หลังเสร็จภารกิจออก Windows 11 ตัวจริง (GA) ไมโครซอฟท์ก็เดินหน้าพัฒนา Windows 11 ต่อภายใต้โครงการ Windows Insider และออก Preview Build 22478 ถือเป็นรุ่นพรีวิวตัวแรกของ Windows 11 เวอร์ชันถัดไป (ตอนนี้เปลี่ยนมาอัพเดตปีละครั้งแล้ว รอบหน้าเจอกันตุลาคม 2022)
ของใหม่ใน Build 22478 คืออีโมจิแบบใหม่ที่ปรับดีไซน์ตามแนวทาง Fluent Design ของ Windows 11 ซึ่งดูเผินๆ ก็น่ารัก สดใสสวยงามดี (อีโมจิชุดนี้จะเปิดให้กลุ่ม Insider ใช้งานก่อน แล้วจะปล่อยให้คนใช้ Windows 11 GA ผ่านอัพเดตรายเดือนในภายหลัง)
ไมโครซอฟท์เขียนอธิบายเบื้องหลังการปรับไฟล์อัพเดตรายเดือน (quality update) ของ Windows 11 ให้มีขนาดเล็กลง 40% ผลคือดาวน์โหลดเร็วขึ้น แต่ยังอัพเดตได้ตามปกติเหมือนเดิม
จุดเปลี่ยนที่ทำให้ไฟล์เล็กลงเป็นวิธีการทำ delta ที่หาความแตกต่างระหว่างไฟล์สองเวอร์ชัน ไมโครซอฟท์เริ่มใช้ไฟล์อัพเดตแบบ delta มาตั้งแต่ Windows 10 v1809 แต่การทำ delta ต้องทำทั้งสองขา คือขาไปข้างหน้า (ไฟล์เก่า -> ใหม่) และขากลับ (ไฟล์ใหม่ -> เก่า) ใช้ในกรณี rollback
ถึงแม้ความแตกต่างของไฟล์สองเวอร์ชันจะเหมือนกัน แต่การทำ delta ขาไปและขากลับนั้นแตกต่างกัน (ดูภาพประกอบ) ทำให้ไฟล์อัพเดตของไมโครซอฟท์ต้องเก็บ delta ทั้งสองขา (bidirectional)
ก่อนหน้านี้ไมโครซอฟท์ประกาศไว้ว่า Windows 11 สามารถติดตั้งในเครื่องตกสเปกขั้นต่ำได้ แต่จะไม่ได้อัพเดต รวมถึงแพตช์-ไดรเวอร์ แต่ในการอัพเดตครั้งแรกของ Windows 11 เมื่อวานนี้ ผู้ที่ติดตั้งบนเครื่องตกสเปกพบว่าก็ยังได้อัพเดตอยู่
ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่าเกณฑ์เรื่องการปล่อยอัพเดตของไมโครซอฟท์เป็นอย่างไรกันแน่ และน่าจะเป็นไปได้สูงว่าไมโครซอฟท์ยัง "ใจดี" ในช่วงแรกๆ นี้อยู่ จึงไม่ได้สนใจตรวจเช็คปัจจัยนี้ ปล่อยอัพเดตให้เครื่องที่เป็น Windows 11 ทั้งหมด
ที่มา - MSpoweruser
ไมโครซอฟท์ออก Patch Tuesday ประจำรอบเดือนตุลาคม 2021 (หมายเลขแพตช์ KB5006670) ความพิเศษของรอบนี้คือ Windows 11 จะได้อัพเดตแพตช์เป็นครั้งแรกด้วย (ออก 5 ตุลาคม ได้แพตช์รอบ 12 ตุลาคมพอดี)
นอกจากการอัพเดตความปลอดภัย (ที่ได้ทั้ง Windows 10 และ Windows 11) สิ่งที่ปรับปรุงในแพตช์ของ Windows 11 คือแก้บั๊กซอฟต์แวร์เครือข่าย Intel Killer และ SmartByte ส่วนการแก้บั๊กประสิทธิภาพของซีพียู AMD ยังไม่มาในแพตช์รอบนี้
ที่มา - OnMSFT
จากประเด็นเรื่องสเปกขั้นต่ำของ Windows 11 ที่ต้องการชิป TPM 2.0 และซีพียูที่รองรับ Virtualization-Based Security (VBS) ทำให้เครื่องพีซีจำนวนมากไม่ผ่านเกณฑ์ และนำไปสู่คำถามว่าทำไมไมโครซอฟท์ถึงต้องกำหนดฟีเจอร์เหล่านี้ไว้ในสเปกขั้นต่ำ
