ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม ตั้งแต่กลางปีที่แล้วที่ทางอเมซอนได้เปลี่ยนวิธีการเชื่อมต่อข้อมูลจาก UMS ที่มองเห็นคินเดิลเป็น external drive ได้ กลายมาเป็น MTP (Media Transfer Protocol) ในตัว Scribe และบรรดาคินเดิลรุ่นใหม่ที่ออกตัวในปีนี้ก็ใช้โปรโตคอลนี้ทั้งหมด
ซึ่งผู้ใช้งาน Windows ไม่มีปัญหา Windows Explorer ยังมองเห็นและโอนไฟล์เข้าออกได้
ส่วนผู้ใช้ MacOS Finder ที่ไม่ซัพพอร์ต MTP หลายคนจะสับสน รวมถึงต้องขนขวายหาโปรแกรมจากที่อื่นๆมาลงเพื่อจัดการไฟล์ ซึ่งบางตัวก็ไม่ค่อยเสถียรผีเข้าผีออกอย่างมาก
ตัวแทนของ Amazon ยืนยันการหยุดส่ง Kindle Colorsoft ที่เป็น Kindle จอสีรุ่นแรก ให้กับลูกค้าชั่วคราว หลังจากลูกค้ากลุ่มแรกที่ได้รับสินค้า โพสต์รายงานปัญหาหน้าจอด้านล่างเป็นแถบไฟสีเหลือง (ดูตัวอย่าง) ทำให้คะแนนรีวิวเฉลี่ยตอนนี้ที่เว็บ Amazon อยู่ที่ 2.6 ดาว
Amazon บอกว่าปัญหานี้มีการรายงานจากผู้ใช้งานจำนวนน้อย ซึ่งบริษัทกำลังตรวจสอบปัญหาด้านคุณภาพสินค้า หากลูกค้าคนใดที่เจอปัญหานี้สามารถติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าได้
Amazon ประกาศปิดบริการแอปอ่านนิยายแบบจ่ายเงินเพื่อปลดล็อกอ่านบทต่อไป Kindle Vella โดยจะปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 หลังจากแอปอ่านนิยายนี้เปิดตัวมาเมื่อปี 2021
Amazon บอกว่าการตัดสินใจครั้งนี้ยากลำบากมาก ตัวแพลตฟอร์มมีการตอบรับที่ดีทั้งจากฝั่งนักเขียนและฝั่งผู้อ่าน แต่จำนวนไม่มากพออย่างที่บริษัทหวังไว้
สำหรับผู้อ่าน นิยายทั้งหมดที่เคยอ่านหรือจ่ายเงินปลดล็อกไปแล้ว จะสามารถอ่านต่อไปได้ในแอป Kindle หลังแอป Kindle Vella ปิดตัว แต่จะไม่สามารถจ่ายเงินปลดล็อกตอนใหม่ได้อีกหลังวันที่ 4 ธันวาคม Amazon จึงแนะนำให้นำเหรียญที่ซื้อไว้ ปลดล็อกตอนใหม่ล่วงหน้าไปก่อนเลย ส่วนเหรียญที่เหลืออยู่หลังจากนั้นจะถูกแลกคืนเป็นเครดิต Amazon ต่อไป
จากการเปิดตัว Kindle รุ่นใหม่ของ Amazon ก็มี Kindle รุ่นหนึ่งที่ไม่ได้ไปต่อคือ Kindle Oasis โดยตัวแทนของ Amazon ยืนยันว่าสินค้าจะยังมีจำหน่ายต่อไปจนกว่าจะหมดสต็อกโดยไม่มีการผลิตออกมาเพิ่มเติม
Kindle Oasis เป็น Kindle รุ่นเดียวในตอนนี้ที่มีปุ่ม physical สำหรับกดเปลี่ยนหน้า ซึ่ง Amazon บอกว่าไลน์สินค้าปัจจุบันนั้นวิธีการแตะเปลี่ยนหน้าเป็นวิธีที่ผู้ใช้งานคุ้นเคยดีแล้ว
Amazon อัปเดตเครื่องอ่านอีบุ๊กตระกูล Kindle รุ่นใหม่ ซึ่งมาพร้อมการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง รายละเอียดดังนี้
