ตอนนี้ผู้ใช้งาน Google Maps บน Android Auto สามารถเห็นการรายงานเหตุบนท้องถนน เช่น ด่านตรวจจับความเร็วของตำรวจ อุบัติเหตุ หรือสิ่งกีดขวาง จาก Waze (ซึ่ง Google เคยซื้อกิจการมาเมื่อหลายปีก่อน) ได้แล้ว

นอกจากนี้ Google ยังอัปเดตให้การรายงานเหตุบนท้องถนนของ Google Maps บน Android Auto ทำได้ง่ายขึ้น และวางแผนที่จะนำฟีเจอร์นี้ ไปใช้กับ Apple CarPlay ด้วย

Google Maps กำลังอัปเดตฟีเจอร์ใหม่เพื่อให้ระบบนำทางมีความแม่นยำและสะดวกต่อผู้ใช้มากขึ้น เช่น การแสดงเส้นนำทางสีฟ้าบ่งบอกเลนที่ต้องขับชัดเจน พร้อมแสดงทางม้าลาย ป้ายจราจร โดยจะใช้ได้ใน 30 เมืองในสหรัฐฯ ทั้งบน Android และ iOS

Google Maps ยังเพิ่มฟีเจอร์ให้คำแนะนำสถานที่ปลายทาง โดยจะแนะนำข้อมูลของจุดหมายปลายทางทั้งทางเข้าอาคาร ลานจอดรถ และเส้นทางเดินไปยังประตูด้านหน้า และยังเพิ่มระบบรายงานสภาพอากาศที่อาจส่งผลต่อการขับขี่

นอกจากนี้ Google ยังเพิ่มฟีเจอร์ AI เพื่อช่วยค้นหาสถานที่ใหม่ๆ และทดสอบการรายงานเหตุการณ์ด้วยเสียงผ่าน Waze อีกด้วย

กูเกิลอัพเดตบริการด้านแผนที่ทั้งสามตัว ได้แก่ Google Maps, Google Earth, และ Waze ให้สามารถพูดคุยเป็นภาษาธรรมชาติผ่านทาง Gemini

• Google Maps: Gemini จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถคุยกับ Google Maps ได้เหมือนคุยกับคนมากขึ้น แทนที่จะเป็นการค้นหาตามปกติ เช่น ขออาหารพื้นเมืองสำหรับมื้อเที่ยง, หรือขอสถานที่เหมาะกับวันฝนตก
• Google Earth: สามารถค้นคว้าได้ละเอียดขึ้น เช่น ขอพื้นที่ที่มีสถานีชาร์จไฟฟ้าต่อประชากรน้อยที่สุด
• Waze: รองรับการรายงานเหตุบนท้องถนนอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ต้องกดปุ่มรายงานเหตุก่อน จากนั้นสามารถพูดว่าพบอะไรบนท้องถนน ทำให้รายงานได้ง่ายขึ้นมาก ทาง Waze ระบุว่าที่ผ่านมามีการแชร์ข้อมูลการรายงานเหล่านี้ไปยังหน่วยงานท้องถิ่นด้วย

กูเกิลเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้แอพนำทางทั้ง Google Maps และ Waze

ฝั่ง Google Maps ได้ฟีเจอร์เน้นสีของสถานที่ปลายทางให้เด่นชัดขึ้น (จากภาพตัวอย่างจะเป็นสีส้มๆ ให้ต่างจากอาคารอื่นที่เป็นสีเทา) พร้อมทั้งแสดงทิศทางของประตูเข้าหรือลานจอดรถของสถานที่นั้นๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ เวลาเดินทางไปยังสถานที่ที่ไม่เคยไปมาก่อน โดยเฉพาะอาคารสถานที่ขนาดใหญ่ที่มีทางเข้าออกหลายทาง

ฟีเจอร์นี้ใช้ได้ทั้งบน Android, iOS, cars with Google Built-in, Android Auto, Apple CarPlay โดยจะทยอยปล่อยในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

Google Maps เวอร์ชัน Android เริ่มรองรับการใช้งาน Bluetooth Beacon สำหรับนำทางภายในอุโมงค์ ซึ่งมีข้อจำกัดเรื่องพิกัด GPS

