ไมโครซอฟท์ออก Windows 11 Insider Preview Build 27744 Canary Channel มีของใหม่ที่น่าสนใจคือ ตัวอีมูเลเตอร์ Prism สำหรับรันแอพเก่า x86 บนซีพียูสถาปัตยกรรม Arm รองรับชุดคำสั่งส่วนขยายเพิ่มเติม (instruction set extension) ของซีพียูตระกูล x86 เช่น AVX, AVX2, BMI, FMA, F16C
ฟีเจอร์นี้จะทำให้แอพหรือเกม x86 บางตัวที่เรียกใช้ชุดคำสั่งเหล่านี้สามารถรันบน Arm ได้แล้ว ไมโครซอฟท์บอกว่าก่อนหน้านี้ได้เปิดใช้งานฟีเจอร์นี้สำหรับ Adobe Premiere Pro 25 มาแบบเงียบๆ โดยจำกัดเฉพาะบางแอพเท่านั้น แต่หลังจากนี้ไปจะเปิดให้ใช้กับแอพ x64 ทุกตัวที่นำไปรันบน Arm แล้ว (ส่วนแอพ 32 บิตยังไม่รองรับ)
ก่อนหน้านี้ไมโครซอฟท์ประกาศว่าฟีเจอร์จับหน้าจอ Recall ใน Windows 11 ที่เป็น Copilot+ PC จะเริ่มอัปเดตให้กับกลุ่มทดสอบ Windows Insider ในเดือนตุลาคม แต่เข้าสู่พฤศจิกายนแล้วฟีเจอร์นี้ก็ยังไม่มา
ตัวแทนของไมโครซอฟท์ยืนยันการเลื่อนออกฟีเจอร์นี้ โดยชี้แจงว่า บริษัทต้องการเพิ่มความมั่นใจว่าฟีเจอร์ Recall นี้ปลอดภัยและเชื่อถือได้ จึงใช้เวลาเพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงการใช้งานก่อนจะเผยแพร่ในสถานะพรีวิวกับกลุ่ม Windows Insider ในเดือนธันวาคม
ไมโครซอฟท์อัพเดตความสามารถให้แอพจับภาพหน้าจอ Snipping Tool คราวนี้มาอย่างเหนือ ด้วยการจับภาพหน้าจอที่เป็นตาราง แล้วสามารถ Copy as table ไปใส่ใน Word, Excel หรือแอพลักษณะเดียวกันตัวอื่นๆ ได้ด้วย
ก่อนหน้านี้ Snipping Tool เพิ่มความสามารถอ่านข้อความในภาพ และอ่าน QR code การขยายมาสู่การอ่านฟอร์แมตตาราง ยิ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้มากขึ้น
แอพจะต้องอัพเดตเป็นเวอร์ชัน 11.2409.22.0 โดยตอนนี้ยังใช้ได้กับ Windows Insiders Canary/Dev Channels เท่านั้น
Windows 11 Insider Preview Build 22635.4367 (Beta Channel) เพิ่มฟีเจอร์ที่มีประโยชน์ แต่มาพร้อมกับคำถามว่าทำไมไมโครซอฟท์เพิ่งคิดได้
ปกติแล้วคำสั่ง Share ของ Windows กดแล้วจะเปิดหน้า Share Sheet ขึ้นมาในลักษณะเดียวกับระบบปฏิบัติการบนมือถือ ซึ่งอาจไม่สะดวกนักสำหรับการควบคุมที่ใช้เมาส์บนเดสก์ท็อป
ล่าสุดไมโครซอฟท์ปรับให้อินเทอร์เฟซใหม่ ให้เราสามารถคลิกขวาที่ไฟล์ เลือกเมนู Share แล้วมีเมนูย่อยแสดงรายการแอพที่อยากแชร์ไปได้เลย ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ที่ต้องการแชร์ไฟล์ไปยังแอพต่างๆ จากหน้าจอเดสก์ท็อปหรือ File Explorer ได้มาก
ไมโครซอฟท์ออกอัพเดต Patch Tuesday รอบเดือนตุลาคม 2024 ให้กับ Windows 11 นอกจากแพตช์ความปลอดภัยประจำเดือนแล้ว หากใช้ Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 จะได้ของใหม่ที่สำคัญคือแอพ Settings สามารถตั้งค่าทิศทางการเลื่อนลูกกลิ้ง scroll wheel ของเมาส์ได้แล้ว