ล่าสุดไมโครซอฟท์ออกมาอธิบายเรื่องนี้ผ่านคลิป โดย Dave Weston หัวหน้าทีมเจาะระบบของไมโครซอฟท์ ("hacker-in-chief") เป็นคนมาสาธิตการเจาะพีซี Windows 11 ที่ไม่เปิด TPM, Secure Boot และไม่มี VBS ให้ดูด้วยตัวเอง
ไมโครซอฟท์แยก Windows Subsystem for Linux (WSL) บน Windows 11 ออกเป็นแอปพลิเคชั่นแยกแทนที่จะเป็นฟีเจอร์ของวินโดวส์เหมือนเคย ทำให้กระบวนการอัพเกรด WSL แยกออกจากวินโดวส์ ตอนนี้ผู้ใช้สามารถใช้เวอร์ชั่นพรีวิวได้โดยไม่ต้องเลือก Windows Insider ไปทั้งหมด
เวอร์ชั่นพรีวิวตอนนี้มีฟีเจอร์เพิ่มมาหลายอย่าง เช่น WSLg สำหรับใช้งานแอป GUI, รองรับดิสก์จากลินุกซ์ รวมถึงไฟล์ VHD จากอิมเมจ, ใช้ชิปกราฟิกสำหรับรันงานปัญญาประดิษฐ์ได้, และอัพเดตเคอร์เนลเป็นเวอร์ชั่น 5.10.60.1
ตอนนี้ไมโครซอฟท์ยังไม่ปล่อยอัพเดต Windows 11 ให้ทุกคน คนที่ได้รับแล้วก็สามารถติดตั้งใช้งานได้ทันที หากมี WSL อยู่ในเครื่องอยู่แล้ว เวอร์ชั่นจาก Store จะถูกใช้งานเป็นตัวหลักก่อนเสมอ
Windows 11 เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2021 ชาว Blognone หลายคนอาจติดตั้งและใช้งานกันแล้ว บางคนอาจลองใช้มาตั้งแต่ยุค Insider ในขณะที่อีกหลายคนไม่สามารถอัพเกรดได้เพราะถูกทิ้งไว้กลางทาง
รีวิวนี้น่าจะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า ควรจะเอาอย่างไรกับ Windows 11 ดี อัพเกรดเลยวันนี้ รอไปก่อนค่อยอัพเกรด หรือหยุดอยู่กับ Windows 10
AMD เขียนบล็อก ระบุถึงปัญหาที่พบในซีพียูบน Windows 11 ที่กระทบกับซีพียูทุกตัวรวม EPYC และ Athlon ด้วย ว่าสองปัญหาหลักๆ คือค่าความหน่วงแคช L3 เพิ่มสูง อาจส่งผลกระทบราว 3-5% กับแอปที่ใช้หน่วยความจำเยอะ และ 10-15% ในเกม eSports ยอดนิยมต่างๆ
อีกปัญหาคือระบบ Preferred Core ที่จัดส่งโปรเซสที่ต้องใช้ประสิทธิภาพการประมวลผลสูงให้แกนที่ความเร็วสูงสุดบนชิป อาจไม่ทำงาน และอาจทำให้ประสิทธิภาพแอปลดลง น่าจะพบได้มากในซีพียูที่มีจำนวนแกนมากกว่า 8 แกน และ TDP 65W ขึ้นไป
วันนี้ Microsoft เริ่มปล่อยระบบปฏิบัติการ Windows 11 ให้ผู้ใช้ได้ดาวน์โหลดแล้ว แต่ตามฉบับซอฟต์แวร์ช่วงออกใหม่ อาจมีบั๊กและความไม่เสถียรต่างๆ อยู่ ซึ่งนอกจากปัญหาประสิทธิภาพในการเล่นเกมลด 25% จากฟีเจอร์ความปลอดภัย VBS แล้ว เว็บไซต์ Windows Latest ยังพบปัญหาซอฟต์แวร์เบื้องต้นอีกเล็กน้อยดังนี้
ไมโครซอฟท์เปิดให้ดาวน์โหลด Windows 11 ตัวจริงตามกำหนด 5 ตุลาคมที่ประกาศไว้
