ไมโครซอฟท์ออก Windows 11 Insider Preview Build 26063 ให้กลุ่มทดสอบ Canary Channel มีของใหม่ที่สำคัญคือรองรับ Wi-Fi 7 แล้ว หลังจากกลุ่ม Wi-Fi Alliance เริ่มออกตรารับรองอุปกรณ์ที่ใช้งาน Wi-Fi 7 ได้ เมื่อเดือนมกราคม
Wi-Fi 7 หรือ IEEE 802.11be Extremely High Throughput (EHT) พัฒนาต่อจาก Wi-Fi 6E โดยใช้คลื่นย่าน 6GHz ความกว้างสูงถึง 320 MHz เพื่อให้ส่งข้อมูลได้เร็วขึ้น รวมถึงการใช้เทคนิคการส่งสัญญาณแบบอื่นๆ เช่น 4096-QAM modulation และ Multi-Link operation (MLO)
ในหน้าจอบอกข้อมูล Network & internet > Wi-Fi หากเราเตอร์ที่เราเชื่อมต่ออยู่เป็น Wi-Fi 7 ก็จะแสดงสถานะของเครือข่ายตามภาพตัวอย่าง
ไมโครซอฟท์ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ให้ Copilot in Windows ชุดใหญ่ โดยยังมีผลเฉพาะ Windows Insiders Canary Channel เท่านั้น
ฟีเจอร์ใหม่มีทั้งฝั่งที่เป็นดูสถานะของระบบ เช่น ขอดูหมายเลขไอพี, สถานะแบตเตอรี่, สถานะเครือข่าย Wi-Fi, สั่งให้เทถังขยะ recycle bin รวมถึงการเปิดฟีเจอร์ด้าน accessibility เช่น เปิดตัวอ่านหน้าจอ เปิดแว่นขยาย ปรับขนาดของข้อความ
ไมโครซอฟท์ออก Windows 11 Insider Preview Build 26058 รุ่นทดสอบ Canary/Dev Channels มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจด้าน UI หลายอย่าง
ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อ @PhantomOfEarth โพสต์ภาพของฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11 Insider 24H2 ที่ยังไม่เปิดตัว ชื่อว่า Automatic Super Resolution หรือชื่อย่อ Auto SR โดยเป็นตัวเลือกอยู่ในหน้า Settings > System > Display > Graphics
คำอธิบายฟีเจอร์นี้ระบุว่าเป็นการใช้ AI ช่วยปรับแต่งรายละเอียดของภาพ โดยสามารถใช้ได้ทั้งแอพและเกม และสามารถตั้งค่าเปิดใช้ได้กับแอพเป็นรายตัวด้วย
ในช่วงที่กระแส อย่าเรียกว่า VR Spatial Computing กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้งจากการวางขายแว่น Apple Vision Pro
ฝั่งของไมโครซอฟท์ผู้มาก่อน ก็เริ่มถอดฟีเจอร์ด้าน VR ออกจาก Windows 11 ตามที่เคยประกาศไว้ โดย Windows 11 Insider ตัวใหม่ Build 26052 (ขึ้นหลัก 26XXX) ไม่รองรับแว่น Windows Mixed Reality ของผู้ผลิต OEM รายอื่นแล้ว (ไม่นับรวมแว่น HoloLens ของไมโครซอฟท์เอง ที่ยังใช้งานได้)
ไมโครซอฟท์อัพเดตแอพ Snipping Tool ใน Windows 11 Insider เพิ่มฟีเจอร์ shape หรือการใส่วงกลม สี่เหลี่ยม เส้นตรง ลูกศร ลงยังบนภาพหน้าจอได้โดยตรง ทำให้ผู้ใช้ Windows 11 ไม่จำเป็นต้องนำภาพหน้าจอไปแต่งต่อในแอพอื่นๆ อีกต่อไป
