ถึงแม้ว่ายุคนี้มหาลัยจะมี access point ให้ใช้กันเป็นเรื่องธรรมดา และนักศึกษาก็เดินถือโน้ตบุ๊คกันเกลื่อน แต่การที่ทุกคนจะใช้โน้ตบุ๊คยังดูเป็นเรื่องห่างไกลอีกนาน กว่าจะเป็นจริงได้
แต่มันไม่เป็นอย่างงั้นต่อไปอีกแล้ว เมื่อมหาวิทยาลัย Indiana State University ได้ประกาศว่า นักศึกษาใหม่ปีหน้าทุกคนจะต้องมีโน้ตบุ๊ค!
นอกจากนี้ยังไม่พอ ถ้ายังไม่มีเครื่อง มหาวิทยาลัยก็จัดบริการขายให้ถึงที่ โดยยี่ห้อที่ ISU เลือกคือ Lenovo Thinkpad ถ้ายังไม่คุ้นมันก็คือ IBM เก่าน่ะเอง ในแหล่งข่าวอ่านแล้วเหมือนข่าวประชาสัมพันธ์ Lenovo นิดๆ แต่เอามาเขียนลงเผื่อมหาลัยคุณจะทำตามมั่ง
ข่าวขำๆ ประจำวันนี้ ถ้ามีเงินเหลือจากซื้อแมคมินิตัวใหม่ซัก 400-500 เหรียญ คุณสามารถแต่งตัวแบบเดียวกับสตีฟ จ็อบส์ได้
เครื่องแต่งกายของจ็อบส์ประกอบด้วยเสื้อยืดคอเต่าสีดำยี่ห้อ St. Croix (ไม่รู้จักแหะ) ราคา 155 เหรียญ กางเกงเป็นลีวายส์ 501 ราคา 138 เหรียญ ปิดด้วยรองเท้า New Balance ราคา 130 เหรียญ พร็อบประกอบฉากอื่นๆ อาจเป็นไอพ็อดสีขาวแล้วแต่รุ่น ซึ่งเชื่อว่ามีกันหมดแล้วถ้าคิดจะแต่งตัวอย่างนี้
ถ้าใครลงทุนซื้อจริงๆ แนะนำให้ทำ Keynote ด้วย เดี๋ยวช่วยโปรโมทเต็มที่
ที่มา - Engadget
ที่ Geek Patrol ทำการทดสอบตัว Rosetta โดยใช้ iMac Core Duo spec ดังนี้ครับ
การทดสอบใช้ชุดการทดสอบที่ชื่อ geekbench
ซึ่งผลทดสอบออกมา ตัว Rosetta มีความเร็วประมาณ 40% ถึง 80% ของตัว native บน Power Mac G5 1.6GHz ที่เป็นตัวเปรียบเทียบเลยทีเดียว(ไม่ได้เร็วกว่านะ) โดยเฉพาะ application ที่เป็น single-threaded
Sony Pictures เตรียมวางตลาดภาพยนตร์ 8 เรื่องแรกที่จะออกเป็น Blu-Ray ในวันที่ 23 พ.ค. นี้ โดยจะมีเรื่อง 50 First Dates, The Fifth Element, Hitch และ House of Flying Daggers อีก 8 เรื่องจะตามมาในเดือนมิถุนายน ราคาของแผ่นยังไม่เปิดเผย บอกเพียงแค่ว่าจะแพงกว่าดีวีดีปกติประมาณ 15-20%
การวางตลาดแผ่นจะสอดคล้องกับเครื่องเล่น Blu-Ray ตัวแรกของซัมซุง (ที่ยังไม่เปิดเผยวันจำหน่ายเช่นกัน) แต่คิดว่าตัวเครื่องน่าจะออกก่อน 23 พ.ค. หรือไม่ก็ออกขายวันเดียวกันเลย เครื่องยี่ห้ออื่นๆ ที่รอคิวอยู่มีของโซนี่เองและ Pioneer
