ศาลยุติธรรมแห่งยุโรป (The European Court of Justice) ทำการชี้ขาดคดีระหว่างสถานีโทรทัศน์ Channel 4, Channel 5 และ ITV กับ TV Catchup บริการถ่ายทอดสัญญาณโทรทัศน์แบบให้เปล่า (ฟรีทีวี) ผ่านอินเทอร์เน็ต หลังจากที่ศาลสูงแห่งสหราชอาณาจักรขอคำแนะนำในการตัดสิน โดยตัดสินว่าการถ่ายทอดสัญญาณฟรีทีวีซ้ำผ่านเว็บโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของเนื้อหาถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ภายใต้กฎหมายสหภาพยุโรปปี ค.ศ. 2001 ที่บัญญัติว่าเจ้าของเนื้อหามีสิทธิแต่ผู้เดียวในการอนุญาตหรือห้ามการส่งเนื้อหาของตนสู่สาธารณะ

รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมวางแผนจะเริ่มออกอากาศสัญญาณทีวีความละเอียดระดับ 4K ภายในปี 2014 ซึ่งจะถือเป็นประเทศแรกของโลกที่ก้าวเข้าสู่ระบบ ultra HD ทั้งนี้เดิมทีรัฐบาลตั้งใจจะเริ่มใช้ระบบ 4K ในปี 2016 แต่ก็ต้องเร่งแผนให้เร็วขึ้นเพื่อให้ทันมหกรรมฟุตบอลโลกในปีหน้านั่นเอง

ปัจจุบันนี้มีทีวีความละเอียดระดับ 4K หลากหลายยี่ห้อวางขายอยู่ในญี่ปุ่น ทั้งของผู้ผลิตในประเทศเอง อย่าง Sony, Panasonic และ Sharp รวมทั้งสินค้าจากเพื่อนบ้านเกาหลีใต้อย่าง LG ในขณะที่ทีวี 8K ก็ยังอยู่ในช่วงการพัฒนาซึ่งมีตัวอย่างให้เห็นในงาน CES เมื่อช่วงต้นเดือนไปบ้างแล้ว

รัฐบาลญี่ปุ่นยังระบุอีกว่าในปี 2016 จะผลักดันระบบทีวี 8K เป็นลำดับถัดไป

งาน CES 2013 กลายเป็นเวทีเปิดตัวหน้าจอระดับ ultra HD อย่างเต็มตัว เมื่อผู้ผลิตทีวีแทบทุกค่ายต่างก็นำทีวี 4K ของตัวเองมาโชว์ แม้แต่แท็บเล็ต 4K ก็ยังมีแสดงในงาน ทว่า Sharp นำเสนอหน้าจอที่เหนือกว่านั้นด้วยทีวีที่มีความละเอียดชัดในระดับ 8K

ผู้ผลิตหน้าจอหลายค่ายในงานนำเสนอทีวี 4K ด้วยความละเอียด 3840 x 2160 พิกเซล แต่หน้าจอทีวีขนาด 85 นิ้ว ของ Sharp มีความละเอียด 7680 x 4320 พิกเซล คิดเป็น 4 เท่าของหน้าจอ 4K หรือหากเทียบกับหน้าจอ full HD (1080p) ทั่วไป ก็ถือว่ามีความละเอียดสูงกว่าเป็น 16 เท่า

หลังจากมาตรฐาน 1080p เริ่มใช้งานเป็นที่แพร่หลาย และมาตรฐานตัวต่อไปคือ 4K เริ่มได้รับการยอมรับจากอุตสาหกรรมมากขึ้นเรื่อยๆ ทางฝั่งญี่ปุ่นโดย NHK ก็พัฒนามาตรฐานวิดีโอสำหรับอนาคตมาโดยตลอด และข้อเสนอของ NHK สำหรับวิดีโอในยุคต่อไป คือ Super Hi-Vision (SHV) ที่เป็นชื่อเรียกของทาง NHK ก็ได้เข้าเป็นมาตรฐานคำแนะนำของ ITU ในชื่อว่า UHDTV เรียบร้อยแล้ว โดยขนาดภาพมีขนาด 4320x7680 ทำให้เราอาจเรียกมาตรฐานนี้ว่า 8K แบบเดียวกับที่เราเรียกมาตรฐาน 4K

