วันนี้นอกจาก Twitter จะอัพเดตแอพ iPad แล้ว ยังปรับตัวหน้าโปรไฟล์ของผู้ใช้บนเว็บอีกด้วย

หน้าโปรไฟล์แบบใหม่จะคล้ายกับภาพ cover ที่เราคุ้นตากันบน Facebook และมีอวาตาร์เป็นกรอบอยู่ตรงกลางของภาพ รวมถึงย้ายจำนวนทวีต ตัวเลขตามคน/คนตาม มาไว้ใต้ภาพ (แต่เดิมไว้ทางขวา)

สำหรับวิธีการใส่ภาพบนหน้าโปรไฟล์สามารถทำได้โดยเข้าไปที่หน้า Settings > Design และเลือก Change Header เพื่อเปลี่ยนภาพได้ โดยขนาดของภาพเล็กสุดอยู่ที่ 1252x626 พิกเซล เมื่อใส่ภาพแล้วจะได้ใช้หน้าโปรไฟล์ใหม่โดยอัตโนมัติครับ

หลังจากนี้ Twitter จะทยอยเปลี่ยนแอพหลักของแต่ละแฟลตฟอร์มให้ใช้การออกแบบนี้ทั้งหมด ตามหลัง iPad ที่ออกมาก่อนแล้ว ดูภาพตัวอย่างได้ท้ายข่าวครับ

หลังจากห่างหายไปนาน MOLOME แอพถ่ายแล้วแชร์ ประกาศอัพเดตครั้งใหญ่เวอร์ชัน v3 โค้ดเนม "Phoenix" ที่ยกเครื่องใหม่หมดตั้งแต่อินเทอร์เฟซ ไปจนถึงฟีเจอร์ภายในที่เพิ่มขึ้นมามากมาย

อินเทอร์เฟซใหม่ของ v3 เท่าที่เห็นดูคล้ายกับของเวอร์ชัน BlackBerry ที่ปรับเพิ่มฟีเจอร์เข้ามา มีความเป็นโซเชียลเน็ตเวิร์คมากขึ้น ส่วนฟีเจอร์ใหม่ๆ คงต้องรอ MOLOME ประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง (ซึ่งหลุดมาก่อนแล้วหนึ่งฟีเจอร์คือรองรับภาพเคลื่อนไหวสกุล GIF ได้แล้ว)

Vic Gundotra ผู้บริหารของกูเกิลออกมาเผยสถิติล่าสุดของ Google+ ในโอกาสครบรอบ 1 ปีที่เปิดให้คนทั่วไปใช้งาน

• ยอดลงทะเบียนใช้งาน Google+ รวม 400 ล้านบัญชี
• ยอดการใช้งานจริงต่อเดือน (monthly active users) 100 ล้านบัญชี (นับรวมเว็บและแอพ)

ในโอกาสเดียวกัน กูเกิลยังประกาศการซื้อบริษัท Nik Software ผู้สร้างแอพภาพถ่าย Snapseed บน iOS และซอฟต์แวร์ด้านการภาพถ่ายบน Mac OS X อีกด้วย (ยังไม่บอกว่าจะทำอะไรบ้างกับ Nik Software)

ข่าวลือจากเว็บไซต์ Buzzfeed อ้างแหล่งข่าววงในว่า Twitter เตรียมกระชับพื้นที่ไปอีกขั้น ขอพื้นที่ฝากรูปภาพคืนจากบรรดาเว็บฝากรูปยอดนิยมอย่าง yFrog, TwitPic, img.ly เป็นต้น

ทุกวันนี้แอพอย่างเป็นทางการของ Twitter สามารถเลือกบริการฝากรูปภาพจากบริษัทอื่นๆ นอกเหนือจากที่ฝากรูปของ Twitter เองได้ แต่ถ้าข่าวลือเป็นความจริง เราไม่เห็นบริการอื่นๆ ในอนาคตอันใกล้นี้

