J.T. Wang ประธานและซีอีโอของ Acer ให้สัมภาษณ์บ่นถึงกระบวนการพัฒนา "แท็บเล็ตวินโดวส์" ที่ไมโครซอฟท์คุมเข้มทุกจุดอย่างละเอียด ซึ่ง Wang บอกว่าเป็นปัญหากับเขามาก (very troublesome)

ตามข่าวบอกว่าไมโครซอฟท์กำหนดละเอียดถึงยี่ห้อของหน่วยประมวลผลที่จะใช้บนแท็บเล็ต ซึ่งก็มีข่าวลือมาอีกว่าเป็น NVIDIA อย่างไรก็ตามการคุมเข้มของไมโครซอฟท์อาจช่วยให้พัฒนาผลิตภัณฑ์ได้เร็วขึ้น และการันตีว่าผลิตภัณฑ์ออกมาแล้วจะทำงานได้ราบรื่น

กระแสข่าวหลายสายบอกตรงกันว่า ไมโครซอฟท์จะเปิดตัวแท็บเล็ตวินโดวส์ในสัปดาห์นี้ ซึ่งน่าจะใช้เวทีงาน All Things D เป็นที่เปิดตัว

ช่วงนี้งาน Computex ที่ไต้หวัน ก็มีบริษัทฮาร์ดแวร์เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่กันอีกชุดใหญ่ พระเอกของงานก็แน่นอนว่าเป็น "แท็บเล็ต" สินค้าที่ฮ็อตที่สุดในช่วงนี้

ข่าวนี้เป็นของ ViewSonic ซึ่งเปิดตัวแท็บเล็ตใหม่อีกสองตัวคือ ViewPad 10Pro และ ViewPad 7x

ViewSonic เคยทำแท็บเล็ต 10" แบบสองโอเอสมาก่อนแล้วในชื่อ ViewPad 10 คราวนี้ได้อัพเดตสายผลิตภัณฑ์เป็น ViewPad 10Pro

ซีพียูเป็น Atom ตัวใหม่ Z670 รหัส Oak Trail ความเร็ว 1.5GHz, พื้นที่เก็บข้อมูล 32GB, แบตเตอรี่ 3500 mAh เล่นวิดีโอ 1080p ต่อเนื่องได้นาน 4.5 ชั่วโมง

นักวิเคราะห์จาก Citigroup ประเมินยุทธศาสตร์แท็บเล็ตของไมโครซอฟท์ไว้ดังนี้

บริษัท BlueStacks ได้พัฒนา runtime แบบ native บนแพลตฟอร์ม Windows เพื่อให้สามารถรันแอพพลิเคชันที่รันบนแพลตฟอร์ม Android ได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่เกิด overhead ของการใช้ทรัพยากรสูงเหมือนกับการรันบนอีมูเลเตอร์ สำหรับฟีเจอร์ของ runtime ที่รองรับ อาทิ

จากข่าวก่อนหน้านี้ที่ผู้บริหารของอินเทลออกมาบอกว่า "Windows 8 รุ่น ARM รันโปรแกรมเก่าจาก x86 ไม่ได้" ดูท่าทางไมโครซอฟท์จะไม่พอใจกับเรื่องนี้เท่าไร

ไมโครซอฟท์ออกแถลงการณ์สั้นๆ ว่าข้อมูลของอินเทลไม่ตรงกับความเป็นจริง (inaccurate) และชวนให้เข้าใจผิด (misleading) อย่างไรก็ตามไมโครซอฟท์บอกว่ายังไม่มีข้อมูลจะแถลงอะไรเพิ่มเติมในตอนนี้

ที่มา - Business Insider

Renee James หัวหน้าฝ่ายซอฟต์แวร์ของอินเทล ให้ข้อมูลว่า Windows 8 จะแบ่งเป็นรุ่น x86 และรุ่น ARM

ทั้งสองรุ่นจะมีโหมดการทำงานสำหรับอุปกรณ์พกพาและแท็บเล็ต ซึ่งต้องใช้แอพพลิเคชันที่ออกแบบมาสำหรับ Windows 8 โดยเฉพาะ

