สำหรับคนที่ใช้ GNOME อาจจะอึดอัดใจว่า gedit เป็น default text editor ที่ไม่มีความสามารถมากนัก (เทียบกับ kate ของ KDE) ผมเองเวลาเขียนโปรแกรมส่วนมากก็ใช้ vi เพราะมันคุ้นมือกว่า
แต่ใน gedit 2.14 ที่มากับ GNOME 2.14 ซึ่งออกเดือนมีนานี้ ได้รื้อโค้ดใหม่ซะเยอะ ทำให้มีประสิทธิภาพและความรวดเร็วมากขึ้น เอา UI หลายอย่างจาก Firefox มาใช้ เช่น Find as you type, การแจ้งเตือนแบบไม่ใช้ไดอะล็อกมาให้เกะกะ หรือแท็บที่ย้ายตำแหน่งได้ เป็นต้น และสุดท้ายคือบรรดาปลั๊กอินใหม่ๆ ที่ทำให้ชีวิตคนต้องเขียนโปรแกรมง่ายขึ้นเยอะ อย่าง Code Snippet เป็นต้น
ขณะที่สงครามออปติกคอลไดรฟ์กำลังดุเดือด ดูเหมือนว่าหัวหอกของทั้งสองค่ายนั้นจะไม่ต้องการพลาดการทำตลาดในอนาคตไป ไม่ว่าผลของสงครามจะเป็นอย่างไร โดยก่อนหน้านี้โตชิบาซึ่งเป็นหัวหอกฝั่ง HD-DVD ได้ร่วมมือกับซัมซุงตั้งกลุ่ม TSST ขึ้นมาพัฒนาอุปกรณ์ที่เป็นเทคโนโลยี Blu-Ray โดยความเห็นจากโตชิบาในเรื่องนี้คือ โตชิบา "ยัง" ไม่มีแผนจะทำตลาดอุปกรณ์ Blu-Ray แต่อย่างใด
ในวันนี้เองโซนี่ก็มีแผนสำรองแบบเดียวกัน ผ่านทางบริษัท NEC โดยการร่วมทุนกันในบริษัท Sony NEC Optiarc ซึ่งจะสร้างผลิตภัณฑ์ด้านออปติกคอล โดยคาดกันว่าจะมียอดขายในปีแรกถึง 1.9 พันล้านดอลลาร์
ตอนนี้ไมโครซอฟท์ยืนยันแล้วครับว่าจะมีวินโดวส์วิสตา ทั้งหมด 6 เวอร์ชัน จริงๆ ทั้ง 6 เวอร์ชันนี้จะแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้ 2 เวอร์ชันสำหรับผู้ใช้ธุรกิจ 3 เวอร์ชันสำหรับผู้ใช้ทั่วไป และ 1 เวอร์ชันสำหรับผู้ใช้ระดับสูง
โดยทั้ง 6 เวอร์ชัน ประกอบด้วย
ถ้าใครได้ติดตามข่าวไอทีมานานๆ คงจะจำกันได้ว่าล็อกอินที่เราใช้กับ MSN Messenger ทุกวันนี้ มันไม่ได้เป็นเพียงแอคเคาน์ที่ไว้ใช้คุยกันเท่านั้น แต่ไมโครซอฟท์เคยหวังให้มันเป็นโปรโตคอลกลางในการล็อกอินทุกระบบ
มาในวันนี้ความพยายามที่เคยล้มเหลวไปแล้วของไมโครซอฟท์ก็คืนร่างมาอีกครั้ง ด้วยการประกาศเทคโนโลยี InfoCard ที่จะมาพร้อมในวินโดวส์วิสต้าทุกเครื่อง (เหมือนคราวที่แล้ว) แต่ครั้งนี้ไมโครซอฟท์มามาดใหม่ด้วยการเปิดให้มีผู้ให้บริการรายอื่นๆ นอกจากไมโครซอฟท์ได้ เหมือนอย่างมาตรฐานเปิดอื่นๆ เช่น OpenID