ผู้ก่อตั้ง TwitPic (ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับ Twitter ให้ความเห็นต่อข่าวลือนี้ว่า Twitter ต้องการควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างในแอพของตัวเอง เนื่องจากพวกเขาต้องการทำเงินจากโฆษณาภายในแอพนั่นเอง เขาบอกว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่คาดเดาได้ล่วงหน้า แต่มันก็ส่งผลสะเทือนต่อบริษัทเล็กๆ ที่รายล้อมบริการหลักของ Twitter อยู่

จากกรณีที่ Mutiply.com จะปิดส่วนของ social network ของตัวเอง ทาง Mutiply สัญญาว่าจะมีเครื่องมือในการดาวน์โหลดหรือช่องทางในการนำข้อมูลของสมาชิกออกมาให้ ในวันนี้ทาง Multiply ได้ส่งอีเมลแจ้งว่าเครื่องมือนั้นสามารถใช้งานได้แล้ว

โดยให้สมาชิกเข้าไปที่หน้าเว็บของตัวเองใน Multiply (multiplyid.multiply.com) จะมีตัวเลือกด้านซ้ายมือให้เลือกอยู่ 3 ส่วน

Tim Cook เคยให้สัมภาษณ์มาก่อนแล้วว่า iTunes Ping ไม่ได้รับการตอบรับจากลูกค้า และก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลือว่า แอปเปิลจะถอด Ping ออกจาก iTunes รุ่นถัดไป วันนี้มันกลายเป็นข่าวจริงเรียบร้อย

เว็บไซต์ 9to5mac ค้นพบว่าใน iTunes 10.7 ที่เปิดให้ดาวน์โหลดเมื่อคืนนี้ (เป็นรุ่นอัพเดตย่อยเพื่อให้รองรับ iPhone 5 และ iPod รุ่นใหม่) ขึ้นข้อความเตือนแล้วว่า Ping ปิดรับสมาชิกใหม่แล้ว และจะหยุดให้บริการในวันที่ 30 กันยายนนี้

แอปเปิลไม่ได้ออกมาให้เหตุผลว่าทำไมถึงปิด Ping แต่การที่ iTunes รุ่นใหม่ๆ จะทำงานร่วมกับ Twitter/Facebook ได้ดีขึ้น ก็คงทำให้ Ping ไม่จำเป็นต้องมีอยู่อีกต่อไป

Twitter ประกาศแผนปรับ API เวอร์ชันใหม่เมื่อกลางเดือนที่แล้ว ซึ่งเพิ่มเงื่อนไขเรื่องจำนวนผู้ใช้ของแต่ละไคลเอนต์เข้ามา สร้างเสียงวิจารณ์อย่างหนักในแวดวงสื่อออนไลน์

วันนี้ Twitter เปิดตัว API เวอร์ชัน 1.1 อย่างเป็นทางการแล้ว สิ่งสำคัญที่เปลี่ยนไปนอกจากเรื่องจำนวนผู้ใช้งาน คือการตัดฟอร์แมตของข้อมูลออกไปบางส่วน ฟอร์แมตที่โดนตัดคือ RSS/XML/Atom เหลือแต่เพียง JSON เท่านั้น (สำหรับคนที่อาจไม่ทราบ เดิมที Twitter อนุญาตให้นักพัฒนาสามารถดึงข้อมูลในรูป RSS ได้ และมีแอพหลายตัวที่ใช้วิธีนี้ดึงข้อความทวีตไปใช้งาน) บริษัทระบุว่าตัดออกไปเพราะคนใช้น้อยมาก และจะเลิกให้บริการ RSS/XML/Atom อย่างถาวรในวันที่ 5 มีนาคม 2013

อนาคตของไคลเอนต์ทวิตเตอร์อาจเริ่มมืดมนลงเรื่อยๆ ตามที่บริษัทตั้งใจเอาไว้ วันนี้เราเริ่มเห็นข่าวไคลเอนต์ที่แข่งขันไม่ได้อย่าง Seesmic ถูกไคลเอนต์อีกรายอย่าง HootSuite ซื้อกิจการเป็นที่เรียบร้อย

