คล้อยหลัง กูเกิลออกส่วนเสริม Google +1 สำหรับ Chrome เพียงหนึ่งวัน ก็มีคนไปค้นพบว่าฝั่ง Facebook เองก็มีส่วนเสริม Like Button สำหรับ Chrome อยู่ก่อนแล้ว
อย่างไรก็ตาม ส่วนเสริม Like Button อันนี้จะไม่สะดวกเท่ากับส่วนเสริม +1 ของกูเกิล เพราะเราจะต้องกดปุ่มบนทูลบาร์ก่อนหนึ่งครั้ง และจะมีเมนูแสดงปุ่ม Like Button ของจริงขึ้นมาให้กดอีกทีหนึ่ง (สรุปว่าต้องกด 2 ทีจึงจะ Like ได้)
นอกจากนี้ส่วนเสริมนี้ยังเพิ่มเมนูคลิกขวา Facebook Like Button ซึ่งมีความสามารถแชร์ข้อมูลลง Facebook (นอกจาก Like) ได้ด้วย
Facebook ประกาศปรับปรุงตัวแสดงรูปภาพ โดยมีของใหม่ 3 ประการ ดังนี้
RIM เปิดตัวบริการใหม่ BBM Music บริการลูกผสมระหว่างการฟังเพลงแบบสตรีมมิ่ง กับโซเชียลเน็ตเวิร์คบนระบบ BBM
แนวคิดมันจะแปลกๆ หน่อย กระบวนการทำงานเป็นดังนี้ครับ เริ่มจากผมสมัครสมาชิก BBM Music (4.99 ดอลลาร์ต่อเดือน) ผมจะได้สิทธิเข้าถึงแคตาล็อกเพลงที่ RIM เตรียมเอาไว้นับล้านๆ เพลง จากนั้นต้องเลือกเพลงเข้าคอลเลคชันส่วนตัวได้ไม่เกิน 50 เพลง และฟังเพลงเหล่านี้ได้ทั้งแบบออนไลน์หรือออฟไลน์ เบื่อแล้วสามารถเปลี่ยนเพลงใหม่ได้แต่มีโควต้าเปลี่ยนไม่เกินเดือนละ 25 เพลง
ซอฟต์แวร์ถ่ายภาพบนมือถือแล้วแชร์ยอดนิยมอย่าง Instagram อาจไม่หวั่นเมื่อต้องเจอกับคู่แข่งหน้าใหม่ๆ หลายราย แต่ลองคิดดูว่าถ้าหากคู่แข่งเป็น Facebook App ที่ถ่ายภาพ ใส่ฟิลเตอร์ แล้วแชร์ได้ในตัวล่ะ?
หนังสือพิมพ์ The New York Times รายงานข้อมูลวงในว่า Facebook เตรียมจะเพิ่ม "ฟิลเตอร์" สำหรับภาพถ่ายส่งในแอพมือถือของตัวเอง ข้อมูลจากแหล่งข่าวระบุว่าฟีเจอร์ถ่ายภาพใส่ฟิลเตอร์เสร็จตั้งนานแล้ว แต่ Mark Zuckerberg ยังไม่ยอมปล่อยออกมาเพราะอยากให้มีจำนวนฟิลเตอร์เยอะกว่าที่มีอยู่เสียก่อน
ตามข่าวบอกว่า Facebook จะเพิ่มฟิลเตอร์ประมาณสิบชนิด ("a dozen") ฟิลเตอร์บางตัวจะคล้ายกับของ Instagram แต่ก็จะมีฟิลเตอร์รูปแบบเฉพาะของตัวเอง
นับตั้งแต่การเปิดตัวปุ่ม +1 มาครึ่งปีทุกคนก็คาดว่ากูเกิลจะรวมบริการ +1 เข้ากับ Google+ ด้วยการเปิดให้แชร์ลง Stream ได้ทันทีแบบเดียวกับ Facebook มาโดยตลอด และวันนี้มันก็มาแล้ว
ฟีเจอร์คงไม่มีอะไรต่างจาก Facebook โดยต่อหากใครได้รับฟีเจอร์นี้ (ผมลองบน Blognone ยังไม่ได้) ก็จะสามารถแชร์จากปุ่ม +1 ลงเหมือนการกดโพสในเว็บ Google+ ส่วนความสามารถในการกำหนด Circle นั้นยังอยู่ครบถ้วน
ที่มา - Google Blog
Facebook ประกาศปรับปรุงการแชร์ใหม่ เพื่อให้ง่ายต่อการแบ่งปันกับคนที่คุณต้องการเท่านั้น
