รวมข่าว Twitter (X) อัปเดตล่าสุด

Twitter เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่สำหรับผู้ใช้งานบนเว็บไซต์ เมื่อเข้าไปยังหน้าโปรไฟล์ของผู้ใช้งานอื่นแล้ว สามารถเลือกแสดงผลเฉพาะทวีตที่ไม่ได้ตอบคนอื่นได้แล้ว (หรือพูดง่ายๆ ทวีตที่มี @username อยู่ข้างหน้าจะไม่แสดงผล)

ในเบื้องต้นฟีเจอร์ดังกล่าวจะมีแค่บางบัญชีที่ verified แล้วเท่านั้น เช่น @NASCAR หรือ @Pepsi พอทำให้เข้าใจได้ว่าฟีเจอร์นี้ทำมาเพื่อให้แฟนๆ สามารถตามติดชีวิตคนดังได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

ความแตกต่างระหว่างเปิด/ปิดฟีเจอร์นี้ดูได้ท้ายข่าวครับ

ที่มา - Twitter

ปัญหาอย่างหนึ่งของผู้ใช้ Twitter ผ่านหน้าเว็บคือเวลาข้อความมีคน retweet หรือ favorite มากๆ มันจะขึ้นจำนวนสูงสุดแค่ 50+ ทำให้เราไม่มีทางรู้ว่าตกลงแล้วข้อความนั้นมีคน retweet/favorite เท่าไรกันแน่ (ยกเว้นจะใช้งานเครื่องมือเก็บสถิติอื่นๆ ที่ไม่ใช่ของ Twitter เอง)

แต่ล่าสุด Twitter เปลี่ยนนโยบายนี้แล้ว โดยแสดงตัวเลขจริงๆ ของการ retweet/favorite เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตัวอย่างลองดูได้จาก ข้อความของ @BillGates

ที่มา - TechCrunch

ใครที่ใช้ Twitter ผ่านเว็บ หรือแอพของ Twitter เองจะรู้ว่า Twitter นั้นสามารถพรีวิวรายละเอียดจากลิงก์ที่อยู่ในทวีตได้เช่นภาพจาก Photobucket หรือวิดีโอจาก YouTube ส่วนมากแล้วใช้ได้กับรูปภาพ หรือวิดีโอเล็กน้อยๆ เท่านั้น

ตอนนี้ Twitter ประกาศเพิ่มการพรีวิวรายละเอียดไปยังคอนเทนต์ประเภทอื่นนอกเหนือจากภาพ/วิดีโอบ้างแล้ว และที่เพิ่มเข้ามาก็คือข่าวนั่นเอง โดยรองรับการแสดงพาดหัว และรายละเอียดข่าวส่วนหนึ่ง ไปจนถึงวิดีโอข่าวของแต่ละค่ายอย่าง The Wall Street Journal, MSNBC’s Breaking News และ TIME (ดูตัวอย่างได้จากทวีตนี้)

Twitter เริ่มฉายโฆษณาทางทีวีเป็นครั้งแรกแล้ว โดยโฆษณาหน้า hashtag #NASCAR สำหรับการแข่งรถ NASCAR Racing ของสหรัฐในช่วงนี้

โฆษณาที่ฉายทางทีวีมีชื่อว่า Pieces แต่ในชุดก็มีคลิปอื่นอีกหลายคลิป ซึ่งธีมหลักที่ Twitter ใช้คือดูข้อมูลเบื้องหลัง มุมมองเบื้องลึกต่างๆ ของการแข่งขันที่ไม่อยู่ในทีวีได้จากหน้า hashtag #NASCAR

ที่มา - Twitter Blog, Business Insider

Dick Costolo ซีอีโอของ Twitter ไปพูดที่งานสัมมนาของ The Economist โดยเขาเปิดเผยข้อมูลว่าตอนนี้บริษัทมีรายได้จากโฆษณาบนมือถือเยอะกว่าโฆษณาบนหน้าเว็บด้วยซ้ำในบางวัน

Costolo พูดถึงกระแสอุปกรณ์พกพาว่า Twitter พร้อมสำหรับการใช้งานแบบนี้อยู่แล้ว เพราะต้นกำเนิดของ Twitter มาจากข้อความบนมือถือ (140 ตัวอักษร) มาตั้งแต่แรก ดังนั้นจะต่างไปจาก Facebook ที่ออกแบบมาสำหรับเว็บ และกำลังประสบปัญหาปรับตัวให้เข้ากับการใช้งานบนมือถือลำบาก

เขาบอกว่า Twitter เตรียมแพลตฟอร์มโฆษณาบนมือถือมาสักพักแล้ว เพียงแต่เลือกเปิดตัวแพลตฟอร์มโฆษณาบนเว็บก่อน และตอนนี้รายได้ทั้งสองส่วนตีคู่คี่กันอยู่ (Twitter ยังไม่เคยเปิดเผยรายได้ต่อสาธารณะ)

ผู้ใช้ Twitter คงคุ้นกันดีกับรูปนกสีฟ้า (หรือชื่อจริง Larry) อันเป็นสัญลักษณ์ของ Twitter มาตลอด 6 ปีที่ผ่านมา และต่อจากนี้ไปรูปนกสีฟ้านี้จะกลายเป็นสัญลักษณ์ของ Twitter แทนข้อความ หรือแม้แต่ตัวอักษร t ที่มักเห็นบ่อยก่อนหน้านี้ (ซึ่งตรงตามการคาดการณ์ก่อนหน้า)

พร้อมกันนี้ Twitter ได้ออกแบบหน้าตาของเจ้านกสีฟ้าเสียใหม่ โดยสร้างขึ้นจากรูปทรงเรขาคณิตพื้นฐานอย่าง การใช้วงกลมมาทับซ้อน และต่อกันเป็นรูปนกที่ดูเรียวยิ่งขึ้น

ภาพสำหรับใช้งาน และข้อแนะนำการใช้ดูได้ที่หน้า Twitter brand resources ส่วนวิดีโอแนวคิดการออกแบบดูได้ท้ายข่าวครับ

ศาลคูเวตสั่งจำคุกนาย Hamad al-Naqi เป็นระยะเวลา 10 ปีด้วยข้อหาคุกคามความมั่นคงของชาติโดยใช้ทวิตเตอร์ดูหมิ่นศาสดามูฮัมหมัดรวมถึงกษัตริย์ซาอุดิอาระเบียและบาห์เรน

นาย Naqi ซึ่งเป็นมุสลิมนิกายชีอะฮ์ให้การว่าบัญชีผู้ใช้ของเขาถูกแฮกและเขาไม่ได้เป็นคนส่งข้อความ ด้านทนายของนาย Naqi บอกว่าความผิดนี้ควรจัดเป็น อาชญากรรมทางความคิด มากกว่าคุกคามความมั่นคงของชาติ

นักกิจกรรมมุสลิมนิกายซุนนีย์บางส่วนเรียกร้องให้ตัดสินประหารชีวิต

ที่มา : BBC

ทีมวิศวกรรมของ Twitter โพสต์ข้อมูลผ่านบล็อก Twitter Engineering ว่าบริษัทปรับกลไกการทำงานของ Twitter เวอร์ชันเว็บใหม่ โดยหน้าตายังเหมือนเดิมทุกประการแต่เปลี่ยนระบบการทำงานข้างหลังไปหลายจุด ส่งผลให้ประสิทธิภาพดีขึ้นมาก

การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจนคือ URL ของเพจต่างๆ บนเว็บไซต์ Twitter จะไม่มีอักขระพิเศษ #! (hashbang) อีกแล้ว เนื่องจากอักขระแบบเดิมเป็นกลไกการเรนเดอร์ข้อมูลทับไปบนเพจเดิมที่โหลดมาแล้วอีกครั้ง (ไม่ใช่การ redirect) แต่ตอนนี้ทีมงานเปลี่ยนวิธีการแสดงผลใหม่โดยเลิกใช้การเรนเดอร์ข้อมูลทับเพจเดิม เพื่อลดกระบวนและระยะเวลาของการแสดงผลข้อมูล ทำให้อักขระ #! ถูกเลิกใช้ไปด้วย