ในประวัติศาสตร์ของ Windows ตลอดยุค Control Panel ที่ผ่านมา เราไม่สามารถตั้งค่า scroll wheel ของเมาส์ได้ว่าจะให้เลื่อนหน้าจอแบบขึ้นหรือลง (ของทัชแพดตั้งค่า scroll direction ได้ แต่เมาส์ทำไม่ได้) ผู้ใช้ที่ต้องการปรับค่านี้ต้องไปหาซอฟต์แวร์ภายนอกมาใช้กันเอง แต่ล่าสุด Windows ตั้งค่าตรงนี้ได้แล้ว
ไมโครซอฟท์ประกาศปล่อยอัพเดต Windows 11 24H2 ถือเป็นอัพเดตใหญ่ของปีนี้
เนื่องจากในยุคปัจจุบัน จักรวาลไมโครซอฟท์ถูกแบ่งชนชั้นเรียบร้อยคือ ชนชั้นสูง Copilot+ PC และชนชั้นรากหญ้าพีซีทั่วไป ชุดฟีเจอร์ใหม่ของ Windows 11 24H2 จึงไม่เท่ากัน (ถ้าอยากเลื่อนฐานะก็ใช้เงินแก้ปัญหา ซื้อพีซีใหม่)
ชนชั้นสูง Copilot+ PC จะได้ฟีเจอร์เอ็กซ์คลูซีฟ 5 ประการ ดังนี้
ไมโครซอฟท์เพิ่มฟีเจอร์ขยายภาพ Super resolution ให้กับแอพดูภาพ Microsoft Photos ของ Windows 11 24H2
ฟีเจอร์นี้อิงอยู่บน Automatic Super Resolution (AutoSR) ของ Windows 11 ที่ใช้ NPU ช่วยขยายภาพให้คมชัดขึ้น ซึ่งต้องใช้กับพีซีกลุ่มที่เป็น Copilot+ PC เท่านั้น ก่อนหน้านี้ ฟีเจอร์ AutoSR ถูกใช้งานกับการเล่นเกมบน Copilot+ PC ล่าสุดขยายมายังแอพ Photos ด้วย
เมื่อต้นปี ไมโครซอฟท์เพิ่มฟีเจอร์แก้ไขภาพแบบลบวัตถุออกได้ให้ Photos ซึ่งใช้ได้กับทุกเครื่อง ไม่จำกัดเฉพาะ Copilot+ PC
ไมโครซอฟท์ยกระดับฟีเจอร์การค้นหาไฟล์ใน Windows Search ด้วยพลัง AI ให้สามารถค้นหารูปภาพ เอกสาร ตามลักษณะของคำค้นได้ เช่น ค้นด้วยคำว่า "BBQ party" จะได้ภาพที่เกี่ยวข้องกับบาร์บีคิว โดยไม่จำเป็นต้องมีชื่อไฟล์หรือคีย์เวิร์ดตรงเป๊ะๆ เลย
ผู้ใช้ Google Photos หรือบริการเก็บภาพยุคใหม่คงคุ้นเคยกับการค้นหาแบบนี้มานานแล้ว แต่ตอนนี้ Windows 11 เพิ่งทำได้ด้วยพลังของ NPU ในพีซี Copilot+ ที่แปลความวัตถุในรูปภาพได้แล้วนั่นเอง
ฟีเจอร์นี้มีเฉพาะบน Copilot+ PC และจะเริ่มเปิดทดสอบในเร็วๆ นี้ ใช้ได้ทั้งใน File Explorer และช่องค้นหา Windows Search Box
ไมโครซอฟท์เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อ Click to Do ให้กับ Windows 11 v24H2 รุ่นใหม่ล่าสุด แต่เฉพาะกับพีซีกลุ่ม Copilot+ PC เท่านั้น
คนที่เคยใช้ฟีเจอร์ Circle to Search ของฝั่ง Android น่าจะคุ้นเคยกับฟีเจอร์ลักษณะนี้ มันคือการคลิกที่ภาพใดๆ บนหน้าจอ ณ ตอนนั้น แล้วค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับภาพนั้น (ของไมโครซอฟท์ผ่าน Bing Visual Search) หรือสั่งงานอื่นๆ เกี่ยวกับการแต่งภาพ เช่น ลบภาพพื้นหลัง ลบวัตถุ
วิธีใช้งาน Click to Do บน Windows 11 คือกดปุ่ม Windows บนคีย์บอร์ดค้างไว้ แล้วเอาเมาส์คลิกที่ภาพใดๆ บนหน้าจอได้เลย หรือจะกดช็อตคัต Win+Q ก็ได้เช่นกัน (ใช้กับแอพอะไรก็ได้ เพราะเป็นการทำงานระดับวินโดวส์ มองภาพที่ปรากฏบนจอ ไม่ว่าจะเป็นข้อความ ภาพนิ่ง หรือวิดีโอ)
