ข่าว X (Twitter) ล่าสุด มีอะไรปรับบ้างที่น่าสนใจ หรือที่ X ไม่ได้บอกเรา
X แจ้งการขึ้นราคาแพ็คเกจสมาชิกรายเดือนตัวบนสุด X Premium+ จากเดิม 550 บาทต่อเดือน เป็น 750 บาทต่อเดือน ส่วนแบบจ่ายรายปีเพิ่มจาก 5,800 บาท เป็น 7,800 บาท มีผลตั้งแต่ 21 ธันวาคม 2024 ทั้งกับผู้สมัครสมาชิกใหม่ และลูกค้าเดิมที่มีรอบตัดบิลหลังวันดังกล่าว
X ให้เหตุผลของการปรับราคาว่าเพื่อให้สอดคล้องกับฟีเจอร์ที่ลูกค้ากลุ่ม X Premium+ ได้รับ
สำหรับแพ็คเกจสมาชิกรายเดือนที่ราคาถูกกว่า ยังไม่มีการปรับขึ้นราคาทั้ง X Basic ที่ 103.13 บาทต่อเดือน และ X Premium ที่ 275 บาทต่อเดือน
ที่มา: TechCrunch
เรื่องนี้เริ่มต้นจากผู้ใช้งาน X รายหนึ่ง โพสต์ผลลัพธ์เมื่อเขาถาม Grok ที่เป็นแชทบอต AI บน X ว่า "เราควรใช้แฮชแท็กบน X หรือไม่?" ซึ่ง Grok ตอบว่า อย่าใช้ มันไม่มีประโยชน์ ทำให้กลายเป็นคำตอบที่น่าสนใจ
Elon Musk เจ้าของ X โควทโพสต์นี้และบอกว่า "ช่วยหยุดใช้แฮชแท็กได้แล้ว ระบบไม่ต้องการอีกต่อไป และทำให้ทุกอย่างดูน่าเกลียด"
แฮชแท็กถูกใช้งานครั้งแรกบน Twitter ตั้งแต่ปี 2007 โดยมีไอเดียจากการสร้างหมวดหัวข้อสนทนาบน IRC วิธีการของแฮชแท็กได้รับความนิยมมาก ทำให้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นเลือกใช้แฮชแท็กเป็นแนวทางค้นหาตามหัวข้อด้วยเช่นกัน
X เพิ่มเครื่องมือสร้างรูปภาพด้วย AI Grok ตัวใหม่ในชื่อ Aurora โดยมีผู้ใช้งานบางคนที่พบตัวเลือกโมเดลนี้ในหัวข้อของ Grok วิธีการใช้งานก็เหมือนโมเดล AI สร้างรูปภาพอื่น ที่สามารถป้อน Prompt ระบุรายละเอียดที่ต้องการได้
xAI ผู้พัฒนาปัญญาประดิษฐ์ Grok ซึ่งใช้งานใน X ไม่ได้เผยแพร่รายละเอียดมากนักว่า Aurora พัฒนาและเทรนจากข้อมูลใด แต่มีข้อสังเกตว่าสามารถป้อน Prompt ให้สร้างรูปภาพซึ่งโมเดลอื่นมักปฏิเสธ เช่น คาแรกเตอร์มีลิขสิทธิ์ หรือภาพคล้ายบุคคลให้ออกมาสมจริงได้ ซึ่ง Elon Musk ก็โพสต์ตอบข้อความใน X ว่าตอนนี้สถานะยังเป็นเบต้า ที่จะมีการปรับปรุงอย่างรวดเร็ว
Grok แชทบอทพลัง AI ของ xAI เปิดให้ผู้ใช้งาน X/Twitter ทุกคนใช้งานแล้ว ไม่จำกัดเฉพาะผู้จ่าย X Premium อย่างเดียวอีกต่อไป
X เริ่มเปิดให้ผู้ใช้กลุ่มฟรีลองใช้ Grok มาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน แต่ยังจำกัดเฉพาะบางประเทศ ตอนนี้เปิดให้ผู้ใช้ทั่วโลกแล้ว เท่าที่ลองใช้งานดูก็พบว่าใช้ได้แล้ว (หน้าเว็บ Grok)
