บิล เกตส์ ประกาศยกทรัพย์สินส่วนตัวให้มูลนิธิ Bill & Melinda Gates Foundation อีก 2 หมื่นล้านดอลลาร์ (7.3 แสนล้านบาท) ในเดือนนี้ เพื่อให้มูลนิธิมีกำลังเงินสนับสนุนโครงการต่างๆ ให้มากขึ้นกว่าเดิม
เกตส์บอกว่าโลกตอนนี้มีปัญหาเกิดขึ้นหลายอย่าง ทั้งโรคระบาด สงครามยูเครน การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ และประเด็นเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ-ความขัดแย้งเรื่องการทำแท้งในสหรัฐ เขาจึงอยากแก้ปัญหานี้โดยการลงทุนกับโครงการของมูลนิธิให้มากขึ้น ตอนนี้มูลนิธิจ่ายเงินปีละ 6 พันล้านดอลลาร์ และตั้งเป้าเพิ่มเป็นปีละ 9 พันล้านดอลลาร์ในปี 2026 จึงเป็นเหตุผลที่เขาบริจาคเงินก้อนใหญ่เข้ามูลนิธิ
William H. Gates Sr. (หรือเรียกสั้นๆ Bill Gates Sr.) พ่อของบิล เกตส์ เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 94 ปี
Bill Gates Sr. ไม่ได้เป็นเพียงแค่พ่อของมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก เพราะมีบทบาทในมูลนิธิ Bill and Melinda Gates Foundation ของลูกชาย และองค์กรการกุศลอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก
บิล เกตส์ เล่าว่าปรึกษาพ่อเสมอในเรื่องธุรกิจ โดยเฉพาะประเด็นกฎหมายเนื่องจากพ่อเป็นทนายความ ซึ่งพ่อของเขาก็ยังให้คำปรึกษาแบบเดียวกันกับ Howard Schultz อดีตซีอีโอของ Starbucks ด้วยเช่นกัน
Jeff Bezos ซีอีโอของ Amazon ประกาศตั้งกองทุน Bezos Day One Fund มีเงินทุนตั้งต้น 2 พันล้านดอลลาร์ มีภารกิจ 2 ด้าน แยกเป็นสองกองทุนย่อยคือ
Bezos มีแนวคิดเรื่อง Day 1 มายาวนาน โดยเขามองว่าปัจจุบันเรายังอยู่ในช่วงเริ่มต้น (Day 1) ของอินเทอร์เน็ตเท่านั้น เขาจึงผลักดันการมองโลกแบบ Day 1 ที่มองทุกอย่างในระยะยาวเสมอ และสะท้อนมาสู่นโยบายของ Amazon ที่เน้นการลงทุนระยะยาว เห็นผลช้า แต่มีผลกระทบสูงจริงๆ
มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก Bill Gates บริจาคหุ้นไมโครซอฟท์ 64 ล้านหุ้น มูลค่าราว 4.6 พันล้านดอลลาร์ให้กับมูลนิธิ Bill & Melinda Gates ที่เขาเริ่มบริจาคตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา
Gates และภรรยา ร่วมกับ Warren Buffett ร่วมกันจัดตั้งโครงการ The Giving Pledge ขึ้นในเดือนสิงหาคม ปี 2010 เพื่อให้มหาเศรษฐีทั่วโลกร่วมกันสละทรัพย์สินในสัดส่วนมากกว่า 50% ตลอดช่วงชีวิตของพวกเขา เพื่อบริจาคเป็นการกุศลให้แก่สังคม เพื่อทำให้โลกน่าอยู่ขึ้น ปัจจุบันมีคนร่ำรวยราว 170 คน จาก 21 ประเทศทั่วโลก มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไปถึง 90 ปีเข้าร่วมโครงการนี้
Apple Pay เพิ่มฟีเจอร์สำหรับบริจาคเงินให้องค์กรการกุศลต่างๆ ได้ง่ายเพียงปุ่มเดียว (Instant Donations) เพียงแค่ใส่จำนวนเงินและกดปุ่ม "Donate" ก็เสร็จเรียบร้อย
ฟีเจอร์นี้สามารถใช้ได้ทั้งผ่านเว็บและผ่านแอพ ส่วนองค์กรที่เข้าร่วมก็มีมากมาย เช่น American Red Cross, American Heart Association, (RED), Save the Children, UNICEF, WWF เป็นต้น รายชื่อทั้งหมดดูได้จากที่มา
ที่มา - Apple
เมื่อปลายปีที่แล้ว Mark Zuckerberg ประกาศยกหุ้นส่วนใหญ่ของเขาให้องค์กรการกุศล Chan Zuckerberg Initiative