Kindle Colorsoft Signature Edition (ชื่อจะยาวไปไหน) เป็น Kindle หน้าจอสีรุ่นแรกด้วยเทคโนโลยี Kaleido ของ E Ink ซึ่ง Amazon นำมาปรับแต่งด้วย LED พิกเซล ทำให้ลดการสะท้อนแต่ยังได้ความสว่าง และรายละเอียดภาพที่คมชัด
Kindle Colorsoft ขนาดหน้าจอ 7 นิ้ว กันน้ำ รองรับการชาร์จทั้ง USB-C และแบบไร้สาย แบตเตอรีอยู่ได้นาน 8 สัปดาห์ ความจุ 32GB ราคา 279.99 ดอลลาร์ สินค้าเปิดให้สั่งจองวันนี้ โดยเริ่มจัดส่ง 30 ตุลาคม เป็นต้นไป
"ไม่มีเวลาอ่านหนังสือ ไม่มีเวลาออกกำลังกาย" อาจเป็นข้ออ้างหรือข้อแก้ตัวยอดนิยม แต่ล่าสุด Amazon จับสองอย่างนี้มารวมกันให้ข้ออ้างหมดไป เมื่อเพิ่มฟีเจอร์อ่านอีบุ๊ก Kindle ให้กับอุปกรณ์ออกกำลังกายแบรนด์ Peloton ทั้งแบบสายพานและจักรยาน
อุปกรณ์ของ Peloton รองรับการเสพสื่อความบันเทิงแก้เบื่อขณะออกกำลังกายอยู่แล้ว สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือแอพ Kindle ในแท็บ Entertainment เมื่อผูกเข้ากับบัญชี Kindle แล้ว ก็อ่านหนังสือเล่มที่อ่านค้างไว้ ตอนกำลังเดินสายพานหรือถีบจักรยานได้เลย สามารถปรับแต่งขนาดฟอนต์ บุ๊กมาร์ค และกระโดดข้ามบทได้ ช่วยอำนวยความสะดวกให้คนที่เดิมเคยต้องถือเครื่องอ่านอีบุ๊ก Kindle ขณะออกกำลังกายได้ด้วย
Amazon ปรับปรุงเงื่อนไขการเผยแพร่ผลงานหนังสือผ่าน Kindle Direct Publishing (KDP) หลังจากกลุ่มนักเขียนในสหรัฐร้องเรียนว่าคอนเทนต์หนังสือ ที่ใช้ AI สร้างขึ้นมาทั้งหมดมีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก จนกระทบกับการค้นหางานเขียนที่คนแต่ง
ถ้าจะพูดถึงเครื่องอ่านอีบุ๊ก หลายคนน่าจะนึกถึงเครื่องตระกูลคินเดิลของอเมซอน โดยในปัจจุบันเครื่องอ่านอีบุ๊กของอเมซอนแบ่งออกเป็น 4 ตระกูล เรียงตามลำดับราคาไล่ตั้งแต่ รุ่น Kindle (basic), Paperwhite, Oasis และรุ่นพี่ใหญ่สุด Scribe ที่มีหน้าจอกว้างถึง 10.2 นิ้ว ซึ่งถือว่าใหญ่ที่สุดที่อเมซอนเคยมีมา
ผมเคยใช้ Kindle DX จอใหญ่ 9.7 นิ้ว มาก่อนและยังติดใจการใช้งาน E Ink จอใหญ่ๆอยู่ พอดีเร็วๆนี้ได้ซื้อ Kindle Scribe มาใช้งาน จึงจะขอรีวิวการใช้งาน ข้อดี ข้อเสีย เผื่อใครจะได้เห็นภาพรวมการใช้งานได้มากขึ้น
ออกตัวก่อนว่า ภาพถ่ายทั้งหมดใช้กล้องมือถือถ่าย ภาพที่ได้อาจจะมีเรื่อง white balance ได้ อย่างพื้นหลังเป็น Miiiw Desk Pad สีน้ำตาล แผ่นเดียวไม่มีเปลี่ยนครับ
เมื่อหลายปีก่อนเราอาจคุ้นเคยกับประโยคว่า สื่อกระดาษอย่างหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารควรปรับตัวด้วยการขายเวอร์ชันอิเล็กทรอนิกส์ เช่น e-newspaper หรือ e-magazine แทน แต่วันนี้ประโยคนี้อาจไม่เป็นจริงอีกแล้ว