ข้อจำกัดเรื่องสัญญาณ GPS ทำให้ Waze ซึ่งเป็นบริษัทลูกของกูเกิลที่ทำระบบแผนที่นำทางเหมือนกัน มีโครงกาาร Waze Beacon เป็นอุปกรณ์แปะในอุโมงค์เพื่อบอกเส้นทางที่ซับซ้อน (เช่น มีทางแยกในอุโมงค์) โดยเจรจากับเมืองใหญ่หลายแห่งทั่วโลก เช่น นิวยอร์ก ชิคาโก ปารีส ซิดนีย์ บอสตัน ให้นำไปติดตั้งในอุโมงค์

Waze แอปแนะนำเส้นทางจราจรที่มีกูเกิลเป็นเจ้าของ ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจคือ Crash history alerts โดยจะเตือนผู้ใช้งานเมื่อเข้าสู่เส้นทางซึ่งเคยมีรายงานการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อให้เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น ซึ่ง Waze บอกว่าสถิติในแอปนั้นผู้ใช้งานรายงานการเกิดอุบัติเหตุตามถนนสายต่าง ๆ ทั่วโลกทุก 2 วินาที

อย่างไรก็ตามเพื่อให้ผู้ขับขี่ไม่ถูกรบกวนจากการแจ้งเตือนว่าถนนเส้นนั้นเกิดอุบัติเหตุมากเกินไป Waze จะไม่แสดงการเตือนหากถนนเส้นนั้นผู้ใช้งานใช้เดินทางเป็นปกติ แต่จะเตือนในเส้นทางใหม่หรือเส้นทางที่ไม่ค่อยได้ไป

ฟีเจอร์ Crash history alerts มีในแอปเวอร์ชันล่าสุดสำหรับ iOS และ Android

กูเกิลปิดการแสดงข้อมูลสภาพการจราจร มีผลทั้ง Google Maps และ Waze ในพื้นที่ทั้งอิสราเอล ซึ่งขณะนี้มีสงครามอิสราเอล-ฮามาสในหลายพื้นที่ของประเทศ

อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าบางพื้นที่ในอิสราเอล เช่น Tel Aviv ยังสามารถใช้งาน Waze ได้ แต่ Google Maps เลือกปิดระบบแสดงข้อมูลสภาพการจราจรมีผลกับทั้งประเทศ ขณะที่ระดับผู้ใช้งานทั่วไปยังสามารถใช้ฟังก์ชันการแนะนำเส้นทางจราจรได้

แนวทางดังกล่าว Google Maps เคยใช้มาแล้วเมื่อปีที่แล้วกับพื้นที่ยูเครน

ที่มา: 9to5Google

ช่วงธันวาคมปีที่แล้ว Google ได้ประกาศรวมทีมงานของ Waze แอปบริการแนะนำเส้นทาง เข้ากับทีม Geo ของ Google ที่ดูแลบริการ Google Maps Google Earth และ Street View โดยไม่มีนโยบายการปลดพนักงาน แต่ล่าสุด Google ปรับเปลี่ยนกลยุทธซึ่งส่งผลต่อการปลดพนักงานที่ Waze

เมื่อวันอังคาร Chris Phillips รองประธานและผู้จัดการทั่วไปของทีม Geo ได้แจ้งกับพนักงานทางอีเมล เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงด้านกลยุทธของ Waze ที่จะเปลี่ยนไปใช้ระบบจัดการโฆษณา Global Business Organization (GBO) ซึ่งเป็นตัวเดียวกับ Google Maps ทำให้ทีม Waze ต้องปลดพนักงานที่เกี่ยวข้องกับการสร้างรายได้ของ Waze เช่น เซลส์, มาร์เก็ตติ้งหรือฝ่ายวิเคราะห์

กูเกิลได้ปรับโครงสร้างองค์กร โดยรวมฝ่ายที่รับผิดชอบ Waze แอปแนะนำเส้นทาง ที่มีพนักงานอยู่ราว 500 คน เข้ากับทีม Geo ของกูเกิล ซึ่งทีมนี้ดูแลผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับพิกัดแผนที่ทั้ง Google Maps, Google Earth และ Street View

รายงานจาก The Wall Street Journal บอกว่าสาเหตุของการปรับโครงสร้างนี้ มาจากแรงกดดันเรื่องต้นทุนค่าใช้จ่าย การรวมทีมจะช่วยลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้