ถึงแม้จะเป็นพันธมิตรกัน และเป็นผู้ผลิตหน่วยความจำแฟลชรายใหญ่ให้แอปเปิล แต่ Samsung เตรียมวางตลาดเครื่องเล่นเอ็มพีสาม Z5 ที่มีจอสี 1.8 นิ้วและเล่นได้ 35 ชม. ออกมาชนกับนาโนตรงๆ (ซื้อเพลงตามมาตรฐาน PlayForSure ของไมโครซอฟท์เช่นเคย)
ที่เป็นข่าวคือซอฟต์แวร์ใน Z5 ออกแบบโดยทีมของ Paul Mercer พนักงานเก่าของแอปเปิลสมัยยุค 80 หนึ่งในทีมสร้าง Newton ภายหลังเค้าได้ออกมาตั้งบริษท ซึ่งรับผิดชอบซอฟต์แวร์ภายในไอพ็อดรุ่นแรก
ที่เหลือในข่าวเป็นเรื่องของ Mercer อย่างละเอียด ประมาณว่าเล่นเรื่องอดีตพนักงานแอปเปิล มาสร้างผลิตภัณฑ์แข่งกับบริษัทเก่า (ซึ่งผมคิดว่าก็ปกตินิ)
มีคนฟิตจัดลองลง Extension ของ Firefox 100 อันดับแรกใน Most Popular ผลปรากฎว่าไม่มีปัญหาการแครชหรือตีกันอย่างไม่น่าเชื่อ และทำให้ตัวเว็บเบราว์เซอร์ช้าลงนิดหน่อยเท่านั้น
แต่หน้าจอก็เต็มไปด้วยปุ่มและทูลบาร์นานาชนิด รวมถึงเมนูตอนคลิกขวาด้วย ดูภาพหน้าจอได้จากลิงก์เลย
ไมโครซอฟท์กำลังประชาสัมพันธ์โครงการ Origami (นกกระดาษ) อย่างเงียบๆ โดยมันคือแท็บเล็ตพีซีขนาดเล็ก ที่มีคีย์บอร์ดถอดเปลี่ยนได้ ความสามารถพื้นฐานคือการดูหนังฟังเพลง เล่นเว็บ มี Wi-Fi รายละเอียดอย่างอื่นยังไม่ออกมา ในโฆษณาบอกว่ารอวันที่ 2 มีนาคมจะเปิดเผยรายละเอียด
เครื่องต้นแบบมีให้ดูตามลิงก์ โดยไมโครซอฟท์จะผลิตฮาร์ดแวร์หรือไม่ยังไม่มีข้อมูล เพราะนอกจากเครื่องเกมที่จับตลาดเฉพาะ แล้วก็เมาส์กับคีย์บอร์ดแล้ว ไมโครซอฟท์ก็ไม่ได้ทำธุรกิจฮาร์ดแวร์มากนัก อาจมาในรูปแบบพ็อคเก็ตพีซีหรือแท็บเล็ต ที่สุดท้ายก็ให้ผู้ผลิตรายอื่นทำตลาดก็ได้
หลังจากปล่อยให้โอลิมปัสรอเพื่อนร่วมทางอยู่นาน พานาโซนิคก็ประกาศ DSLR ตัวแรกอย่างเป็นทางการแล้วในชื่อว่า DMC-L1 ซึ่งแน่นอนว่าเป็นกล้่องตัวล่าสุดที่เข้ากันได้กับมาตรฐาน Four-Third ซึ่งพานาโซนิคเองมีท่าทีสนับสนุนมาตั้งแต่ต้น
สเปคยังออกไม่หมด เพราะยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา แต่ที่แน่ๆ คือความละเอียดภาพ 7.5 ล้านพิกเซล เป็นเซ็นเซอร์แบบ MOS พร้อมหน่วยประมวลผลภาพ Venus Engine III ที่กินพลังงานน้อยลง และรองรับ SDHC ที่ให้ความจุสูงกว่า 2 กิกะไบต์ได้
การประกาศเปิดตัวมีขึ้นพร้อมกับเลนส์ที่มาพร้อมกันคือ Leica 14-50 ที่มาพร้อมกับระบบป้องกันภาพสั่น MEGA O.I.S ตามสไตล์ของพานาโซนิค