ส่วนที่ปรับปรุงคือโพสต์ รูปภาพ แท็ก และเนื่อหาอื่นๆ โดยย้ายการตั้งค่าการแชร์จากเดิมที่เป็นเมนูรวมกัน มาอยู่ด้านขวาของโพสต์นั้นๆ ทำให้ง่ายต่อการเข้าใจว่ากำลังแชร์กับใครอยู่บ้าง
การปรับปรุงครั้งนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ หน้าโปรโฟล์ของคุณ และสิ่งที่คุณแชร์ออกไป
แนวทางของ Google+ ในระยะยาวที่ทุกคนคาดกันคือกูเกิลกำลังรวมเอาบริการทุกอย่างเข้ามาทำงานร่วมกับ Google+ โดยตอนนี้ก็เริ่มมีแถบสีดำบนแทบทุกหน้าของกูเกิลแสดงการเตือนว่ามีข้อความใหม่หรือไม่ แต่ตอนนี้การทำงานร่วมกันก็เพิ่มไปอีกขึ้นเมื่อ People Widget ด้านข้างของ Gmail นั้นจะเริ่มแสดงข้อความล่าสุดของคนที่ส่งอีเมลหาเรา
แต่เดิม People Widget นั้นแสดงข้อมูลค่อนข้างจำกัดโดยเป็นข้อมูลจาก Gmail, ปุ่ม Google Talk, หรือ Calendar เท่านั้น
ภาพดูได้ท้ายข่าว
ที่มา - Mark Striebeck
ปัญหาเรื่องตัวตนบนโลกออนไลน์เป็นปัญหาคลาสสิคอันหนึ่ง การจะยืนยันว่าคนบนโลกออนไลน์เป็นคนเดียวกับโลกจริงทำได้ยาก บริการออนไลน์หลายแห่งจึงมีระบบยืนยันตัวตนสำหรับคนดัง เพื่อป้องกันความสับสนและเข้าใจผิด ตัวอย่างที่เราคุ้นเคยกันดีคือ Twitter ที่มีตรา verified account สีฟ้าอยู่หลังชื่อ ยืนยันว่าเป็นตัวบุคคลนั้นจริงๆ
สำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (ตัวย่อภาษาเยอรมัน ULD) ของรัฐ Schleswig-Holstein ทางตอนเหนือสุดของประเทศเยอรมนี ประกาศให้หน่วยงานภาคของรัฐนำปุ่ม Facebook Like ออกจากเว็บไซต์
ประกาศนี้มีขึ้นหลัง ULD ประเมินว่าปุ่ม Like ผิดกฎหมายด้านโทรคมนาคม และการคุ้มครองข้อมูลภาครัฐ (ของรัฐบาลกลาง) และผิดกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (ของรัฐ Schleswig-Holstein) เพราะจะส่งข้อมูลส่วนตัวของผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์กลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Facebook ในสหรัฐอย่างไม่มีทางเลือก ถึงแม้จะไม่ได้เป็นสมาชิกของ Facebook ก็ตาม
ความพยายามครั้งแรกของกูเกิลในการบุกโลกเครือข่ายสังคมคือการสร้างมาตรฐานเปิด OpenSocial เพื่อให้ผู้พัฒนาแอพลิเคชั่นบนเครือข่ายพัฒนาบน API ชุดเดียวกันบนทุกเว็บ แต่ปรากฏว่าเฟซบุ๊กไม่เอาด้วยทำให้กลายเป็นการต่อสู้กันระหว่างสองค่ายและเฟชบุ๊กชนะไป หลังจากนั้นมาตรฐาน OpenSocial ก็เงียบๆ ไปโดยมีการอัพเดตครั้งสุดท้ายเมื่อปลายปีที่แล้ว
แต่วันนี้ OpenSocial ก็กลับมาประกาศมาตรฐานรุ่น 2.0 เพิ่มฟีเจอร์หลายๆ ส่วนเช่น Activity Stream ที่ใช้บอกว่าใครทำอะไร, เปลี่ยน Gadget ให้เขียนได้ง่ายขึ้น, และรองรับเนื้อหาแบบ embedded