หนึ่งในเรื่องที่ผู้ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คอยากรู้มาตลอดคือในโซเชียลเน็ตเวิร์คที่เราใช้งานอยู่นั้น มีสแปมแฝงตัวอยู่เยอะแค่ไหน คำตอบจากนาย Mark Risher ซีอีโอของบริษัทผลิตซอฟต์แวร์แอนติสแปมชื่อว่า Impermium เผยว่าตัวเลขสแปมบนโซเชียลเน็ตเวิร์คชื่อดังอย่างเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ หรือที่อื่นๆ นั้นมีจำนวนมากถึง 40% จากผู้ใช้ทั้งหมด และ 8% ของข้อความที่ส่งกันในโซเชียลเน็ตเวิร์คนั้นก็เป็นสแปม โดยตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าภายในเวลาหกเดือนเลยทีเดียว

Twitter ยังพยายามดันแถบ Discover (ที่หลายคนเห็นตรงกันว่าไม่เห็นเกี่ยวอะไรกับเรา) ต่อไป ล่าสุดประกาศว่าจะส่งอีเมล์รายสัปดาห์เกี่ยวกับเรื่องที่ถูกแชร์ และทวีตนี่น่าสนใจจากคนใน Twitter โดยใช้หน้าตาใกล้เคียงกับแถบ Discover

Twitter บอกว่าจะทยอยปล่อยฟีเจอร์ดังกล่าวให้กับผู้ใช้ภายในสัปดาห์หน้า ส่วนใครที่ไม่อยากได้อีเมล์ให้ไปตั้งค่าได้ที่หน้า Notification Settings

หน้าตาของอีเมล์ที่ว่าสามารถดูได้จากที่มาครับ

ที่มา - Twitter Blog

แฮกเกอร์ในเครือของกลุ่ม Anonymous ออกมายอมรับและแสดงความรับผิดชอบกรณีที่มีการเผยแพร่บัญชีผู้ใช้ อีเมลรวมทั้งรหัสผ่านของ Twitter บนเว็บไซต์ Pastebin เป็นจำนวนกว่า 55,000 รายการ โดยทาง Twitter อ้างว่าข้อมูลส่วนใหญ่ที่ถูกเผยแพร่นั้นเป็นข้อมูลที่ซ้ำกัน และส่วนมากก็เป็นบัญชีผู้ใช้ที่ถูกบันทึกว่าเป็นผู้ใช้งานประเภทสแปมด้วย โดยตอนนี้ทาง Twitter ก็ยังไม่ได้ออกมาชี้แจงถึงสาเหตุแต่อย่างใด

บางเว็บไซต์ยังมีการโจมตีไปยัง Twitter ว่าทางบริษัทไม่ได้สนใจที่จะสร้างความปลอดภัยต่อข้อมูลของผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้นอย่างจริงจัง ขาดแม้กระทั่งระบบตรวจสอบมาตรฐานของรหัสผ่าน หรือคำแนะนำในการตั้งรหัสผ่านให้ปลอดภัย

ก่อนหน้านี้ Twitter เคยปรับปรุงหน้าโมบายล์เว็บ สำหรับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน (ตอนนี้ยังใช้ได้แค่แอนดรอยด์กับ iOS) พร้อมๆ กับการปรับอินเทอร์เฟซใหม่ทั้งเว็บเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา คราวนี้ถึงคิวของมือถือแบบฟีเจอร์โฟนจะได้ใช้หน้าโมบายล์เว็บแบบใหม่บ้างแล้ว

หน้าตาของโมบายล์เว็บสำหรับฟีเจอร์โฟนนั้นเหมือนกันกับที่เคยเปลี่ยนให้ของสมาร์ทโฟนเป๊ะ มีแถบหลักอย่าง home, connect, discovery และ me เท่ากันทุกประการ สามารถดูภาพตัวอย่างได้ท้ายข่าวครับ

ที่มา - Twitter Blog

Dick Costolo ซีอีโอของ Twitter ได้พูดถึงเรื่อง IPO ของ Twitter ระหว่างงาน Wired Business Conference ว่ายังไม่มีแผนดังกล่าวในตอนนี้ พร้อมทั้งบอกว่าตอนนี้ Twitter ยังสามารถโตต่อไปได้ด้วยตัวเอง แล้วเราก็ยังมีเงินจำนวนมากในธนาคาร (ตามข้อมูลจาก CrunchBase ก็น่าจะอยู่ที่ราวๆ พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ดังนั้นเราจึงไม่ต้องกังวลเรื่องการเงินในตอนนี้