ASUS เปิดตัวโน้ตบุ๊คตระกูล S6 ซึ่งนอกจากมันจะเป็นโน้ตบุ๊คที่ใช้ Core Duo เหมือนปกติวิสัยแล้ว สิ่งที่ทำให้ S6 "แตกต่าง" ก็คือมันหุ้มหนังครับ แถมยังเป็นสีชมพูด้วย (มี 4 สี pink, light, dark, white) คิดว่าคงทำให้ดูเหมือนกระเป๋าถือผู้หญิงน่ะเอง ราคาประมาณ 2,500-3,000 เหรียญ คิดเป็นราคาไทยก็เริ่มที่แสนอัพ ผมว่าต่อไปมันต้องมีโน้ตบุ๊คลายไม้ สีทูโทนอะไรพวกนี้แน่ๆ เลย (ดูรูปได้ในลิงก์)
โน้ตบุ๊คอีกรุ่นนึงคือตัวท็อปของ ASUS W2Jc ที่มีฟีเจอร์มากมายรวมถึงซับวูฟเฟอร์ ราคาประมาณ 3,500 เหรียญ คิดเป็นเงินไทยเองละกัน
ผมชอบนินเทนโดเป็นการส่วนตัว ดังนั้นจะลำเอียงเอาข่าวมาลงบ่อยๆ นะครับ :P
Engadget ได้สัมภาษณ์ Reggie Fils-Aime ซึ่งเป็นรองประธานฝ่ายขายและการตลาด ของนินเทนโดอเมริกา หมอนี่เป็นผู้บริหารคนดังของวงการเกม เพราะบุคลิกเวลากล่าวเปิดงาน ที่ต้องออกสาธารณชนจะเฮ้วๆ หน่อย แฟนนินเทนโดหลายคนเรียกเค้าว่า "Reggielution"
Reggie พูดถึง DS Lite ว่ายังไม่สามารถระบุวันจำหน่ายที่แน่นอนในอเมริกาได้ (ญี่ปุ่นประกาศขายกลางมีนา) และเค้ายังไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่จะมี DS รุ่นที่สามอีกด้วย
ผมไม่ได้เขียนจาวาแต่เห็นว่าแถวนี้แฟนจาวาเยอะ เลยเอามาฝาก
IBM developerWorks มีบทความเปรียบเทียบชุด GUI toolkit ทั้งสามตัวของจาวา คือ AWT (Abstract Windows Toolkit), Swing และ SWT (Eclipse's Standard Windows Toolkit) โดยเปรียบเทียบละเอียดขนาดมีตารางบอกว่าอะไรเรียกอะไรในแต่ละชุด
อ่านคร่าวๆ แล้วเค้าแนะนำว่า Swing มีฟีเจอร์เยอะกว่า และได้เปรียบตรงที่รวมมาในจาวาอยู่แล้ว ส่วน SWT ต้องใช้ร่วมกับ JFace ถึงจะมีฟีเจอร์สู้ได้ แต่ก็ได้เปรียบเรื่องประสิทธิภาพที่ออกแบบมาเป็น native ตั้งแต่แรก
ในยุคที่ร้านขายเพลงออนไลน์รุ่งเรืองแบบนี้ แพลตฟอร์มลินุกซ์เป็นลูกเมียน้อยมากๆ เพราะร้านขายเพลงส่วนมากสนับสนุนเฉพาะวินโดวส์ (ส่วนบนแมคนอกจาก iTMS แล้ว ร้านอื่นๆ ก็ได้อานิสงค์จาก iPod) แต่มาวันนี้ Mandriva ได้ประกาศว่าใน Mandriva 2006 ที่จะออกเร็วๆ นี้ จะรวมความสามารถในการซื้อเพลงจากร้าน Mindawn ไว้ด้วย
Mindawn เป็นร้านที่สนับสนุนทั้งสามแพลตฟอร์มหลัก ฟอร์แมตของเพลงจะใช้ Ogg สำหรับ lossy และ FLAC สำหรับ loseless ตามคาด แต่ผมลองกดเข้าไปดูก็คิดว่าไม่รอดแน่ เพราะไม่มีศิลปินที่รู้จักเลย!