Amazon ประกาศยุติบริการ Amazon Newsstand ที่ให้สมัครสมาชิกรับ e-newspaper และ e-magazine บนเครื่องอ่านอีบุ๊กตระกูล Kindle (บริการนี้ยังรวมถึงการสมัครฉบับกระดาษส่งถึงบ้าน โดยจ่ายเงินผ่านระบบของ Amazon ได้ด้วยหากต้องการ)
Amazon เปิดตัว Kindle Scribe เครื่องอ่านอีบุ๊กหน้าจอ 10.2 นิ้ว นับเป็นเครื่องขนาดใหญ่นับแต่ Kindle DX ที่เลิกขายไปเมื่อสิบปีก่อน น้ำหนักเครื่อง 490 กรัมพอๆ กับแท็บเล็ตหน้าจอขนาดใกล้เคียงกัน แต่จุดเด่นของ Kindle Scribe คือหน้าจอ e-Ink ความละเอียด 300ppi และอายุแบตเตอรี่ที่ใช้ได้นานนับสัปดาห์
ราคา 339 ดอลลาร์แถมปากกาพื้นฐานมาในตัว หรือเลือกปากกาพรีเมี่ยมที่มีปุ่มเพิ่มและยางลบด้านท้ายปากกาได้ในราคา 30 ดอลลาร์ สามารถจดโน้ตลงหนังสือ, ไฟล์ PDF, หรือ Microsoft Word ก็ได้ ตอนนี้ยังไม่กำหนดวันวางจำหน่ายแน่นอนแต่ Amazon ระบุว่าจะขายก่อนสิ้นปีนี้
Amazon เปิดตัว Kindle รุ่นเริ่มต้น เป็นรุ่นที่ 11 หลังจากรุ่นก่อนหน้านี้วางขายมาตั้งแต่ปี 2019 ความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างทำให้สเปคโดยรวมใกล้เคียงกับ Kindle Paperwhite มากขึ้น
ราคาเริ่มต้นรุ่นมีโฆษณา 99.99 ดอลลาร์ แพงขึ้นจากรุ่นเดิม 10 ดอลลาร์ รุ่นไม่มีโฆษณาราคา 119.99 ดอลลาร์ เริ่มวางจำหน่ายจริงวันที่ 12 ตุลาคมนี้
ที่มา - Amazon
จากที่พยายามเจาะตลาดจีนมาสิบปีนิดๆ มาบัดนี้อเมซอนประกาศโยนผ้าขาว ปิดคินเดิลสโตร์ในจีนแล้วครับ
สรุปสั้นๆ ไทม์ไลน์จะเป็นอย่างนี้ครับ
วันนี้ทางอเมซอนร่อนจดหมายถึงผู้ใช้งานในสหรัฐ ระบุว่าหลังวันที่ 17 สิงหาคมนี้ อุปกรณ์คินเดิลรุ่นเก่าๆ จะเข้าใช้งานสโตร์บนเครื่องไม่ได้ มีผลให้ไม่สามารถเข้าไปเลือกดู ซื้อ หรือยืม หนังสือใหม่จากในสโตร์ไม่ได้อีก
เครื่องที่กระทบคือ Kindle 2, Kindle DX/DXG, Kindle Keyboard, Kindle 4 และ Kindle 5
Amazon ยังให้ส่วนลด 30% ในการซื้อเครื่องใหม่พร้อมกับเครดิตหนังสือ 40 เหรียญเพื่อเป็นการปลอบใจ
แต่ช้าก่อน อ่านมาถึงตรงนี้ก็อย่าเพิ่งรีบโยนเครื่องที่มีอยู่ในมือทิ้งครับ อ่านให้จบก่อน ประกาศนี้ไม่กระทบกับหนังสือที่เรา "ซื้อ" มาแล้ว เรายังสามารถเปิดอ่านในเครื่องได้ และยังเข้าไปดูรายการจาก Archived Items/Library ของเราได้ตามปกติ (ผู้แปล: รวมถึง sideload ก็น่าจะไม่มีผลกระทบ)
Amazon มีแอพหลายตัวบนสมาร์ทโฟน แอพหลักตัวหนึ่งคือ Amazon Shopping ที่ใช้สั่งซื้อสินค้าผ่านอีคอมเมิร์ซ แต่ก็สามารถซื้อสินค้าที่เป็นดิจิทัลอย่างอีบุ๊กของ Kindle ได้ด้วย