ผลจากการรวมทีม Waze ทำให้ Neha Parikh ซึ่งปัจจุบันเป็นซีอีโอของ Waze จะลาออกจากตำแหน่ง อย่างไรก็ตามกูเกิลบอกว่า Waze จะยังให้บริการเป็นแอปแยกต่อไป และไม่มีการปลดพนักงาน Waze ออก

Waze แอปนำทางภายใต้ Google เตรียมยกเลิกบริการคาร์พูลในเดือนหน้า โดยให้เหตุผลเรื่องพฤติกรรมการเดินทางเปลี่ยนไปหลังการระบาดของ COVID-19

บริการคาร์พูลของ Waze คือบริการที่จะจับคู่คนขับรถและคนที่ต้องการโดยสารไปทางเดียวกันมาพบกันผ่านแพลตฟอร์ม เพื่อช่วยประหยัดเงินและประหยัดพลังงาน รวมถึงลดปริมาณรถยนต์บนถนนในช่วงเวลาเร่งด่วน บริการนี้เปิดมาตั้งแต่ปี 2016 ที่ซานฟรานซิสโก ก่อนจะขยายไปยังเมืองอื่นและประเทศอื่น และตอนหลังจึงแยกคาร์พูลออกมาเป็นแอปในอีกสองปีถัดมา

หลังจากเชื่อมกับ Google Assistant และ Spotify ไปแล้ว ล่าสุด Waze แอปนำทางแบบ crowd-sourcing ประกาศความร่วมมือกับ Amazon รองรับ Audible ในตัวแอปแล้ว

ผู้ใช้งานที่เป็นสมาชิก Audible อยู่แล้ว สามารถเลือก Audible ในรายการตัวเลือกแอปเล่นเพลงได้เลยเหมือนกับเวลาเลือก Spotify ในทางตรงกันข้าม หากเปิดแอป Audible ก็จะได้รับการแจ้งเตือนทิศทางเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาจาก Waze ในแอปเช่นกัน

ที่มา - Audible

Waze บริการแผนที่และนำทางในเครือกูเกิล เพิ่มความสามารถใหม่ สามารถวางแผนการเดินทางได้จากฟีเจอร์ Live Map บนเว็บ และกดบันทึกไปยังแอปมือถือได้โดยการคลิก Save to app

Waze บริการแผนที่และนำทางของ Google เพิ่มข้อมูลเกี่ยวกับ COVID-19 ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ เช่น เส้นทางไหนปิด ร้านอาหารไหนเปิดและมีทางเลือกให้ drive-thru เพื่อซื้ออาหารได้ไม่ต้องลงจากรถ หรือเปิดให้คนมาซื้อนำกลับบ้านได้

นอกจากนี้ Waze ยังได้ร่วมมือกับองค์กร WhyHunger และ No Kid Hungry เพื่อระบุจุดแจกจ่ายอาหารในสหรัฐฯกว่า 30,000 จุด และสร้างหน้าเพจให้องค์กร หน่วยงานรัฐที่มีข้อมูลสำคัญหรือมีของอยากจะแจกจ่าย หรือมีจุดตรวจโรค ให้เข้ามาอัพโหลดโลเคชั่นได้ เพื่อที่จะได้แสดงในแอปแผนที่ Waze ต่อไป

Google ประกาศเพิ่มระบบผู้ช่วยส่วนตัว Google Assistant ลงแอปนำทาง Waze เพื่อให้ช่วยทำงานหลาย ๆ อย่างด้วยคำสั่งเสียงในขณะที่ผู้ใช้กำลังขับรถอยู่

คำสั่ง Google Assistant บน Waze นั้นมีตั้งแต่คำสั่งทั่ว ๆ ไปของ Assistant อย่างเช่นสั่งเปิดเพลง, เล่น podcast ไปจนถึงคำสั่งเฉพาะเกี่ยวกับการจราจรหรือเส้นทางบน Waze เช่น สั่งให้คำนวณเส้นทางไปยังจุดหมายปลายทางแบบเลี่ยงทางด่วน หรือรายงานสภาพการจราจรไปยัง Waze ซึ่งเป็นฟีเจอร์สำคัญเพราะ Waze มีจุดเด่นเรื่องการรายงานสภาพการจราจรแบบ crowdsourcing