อย่างไรก็ตามจุดแตกต่างคือ Windows 8 รุ่น x86 จะมีโหมด Windows 7 ที่รองรับแอพพลิเคชันสายวินโดวส์เดิมๆ ทั้งหมด ในขณะที่ Windows 8 รุ่น ARM ไม่มี (และจะไม่มีวันมี ตามคำกล่าวของอินเทล) ซึ่งอินเทลนำมาชูเป็นจุดขายเหนือ Windows 8 ARM นั่นเอง

ขอรวบสองข่าวที่เกี่ยวกับ Windows 8 เป็นข่าวเดียวกันครับ

ข่าวแรก มีการเผยภาพหน้าจอที่ใช้ธีม Aero Lite จากภาพ (ดูได้หลัง break) ทำให้ทราบว่าธีม Aero Lite นั้นรวมการออกแบบส่วนติดต่อผู้ใช้แบบ Metro นอกจากนั้นธีม Aero Lite ยังรองรับการแสดงผลแบบโปร่งแสง (transparent glass) อีกด้วย (ถึงแม้ตอนนี้ฟีเจอร์ดังกล่าวจะยังทำงานไม่สมบูรณ์ใน Windows 8 รุ่นทดสอบก็ตาม)

ที่มา: ฟอรัมบน My Digital Life ผ่าน Neowin.net

Windows 8 Italia ได้ขุดคุ้ย Windows 8 รุ่นทดสอบหมายเลข 7955 เพิ่มเติมและได้พบฟีเจอร์ใหม่อีกมากมาย อาทิ

มีภาพหลุดฟีเจอร์ซิงโครไนเซชั่นการตั้งค่า เพื่อให้ผู้ใช้สามารถนำการตั้งค่าบน Windows 8 โปรแกรมที่ติดตั้งในเครื่อง รวมถึงการตั้งค่าให้ลงชื่อเข้าใช้ (sign-in) บนเว็บไซต์หรือโปรแกรมโดยอัตโนมัติไปใช้บนเครื่องอื่นที่ติดตั้ง Windows 8 ได้ นอกจากนั้นยังมีฟีเจอร์กู้คืนรหัสผ่านหากผู้ใช้ลืมรหัสผ่าน (ดูภาพหน้าจอได้ที่ท้ายข่าว)

ข่าวนี้อาจเป็นการยีนยันว่า Windows 8 จะมีฟีเจอร์ User Roaming (ฟีเจอร์ที่ให้ผู้ใช้นำการตั้งค่าต่างๆ ของ Windows 8 ไปใช้กับ Windows 8 เครื่องอื่นได้) ที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้

มีคนไปพบความสามารถที่เพิ่มเข้ามาใหม่ของ Windows 8 (รุ่นทดสอบหมายเลข 7955) นั่นคือการลากไฟล์หรือโฟลเดอร์จากหน้าต่าง ขึ้นไปบนแถบ Breadcrumb ข้างบน จะเป็นการย้ายไฟล์ไปที่โฟลเดอร์นั้นๆ เลย โดยไม่ต้องเปิดหน้าต่างอีกหน้าต่างเพื่อ Copy + Paste ครับ

ที่มา - MDL ผ่าน Tech Exclusive

ช่วงนี้ยังมีข่าวหลุดของ Windows 8 ออกมาเรื่อยๆ คราวนี้มีผู้ใช้จากเว็บบอร์ด MyDigitalLife ชื่อ lumpy6 ค้นพบฟีเจอร์ User Roaming ในหน้า Control Panel/User Accounts ของ Windows 8 Build 7955

ฟีเจอร์นี้จะทำให้เรานำการตั้งค่าต่างๆ ของ Windows 8 (เช่น พื้นหลัง ธีม ภาษา เครือข่าย) ไปใช้กับ Windows 8 เครื่องอื่นได้ คาดว่าบัญชีผู้ใช้ที่จะใช้ฟีเจอร์นี้ได้ จะต้องผูกกับบัญชีของ Windows Live ก่อนด้วย

ข่าวต้นทางยังบอกว่าเรา "น่าจะ" นำค่าเหล่านี้ไปใช้กับ Windows Phone ได้เช่นกัน

Windows 8 รุ่นทดสอบหมายเลข 7955 ได้ปรากฏว่ามีฟีเจอร์ History Vault หรือฟีเจอร์สำรองและกู้คืนข้อมูลที่คล้ายกับ Time Machine บน Mac OS X