ล่าสุด Amazon ปิดการซื้ออีบุ๊ก Kindle บนแอพตัวนี้แล้ว ด้วยเหตุผลว่าต้องการเลี่ยงเงื่อนไขการบังคับจ่ายเงินผ่านระบบ Google Play ซึ่งจะโดนกูเกิลหักส่วนแบ่งรายได้ (แอปเปิลทำมาแต่แรกแล้ว แต่กูเกิลเพิ่งบังคับ) ซึ่งเป็นกรณีเดียวกับที่ Bandcamp บริษัทขายเพลงในเครือ Epic เพิ่งยื่นฟ้องกูเกิลไปเมื่อเร็วๆ นี้ โดยแอพ Amazon Shopping ขึ้นข้อความแจ้งให้ผู้ใช้ไปกดซื้อผ่านหน้าเว็บแทน
ที่ผ่านมาผู้ใช้ Kindle หากต้องการอ่านอีบุ๊คจากไฟล์ EPUB ซึ่งเป็นไฟล์ฟอร์แมตมาตรฐานที่ใช้กันแพร่หลายในอีบุ๊ค จะต้องใช้โปรแกรมแปลงไฟล์อย่าง Calibre ให้เป็นฟอร์แมต AZW3 ของ Kindle ก่อน แล้วส่งผ่าน Send to Kindle เนื่องจาก Kindle ไม่รองรับ EPUB แต่ล่าสุดแนวทางนี้เปลี่ยนไปแล้ว แม้ไม่ทั้งหมด
โดย Amazon ระบุว่าภายในปี 2022 ผู้ใช้ Kindle สามารถส่งไฟล์ EPUB ผ่าน Send to Kindle เพื่อเปิดอ่านใน Kindle ได้แล้ว อย่างไรก็ตามไฟล์ EPUB นั้นจะถูกแปลงให้เป็นฟอร์แมต AZW3 เช่นกัน
ในประกาศนี้ Amazon ยังบอกว่าไฟล์ฟอร์แมต MOBI ก็เตรียมยุติการสนับสนุนเช่นกัน
Amazon มาแบบเซอร์ไพร์ส ประกาศรองรับไฟล์อีบุ๊กแบบ EPUB บนเครื่องอ่านอีบุ๊กตระกูล Kindle ทั้งหมด โดยไม่จำเป็นต้องซื้อจาก Amazon ก็ได้
เดิมที Kindle รองรับไฟล์ .AZW หรือ .MOBI เท่านั้น แม้ว่าไฟล์อีบุ๊กมาตรฐานเป็น EPUB แต่ Amazon ก็ไม่ยอมรองรับสักทีมาเป็นเวลานานมาก
ล่าสุด Amazon ประกาศว่าบริการส่งไฟล์เข้าเครื่องผ่านแอพ Send to Kindle บนมือถือ/คอมพิวเตอร์ จะรองรับไฟล์ EPUB ในช่วงปลายปี 2022 และจะปิดการส่งไฟล์แบบเก่า .AZW และ .MOBI แล้ว แม้ว่าไฟล์เดิมบนเครื่องจะยังใช้งานได้ต่อไปก็ตาม
Amazon ให้เหตุผลว่าไฟล์ .AZW และ .MOBI เป็นไฟล์แบบเก่าที่ไม่รองรับฟีเจอร์ของ Kindle รุ่นใหม่ๆ แล้ว จึงตัดสินใจย้ายมาใช้ EPUB แทน
เมื่อวานนี้ทางอเมซอนร่อนจดหมายไปถึงผู้ใช้งานในสหรัฐอเมริกา แจ้งให้ทราบว่าเนื่องจากทางผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในสหรัฐจะเริ่มทยอยปิดโครงข่ายในระบบ 2G และ 3G ตั้งแต่ธันวาคมปีนี้ มีผลให้อุปกรณ์รุ่นเก่าอย่าง Kindle 1, Kindle 2 และ Kindle DX จะไม่สามารถออนไลน์ได้อีกต่อไป
แต่สำหรับอุปกรณ์รุ่นใหม่กว่านั้น อย่าง Kindle Keyboard, Kindle Touch, Paperwhite รุ่น 1/2/3, Voyage หรือ Oasis รุ่น 1 ยังสามารถออนไลน์ได้ผ่าน WiFi ส่วนเครื่องรุ่นใหม่กว่านั้นใช้โครงข่าย 4G แล้ว จึงไม่มีผลกระทบจากเหตุการณ์นี้แต่อย่างใด พร้อมกันนี้ยังให้สิทธิ์ส่วนลดซื้ออุปกรณ์คินเดิลรุ่นใหม่ 50-70 เหรียญ และเครดิตสำหรับซื้ออีบุ๊คอีก 25 เหรียญ โดยเครดิตจะพ่วงกับการซื้อเครื่องใหม่