วิธีการดาวน์โหลดที่ไมโครซอฟท์แนะนำคือ ให้รอการแจ้งเตือนจาก Windows Update ซึ่งจะทยอยปล่อยให้ผู้ใช้ โดยอิงจากข้อมูลฮาร์ดแวร์ว่าอัพเกรดแล้วผ่านฉลุย ไม่ติดปัญหาไดรเวอร์ของชิ้นส่วนบางอย่าง (ดูรายการชิ้นส่วนที่มีปัญหาได้จาก Windows 11 release health เช่น ตอนนี้ยังมีปัญหากับการ์ด Intel Killer)
การเปลี่ยนแปลงของ Windows 11 ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดย่อมหนีไม่พ้น Start Menu ที่ย้ายมาอยู่ตรงกลาง (ย้ายไปชิดขอบซ้ายได้) แต่ส่วนอื่นๆ ของ Start Menu และ Task Bar กลับปรับแต่งได้ไม่มากนักเมื่อเทียบกับ Windows 10 แถมยังถูกตัดฟีเจอร์ออกไปอีกพอสมควร (เช่น Live Tiles) ซึ่งผู้ใช้ Windows 10 จำนวนไม่น้อยย่อมขัดใจเมื่ออัพเกรดมาเป็น Windows 11
ไมโครซอฟท์ยังไม่ได้ออกมาพูดถึงแผนว่าจะปรับเปลี่ยน Start Menu อย่างไรในอนาคต ทางออกของเรื่องนี้อาจเป็นโปรแกรมปรับแต่งอย่าง Start11 ของบริษัท Stardock ที่สร้างชื่อมาตั้งแต่ Start8 ในยุค Windows 8 ที่มีปัญหาเรื่อง Start Menu/Screen เช่นกัน
เว็บไซต์ PCGamer ลองทดสอบการเล่นเกมบน Windows 11 แล้วพบว่าฟีเจอร์ความปลอดภัย Virtualization-Based Security (VBS) ส่งผลต่อประสิทธิภาพของเกม ทำเฟรมเรตลดลงเฉลี่ยประมาณ 25%
Virtualization-Based Security (VBS) เป็นชุดฟีเจอร์ความปลอดภัยที่อิงกับ hypervisor มีมาตั้งแต่ Windows 10 แต่ไม่ถูกเปิดใช้เป็นดีฟอลต์ (อยู่ในหมวด Device Security) หากอัพเกรดเครื่องจาก Windows 10 เป็น Windows 11 ก็จะยังไม่เปิดใช้งาน แต่ถ้าเป็น Windows 11 ที่มาพร้อมเครื่อง OEM จะถูกเปิดเป็นดีฟอลต์
Lansweeper บริษัทซอฟต์แวร์จัดการเครื่องพีซีในองค์กร (IT Asset Management) สำรวจความพร้อมของพีซีองค์กรจำนวน 30 ล้านเครื่อง ที่ระบบของตัวเองมอนิเตอร์อยู่ พบว่ามีพีซีถึง 55% ที่สเปกไม่ผ่านความต้องการขั้นต่ำของ Windows 11 และไม่สามารถอัพเกรดได้
Lansweeper บอกว่าปัจจัยสำคัญมีอยู่ 3 เรื่องคือ ซีพียูต้องใช้ตามรุ่นที่กำหนด, แรมต้องอย่างน้อย 4GB และตัวปัญหาคือต้องมีชิป TPM 2.0 ด้วย
ไมโครซอฟท์เปิดรับแอพขึ้น Microsoft Store ของ Windows 11 เตรียมความพร้อมก่อนวันปล่อยอัพเดตจริง 5 ตุลาคม 2021
ไมโครซอฟท์เปิดรับแอพจากนักพัฒนาบางรายมาล่วงหน้าแล้ว ปัจจุบัน Microsoft Store ของ Windows 11 มีแอพดังๆ อย่าง Discord, Zoom, KakaoTalk, VLC, TeamViewer, Adobe Reader DC, LibreOffice เบราว์เซอร์คู่แข่ง Opera, Yandex รวมถึงแอพของไมโครซอฟท์เองอย่าง Visual Studio Code
แอพที่รองรับตอนนี้ยังเป็นแอพเดสก์ท็อปฝั่งวินโดวส์ และเว็บแอพในรูปแบบ PWA ส่วนแอพ Android ที่จะเชื่อมจาก Amazon Appstore ยังต้องรอกันไปก่อน