ผู้ใช้กลุ่มฟรีจะถูกจำกัดปริมาณการใช้งาน Grok เช่น 10 คำถามต่อทุก 2 ชั่วโมง แตกต่างจากผู้จ่าย X Premium ที่ใช้งานได้เยอะกว่า
ที่มา - The Verge
รัฐสภาของออสเตรเลียลงมติรับรองกฎหมายจำกัดการใช้งานโซเชียลมีเดียของเยาวชนแล้ว ตามที่มีข้อเสนอออกมาก่อนหน้านี้ โดยมีผลให้เด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี ไม่สามารถใช้งานโซเชียลมีเดียได้ทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็น TikTok, Instagram, Snapchat หรือ Facebook
กฎหมายดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในอีก 12 เดือนข้างหน้า เพื่อให้โซเชียลมีเดียปรับปรุงระบบตรวจสอบอายุผู้ใช้งาน กำหนดบทลงโทษสำหรับฝั่งผู้ให้บริการ เป็นเงินค่าปรับสูงสุด 50 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 1,100 ล้านบาท) หากไม่สามารถปฏิบัติตามขั้นตอนในการตรวจสอบอายุผู้ใช้งานได้ แต่ไม่มีบทลงโทษสำหรับเยาวชนกับผู้ปกครอง
Elon Musk เจ้าของ X ออกมายืนยันว่าโพสต์ที่มีข้อความ พร้อมกับแนบลิงก์ให้ไปอ่านต่อที่เว็บไซต์ จะถูกลดการมองเห็นบนแพลตฟอร์ม ซึ่งประเด็นนี้เริ่มต้นโดย Paul Graham นักธุรกิจผู้ร่วมก่อตั้ง Y Combinator โดยเขาพบว่าโพสต์แบบเดียวกันที่ไม่ใส่ลิงก์จะมีค่าการมองเห็นดีกว่า
Musk ให้คำแนะนำสำหรับคนที่ต้องการโพสต์แปะลิงก์ไปอ่านต่อ ว่าให้เขียนเนื้อหาเบื้องต้นในโพสต์หลักก่อน จากนั้นให้รีพลายใต้โพสต์ที่เป็นการแนบลิงก์ต่อ เขาบอกว่าการทำแบบนี้เพื่อหยุดการแปะลิงก์แบบคนขี้เกียจ (Lazy Linking)
Bluesky ประกาศหลักไมล์สำคัญโดยมีจำนวนผู้สมัครใช้งานมากกว่า 20 ล้านบัญชีแล้ว สะท้อนการเติบโตอย่างรวดเร็วจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วบอกว่ามีผู้ใช้งาน 14.5 ล้านบัญชี
ถึงตรงนี้ผู้อ่านอาจมีคำถามว่าแล้วจำนวนผู้ใช้งาน Threads ที่เป็นอีกโซเชียลทางเลือกของคนหนีจาก X เป็นอย่างไร? ตัวเลขที่ Meta รายงานล่าสุดคือมีจำนวนผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน (Monthly Active Users - MAUs) 275 ล้านบัญชี
สตีเฟน คิง นักเขียนชื่อดัง ออกมาโพสต์ว่าจะยุติกิจกรรมต่าง ๆ บน X โดยบอกว่าตนพยายามที่จะอยู่บนแพลตฟอร์มนี้แล้วแต่นับวันบรรยากาศก็ยิ่ง Toxic ขึ้น และเชิญชวนให้ผู้ติดตามย้ายไปติดตามเขาที่ Threads แทน
ก่อนคิงจะออกมาโพสต์คราวนี้ก็มีบุคคลและหน่วยงานออกมายุติการใช้ X ไม่น้อย เช่น หนังสือพิมพ์ The Guardian, สโมสรฟุตบอลเยอรมัน St Pauli, Jamie Lee Curtis และนักข่าวโทรทัศน์ Don Lemon โดยส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่า X เป็นพื้นที่แห่งความเกลียดชังและข้อมูลบิดเบือน
