สัปดาห์นี้แอปเปิลประสบชัยชนะในสองศึกที่เกี่ยวข้องกับ iTMS

ศึกแรกคือบรรดาค่ายเพลงใหญ่ Big Four อันได้แก่ Universal, Warner Music, EMI และ Sony BMG ที่เคยออกมาฮึ่มฮั่มว่าจะคิดราคาเพลงแบบไม่ตายตัว (เพลงดังก็ขายแพง) ได้ยอมรับเงื่อนไขในการเจรจากับแอปเปิลแล้ว ทำให้เพลงที่ขายใน iTMS จะยังคงราคาเดิม เพลงละ 99 เซ็นต์ต่อไป อย่างไรก็ตามข่าววงในบอกมาว่าสัญญาอาจเป็นแค่ระยะสั้น ทำให้ปัญหานี้อาจกลับมาอีกในอนาคตอันใกล้

ที่มา - CNN

นักวิเคราะห์จาก Gartner ให้ความเห็นว่า Vista อาจต้องเลื่อนยาวไปจนถึงเดือนเมษายนปี 2007

ถึงแม้ไมโครซอฟท์จะประกาศเลื่อนจากปลายปีนี้ไปเป็นเดือนมกราคม 2007 รอบนึงแล้วก็ตาม แต่ Gartner ยังเห็นว่าตัวโปรแกรมซับซ้อนเกินกว่าจะออกทันเส้นตายรอบใหม่นี้อยู่ดี Gartner ยังบอกอีกว่าการเลื่อนอีกรอบจะไม่เกิดผลกระทบมากเท่าครั้งนี้ เนื่องจากว่าฤดูกาลซื้อของของฝรั่ง มีช่วงเวลาที่ตายตัวคือราวๆ คริสต์มาสนั่นเอง

ไมโครซอฟท์ออกมาแถลงข่าวว่าไม่เห็นด้วยกับ Gartner และ Vista จะเสร็จทันแน่นอน

MSN adCenter เป็นแพลตฟอร์มของไมโครซอฟท์ในการสร้างและจำแนกแจกจ่ายโฆษณา ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวมาเพื่อเป็นคู่แข่งกับ Google Adsense โดยคาดว่าน่าจะพร้อมลงสนามในเดือนมิถุนายน

Liveside blog ซึ่งเป็น blog เกี่ยวกับบริการ Live! ของไมโครซอฟท์ได้เขียนรายละเอียดของระบบนี้ โดยดูระบบจะทำงานคล้ายคลึงกับ AdWords ของ google อย่างมาก โดยโฆษณาจะปรากฏเมื่อผู้ใช้ค้นหาคำที่ระบุใน MSN Search page นอกจากนี้ Adcenter ยังมีระบบช่วยวิเคราะห์สำหรับผู้ลงโฆษณา ว่าจะลงโฆษณาอย่างไร เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด (ซึ่งก็ดูเหมือนระบบของ google อีก)

เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์หลายแห่งทั่วโลกได้พร้อมใจกันทำกิจกรรมที่ชื่อว่า CSS Reboot! ขึ้น โดยกิจกรรมนี้มีกติกาหลักๆ อยู่ว่าให้เปลี่ยนดีไซน์ของเว็บไซต์ที่ตนมีอยู่ โดยหลังจาก submit ผลงานเข้ามาจะเปิดให้ผู้ชมทั่วไปให้คะแนนกันว่าใครจะ "reboot" ได้เจ๋งกว่า

งานนี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2000 ในชื่อว่า May 1st Reboot! โดยตอนนั้นไม่จำกัดว่าจะต้องเป็น html+css เท่านั้น แต่ผู้จัดงาน คุณ James Widegren ได้เห็นว่ามีเว็บไซต์ที่ทำด้วย flash จำนวนมากส่งเข้าประกวด ซึ่งออกจะไม่อิงกับหลัก web standard สักเท่าไหร่ จึงได้คิดจัดงานใหม่ขึ้นมาเป็น CSS Reboot! ตั้งแต่ปี 2005 เป็นต้นมา

เมื่อไม่นานมานี้ Yahoo! ได้เปิดตัวเว็บไซต์ Yahoo! Tech ขึ้นมาโดยดูเหมือนว่าจะเปิดขึ้นมาเพื่อแข่งกับ CNet โดยเฉพาะ โดยมีเนื้อหาใกล้เคียงกันทั้งส่วน review สินค้าต่างๆ, วิธีการเลือกซื้อสินค้า IT และมีผู้เชี่ยวชาญมาเพื่อตอบปัญหาให้กับผู้ใช้

