Microsoft Kinect
Kinect กล้องวัดระยะลึกที่เคยเป็นอุปกรณ์เสริมของ Xbox เลิกขายไปเมื่อปี 2017 แต่ไมโครซอฟท์ยังดัดแปลงเป็น Azure Kinect Developer Kit สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT ขายกลุ่มลูกค้าเฉพาะทางมาตั้งแต่ปี 2019
ล่าสุดไมโครซอฟท์ประกาศหยุดขาย Azure Kinect Developer Kit แล้ว โดยเปลี่ยนวิธีเป็นการขายไลเซนส์เทคโนโลยีให้พาร์ทเนอร์แทน ตอนนี้มีพาร์ทเนอร์แล้ว 3 ราย ได้แก่ Analog Devices, SICK A.G., Orbbec
Alex Kipman หัวหน้าทีม HoloLens (และก่อนหน้านั้นคือ Kinect) ลาออกจากไมโครซอฟท์ โดยมีข่าวว่าเขามีพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่อเพื่อนร่วมงาน (toxic behavior)
เว็บไซต์ GeekWire ยังได้อีเมลภายในของไมโครซอฟท์ที่ประกาศปรับโครงสร้างทีมของ Kipman ใหม่ โดยแยกทีมย่อย Mixed Reality Hardware ไปอยู่กับฝ่าย Windows & Devices และทีม Mixed Reality Presence and Collaboration ไปอยู่กับฝ่าย Microsoft Teams
Scott Guthrie ซึ่งเป็นหัวหน้าของ Kipman อีกที (ปัจจุบัน Guthrie เป็นหัวหน้าฝ่าย Cloud & AI ของไมโครซอฟท์) ประกาศว่า Kipman ต้องการออกไปหาโอกาสใหม่ๆ นอกไมโครซอฟท์ และขอบคุณเขาสำหรับผลงานที่ผ่านมาทั้ง Kinect และ HoloLens
ในซีรีส์ Power On เล่าประวัติเครื่องเกม Xbox ของไมโครซอฟท์ มีประเด็นที่น่าสนใจคือผู้บริหารทีม Xbox หลายคนยอมรับว่าการปิดสตูดิโอ Lionhead ที่สร้างเกม Black & White และ Fable เมื่อปี 2016 เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดของบริษัท
Lionhead Studios เป็นสตูดิโอเกมที่ก่อตั้งเมื่อปี 1997 โดย Peter Molyneux เกมดีไซเนอร์ชื่อดังที่มีผลงานมากมาย ทั้ง Populous, Theme Park, Dungeon Keeper ผลงานของ Lionhead ในยุคแรกๆ คือ Black & White (2001) และ Fable (2004)
จุดเปลี่ยนของ Lionhead คือไมโครซอฟท์ซื้อกิจการในปี 2006 ซึ่งหลังจากนั้น Lionhead ยังมีผลงานเกมต่อเนื่อง ได้แก่ Fable II (2008), Fable III (2010)
อีกประเด็นที่น่าสนใจในประกาศเรื่อง Xbox ของไมโครซอฟท์ (แถม xCloud กับ Game Pass Ultimate, เกมไม่เอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะเครื่อง Xbox Series X) คือชะตากรรมของอุปกรณ์เสริม Kinect ที่ไม่ได้ไปต่อกับ Xbox Series X แล้ว
ข่าวนี้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก เพราะไมโครซอฟท์ปรับทิศทางของ Xbox One โดยแยกขาย Kinect มาตั้งแต่ปี 2014 เพื่อให้ราคาเครื่องถูกลง แข่งขันกับ PS4 ได้ หลังจากนั้นความนิยมของ Kinect ก็ค่อยๆ ลดลงจนเลิกผลิตในปี 2017
กล้อง Kinect ที่รู้จักกันจากอุปกรณ์เสริมของ Xbox วันนี้ได้กลายเป็นกล้องแยกต่างหากสำหรับตรวจจับการเคลื่อนไหวและสร้างภาพเสมือน 3 มิติแล้ว เมื่อไมโครซอฟท์เปิดตัว Azure Kinect Developer Kit สำหรับนักพัฒนา