แอพอีกตัวที่ได้อัพเดตพร้อมกันคือ Notepad ได้ฟีเจอร์จาก Copilot ตรงตามข่าวหลุดก่อนหน้านี้ ชื่อว่า Explain with Copilot (Ctrl+E) สามารถให้ Copilot ช่วยอธิบายข้อความที่เลือกได้ ซึ่งมีค่าเท่ากับการคัดลอกข้อความที่ต้องการไปใส่ในแถบ sidebar ของ Copilot โดยตรง
แอพทั้งสองตัวยังเปิดทดสอบเฉพาะกลุ่ม Windows Insider Dev และ Canary
Shilpa Ranganathan รองประธานฝ่าย Windows ของไมโครซอฟท์ โพสต์ภาพ Copilot for Windows เวอร์ชันใหม่ที่ขนาดของ sidebar กว้างกว่าเดิม มีพื้นที่ให้กับช่องแชทมากขึ้น เธอยังบอกว่าตอนนี้เราสามารถยืดหดขนาดของ Copilot ได้แล้วด้วย
ไมโครซอฟท์ยังไม่ประกาศข่าวนี้ใน Windows Insider เวอร์ชันใด คาดว่ายังมีเฉพาะ Build ภายในบริษัทเท่านั้น และอีกไม่นานถึงจะปล่อยให้ผู้ใช้กลุ่ม Insider กัน
ที่มา - Thurrott
มีรายงานพบการทดสอบรองรับคำสั่ง Sudo ใน Windows 11 ซึ่งพบใน Windows Server รุ่นพรีวิวล่าสุด โดยอยู่ในส่วนการตั้งค่า Developer ที่ต้องเปิดใช้งานก่อน ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงสิทธิระดับผู้ดูแลได้
อย่างไรก็ตามการพบตัวเลือกคำสั่ง sudo นี้ มาจากพรีวิวที่อัพเดตเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และไมโครซอฟท์ยังไม่ประกาศฟีเจอร์นี้อย่างเป็นทางการ จึงต้องรอดูกันว่าจะเปิดใช้งานทั่วไปตอนไหน โดยการทดสอบพบว่าเมื่อสั่งเปิดใช้งาน Sudo จะมีกล่องข้อความเตือนซ้ำอีกครั้งว่าผู้ใช้งานเข้าใจความเสี่ยงของการเปิดใช้ sudo ด้วย
กูเกิลออก Chrome รุ่นทดสอบบน Windows 11 Arm แบบเงียบๆ โดยตอนนี้ยังเป็น Chrome Canary รุ่นทียังไม่เสถียร
กูเกิลไม่ได้ประกาศข่าวนี้ตามช่องทางต่างๆ ว่าทำไมเพิ่งออก Chrome บน Windows on Arm หลังผู้ใช้เรียกร้องกันมายาวนาน และ Chrome เองก็มีเวอร์ชันซีพียู Arm ทั้งบน macOS และ ChromeOS อยู่ก่อนแล้ว (Microsoft Edge Chromium เริ่มรองรับซีพียู Arm มาตั้งแต่ปี 2019)
คาดว่าเหตุผลที่กูเกิลยอมทำเวอร์ชัน Windows on Arm น่าจะมาจากสินค้าพีซีกลุ่มที่ใช้ Snapdragon X Elite เตรียมเปิดตัวกันช่วงกลางปีนี้ ซึ่งจะช่วยปลุกกระแส Arm ฝั่ง Windows ให้เติบโตอีกมาก
เมื่อปลายปีที่แล้วมีข่าวลือจาก Windows Central บอกว่าระบบปฏิบัติการ Windows ของปี 2024 จะเรียกว่า Windows 12 ชูฟีเจอร์ด้าน AI
แต่ล่าสุด Windows Central รายเดิมอ้างแหล่งข่าวว่า น่าจะยังเรียก Windows 11 ต่อไปก่อน โดยคงระบบเลขเวอร์ชันแบบเดิมคือ 24H2 ที่ออกช่วงครึ่งหลังของปีนี้