จากข่าวเก่า - แอปเปิลจะจัดอีเวนท์สิ้นเดือนนี้
สตีฟ จ็อบส์ ออกมาขายของอีกแล้ว แต่ผลิตภัณฑ์ที่ถูกหมายตาไว้อย่าง iBook ตัวใหม่ หรือ iPod video ยังไม่เผยโฉมแต่อย่างใด โดยในงานนี้มีของใหม่มาขายดังนี้ครับ
Intel Mac mini - หลังจากมี MacBook Pro และ iMac ไปแล้ว ก็ถึงคราวของ Mac mini กันบ้าง โดยมีออกมาสองรุ่นคือ Core Solo ความเร็ว 1.5 GHz และ Core Duo ความเร็ว 1.66 GHz เพิ่มความเร็วของการ์ดเน็ตเวิร์คเป็นกิกะบิต และมี USB เพิ่มให้เป็นทั้งหมด 4 พอร์ต
ไม่รู้จะจัดเข้าหมวดไหน เอาว่าลองเข้ามาดูเองแล้วกัน
ที่มา - ArsTechnica
เว็บพัฒนาของแอปเปิลมีการตีพิมพ์บทความแนะนำ Ruby on Rails นับเป็นการแสดงท่าทีการสนับสนุนเทคโนโลยีใหม่ๆ อีกทางหนึ่งของแอปเปิล
Ruby on Rails นั้นเป็นเฟรมเวิร์คการสร้างเว็บแอพพลิเคชั่น ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากในช่วงหลัง โดยหลายคนมองว่ามันอาจจะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของจาวาในอนาคต
บทความนี้ไม่ได้ถูกเขียนขึ้นโดยพนักงานของแอปเปิลเอง แต่เขียนโดย Mike Clarke นักพัฒนา Ruby on Rails ที่ใช้แมคเป็นหลัก
กำลังอ่าน Python กับ Turbogear จะเปลี่ยนใจดีมั๊ยเนี่ย
โนเกียเคยมีส่วนแบ่งตลาดมือถือสูงสุดในปี 2002 (35.8%) แต่หลังจากนั้นกลับลดลงมาตลอด โดยเฉพาะหลังปี 2004 ที่ลูกค้าต้องการมือถือแบบฝาพับที่มีฟีเจอร์เยอะๆ ในขณะที่ตอนนั้นมือถือของโนเกียส่วนมากไม่ใช่ฝาพับ
หลังจากไปปรับกลยุทธมือถือฝาพับมาใหม่ และรวมกับตลาดล่าง (มือถือราคาถูกรุ่น 1100) ซึ่งเป็นตลาดใหม่ ทำให้ยอดขายของโนเกียพุ่งสูงขึ้นแตะ 35% อีกครั้งในรอบสองปี
สำหรับคนที่ใช้ GNOME อาจจะอึดอัดใจว่า gedit เป็น default text editor ที่ไม่มีความสามารถมากนัก (เทียบกับ kate ของ KDE) ผมเองเวลาเขียนโปรแกรมส่วนมากก็ใช้ vi เพราะมันคุ้นมือกว่า
แต่ใน gedit 2.14 ที่มากับ GNOME 2.14 ซึ่งออกเดือนมีนานี้ ได้รื้อโค้ดใหม่ซะเยอะ ทำให้มีประสิทธิภาพและความรวดเร็วมากขึ้น เอา UI หลายอย่างจาก Firefox มาใช้ เช่น Find as you type, การแจ้งเตือนแบบไม่ใช้ไดอะล็อกมาให้เกะกะ หรือแท็บที่ย้ายตำแหน่งได้ เป็นต้น และสุดท้ายคือบรรดาปลั๊กอินใหม่ๆ ที่ทำให้ชีวิตคนต้องเขียนโปรแกรมง่ายขึ้นเยอะ อย่าง Code Snippet เป็นต้น