ตัวกล้องมีทั้งเซ็นเซอร์ time-of-flight วัดระยะลึกแบบที่ใช้ใน HoloLens 2, กล้องวัดระยะลึกความละเอียด 1 ล้านพิกเซล, ไมโครโฟน 7 ตัว, กล้อง RGB 12 ล้านพิกเซล, accelerometer และ gyroscope รองรับการทำงานผ่านคลาวด์และ AI ของ Azure
ตัว Kinect สามารถใช้งานแยกเดี่ยวๆ หรือร่วมกันหลายๆ ตัวเพื่อสร้างแผนภาพแบบ 3 มิติก็ได้ โดยราคาของ Azure Kinect DK อยู่ที่ 399 เหรียญ ช่วงแรกจะวางจำหน่ายในสหรัฐและจีนก่อน
ถึงแม้กล้อง Kinect หยุดผลิตไปแล้ว แต่เทคโนโลยีกล้องวัดระยะลึกของ Kinect กลับยังไม่หายไปไหน ล่าสุดมันถูกนำกลับมาอีกครั้งในชื่อ Project Kinect for Azure
Project Kinect for Azure เป็นชุดฮาร์ดแวร์ที่ประกอบด้วยกล้องและเซ็นเซอร์วัดระยะลึกของ Kinect, กล้องปกติความละเอียด 4K และไมโครโฟน 360 องศา แต่เปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายจากคอนซูเมอร์ มาเป็นนักพัฒนาที่ต้องการสร้างเซ็นเซอร์สำหรับงาน IoT และประมวลผลด้วย AI บนคลาวด์
ไมโครซอท์ระบุว่าหยุดผลิตกล้อง Kinect แล้ว หลังขายไปได้ 35 ล้านตัวนับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2010 แต่จะยังวางขายสินค้าที่มีในสต๊อก และให้บริการหลังขายตามปกติ
ข่าวนี้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก เพราะตอนแรกไมโครซอฟท์เปิดตัว Xbox One พร้อม Kinect ภายใต้วิสัยทัศน์ควบคุมห้องนั่งเล่นได้อย่างอิสระ แต่กลับไม่จับตลาดเกมเมอร์ และกลายเป็นปัจจัยสำคัญให้ PS4 แซงหน้าไปไกล จนไมโครซอฟท์ต้องกลับลำครั้งใหญ่ หันมาเน้นด้านเกม และลดความสำคัญของ Kinect แทน
เทคโนโลยีเซ็นเซอร์ของ Kinect จะยังถูกใช้ต่อใน HoloLens เวอร์ชันต่อๆ ไป ส่วนทีมที่สร้าง Kinect ก็กระจายไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของไมโครซอฟท์หลายตัว เช่น Cortana (เสียง) หรือ Windows Hello (สแกนใบหน้า) ซึ่งล้วนแต่ใช้เทคโนโลยีของ Kinect ด้วยกันทั้งสิ้น
Satya Nadella เล่าข้อมูลเบื้องหลังในหนังสือ Hit Refresh ของเขา ถึงที่มาของโครงการ HoloLens ว่ามาจากความล้มเหลวของ Windows Vista
Nadella เล่าถึง Alexa Kipman วิศวกรชาวบราซิลของไมโครซอฟท์ ซึ่งมีผลงานโดดเด่นในฐานะผู้สร้างทั้ง Kinect และ HoloLens ว่าเดิมที Kipman อยู่ในทีมออกแบบ Windows Vista ที่มีฟีเจอร์ใหม่หลายอย่าง แต่ผลตอบรับกลับออกมาแย่ ส่งผลให้ Kipman เสียใจอย่างหนักจนต้องกลับไปพักใจที่บราซิลบ้านเกิด
แม้ข่าวคราวจะเงียบลงไป สำหรับ Kinect กล้องตรวจจับการเคลื่อนไหวจากทางไมโครซอฟท์ แต่เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ปล่อยโค้ดและ API ชุดใหม่ลงใน GitHub สำหรับการใช้งาน Kinect และอุปกรณ์ที่มีลักษณะคล้ายกัน บนแอพสถาปัตยกรรม UWP ทำให้แอพสามารถเข้าถึงค่าสีและความลึกของภาพจากกล้องได้
นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ยังปล่อยไดรเวอร์ใหม่ผ่าน Windows Update เราสามารถใช้งาน Kinect แทนกล้องเว็บแคมทั่วไป รวมไปถึงการใช้งานฟีเจอร์ Windows Hello ได้ด้วย
การออกอัพเดตครั้งนี้จะมีผลกับทั้ง Windows 10 และ Xbox One