Amazon เปิดตัว Kindle Vella แอปพลิเคชั่นอ่านนิยายแบบจ่ายเงินเพื่อปลดล็อกอ่านบทต่อไป ให้นักเขียนที่เขียนงานผ่านบริการตีพิมพ์อีบุ๊กหรือ Kindle Direct Publishing ได้สร้างรายได้เพิ่มเติม โดย Kindle Vella จะเปิดใช้งานเดือนกรกฎาคมนี้ จำกัดการใช้งานที่ผู้เขียนในสหรัฐฯที่เขียนงานเป็นภาษาอังกฤษ
เนื้อหาในแต่ละตอนบน Kindle Vella จำกัดจำนวนคำที่ 600-5,000 คำ โดยสามบทแรกให้อ่านฟรี หลังจากนั้นต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อเหรียญเติมเพื่ออ่านนิยายในบทต่อไป ราคาเติมเหรียญอยู่ที่ 2 ดอลลาร์ได้ 200 เหรียญ และ 15 ดอลลาร์ได้ 1,700 เหรียญ โดยคิดค่าเหรียญ 1 เหรียญต่อ 100 คำ
ผู้ใช้งาน Kindle ที่ใช้แพ็กเกจไม่มีโฆษณา ได้ฟีเจอร์ใหม่คือ Display Cover ตั้งรูปปกหนังสือกำลังอ่านอยู่เป็นหน้าจอล็อกสกรีนได้ โดย Amazon ระบุว่า ฟีเจอร์นี้รองรับชื่อหนังสือ นิตยสาร และมังงะในจำนวนมาก Display Cover ใช้งานได้ใน Kindle รุ่นที่ 8 และ 10, Paperwhite รุ่นที่ 7 และ 10, Oasis รุ่นที่ 8 และ 9, Voyage รุ่นที่ 7
เมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมาสำนักงานกฎหมาย Hagens Berman ได้ยื่นฟ้องต่ออเมซอนที่ศาลแขวงนิวยอร์กใต้
โดยในคำฟ้องนั้นทางสำนักงานฯ เชื่อว่า อเมซอนละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด ลักลอบทำสัญญาลับๆ กับบรรดาสำนักพิมพ์ทั้ง 5 ได้แก่ Penguin Random House, Hachette, HarperCollins, Macmillan, และ Simon & Schuster เพื่อทำให้ราคาอีบุ๊คบนอเมซอนถูกที่สุด เป็นการลดการแข่งขัน ซึ่งเป็นผลเสียแก่ผู้บริโภค
ในคำฟ้องมีการอ้างถึงแทคติคต่างๆที่อเมซอนทำเพื่อให้มั่นใจว่าราคาอีบุ๊คในร้านค้าตัวเองจะต้องถูกที่สุดอยู่เสมอ ตัวอย่างเช่น
อันนี้เป็นข่าวเก่านะครับ รอจนเมนูมันเปลี่ยนแล้วถึงเอามาลง คือเมื่อวันที่ 20 เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางอเมซอนออกอัปเดตซอฟต์แวร์รุ่น 5.12.4 สำหรับเครื่องรุ่นที่เจ็ดขึ้นไป อันได้แก่ Kindle Oasis 1/2/3, Voyage, Kindle 8/10 และ Paperwhite 2/3/4 ครับ
ส่วนตัวอัปเดตย่อยใหม่ครั้งนี้มีอะไรที่ปรับปรุงไปบ้างนั้น นอกจากคำอธิบายกว้างๆ ว่า ปรับปรุงประสิทธิภาพ (performance improvements) และแก้บั๊กแล้ว แล้วยังมีการปรับปรุงฟีเจอร์ใหม่อีกเล็กน้อย ดังนี้ครับ