มีผู้ให้ความเห็นว่า Yahoo มาช้าไปในตลาดนี้ เนื่องจาก CNet นั้นมีฐานลูกค้าที่ใหญ่มาก แต่บางที Yahoo อาจจะกำลังพุ่งเป้าไปที่ผู้ใช้ระดับมือใหม่ ซึ่งน่าจะเข้าถึงเว็บไซต์ของ Yahoo ได้ดีกว่าก็เป็นได้

ผมชอบเว็บไซต์ของ Yahoo มากกว่า ถึงแม้แฟลชจะรุงรังไปหน่อย แต่โดยรวมแล้วสบายตากว่าเหลืองเขียวของ CNet มาก

ทางทีม Office 2007 ได้เริ่มเผยภาพหน้าจอของ Beta 2 ซึ่งได้เปิดใช้ความสามารถ Aero Glass ของ Windows Vista แล้ว โดยมีให้ดู 2 รูปคือ Word กับ Excel

หน้าตาโดยรวมก็ไม่มีอะไรแตกต่างจากเดิมมากนัก แต่พอใส่เอฟเฟคต์ Glass ก็ดูหรูดีเหมือนกัน

ที่มา - Jensen Harris: An Office User Interface Blog

ผลการจำหน่ายพีดีเอและอุปกรณ์พกพาในตระกูลเดียวกัน ประจำไตรมาสแรกปี 2006 ยอดขายยังลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 9 แล้ว โดยไตรมาสนี้มีเครื่องถูกขายออกไป 1.5 ล้านเครื่อง ซึ่งน้อยกว่าไตรมาสแรกปีที่แล้ว 22.3%

Palm ยังเป็นเจ้าตลาดโดยมีส่วนแบ่ง 32.2% ที่น่าแปลกใจคือ Treo (ไม่รวมพวก Tungsten หรือ Zire) กลับมียอดขายดีขึ้นสวนทางตลาด อันดับสองคือ HP iPaq ที่ 23.5% อันดับสามและสี่ตามมาห่างๆ ด้วย Dell และ Acer

ส่วนสาเหตุก็อย่างที่รู้กันดีว่าโดนกินตลาดโดยโทรศัพท์มือถือ ถึงแม้ว่าบรรดาพีดีเอจะเพิ่มฟีเจอร์พวก WiFi หรือ GPS เข้ามาในช่วงหลังก็ตาม ใครมันจะไปมีเงินเปลี่ยนกันบ่อยเนอะ

เนื่องมาจากมีหลายคนสงสัยว่าทำไมผมสนับสนุน Drupal กับ Plone อย่างออกหน้าออกตา และมีอีกหลายคนกำลังต้องเลือก CMS คู่ใจซักตัว ผมก็เลยอยากจะเปรียบเทียบซักหน่อย ทีนี้เรื่องมันยาว เลยขอเอามาแปะไว้ที่นี่ดีกว่า ถ้าจะเอามาเปรียบเทียบคงต้องดูหลายประเด็น ไม่งั้นจะมีคนหาว่าผมไม่มีจริยธรรมมากพอ

เพื่อไม่ให้เยิ่นเย้อมากเกินไปผมเลือกมาแค่ 4 ตระกูลใหญ่ Nuke Mambo Drupal Plone โดยที่ Nuke จะรวม PHPNuke กับ PostNuke และ Mambo จะรวม Joomla ด้วย (สงสัยจะยาวไปเลยต้องย้ายมาเป็น Special Report)

ถ้าใครลอง IE7 แล้วคงจะเห็นว่ามีช่องเสิร์ชเหมือนไฟร์ฟอกซ์กันมาแล้ว ซึ่งก็ดูสะดวกดี แต่งานนี้กูเกิลไม่ชอบใจเท่าใหร่ เพราะ IE นั้นครองตลาดอยู่ถึงร้อยละ 80 ส่งผลให้กูเกิลตัดสินใจยื่นฟ้องไมโครซอฟท์แล้วในวันนี้

งานนี้ Marissa Mayer รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์เสิร์ชระบุว่าไมโครซอฟท์ไม่มีสิทธิที่จะกำหนดเสิร์ชเอนจินให้กับผู้ใช้ ส่วนทางไมโครซอฟท์ก็ออกมาโต้ตอบว่าการกำหนดเสิร์ชเอนจินนี้ก็เพียงเพื่อความสะดวกเท่านั้น และการเปลี่ยนเสิร์ชเอนจินก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป

หลังจากเปิดตัวบริการ A9 มานานพอสมควร สัญญาระหว่างอเมซอนและกูเกิลก็หมดลง พร้่อมๆ กับการเปลี่ยนผู้ให้บริการค้นหามาเป็นไมโครซอฟท์แทน โดยการเปลี่ยนระบบค้นหานี้เป็นการเปลี่ยนทั้งบริษัทเลยทีเดียว นั่นหมายถึงเมื่อคุณเข้าเว็บอเมซอนแล้วค้นหาหนังสือ ก็จะเป็นการค้นหาด้วยเอนจินของทางไมโครซอฟท์

แม้ในตอนนี้ทาง A9 ไม่ได้มีส่วนแบ่งอะไรสำคัญ แต่การเปลี่ยนครั้งนี้ก็มีผลในแง่ของภาพลักษณ์ของทั้งกูเกิลและไมโครซอฟท์ค่อนข้างมาก จนน่าสงสัยว่าเป็นรายการโปรโมทตัวเองของไมโครซอฟท์ เหมือนครั้งที่ GoDaddy ย้ายไปใช้ไมโครซอฟท์ด้วยเหมือนกันรึเปล่า

คะแนนโอเน็ต-เอเน็ตประกาศรอบสามแล้วครับเมื่อวานนี้ และแล้วก็ไม่พ้นการถูกเด็กด่าเหมือนเคย เบื่อข่าวโอเน็ต-เอเน็ตบ้างไหมครับ? รู้สึกไหมว่าทำไมระบบมันช่างวุ่นวาย และดูมั่วซั่วอย่างนี้ นั่นแหละครับคำถามแรกที่เกิดขึ้นกับผมและทำให้ผมได้เข้ามายุ่งกับงานๆ นี้ด้วยตัวเอง พอกระโดดลงมาทำแล้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเรียกว่าโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่...

หลังจากที่ Jonathan Schwartz ขึ้นเป็น CEO ต่อจาก Scott McNealy ก็จัดให้มีการอภิปรายกันเป็นการภายในเรื่องการเปิดเผยซอร์สโค้ด Javaซึ่งเป็นประเด็นร้อนที่ ESR เคยส่งจดหมายเปิดผนึกถึง McNealy มาก่อน

ซึ่งผลการอภิปรายจะไปว่ากันในงาน JavaOne ปีนี้ครับ ป.ล. โดยส่วนตัวผมเฉยๆนะ :P

ที่มา - OSNews

หลังจากที่รอมาเป็นปี ในที่สุด Drupal 4.7.0 ตัวเต็มก็ลืมตาดูโลกวันนี้นี่เอง คนที่ใช้ Drupal อยู่แล้วและไม่ได้ใช้โมดูลแปลกๆ ตอนนี้เป็นช่วงเวลาอันดีที่จะอัพเกรด จริงๆ จังๆ ซักที บักหายไปเยอะมาก มีการเพิ่ม ajax แฝงเข้ามาเท่าที่จำเป็น โดยรวมแล้วดูดีมากๆ โดยเฉพาะ Form APIs ที่เห็นแล้วต้องลองเขียน

ถ้าไม่เคยใช้ Drupal หรือกำลังมองหาทางเลือกใหม่ ผมสนับสนุนเต็มตัว หนึ่งเดียวที่พอจะเทียบกับ Plone ได้ ตัวอื่นอย่าไปนับ โดยเฉพาะตระกูล Nuke Mambo Joomla

ผมคงไม่อธิบายว่า RMS หรือ Richard Stallman เป็นใคร (ไม่รู้จัก อ่านที่นี่)

RMS และ Free Software Foundation ได้ประท้วงทั้ง Nvidia และ ATI ด้วยเรื่องการไม่เปิดสเปกชิปเซ็ตของ GPU ทำให้ไม่สามารถสร้างไดรเวอร์แบบโอเพนซอร์สได้มาซักระยะหนึ่งแล้ว

หลายๆ คนคงเคยใช้บริการ Youtube ซึ่งเป็นบริการแชร์ไฟล์วิดีโอ และในปัจจุบันได้มียอดผู้ชมมากกว่า Flickr ซึ่งเป็นบริการเก็บอัลบัมรูปส่วนตัวไปมากพอสมควรแล้ว (เกือบสองเท่า) นี่อาจจะแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเจริญเติบโตของอินเตอร์เนตความเร็วสูง ว่าเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ใช้อินเตอร์เนตไปอย่างไร ข่าวนี้ ที่ digg เขียนถึงไว้สั้นๆ ว่า

"People have more fun watching TV than a photo album. Maybe the couch potato just won."