HP เปิดตัวแท็บเล็ต Windows 11 รุ่นแรกของบริษัทในชื่อว่า HP 11 inch Tablet PC เป็นแท็บเล็ตหน้าจอ 11" IPS 2160x1440 พิกเซล ใช้กล้อง 13MP ที่หมุนเป็นได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง
HP 11 ยังมีขาตั้ง kickstand ที่วางเครื่องได้ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง มีอุปกรณ์เสริมเป็นคีย์บอร์ดแม่เหล็กที่ใช้ได้ทั้งแนวนอนและแนวตั้งเช่นกัน และใช้กับปากกา HP Rechargeable Tilt Pen ได้
สเปกคร่าวๆ คือซีพียู Pentium Silver N6000, แรม 4GB, สตอเรจ 128GB SSD, น้ำหนัก 660 กรัม
NVIDIA ออกไดรเวอร์จีพียู GeForce สำหรับ Windows 11 อย่างเป็นทางการ เตรียมรับ Windows 11 ตัวจริงที่จะปล่อยในวันที่ 5 ตุลาคมนี้
ไดรเวอร์ตัวนี้รองรับ DirectX 12 Ultimate ซึ่งมีใช้ทั้งบน Windows 10/11, รองรับฟีเจอร์ Auto HDR ของ Windows 11, ฟีเจอร์การจัดการหน้าต่างและหลายหน้าจอของ Windows 11, การรัน CUDA บน Windows Subsystem for Linux (WSL)
Microsoft เริ่มปล่อยแอป Photos ดีไซน์ใหม่สำหรับ Windows 11 แล้ว โดยตัวแอป Photos ดีไซน์ใหม่จะออกแบบมาในลักษณะเดียวกับแอปอื่น ๆ บน Windows 11
จุดเปลี่ยนสำคัญของแอป Photos ดีไซน์ใหม่คือเพิ่ม filmstrip ด้านล่างที่แสดง thumbnail เพื่อให้สามารถกระโดดไปมาระหว่างรูปได้ หรือจะเลือกหลายรูปเพื่อแสดงเป็น multi-view ที่แสดงรูปหลายรูปที่เราเลือกไว้บนหน้าต่างเดียวก็ได้
ไมโครซอฟท์ออก Windows 11 Insider Preview Build 22000.194 มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญคือ การติดตั้ง Windows 11 ใน virtual machine จะเช็คสเปกเหมือนกับการติดตั้งบนฮาร์ดแวร์จริงทุกประการ นั่นแปลว่า VM ต้องรองรับ TPM ด้วยเช่นกัน (ผ่านฟีเจอร์ vTPM)
ไมโครซอฟท์บอกว่า Windows 11 สามารถทำงานได้บน VMware และ Oracle VirtualBox ตราบเท่าที่ VM ผ่านสเปกขั้นต่ำของ Windows 11 ส่วนกรณีการรันบน Hyper-V ของไมโครซอฟท์เอง จะต้องสร้าง VM ที่เป็น Generation 2 ก่อน
ตัวแทนของไมโครซอฟท์ยืนยันกับ The Register ว่า Windows 11 ไม่รองรับการทำงานบนชิป Apple M1 ทั้งแบบเนทีฟ และผ่านระบบ virtualization อย่าง Parallels แต่ก็ไม่ได้อธิบายเหตุผล (ไมโครซอฟท์ใช้คำว่า supported scenario ซึ่งอาจหมายถึงใช้ได้ แต่ไม่ซัพพอร์ตอย่างเป็นทางการ)
ฝั่งของ Parallels ยืนยันว่าสามารถทำได้ โดยปัจจุบันวิธีการคือต้องผ่าน Windows Insider ก่อน (รายละเอียด) แต่ยังไม่มีข้อมูลว่า หากไมโครซอฟท์ไม่ออกอิมเมจ Windows 11 รุ่น GA ที่เป็นสถาปัตยกรรม Arm64 ให้ใช้งานแล้ว Parallels จะทำอย่างไร