เนื่องจากบ้านเราไม่มี BlackBerry ใช้ (ผมเริ่มเห็นโอเปอเรเตอร์มือถือเริ่มเอาเข้ามาบ้างนิดหน่อย) เลยอาจไม่ค่อยเห็นภาพเท่าไร แต่ BlackBerry เป็นมือถือ-พีดีเอที่ส่งอีเมลได้ (ผ่านเครือข่ายของ BlackBerry เอง) และได้รับความนิยมอย่างมากในสหรัฐ
หลายคนอาจเห็น WMP11 ผ่านตาจาก screenshot ของ Vista แล้ว ทีมงาน CNET ได้มีโอกาสลองเล่น WMP11 ในงาน CES 2006 และพบว่าหน้าตามันดูใสสะอาดปิ๊งปั๊งมากขึ้น เอาส่วนดีหลายอย่างจาก iTunes มาใช้ และทำงานได้รวดเร็ว จัดการกับเพลงจำนวนมากๆ (ซักหลักหมื่นเพลงขึ้นไป) ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้เป็นจุดอ่อนที่สำคัญของทั้ง iTunes และ WMP ตัวเก่าๆ
ช่วงนี้เป็นช่วงโกยคะแนนของ NetBeans เค้าละครับ ไม่กี่วันที่ผ่านมาก็เลยปล่อยรุ่นแอบดูของ NetBeans 5.5 มายั่วใจ ดึงข่าวที่เริ่มซาให้เป็นที่พูดถึงกันใหม่
ชื่อรุ่นก็บอกอยู่ว่าเป็นรุ่นให้แอบดูนึดนึง เพราะฉะนั้นรุ่นจริงๆ จะมีความสามารถเยอะกว่านี้อีก เราคงต้องติดตามดูกันต่อไป ส่วนรุ่นนี้ความสามารถหลายๆ อย่างเอามาจาก Sun Java Enterprise ทั้งนั้นซึ่งก็ได้แก่
ความเป็นตัวตน (Identity) ของคุณบนโลกไซเบอร์สำคัญแค่ไหน ทุกวันนี้คุณมีชื่ออีเมล์กี่ชื่อ ชื่อที่ใช้ใน pantip กี่ชื่อ ชื่อในเว็บบอร์ดต่าง ๆ อีกกี่ชื่อ ชื่อจริงคุณเคยเปลี่ยนหรือไม่ นามสกุลเคยเปลี่ยนหรือเปล่า ชื่อเล่นคุณหล่ะ ฉายาคุณอีก ไหนจะมีชื่อที่คนเขียนผิด เขียนถูกอีก สารพัด แต่...คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าชื่อของคุณที่ปรากฏบนเอกสารออนไลน์ต่าง ๆ คือ ตัวแทนของคุณ ไอ้พูดถึงในทางที่ดีก็ไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าในทางเสีย ๆ หาย ๆ แล้วมันไม่ใช่ตัวคุณ คุณก็คงต้องออกมาปกป้อง จริงหรือไม่ ว่าแต่คุณจะรู้ได้ไง ว่าเค้าพูดถึงคุณว่าอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้คน blog กันกระฉูดแบบนี้ คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าชื่อคุณจะไม
ช่วงนี้ออราเคิลช็อปแหลก ถัดจาก SleepyCat บริษัทล่าสุดที่เป็นข่าวด้วยก็คือ JBoss Inc. ที่น่าสนใจที่สุดคือมูลค่าการดีลครั้งนี้อาจพุ่งไปถึง 400 ล้านเหรียญ (หมื่นหกพันล้านบาท)
การซื้อกิจการบริษัทโอเพนซอร์สที่แพงที่สุดในปัจจุบัน คือ Novell ซื้อ SuSE ราคา 210 ล้านเหรียญ ดังนั้นถ้าตัวเลข 400 ล้านเหรียญเป็นจริง ก็ถือว่าไม่ธรรมดาเลยสำหรับ JBoss ที่เป็นบริษัทจับเฉพาะกลุ่ม Enterprise และไม่ค่อยมีชื่อเสียงในกลุ่มคนทั่วไปมากนัก
อีกสี่วันก็จะผ่านไปแล้วกับเดือนแห่งความรัก และการทิ้งเพื่อนไปอยู่กับแฟน (โดนตลอด... T_T) อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่าผมจะมาคุยข่าวคราวของเว็บกันประมาณทุกสองสัปดาห์ วันนี้ก็คงได้เวลากันอีกครั้ง
หลังจากที่มีข่าวเกี่ยวกับ iPod Video ตัวจริงออกมาเมื่ออาทิตย์ก่อนทำให้มีการคาดเดากันว่า Special Event ที่แอปเปิลจะจัดในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2549 นี้จะเป็นการเปิดตัว iPod Video ตัวจริง ??