Alex Kipman จากไมโครซอฟท์ เผยในงานสัมมนา TED ที่เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา ว่าบริษัทต้องการให้คอนเทนท์บน HoloLens พร้อมกว่านี้ก่อนปล่อยผลิตภัณฑ์สู่ตลาดผู้ใช้ทั่วไป ซึ่งอาจต้องใช้เวลาพอสมควร
เขาเชื่อว่าถ้าหากขาย HoloLens ให้กลุ่มลูกค้าทั่วไปในเวลานี้ จะสามารถใช้งานความสามารถได้ไม่กี่อย่างเท่านั้น และจะถูกวางจนฝุ่นจับแน่ๆ ซึ่งเหมือนกับ Kinect ที่ทำยอดขายได้ดี แต่สุดท้ายกลับไม่ค่อยมีเกมที่สามารถใช้ความสามารถของมันได้เต็มประสิทธิภาพ
ที่มา - Re/code
เมื่อเดือนที่แล้ว ไมโครซอฟท์เผยว่า Kinect for Windows v2 รองรับระบบล็อกอินแบบใหม่ Windows Hello บน Windows 10 แล้ว โดยให้ดาวน์โหลดไดรเวอร์รุ่นพรีวิวและทำตามขั้นตอนตามเว็บ Channel 9 ตามที่มาของข่าว
ไมโครซอฟท์แนะนำว่า ควรตั้ง Kinect ให้อยู่กึ่งกลางของหน้าจอและห่างจากใบหน้าคนอย่างน้อย 0.5 เมตร ครับ
ที่มา: Channel 9 ผ่าน Microsoft-News
Kinect ถือเป็นอุปกรณ์เสริมที่ช่วยสร้างความคึกคักให้ Xbox 360 ในยุคที่ต้องต่อสู้กับ Wii และภายหลังมันก็กลายมาเป็นอุปกรณ์ที่มาพร้อม Xbox One อย่างไรก็ตาม เมื่อไมโครซอฟท์กลับลำ เลิกขายพ่วง Kinect ในปี 2014 ถึงแม้ยอดขายของ Xbox One จะดีขึ้น แต่ดูเหมือนว่าทุกคนจะลืมเลือน Kinect ไปเลย
เว็บไซต์ Eurogamer มีบทสัมภาษณ์ Chris Sutherland และ Gavin Price อดีตพนักงานของสตูดิโอ Rare บริษัทลูกของไมโครซอฟท์ที่มีผลงานพัฒนาเกมสำหรับ Kinect มาตั้งแต่ช่วงแรก (Rare เป็นผู้พัฒนาเกม Kinect Sports บน Xbox 360) ซึ่งสะท้อนมุมมองทั้งขาขึ้นและขาลงของ Kinect จากมุมมองคนใน
ไมโครซอฟท์เพิ่งเปิดตัว Xbox One with Kinect Bundle รุ่นใหม่แถม 3 เกมในราคา 499 ดอลลาร์ไปเมื่อต้นเดือน แต่เพิ่งขายไปไม่ทันไร คนซื้อไปแล้วมีอันหลังหักซะแล้ว เพราะไมโครซอฟท์ประกาศลดราคาลง 100 ดอลลาร์ เหลือแค่ 399 ดอลลาร์เท่านั้น (ไมโครซอฟท์บอกว่าเป็น limited-time offer แต่ไม่บอกว่าถึงเมื่อไร)
การลดราคาครั้งนี้ทำให้การซื้อ Xbox One พร้อม Kinect ถูกมาก เพราะราคาทั้งชุดเท่ากับบันเดิลอื่นๆ ที่เปิดตัวในช่วงเดียวกัน (ที่แถมเกมใหม่ แต่ไม่รวม Kinect) เช่น Tomb Raider Bundle หรือ Fallout 4 Bundle
นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังลดราคาเฉพาะตัวอุปกรณ์เสริม Kinect for Xbox One จากเดิม 149 ดอลลาร์ ลงมาเหลือ 99 ดอลลาร์ด้วยครับ
ในแดชบอร์ดใหม่ของ Xbox One ที่ถือเป็นการอัพเดตครั้งใหญ่ของตัวเครื่องที่กำลังเปิดให้ผู้ใช้บางส่วนเข้าร่วมทดสอบ จะมี Cortana ผนวกเข้ามาด้วย ซึ่งในตอนแรกไมโครซอฟท์เผยว่าจะต้องใช้ Kinect ในการสั่งการด้วยเสียง แต่ล่าสุด Mike Nichols หัวหน้าฝ่ายการตลาดของทีม Xbox ได้ให้สัมภาษณ์กับ Polygon ว่าจะสามารถสั่งการ Cortana ผ่านหูฟังที่มาพร้อมไมโครโฟนหรือจะพิมพ์เอาก็ได้
ยังคงเปิดตัวอย่างต่อเนื่องสำหรับชุดบันเดิล Xbox One