สำหรับผู้ที่สนใจ มีกราฟแสดงอยู่ที่ vowe.net ครับ

อธิบายก่อนว่า "Places" เป็นการรวม Bookmarks กับ History เข้าด้วยกัน และเพิ่มความสามารถในการจัดเรียง, ค้นหาและอื่นๆ เข้าไป โดยเก็บข้อมูลเป็น SQLite แทนที่จะเป็น XML/RDF แบบเวอร์ชันเดิมๆ Places เป็นฟีเจอร์สำคัญใน Firefox 2.0 และออกมาให้เราได้ลองใช้กันใน Alpha 1 แล้ว

แต่เนื่องจากปัญหาในการพัฒนาและกลัวว่าจะกระทบต่อกำหนดการของ Firefox 2.0 ดังนั้น Places จึงถูกถอดออกจาก Mozilla 1.8 branch ไปซะแล้ว ขยายความว่ามันจะโผล่มาอีกครั้งใน Firefox 3.0 นู่นเลย (อ่านคำแถลงใน newsgroup)

หลังจากทุ่มกำลังในการวิจัยการแปลแบบใช้สถิติมานาน กูเกิลก็เริ่มแสดงความสำเร็จในการแปลภาษาต่างๆ และล่าสุดกูเกิลก็ประกาศความสำเร็จในการแปลภาษาอาหรับ ซึ่งนับว่ายากที่สุดภาษาหนึ่งในโลก และนับเป็นการเปิดตัวที่สวยทีเดียว เพราะการวัดคุณภาพการแปลออกมาเป็นคะแนนแล้ว พบว่าระบบการแปลของกูเกิลนำเป็นที่หนึ่งในแทบทุกหมวด โดยการเปิดงานวิจัยนี้มีพร้อมๆ กับการเปิดเว็บเดโมให้ดูกัน

อนาคตเราคงเดาได้ว่าทุกคนจะสื่อสารผ่านกัน โดยไม่มีภาษาเป็นกำแพง แต่ต้องสื่อสารกันผ่านกูเกิลที่จะแสดงคำโฆษณาให้เราตลอด จะว่าน่าทึ่งหรือน่ากลัวดี?

หลังจากที่มีการประกวดทำหนังสั้นไม่เกิน 30 วินาทีเพื่อการโฆษณา Firefox โดยรับสมัครจากบุคคลทั่วไป ทั้งหมดประมาณ 300 ชิ้น ตอนนี้ก็ได้ประกาศผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศออกมาแล้ว คือหนังโฆษณาชุด DareDevil ตามมาด้วย ที่สองคือชุด Wheee! และที่สาม Fox Fever โดยมี This is Hot และ Give me the the soap ได้รับรางวัลชม

ไมโครซอฟท์ได้เปิดตัว Windows Live Shopping แล้ว แต่ยังไม่ซัพพอร์ต Firefox ในเวอร์ชั่นนี้ โดยผู้ที่ใช้ Firefox เข้าไปยังหน้าเพจดังกล่าวจะเห็นข้อความ

"We're sorry. Windows Live Shopping Beta does not yet support Firefox. We’re working to correct this as soon as possible."

พร้อมกันนี้ได้เปิดตัว Windows Live Expo ซึ่งเป็นบริการที่ให้ user ทั่วไปนำของมาซื้อขายกันอีกด้วย

ที่มา - cybernetnew, windows live shopping

แอปเปิลได้จดสิทธิบัตรคีย์บอร์ดบนจอสัมผัสที่มีรูปร่างโค้ง (รูป) ที่รูปร่างคล้ายๆ กับคีย์บอร์ดบนจอสัมผัสของไมโครซอฟท์บน UMPC (รูป)

หรือว่ามันจะมีไว้สำหรับ Apple PDA?