Windows 11 นอกจากออกแบบหน้าจอใน Dark Mode ใหม่แล้ว ยังออกแบบเสียงแจ้งเตือนใหม่ที่ฟังสบายหูและกลมกล่อมกว่า Light Mode เพื่อให้สามารถใช้งานได้ผ่อนคลายมากขึ้น โดยไม่พลาดการแจ้งเตือนสำคัญ
เว็บไซต์ Ars Technica วิเคราะห์ว่าข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ของ Windows 11 ที่จำกัดรุ่นซีพียูอย่างมาก เหตุผลหลักจริงๆ น่าจะมาจากฟีเจอร์ชื่อ mode-based execution control (MBEC) ที่เราไม่รู้จักกันมากนัก ไม่ใช่เรื่อง TPM ที่ตกเป็นเป้าโจมตีสักเท่าไร
ในโพสต์อธิบายเหตุผลรอบล่าสุดของไมโครซอฟท์ ระบุปัจจัยด้านฮาร์ดแวร์ไว้ทั้งหมด 3 ข้อคือ
ตามที่ไมโครซอฟท์ประกาศว่า Windows 11 จะเริ่มทยอยออกมาให้อัพเดตกันตั้งแต่ 5 ตุลาคมนี้ อย่างไรก็ตามไมโครซอฟท์ก็ได้ระบุว่าคุณสมบัติการใช้งานแอป Android ยังไม่มีออกมาในอัพเดตรอบแรกนี้
Aaron Woodman ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาดของไมโครซอฟท์อธิบายในบล็อกว่า Windows 11 ที่รองรับ Android ผ่านความร่วมมือกับ Intel และ Amazon นั้น จะเพิ่มเติมในเดือนถัด ๆ ไป ของการอัพเดต ซึ่งอาจตีความได้ว่า Windows 11 ที่รองรับแอป Android น่าจะได้เห็นเร็วที่สุดก็ปี 2022
ไมโครซอฟท์ประกาศปล่อย Windows 11 วันที่ 5 ตุลาคมนี้ โดยจะปล่อยเป็นอัพเดตเป็นกลุ่มๆ กลุ่มอุปกรณ์ใหม่ๆ ที่เข้าข่ายจะได้รับอัพเดตก่อน โดยคอมพิวเตอร์ทั้งหมดที่เข้าข่ายได้รับอัพเกรด น่าจะได้รับครบภายในกลางปี 2022
ประกาศครั้งนี้ไมโครซอฟท์พยายามบอกผู้ใช้ว่าไม่ต้องรอซื้อคอมพิวเตอร์ใหม่พร้อม Windows 11 เพราะเครื่องส่วนใหญ่จะได้รับอัพเกรดฟรีในที่สุด ส่วนเครื่องที่ยังไม่เข้าข่าย ไมโครซอฟท์จะปล่อยโปรแกรม PC Health Check ให้ทุกคนตรวจสอบสเปคสุดท้ายว่าอัพเกรดได้หรือไม่ สำหรับเครื่องที่ไม่ได้รับอัพเกรดฟรี จะยังได้รับซัพพอร์ต Windows 10 ไปจนถึงตุลาคม 2025
เกิดการเปลี่ยนแปลงสำคัญจากข่าว ไมโครซอฟท์ไม่บล็อคการติดตั้ง Windows 11 บนเครื่องตกรุ่น แต่แบกรับความเสี่ยงกันเอง โดยโฆษกของไมโครซอฟท์แจ้งกับ The Verge ว่าพีซีที่สเปกไม่ผ่านเกณฑ์ จะไม่สามารถอัพเดตผ่าน Windows Update ได้ และการอัพเดตแพตช์-ไดรเวอร์ "อาจ" ถูกระงับเช่นกัน
unsupported PCs won’t be entitled to receive Windows Updates, and that even security and driver updates may be withheld.
ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมจากไมโครซอฟท์ว่า ตกลงนโยบายการอัพเดตที่แท้จริงเป็นอย่างไรกันแน่ และยังไม่มีข้อมูลเรื่องนี้บนเว็บไซต์ของไมโครซอฟท์โดยตรง มีแค่การให้ข้อมูลของโฆษกกับ The Verge เท่านั้น
ไมโครซอฟท์ให้ข้อมูลเรื่องการติดตั้ง Windows 11 ที่เจอข้อกำหนดเรื่องสเปกฮาร์ดแวร์ขั้นต่ำ ดังนี้