แหล่งข่าวของ Windows Central ให้เหตุผลที่ไมโครซอฟท์ยังเรียก Windows 11 ต่อไปเป็นเพราะ Panos Panay หัวหน้าทีม Windows ลาออกจากไมโครซอฟท์ ถึงแม้ไม่มีรายละเอียดมากกว่านั้น แต่ก็พอเดาได้ว่าเป็นเพราะทิศทางของทีม Windows ยังไม่นิ่ง ไมโครซอฟท์จึงอาจเลือกไม่เสี่ยงเปลี่ยนเลขเวอร์ชันใหญ่ก็เป็นได้
ไมโครซอฟท์ออก Windows 11 Insider Preview Build 23619 (Dev Channel) มีฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจคือ ส่งภาพจากมือถือ Android ไปยังแอพ Snipping Tool บนพีซีได้อัตโนมัติ
วิธีใช้งานต้องตั้งค่า Settings > Bluetooth & devices > Mobile devices เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับพีซีก่อน และเลือกเปิด Get new photo notifications
เมื่อเราถ่ายภาพหรือจับภาพหน้าจอบนมือถือ จะมีการแจ้งเตือนขึ้นมาบนจอพีซีทันทีว่า New photo และหากต้องการนำภาพนั้นไปใช้ต่อบนพีซี ก็สามารถกดเพื่อเรียกภาพขึ้นมาในแอพ Snipping Tool เพื่อตัดแต่งภาพก่อนอีกรอบได้เลย
ไมโครซอฟท์ออก Windows 11 Insider Preview Build 23615 (Dev Channel) มีฟีเจอร์ใหม่สำคัญคือรองรับ USB4 v2 มาตรฐานใหม่ที่เพิ่งออกในปี 2022 รองรับการส่งข้อมูลเพิ่มเป็น 80 Gbps บนสาย USB Type-C ของเดิมที่เคยทำได้ 40 Gbps บน v1
ตอนนี้ฮาร์ดแวร์ที่รองรับแล้วคืออุปกรณ์กลุ่ม Intel Core 14th Gen HX ที่เพิ่งเปิดตัว ได้แก่โน้ตบุ๊กเกมมิ่งรุ่นใหม่ๆ ของปีนี้ เช่น Razer Blade 18 เป็นต้น
ไมโครซอฟท์ยังไม่เคยออกมาแถลงใดๆ เกี่ยวกับแผนการออก Windows ของปี 2024 ที่ลือกันว่าใช้โค้ดเนม Hudson Valley และจะเรียกว่า Windows 12 รวมถึงแผนการเรียกชื่อฮาร์ดแวร์ว่า AI PC
อย่างไรก็ตาม ในการเปิดตัวโน้ตบุ๊ก Dell XPS ของปี 2024 มีคนเห็นข้อความดอกจันตัวเล็กๆ ว่าฟีเจอร์ Wi-Fi 7 ของ XPS จำเป็นต้องรออัพเดต Windows 11 v24H1 ที่จะเปิดให้ดาวน์โหลดเดือนเมษายน 2024 และจะพรีโหลดมาพร้อมเครื่องตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2024 เป็นต้นไป
ไมโครซอฟท์ประกาศผลักดันให้ปี 2024 เป็นปีของ AI PC โดยเพิ่มปุ่ม Copilot บนคีย์บอร์ดสำหรับพีซี Windows 11 ในปีนี้ ทำให้ผู้ใช้งานเรียกใช้งานฟังก์ชัน AI บน Windows ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
ตำแหน่งของปุ่ม Copilot อยู่ที่ด้านขวา มาแทนที่ปุ่ม Menu เดิม ซึ่งก่อนหน้านี้ไมโครซอฟท์ก็เคยลองแทนที่ด้วยปุ่ม Office มาก่อน
ไมโครซอฟท์ออก Windows 11 Insider Preview Build 26020 (Canary Channel) มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญสำหรับผู้ใช้ทั่วไปดังนี้