สำนักพิมพ์ IT Revolution Books ประกาศแจกอีบุ๊ก The Phoenix Project หนังสือนิยายไอทีที่แสดงปัญหาของการบริหารระบบไอทีในโลกแบบเดิมๆ จนนำมาสู่การปรับปรุงเพื่อให้ระบบเป็น DevOps
หนังสือออกมาตั้งแต่ปี 2013 และมียอดขายรวมกว่า 500,000 เล่ม แปลไปแล้ว 11 ภาษา
เนื้อหาในหนังสือเป็นนิยายเล่าถึง Bill ผู้จัดการไอทีที่มาทำงานแล้วซีอีโอเรียกเข้าพบ เข้าได้เลื่อนตำแหน่งเป็น VP of IT Operation แต่ถูกบีบให้ต้องสางปัญหาระบบไอทีทั้งบริษัทที่ยุ่งเหยิง แม้จะเป็นนิยายแต่เนื้อหาก็สะท้อนถึงปัญหาของระบบไอทีในโลกความเป็นจริงพร้อมกับชี้ทางควรปรับการจัดการระบบไอทีให้ทำซ้ำได้ แปลงระบบให้เป็นรูปแบบเหมือนสายพานการผลิตในโรงงงาน
Amazon เคยเปิดตัวแท็บเล็ตสำหรับเด็กไปแล้วคือ Fire HD Kids Edition แต่สำหรับผู้ปกครองที่ไม่อยากให้เด็กเสพติดการใช้งานอุปกรณ์และอยากห้อ่านอะไรอย่างอื่นบ้าง Amazon ก็มีโซลูชั่นนี้
ล่าสุด Amazon เปิดตัว Kindle Kids Edition เป็นเครื่องอ่านอีบุ๊ก Kindle สำหรับเด็ก ราคา 109.99 ดอลลาร์ มี 4 สี คือสีฟ้า,ชมพูและลายการ์ตูนอีก 2 แบบ ประกัน 2 ปี เข้าถึง Kindle FreeTime Unlimited บริการ subscription ของ Amazon ซึ่งประกอบด้วยหนังสือเด็ก วิดีโอและแอพพลิเคชั่นสำหรับเด็กฟรี 1 ปี
Amazon เปิดตัว Kindle Oasis รุ่นใหม่ เครื่องอ่านอีบุ๊กที่วางตำแหน่งเป็นรุ่นสเป็กบนสุดในตระกูล Kindle โดยฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มมาในรุ่นนี้ คือสามารถปรับโทนอุณหภูมิสีหน้าจอได้ จากเดิมที่ Kindle รุ่นก่อนหน้าจะทำได้คือการปรับระดับแสงหน้าจอเท่านั้น
โดย Amazon บอกว่าการปรับอุณหภูมิสีทั้งสีโทนเย็นถึงโทนอุ่นส้ม ทำให้การอ่านอีบุ๊กในที่มืด แสงจากเครื่องจะมีความเหมาะสมต่อสายตามากขึ้น สามารถอ่านได้นานโดยไม่รู้สึกล้า
ทางอเมซอนออกอัปเดตซอฟต์แวร์รุ่น 5.11.2 สำหรับเครื่องในรุ่นที่หกขึ้นไป อันได้แก่ Kindle Oasis 1/2 (2016, 2017), Voyage, Kindle 7/8/10 (2014, 2016, 2019) และ Paperwhite 2/3/4 (2013, 2015, 2018) ครับ
ส่วนตัวอัปเดตย่อยใหม่ครั้งนี้มีอะไรที่ปรับปรุงไปบ้างนั้น นอกจากคำอธิบายกว้างๆ ว่า ปรับปรุงประสิทธิภาพ (performance improvements) และแก้บั๊กแล้ว แล้วยังมีการปรับปรุงฟีเจอร์ใหม่อีกเล็กน้อย ดังนี้ครับ
ปรับปรุงตัวกรอง: สามารถแยกหนังสือที่อ่านจบแล้วแล้วหรือยังไม่จบได้ ซึ่งช่วยแก้ปัญหาคนที่ชอบซื้อหนังสือมาดองไว้เยอะๆ แล้วจำไม่ได้ว่าอ่านเล่มไหนจบไปแล้วบ้าง (ฟีเจอร์นี้มีบน iOS ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา)