WhatsApp ประกาศฟีเจอร์ใหม่ในงานเปิดตัว Galaxy Z Fold 3 คือฟีเจอร์โอนข้อมูลแชทระหว่างเครื่องจาก iOS ไป Android ได้ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มีข่าวลือมาสักระยะแล้ว
ปัจจุบัน ระบบแบคอัพแชทของ WhatsApp คือจะแบคอัพขึ้นคลาวด์ของ OS ตัวเอง โดย iOS จะต้องแบคอัพขึ้น iCloud ส่วน Android จะแบคอัพขึ้น Google Drive ดังนั้นการจะโอนข้อมูลระหว่างเครื่องจะต้องเป็น OS เดียวกันเท่านั้น แต่ฟีเจอร์ใหม่จาก WhatsApp จะทำให้การโอนข้อมูลระหว่างระบบปฏิบัติการเป็นไปได้ง่ายขึ้น โดยผู้ใช้เพียงเสียบสาย Lightning to USB-C เท่านั้น
หลังจากข่าวเรื่อง Apple เตรียมเพิ่มฟีเจอร์รายงานผู้ใหญ่เมื่อเด็กรับหรือส่งภาพโป๊ เพิ่งประกาศออกมาก็เป็นประเด็นใหญ่ในเรื่องความเป็นส่วนตัว ล่าสุด หัวหน้าฝ่าย WhatsApp ของ Facebook ได้แสดงความกังวลต่อแผนนี้
Will Cathcart หัวหน้าฝ่าย WhatsApp โพสต์ผ่าน Twitter บัญชี @wcathcart ว่า Apple สร้างและดำเนินระบบสอดแนบที่ใช้สแกนข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อเหตุผลใดก็ได้ที่ Apple เองหรือรัฐบาลตัดสินใจว่าสิ่งนี้ต้องควบคุม พร้อมแสดงความกังวลในกรณีหากรัฐบาลจีนหรือรัฐบาลประเทศอื่นจะใช้ระบบนี้อย่างไร? หรือจะโดนบริษัทสปายแวร์นำไปใช้ในทางที่ผิดหรือไม่?
WhatsApp เปิดใช้งานโหมด View Once ส่งรูปภาพเข้าไปในห้องแชท โดยที่รูปจะหายไปเองเมื่อเพื่อนเปิดดูรูปแล้ว ไม่เปลืองพื้นที่จัดเก็บรูปภาพในเครื่อง
โดยผู้ใช้งานต้องกดที่เลข 1 ตามรูปภาพ ก่อนกดส่งเช้าห้องแชท เพื่อเป็นการเปิดโหมดใช้งาน View Once เมื่อเพื่อนเปิดดูแล้ว จะมีไอคอนแสดงใต้รูปภาพที่ส่งว่ามีการเปิดดูแล้ว
คิวบาเริ่มจำกัดการเข้าถึงแพลตฟอร์มโซเชียลเน็ตเวิร์คและแพลตฟอร์มส่งข้อความหลายอย่าง รวมถึงมีการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตมือถือในบางพื้นที่ ในช่วงที่มีการประท้วงรัฐบาลคิวบาครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ
การประท้วงครั้งนี้เป็นการเรียกร้องให้ประธานาธิบดี Miguel Diaz-Canel ลาออก ซึ่งแหล่งข่าวของ Reuters ระบุว่าในเมืองหลวงของคิวบาเริ่มมีปัญหาอินเทอร์เน็ตใช้งานไม่ได้มาตั้งแต่ช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และ NetBlocks รายงานว่า ทั้ง Facebook, Instagram, WhatsApp และ Telegram ถูกบล็อคเป็นบางส่วนแล้ว
NetBlocks ให้ความเห็นว่า ลักษณะการบล็อคของคิวบามีเป้าหมายคือเพื่อจำกัดการไหลของข้อมูล เนื่องจากแพลตฟอร์มเหล่านี้ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการจัดการและแชร์ข่าวเกี่ยวกับการประท้วงแบบเรียลไทม์