ข่าวดีเล็กๆ ของคนที่เล็ง PS Vita เครื่องเกมมือถือตัวใหม่ของโซนี่ครับ เพราะโซนี่ยืนยันแล้วว่าจะรองรับบริการออนไลน์ยอดนิยม 4 ตัว ได้แก่ Facebook, Twitter, Skype และ Foursquare
สิ่งที่หลายๆ คนคาดกันไว้ก็เกิดขึ้นแล้ว เมื่อกูเกิลเริ่มรวมลิงก์ที่เพื่อนๆ ของเราแชร์กันใน Google+ เข้ามาใน Google Social Search ซึ่งจะโผล่ในผลการค้นหาของกูเกิลนั่นเอง (ดูภาพประกอบ)
Salesforce.com เป็นถือว่าเป็นผู้นำของโลกซอฟต์แวร์ลูกค้าสัมพันธ์ (Customer Relationship Management - CRM) โดยให้บริการด้วย Cloud Computing มีลูกค้าเป็นบริษัทชั้นนำจำนวนมากเช่น Dell, Google, หรือ eBay นอกจากบริการลูกค้าสัมพันธ์แล้ว บริการหนึ่งที่เหมาะกับผู้ใช้บริการ Saleforce ในประเทศไทยอาจจะเป็นบริการบริหารจัดการความสัมพันธ์ลูกค้าผ่านทางเครือข่ายสังคม (Social Network)
เชื่อว่าคนแถวนี้คงลอง Google+ Hangouts กันหมดแล้ว ซึ่งมันมีฟีเจอร์ดูคลิปวิดีโอจาก YouTube ร่วมกันในหมู่เพื่อนๆ ได้
แต่ YouTube ไม่พอใจแค่นั้น และกำลังจะเปิดให้ผู้ใช้ Hangouts สามารถรับชมการถ่ายทอดสดบน YouTube ได้ด้วย โดยจะแสดงรายการวิดีโอที่ถ่ายทอดสดในขณะนั้น ให้เราเห็นในหน้าจอของ Hangouts
จากนั้นขั้นต่อไป บนเว็บถ่ายทอดสดของ YouTube ในอนาคตจะแสดง Public Hangouts หรือห้องสนทนาที่เปิดให้ใครก็ได้เข้าร่วม สำหรับให้ผู้ชมร่วมชมการถ่ายทอดสดด้วยกัน และขั้นสุดท้าย เราจะสร้างห้องสนทนาส่วนตัวร่วมกับเพื่อนๆ นั่งดูถ่ายทอดสดด้วยได้จากหน้าเว็บ YouTube โดยตรง
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา Google+ ปรับปรุงการทำงานจุดเล็กๆ น้อยๆ อีกหลายอย่าง ดังนี้
สิ่งที่ผู้ใช้ Google+ ในช่วง "ทดสอบภาคสนาม" อยากรู้มากที่สุดในตอนนี้ ก็คือระหว่างนี้กูเกิลจะปรับปรุง Google+ อย่างไรบ้าง
ที่ผ่านมา ผู้บริหารและพนักงานของกูเกิลใช้วิธีโพสต์ข้อมูลเหล่านี้ไว้บน Google+ ของตัวเอง ซึ่งมีปัญหาว่าตามอ่านได้ยาก ตอนนี้กูเกิลแก้ปัญหาโดยสร้างหน้าใหม่ What's new in Google+ ให้ตามอ่านกันได้ง่ายๆ
วิธีเข้าหน้านี้แบบง่ายๆ คือกดปุ่มเฟืองด้านขวาสุดของแถบดำด้านบน แล้วเลือก Google+ Help ตามด้วย What's new in Google+
ที่มา - Mashable
จากกรณี กูเกิลไล่ลบบัญชีที่ตั้งชื่อผิดกฎใน Google+ ทางผู้บริหารของกูเกิลคือ Bradley Horowitz (ซึ่งเป็นคนดูแล Google+) ออกมาแถลงและตอบคำถามแล้ว
Horowitz บอกว่ากูเกิลตรวจพบ "ความจงใจ" ที่จะหลบเลี่ยงนโยบายเรื่องการตั้งชื่อผู้ใช้ของ Google+ แต่เขาก็ยอมรับว่าวิธีดำเนินการของกูเกิลสร้างปัญหาให้ผู้ใช้