แต่ดูรูปร่างของคีย์บอร์ดแล้วรู้สึกว่านิ้วโป้งมือขวาคงจะแข็งแรงขึ้นอยู่ หลังจากใช้งานไปสักพัก

ที่มา - MacRumors

หลังจากมินอลต้ายอมยกธงขาวไป ในตอนนี้มามิยาก็ตามไปอีกหนึ่งรายแล้วครับ

มามิยาเป็นบริษัทที่ผลิตกล้องระดับ Medium Format (ที่ Film หรือ Censor รับภาพใหญ่กว่ากล้อง 35 มม. ทั่วๆไป) มาตั้งแต่ 1940 ซึ่งก็เข้าสู่ยุคดิจิตอลด้วย Mamiya ZD ที่เป็น Medium Format DSLR และดิจิตอลแบ๊คออกมา แต่ก็ไม่ทันการต่อกระแสดิจิตอลที่โปรหลายๆ คนเปลี่ยนไปใช้ 35 มม DSLR แทน

ตอนนี้มามิยาขายส่วนกล้องและเลนส์ทั้งหมดออกไปให้บริษัท Cosmo Digital Imaging แทนครับ

มีข่าวจาก Mailing List ของเวบ OpenSolaris ว่า แอปเปิลสนใจที่จะจับเจ้า ZFS ซึ่งเป็น File System ของ Solaris มาลงใน Mac OS X ครับ

ซึ่งใน OSNews กระแสตอบรับค่อนข้างดีทีเดียว :)

ที่มา - OSNews

PQI จะออกแฟลชเมมโมรี่ที่มีความจุสูงถึง 16 GB ความกว้างคูณยาวเท่ากับบัตรเครดิต แต่หนากว่านิดหน่อยคือประมาณ 3 มิลลิเมตร ถ้านึกไม่ออกก็ประมาณบัตรเครดิตธรรมดาซ้อนกัน 2-3 แผ่น

ทาง PQI ยังไม่กำหนดราคาแต่ประมาณกันว่าน่าจะอยู่แถว ๆ $500-$2000

ลองนึกดูว่าถ้าเราสามารถเอาการ์ดหน่วยความจำขนาด 16 GB พกใส่กระเป๋าตังค์ติดตัวได้ทีละ 2-3 ใบมันจะเป็นยังไง?

เวลากระเป๋าตังค์หายสงสัยต้องประกาศว่า "ใครที่เก็บกระเป๋าตังค์ได้ ไม่ต้องเอาเงินกับเอกสารมาคืนก็ได้ขอแค่เมมโมรี่การ์ดเท่านั้น เพราะมีรูปกับไฟล์วีดีโอ... เอ้ยไม่ใช่!!! ข้อมูลที่สำคัญมากอยู่ในนั้น"

วันนี้เอเอ็มดีออกมายอมรับความผิดพลาดในการผลิตชิปสองรุ่นคือ Opteron x52 และ Opteron x54 ที่หลุดลอดกระบวนการตรวจสอบออกไป ทำให้ชิปรุ่นดังกล่าวบางตัวอาจจะทำงานได้ผลลัพธ์ที่คาดเดาไม่ได้

สาเหตุคือหน่วยคำนวณเลขทศนิยมที่เมื่อมีการคำนวณเช่นการคูณ หรือการบวกซ้ำไปมา โดยไม่มีคำสั่งอื่นใดคั่นกลางแล้ว จะทำให้ส่วนนี้เกิดความร้อนสูงจนค่าผลลัพธ์การคำนวณกลายเป็นค่าที่คาดเดาไม่ได้ไป

เรื่องทั้งหมดมันเริ่มขึ้นจากตอนที่ผมกำลังพยายามเขียนเว็บเอง ทั้งหมด

จากเดิมที่ไปโหลดธีมที่มีแจกทั่วไปในอินเทอร์เน็ต ซึ่งโดยหลักๆ แล้วผมพยายามทดสอบบนบราวเซอร์ทั้งสาม คือ Opera, IE, และ Firefox

เกือบทุกครั้ง IE ไม่สามารถเรนเดอร์เว็บอย่างที่ผมต้องการได้ ผมกลับไปพยายามอีกครั้ง ด้วยการพยายามเรียนรู้ความแตกต่างในการรองรับ CSS ระหว่างบราวเซอร์แต่ละตัว ด้วยการไปหาหนังสือ CSS Hacks & Filters ของ Joseph W. Lowery มาอ่าน ผมพบความจริงที่ว่า ถ้าผมเป็นเพียงคนทำเว็บมือสมัครเล่น แทบไม่มีทางเลยที่จะจำข้อยกเว้นและวิธีแก้ไขของ IE ได้ทั้งหมด