ก่อนหน้านี้ WhatsApp กระบวนการให้คนกดยอมรับเงื่อนไขความเป็นส่วนตัวใหม่ โดยบอกว่าถ้าไม่กด จะสูญเสียฟังก์ชั่นการทำงานสำคัญอย่างการโทรเข้าโทรออก ตัวกฎมีผลไปแล้วเมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุด โฆษก WhatsApp บอกว่า จากการหารือกับผู้เชี่ยวชาญความเป็นส่วนตัว และเจ้าหน้าที่ต่างๆ จากหลากหลายหน่วยงาน ทางบริษัทต้องการชี้แจงให้ชัดเจนว่าเราจะไม่จำกัดฟังก์ชันการทำงานของ WhatsApp สำหรับผู้ที่ยังไม่ยอมรับนโยบายใหม่ และจะเตือนผู้ใช้เป็นระยะๆ เรื่องนโยบายใหม่ โดยเฉพาะเมื่อใช้คุณสมบัติเสริมที่เกี่ยวข้อง เช่น การสื่อสารกับธุรกิจที่ได้รับการสนับสนุนจาก Facebook
WhatsApp ฟ้องรัฐบาลอินเดียที่ออกกฎอินเทอร์เน็ตใหม่ ข้อความแชทของผู้ใช้งานสามารถติดตามหรือเข้าดูได้ กระทบความเป็นส่วนตัว โดยยื่นต่อศาลในเดลี
ตัวกฎหมายมีการเสนอในเดือนกุมภาพันธ์โดย Ravi Shankar Prasad รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกฎหมายและเทคโนโลยีสารสนเทศ ภายใต้กฎดังกล่าวรัฐบาลอาจกำหนดให้ บริษัทเทคโนโลยีลบโพสต์โซเชียลมีเดียที่ถือว่าผิดกฎหมาย ทั้ง WhatsApp, Signal และ บริษัทแชทอื่นๆ จะต้องสร้างฐานข้อมูลการแชทที่ "ตรวจสอบย้อนกลับได้" และต้องแนบลายนิ้วมือที่ระบุตัวตนไปยังผู้ใช้งานได้อีกด้วย
The New York Times และ FakeReporter กลุ่มเฝ้าระวังของอิสราเอลที่ศึกษาข้อมูลผิดๆ ทำการสำรวจร่วมกัน พบว่า ใน WhatsApp มีกรุ๊ปแชทอย่างน้อย 100 กลุ่มและ Telegram อีก 20กลุ่ม ที่สร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนการใช้ความรุนแรงต่อชาวปาเลสไตน์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ละกลุ่มมีชื่อเรียกเช่น "Death to the Arabs", "The Jewish Guard" และ "The Revenge Troops" นอกจากนี้ หน่วยงานท้องถิ่นยังสามารถเชื่อมโยงกรุ๊ปแชทเหล่านี้กับเหตุการณ์รุนแรงหลายสิบครั้งต่อชาวปาเลสไตน์ที่เป็นพลเมืองของอิสราเอล
WhatsApp เร่งกระบวนการให้คนกดยอมรับเงื่อนไขความเป็นส่วนตัวใหม่ที่จะมีผล 15 พ.ค. นี้ โดยค่อยๆ ดำเนินการไปทีละขั้นตอน เริ่มจาก ไม่สามารถเข้าถึงรายการแชทของตัวเองได้ แต่ยังกดรับโทรศัพท์, วิดีโอคอลได้ และยังกดที่แจ้งเตือนเพื่อตอบข้อความกลับได้
ถ้าผู้ใช้งานยังไม่กดยอมรับเงื่อนไข หลังจากนั้น WhatsApp จะปิดไม่ให้ผู้ใช้รับสายโทรเข้า, ข้อความเข้า ปิดการมองเห็นการแจ้งเตือน เรียกได้ว่าแทบทำอะไรกับ WhatsApp ไม่ได้เลย แม้ WhatsApp ยืนยันว่าจะไม่ลบบัญชีออกก็ตาม
WhatsApp อัพเดตข้อมูล จากเดิมที่ผู้ใช้งานต้องยอมรับข้อตกลงใช้งานใหม่ภายในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ มิฉะนั้นจะเข้าถึงการใช้งานบางอย่างไม่ได้ โดยเปลี่ยนมาระบุว่า จะไม่มีบัญชีใดถูกลบหรือใช้งานไม่ได้จากผลของข้อตกลงการใช้งานใหม่ ที่มีผลวันที่ 15 พฤษภาคมนี้
WhatsApp เปิดตัวฟีเจอร์ระบบโทรด้วยเสียงและวิดีโอคอลบนแอปเวอร์ชันเดสก์ท็อปแล้ว เพื่อให้ผู้ใช้สามารถโทรศัพท์ผ่านคอมพิวเตอร์ได้จากเดิมที่จะต้องใช้ผ่านแอปบนมือถือเท่านั้น
ฟีเจอร์โทรของ WhatsApp บนเดสก์ท็อปนั้นทางบริษัทระบุว่าจะยังคงเป็นการเข้ารหัสแบบ end-to-end เหมือนเดิม ดังนั้น WhatsApp จะไม่สามารถฟังได้ว่าผู้ใช้สนทนาอะไรกัน และตอนนี้ฟีเจอร์ยังคงจำกัดเฉพาะโทรแบบระหว่างบุคคลเท่านั้น ส่วนโทรแบบกลุ่มทั้งแบบเสียงหรือวิดีโอคอลจะตามมาในอนาคต
WhatsApp ระบุว่า เมื่อปีที่ผ่านมาทางบริษัทเห็นการเติบโตของฟีเจอร์โทรศัพท์บนแพลตฟอร์ม และมีการสนทนาที่ยาวขึ้น โดยช่วงพีคสุดที่ผ่านมาคือวันสิ้นปี ยอดโทรด้วยเสียงและวิดีโอคอลรวมทั้งหมด 1.4 พันล้านครั้งในวันเดียว
WhatsApp ประกาศข้อตกลงการใช้งานใหม่ที่ต้องแชร์ข้อมูลให้ Facebook ซึ่งจะมีผลตั้งแต่ 15 พฤษภาคม 2021 เป็นต้นไป ในตอนแรก WhatsApp บอกว่าถ้าไม่ยอมรับเงื่อนไขนี้ก็จะใช้งาน WhatsApp ต่อไม่ได้ แต่ไม่ได้ลงรายละเอียด
TechCrunch มีข้อมูลเพิ่มเติมจากอีเมลที่ WhatsApp แจ้งไปยังพาร์ทเนอร์ ระบุว่า WhatsApp จะแจ้งผู้ใช้งานเป็นระยะให้ยอมรับข้อตกลงใหม่ แต่หากผู้ใช้งานไม่ยอมรับ หลังวันที่ 15 พฤษภาคม ก็จะยังรับสายเข้าโทรเสียง และรับการแจ้งเตือนได้ต่อไปอีกระยะเวลาหนึ่ง (WhatsApp บอกว่าไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้น) แต่จะไม่สามารถอ่านหรือส่งข้อความในแอปได้
WhatsApp ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อตกลงการใช้งานใหม่ ที่เลื่อนวันมีผลออกไปเป็น 15 พฤษภาคมนี้ โดยจะแสดงป้ายประกาศในแอป WhatsApp เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับผู้ใช้งาน ในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ทั้งนี้ WhatsApp ไม่ได้เปลี่ยนข้อตกลงในการใช้งาน ที่ต้องแชร์ข้อมูลให้กับ Facebook แต่บอกว่าจะอธิบายเพิ่มเติมให้มีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งผู้ใช้งานต้องกดยอมรับภายในวันที่กำหนด มิฉะนั้นจะใช้งาน WhatsApp ต่อไปไม่ได้
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ WhatsApp พูดถึงได้แก่ ข้อมูลการสนทนาจะเข้ารหัส WhatsApp ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลนี้ได้ และ WhatsApp จะไม่แชร์ข้อมูลนี้รวมทั้งรายชื่อผู้ติดต่อ (Contact) ให้กับ Facebook
WhatsApp เตรียมเพิ่มการล็อกอินเข้าใช้งานในคอมพิวเตอร์ผ่านระบบ biometric เช่นสแกนนิ้ว, สแกนใบหน้า จะใช้งานได้บน iPhone ที่รันด้วย iOS 14 และบนมือถือ Android ที่มีระบบการใช้งาน biometric ถือเป็นช่องทางล็อกอินเพิ่มจากการสแกน QR เข้าใช้งานตามปกติ
กระทรวงด้านไอทีของอินเดียได้ส่งจดหมายถึง Will Cathcart หัวหน้าฝ่าย WhatsApp โดยระบุว่านโยบายแชร์ข้อมูลใหม่ของ WhatsApp สร้างความกังวลอย่างร้ายแรงต่อทางเลือกและความเป็นอิสระของชาวอินเดีย และต้องการหยุดการเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้
อินเดียถือเป็นตลาดใหญ่ของ WhatsApp ดังนั้นทางกระทรวงต้องการทราบความชัดเจนของ WhatsApp ในข้อตกลงแชร์ข้อมูลกับ Facebook และบริษัทอื่น ๆ รวมถึงตั้งคำถามด้วยว่าทำไมจึงมีข้อยกเว้นสำหรับผู้ใช้งานในอียูว่าไม่ต้องทำตามนโยบายใหม่ แต่ผู้ใช้ในอินเดียไม่มีทางเลือกใด ๆ การเลือกปฏิบัติแบบนี้เป็นผลเสียต่อผู้ใช้ชาวอินเดียซึ่งรัฐบาลอินเดียกังวลมาก
WhatsApp ประกาศเลื่อนกำหนดข้อตกลงการใช้งานใหม่ ที่ผู้ใช้งานต้องแชร์ข้อมูลให้ Facebook ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถใช้งาน WhatsApp ต่อไปได้ จากเดิมจะมีผลวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ออกไปเป็นวันที่ 15 พฤษภาคม
WhatsApp ให้เหตุผลของการขยายเวลาออกไป เพื่อให้บริษัทมีเวลาชี้แจงถึงการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น เนื่องจากยังมีการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องอยู่ อีกทั้งให้เวลาผู้ใช้งานได้ตรวจสอบข้อกำหนดใหม่เพิ่มเติม
ดูเหมือนการปรับเงื่อนไขของ WhatsApp ที่แชร์ข้อมูลส่วนตัวให้กับ Facebook จะสั่นสะเทือน WhatsApp กว่าที่คิด มีทั้งคนที่วิจารณ์แรงและคนที่หนีไปใช้งานแอปอื่น จน WhatsApp ต้องออกมาชี้แจงเพิ่มเติมถึงการแชร์ข้อมูล โดยยืนยันว่าการปรับเงื่อนไข ไม่กระทบความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานในการแชทคุยกับเพื่อนและคนในครอบครัว และชี้แจงเพิ่มดังนี้
จากประเด็น WhatsApp ปรับเงื่อนไขการใช้งาน แชร์ข้อมูลส่วนตัวให้กับ Facebook ด้วย คนก็แห่ไปดาวน์โหลดแอป Telegram และ Signal กัน ล่าสุด Telegram ออกมาเปิดเผยว่า ภายใน 72 ชั่วโมงที่ผ่านมา มียอดดาวน์โหลด 25 ล้านครั้ง ทำให้ตอนนี้มียอดดาวน์โหลดสะสม 500 ล้านครั้งแล้ว
Elon Musk ทวีตเชิญชวนให้คนย้ายไปใช้ Signal หลังจาก WhatsApp ปรับเงื่อนไขการใช้งาน ว่าต้องแชร์ข้อมูลส่วนตัวให้กับ Facebook ด้วย
ผลคือ Signal มีคนใช้งานพุ่งสูงในหลายประเทศ ขึ้นอันดับหนึ่งของ App Store ในอินเดียและเยอรมนี, ข้อความ SMS ยืนยันตัวตนของผู้ใช้ใหม่ส่งล่าช้าในหลายประเทศ รวมถึงส่งผลให้หุ้นของบริษัท Signal Advance Inc. ที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน (แต่ชื่อเหมือนกัน) พุ่งสูงขึ้นถึง 1000% ด้วย เพราะคนเข้าใจผิด
Signal ได้รับเงินสนับสนุนจาก Brian Acton ผู้ก่อตั้ง WhatsApp ที่ลาออกจาก Facebook ในปี 2017 และเป็นฝ่ายวิจารณ์ Facebook อยู่บ่อยครั้ง
Facebook ประกาศสถิติการใช้งานแอปเพื่อการเฉลิมฉลองเข้าสู่ปีใหม่ 2021 ทั่วโลก ซึ่งปีนี้แตกต่างจากที่ผ่านมาด้วยสถานการณ์โควิด ทำให้การร่วมฉลองผ่านช่องทางออนไลน์มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นจนเป็นสถิติใหม่สูงสุด
Caitlin Banford ผู้จัดการฝ่ายเทคนิคของ Facebook กล่าวว่า ในช่วงก่อนการระบาดของโควิด การใช้งาน Facebook จะสูงกว่าปกติในช่วงเข้าสู่ปีใหม่ทุกปีอยู่แล้ว แต่ช่วงเดือนมีนาคม 2020 ที่การระบาดเริ่มสูงขึ้นทั่วโลก การใช้งานกลับสูงยิ่งกว่าช่วงเทศกาลปีใหม่ ทีมงาน Facebook จึงวางระบบให้รองรับการใช้งานที่มากขึ้นเพื่อรองรับการเข้าสู่ปีใหม่ 2021
สถิติแยกรายแอปในเครือ Facebook เป็นดังนี้
