กระแสของการรณรงค์เทถังน้ำแข็งในเมืองไทยเพื่อบริจาคให้กับองค์กรการกุศล กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุด Uber ประเทศไทยก็เข้าร่วมกับการรณรงค์ดังกล่าวแล้ว

โดยทาง Uber ประเทศไทยจะให้บริการสั่งเรียกถังน้ำแข็งผ่านแอพ Uber พร้อมกับเสื้อยืดและผ้าขนหนู และทีมงานที่จะช่วยถ่ายคลิปวิดีโอถึงที่ โดยมีข้อแลกเปลี่ยนว่า ผู้ที่ใช้บริการดังกล่าว จะต้องบริจาคเงินผ่านแอพของ Uber โดยจะบริจาคให้กับกองทุนสนับสนุน เครื่องช่วยหายใจในผู้ป่วย ALS ซึ่งอยู่ภายใต้มูลนิธิสนับสนุนสถาบันประสาทวิทยา กระทรวงสาธารณสุข โดยทาง Uber แนะนำให้บริจาคอย่างน้อย 300 บาท และผู้บริจาคจะสามารถขอใบกำกับการบริจาคเพื่อไปขอเป็นส่วนลดหย่อนภาษีได้

หลังจากบุกตะลุยตลาดคมนาคม-ขนส่งในหลายๆ ประเทศ ล่าสุด Uber หันมาจับมือกับพันธมิตรข้ามอุตสาหกรรม โดยเปิด Uber API ให้แอพตัวอื่นเรียกใช้ได้

รูปแบบการใช้งานจะเหมาะกับแอพประเภทอิง location-based เช่น แอพจองร้านอาหาร OpenTable หรือแอพจองโรงแรมในเครือ Hyatt สามารถรับจอง แล้วเพิ่มปุ่มเรียก Uber จากในแอพนั้นๆ ได้เลย แอพที่เรียกใช้ Uber API จะรับทราบข้อมูลสถานที่ปลายทาง (ผู้ใช้ไม่ต้องกรอกใหม่ในแอพ Uber อีกที) พร้อมทั้งแสดงเวลาที่รถจะเดินทางมาถึง และค่าโดยสารโดยประมาณให้ด้วย

Uber เปิดตัว Corner Store บริการใหม่สำหรับสั่งสินค้าในลิสต์ที่ทาง Uber มี และจัดส่งให้ตามสถานที่ที่แจ้งไป โดยสามารถเรียกใช้งานบริการใหม่นี้ได้ผ่านทางแอพ Uber เลย

สินค้าที่มีให้เลือกนั้น เป็นสินค้าจิปาถะที่คนส่วนใหญ่อาจลืมหรือต้องการในยามฉุกเฉิน โดยทาง Uber จะจัดส่งโดยใช้รถยนต์ (ขณะที่ผู้ให้บริการในลักษณะเดียวกันเจ้าอื่นๆ จะใช้รถจักรยานยนต์แทน คาดว่าเพราะไม่ต้องการให้ทับซ้อนกับบริการ Uber Rush)

ทั้งนี้บริการนี้ยังอยู่ในช่วงทดลอง และพื้นที่ให้บริการจำกัดเฉพาะบางพื้นที่ในกรุงวอชิงตัน ดีซีเท่านั้น

สำนักข่าว BBC ของอังกฤษ รายงานข่าวว่า สำนักกิจการพลเรือนและการกำกับควบคุมของกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี (Department of Civil and Regulatory Affairs) ประกาศว่าการดำเนินธุรกิจของ Uber ในกรุงเบอร์ลินนั้นละเมิดกฎหมาย โดย Uber ต้องยุติการให้บริการทันที และอาจต้องเผชิญกับค่าปรับที่สูงถึง 25,000 ยูโร (ประมาณ 1 ล้านบาท) หากฝ่าฝืนคำสั่ง

จากข่าวที่ Lyft บริการรถแท็กซี่หรูออกมาแฉว่า Uber ซึ่งถือเป็นคู่แข่งใช้วิธีสกปรกในการแกล้งจองรถแล้วยกเลิกมากกว่าพันครั้ง ล่าสุด Uber ก็ออกมาแฉกลับบ้างครับ