ทางกูเกิลจึงปรับปรุงวิธีการดังนี้
นโยบายการตั้งชื่อผู้ใช้ของ Google+ นั้นชัดเจน (แต่ไม่แพร่หลาย) มาตลอดว่า ต้องการให้ใช้ชื่อ-สกุลจริง ไม่ให้ใช้นามแฝงหรือชื่อที่ไม่ใช่บุคคล (เช่น ชื่อทางการค้า อ่าน กูเกิลขอร้อง อย่าเพิ่งสร้างหน้าธุรกิจใน Google+ ประกอบ) แต่เรื่องพวกนี้มันห้ามกันลำบาก เพราะเจ้าของสามารถเปลี่ยนชื่อตัวเองได้ตลอดเวลา
ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงมีรายงานว่ากูเกิลไล่แบนผู้ใช้ Google+ ที่ตั้งชื่อผิดกฎเป็นจำนวนมาก และในหลายกรณีเป็นการแบนที่ Google Account ทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะบัญชีส่วนของ Google+ (รายละเอียดดูที่ ZDNet)
TechCrunch รายงานว่าพวกเขาได้ค้นพบโค้ดที่ซ่อนอยู่ในแอพ Facebook สำหรับ iOS เวอร์ชั่นล่าสุด 3.4.4 ที่ทำให้สามารถประมวลผลออกมาใหม่ได้เป็นแอพ Facebook สำหรับ iPad ได้เลย ซึ่งเรื่องนี้ช่วยยืนยันข่าวแอพ Facebook บน iPad ที่ออกมาก่อนหน้านี้ว่าใกล้ความจริงเข้ามาทุกที
การออกแบบหน้าตาของ Facebook บน iPad นี้ใช้การซ้อนเลเยอร์แบบที่แอพบน iPad นิยมใช้กัน เมนูหลักอยู่ด้านซ้ายสุด และแสดงหน้าจอสำหรับ chat เมื่อหมุน iPad เป็นแนวนอน การแสดงภาพและวิดีโอก็เต็มจอ Places ก็แสดงภาพได้เต็มบนแผนที่มากขึ้น จากนี้เราก็แค่รอว่าแอพดังกล่าวจะเปิดตัวเป็นทางการเมื่อไหร่ครับ
ไมโครซอฟท์ได้เผย Twitter และ LinkedIn integration เข้ากับ Windows Phone "Mango" อย่างเป็นทางการ ซึ่งรวมถึงฟีเจอร์ใหม่อย่างฟีเจอร์แจ้งเตือน (social notification) ที่แสดงฟีดของกิจกรรมที่เพื่อนๆ บนโลกออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้ (เช่น การโพสบน Facebook, การคอมเมนต์รูปภาพ เป็นต้น) ผ่าน "Me tile" บนหน้า start screen และฟีเจอร์กรองฟีดให้แสดงเฉพาะฟีดจากบริการใดบริการหนึ่ง (Windows Live, Facebook, Twitter, LinkedIn) ได้ ลองดูคลิปโฆษณาฟีเจอร์ดังกล่าวได้ที่ท้ายข่าว
อนึง Twitter, LinkedIn integration นี้ไม่ปรากฏใน Windows Phone "Mango" เวอร์ชันเบต้าและชุด SDK เบต้าแต่อย่างไร
ความร้อนแรงของ Google+ ส่งผลให้ภาคธุรกิจ องค์กร หน่วยงานต่างๆ หันมาใช้ Google+ เพื่อสร้างแบรนด์แบบเดียวกับ Facebook อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ Google+ ยังไม่มี Business Profile Page (แม้สัญญาว่าจะทำ) ทำให้องค์กรหรือแบรนด์ที่อยากมีตัวตนใน Google+ ต้องทำตัวเหมือนผู้ใช้ธรรมดาไปก่อน