ขณะที่สงครามออปติกคอลไดรฟ์กำลังดุเดือด ดูเหมือนว่าหัวหอกของทั้งสองค่ายนั้นจะไม่ต้องการพลาดการทำตลาดในอนาคตไป ไม่ว่าผลของสงครามจะเป็นอย่างไร โดยก่อนหน้านี้โตชิบาซึ่งเป็นหัวหอกฝั่ง HD-DVD ได้ร่วมมือกับซัมซุงตั้งกลุ่ม TSST ขึ้นมาพัฒนาอุปกรณ์ที่เป็นเทคโนโลยี Blu-Ray โดยความเห็นจากโตชิบาในเรื่องนี้คือ โตชิบา "ยัง" ไม่มีแผนจะทำตลาดอุปกรณ์ Blu-Ray แต่อย่างใด
ในวันนี้เองโซนี่ก็มีแผนสำรองแบบเดียวกัน ผ่านทางบริษัท NEC โดยการร่วมทุนกันในบริษัท Sony NEC Optiarc ซึ่งจะสร้างผลิตภัณฑ์ด้านออปติกคอล โดยคาดกันว่าจะมียอดขายในปีแรกถึง 1.9 พันล้านดอลลาร์
ตอนนี้ไมโครซอฟท์ยืนยันแล้วครับว่าจะมีวินโดวส์วิสตา ทั้งหมด 6 เวอร์ชัน จริงๆ ทั้ง 6 เวอร์ชันนี้จะแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้ 2 เวอร์ชันสำหรับผู้ใช้ธุรกิจ 3 เวอร์ชันสำหรับผู้ใช้ทั่วไป และ 1 เวอร์ชันสำหรับผู้ใช้ระดับสูง
โดยทั้ง 6 เวอร์ชัน ประกอบด้วย
ถ้าใครได้ติดตามข่าวไอทีมานานๆ คงจะจำกันได้ว่าล็อกอินที่เราใช้กับ MSN Messenger ทุกวันนี้ มันไม่ได้เป็นเพียงแอคเคาน์ที่ไว้ใช้คุยกันเท่านั้น แต่ไมโครซอฟท์เคยหวังให้มันเป็นโปรโตคอลกลางในการล็อกอินทุกระบบ
มาในวันนี้ความพยายามที่เคยล้มเหลวไปแล้วของไมโครซอฟท์ก็คืนร่างมาอีกครั้ง ด้วยการประกาศเทคโนโลยี InfoCard ที่จะมาพร้อมในวินโดวส์วิสต้าทุกเครื่อง (เหมือนคราวที่แล้ว) แต่ครั้งนี้ไมโครซอฟท์มามาดใหม่ด้วยการเปิดให้มีผู้ให้บริการรายอื่นๆ นอกจากไมโครซอฟท์ได้ เหมือนอย่างมาตรฐานเปิดอื่นๆ เช่น OpenID
ถึงแม้จะเป็นพันธมิตรกัน และเป็นผู้ผลิตหน่วยความจำแฟลชรายใหญ่ให้แอปเปิล แต่ Samsung เตรียมวางตลาดเครื่องเล่นเอ็มพีสาม Z5 ที่มีจอสี 1.8 นิ้วและเล่นได้ 35 ชม. ออกมาชนกับนาโนตรงๆ (ซื้อเพลงตามมาตรฐาน PlayForSure ของไมโครซอฟท์เช่นเคย)
ที่เป็นข่าวคือซอฟต์แวร์ใน Z5 ออกแบบโดยทีมของ Paul Mercer พนักงานเก่าของแอปเปิลสมัยยุค 80 หนึ่งในทีมสร้าง Newton ภายหลังเค้าได้ออกมาตั้งบริษท ซึ่งรับผิดชอบซอฟต์แวร์ภายในไอพ็อดรุ่นแรก