Google Assistant บน Waze ยังใช้งานได้เฉพาะภาษาอังกฤษบนสมาร์ทโฟน Android และยังใช้ได้เฉพาะในสหรัฐฯ เท่านั้น

หนึ่งในความแตกต่างของแอปแผนที่นำทางอย่าง Waze กับ Google Maps คือ Waze เปิดให้ผู้ใช้ช่วยกันรายงานจุดที่เกิดอุบัติเหตุ, กล้องจับความเร็วหรือด่านตำรวจลงบนแผนที่ เพื่อแชร์ข้อมูลกับผู้ใช้คนอื่นๆ บนแพลตฟอร์ม

ทว่าฟีเจอร์ดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจให้กับตำรวจนิวยอร์ค (NYPD) ที่เพิ่งรู้เรื่องนี้และส่งจดหมายเปิดผนึกไปยัง Google เพื่อให้นำฟีเจอร์ดังกล่าวลงจากแพลตฟอร์ม เพราะมองว่าเป็นการขัดขวางการตั้งด่านของตำรวจ การโพสต์จุดตั้งด่านตำรวจจะเกิดประโยชน์กับอาชญากรและคนเมาแล้วขับเป็นหลักเท่านั้น ซึ่งจะสร้างความเสียหายและความเสี่ยงให้กับตัวคนขับรถและสาธารณะโดยรวมมากกว่า

ณ ตอนนี้ทั้ง Google และ Waze ยังไม่มีแถลงการณ์ตอบกลับ NYPD แต่อย่างใด

Los Angeles เป็นเมืองใหญ่ในสหรัฐอเมริกาและมีประวัติศาสตร์การก่อตัวของชุมชนเมืองมานานหลายร้อยปี ซึ่ง Baxter Street ก็เป็นหนึ่งในถนนเส้นเก่าแก่ที่ตัดขึ้นใช้งานครั้งแรกตั้งแต่ปี 1872 แม้จะผ่านมานานกว่า 100 ปีแล้ว แต่ถนนยาวเกือบ 1 กิโลเมตรเส้นนี้ก็ยังคงใช้งานได้ มีผู้คนตั้งบ้านเรือนอาศัยอยู่เรียงราย

แต่ความพิเศษของ Baxter Street ไม่ใช่อายุหรือประวัติศาสตร์ของมัน หากแต่เป็นความชัน ด้วยความที่มันถูกก่อสร้างเริ่มใช้งานเมื่อนานมาแล้ว ในยุคสมัยที่กฎหมายด้านวิศวกรรมการก่อสร้างยังไม่บังคับใช้เข้มงวดเท่าทุกวันนี้ Baxter Street จึงถูกตัดใช้งานผ่านเนินชัน 2 ลูก ซึ่งส่วนที่ชันที่สุดของถนนเส้นนี้ชันถึง 32% หรือก็คือ 17.7 องศา ชันระดับที่ว่าเมื่อขับรถเคลื่ีอนไปอยู่ตรงยอดเนินแล้ว ผู้ขับไม่มีทางมองเห็นถนนที่อยู่ถัดจากฝากระโปรงหน้ารถได้เลย (ลองเข้าไปดูภาพจาก Google Street View กันได้)

Waze แอพแผนที่และระบบนำทางของ Google ได้เริ่มเปิดให้บริการ Waze Local ซึ่งเป็นบริการลงโฆษณาสำหรับธุรกิจขนาดเล็กบน Waze ตามหลังจากที่ก่อนหน้านี้ Google ได้ปล่อยให้แบรนด์ใหญ่นำร่องลงโฆษณาบน Waze ไปก่อนแล้ว

รูปแบบโฆษณาของ Waze Local นั้นมีสามลักษณะ เช่น branded pin คือจะปรากฏบนหน้าจอของผู้ใช้เมื่อขับรถเข้าใกล้กับตำแหน่งที่ตั้งของร้านค้า, promoted search ที่จะปรากฏด้านบนของผลลัพธ์การค้นหา และ Zero-Speed Takeover เป็นป้ายที่ปรากฏขึ้นมาเมื่อผู้ใช้หยุดรถเท่านั้น โดย Waze Local จะเน้นไปที่การโฆษณาแบบ branded pin มากที่สุด