หนังสือพิมพ์ The Guardian ของอังกฤษ ประกาศเลิกโพสต์ข่าวอัพเดตบน Twitter/X ด้วยเหตุผลว่าแพลตฟอร์มมีคอนเทนต์ที่เป็นพิษเป็นภัย (X is a toxic media platform) เช่น ทฤษฎีสมคบคิดของฝ่ายขวาสุดขั้ว การเหยียดเชื้อชาติ และตัวเจ้าของคือ Elon Musk ก็ใช้แพลตฟอร์มเพื่อสร้างอิทธิพลทางการเมือง
The Guardian บอกว่านโยบายนี้จะมีผลเฉพาะบัญชีอย่างเป็นทางการของ The Guardian ทั้งหมดจะหยุดโพสต์ข่าวเท่านั้น จะไม่มีการบล็อคการเข้าถึงลิงก์ที่แชร์จาก Twitter/X แต่อย่างใด ทางนักข่าวยังอาจแปะลิงก์ Twitter/X ในเนื้อหาข่าวได้ตามความเหมาะสม และนักข่าวมีอิสระในการใช้งาน Twitter/X เช่นเดียวกับโซเชียลเน็ตเวิร์คอื่นๆ
Rose Wang ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Bluesky ระบุกับ The Verge ว่าตอนนี้ Bluesky มีผู้ใช้งานรวมกว่า 14.5 ล้านคน โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา (ซึ่ง Donald Trump ชนะการเลือกตั้ง) Bluesky มีผู้ใช้งานใหม่เพิ่มขึ้นถึง 700,000 คน
ปัจจุบัน Bluesky อยู่ในอันดับ 2 ของแอปพลิเคชันโซเชียลเน็ตเวิร์กฟรีบน App Store ในสหรัฐฯ รองจาก Threads ของ Meta
ก่อนหน้านี้ Bluesky เติบโตต่อเนื่อง เช่น หลังจากที่ X อัปเดต Privacy Policy เปิดให้ 3rd Party มาเทรน AI จากข้อมูลบนแพลตฟอร์ม ก็ทำให้มีผู้ใช้ใหม่กว่า 1.2 ล้านบัญชีในเวลาแค่ 2 วัน
X มีฟังก์ชันเรียกใช้งานแชทบอตปัญญาประดิษฐ์ Grok ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท xAI ของ Elon Musk แต่จำกัดให้เฉพาะลูกค้าจ่ายเงิน X Premium ล่าสุดมีรายงานว่า X เตรียมเปิดให้ใช้งาน Grok สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปที่ไม่เสียเงินด้วย
เบื้องต้นมีผู้ใช้งานบางคนในบางประเทศที่ได้ใช้ Grok ฟรีแล้ว เช่น นิวซีแลนด์ โดย Grok สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปนั้นจำกัดที่ 10 คำถามต่อ 2 ชั่วโมง บนโมเดล Grok-2, 20 คำถามต่อ 2 ชั่วโมง บนโมเดล Grok-2 mini และส่งคำถามวิเคราะห์รูปภาพได้ 3 ครั้งต่อวัน เงื่อนไขเพิ่มเติมคือบัญชี X นั้นต้องเปิดใช้งานมาอย่างน้อย 7 วัน และมีการยืนยันตัวตนด้วยหมายเลขโทรศัพท์