HootSuite เป็นบริการสำหรับโพสต์ไปยังเครือข่ายสังคมหลายยี่ห้อ-หลายบัญชี และเน้นลูกค้ากลุ่มบริษัท-แบรนด์ที่หาตัวช่วยจัดการเครือข่ายสังคม (มีเวอร์ชันจ่ายเงินแลกกับฟีเจอร์เพิ่มเติม) ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน 4.5 ล้านราย ในขณะที่ Seesmic ช่วงหลังมีคนใช้น้อยลงเรื่อยๆ จนเหลือผู้เข้าชมเว็บประมาณวันละ 3-4 หมื่นรายเท่านั้น

HootSuite ให้เหตุผลของการซื้อกิจการครั้งนี้ว่าต้องการฐานลูกค้ากลุ่มองค์กรของ Seesmic เป็นหลัก

หลังจาก Digg ปรับโฉมเมื่อต้นเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นระบบที่สร้างขึ้นใหม่หมด แยกขาดจากของเก่า ทางต้นสังกัดใหม่คือบริษัท Betaworks ก็สัญญาว่าจะนำข้อมูลของ Digg เวอร์ชันเก่ามาขึ้นเว็บในภายหลัง

ตอนนี้ Digg นำข้อมูลของระบบเดิมมาขึ้นเว็บให้ดาวน์โหลดเก็บไว้เป็นที่ระลึกแล้ว โดยใช้ชื่อว่า Digg Archive ใครที่เคยโพสต์ลิงก์หรือคอมเมนต์บน Digg ก็สามารถดาวน์โหลดประวัติการท่องเน็ตของตัวเองเหล่านี้กลับมาได้ครับ

นอกจากนี้ Digg ยังจับมือกับบริการเก็บลิงก์อื่นๆ อย่าง Kippt และ Pinboard ช่วยให้เราย้ายลิงก์จาก Digg ของเก่าไปยังบริการภายนอกเหล่านี้ได้ด้วย

ท่าทีของ Twitter ที่มีต่อนักพัฒนาภายนอกนับวันจะยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่การไม่แสดงผลว่าทวีตจากแอพใด โดยเริ่มจากแอพทางการของ Twitter ตามมาด้วยนโยบาย API ใหม่ที่จำกัดการใช้ของแอพของนักพัฒนาภายนอก

ล่าสุดทางฝั่งเว็บ Twitter อัพเดตใหม่ให้ไม่แสดงว่าทวีตนั้นมาจากแอพใดเหมือนแอพบนมือถือแล้ว ซึ่งแต่เดิมตัวแท็กที่บอกว่าทวีตมาจากแอพใดจะมาพร้อมกับ timestamp ของแต่ละทวีต และจะพ่วงมาพร้อมกับลิงค์ให้ไปดาวน์โหลดแอพดังกล่าว ท่าทีของ Twitter ในครั้งนี้ยิ่งตอกย้ำชัดขึ้นเรื่อยๆ ว่า จะไม่เอาแอพจากนักพัฒนาภายนอกอีกต่อไปแล้ว

จากที่กูเกิลประกาศเรื่องปรับชื่อ URL บน Google+ สำหรับผู้ใช้บางกลุ่ม ตอนนี้เริ่มมีคนได้ชื่อ URL แบบใหม่กันแล้วครับ

สำหรับ profile/page ที่เข้าข่ายจะเห็นข้อความ Claim URL ขึ้นมาแสดงอยู่ด้านบนของเพจ Google+ ซึ่งกดแล้วจะได้ชื่อ URL ที่กูเกิลเตรียมไว้ให้เรา (pre-approved) โดยกูเกิลจะนำชื่อกับนามสกุลมาต่อกันให้เป็น URL นั่นเอง

ถ้าเจ้าของ profile/page พอใจกับชื่อนี้ก็สามารถกดยอมรับเพื่อครอบครอง URL นี้ได้เลย แต่ถ้าไม่ต้องการชื่อดังกล่าวก็ต้องกรอกชื่อที่ต้องการไปให้กูเกิลอนุมัติอีกครั้งหนึ่ง

วันนี้ Chrome for iOS มีการอัพเดตเล็กน้อย โดยเพิ่มความสามารถสำคัญอย่างการแชร์เว็บที่เปิดอยู่ไปยังโซเชียลเน็ตเวิร์ค (รองรับ Facebook/Twitter/Google+) หรือส่งเป็นอีเมลแทนก็ได้ ฟีเจอร์การแชร์ลิงก์ลักษณะนี้ถูกใช้ใน Google+ for iOS มาก่อนหน้านี้ไม่นาน

นอกจากนี้ Chrome for iOS ยังปรับแก้บั๊กอีกบางจุดด้วยครับ

ที่มา - Google Chrome Releases, The Next Web

Google+ ประกาศเพิ่มฟีเจอร์สำหรับควบคุมการแสดงโพสต์ของเพื่อนๆ เราอีก 3 อย่าง

Facebook อัพเดตระบบ Open Graph ใหม่ เพิ่มฟีเจอร์ให้แอพบน Facebook สามารถแท็กหาเพื่อนได้เหมือนเวลาโพสต์ข้อความลงหน้าวอลล์ได้แล้ว

จากการอัพเดตครั้งนี้ทำให้ Facebook มีการแท็กสองวิธีคือ Mention tagging ที่ใช้แท็กในขณะโพสต์เพื่ออ้างถึง (ซึ่งแอพ Open Graph จะได้ใช้แบบนี้) และอีกแบบคือ Action tagging ที่เน้นใช้กับกิจกรรมที่ทำร่วมกันเสียมากกว่า (และใช้ได้กับบริการของ Facebook เท่านั้น)

แน่นอนว่าผู้ใช้สามารถตั้งค่าความเป็นส่วนตัวสำหรับการแท็กได้เหมือนเดิม ส่วนใครที่ยังสงสัย ลองดูภาพตัวอย่างได้จากที่มาครับ

ที่มา - Facebook Developers Blog

MOLOME แอพถ่ายภาพแล้วแชร์ของบริษัทหัวลำโพง ที่เปิดตัวครั้งแรกบนแพลตฟอร์ม Symbian ตอนนี้ประกาศว่าตัวแอพ MOLOME ถูกดาวน์โหลดจาก Nokia Store เกินหนึ่งล้านครั้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เพื่อฉลองความสำเร็จครั้งนี้ MOLOME ได้แจกแบดจ์ฉลองล้านครั้ง สำหรับผู้ใช้ที่อัพโหลดรูปผ่านแอพบน Symbian หรือ MeeGo ก่อนวันที่ 31 สิงหาคมนี้

สถิติเล็กน้อยๆ ของ MOLOME ที่ประกาศมาพร้อมกันคือมีผู้ใช้มากกว่า 650,000 ราย และมีรูปมากกว่า 6,500,000 รูปในปัจจุบันแล้วครับ

ที่มา - MOLOME

ช่วงนี้ Google+ มีการปรับปรุงเกือบทุกวันเลยทีเดียว

ส่วนของแอพ Google+ ทั้งบน iOS/Android เพิ่งมีอัพเดตอีกครั้งในวันนี้ ของใหม่ที่สำคัญคือสามารถเข้าร่วม Hangouts on Air ได้จากอุปกรณ์พกพาโดยตรง, เปิดให้บัญชีเด็กอายุ 13 ปีขึ้นไปสามารถใช้งาน Hangouts ได้แล้ว, เพิ่มไอคอนสำหรับสร้างโพสต์ใหม่จากหน้าหลักของแอพ และเวอร์ชัน iOS ยังสามารถเปิดลิงก์ด้วย Chrome ได้ด้วยถ้าติดตั้งไว้ - The Next Web

วันนี้นอกจาก Google+ จะเริ่มเปิดให้ตั้งชื่อ URL ได้แล้ว การดูรูปเป็นอัลบั้มใน Google+ ก็ได้ฟีเจอร์ใหม่อีกสองฟีเจอร์ด้วย