ไมโครซอฟท์ออกมาอธิบายถึงแนวทางป้องกันข้อมูลส่วนตัวของ ฟีเจอร์ Recall ใน Windows 11 ที่บันทึกหน้าจอของพีซีเป็นระยะๆ เพื่อให้ค้นหาข้อมูลย้อนหลังได้ ฟีเจอร์นี้เปิดตัวในเดือนพฤษภาคม แต่ถูกวิจารณ์เรื่องความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว จนสุดท้ายไมโครซอฟท์ยอมเลื่อนฟีเจอร์นี้ออกไปก่อน นำไปแก้ไขปรับปรุงและเตรียมกลับมาทดสอบกับกลุ่ม Insider ในเดือนตุลาคม
หลังไมโครซอฟท์ประกาศเพิ่มปุ่ม Copilot ลงมาในคีย์บอร์ดของ Copilot+ PC (เบื้องหลังการทำงานของปุ่ม) อาจมีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ แต่ล่าสุดไมโครซอฟท์ผ่อนคลายยอมให้ตั้งค่าปุ่ม Copilot เป็นอย่างอื่นได้แล้ว
James McWhirter นักวิเคราะห์จากบริษัทวิจัย Omdia รายงานผลการศึกษาพบว่าคอมพิวเตอร์ระบบปฏิบัติการ Windows ที่เป็น Copilot+ PC ซีพียูสถาปัตยกรรม Arm พบว่ายังมีข้อจำกัดอยู่มากสำหรับการเล่นเกม โดยในเกมที่เป็นที่นิยม 1,300 เกม มีประมาณครึ่งหนึ่งเท่านั้นที่เล่นเกมได้ลื่น และไม่มีบั๊ก
ไมโครซอฟท์ประกาศปล่อยอัพเดตฟีเจอร์ Copilot+ PC ให้พีซีกลุ่มที่ใช้ซีพียู x86 คือ AMD Ryzen AI 300 และ Intel Core Ultra 200V เริ่มในเดือนพฤศจิกายน 2024
ที่ผ่านมา โน้ตบุ๊กนับเป็น Copilot+ PC และได้ฟีเจอร์พลัง AI ยังเป็นเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะ Qualcomm Snapdragon X เท่านั้น ฟีเจอร์กลุ่มนี้ได้แก่ Live Captions ของวิดีโอ, Windows Studio Effects เบลอพื้นหลังตอนวิดีโอคอลล์, Cocreate ใน Paint, Windows Recall ย้อนความทรงจำ
มีรายงานการค้นพบใน Windows 11 อัปเดตเวอร์ชัน 24H2 ล่าสุด ที่เพิ่มฟีเจอร์ Recall บันทึกข้อมูลหน้าจอ ช่วยผู้ใช้งานค้นหาได้ว่าเคยทำอะไรไว้ตอนไหน ซึ่งถูกท้วงติงเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว จนไมโครซอฟท์เลื่อนการออกอัปเดตมาเป็นเดือนตุลาคม
โดยหน้าจอที่ผู้ใช้งานพบระบุว่า Recall เป็น Optional Features ใน Windows ที่สามารถถอนการติดตั้ง (Uninstall) จาก Control Panel ออกไปได้ อย่างไรก็ตามตัวแทนของไมโครซอฟท์บอกว่าเรื่องนี้เป็นความผิดพลาด และจะถูกแก้ไขในอัปเดตถัดไป
สถิติผู้ใช้งาน Steam รอบเดือนสิงหาคม 2024 มีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจคือ Windows 11 แซงหน้า Windows 10 ได้สำเร็จแล้ว โดยผู้ใช้ Windows 11 มีสัดส่วน 49.17% ของผู้ใช้ทั้งหมด (+3.36%) เอาชนะ Windows 10 ที่สัดส่วนลดลงเหลือ 47.09% (-3.07%) ได้เป็นครั้งแรก ถ้านับรวมผู้ใช้วินโดวส์ทั้งหมดคิดเป็น 96.78% ของ Steam