จากภาพหน้าจอ (ดูได้ข้างล่าง) จะมีแถบ timeline ให้ผู้ใช้เลือกวันที่จะย้อนเวลากลับไปเพื่อกู้คืนข้อมูลได้ คาดกันว่าฟีเจอร์นี้จะรองรับการกู้คืนในระดับแต่ละไฟล์ ไม่ใช่การกู้คืนทุกไฟล์ตาม restore point อย่างที่ System Restore เป็นอยู่ในปัจจุบัน - WinRumors.com ผ่าน Neowin.net

ช่วงนี้มีข่าวฟีเจอร์ใหม่ของ Windows 8 ออกมาเรื่อยๆ ล่าสุดมีคนไปขุดหาข้อมูลใน Windows 8 รุ่นทดสอบหมายเลข 7850 และค้นพบฟีเจอร์ใหม่ที่ชื่อ "Portable Workspace"

Portable Workspace จะมีในรุ่น Enterprise ขึ้นไปเท่านั้น โดยไมโครซอฟท์จะอนุญาตให้เราคัดลอก Windows 8 ที่ติดตั้งในฮาร์ดดิสก์ไปลง USB drive ได้ ซึ่งจะช่วยให้พนักงานในองค์กรย้ายสภาพแวดล้อมในการทำงานไปกับตัวเองได้ (เช่น กรณีนำไฟล์ไปเปิดเครื่องคนอื่น ก็ใช้ผ่าน USB drive จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องเวอร์ชันของซอฟต์แวร์)

ฟีเจอร์นี้ต้องการ USB drive ความจุขั้นต่ำ 16GB และไมโครซอฟท์จะให้เครื่องมือชื่อ Portable Workspace Creator มาด้วย

เว็บไซต์ Cnbeta จากประเทศจีนได้โพสต์ภาพหน้าจอของ Windows App Store ที่อ้างว่าจะมากับ Windows 8 (ยังไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่าจริงแค่ไหน)

แม้ภาพชุดนี้จะมีจุดแปลกๆ ที่น่าสังเกตหลายอย่าง เช่น ใช้ชื่อว่า Windows App Store ทั้งที่มีปัญหากฎหมายกับแอปเปิล, มีซอฟต์แวร์ที่ไม่ใช่ของไมโครซอฟท์อย่าง Firefox/Thunderbird/Opera ให้เลือกด้วย ฯลฯ แต่ในภาพรวมก็สอดคล้องกับข่าวลือก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าไมโครซอฟท์จะทำ App Store ใน Windows 8

เป็นข่าวฟีเจอร์เล็กๆ ของ Windows 8 รุ่นทดสอบ ผมรวมสองข่าวเป็นข่าวเดียวเช่นเคยครับ

อย่างแรก ไมโครซอฟท์ได้เพิ่มตัวเลือกในหน้าจอ Personalize > Windows Color ให้มีธีมสีแบบ "Automatic" เพิ่มเข้ามา ซึ่งตัวเลือกนี้จะทำให้ธีม Aero เปลี่ยนเฉดสีอัตโนมัติให้ใกล้เคียงกับภาพพื้นหลังของหน้าจอ (เช่น ภาพดอกไม้สีม่วงก็จะใช้ธีม Aero สีอมม่วง) ภาพประกอบดูได้จาก WinSupersite

เว็บไซต์ WinRumors รายงานข่าววงในว่าไมโครซอฟท์เริ่มแจก Windows 8 รุ่นทดสอบให้ OEM บางรายแล้ว

เลขที่ build ของ Windows 8 รุ่นที่แจกคือ 7971.0.110324-1900 ผู้ที่จะได้ทดสอบต้องเป็น OEM ใกล้ชิดที่ร่วมโครงการ Connect ของไมโครซอฟท์ เช่น HP เป็นต้น โครงการนี้มีชื่อเรียกเต็มๆ ว่า Windows 8 and Server vNext Pre-Release Program

ตามข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ ไมโครซอฟท์ตั้งเป้าออก Windows 8 Beta เดือนกันยายนนี้ครับ

ที่มา - WinRumors

สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าววงในจากไมโครซอฟท์ว่า ระบบปฏิบัติการแท็บเล็ตของไมโครซอฟท์ (ซึ่งคาดว่าเป็น Windows 8 รุ่นแท็บเล็ต) จะเริ่มเข้าสถานะการทดสอบช่วงปลายปีนี้ และจะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2012 ช่วงประมาณเดือนสิงหาคม-กันยายน