X ประกาศเริ่มทยอยอัปเดตเงื่อนไขการใช้งานใหม่ ส่วนของระบบการบล็อกบัญชี ซึ่งเคยประกาศเป็นทางการเมื่อเดือนกันยายน โดยบัญชีที่ถูกบล็อก ยังสามารถเข้ามาดูโพสต์ต่าง ๆ ได้ หากโพสต์ของบัญชีนั้นเปิดเป็นสาธารณะ รวมทั้งดูรายชื่อบัญชีที่ติดตาม-กดติดตามได้ด้วย ที่ทำไม่ได้คือการโต้ตอบกับโพสต์นั้นไม่ว่าจะเป็นรีพลาย, โควท, กดถูกใจ ไปจนถึงระดับบัญชี DM, เพิ่มบัญชีในลิสต์ หรือแท็ก
การบล็อกในแบบเดิมนั้น ผู้ใช้งานที่โดนบล็อกจะไม่สามารถดูโพสต์หรือข้อมูลอื่นของบัญชีที่บล็อกได้เลย ทำให้การเปลี่ยนแปลงนี้ของ X ถูกมองว่าเป็นการบล็อกที่ไม่น่าเรียกว่าบล็อกตามชื่อได้อีก
Bluesky ยังคงได้อานิสงส์จากการประกาศนโยบายใหม่ของ X โดยล่าสุดแพลตฟอร์มประกาศจำนวนผู้ใช้งานใหม่เพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบัญชี ภายในระยะเวลาสองวัน (เมื่อวานหนึ่งวัน 5 แสน) ทำให้จำนวนผู้สมัครใช้งานรวมทะลุ 12 ล้านบัญชีแล้ว
กระแสนี้ทำให้ Bluesky ขึ้นเป็นแอปดาวน์โหลดยอดนิยมในสโตร์หลายประเทศ ส่วนประเทศไทยอันดับล่าสุดอ้างอิงจาก App Figures นั้น iOS App Store อยู่ในอันดับที่ 4 และ Google Play อยู่ในอันดับที่ 6
Bluesky แพลตฟอร์มโซเชียลไมโครบล็อกกิ้งแบบกระจายศูนย์ เปิดเผยว่ามีผู้สมัครใช้งานใหม่ภายในวันเดียวถึง 500,000 บัญชี ซึ่งคาดว่าเป็นผลจากการประกาศนโยบายใหม่ของ X หลายอย่าง
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ผู้ใช้งาน X ได้รับการแจ้งในแอปถึงการเปลี่ยนแปลง ว่าโพสต์ที่เป็นสาธารณะ บัญชีที่ผู้ใช้งานบล็อกก็ยังสามารถอ่านเนื้อหาโพสต์ได้ แต่จะโต้ตอบไม่ได้ ซึ่งทำให้ผู้ใช้จำนวนมากไม่พอใจ เพราะมองว่าทำให้ฟังก์ชันบล็อกไม่เป็นอย่างที่ควรเป็น
X อัปเดตนโยบายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวหรือ Privacy Policy สำหรับผู้ใช้งาน ระบุว่าแพลตฟอร์มสามารถอนุญาตให้บริการภายนอก 3rd Party เข้ามาร่วมเทรนโมเดล AI ได้จากข้อมูลบน X เป็นค่าเริ่มต้น เว้นแต่ผู้ใช้งานกดไม่ยินยอม (Opt-out)
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ X เคยประกาศแนวทางนี้มาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม เพราะ Elon Musk เจ้าของ X ก็เป็นเจ้าของบริษัทปัญญาประดิษฐ์ xAI ที่มีแชทบอต Grok ซึ่งเทรนข้อมูลจาก X อยู่แล้ว ประกาศนี้จึงเป็นการแสดงความชัดเจนจากการถูกสอบสวนโดยสหภาพยุโรป และย้ำทางเลือกกับผู้ใช้งานแพลตฟอร์มนั่นเอง