ล่าสุดเมื่อวานนี้ ในเอกสารที่เปิดเผยต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ (SEC) ระบุว่า Zuckerberg ขายหุ้น Facebook ชุดแรกออกมาแล้ว 760,000 หุ้น คิดเป็นเงินเกือบ 95 ล้านดอลลาร์ โดยทยอยขายระหว่างเดือนพฤษภาคม-สิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อนำเงินสดที่ได้ไปใช้ในงานขององค์กรการกุศล แต่ Zuckerberg ก็ยังไม่ได้ออกมาแถลงข้อมูลว่าเงินก้อนนี้จะนำไปใช้อย่างไรบ้าง
ที่มา - USA Today
มูลนิธิ Bill และ Melinda Gates บริจาคเงิน 80 ล้านเหรียญฯ (ประมาณ 2,800 ล้านบาท) เพื่อการทำงานด้านความเท่าเทียมด้านรายได้ระหว่างเพศ โดย Melinda Gates ประกาศแผนการ 3 ปี ในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้หญิงและการทำงานทั้งเรื่อง เวลาการทำงาน รายได้ งานที่ทำไปแล้วแต่ไม่ได้รับค้าจ้าง
Melinda Gates กล่าวว่า "เราไม่สามารถปิดช่องว่างทางเพศได้ถ้าเรายังไม่ได้ปิดช่องว่างทางข้อมูล ถ้าการสนับสนุนผู้หญิงและเด็กคือการให้สิทธิ์ให้เสียง การรวบรวมข้อมูลคือการทำสิ่งที่เป็นไปได้ยากให้เป็นไปได้" เธอยังกล่าวเพิ่มเติมถึงวงการเทคโนโลยีอีกว่า เป็นงานที่ทำรายได้มากที่สุดในสหรัฐฯ ดังนั้นธุรกิจประเภทนี้จึงควรเปิดกว้างแก่ผู้หญิงด้วย
Microsoft Philanthropies หน่วยงานการกุศลของไมโครซอฟท์ที่เพิ่งก่อตั้งเมื่อปลายปี เปิดตัวมาไม่นานก็จู่โจมด้วยการบริจาคเครดิต "บริการคลาวด์" ของไมโครซอฟท์เอง (เช่น Azure, Power BI, CRM Online) ให้องค์กรไม่หวังผลกำไรใช้งานฟรี คิดเป็นมูลค่ารวม 1 พันล้านดอลลาร์ในอีก 3 ปีข้างหน้า เป้าหมายคือเข้าถึง 70,000 องค์กร
นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ยังขยายโครงการ Microsoft Azure for Research หรือการให้เครดิต Azure ฟรีกับหน่วยงานด้านวิจัยอีก 50% จากของเดิม (ปัจจุบันโครงการนี้มีโครงการวิจัยเข้าร่วม 600 โครงการ จะเพิ่มเป็น 900 โครงการ) และสุดท้ายคือไมโครซอฟท์จะช่วยลงทุนด้านการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ห่างไกลอีก 20 โครงการใน 15 ประเทศทั่วโลกด้วย
ไมโครซอฟท์จัดองค์กรใหม่ นำงานด้านการกุศลมารวมไว้ภายใต้องค์เดียวในชื่อ Microsoft Philanthropies มีโครงสร้างการบริหารที่ชัดเจนเหมือนบริษัทลูกอีกราย มีผู้บริหาร Mary Snapp มานั่งเป็นซีอีโอ และขึ้นตรงกับ Brad Smith ประธานบริษัทไมโครซอฟท์
ภารกิจของ Microsoft Philanthropies คือการนำเทคโนโลยีมาช่วยลดช่องว่างของการเข้าถึง ทั้งด้านสังคม การศึกษา คุณภาพชีวิต ฯลฯ
กระแสของการรณรงค์เทถังน้ำแข็งในเมืองไทยเพื่อบริจาคให้กับองค์กรการกุศล กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุด Uber ประเทศไทยก็เข้าร่วมกับการรณรงค์ดังกล่าวแล้ว
โดยทาง Uber ประเทศไทยจะให้บริการสั่งเรียกถังน้ำแข็งผ่านแอพ Uber พร้อมกับเสื้อยืดและผ้าขนหนู และทีมงานที่จะช่วยถ่ายคลิปวิดีโอถึงที่ โดยมีข้อแลกเปลี่ยนว่า ผู้ที่ใช้บริการดังกล่าว จะต้องบริจาคเงินผ่านแอพของ Uber โดยจะบริจาคให้กับกองทุนสนับสนุน เครื่องช่วยหายใจในผู้ป่วย ALS ซึ่งอยู่ภายใต้มูลนิธิสนับสนุนสถาบันประสาทวิทยา กระทรวงสาธารณสุข โดยทาง Uber แนะนำให้บริจาคอย่างน้อย 300 บาท และผู้บริจาคจะสามารถขอใบกำกับการบริจาคเพื่อไปขอเป็นส่วนลดหย่อนภาษีได้
เทศกาลเทน้ำแข็งราดตัวยังระบาดต่อไปเรื่อยๆ คราวนี้เป็นคิวของสองคู่หูผู้ก่อตั้งกูเกิล Larry Page และ Sergey Brin บ้างครับ