ตัวแรกของวันนี้มาพร้อมกับตัวเครื่องสีขาวความจุ 500 GB พร้อมเกม Gears of War: Ultimate Edition ตัวเกม 3 ภาคแรก ที่กลับมาในความละเอียด 1080p แบบ 60FPS พร้อมกับตัวเกมแบบต้นฉบับที่สามารถเล่นผ่านได้ผ่านระบบ Xbox One Backward Compatibility และสิทธิพิเศษในการเข้าร่วมทดลอง Gears of War 4 Beta ที่จะมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2016 ในชื่อ Xbox One Special Edition Gears of War Bundle วางจำหน่ายในช่วงเดือนพฤศจิกายนในราคา 349 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 12,700 บาท)
ที่ผ่านมาไมโครซอฟท์มี Kinect แยกขายสองรุ่นคือ รุ่นที่มากับ Xbox One สำหรับเกมเมอร์ และ Kinect for Windows v2 สำหรับนักพัฒนา (ไส้ในเหมือนกันทุกประการ)
แต่ไม่นานมานี้ ไมโครซอฟท์เพิ่งออกตัวแปลง Kinect Adapter for Windows เพื่อให้ Kinect รุ่น Xbox One สามารถใช้กับพีซีได้ ทำให้ความจำเป็นที่จะต้องใช้ Kinect for Windows ลดลง วันนี้ไมโครซอฟท์จึงประกาศหยุดผลิต Kinect for Windows เพื่อลดจำนวนรุ่นลงให้เหลือ Kinect เพียงรุ่นเดียว
ไมโครซอฟท์ประกาศว่าจะเลิกขาย Kinect for Windows รุ่นแรก (ที่ใช้เซ็นเซอร์ของ Kinect ที่ขายกับ Xbox 360) ในปี 2015 ด้วยเหตุผลว่าวางขาย Kinect for Windows v2 มาได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว แต่ยังไม่ระบุวันที่ชัดเจนว่าจะเลิกขายเมื่อไร
ไมโครซอฟท์บอกว่า Kinect รุ่นแรกประสบความสำเร็จอย่างสูง (ไม่ได้เปิดเผยยอดขายเป็นตัวเลข) โดยมีหน่วยงานจำนวนมากนำไปใช้งานสร้างนวัตกรรมและโซลูชันใหม่ๆ แต่ตอนนี้ก็ได้เวลาเดินหน้าไปสู่ Kinect v2 ที่มีความสามารถสูงกว่ารุ่นแรกในทุกๆ ด้านแล้ว
ที่มา - Kinect for Windows Blog
ไมโครซอฟท์วางขาย Kinect for Windows v2 มาได้สักพัก คราวนี้ได้ฤกษ์ของ Kinect SDK 2.0 เวอร์ชันสมบูรณ์ นักพัฒนาสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้ฟรี โดยต้องใช้กับ Windows 8 และ VS2012 ขึ้นไป รายการเปลี่ยนแปลงอ่านได้จาก Release Notes
นอกจาก SDK 2.0 ตัวจริงแล้ว ไมโครซอฟท์ยังประกาศข่าวของ Kinect เพิ่มอีก 2 อย่างคือ
หากใครยังจำกันได้ เมื่อปีที่แล้วไมโครซอฟท์ รีเสิร์ชเดโม IllumiRoom เทคโนโลยีการแสดงผลที่ขยายฉากในเกมบน Xbox ให้เกินมาถึงนอกจอด้วยการใช้ Kinect กับโปรเจคเตอร์ ล่าสุดไมโครซอฟท์ รีเสิร์ชได้เผย RoomAlive ซึ่งต่อยอดมาจาก IllumiRoom เดิม โดยคราวนี้ RoomAlive ครอบคลุมพื้นที่การแสดงผลทั้งห้องแล้ว
ถึงแม้ Xbox One จะวางขายแล้ว แต่คอนโซลรุ่นก่อนอย่าง Xbox 360 ยังขายได้เรื่อยๆ และกลายเป็นสินค้าราคาถูกคุ้มค่า (แถมมีเกมเยอะ) และในปีนี้ ไมโครซอฟท์ก็เลยออก Xbox 360 รุ่นพิเศษเตรียมพร้อมสำหรับเทศกาลช่วงปลายปี มีทั้งหมด 3 ชุดดังนี้
หลังจากที่ Microsoft ตัดสินใจถอด Kinect ออกจากชุดเครื่องเล่นเกม Xbox One เพื่อทำราคาขายสู้กับคู่แข่งและได้ผลดีมาแล้ว ตอนนี้ Microsoft ได้หันกลับมามองตัว Kinect และตัดสินใจที่เริ่มขาย Kinect เป็นอุปกรณ์แยกชิ้นเดี่ยวในราคาเครื่องละ 149 ดอลลาร์