ที่เหลือในข่าวเป็นเรื่องของ Mercer อย่างละเอียด ประมาณว่าเล่นเรื่องอดีตพนักงานแอปเปิล มาสร้างผลิตภัณฑ์แข่งกับบริษัทเก่า (ซึ่งผมคิดว่าก็ปกตินิ)
มีคนฟิตจัดลองลง Extension ของ Firefox 100 อันดับแรกใน Most Popular ผลปรากฎว่าไม่มีปัญหาการแครชหรือตีกันอย่างไม่น่าเชื่อ และทำให้ตัวเว็บเบราว์เซอร์ช้าลงนิดหน่อยเท่านั้น
แต่หน้าจอก็เต็มไปด้วยปุ่มและทูลบาร์นานาชนิด รวมถึงเมนูตอนคลิกขวาด้วย ดูภาพหน้าจอได้จากลิงก์เลย
ไมโครซอฟท์กำลังประชาสัมพันธ์โครงการ Origami (นกกระดาษ) อย่างเงียบๆ โดยมันคือแท็บเล็ตพีซีขนาดเล็ก ที่มีคีย์บอร์ดถอดเปลี่ยนได้ ความสามารถพื้นฐานคือการดูหนังฟังเพลง เล่นเว็บ มี Wi-Fi รายละเอียดอย่างอื่นยังไม่ออกมา ในโฆษณาบอกว่ารอวันที่ 2 มีนาคมจะเปิดเผยรายละเอียด
เครื่องต้นแบบมีให้ดูตามลิงก์ โดยไมโครซอฟท์จะผลิตฮาร์ดแวร์หรือไม่ยังไม่มีข้อมูล เพราะนอกจากเครื่องเกมที่จับตลาดเฉพาะ แล้วก็เมาส์กับคีย์บอร์ดแล้ว ไมโครซอฟท์ก็ไม่ได้ทำธุรกิจฮาร์ดแวร์มากนัก อาจมาในรูปแบบพ็อคเก็ตพีซีหรือแท็บเล็ต ที่สุดท้ายก็ให้ผู้ผลิตรายอื่นทำตลาดก็ได้
หลังจากปล่อยให้โอลิมปัสรอเพื่อนร่วมทางอยู่นาน พานาโซนิคก็ประกาศ DSLR ตัวแรกอย่างเป็นทางการแล้วในชื่อว่า DMC-L1 ซึ่งแน่นอนว่าเป็นกล้่องตัวล่าสุดที่เข้ากันได้กับมาตรฐาน Four-Third ซึ่งพานาโซนิคเองมีท่าทีสนับสนุนมาตั้งแต่ต้น
สเปคยังออกไม่หมด เพราะยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา แต่ที่แน่ๆ คือความละเอียดภาพ 7.5 ล้านพิกเซล เป็นเซ็นเซอร์แบบ MOS พร้อมหน่วยประมวลผลภาพ Venus Engine III ที่กินพลังงานน้อยลง และรองรับ SDHC ที่ให้ความจุสูงกว่า 2 กิกะไบต์ได้
การประกาศเปิดตัวมีขึ้นพร้อมกับเลนส์ที่มาพร้อมกันคือ Leica 14-50 ที่มาพร้อมกับระบบป้องกันภาพสั่น MEGA O.I.S ตามสไตล์ของพานาโซนิค