อย่างแรกคือกูเกิลเพิ่มปุ่ม Slideshow สำหรับเล่นภาพอัตโนมัติแล้ว โดยปุ่มจะปรากฏเมื่อคลิกที่ภาพภาพ หรือหน้าอัลบั้ม และแสดงผลเต็มหน้าจอด้วย

อีกฟีเจอร์ที่เปิดมาพร้อมกันคือสามารถดาวน์โหลดภาพทั้งอัลบั้มทีเดียวได้แล้วในสกุล .zip ซึ่งถ้าใครไม่อยากให้ดาวน์โหลดก็สามารถไปตั้งค่าได้ที่ Settings ครับ

ที่มา - +Andrew Lee

กูเกิลเปิดให้ผู้ใช้ Google+ สามารถปรับแต่ง URL สำหรับเข้าถึงหน้าโปรไฟล์ของทั้งคน และเพจแล้ว โดยสามารถตั้งเป็นตัวอักษรแทนแบบก่อนหน้านี้ใช้เป็นตัวเลข (น่าจะเป็น unique ID) 21 หลัก โดยหน้าตาของลิงก์จะเป็น google.com/+ ตามด้วยชื่อที่ตั้งไว้

ยกตัวอย่างจากเดิมเวลาจะเข้าไปหน้าเพจของ TOYOTA ใน Google+ จะต้องเข้าผ่านลิงก์ https://plus.google.com/110937137992985950150 (ซึ่งคงไม่มีใครจำ) แต่หลังจากนี้ไปจะสามารถเข้าผ่าน google.com/+toyota ได้แล้ว

Pinterest เว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์อันดับต้นๆ ที่กำลังมาแรงในขณะนี้ได้เปิดให้ทุกคนสามารถลงทะเบียนได้แล้วหลังจากที่ทางเว็บไซต์เปิดรับลงทะเบียนด้วยวิธีการ "invite" มาเป็นเวลากว่า 2 ปี โดยผู้ใช้งานสามารถลงทะเบียนใช้งาน Pinterest ได้โดยใช้บัญชีของ Facebook, Twitter หรือจะใช้แค่อีเมลก็ได้

Pinterest เป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่เติบโตเร็วมากในช่วงปีที่ผ่านมา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2555 มีผู้เข้าใช้งานต่อเดือนมากถึง 10 ล้านคน ต่อมาในเดือนเมษายน Pinterest ก็ถูกเข้าใช้งานกว่า 107 ล้านครั้งภายในเดือนเดียว

ที่มา - TechCrunch

หลังเปิดตัวให้ฮือฮาเมื่อเดือนก่อน ในที่สุด LINE เวอร์ชัน 3.0.0 ก็ออกมาแล้วครับ โดยมีคุณสมบัติใหม่คือ Home ที่เปรียบเหมือนห้องส่วนตัวของเรา และ Timeline ซึ่งแสดงข้อมูลความเคลื่อนไหวของเพื่อนเราใน LINE (รายละเอียดเต็มดูในข่าวเก่าครับ)

สำหรับใครที่กังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว สามารถปรับตั้งค่าระดับการแสดงเนื้อหาให้ Home ของเราบน Timeline เพื่อนๆ ได้ที่ Settings ครับ

สำหรับอัพเดตนี้ผู้ใช้ Android จะได้ลองเล่นกันก่อนโดยดาวน์โหลดได้แล้วที่ Google Play ส่วนผู้ใช้ iPhone ทาง Naver เขาบอกว่ารอหน่อย เดี๋ยวได้ใช้เหมือนกันครับ

หลายคนอาจลืมมันไปแล้ว Facebook Questions เป็นฟีเจอร์ด้านการถาม-ตอบที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2010 และ

ข่าวนานไปหน่อยครับ

LinkedIn ประกาศบนบล็อกของพวกเขาว่า LinkedIn จะทยอยปล่อยการปรับปรุงหน้าเว็บของแต่ละผู้ใช้แต่ละคน (ซึ่งผมก็พึ่งได้ไม่นานมานี้) โดยจะเน้นสีโทนดำและดูเรียบง่ายขึ้นทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ได้สะดวกขึ้น นอกจากนี้ผู้ใช้สามารถเลือกว่าแสดงแค่เนื้อหาเด่น ๆ ได้ (ซึ่งมันน่าจะมีตั้งนานแล้ว)