มาตรฐานนี้รองรับอัตราการเล่นกลับถึง 120 เฟรมต่อวินาที และขยาย color gamut (พื้นที่สีที่รองรับได้) ให้กว้างขึ้นไปอีก ทำให้จอภาพคุณภาพสูงสามารถแสดงเนื้อสีได้ตรงความเป็นจริงมากขึ้น

หลังจากที่เข็นทีวีจอยักษ์ขนาด 84 นิ้วที่มีความละเอียด 3840x2160 มาโชว์ได้ซักพัก ล่าสุด LG ได้ตัดสินใจที่จะวางขายทีวีรุ่นนี้แล้ว โดยจะวางขายทีวีรุ่นนี้ที่ราคา 25 ล้านวอน หรือประมาณ 690,000 บาท

LG คาดว่าจะเริ่มวางตลาดทีวีรุ่นนี้ในอเมริกาเหนือ ยุโรป ลาตินอเมริกา และประเทศในแถบเอเชียประเทศอื่นได้ภายในเดือนกันยายนนี้

ที่มา - The Verge

ทีวีสำหรับคอภาพยนตร์ที่รับแถบดำบนล่างบนหน้าจอไม่ได้เมื่อดูภาพยนตร์ที่มีขนาดภาพอัตราส่วน 21:9 ล่าสุดทีวี Ultra-widescreen จาก Vizio ก็ได้เริ่มวางขายแล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ที่สัญญาไว้ว่าจะวางขายจริงเดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยทีวีขนาด 58 นิ้วนี้ที่มีจอภาพรองรับความละเอียด 2560x1080 จะทำให้คอภาพยนตร์สามารถดูหนังเต็มจอได้แล้วเสียที

สำหรับสเปคอื่น ๆ ทีวีนี้มี refresh rate อยู่ที่ 120Hz และใช้เทคโนโลยี LED backlighting ในการให้แสงสว่างกับจอภาพ รีโมทควบคุมที่ให้มานี้เชื่อมต่อกับตัวทีวีด้วย Bluetooth

สองยักษ์ใหญ่วงการทีวีจากญี่ปุ่นอย่าง Sony และ Panasonic ต้องเป็นฝ่ายไล่ตามคู่แข่งจากเกาหลีอย่าง Samsung และ LG ที่ชิงเปิดตัวทีวีจอ OLED ขนาดใหญ่ในงาน CES 2012 ไปก่อนแล้ว จนช่วงหลังมานี้มีข่าวลือว่าสองค่ายนี้เตรียมร่วมมือกันเพื่อพัฒนาจอภาพ OLED สำหรับทีวีบ้าง

ตอนนี้ข่าวดังกล่าวเป็นจริงแล้ว หลังจากที่ทั้ง Sony และ Panasonic ประกาศเป็นกิจการร่วมค้า (joint venture) เพื่อพัฒนาจอ OLED ขนาดใหญ่สำหรับทีวีความละเอียดสูง และทำราคาได้ต่ำลง ซึ่งน่าจะเริ่มใช้จอที่ว่านี้ได้ในช่วงปลายปี 2013-2014 ในระหว่างนี้ทั้งสองแบรนด์ก็จะทำตลาดด้วยแบรนด์ตัวเองไปก่อน

ซัมซุงยังคงดาหน้าเปิดตัวบริการบนกลุ่มเมฆอย่างต่อเนื่อง หลังจากเปิดตัว Music Hub ไปเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ล่าสุดกำลังจะเปิดตัวระบบเกมบนกลุ่มเมฆสำหรับเล่นบนทีวี โดยใช้เทคโนโลยีจาก Gaikai

สำหรับบริการที่ว่านี้ภายในปี 2012 จะมีเฉพาะทีวีซีรีส์ 7000 เท่านั้นที่จะได้ใช้ เนื่องจากรุ่นดังกล่าวใช้ชิปประมวลผลระดับดูอัลคอร์ ซึ่งเพียงพอที่จะสร้างประสบการณ์ใช้งานที่ดีได้่ และการควบคุมทำได้ผ่านคอนโทรลเลอร์แบบไร้สาย หรือมีสายก็ได้ รวมถึงเม้าส์ และคีย์บอร์ดด้วย แต่สิ่งสำคัญคือต้องต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงพอ

ข่าวฮือฮาในรอบสัปดาห์นี้ คงหนีไม่พ้นประเด็นภาพโป๊ที่โผล่ขึ้นมากลางโทรทัศน์ในที่ประชุมรัฐสภา ระหว่างการอภิปรายของนายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นระยะเวลาสั้นๆ ประมาณห้าวินาที ซึ่งถูกสำนักข่าวหลายแห่งเก็บภาพไว้ได้ (อ่านรายละเอียดข่าวเพิ่มเติมได้จากมติชน)

ในเบื้องต้นได้มีการตั้งข้อสังเกตว่าภาพที่ขึ้นบนจอโทรทัศน์ดังกล่าวน่าจะมาจากการแฮคผ่าน Wi-Fi เนื่องจากโทรทัศน์ดังกล่าวเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตของรัฐสภาอยู่ด้วย ในขณะนั้นยังไม่ได้มีการให้ความเห็นว่าการแฮค Wi-Fi เพื่อส่งภาพไปยังโทรทัศน์สามารถทำได้จริงหรือไม่

Fortune ได้ออกมาเขียนบทความเกี่ยวกับสาเหตุที่แอปเปิลอาจจะไม่ได้ผลิตโทรทัศน์ HDTV ของตัวเองอยู่ตามข่าวลือที่ออกมา หากแบ่งสาเหตุออกมาเป็นข้อ ๆ แล้วพอสรุปได้ดังนี้:

นักวิจัยตลาดที่เชี่ยวชาญแอปเปิลเป็นพิเศษอย่าง Gene Munster จากค่าย Piper Jaffray ซึ่งตอนนี้กลายเป็นบุคคลที่ให้ข่าวเกี่ยวกับทีวีของแอปเปิลที่อาจจะเป็นสินค้าใหม่ของแอปเปิลในอนาคตอันใกล้นี้มากที่สุดไปแล้ว ได้ออกมาบอกว่าเขาเชื่อว่าเราจะได้เห็นทีวีดังกล่าวช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปีนี้ และเขาเชื่อว่ามันจะเป็นสิ่งที่ "ยิ่งใหญ่" ที่สุดในวงการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ คล้าย ๆ กับตอนเปิดตัว smartphone ครั้งแรก

เมื่อถามถึงรูปร่างหน้าตา Munster เชื่อว่า iTV จากแอปเปิลจะมีหน้าตาไม่เหมือนโทรทัศน์ทั่วไปในตลาด เขาเชื่อว่าแอปเปิลจะปล่อยทีวีที่ไม่มีขอบมาให้เห็นเลยแม้แต่น้อย ในส่วนของเนื้อหานั้นน่าจะมาจากการสตรีมข้อมูลผ่านทาง iTunes และ iCloud โดยผู้ใช้สามารถควบคุมทุกอย่างผ่าน Siri

แม้ว่าผลประกอบการที่ไม่ค่อยดีนักของโซนี่ จะทำให้โซนี่ต้องตัดสินใจที่จะถอนตัวออกจากตลาดทีวี OLED ไปแล้ว และปล่อยให้ผู้ผลิตจากประเทศเกาหลีใต้อย่างซัมซุงและ LG แข่งกันเอง ล่าสุดที่งาน CES 2012 โซนี่ได้เลือกที่จะนำทีวีที่ใช้อีกเทคโนโลยีหนึ่งมาโชว์แทนภายใต้ชื่อ Crystal LED

โดยทีวีเครื่องต้นแบบ Crystal LED ที่นำมาโชว์ในงานนี้มีการเพิ่ม "ultrafine" เข้าไปในสี RGB ทุกซับพิกเซล โดย ultrafine ที่ว่านี้จะไม่ว่าเบื้องหลังการทำงานจะเป็นอย่างไรก็ตาม แต่เมื่อติดอยู่ข้างหน้าของจอภาพแล้วจะทำให้การแสดงผลมี contrast ดีขึ้นกว่าเดิม 3.5 เท่าและเพิ่ม color gamut อีก 1.4 เท่า โดยทีวีชุดนี้ของโซนี่จะมี response time ที่เร็วกว่า LCD ธรรมดาอีก 10 เท่า

Twitter ประกาศความร่วมมือกับรายการประกวดร้องเพลง The X Factor USA โดยผู้ชมรายการสามารถโหวตให้กับผู้แข่งขันที่ชื่นชอบได้ทาง Twitter นอกเหนือไปจากช่องทางหลักคือโทรศัพท์และ SMS