แน่นอนว่ากูเกิลไม่ชอบเรื่องนี้ และมีข่าวกูเกิลแบนบัญชีที่ไม่ใช่ตัวบุคคลจริงๆ ไปบ้างแล้ว
Fridge บริการ social network แบบกลุ่ม (คล้ายๆ กับ BBM ที่มีฟีเจอร์เยอะขึ้น) ซึ่งมีพนักงานเพียง 4 คน ประกาศว่าบริษัทถูกซื้อกิจการโดยกูเกิลแล้ว
Fridge ได้แจ้งให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดข้อมูลของตัวเองกลับ โดยจะเปิดให้ดาวน์โหลดถึงวันที่ 20 สิงหาคม ก่อนจะปิดบริการอย่างสมบูรณ์ ส่วนทีมพัฒนาที่เดิมอยู่ในนิวยอร์ก จะย้ายไปยังแคลิฟอร์เนีย สำนักงานใหญ่ของกูเกิลเพื่อทำงานในทีม Google+
คาดว่าทีม Fridge จะเข้าไปพัฒนาฟีเจอร์ "Group" (หรือ "Shared Circle") ให้กับ Google+
ยังไม่ใช่ข่าวอย่างเป็นทางการจากกูเกิลนะครับ แต่ CNN รายงานว่า Brett Schulte ที่ปรึกษาด้าน social media สำหรับคนดังในฮอลลีวู้ด กำลังคุยกับกูเกิลเพื่อทำระบบยืนยันตัวตนคนดังบน Google+
ระบบนี้จะเหมือนกับ Verified Account ของ Twitter (ซึ่งตอนนี้จำกัดวงไม่ให้ใครๆ ก็ขอได้) โดยกูเกิลกำลังพิจารณาวิธียืนยันตัวตนว่าจะใช้แบบใด ทางหนึ่งที่เป็นไปได้คือแฟ็กซ์ใบขับขี่ไปยังกูเกิลเพื่อยืนยันว่าเป็นตัวจริง
Brett Schulte เคยช่วยคนดังหลายๆ คนที่ห่วงเรื่องชื่อเสียงของตัวเองบนโลกออนไลน์ ให้ได้ตรา Verified จาก Twitter ดังนั้นก็ไม่น่าแปลกที่กูเกิลจะติดต่อ Schulte ให้ทำแบบเดียวกันบน Google+
ที่มา - CNN
Jeff Weiner ซีอีโอของ LinkedIn ให้สัมภาษณ์บนเวทีของงาน AllThingsD ถึงโอกาสของ Google+ ในตลาด social network
Weiner บอกว่าธรรมชาติของผู้ใช้ social network จะไม่ใช้เครือข่ายหลายอันพร้อมกัน ดังนั้นเราจะไม่เห็นคนใช้ Twitter พร้อมกับ Facebook หรือ LinkedIn แต่จะค่อยๆ สลับกันใช้ไปทีละอัน และเมื่อเวลาของคนเรามีจำกัด ก็จะเลือกใช้ social network เพียงบางอันเท่านั้น
Weiner บอกว่าตอนนี้คนใช้ Facebook สื่อสารกับเพื่อนและครอบครัว, ใช้ LinkedIn สำหรับชีวิตการทำงาน และ Twitter สำหรับถ่ายทอดความคิดของตัวเองไปยังผู้อื่นในวงกว้าง ทำให้ไม่มีเวลาสำหรับ Google+ เหลืออยู่แล้ว
ดังนั้นถ้า Google+ จะประสบความสำเร็จ จะต้องมีรายใดรายหนึ่งใน 3 รายที่เป็นฝ่ายแพ้
ก่อนอื่นย้ำก่อนว่า สถิติในข่าวนี้ทั้งหมด เป็นการประเมินจากภายนอก ไม่มีสถิติอย่างเป็นทางการจากกูเกิลเองเลยนะครับ
ช่วงนี้ Google+ เริ่มมีคนใช้เยอะ (กูเกิลบอกว่า 10 ล้านแล้ว) ก็เริ่มมีคนรวบรวมสถิติต่างๆ มาเผยแพร่ ในประเด็นเรื่องเพศของผู้ใช้ Google+ ตัวเลขค่อนข้างหลากหลาย แต่รวมๆ แล้วก็อย่างที่เดากันได้ว่ามีผู้ชายมากกว่าผู้หญิง