คณะกรรมการการค้าของสหรัฐ (FTC) สั่งให้บริษัทด้านโซเชียลและวิดีโอออนไลน์ยอดนิยม 9 ราย ได้แก่ Amazon (Twitch), ByteDance (TikTok), Discord, Facebook, Reddit, Snapchat, Twitter, WhatsApp, YouTube รายงานวิธีการเก็บข้อมูลของผู้ใช้ ตามรอย วิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคล ตัดสินใจเลือกแสดงโฆษณา วัดผล ฯลฯ แล้วส่งกลับมายัง FTC ภายใน 45 วัน
FTC ไม่ได้ระบุชัดว่าข้อข้อมูลนี้ไปทำอะไรแบบเจาะจง แต่ก็แสดงให้เห็นว่า FTC กำลังเข้ามาสอบสวนพฤติกรรมทางธุรกิจของบริษัทไอทียักษ์ใหญ่เหล่านี้ ซึ่งท่าทีของ FTC ช่วงหลังชัดเจนว่าต้องการเข้ามากำกับดูแลในประเด็นต่างๆ อย่างใกล้ชิดกว่าเดิม ดังที่เห็นจากคดีล่าสุดที่ FTC ฟ้องร้อง Facebook ว่าผูกขาดตลาดโซเชียล
Apple เคยประกาศไว้ในงาน WWDC ที่เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมาว่าจะเริ่มให้นักพัฒนาแอปใส่ข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว โดยกฎนี้เป็นข้อบังคับเมื่อส่งแอปใหม่หรืออัพเดตให้ Apple มีผลกับแอปทั้ง App Store
คณะกรรมการการค้าของสหรัฐ หรือ Federal Trade Commission (FTC) ยื่นฟ้อง Facebook ในข้อหาผูกขาดตลาดโซเชียลเน็ตเวิร์คแล้ว
FTC บอกว่า Facebook มีพฤติกรรมปิดกั้นการแข่งขันมายาวนานและทำอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การไล่ซื้อบริษัทที่มีโอกาสมาเป็นคู่แข่งในอนาคต ทั้ง WhastApp, Instagram และกำหนดเงื่อนไขใน API ว่าห้ามนำไปใช้ทำฟีเจอร์บางอย่างแข่งกับ Facebook รวมถึงห้ามใช้โปรโมทหรือเชื่อมต่อกับบริการโซเชียลอื่นๆ ยิ่งทำให้ Facebook ผูกขาดมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นหนึ่งในบริษัทใหญ่ที่สุดของโลก มีกำไรมหาศาล
หลังการทดสอบใช้งานกับผู้ใช้กว่า 1 ล้านรายเป็นเวลา 2 ปี ก็ได้เวลาเปิดใช้งาน โดย WhatsApp ร่วมกับหน่วยงาน National Payments Corporation of India (NPCI) ในอินเดีย เปิดใช้งานฟีเจอร์โอนเงินให้กันผ่านแอปพลิเคชั่น ผ่านตัวกลางคือ Unified Payment Interface (UPI) หรือระบบการชำระเงินแบบเรียลไทม์ของอินเดีย
Facebook ประกาศว่าแอปแชท WhatsApp เปิดให้ผู้ใช้ ใช้งานโหมดข้อความแชทหายไปใด้เองใน 7 วัน เปิดใช้ทั่วโลกทั้ง Android, iPhone, KaiOS , Web และ Desktop
WhatsApp เป็นแอปแชทที่ใช้พื้นที่อยู่ไม่น้อยจากการเก็บรูปภาพและวิดีโอหรือ GIF ที่รับส่งผ่านแชท ล่าสุด WhatsApp อัพเดตฟีเจอร์จัดการสตอเรจตัวใหม่ที่ใช้งานง่ายขึ้นกว่าเดิม รวมถึงแจ้งเตือนด้วยว่าสตอเรจในเครื่องใกล้เต็มแล้ว และขึ้นหน้าเตือนให้ลบไฟล์
ตัวเลือกนี้จะอยู่ใน Settings > Storage and Data > Manage Storage ที่จะเรียงลำดับรูปและวิดีโอตามขนาดไฟล์ สามารถลบได้พร้อม ๆ กันหลายไฟล์ รวมถึงสามารถดูพรีวิวก่อนลบได้ด้วย นอกจากนี้ฟีเจอร์นี้ยังแบ่งไฟล์ออกเป็น 2 กลุ่มคือที่ขนาดใหญ่กว่า 5MB และไฟล์ที่ถูกฟอร์เวิร์ดมาหลายรอบ
ที่มา - The Next Web