รูปแบบการโหวตด้วยวิธีดังกล่าวนั้น ผู้ชมรายการก็ต้องมีบัญชี Twitter (อันนี้แน่นอน) จากนั้น follow @TheXFactorUSA และทำการโหวตด้วยการส่ง Direct Message ไปยังบัญชีดังกล่าว ทั้งนี้การทวีตข้อความโดย mention ไม่นับเป็นคะแนนโหวต

สถานีโทรทัศน์ MBC แห่งประเทศเกาหลีใต้ประกาศความร่วมมือกับกูเกิล เพื่อเผยแพร่รายการเก่าของสถานีทาง YouTube โดย MBC จะนำละครและรายการบันเทิงที่ออกอากาศก่อนปี 2005 รวมมากกว่า 10,000 ชั่วโมง ออกเผยแพร่เริ่มต้นปีหน้า

Yeom Dong-hoon ซีอีโอของกูเกิลสาขาเกาหลีกล่าวว่านี่ถือเป็นความร่วมมือของสถานีโทรทัศน์ในเกาหลีกับ YouTube ครั้งแรก ซึ่งจะช่วยเผยแพร่เนื้อหาด้านความบันเทิงของเกาหลีที่เรียกกว่า K-pop ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามเนื้อหาที่ MBC เผยแพร่นั้นจะถูกแทรกด้วยโฆษณาคั่นเป็นระยะ นอกจากนี้เพื่อฉลองความร่วมมือดังกล่าว MBC ก็เตรียมจัดคอนเสิร์ต K-pop ที่สำนักงานใหญ่กูเกิลและถ่ายทอดสดทาง YouTube ปีหน้าด้วย

โซนี่เรียกโทรทัศน์ในตระกูล Bravia จำนวน 1.6 ล้านเครื่องให้กลับเข้าศูนย์เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยหลังเกิดเหตุไหม้ในอุปกรณ์ชิ้นหนึ่ง โดยมีรายงานเหตุการณ์ไหม้จากญี่ปุ่นแล้วหลายครั้ง

รุ่นที่ถูกเรียกคืนได้แก่ KDL-40D3400, KDL-40D3500, KDL-40D3550, KDL-40D3660, KDL-40V3000, KDL-40W3000, KDL-40X3000, และ KDL-40X3500

โซนี่ยืนยันว่าไม่มีการไหม้ขณะที่ปิดเครื่องเอาไว้ และหากผู้ใดพบอาการ มีเสียง, กลิ่น, หรือควันออกจากเครื่องให้ถอดปลั๊กและหยุดใช้งานทันที

ที่มา - BBC, Yahoo! News

เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมาเจสซี่ ไอเซนเบิร์กนักแสดงผู้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์จากการมารับบทเป็นมาร์ก ซักเคอร์เบิร์กในหนังเรื่อง The Social Network ได้รับเชิญมาพูดเปิดรายการ Saturday Night Live ทาง NBC ระหว่างนั้นก็มีแอนดี้ แซมเบิร์กนักแสดงตลกเข้ามาร่วมเล่นมุขว่าตัวเองนี่แหล่ะคือมาร์ก ซักเคอร์เบิร์กเช่นเดียวกัน

ระหว่างที่ทั้งสองกำลังเล่นมุขกันอย่างสนุกสนานนั้น ปรากฏว่ามาร์ก ซักเคอร์เบิร์กตัวจริงได้โผล่เข้ามาในรายการ เล่นเอาไอเซนเบิร์กถึงกับเหวอไปเลยทีเดียว แต่ทั้งคู่ก็ยังร่วมรับส่งมุขกันอย่างสนุกสนานต่อไป

ตอนนี้ทั้งแอปเปิลและกูเกิลได้มีเครื่องเล่นมีเดียสำหรับทีวีกันหมดแล้ว Seattle Times อ้างว่าไมโครซอฟท์เองก็เตรียมตัวที่จะเปิดตัว Set-top Box ของตัวเองเช่นกันในงาน CES ปี 2011 นี้