Larry Page ถูกแท็กมาจาก Satya Nadella ซีอีโอไมโครซอฟท์ แต่เขาไม่ยอมถูกราดคนเดียว เลยนำคู่หู Sergey Brin มาถูกราดพร้อมกันด้วย
ในวิดีโอไม่ได้บอกว่าสองผู้ก่อตั้งกูเกิลส่งหน้าที่ให้ใครต่อ แต่โดยรวมแล้ว ตอนนี้ซีอีโอของกูเกิล แอปเปิล ไมโครซอฟท์ เฟซบุ๊ก ถูกราดน้ำกันครบหมดแล้ว
จากข่าว เทศกาลเทน้ำแข็งระบาด Satya, Phil Schiller เทแล้ว Larry Page, Tim Cook เป็นเป้าหมายต่อไป
ล่าสุด Tim Cook ซีอีโอของแอปเปิล รับคำท้าของลูกน้อง Phil Schiller โดยเทน้ำใส่น้ำแข็งราดตัวเพื่อสนับสนุนแคมเปญบริจาคเงินเพื่อต่อสู้โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (ALS)
ตามธรรมเนียมการราดน้ำแข็งใส่ตัวจะต้องส่งมอบหน้าที่ให้คนอื่นๆ ต่อไป (เพื่อความเป็นไวรัล) โดย Cook ส่งต่อให้ซีอีโอของดิสนีย์ Bob Iger, นักดนตรี Michael Franti และคนสุดท้ายคือศิลปินดัง Dr. Dre ที่กลายมาเป็นพนักงานของแอปเปิลหลังการซื้อกิจการ Beats
จากข่าว Mark Zuckerberg ยอมเอาน้ำเย็นรดตัว และท้า Bill Gates ให้ทำแบบเดียวกัน ตอนนี้การเทน้ำแข็งราดตัวเองเพื่อสนับสนุนแคมเปญระดมทุนเพื่อต่อสู้โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (ALS) ระบาดไปทั่ววงการไอทีอเมริกาแล้ว
ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทใหญ่ที่ลงมาเล่นแคมเปญนี้มีทั้ง Satya Nadella ซีอีโอไมโครซอฟท์ (แท็ก Jeff Bezos และ Larry Page) กับ Phil Schiller ผู้บริหารฝ่ายการตลาดของแอปเปิล (แท็กเจ้านายตัวเอง Tim Cook และนักแสดง Chris O'Donnell)
ต้องรอดูว่าท่านซีอีโอทั้งสามแห่งกูเกิล แอปเปิล อเมซอน จะร่วมมาเล่นแคมเปญนี้ด้วยหรือไม่ครับ
Pornhub เว็บไซต์ให้บริการสตรีมมิ่งหนังโป๊ชื่อดัง ได้จัดแคมเปญ "Save the Boobs" โดยทางเว็บไซต์จะมีการบริจาคเงินเป็นจำนวน 1 เซ็นต์ให้กับศูนย์วิจัยมะเร็งเต้านมทุกๆ 30 ยอดวิวของวีดีโอในหมวด "อกใหญ่" กับ "อกเล็ก" แปลว่ายิ่งเราเข้าชมวีดีโอในสองหมวดนี้มากเท่าไหร่ ยอดบริจาคก็จะยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ครับ
ทีนี้ก็พูดกันได้เต็มปากแล้วว่าเราดูหนังโป๊เพื่อช่วยโลกจริงๆ ครับ
ที่มา - Gizmodo
ไมโครซอฟท์เริ่มโครงการเพื่อสังคม YouthSpark โดยมีเป้าหมายคือช่วยเหลือเยาวชนทั่วโลกกว่า 300 ล้านคนที่ยังขาดโอกาสด้านการศึกษา โอกาสทางธุรกิจ และโอกาสในชีวิตด้านอื่นๆ
YouthSpark เป็นชื่อของแนวทางแบบกว้างๆ ที่ไมโครซอฟท์จะลงมาดันเต็มตัว มันประกอบด้วยโครงการย่อยๆ มากมาย ซึ่งรวมถึงโครงการอย่าง Imagine Cup, DreamSpark และ BizSpark ที่เคยทำมาก่อนแล้วด้วย
โครงการย่อยที่ประกาศเพิ่มได้แก่
กูเกิลนั้นมี Google.org สำหรับดูแลงานเพื่อสังคมหลายอย่าง และในปี 2011 ที่กำลังจะผ่านไป Google.org ก็ทำงานหลายอย่างที่เป็นประโยชน์ เช่น ด้านการศึกษาของเด็กผู้หญิงในประเทศต่างๆ หรือการลงทุนในโครงการที่ใช้เทคโนโลยีมาแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน
แต่ปีนี้ งานที่น่าสนใจของ Google.org คือ "การเลิกทาส"
ถึงแม้คำว่า "ทาส" จะดูโบราณและห่างไกลจากความเป็นจริง แต่เอาจริงแล้ว โลกของเรายังมีทาสอยู่ถึง 27 ล้านคน ซึ่งกูเกิลก็บริจาครายได้จำนวน 11.5 ล้านดอลลาร์ให้องค์กรภาคสังคมหลายแห่งนำไปไถ่ตัวทาสให้เป็นอิสระได้ 12,000 คน