ข่าวลือก็ยังคงเป็นข่าวลือ แต่ตอนนี้มีอะไรให้ตื่นเต้นนิดนึงก่อน Special Event จะมาถึง
Macrumors ได้เผยแพร่ภาพที่คาดว่าเป็นภาพของ iPod Video ตัวจริงๆๆๆ โดย ดังรูป
ตลาดของเครื่องคอลโซล นอกจากการแข่งกันที่ประสิทธิภาพเครื่องแล้ว ชุดพัฒนาก็เป็นเรื่องสำคัญในการแข่งขัน ซึ่งที่ผ่านมานักพัฒนาจำนวนมากออกมาบ่นเรื่องนี้กับโซนี่มาโดยตลอด ส่วนด้านไมโครซอฟท์นั้นการพัฒนาก็แทบไม่ต่างอะไรจากพีซีอยู่แล้ว
แต่เมื่อไม่กี่วันมานี้ก็มีรายงานถึงชุดพัฒนาจากค่ายนินเทนโดที่เชื่อกันว่าจะถูกส่งมอบไปแล้วกว่าพันชุด โดยแต่ละชุดนั้นมีราคาต่ำกว่า 2,000 ดอลลาร์ และสร้างความประทับใจให้กับนักพัฒนาได้เป็นอย่างดี การที่ชุดพัฒนามีราคาถูกแสดงถึง ความหวังที่จะมีบริษัทเกมขนาดเล็กเกิดขึ้นเพื่อพัฒนาเกมบนเครื่องรีโวลูชั่นนี้มากขึ้นในอนาคต
มีคนค้นพบว่าอีเมลของ Yahoo ไม่สามารถตั้งชื่อที่มีคำว่า allah (หมายถึง "อัลเลาะห์") ได้ แม้จะเป็นคำอื่นก็ตาม ขอแค่มีข้อความนี้อยู่ก็ไม่ได้
เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะมีคนนามสกุล Callahar สมัครอีเมลของ Yahoo แล้วพบว่าตัวเองไม่สามารถสมัครได้อย่างไม่ทราบสาเหตุ หลังจากลองชื่ออื่นๆ แล้วก็พบว่าชื่อต้องห้ามได้แก่ yahoo, admin, security (พวกนี้ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย) ที่เหลือคือ binladen, osama, fuck เป็นต้น ในขณะที่ชื่อที่เกี่ยวกับศาสนาอื่นๆ อย่าง jesus, satan, nazi ยังสามารถนำไปใช้ได้
บริการใหม่ล่าสุดจากกูเกิลคราวนี้เป็นคิวของ Google Page Creator หรือโปรแกรมสร้างเว็บนั่นเอง
แน่นอนว่าต้องใช้เทคโนโลยีอย่าง AJAX เช่นเดียวกับบริการอื่นๆ ทำให้สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ได้ดีขึ้นกว่าโปรแกรมในยุคก่อน (อย่างเช่นตัวสร้างเวบของ geocities)
เวบ็ที่สร้างขึ้นจะมี URL เป็นแบบ http://username.googlepages.com และมีเนื้อที่ให้อัพโหลดไฟล์รูปภาพขึ้นไปใส่ รวมทั้งใช้งานได้ทั้งหมดคนละ 100 เมกกะไบต์
เชื่อว่าทุกคนอยากไปทำงานที่กูเกิล และอาจจะเคยได้ยินเสียงร่ำลืออย่างงี้อย่างโง้น ว่าชีวิตใน Googleplex รื่นรมย์ขนาดไหน แต่มาดูภาพจริงๆ ให้เห็นกับตาดีกว่าใน Life in the Googleplex ของนิตยสาร TIME
ผมว่าร้านทำผมหรือเลี้ยงหมาก็ดูโอเค แต่วอลเลย์บอลชายหาดนี่เข้าขั้นไม่ธรรมดาแล้ว
ปีที่แล้ว Larry Page กับ Surgey Brin ได้ประกาศว่าจะดำเนินกิจกรรมของกูเกิลเพื่อการกุศล ตอนนี้ Google.org พร้อมจะเดินหน้าแล้ว โดยได้เงินทุนตั้งต้นจาก Page กับ Brin มาจำนวน 1% ของราคาหุ้น Google.com ซึ่งมูลค่าเป็นตัวเงินคือ 1.1 พันล้านเหรียญ (ซื้อชินคอร์ปได้ 1 ใน 4)
โดยเป้าหมายหลักจะแก้ปัญหาความยากจน พลังงาน และสิ่งแวดล้อม ซึ่งผู้ก่อตั้งทั้งสองหวังว่าภายในสิบปี ผลงานของ Google.org นี้จะมีผลกระทบต่อสังคมโลกขนาด "eclipse Google itself" เลยทีเดียว
ทาง Blognone ได้รายงานข่าวเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2549 ว่า iTMS นับถอยหลังสู่พันล้านเพลง โดยวันนั้นจำนวนเพลงที่ถูกดาวโหลดอยู่ที่ประมาณ 953 ล้านเพลง
อีกสิบหกวันถัดมาหรือก็คือวันนี้ iTMS มีลูกค้าดาวโหลดเพลงไปทั้งหมด 1,000,000,000 เพลง แล้ว (หนึ่งพันล้านเพลง!!!)
แอปเปิ้ลยิ้มร่า ลูกค้าร่าเริง...