ด้านการจัดหน้าเว็บจะจัดแบบมีเนื้อหาหลักอยู่ทางด้านซ้ายและมี widget ทางด้านขวา ซึ่ง widget ก็มีฟีเจอร์เพิ่มขึ้นมาเช่น เพื่อนที่คุณน่าจะรู้จัก, จำนวนบุคคลที่ดูที่หน้าโปรไฟล์ของเรา (อันนี้เจ๋งมากเพราะว่าไม่เคยมีใครทำฟีเจอร์นี้มาก่อนบนหน้าแรกของเว็บ แต่ที่สำคัญคือ LinkedIn จะไม่เผยแพร่ตัวเลขนี้ให้กับใครนอกจากเรา), กลุ่มที่คุณน่าจะเข้าร่วม

เมื่อ Facebook เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แล้ว ก็ต้องเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะมากขึ้น ซึ่งในเอกสารที่บริษัทยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ก็เปิดเผยข้อมูลว่า 8.7% ของบัญชีผู้ใช้ทั้งหมดหรือคิดเป็นตัวเลขที่ 83.09 ล้านบัญชี เป็นบัญชีปลอม!

ถ้าแจกแจงให้ละเอียดขึ้น 4.8% ของบัญชีทั้งหมดถือเป็นบัญชีซ้ำซ้อน (duplicate หรือเป็นบัญชีที่สองของผู้ใช้ที่ไม่ใช่บัญชีหลัก) อีก 2.4% เป็นกลุ่มที่เรียกว่า user-misclassified หรือบัญชีผิดประเภท เช่น บริษัท องค์กร หรือสัตว์เลี้ยง และอีก 1.5% เป็นบัญชีไม่พึงประสงค์ undesirable หรือพวกสแปมนั่นเอง

Facebook อัพเดตฟีเจอร์เล็กๆ สำหรับทั้งผู้ใช้บนเว็บ และผ่านแอพบางส่วนจะสามารถเซฟโพสต์บน Facebook ดังกล่าวไว้อ่านทีหลังได้ โดยโพสต์ดังกล่าวจะถูกเก็บไว้ในแถบ Saved (อยู่ด้านล่าง Friends)

วิธีการเซฟบนแอพทำได้โดยการกดค้างที่โพสต์ ส่วนบนเว็บจะมีปุ่ม Save เพิ่มขึ้นมาหลังปุ่ม Share ซึ่งเท่าที่ดู Facebook เพิ่งจะปล่อยฟีเจอร์ดังกล่าวให้กับผู้ใช้ในวงแคบมากๆ (ผมเองก็ไม่ได้) และน่าจะปล่อยให้ใช้ทั้งหมดในอนาคตครับ

ที่มา - iMore

หลังจากบริษัท Betaworks เข้าซื้อกิจการ Digg และประกาศยกเครื่องเว็บไซต์ใหม่หมด วันนี้เปิดให้บริการแล้วครับ

Digg โฉมใหม่จะหน้าตาคล้ายๆ กับ Pinterest (หรือแอพอ่านข่าวพวก Flipboard) มากกว่า Digg แบบเดิม คือเน้นภาพกราฟิก thumbnail ของบทความมากขึ้น ส่วนระบบขุดหรือ digg ยังมีเหมือนเดิม แต่เพิ่มการคิดคะแนนจากการแชร์ผ่าน Facebook/Twitter เข้ามาด้วย

Digg แบบใหม่ยังไม่มีระบบคอมเมนต์ ซึ่งทีมงานบอกว่าจะเพิ่มเข้ามาในรุ่นถัดๆ ไป แต่ในเบื้องต้นก็มีความเห็นจากผู้ใช้ผ่าน Twitter มาแสดงในหน้าแรกด้วย