Ford ประกาศร่วมมือกับ Waze เตรียมนำแอพนำทางมาใส่ใน Ford SYNC 3 ระบบอินโฟเทนเมนต์ของ Ford ในรถยนต์รุ่นปี 2018 ผ่านฟีเจอร์ AppLink ของ Ford

การใช้งาน Waze นั้น ผู้ใช้จะต้องต่อโทรศัพท์ที่มีแอพ Waze กับรถยนต์ของ Ford โดยฟีเจอร์ของ Waze ที่จะมาลงในรถยนต์ Ford นั้นมีตั้งแต่ฟีเจอร์พื้นฐานอย่างการนำทาง, การอัพเดตสภาพการจราจรและคำเตือนต่าง ๆ ไปจนถึงฟีเจอร์ Talk to Waze ซึ่งผู้ใช้จะสามารถสั่งการโดยการสัมผัสจอบนรถยนต์ Ford หรือจะใช้การสั่งการด้วยเสียงก็ได้

Ford เผยว่ารถยนต์โมเดลปี 2018 ที่มาพร้อมกับ Ford SYNC 3.0 หรือใหม่กว่าจะสามารถใช้งาน Waze บนหน้าจอสัมผัสบนรถยนต์ Ford ได้ ส่วนรถยนต์รุ่นอื่น ๆ ที่มี SYNC 3 ก็จะสามารถอัพเดตผ่าน OTA หรือ USB เพื่อเปิดใช้ฟังก์ชัน Waze ได้เช่นกัน

เมือง Toronto ในแคนาดาได้ประกาศร่วมมือกับ Alphabet ในการพัฒนาเมืองสมาร์ทซิตี้มาแล้ว ล่าสุดก็ทาง Toronto ก็เริ่มกระบวนการแชร์ข้อมูลการจราจรกับ Waze ผู้ให้บริการแผนที่และระบบนำทางภายใต้บริษัท Google แล้ว

การแชร์ข้อมูลการจราจรระหว่าง Toronto และ Waze นี้จะเป็นแบบสองทาง คือทั้งสองฝ่ายจะนำข้อมูลที่มีอยู่มาแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน โดยเป้าหมายคือต้องการปรับปรุงระบบการนำทางภายในเมือง

Google ได้อัพเดตเพื่อทำให้แอพนำทาง Waze สามารถใช้งานกับระบบ Android Auto แล้ว โดยจะมีฟีเจอร์พื้นฐานเหมือนกับแอพบนมือถือ

สำหรับวิธีใช้ Waze คือผู้ใช้เพียงบอกว่าต้องการไปที่ไหน Waze จะคำนวณเส้นทางที่ดีที่สุดโดยใช้ข้อมูล crowdsource ในการวิเคราะห์การจราจร แต่ว่าจะมีบางฟีเจอร์ของ Waze ที่ไม่สามารถใช้งานบน Android Auto ได้เช่นคาร์พูล ส่วนคำสั่งเสียงก็สามารถใช้ได้เพียงบางคำสั่งเท่านั้น เช่นคำสั่งด้านการถามเกี่ยวกับอุบัติเหตุหรือสภาพการจราจรจะไม่สามารถใช้ได้

ที่มา - Recode

แอพนำทางบนมือถือ Waze ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้ผู้ใช้คือการอัดเสียงเพื่อทำเป็นเสียงพูดในการนำทางของโหมด turn-by-turn ในแอพได้ เป็นทางเลือกเพิ่มเติมจากเสียงของเซเลบหลายคนที่มีให้เลือกในแอพ Waze

ฟีเจอร์นี้ Waze เรียกว่า the Waze voice recorder ซึ่งวิธีตั้งค่าคือเมื่อผู้ใช้อัพเดตแอพเป็นเวอร์ชันใหม่ล่าสุด (ปัจจุบันยังรองรับเฉพาะ Android เท่านั้น) จากนั้นไปที่การตั้งค่าของแอพ เลือก Sound & Voice จะเห็นตัวเลือกให้อัดเสียงของตัวเอง โดย Waze จะมีคำสั่งที่ใช้งานบ่อย ๆ มาแสดง และผู้ใช้จะต้องอัดเสียงลงไปในแต่ละคำสั่ง ซึ่งจะเป็นเสียงตัวเองหรือเป็นเสียงของใครก็ได้