ASUS เปิดตัวโน้ตบุ๊คตระกูล S6 ซึ่งนอกจากมันจะเป็นโน้ตบุ๊คที่ใช้ Core Duo เหมือนปกติวิสัยแล้ว สิ่งที่ทำให้ S6 "แตกต่าง" ก็คือมันหุ้มหนังครับ แถมยังเป็นสีชมพูด้วย (มี 4 สี pink, light, dark, white) คิดว่าคงทำให้ดูเหมือนกระเป๋าถือผู้หญิงน่ะเอง ราคาประมาณ 2,500-3,000 เหรียญ คิดเป็นราคาไทยก็เริ่มที่แสนอัพ ผมว่าต่อไปมันต้องมีโน้ตบุ๊คลายไม้ สีทูโทนอะไรพวกนี้แน่ๆ เลย (ดูรูปได้ในลิงก์)
โน้ตบุ๊คอีกรุ่นนึงคือตัวท็อปของ ASUS W2Jc ที่มีฟีเจอร์มากมายรวมถึงซับวูฟเฟอร์ ราคาประมาณ 3,500 เหรียญ คิดเป็นเงินไทยเองละกัน
ผมชอบนินเทนโดเป็นการส่วนตัว ดังนั้นจะลำเอียงเอาข่าวมาลงบ่อยๆ นะครับ :P
Engadget ได้สัมภาษณ์ Reggie Fils-Aime ซึ่งเป็นรองประธานฝ่ายขายและการตลาด ของนินเทนโดอเมริกา หมอนี่เป็นผู้บริหารคนดังของวงการเกม เพราะบุคลิกเวลากล่าวเปิดงาน ที่ต้องออกสาธารณชนจะเฮ้วๆ หน่อย แฟนนินเทนโดหลายคนเรียกเค้าว่า "Reggielution"
Reggie พูดถึง DS Lite ว่ายังไม่สามารถระบุวันจำหน่ายที่แน่นอนในอเมริกาได้ (ญี่ปุ่นประกาศขายกลางมีนา) และเค้ายังไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่จะมี DS รุ่นที่สามอีกด้วย
ผมไม่ได้เขียนจาวาแต่เห็นว่าแถวนี้แฟนจาวาเยอะ เลยเอามาฝาก
IBM developerWorks มีบทความเปรียบเทียบชุด GUI toolkit ทั้งสามตัวของจาวา คือ AWT (Abstract Windows Toolkit), Swing และ SWT (Eclipse's Standard Windows Toolkit) โดยเปรียบเทียบละเอียดขนาดมีตารางบอกว่าอะไรเรียกอะไรในแต่ละชุด
อ่านคร่าวๆ แล้วเค้าแนะนำว่า Swing มีฟีเจอร์เยอะกว่า และได้เปรียบตรงที่รวมมาในจาวาอยู่แล้ว ส่วน SWT ต้องใช้ร่วมกับ JFace ถึงจะมีฟีเจอร์สู้ได้ แต่ก็ได้เปรียบเรื่องประสิทธิภาพที่ออกแบบมาเป็น native ตั้งแต่แรก
ในยุคที่ร้านขายเพลงออนไลน์รุ่งเรืองแบบนี้ แพลตฟอร์มลินุกซ์เป็นลูกเมียน้อยมากๆ เพราะร้านขายเพลงส่วนมากสนับสนุนเฉพาะวินโดวส์ (ส่วนบนแมคนอกจาก iTMS แล้ว ร้านอื่นๆ ก็ได้อานิสงค์จาก iPod) แต่มาวันนี้ Mandriva ได้ประกาศว่าใน Mandriva 2006 ที่จะออกเร็วๆ นี้ จะรวมความสามารถในการซื้อเพลงจากร้าน Mindawn ไว้ด้วย
Mindawn เป็นร้านที่สนับสนุนทั้งสามแพลตฟอร์มหลัก ฟอร์แมตของเพลงจะใช้ Ogg สำหรับ lossy และ FLAC สำหรับ loseless ตามคาด แต่ผมลองกดเข้าไปดูก็คิดว่าไม่รอดแน่ เพราะไม่มีศิลปินที่รู้จักเลย!