นักวิเคราะห์จาก Gartner มองว่าสถานการณ์ของไมโครซอฟท์ไม่ดีนัก เพราะตลาดแท็บเล็ตตอนนี้มีผู้เล่นแล้ว 4 รายคือ iOS, Android, webOS และ BlackBerry ตอนนั้นเราคงเห็น iPad 3 และแท็บเล็ตรุ่นที่สองจากคู่แข่งที่เหลือกันแล้ว

ที่มา - Bloomberg BusinessWeek

ผมว่าถามใครก็คงไม่มีใครเชื่อว่าเราสามารถ 'อัพเกรด' วินโดวส์ทุกรุ่นตั้งแต่ Windows 1.0 รุ่นแรกมาเป็น Windows 7 ได้โดยไม่ต้องลงใหม่ โปรแกรมที่เคยติดตั้งเอาไว้ไม่หาย (ยังใช้งานได้หรือไม่นั่นเป็นอีกเรื่อง)

แต่มีผู้ใช้ชื่อ TheRasteri ได้โพสต์วิดีโอแสดงการอัพเกรดวินโดวส์ตั้งแต่ Windows 1.0 บน YouTube ในวิดีโอนี้เขาเริ่มตั้งแต่ DOS 5.0 > Windows 1.0 > Windows 3.0 > Windows 3.1 > Windows 95 > Windows 98 > Windows 98SE > Windows 2000 > Windows XP > Windows Vista > Windows 7 (สังเกตว่าไม่ใช้ Windows ME แต่เป็น Windows 2000 แทน)

ใครเคยใช้เยอะ มาดูวิดีโอนี้ก็คงคิดถึงความหลังเก่าๆ กันเยอะตามไปด้วย

ไมโครซอฟท์ออก Windows Embedded Compact 7 หรือซอฟต์แวร์รุ่นที่เจ็ดของระบบปฏิบัติการฝังตัวที่เราเคยรู้จักกันในชื่อ Windows CE (หรือ Windows Embedded CE) ซึ่งนี่เป็นการออกรุ่นใหญ่ครั้งแรกในรอบ 5 ปีนับตั้งแต่ Windows CE 6.0 เมื่อปี 2006 และครั้งนี้ยังถือเป็นครบรอบ 15 ปีของ Windows CE รุ่นแรกด้วย

ของใหม่ใน Windows Embedded Compact 7 ก็คือรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ออกมาในช่วงหลายปีนี้ เช่น ARMv11, Bluetooth 2.1, DLNA 1.5, มัลติทัช นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ IE ตัวใหม่ (เอนจินของ IE7 ผสมกับ IE8), Flash Player 10.1 และที่น่าสนใจที่สุดคือ Silverlight for Windows Embedded ซึ่งจะทำให้เราเขียนอินเทอร์เฟซบนอุปกรณ์พกพาด้วย Silverlight และ XAML ได้

Banshee โปรแกรมจัดการเพลงยอดนิยมตัวหนึ่งบนลินุกซ์ (เป็นโปรแกรมจัดการเพลงหลักของ Ubuntu 11.04) ออกรุ่นบนวินโดวส์แล้ว

Banshee 1.9.4 ซึ่งเป็นรุ่นระหว่างพัฒนาเป็น Banshee 2.0 ถือเป็นรุ่นแรกที่มีเวอร์ชันบนวินโดวส์ด้วย ทางโครงการ Banshee บอกว่าคุณภาพของโปรแกรมยังอยู่ระดับ 'อัลฟ่า' และต้องการผู้ทดสอบอีกมาก

Banshee รุ่นบนวินโดวส์ถือว่าน่าสนใจเพราะมีนักพัฒนาช่วยทำถึง 5 คน ส่วนมากเป็นพนักงานของ Novell

ที่มา - Banshee, OMG Ubuntu

เราได้ยินข่าวของ Windows 7 SP1 และ Windows Server 2008 R2 SP1 มาหลายต่อหลายครั้ง... คงไม่ต้องพูดแล้วว่ามันคืออะไรเพราะล่าสุด Microsoft ได้ปล่อยเวอร์ชั่นเต็มออกมาเรียบร้อยแล้ว โดยปล่อยให้ดาวน์โหลดใน Microsoft Download ก่อน แล้วจะเอาขึ้น Windows Update ทีหลังครับ โดยไฟล์ที่ให้ดาวน์โหลดนั้น เป็นแบบ iso image มีขนาด 1.9 GB ครับ