ระบบปฏิบัติการที่นิยมเป็นอันดับถัดมาคือ ลินุกซ์ 1.92% ตามด้วยแมค 1.30% ซึ่งลินุกซ์เอาชนะแมคได้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2023 หรือหนึ่งปีก่อนหน้านี้พอดี ด้วยปัจจัยเรื่อง Steam Deck ที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยผู้ใช้ Arch Linux (ซึ่งใช้งานใน SteamOS) มีสัดส่วน 0.16% ของผู้ใช้ Steam ทั้งหมด
จากข่าวก่อนหน้านี้ว่า AMD ออกแพตช์ให้ Windows 11 ทำงานกับซีพียู Ryzen ดีขึ้น โดยแพตช์มีเฉพาะ Windows 11 24H2 ที่ยังมีสถานะ Insider เท่านั้น
ล่าสุด AMD ประกาศแล้วว่าผู้ใช้ Windows 11 23H2 รุ่นเสถียรในปัจจุบัน จะได้แพตช์ตัวนี้ด้วย (เป็นการ backport ย้อนกลับให้โดยไมโครซอฟท์) โดยผู้ใช้ต้องเลือกติดตั้งแพตช์เพิ่มกันเองจากเซคชั่น Optional Updates รหัสแพตช์ KB5041587 นับเป็นแพตช์รอบเดือนสิงหาคม 2024
แพตช์ตัวนี้จะช่วยทำเรื่อง branch prediction ให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น มีผลกับซีพียูแกน Zen 3, Zen 4, Zen 5 โดยจะเห็นผลชัดที่สุดในกลุ่ม Zen 5
สัปดาห์นี้มีผู้ใช้ Windows 10/11 ที่ติดตั้งแพตช์ความปลอดภัยรอบเดือนสิงหาคม 2024 รายงานว่าเกิดปัญหาไม่สามารถบูตเข้าลินุกซ์ในระบบที่เป็น dual boot ได้ ล่าสุดไมโครซอฟท์ยืนยันปัญหานี้แล้ว
แพตช์ความปลอดภัยตัวนี้ ตั้งใจออกมาเพื่ออุดช่องโหว่ของ GRUB ระบบเลือกบูตที่ใช้งานแพร่หลายในโลกลินุกซ์ ช่องโหว่นี้เปิดทางให้แฮ็กเกอร์สามารถข้ามระบบ secure boot ได้ มันถูกค้นพบมานาน 2 ปี และมีคะแนนความรุนแรง 8.6/10
AMD เริ่มวางขายซีพียู Ryzen 9000 ช่วงต้นเดือนสิงหาคมนี้ โดยโฆษณาว่าใช้แกน Zen 5 ที่มีจำนวนคำสั่งต่อรอบ (IPC) สูงกว่า Zen 4 ถึง 16% อย่างไรก็ตาม ผลการรีวิวของเว็บไซต์ฮาร์ดแวร์ต่างๆ ออกมาในทางเดียวกันว่า ประสิทธิภาพของ Ryzen 9000 ไม่ได้เพิ่มจาก Ryzen 7000 มากเท่าที่โฆษณาไว้
AMD ออกมาชี้แจงผ่านบล็อกของบริษัทใน 2 ประเด็น
ไมโครซอฟท์ปรับข้อความในเอกสาร Windows Support ว่าแอพ Control Panel ที่อยู่คู่กับ Windows มายาวนานตั้งแต่ Windows 1.0 ในปี 1985 (39 ปีก่อน) กำลังจะเข้าสถานะ "ล้าสมัย" (deprecated) และถูกแทนที่ด้วยแอพ Settings
แอพ Settings ถูกเริ่มนำมาใช้งานใน Windows 8 และค่อยๆ เปลี่ยนผ่าน ทยอยนำฟีเจอร์จาก Control Panel เข้ามาใส่อย่างช้าๆ
ไมโครซอฟท์อัปเดตแผนการปล่อยฟีเจอร์ Recall ใน Windows 11 ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกวิจารณ์เรื่องความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัว ทำให้ประกาศเลื่อนออกไปก่อน โดย Recall จะเริ่มทดสอบกับผู้ใช้งานกลุ่ม Windows Insider ตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป
Recall เป็นฟีเจอร์จับหน้าจอใน Windows 11 เฉพาะรุ่น Copilot+ PC ที่ไมโครซอฟท์บอกว่าช่วยย้อนเวลาได้ว่าเราทำอะไรไปตอนไหน โดยใช้ AI ช่วยประมวลผล ทำให้ค้นหาสิ่งที่ต้องการได้ เช่น เปิดไฟล์หรือเอกสารนี้เวลาใด เป็นต้น