ไมโครซอฟท์อัพเดต Windows 11 ให้กับกลุ่มทดสอบ Windows Insider เบต้า ซึ่งมีรายงานฟีเจอร์ใหม่ใน Windows Update ผู้ใช้สามารถเลือกลง Windows ใหม่ได้ผ่านคำสั่ง Fix Problems using Windows Update โดยไฟล์ข้อมูล โปรแกรม และการตั้งค่ายังคงอยู่ทั้งหมด
เดิมหากผู้ใช้พบปัญหา Windows และต้องการลง Windows ใหม่ ต้องใช้วิธี in-place upgrade ซึ่งจะมีขั้นตอนเพื่อสำรองข้อมูล โปรแกรม และการตั้งค่าเดิมไว้ แต่ต้องใช้เวลามาก วิธีการใหม่ที่ไมโครซอฟท์เพิ่มมาผ่าน Windows Update น่าจะช่วยแก้ปัญหาที่หลายคนเคยประสบให้ง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตามตอนนี้คำสั่งดังกล่าวยังปรากฏเพียงปุ่มคำสั่งเท่านั้น แต่ยังไม่สามารถใช้งานได้ตอนนี้ โดยคาดว่าฟีเจอร์นี้จะมีกับผู้ใช้งานทั่วไป เร็วที่สุดภายในอัพเดตช่วงไตรมาส 1 ปี 2024
Patch Tuesday ประจำเดือนธันวาคมล่าสุดของ Windows 11 พบปัญหาในแพทช์ KB5032288 และ KB5033375 ทำให้ผู้ใช้หลายมีปัญหาการเชื่อมต่อ Wi-Fi สาธารณะ หรือในองค์กรและสถานศึกษา (แต่ปัญหานี้ไม่พบหากเชื่อมต่อกับ Wi-Fi ส่วนตัวในบ้าน)
ล่าสุดไมโครซอฟท์ออกคำแนะนำให้ถอนการติดตั้ง (Known Issue Rollback - KIR) แพทช์ล่าสุดออกแล้ว เพื่อแก้ปัญหาเบื้องต้น พร้อมระบุว่าจะออกอัพเดตแก้ปัญหาตามมาในเร็วๆ นี้
ที่มา - Computer World
ถึงแม้ Windows 11 ใช้แกนภายในตัวเดียวกับ Windows 10 แต่ก็มี shell บางส่วนที่แตกต่างกัน จุดสำคัญคือ Start Menu และ Taskbar แบบใหม่ที่เป็นคนละโปรแกรมกันเลย
ที่ผ่านมา ผู้ใช้ Windows 11 มีวิธีเรียก Taskbar ตัวเดิมของ Windows 10 กลับมาใช้งานได้ เพราะไมโครซอฟท์แค่ซ่อนไว้เฉยๆ เท่านั้น แต่ล่าสุดมีคนค้นพบว่าใน Windows 11 Insider Preview Build 26002 (Canary Channel) ไมโครซอฟท์ปิดไม่ให้ใช้งาน Taskbar ตัวเดิมแล้ว โดยมีการตั้งค่าแบบใหม่ชื่อ DisableWin10Taskbar เพิ่มเข้ามาในระบบ
ไมโครซอฟท์ออก Windows 11 Insider Preview Build 23595 (Dev Channel) มีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจคือปุ่ม Copilot ถูกย้ายไปแทนปุ่ม Show Desktop ด้านขวาสุดของทาสก์บาร์ (สามารถเปิดคืนได้ใน Settings แต่ค่าดีฟอลต์จะเป็น Copilot) ด้วยเหตุผลว่าไมโครซอฟท์อยากให้ปุ่ม Copilot เด่นสะดุดตา เรียกใช้งานได้ง่ายขึ้นเมื่ออยู่ที่ขอบจอ
ต้องรอดูกันว่าเสียงตอบรับจากผู้ใช้จะเป็นอย่างไร จะทำให้ไมโครซอฟท์เปลี่ยนใจแก้กลับหรือไม่
ที่มา - Windows Insider Blog, Neowin
ไมโครซอฟท์ประกาศอัพเดตฟีเจอร์ใหม่ให้แอพ Windows Photos ของ Windows 11 Insider ดังนี้
ไมโครซอฟท์ประกาศปรับ Windows 11 ตามกฎหมายการแข่งขัน Digital Markets Act (DMA) ของเขตเศรษฐกิจยุโรป (European Economic Area หรือ EEA) โดยมีสาระสำคัญดังนี้
ไมโครซอฟท์ออก Patch Tuesday รอบเดือนพฤศจิกายน 2023 โดยแพตช์รอบเดือนนี้ นอกจากเป็นแพตช์ความปลอดภัยตามปกติแล้ว ยังมีอัพเดตฟีเจอร์ Windows 11 23H2 ที่รวมฟีเจอร์รอบเดือนกันยายน 2023 มาด้วย คนที่ยังไม่ได้กดอัพเดตช่วงก่อนหน้านี้ หากมากดอัพเดตแพตช์เดือนพฤศจิกายนตามรอบปกติ ก็จะได้ทุกอย่างไปด้วย
ส่วนคนที่อัพเดตฟีเจอร์ไปหมดแล้ว รวมถึงคนที่ใช้ Windows 10 ก็จะได้แพตช์ความปลอดภัยอย่างเดียว
ไมโครซอฟท์ชี้แจงประเด็นที่มีคนพบว่า OneDrive บน Windows เวอร์ชันที่อัพเดตล่าสุด แสดงหน้าต่างถามให้บอกเหตุผลหากปิดโปรแกรม ว่าทำไมถึงตัดสินใจปิดโปรแกรม ซึ่งดูเพิ่มความยุ่งยากกับผู้ใช้งาน
โดยตัวแทนของไมโครซอฟท์บอกว่า ตั้งแต่ 1-8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ลูกค้า OneDrive กลุ่มเล็ก ๆ จะพบการแสดงหน้าต่างขึ้นมาเมื่อปิดตัวซิงก์ไฟล์ของ OneDrive ซึ่งเป็นการสอบถามความเห็นถึงเหตุผลที่เลือกปิดโปรแกรม ความเห็นประเภทนี้ช่วยให้ไมโครซอฟท์นำมาปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้ดีขึ้น
ก็สรุปได้ว่าการทดสอบนี้สิ้นสุดแล้ว ไม่น่าจะมีผู้ใช้งานเห็นข้อความสอบถามอีก
มีรายงานจากผู้ใช้จำนวนหนึ่ง พบว่าในโปรแกรม OneDrive บน Windows 11 เวอร์ชันล่าสุด จะขึ้นหน้าต่างสอบถามข้อมูลเมื่อสั่งปิดโปรแกรม โดยให้เลือกเหตุผลว่าทำไมจึงปิด OneDrive และต้องตอบก่อนจึงจะสามารถปิดโปรแกรมได้
ตัวเลือกที่มีได้แก่: ไม่ต้องการให้ OneDrive รันตลอดเวลา, ไม่รู้ว่า OneDrive คืออะไร, ไม่ได้ใช้ OneDrive, เป็นการแก้ปัญหาที่เกิดกับ OneDrive, ต้องการให้คอมพิวเตอร์เร็วขึ้น, แจ้งเตือนเยอะเกินไป และอื่น ๆ
การทำแบบสอบถามข้อมูลเพื่อนำไปปรับปรุงผลิตภัณฑ์นั้นอาจเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ แต่อาจจะดูจุกจิกหน่อยหากมาถามตอนต้องการปิดโปรแกรม ทั้งนี้ไม่พบว่าการถามข้อมูลเกิดกับผู้ใช้งานทุกคน
เว็บไซต์ Windows Central รายงานข่าวลือว่าไมโครซอฟท์จะขยายฟีเจอร์ Copilot ของ Windows 11 ไปยัง Windows 10 ด้วย เพื่อเพิ่มฐานผู้ใช้งาน Copilot ให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
Windows 10 ไม่ได้อัพเดตฟีเจอร์ใหม่ๆ มานานแล้ว และจะหมดระยะซัพพอร์ตในปี 2025 (ครบ 10 ปีหลังออก Windows 10 เวอร์ชันแรก) แต่ก็ยังมีฐานผู้ใช้งานจำนวนมากถึง 1 พันล้านเครื่อง (เทียบกับ Windows 11 มีราว 400 ล้านเครื่อง) ด้วยเหตุผลสำคัญคือฮาร์ดแวร์เก่าไม่สามารถอัพเกรดไปเป็น Windows 11 ได้