Costolo ยังพูดถึงการพัฒนาโมเดลทางธุรกิจให้ตัวข้อความที่ทวีตไปนั้นสามารสร้างรายได้ทุกที่ที่ไปถึง หรือโมเดล supported tweets ที่จะทำให้รองรับทุกแพลตฟอร์ม และทุกอุปกรณ์นั่นเอง เขายังเสริมอีกว่าเราต้องสร้างระบบที่ทำให้แบรนด์จะแสดงโฆษณาที่ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปรำคาญน้อยลงอีกด้วย

มีรายงานข่าวว่า Twitter ได้เจรจากับขอซื้อแอพถ่ายภาพ Camera+ โดยการเจรจานี้เกิดขึ้นหลังจากเกิดดีล Facebook ซื้อ Instagram ที่ Twitter เองก็เคยพยายามซื้อเช่นกันแต่ไม่สำเร็จ ซึ่งข่าวนี้แสดงให้เห็นความมุ่งมั่นของ Twitter ที่จะมีแอพแชร์ภาพถ่ายของตัวเองอย่างมาก

อย่างไรก็ตามบริษัท Tap Tap Tap ผู้ผลิตแอพ Camera+ ได้ล้มการเจรจาก่อนที่ Twitter จะเสนอราคาในการซื้อกิจการเนื่องจากพนักงานของบริษัทส่วนใหญ่นั้นกระจายกันอยู่หลายประเทศทั้งออสเตรีย นิวซีแลนด์ สเปน ฯลฯ ซึ่งไม่สะดวกที่จะย้ายมาทำงานร่วมกับ Twitter ที่มีสำนักงานในซานฟรานซิสโก

Twitter เพิ่งปรับหน้าเว็บครั้งใหญ่ไปเมื่อปลายปี 2011 การเปลี่ยนแปลงสำคัญอย่างหนึ่งคือเพิ่มหน้า/แท็บ Discover ช่วยให้ผู้ใช้ "ค้นพบ" สิ่งใหม่ๆ ในโลกของ Twitter ที่กำลังเป็นประแสได้ง่ายขึ้น

ข่าวนี้เป็นข้อมูลเพิ่มเติมจาก Twitter เองก็อยากซื้อ Instagram (แต่โดน Facebook ตัดหน้า)

เว็บไซต์ VentureBeat อ้างแหล่งข่าววงในที่เกี่ยวข้องกับการขายกิจการของ Instagram ว่าในช่วงเวลานั้นเป็นการเจรจาของ Instagram กับ 3 ฝ่าย ได้แก่ Twitter, Facebook และกลุ่มนักลงทุน

"ข้อมูลใหม่" ของ VentureBeat แสดงให้เราเห็นความฉลาดของ Kevin Systrom ผู้ก่อตั้ง Instagram ที่ใช้สถานการณ์นี้ให้เกิดประโยชน์ต่อราคาของ Instagram ที่สุดท้ายขายออกไปที่ 1 พันล้านดอลลาร์

Twitter ออกตัวอัพเดทของแอพพลิเคชันบน iOS เป็นเวอร์ชัน 4.2 และบน Android เป็นเวอร์ชัน 3.2 โดยความสามารถใหม่ที่หลายคนรอคอยและทำได้ในแอพพลิเคชันตัวอื่นๆ นานแล้ว นั่นคือการแจ้งเตือนเมื่อมีการรีทวีต (retweet) หรือติดดาว (favorite) ข้อความของเรา

ความเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ในเวอร์ชันนี้ (สำหรับแอพบน iOS)

บริษัท Twitter ประกาศให้การสนับสนุน Apache Software Foundation ในทางการเงิน กฎหมาย และความช่วยเหลือระดับองค์กรอื่นๆ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สในโครงการที่ Twitter ใช้งานอยู่

โครงการหลักที่ทาง Twitter พูดถึงคือ Apache Mesos ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์บริหารจัดการคลัสเตอร์ ปัจจุบัน Twitter บอกว่ามีคอมพิวเตอร์ที่รัน Mesos อยู่เป็น "หลักร้อย" ภายในองค์กร

ส่วนโครงการอื่นๆ ที่เอ่ยชื่อคือ Cassandra, Hadoop, Mahout, Pig และยังมีอีกหลายโครงการที่ Twitter จะเข้าร่วมสนับสนุนให้พัฒนาขึ้น เรียกได้ว่า Twitter เองได้ซอฟต์แวร์ดีๆ ไปใช้ และวงการโอเพนซอร์สก็ก้าวหน้าไปพร้อมกัน

วันนี้ Twitter ได้ออกมาประกาศว่าพวกเขารับประกันว่าจะไม่รังแกใครเกี่ยวกับคุณสมบัติ "Pull-to-refresh" ที่พบครั้งแรกในแอพของ Twitter เองซึ่งตอนนี้พวกเขาถือสิทธิบัตรของเทคนิคดังกล่าวแล้ว แม้ว่าหลาย ๆ แอพทั้งบน iOS และ Android ได้นำ Pull-to-refresh ไปใช้กันอย่างเต็มที่เรียบร้อย

Hotspots.io บริษัทให้บริการวิเคราะห์โซเชียลเน็ตเวิร์คขึ้นข้อความหน้าเว็บไซต์ว่าถูกซื้อโดย Twitter แล้ว โดยทีมของ Hotspots.io จะเข้าร่วมกับทีมวิศวกรของ Twitter เพื่อพัฒนาเครื่องมือวิเคราะห์สำหรับใช้กับการลงโฆษณาบน Twitter

ผลงานเก่าของ Hotspots.io คือการเก็บข้อมูลทวีตเกี่ยวกับโฆษณาที่ลงใน Superbowl ว่ามีคนทวีตถึงกี่ครั้งต่อนาที เข้าถึงเป้าหมายกี่ครั้ง โฆษณาดังกล่าวใช้เงินลงทุนเท่าไร รวมถึงทวีตที่เกี่ยวข้องในช่วงนั้นด้วย (ดูตัวอย่างได้ที่นี่)

ปีนี้เราคงได้เห็น Twitter จริงจังกับการหาเงินเพิ่มขึ้นแน่นอน

ปีนี้ยักษ์ใหญ่ในวงการโซเชียลเน็ตเวิร์คให้ความสนใจกับประเทศญี่ปุ่นมากเป็นพิเศษ ก่อนหน้านี้ Mark Zuckerberg ก็เพิ่งมาทัวร์ญี่ปุ่น แถม Facebook ในญี่ปุ่นเองก็เป็นประเทศนอกสหรัฐฯ เพียงแห่งเดียวที่มีแผนกวิศวกรรมอยู่ด้วย

ล่าสุดเป็นคิวของคู่แข่งอย่าง Twitter ในระหว่างการเดินทางมาเยี่ยมญี่ปุ่นของซีอีโอ Dick Costolo ได้เผยแผนในญี่ปุ่นว่าจะมีการจ้างพนักงานฝ่ายขายในญี่ปุ่นเพิ่มอย่างมาก เพื่อทำเงินจากความได้เปรียบเรื่องความนิยมที่เหนือกว่าคู่แข่งอื่นๆ

สำหรับตัวเลขผู้ใช้งาน Twitter ในญี่ปุ่นอยู่ที่ราว 30 ล้าน เหนือกว่า Facebook ที่เคยประกาศว่ามีราวๆ 10 ล้านคน (แต่เป็น active user)

หนังสือพิมพ์ The New York Times มีสกู๊ปพิเศษเกี่ยวกับชีวิตของ Kevin Systrom ผู้ก่อตั้ง Instagram ว่ามีพื้นฐานอย่างไร มาก่อตั้งบริษัทจนโด่งดัง และกลายเป็นเศรษฐีหมื่นล้านได้อย่างไร

บทความของ The New York Times ให้ความเห็นว่าตัว Kevin Systrom มีคอนเนคชันในวงการไอทีของสหรัฐที่ค่อนข้างดี เขาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เคยทำงานที่กูเกิล และสนิทสนมกับผู้ก่อตั้งบริษัท-นักลงทุนในซิลิคอนวัลเลย์หลายคน ส่งผลให้เขามีโอกาสในการระดมทุนหรือหาทีมงานเยอะได้ เป็นตัวอย่างที่ดีของกิจการสตาร์ตอัพที่ใช้ประโยชน์จากซิลิคอนวัลเลย์อย่างเต็มที่

ชายชาวแอฟริกาใต้ซึ่งไม่ได้เปิดเผยชื่อ ได้รับการช่วยเหลือหลังจากที่ถูกจี้ชิงรถและกักขังไว้ในที่เก็บของท้ายรถ จากการติดต่อกันผ่านทางทวิตเตอร์

ชายคนดังกล่าว ถูกชายติดอาวุธสองคนจี้รถโฟล์กสวาเกนเมื่อเวลาประมาณสามทุ่ม บริเวณใกล้กับเมืองโยฮันเนสเบิร์ก คนร้ายได้ขังเขาไว้ในที่เก็บของท้ายรถ โดยที่ยังมีโทรศัพท์มือถืออยู่กับตัว เขาได้ส่งข้อความไปหาแฟนสาว ซึ่งได้ใช้ทวิตเตอร์ในการขอความร่วมมือในวงกว้าง

Lynn Peters แฟนสาวเขา ทวีตว่า "Be on the look for DSS041GP my boyufriend [sic] has just been hijacked and is in the boot please RT." (ช่วยกันมองหารถ DSS041GP แฟนฉันเพิ่งถูกจี้ไปและถูกขังอยู่ท้ายรถ โปรด RT)

Twitter ใช้ฐานข้อมูลยอดนิยมอย่าง MySQL แต่ก็นำมันไปปรับแต่งเพิ่มเติมให้เหมาะกับความต้องการของตัวเอง (โดยเฉพาะการรองรับโหลดจำนวนมหาศาล) ล่าสุดบริษัทประกาศโอเพนซอร์สโค้ดส่วนที่ปรับแต่งเพิ่มเติมแล้ว โดยใช้สัญญาอนุญาตแบบ BSD และฝากโค้ดไว้ที่ Github

โครงการของ Twitter นี้ถือเป็น fork ของ MySQL ซึ่งบริษัทก็ยืนยันว่าจะร่วมกับชุมชนผู้พัฒนา MySQL เพื่อนำโค้ดส่วนนี้กลับเข้าต้นน้ำของโครงการ MySQL ต่อไป

ตัวอย่างฟีเจอร์ที่ Twitter เพิ่มเข้ามาได้แก่การปรับปรุงเอนจิน InnoDB ในหลายจุด, เพิ่มความสามารถในการยกเลิก query ที่รันนานเกินเวลาที่กำหนด, ปรับแต่งการจองหน่วยความจำของฐานข้อมูล, ปรับการทำงานของ MySQL บนเครื่องที่ใช้ SSD เป็นต้น

ผู้อ่าน Blognone ที่ใช้งาน Twitter น่าจะเคยประสบปัญหา "สแปม" กันเป็นอย่างดี ปัญหานี้ทาง Twitter เองก็หามาตรการทางเทคนิคหลายอย่างช่วยป้องกันและแก้ไข จนบรรเทาลงมากในระยะหลัง

แต่มาตรการเทคนิคเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ล่าสุด Twitter ได้ประกาศว่าจะใช้มาตรการทางกฎหมายเข้าช่วยแล้ว โดยช่วงแรกมีเป้าหมายคือบริการออนไลน์และเครื่องมือต่างๆ ที่ช่วยให้สแปมเมอร์บน Twitter ทำงานได้ง่ายขึ้น

ตามข่าวบอกว่า Twitter ฟ้องผู้ให้บริการเครื่องมือสำหรับสแปม 5 ราย ได้แก่ TweetAttacks, TweetAdder, TweetBuddy, James Lucero, Garland Harris (สองรายหลังเป็นบุคคล) โดยฟ้องต่อศาลในเขตซานฟรานซิสโก บริษัทบอกว่าถ้าสามารถปิดบริการเหล่านี้ด้วยมาตรการทางกฎหมายได้ การสร้างสแปมบน Twitter จะทำได้ยากขึ้นมาก