แอปนำทาง Waze ในเครือกูเกิลเปิดบริการใหม่ในชื่อ Order Ahead สั่งอาหารแบบลูกค้าไปรับเองที่ร้าน โดยเริ่มบริการนี้กับ Dunkin' Donuts เป็นรายแรก

แนวทางการใช้งานคือ ผู้ใช้ Waze เลือกร้านอาหารที่ต้องการ จะมีปุ่มกด Order Ahead ในหน้าร้านอาหาร จากนั้นสามารถสั่งอาหารที่ต้องการล่วงหน้าผ่านแอปของร้านเอง (ต้องใช้แอป Dunkin’ Donuts’ On-the-Go เวอร์ชั่นใหม่) เมื่อเดินทางไปถึงร้านก็สามารถลัดคิวไปรับอาหารได้เลย

แนวทางนี้ออกจะกลับข้างกับบริการสั่งอาหารอื่นๆ ที่มักอาศัยเครือข่ายการส่งสินค้าแบบด่วน แต่ถ้าใครต้องเดินทางไปยังร้านอยู่แล้วและต้องการประหยัดเวลารอคิวอีกหน่อย บริการแบบนี้ก็คงน่าสนใจไม่น้อย

หลังจากทดสอบการให้บริการช่วงกลางปีที่ผ่านมา ล่าสุด Waze บริษัทลูกของ Google เปิดให้บริการคาร์พูลในย่าน Bay Area ของ San Francisco อย่างเป็นทางการแล้ว

อย่างไรก็ตาม บริการของ Waze ไม่ใช่บริการเรียกรถแท็กซี่อย่างเต็มรูปแบบเหมือน Uber หรือ Lyft แต่จะเป็นคาร์พูล หรือการติดรถคนอื่นที่เดินทางไปในเส้นทางเดียวกัน โดยเบื้องต้น Google จำกัดทั้งคนขับและลูกค้า ให้สามารถขับรถและเรียกใช้บริการได้ไม่เกิน 2 ครั้งต่อวัน (ไป-กลับที่ทำงาน) และห้ามไม่ใช่คนขับ ใช้งานแพลตฟอร์ม Waze ในการหารายได้อย่างจริงจัง เพื่อเป็นการเลี่ยงกฎหมายไปในตัวด้วย

Google เคยทดสอบการให้บริการคาร์พูลในย่าน Bay Area ของ San Francisco เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุด Google เตรียมเปิดบริการนี้อย่างเต็มรูปแบบภายในฤดูใบไม้ร่วงนี้

Wall Street Journal รายงานอ้างอิงจากแหล่งข่าววงในว่า บริการนี้จะครอบคลุมทั้งเมือง San Francisco โดยรูปแบบและราคาในการใช้บริการจะยังคงเหมือนกับช่วงทดลอง คือผู้ใช้จะต้องเลือกว่าจะเดินทางจากจุดไหนไปจุดไหนผ่านแอพ Waze Rider ก่อนที่คนขับที่มีเส้นทางเดียวกันจะเป็นคนเลือกเพื่อนร่วมทางอีกที โดยค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ 54 เซนต์ต่อไมล์ ซึ่งผู้ใช้จะเป็นคนจ่ายให้คนขับและทาง Google จะไม่หักค่าบริการใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งค่าบริการตรงนี้ถือว่าถูกมาก เมื่อเทียบกับบริการอื่นๆ อย่าง Uber หรือ Lyft

Waze ได้เริ่มใช้ฟีเจอร์แจ้งเตือนกันลืมเด็กไว้ในรถ เพื่อป้องกันการเกิดเหตุเด็กเสียชีวิตบนรถ​ โดย Waze จะใช้วิธีแจ้งเตือนเมื่อถึงสถานที่ สามารถตั้งค่าข้อความได้ว่าจะให้แจ้งเตือนพร้อมข้อความว่าอะไร โดยตอนนี้ฟีเจอร์ได้เริ่มเปิดให้ทดลองใช้แบบเบต้าแล้ว

ที่มา - The Verge, Android Police