เนื่องจากบ้านเราไม่มี BlackBerry ใช้ (ผมเริ่มเห็นโอเปอเรเตอร์มือถือเริ่มเอาเข้ามาบ้างนิดหน่อย) เลยอาจไม่ค่อยเห็นภาพเท่าไร แต่ BlackBerry เป็นมือถือ-พีดีเอที่ส่งอีเมลได้ (ผ่านเครือข่ายของ BlackBerry เอง) และได้รับความนิยมอย่างมากในสหรัฐ
หลายคนอาจเห็น WMP11 ผ่านตาจาก screenshot ของ Vista แล้ว ทีมงาน CNET ได้มีโอกาสลองเล่น WMP11 ในงาน CES 2006 และพบว่าหน้าตามันดูใสสะอาดปิ๊งปั๊งมากขึ้น เอาส่วนดีหลายอย่างจาก iTunes มาใช้ และทำงานได้รวดเร็ว จัดการกับเพลงจำนวนมากๆ (ซักหลักหมื่นเพลงขึ้นไป) ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้เป็นจุดอ่อนที่สำคัญของทั้ง iTunes และ WMP ตัวเก่าๆ
ช่วงนี้เป็นช่วงโกยคะแนนของ NetBeans เค้าละครับ ไม่กี่วันที่ผ่านมาก็เลยปล่อยรุ่นแอบดูของ NetBeans 5.5 มายั่วใจ ดึงข่าวที่เริ่มซาให้เป็นที่พูดถึงกันใหม่
ชื่อรุ่นก็บอกอยู่ว่าเป็นรุ่นให้แอบดูนึดนึง เพราะฉะนั้นรุ่นจริงๆ จะมีความสามารถเยอะกว่านี้อีก เราคงต้องติดตามดูกันต่อไป ส่วนรุ่นนี้ความสามารถหลายๆ อย่างเอามาจาก Sun Java Enterprise ทั้งนั้นซึ่งก็ได้แก่
ความเป็นตัวตน (Identity) ของคุณบนโลกไซเบอร์สำคัญแค่ไหน ทุกวันนี้คุณมีชื่ออีเมล์กี่ชื่อ ชื่อที่ใช้ใน pantip กี่ชื่อ ชื่อในเว็บบอร์ดต่าง ๆ อีกกี่ชื่อ ชื่อจริงคุณเคยเปลี่ยนหรือไม่ นามสกุลเคยเปลี่ยนหรือเปล่า ชื่อเล่นคุณหล่ะ ฉายาคุณอีก ไหนจะมีชื่อที่คนเขียนผิด เขียนถูกอีก สารพัด แต่...คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าชื่อของคุณที่ปรากฏบนเอกสารออนไลน์ต่าง ๆ คือ ตัวแทนของคุณ ไอ้พูดถึงในทางที่ดีก็ไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าในทางเสีย ๆ หาย ๆ แล้วมันไม่ใช่ตัวคุณ คุณก็คงต้องออกมาปกป้อง จริงหรือไม่ ว่าแต่คุณจะรู้ได้ไง ว่าเค้าพูดถึงคุณว่าอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้คน blog กันกระฉูดแบบนี้ คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าชื่อคุณจะไม
ช่วงนี้ออราเคิลช็อปแหลก ถัดจาก SleepyCat บริษัทล่าสุดที่เป็นข่าวด้วยก็คือ JBoss Inc. ที่น่าสนใจที่สุดคือมูลค่าการดีลครั้งนี้อาจพุ่งไปถึง 400 ล้านเหรียญ (หมื่นหกพันล้านบาท)
การซื้อกิจการบริษัทโอเพนซอร์สที่แพงที่สุดในปัจจุบัน คือ Novell ซื้อ SuSE ราคา 210 ล้านเหรียญ ดังนั้นถ้าตัวเลข 400 ล้านเหรียญเป็นจริง ก็ถือว่าไม่ธรรมดาเลยสำหรับ JBoss ที่เป็นบริษัทจับเฉพาะกลุ่ม Enterprise และไม่ค่อยมีชื่อเสียงในกลุ่มคนทั่วไปมากนัก