คำถามเรื่อง Kinect SDK สำหรับพีซีเกิดขึ้นเป็นคำถามแรกๆ ตั้งแต่ Kinect เปิดตัวและวางจำหน่าย วันนี้ไมโครซอฟท์ออกมายืนยันแล้วว่าเราจะได้เห็น Kinect for Windows SDK อย่างแน่นอน

SDK ตัวนี้จะเปิดให้ดาวน์โหลดฟรี มีสัญญาการใช้งานแบบไม่ใช้ในทางการค้า (non-commercial) และจะออกช่วงฤดูใบไม้ผลิของปีนี้ (ประมาณเดือนเมษายนเป็นต้นไป)

ที่มา - TechNet

แผนการของ HP คือนำ webOS ไปรันบนอุปกรณ์ให้มากชนิดที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ และจากข้อมูลที่ผ่านมา เรารู้แน่ว่า webOS จะไปอยู่บนพีซีและโน้ตบุ๊ก เพียงแต่ยังไม่รู้รายละเอียดว่าเป็นอย่างไรบ้าง (น่าจะประกาศในงานแถลงข่าว 14 มี.ค.)

แต่นักข่าวจากหนังสือพิมพ์ The Seattle Times มีโอกาสคุยกับ Phil McKinney ซึ่งเป็น CTO ของ HP ในเรื่องนี้ ซึ่ง McKinney ยืนยันชัดเจนว่า webOS จะไม่รันบนพีซีผ่าน virtualization แต่จะผสานเป็นหนึ่งเดียวกับวินโดวส์เลย และแอพ webOS จะรันได้ทั้งบนมือถือ แท็บเล็ต และพีซีในคราวเดียว

เกือบหนึ่งปีครึ่งหลังจากเปิดตัว Windows 7 อย่างเป็นทางการ ในที่สุดไมโครซอฟท์ก็พัฒนา Windows 7 Service Pack 1 เสร็จสมบูรณ์ (รวมถึง Windows Server 2008 R2 SP1 ด้วย)

SP1 ทั้งสองระบบปฏิบัติการถูกส่งให้ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์เตรียมพรีโหลดลงเครื่องพีซีแล้ววันนี้ จากนั้นสมาชิก TechNet/MSDN จะสามารถดาวน์โหลดได้ก่อนในวันที่ 16 ก.พ. และเปิดให้คนทั่วไปดาวน์โหลดผ่าน Microsoft Download Center/Windows Update ในวันที่ 22 ก.พ.

Windows 7 SP1 เน้นแก้บั๊กและอุดรูรั่วเป็นหลัก หลายส่วนออกมาให้ใช้ผ่าน Windows Update แล้ว ฟีเจอร์ใหม่จริงๆ มี 2 อย่างคือ RemoteFX และ Dynamic Memory ซึ่งเป็นฟีเจอร์ด้าน virtualization

ฟีเจอร์ AutoRun ของวินโดวส์เป็นช่องโหว่สำหรับไวรัสและมัลแวร์ที่แพร่กระจายผ่าน usb drive ซึ่งไมโครซอฟท์เองก็รู้ปัญหานี้ และปิดไม่ให้ใช้ AutoRun ใน Windows 7

แต่วินโดวส์รุ่นก่อนหน้านั้นยังใช้งาน AutoRun ได้อยู่ ซึ่งไมโครซอฟท์ก็ประสบปัญหาว่าพาร์ทเนอร์หลายรายยังต้องการฟีเจอร์นี้เพื่อติดตั้งโปรแกรมอัตโนมัติ แต่สถานการณ์ล่าสุดคือไมโครซอฟท์ได้ออกแพตช์ให้กับวินโดวส์รุ่นเก่าๆ เพื่อปิด AutoRun แล้ว

แพตช์นี้ไม่ถือว่าเป็น security fix เพราะไม่เกี่ยวกับความปลอดภัยโดยตรง และการปิด AutoRun จะปิดเฉพาะ usb drive และฮาร์ดดิสก์เท่านั้น ไม่รวมซีดีหรือดีวีดีซึ่งไมโครซอฟท์ระบุว่ายังไม่เคยพบปัญหา