กระแสข่าวบอกว่า Microsoft จะเริ่มขาย Kinect แบบแยกชิ้นในช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้ (บ้างระบุชัดว่าเป็นวันที่ 6 ตุลาคม) อย่างไรก็ตาม Microsoft ยังไม่ได้ยืนยันในเรื่องกำหนดการวางขาย และยังไม่ยืนยันรายละเอียดของช่องทางการสั่งซื้อ Kinect อีกด้วย
ที่มา - Ubergizmo
ข่าวดีเล็กๆ ของไมโครซอฟท์ท่ามกลางข่าวการปลดพนักงาน ปิดผลิตภัณฑ์ และปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ครับ
หลังจาก Xbox One ทานกระแสไม่ไหว ออกรุ่นไร้ Kinect ที่ลดราคาลง 100 ดอลลาร์ วันนี้ผลออกมาแล้วคือยอดขาย Xbox One ในเดือนมิถุนายน (เฉพาะในสหรัฐอเมริกา) เพิ่มสูงกว่ายอดขายเดือนพฤษภาคม "มากกว่าหนึ่งเท่าตัว" (more than double)
ไมโครซอฟท์บอกว่าข้อมูลนี้มาจากสถิติภายในบริษัท แต่ไม่ได้เปิดเผยยอดขายเป็นตัวเลขว่าขายได้กี่เครื่อง
ที่มา - Xbox Wire
ไมโครซอฟท์เริ่มส่ง Kinect for Windows v2 ให้กับผู้ที่สั่งซื้อล่วงหน้าแล้ว (ไมโครซอฟท์บอกว่ามีเป็นหลักหลายพันชิ้น) และจะทยอยส่งสินค้าเพิ่มเติมให้ทันความต้องการของลูกค้าในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังออก Kinect for Windows SDK 2.0 รุ่น public preview ตามที่สัญญาเอาไว้ เพื่อให้นักพัฒนาสามารถทดสอบและดึงพลังของ Kinect v2 ได้อย่างเต็มที่ SDK ตัวนี้แจกฟรีและไม่จำกัดการใช้งานถ้าต้องการนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์
ฟีเจอร์การสั่งงานด้วยเสียงของ Xbox One/Kinect เป็นสิ่งที่ไมโครซอฟท์นำมาชูเป็นจุดขายอยู่เสมอ และในโฆษณาทางโทรทัศน์ชิ้นล่าสุดของไมโครซอฟท์ก็ได้จ้างนักแสดงชื่อดัง Aaron Paul มานำเสนอฟีเจอร์นี้ โดยเขาโชว์คำสั่ง Xbox On สำหรับเปิดเครื่อง, Xbox Play Titanfall สำหรับเรียกเกมขึ้นมาเล่น เป็นต้น
ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อไมโครซอฟท์ฉายโฆษณาชิ้นนี้ทางทีวีในสหรัฐ คำสั่ง "Xbox On" ของ Aaron Paul กลับทำงานได้ดีเกินคาด ส่งผลให้เครื่อง Xbox One (ที่มักวางอยู่ใกล้ๆ กับทีวี) จำนวนมากเปิดเครื่องขึ้นมาเองโดยเจ้าของเครื่องจริงๆ ไม่ได้สั่งอะไรเลย
หลังโฆษณานี้ออกฉาย ก็มีเจ้าของ Xbox One บ่นเรื่องนี้ทั้งใน Twitter, Reddit และเว็บบอร์ดเกมอย่าง NeoGAF กันไม่น้อยเลยครับ
ไมโครซอฟท์เปิดให้สั่งซื้อ Kinect for Windows v2 ผ่านหน้าเว็บ Microsoft Store แล้ว ตั้งราคาที่ 199 ดอลลาร์ และสินค้าเริ่มส่งช่วงกลางเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป (SDK รุ่นเบต้าก็จะออกพร้อมกัน)
Kinect for Windows v2 คือการนำเอา Kinect รุ่นที่สองที่มากับ Xbox One ขายแยกเพื่อให้ใช้กับพีซีวินโดวส์ได้ เหมาะสำหรับนักพัฒนาที่ต้องการนำเซ็นเซอร์ของ Kinect ไปใช้งานแอพพลิเคชันด้านต่างๆ
ลูกค้าที่สามารถซื้อ Kinect for Windows v2 ได้ เบื้องต้นมี 22 ประเทศ แถวนี้ที่ใกล้ที่สุดคือสิงคโปร์และฮ่องกงครับ