โดย Brier Dudley แห่ง Seattle Times ได้ออกมากล่าวว่า Set-top Box จากไมโครซอฟท์จะมีราคาต่ำกว่า 200 ดอลลาร์สหรัฐ และจะรันวินโดวส์เวอร์ชั่นที่ตัดคุณสมบัติที่ไม่จำเป็นต่าง ๆ ออก และจะใช้ UI ที่มีลักษณะที่คล้ายกับ Media Center

เช่นเดียวกันกับ Google TV ไมโครซอฟท์หวังว่า Set-top Box ตัวนี้มีจุดประสงค์เพื่อที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงคอนเทนท์ต่าง ๆ จากอินเทอร์เน็ตและรับชมโทรทัศน์ได้ภายใต้ UI เดียวกัน โดยหากข่าวลือนี้เป็นจริง เราคงจะได้รายละเอียดเพิ่มเติมในคืนวันพุธที่จะถึงนี้ เมื่อไมโครซอฟท์ขึ้นเวที

ชั่วโมงนี้ดูเหมือนทุกคนจะเริ่มลงมาจับตลาดโทรทัศน์กันมากขึ้นเรื่อยๆ ที่งาน IDF 2010 ก็มีเพิ่มเติมคืออัสซุสที่กำลังจะลงมาเล่นตลาดนี้ในกลางปีหน้า โดยเครื่องที่อัสซุสนำมาโชว์ยังไม่มีการระบุชื่อหรือราคา มีเพียงว่ามันจะวางตลาดกลางปีหน้าเท่านั้น

ส่วนชิปภายในนั้นเป็นไปตามเครื่องคู่แข่งส่วนใหญ่คือใช้ชิป Intel CE4100 เป็นซีพียู แต่ไม่มีส่วนเก็บข้อมูลอยู่ภายในต้องเชื่อมต่อผ่าน USB เพียงอย่างเดียว

ดูเหมือนปีหน้าจะเป็นปีของการพาคอมพิวเตอร์ไปยังคนที่ไม่ใช้คอมพิวเตอร์

ที่มา - Engadget

ดูเหมือน Avatar จะสามารถสร้างกระแสประสบการณ์สามมิติไปได้ทั่วทุกวงการ ล่าสุด Sky เตรียมถ่ายทอดสดฟุตบอลคู่สำคัญ ระหว่างอาร์เซนอลพบแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวันอาทิตย์นี้เป็นระบบสามมิติ เป็นครั้งแรกของโลก

โดยการถ่ายทอดสดครั้งนี้จะถ่ายทอดในวงจำกัดเพียง 9 ผับในแถบประเทศอังกฤษ ซึ่งได้มีการติดตั้งทีวีที่รองรับระบบสามมิติไว้แล้ว โดยเบื้องหลังการถ่ายทำเป็นระบบสามมิตินั้น ทีมงานของ Sky ต้องบินไปศึกษางานและขอคำแนะนำจาก เจมส์ แคเมรอน เลยทีเดียว

ทั้งนี้ Sky เตรียมจะเปิดตัวช่องที่ถ่ายทอดรายการสามมิติตลอด 24 ชั่วโมงในเดือนเมษายนนี้

ดูเหมือนว่ารัฐบาลสหรัฐจะมีความสุขเหมือนกัน เมื่อการเปลี่ยนแปลงระบบการถ่ายทอดโทรทัศน์ภายในประเทศตัวเองจากระบบอนาล็อกมาเป็นดิจิตอลทั้งประเทศได้สำเร็จแล้ว ทำให้สามารถนำคลื่นความถี่ช่วงนี้มาใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้มากกว่าเดิม สหรัฐจึงประกาศตนเองว่าเป็นประเทศขนาดใหญ่ประเทศแรกของโลกที่ทำการเปลี่ยนแปลงระบบมาเป็นระบบดิจิตอลได้สำเร็จอย่างเต็มที่

สำหรับประเทศไหนทำสำเร็จก่อนหน้านี้แล้วบ้าง?​ มีเยอะเหมือนกัน ได้แก่เยอรมนี, สวีเดน, ฟินแลนด์, นอร์เวย์และเนเธอร์แลนด์ สำหรับประเทศอิตาลี, ฝรั่งเศส, สเปนและโปรตุเกสคาดว่าจะทำการเปลี่ยนมาเป็นระบบดิจิตอลได้สำเร็จสมบูรณ์ภายในไม่กี่ปีข้างหน้านี้