ประเด็นขัดแย้งสำคัญของ Windows 11 คือบังคับต้องมีชิป TPM โดยไมโครซอฟท์ให้เหตุผลด้านความปลอดภัย เพราะฮาร์ดแวร์พีซีรุ่นเก่าหน่อยมักไม่มีชิป TPM มาด้วย ทำให้อัพเกรดมาใช้ Windows 11 ไม่ได้
ในวงการเองมีท่า workaround เลี่ยงการบังคับตรวจ TPM โดยอาศัยว่าหากติดตั้งระบบปฏิบัติการเป็นเซิร์ฟเวอร์ ไมโครซอฟท์จะไม่บังคับว่าต้องมี TPM ทำให้พีซีเก่าที่ไม่มี TPM ยังสามารถติดตั้ง Windows 11 อย่างถูกต้องได้
ไมโครซอฟท์เพิ่มของใหม่ให้ Windows 11 Insider Preview Build 27686 (Canary Channel) โดยหน้า Power Settings สามารถตั้งค่า Power Mode แยกกันระหว่างตอนเสียบปลั๊ก (plugged in) กับตอนใช้แต่แบตเตอรี่ (on battery) ได้แล้ว
ก่อนหน้านี้ผู้ใช้สามารถปรับค่าได้แต่การปิดหน้าจอ และระยะเวลาให้เครื่องหลับ แยกกันระหว่างตอนเสียบปลั๊กกับตอนไม่เสียบปลั๊ก คราวนี้เพิ่มมาถึง Power Mode ให้ทำงานได้ละเอียดขึ้น โดยผู้ใช้เลือกได้ 3 โหมดเหมือนเดิมคือ Best power efficiency, Balanced, Best performance
Build 27686 ยังปรับปรุงการทำงานของแบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้น (ไม่บอกว่าอย่างไรบ้าง) และแอพ Settings เพิ่มตัวเลือกของใหม่เพิ่มเติมอีก ได้แก่
ไมโครซอฟท์มีฟีเจอร์ Windows Sandbox เป็นการรันวินโดวส์ซ้อนวินโดวส์ (รันในคอนเทนเนอร์) มาตั้งแต่ยุค Windows 10 แต่จำกัดเฉพาะรุ่น Pro เท่านั้น หน้าที่ของมันมีไว้ทดสอบแอพใหม่ๆ โดยไม่ต้องกลัวว่าระบบปฏิบัติการหลักจะพังหรือติดมัลแวร์
ล่าสุดใน Windows 11 Insider Preview Build 27686 (Canary Channel) ไมโครซอฟท์เพิ่มความสามารถของ Windows Sandbox ให้ใกล้เคียงกับแอพสาย virtualization ตัวอื่นๆ ที่จับกลุ่มลูกค้าเดียวกัน
Windows 11 Insider Preview บิลด์ล่าสุด 27686 มีการปรับปรุงเพิ่มลิมิตของสตอเรจเมื่อฟอร์แมทแบบ FAT32 ผ่านคอมมานด์ไลน์ จากเดิมที่ลิมิตที่ 32GB ให้กลายเป็น 2TB แล้ว โดยการปรับลิมิตนี้มีผลเฉพาะการฟอร์แมทผ่านคอมมานด์ไลน์เท่านั้น การฟอร์แมทด้วยหน้าต่างคำสั่งฟอร์แมทปกติยังคงติดลิมิตอยู่
ลิมิต 32GB บน FAT32 ถูกกำหนดมาตั้งแต่ Windows 95 ราวๆ 30 ปีได้แล้ว โดย Dave Plummer อดีตนักพัฒนา Windows ของไมโครซอฟท์เคยโพสต์บน X เล่าว่าเจ้าตัวเป็นคนรับผิดชอบเรื่องหน้าต่างฟอร์แมทบน Windows นี้เอง แล้วเขาเองก็เป็นคนกำหนดลิมิตที่ 32GB และมันไม่เคยถูกแตะต้องเลย
ไมโครซอฟท์ประกาศหยุดซัพพอร์ต Paint 3D แอพวาดภาพที่รองรับ 3D ที่เริ่มใส่เข้ามาใน Windows 10 Creators Update โดยมีผลวันที่ 4 พฤศจิกายน 2024
ตอนนี้ยังไม่มีเหตุผลอย่างเป็นทางการว่าทำไม Paint 3D ถึงเลิกทำ (คาดว่าเป็นเพราะไม่มีใครใช้) ยังมีแค่ประกาศในตัวแอพ Paint 3D สำหรับผู้ใช้กลุ่ม Insider เท่านั้น