมือกับประเทศนอกสหภาพยุโรปเท่านั้น
การโหวตครั้งนี้ทำให้บริษัทในสหราชอาณาจักรไม่สามารถเข้ารับงานในโมดูลที่เกี่ยวกับความมั่นคงได้ ขณะเดียวกันรัฐบาลสหราชอาณาจักรก็ไม่สามารถขอรับสัญญาณในระดับข้อมูลความมั่นคง (PRS access) ได้ โดยหากจะสามารถเข้าถึงได้ ก็จะมีเงื่อนไขเพิ่มเติมแบบเดียวกับประเทศนอกสหภาพยุโรป