ตัวแทนของ Uber ได้ออกจดหมายเปิดผนึก โดยบอกว่าข้อกล่าวหาของ Lyft นั้นไม่มีมูลความจริง และแท้จริงบรรดาคนขับรถของ Lyft ตลอดจนพนักงานและผู้ร่วมก่อตั้ง Lyft เองต่างหากที่ถนัดการใช้ลูกเล่นสกปรกนี้ โดยมีการจองรถและยกเลิกคำสั่งอยู่ตลอดรวมแล้ว 12,900 ครั้งในปีที่ผ่านมา ขณะที่ Uber นั้นสนใจที่จะพัฒนาแพลตฟอร์มให้ดีขึ้นเรื่อยๆ มากกว่าจะทำอะไรอย่างนี้

ในบ้านเรา บริการอย่าง Uber ที่เป็นลักษณะรถแท็กซี่หรู อาจจะยังไม่มีคู่แข่งที่ชัดเจนมากนัก (ของไทยชัดเจนสุดคงเป็น GrabTaxi) แต่ที่ต่างประเทศ Uber เองก็มีคู่แข่งคนสำคัญอย่างเช่น Lyft หรือ Gett ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นคือ Uber ใช้วิธีการที่ CNN Money เรียกว่าเป็นวิธีการ "สกปรก" ซึ่งก็คือการเรียกใช้บริการคู่แข่ง แล้วสั่งยกเลิกเป็นจำนวนมาก หรือการใช้บริการระยะทางสั้นๆ ที่มีกำไรต่ำมากๆ แทน

บริการ Uber ก่อนหน้านี้เป็นบริการสำหรับคนที่ต้องการนำรถมาให้บริการคนอื่นๆ โดยอาจจะเป็นรถที่ทำอาชีพเฉพาะอย่าง Uber ปกติ หรือรถส่วนตัวอย่าง UberX หรือรถหรูอย่าง UberBlack ตอนนี้บริการใหม่คือ UberPool เปิดให้รถ Uber สามารถรับคนที่ไปทางเดียวกันเพิ่มเติมเพื่อลดค่าบริการ

ผู้ใช้บริการโดยทั่วไปยังคงใช้บริการเหมือนเดิม โดยกดเรียกรถและรอรับภายใน 5 นาที หาก Uber พบคนที่กำลังเดินทางทางเส้นทางเดียวกันก็จะแจ้งชื่อแรกของผู้ร่วมทางให้เราทราบ และแจ้งในแอพพลิเคชั่นว่ารถ Uber จะไปรับใครก่อนกัน

การใช้บริการ UberPool แม้จะไม่มีผู้ร่วมทางแต่ก็ได้ส่วนลดอยู่ดี

ที่มา - Uber

พนักงานบริษัทหลายท่านอาจจะคุ้นเคยกับแนวทางของการ "เก็บใบเสร็จ" แล้วมา "เขียนเบิก" สำหรับค่าเดินทาง ซึ่งในทางปฏิบัติอาจจะเป็นขั้นตอนที่ยุ่งยากพอสมควร เช่น แท็กซี่ทุกคันไม่ได้มีที่พิมพ์ใบเสร็จรับเงิน หรือในกรณีที่การเดินทางบางอันมีการเดินทางส่วนตัวแนบไปด้วย ซึ่งแนวทางหนึ่งที่ธุรกิจอย่างเช่นสายการบินนิยมใช้กัน คือการเปิดโอกาสให้พนักงานของบริษัทจองตั๋วเครื่องบิน แล้วส่งใบเรียกเก็บเงินไปที่บริษัทโดยตรง ทำให้ลดความยุ่งยากของขั้นตอนต่างๆ ไปได้อยู่มาก

ผู้ที่ใช้ Uber เป็นประจำอาจจะทราบว่า ในฐานะลูกค้า เราสามารถที่จะให้คะแนนกับคนขับรถได้ แต่ในทางกลับกัน คนขับรถเองก็สามารถที่จะให้คะแนนกับผู้โดยสารได้ด้วย ซึ่งผู้โดยสารจะไม่มีทางทราบได้ว่าคนขับรถคิดอย่างไรกับเราระหว่างที่นั่ง

อย่างไรก็ตาม มีผู้ใช้คนหนึ่งที่มีชื่อว่า Aaron Landy (@aalndy) เขียนสคริปต์ขึ้นมาเพื่อจะให้ผู้โดยสารรู้คะแนนที่คนขับให้กับเราได้เช่นเดียวกัน โดยจะต้องเข้าไปยัง Javascript Console และใส่โค้ดเข้าไปส่วนหนึ่ง หลังจากนั้นระบบจะแสดงผลคะแนนของผู้โดยสารให้

ทว่า หลังจากที่เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ทาง Uber ก็ทำการปิดการเรียกใช้ข้อมูลดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย

ดูเหมือนทางเฟซบุ๊กพยายามจะขยายการให้บริการของตัวเอง ให้ครอบคลุมแพลตฟอร์ม e-commerce แบบเดียวกับแอพแชทเชื้อสายเอเชียอย่าง WeChat หรือ LINE เมื่อมีรายงานว่าซีอีโอของเฟซบุ๊กได้เข้าพูดคุยกับซีอีโอของทาง Uber เพื่อหวังให้แอพ Messenger ของตนสามารถบริการเรียกรถ Uber ได้

ทั้งนี้ทาง Re/code วิเคราะห์ไว้ว่าปกติลูกค้า Uber มักจะเรียกใช้บริการอยู่เป็นประจำ และการควบรวมการให้บริการกับ Messenger จะเป็นการเพิ่มยอดผู้ใช้ของ Messenger ไปกลายๆ ซึ่งคล้ายๆ กับการให้บริการเรียกแท็กซี่ของทางฝั่ง WeChat ขณะเดียวกันฝั่ง Uber ก็อาจได้ลูกค้าที่มากขึ้นจากฐานผู้ใช้ Messenger ที่มีจำนวนค่อนข้างมากด้วยเช่นกัน

หลังจากที่เริ่มขยายกิจการในประเทศต่างๆ และได้รับความนิยมค่อนข้างมาก ตอนนี้ Uber ขยายการให้บริการของตัวเองขึ้นไปบนระบบปฏิบัติการวินโดวส์โฟนเรียบร้อยแล้ว โดยสามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้จาก Windows Phone Store

ก่อนหน้านี้ผู้ใช้วินโดวส์โฟนสามารถเรียกใช้งาน Uber ผ่านทางเว็บโมบายเท่านั้น ทำให้การขยายแพลตฟอร์มขึ้นไปบนวินโดวส์โฟนครั้งนี้อาจช่วยเพิ่มฐานลูกค้า รวมไปถึง ecosystem ของระบบปฏิบัติการวินโดวส์โฟนด้วยเช่นกัน

ที่มา - Uber Blog via CNET

ในช่วงที่ผ่านมาหลายท่านอาจจะทราบว่า Uber บริการรถแท็กซี่หรูที่เพิ่งเปิดตัวในบ้านเราไปได้ไม่นาน ต้องเจอสารพัดปัญหาและอุปสรรคในการให้บริการในหลากหลายเมือง ล่าสุดถึงคราวของกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ที่รัฐบาลท้องถิ่นของเมือง กำลังหามาตรการทุกวิถีทางในการหยุดการให้บริการของ Uber

รัฐบาลท้องถิ่นของกรุงโซลระบุว่า บริการของ Uber ผิดกฎหมายของเมือง โดยกฎหมายระบุว่าห้ามให้บริการแบบรถแท็กซี่กับรถส่วนตัวหรือรถที่เช่า ซึ่งก็เคยมีการจับและปรับมาก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งนี้ ทางรัฐบาลท้องถิ่นของกรุงโซลเตรียมมาตรการตอบโต้ โดยการสร้างแอพในลักษณะเดียวกัน สำหรับเรียกรกแท็กซี่เป็นการเฉพาะ

ที่ผ่านมา Uber ขยายพื้นที่การบริการไปยังเมืองอื่นๆ ตามประเทศต่างๆ มากขึ้นเรื่อยๆ ไม่เว้นแม้แต่ออสเตรเลีย อย่างไรก็ตาม Uber กลับต้องประสบปัญหาเมื่อเตรียมจะให้บริการในรัฐออสเตรเลียใต้ (South Australia) โดยติดกฏเกณฑ์ภายในรัฐดังกล่าว

ทางเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลท้องถิ่นของรัฐออสเตรเลียใต้ระบุกับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น The Advertiser ว่า การให้บริการของ Uber ในเมืองหลวงของมลรัฐอื่น (เช่น บริสเบน (ควีนส์แลนด์), ซิดนีย์ (นิวเซาส์เวลส์) และเมลเบิร์น (วิกตอเรีย)) อาจจะทำได้ตามกฏของแต่ละเมือง อย่างไรก็ตามสำหรับรัฐออสเตรเลียใต้ การดำเนินกิจการของ Uber ในลักษณะเดียวกับเมืองหลวงอื่นนั้นกระทำไม่ได้ เพราะขัดต่อกฏหมายท้องถิ่นของรัฐ และหาก Uber จะให้บริการจริง ก็อาจจะต้องเจอค่าปรับเป็นจำนวนมหาศาล

ที่ผ่านมาเราอาจได้ยินหรืออ่านข่าวเกี่ยวกับการประท้วงบริการอย่าง Uber อยู่เป็นระยะ (ข่าวเก่า) แต่เหตุการณ์ส่วนมากมักจะเกิดขึ้นอยู่ในภูมิภาคอย่างยุโรปแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ทว่า ที่กรุงไทเป สาธารณรัฐจีน (เรามักรู้จักกันในนาม 'ไต้หวัน') ก็มีการประท้วงเกิดขึ้นเช่นเดียวกัน

จากรายงานของ Tech In Asia เว็บไซต์ข่าวด้านเทคโนโลยีที่รายงานข่าวในภูมิภาคเอเชีย ระบุว่า เมื่อวานนี้ กลุ่มสหภาพของคนขับแท็กซี่รวมตัวกันประท้วง โดยใช้รถแท็กซี่ของตนเอง ปิดการจราจรรอบเมือง และมีผู้ประท้วงบางส่วนที่ไปล้อมอาคารสำนักงานของกระทรวงคมนาคมและการสื่อสาร เพื่อทำการเผาป้ายทะเบียนรถ เป็นสัญลักษณ์ของการประท้วง

Uber ผู้ให้บริการเรียกแท็กซี่ผ่านแอพ ได้ประกาศเพิ่มบริการในฮ่องกงและเมือง Saigon ประเทศเวียดนาม

สำหรับในฮ่องกงนั้น Uber จะคิดค่าบริการนาทีละ 2 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือกิโลเมตรละ 9.32 ดอลลาร์ฮ่องกง ไม่ร่วมค่าธรรมเนียมบริการครั้งละ 35 ดอลลาร์ฮ่องกง ส่วนค่าบริการในเวียดนามนั้นยังไม่มีรายละเอียดเรื่องตัวเลข โดยระหว่างนี้ Uber ให้ทดลองเรียกใช้งานได้ฟรีถึงสิ้นเดือนนี้

สำหรับบริการในเวียดนามนั้น Uber ได้ประกาศรับสมัครผู้ร่วมงานในตำแหน่งสำคัญอย่าง ผู้จัดการทั่วไป, ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ และผู้จัดการชุมชนด้วย

นอกจากจะมีบริการสนุกๆ ในการเช่าเครื่องบินส่วนตัวช่วงงานเทศกาลภาพยนตร์ที่เมืองคานส์แล้ว มาตอนนี้ Uber ได้ร่วมโปรโมทภาพยนตร์ Transformers ตอนล่าสุด (Age of Extinction) โดยเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ที่อยู่ในเมือง Dallas, Phoenix และ Los Angeles ได้เข้าไปนั่งรถ Optimus Prime

วิธีการก็ไม่แตกต่างไปจากการเรียก Uber ตามปกติ เพียงแต่เลื่อนประเภทรถไปเป็น Autobots ทั้งนี้ในแต่ละเมืองจะมีเวลาเพียง 6 ชั่วโมงในการเรียกเท่านั้น และมีเพียงคันเดียว ดังนั้นอาจจะเป็นเรื่องยากสักหน่อยที่จะเรียก Optimus Prime ให้มารับได้ แต่ถ้าโชคดี ก็จะได้นั่ง แต่จำกัดเวลาเพียง 15 นาทีเท่านั้น

ผู้อ่าน Blognone หลายท่านอาจจะคุ้นเคยกับ Uber ที่เป็นแพลตฟอร์มสำหรับไว้เรียกบริการรถหรู ซึ่งในจีนก็มีบริการลักษณะแบบเดียวกัน โดยผู้ให้บริการที่มีชื่อว่า Yongche.com ซึ่งปัจจุบันให้บริการมากกว่า 57 เมืองในประเทศจีนและฮ่องกง และถือเป็นผู้เล่นรายสำคัญสำหรับตลาดจีน โดยในปัจจุบัน Yongche.com ยังไม่เคยขยายกิจการออกไปนอกประเทศจีนแต่อย่างใด

วงการไอทีต่างประเทศมีคำว่า "serial entrepreneur" หรือผู้ประกอบการที่สามารถสร้างบริษัทใหม่ได้อยู่เรื่อยๆ

Garrett Camp ผู้ร่วมก่อตั้ง Uber และ StumbleUpon ที่ออกมาตั้งบริษัทใหม่ชื่อ Expa โดยดึงเอา Naveen Selvadurai ผู้ร่วมก่อตั้ง Foursquare (ลาออกปี 2012 เพื่อไปทำสิ่งใหม่ๆ) มาร่วมทีม ล่าสุดเขาเริ่มโชว์ทีเซอร์ของบริษัทใหม่ชื่อ Reserve ซึ่งน่าจะเป็นบริการด้านการจองร้านอาหารแล้ว ตอนนี้หน้าเว็บของ Reserve แสดงข้อความว่า "A Better Dining Experience is Coming"

ต่อจากข่าว คนขับรถแท็กซี่ในยุโรปเตรียมปิดถนนประท้วง Uber เมื่อวานนี้รถแท็กซี่ประมาณ 12,000 คันในลอนดอนก็ออกมา "ชุมนุมบนถนน" ประท้วงที่จัตุรัส Trafalgar Square เวลาบ่ายสองโมง (ตามเวลาท้องถิ่น) ตามที่สัญญาไว้ วิธีการประท้วงของคนขับแท็กซี่ใช้วิธี "ขับช้าๆ" เพื่อให้การจราจรติดขัด บีบแตร และตะโกนชื่อ "Boris" ซึ่งหมายถึง Boris Johnson นายกเทศมนตรีของนครลอนดอน

วันนี้คนขับรถแท็กซี่ในกรุงลอนดอน, ปารีส และมาดริดได้ออกมาปิดถนนประท้วง Uber บริการเรียกรถแท็กซี่ผ่านมือถือ ในขณะที่หน่วยงานขนส่งของกรุงลอนดอน (TfL) ได้ออกมาบอกว่าการประท้วงของคนขับแท็กซี่ในครั้งนี้ “ไร้ประโยชน์” เพราะ Uber ไม่ได้ละเมิดกฎของ TfL แต่อย่างใด

กลุ่มคนขับรถแท็กซี่ในกรุงลอนดอน บอกว่าการประท้วงครั้งนี้ไม่ใช่การประท้วง Uber แต่เป็นการประท้วง TfL ที่ยอมให้ Uber เปิดให้บริการได้ เพราะตามกฎหมายเฉพาะรถแท็กซี่มิเตอร์ของกรุงลอนดอน (ที่เป็นสีดำ) สามารถคิดค่าบริการตามราคาบนมิเตอร์ได้ และสมาร์ทโฟนที่คนขับรถ Uber ใช้ก็ไม่ต่างอะไรกับมิเตอร์

ที่งาน Code Conference เมื่อวานนี้ Travis Kalanik หนึ่งในผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Uber ได้พูดถึงอนาคตของธุรกิจว่า วันหนึ่ง Uber คงจะให้บริการโดยใช้รถยนต์แบบไร้คนขับทั้งหมด โดย Kalanik ได้แสดงทัศนะนี้ ให้หลังจาก Google โชว์รถไร้คนขับ รุ่นต้นแบบไปไม่นาน

ซีอีโอของ Uber ได้ให้เหตุผลว่า ทุกวันนี้ที่ราคาของ Uber ค่อนข้างสูง เพราะลูกค้าไม่ได้จ่ายเฉพาะค่าบริการรถ แต่จ่ายค่าคนขับรถด้วย ฉะนั้นหากไม่มีคนขับรถ ค่าบริการของ Uber ก็จะถูกลง และจะถูกกว่าการซื้อรถมาขับเองเสียด้วย เขายังบอกอีกว่า ถึงแม้วันที่ Uber จะใช้รถยนต์ไร้ขับทั้งหมดจะยังอีกไกล แต่ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นไม่ได้ เราต้องปรับตัวหมุนตามโลกไปให้ได้

Uber ผู้ให้บริการรถรับส่งในหลายประเทศ มีมูลค่าประเมินพุ่งทะยานสูงถึง 17 พันล้านดอลลาร์

ไม่ถึง 1 ปีก่อน ว่ากันว่ามูลค่าของ Uber นั้นอยู่ที่เกือบ 1 พันล้านดอลลาร์ แต่หลังจากที่ธุรกิจเดินหน้าขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการระดมทุน จึงทำให้มูลค่าของบริษัทก็เพิ่มมากขึ้นตามลำดับ จนเมื่อสัปดาห์ก่อนมูลค่าของบริษัทก็กระโดดรวดเดียวจาก 10 พันล้านดอลลาร์ เป็น 12 พันล้านดอลลาร์

กระทั่งในการระดมทุนครั้งล่าสุด ซึ่งมีนักลงทุนจำนวนมากสนใจลงทุนกับ Uber ยิ่งทำให้มูลค่าประเมินของบริษัทเพิ่มสูงขึ้นมาอีกขั้นจนในขณะนี้อยู่ที่ 17 พันล้านดอลลาร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แนวทางของ Uber ที่กำลังขยายตัวเองเป็นแพลตฟอร์มสำหรับที่จะทำให้ผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการมาเจอกัน กำลังเริ่มไปถึงของสิ่งใหม่ ที่แม้แต่คนธรรมดาอย่างเราอาจจะคาดไม่ถึง เพราะล่าสุด Uber ทดลองเปิดบริการ UberJET บริการเรียกเครื่องบินส่วนตัวตามสั่ง ให้ใช้ในช่วงเทศกาลภาพยนตร์คานส์ (The Cannes Flim Festival) ที่ฝรั่งเศส ตั้งแต่วันที่ 14-24 พฤษภาคม นี้

อิทธิพลของเทคโนโลยีในปัจจุบันที่เข้าไปสู่พรมแดนอุตสาหกรรมอื่นๆ นอกไอที ทำให้วิถีชีวิตของผู้คนเปลี่ยนแปลง สำหรับแวดวงการขนส่งสาธารณะ ก็มีบริการหน้าใหม่อย่าง Uber ที่เปลี่ยนแปลงกระบวนการเรียกรถสาธารณะ (เช่น แท็กซี่) โดยใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย

ที่ผ่านมา การจ่ายค่าบริการของ Uber จะจ่ายผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือ PayPal อย่างไรก็ดี Uber มองว่าในหลายๆ ประเทศที่ไปเปิดให้บริการ Uber สูญเสียโอกาสที่จะให้บริการลูกค้าที่ไม่มีบัตรเครดิตไป จึงตัดสินใจจะเปิดให้จ่ายค่าบริการเป็นเงินสดได้ แต่จะพิจารณาเป็นรายประเทศไป ไม่ใช่ทุกประเทศ

Mike Brown ผู้จัดการทั่วไปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ Uber ให้สัมภาษณ์กับ The Next Web ว่า Uber ตัดสินใจที่จะปรับตัวเข้าหาลูกค้า โดยประเมินจากแต่ละประเทศที่ไปเปิดให้บริการ เพื่อทำให้ทุกคนสามารถใช้บริการ Uber ได้

ที่มา - The Next Web