คณะกรรมการธิการยุโรปหรือ EC (European Commission) ออกคำตัดสินว่า X ไม่เข้าเกณฑ์แพลตฟอร์มที่ต้องกำกับดูแลเพิ่มเติม ภายใต้กฎหมายดิจิทัล DMA ที่มีเป้าหมายควบคุมบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ มีจำนวนผู้ใช้งานเยอะ
เกณฑ์ของกฎหมาย DMA จะมีผลกับแพลตฟอร์มขนาดใหญ่เรียกว่า gatekeeper มีผู้ใช้งานในประเทศกลุ่มสหภาพยุโรปจำนวนมาก หรือมีผลกับลูกค้าธุรกิจ โดยแพลตฟอร์มโซเชียลปัจจุบันที่เข้าเกณฑ์นั้นมี Facebook, Instagram และ TikTok รวมอยู่ด้วย
X ประกาศการเปลี่ยนแปลงในโครงการส่วนแบ่งรายได้ของครีเอเตอร์ (Creator Revenue Sharing) ซึ่งรองรับสมาชิกที่สมัคร X Premium รวมทั้งในประเทศไทยด้วย ซึ่ง X บอกว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้รายรับของสมาชิกเพิ่มขึ้น
X บอกว่าจากเดิมส่วนแบ่งรายได้จะจ่ายให้ โดยคำนวณจากจำนวนโฆษณาที่ถูกแสดงใน Reply จะเปลี่ยนมาเป็นจ่ายตามจำนวน Engagement จากผู้ใช้งาน X Premium ฉะนั้นหากใครมีผู้ติดตามที่เป็น X Premium มากขึ้น และมีการโต้ตอบกับคอนเทนต์ รายได้ก็จะเพิ่มขึ้นตาม
ศาลสูงสุดบราซิลยกเลิกคำสั่งบล็อก X ในประเทศ ทำให้แพลตฟอร์มโซเชียลนี้กลับมาใช้งานได้ตามปกติแล้วในบราซิล หลังจากศาลออกคำสั่งเมื่อเดือนที่ผ่านมา และ X ก็ยอมจ่ายค่าปรับรวมทั้งตั้งหัวหน้าฝ่ายกฎหมายในประเทศ
บัญชี Global Government Affairs ของ X โพสต์ข้อความยินดีที่ได้กลับมาให้บริการผู้ใช้งานในบราซิล ที่มีจำนวนหลายสิบล้านบัญชีอีกครั้ง โดยยืนยันแนวทางสนับสนุนเสรีภาพการสื่อสาร ภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย ในทุกประเทศที่บริษัทดำเนินงาน
ประเด็น X ถูกบล็อกการใช้งานในประเทศบราซิลยังคงมีเรื่องราวกันต่อ จากที่ศาลสูงสุดของบราซิลสั่งบล็อกการใช้งาน X ในประเทศ เนื่องจากไม่ปิดบัญชีผู้ใช้งานตามคำสั่งศาล ท่าทีแรก X ไม่ยินยอม ศาลเลยสั่งอายัดบัญชีทั้ง X และ Starlink ในบราซิล โดยก่อนหน้านี้ X แจ้งศาลบราซิลว่าบริษัทจะลบบัญชีตามคำสั่งศาล และแต่งตั้งตัวแทนฝ่ายกฎหมาย ซึ่งศาลก็แจ้งว่า X ต้องจ่ายค่าปรับเพิ่มเติมอีกประมาณ 60 ล้านบาท จากคอนฟิกที่ทำให้คนบราซิลใช้งานได้ช่วงหนึ่ง
Elon Musk ประกาศผ่านบัญชี X ของเขาว่า ต่อจากนี้ไป โพสต์บน X ที่ใช้ข้อความตัวหนา ตัวเอียง หรือฟอร์แมตพิเศษอื่นๆ (ซึ่งโพสต์ได้เฉพาะคนที่มีติ๊กฟ้า X Premium) จะถูกแสดงเป็นข้อความธรรมดา plaintext ในหน้า Timeline หลักของแพลตฟอร์ม เนื่องจากถูกใช้งานในทางที่ผิด เขียนตัวหนาเพื่อเรียกร้องความสนใจจากผู้อ่าน โดย Elon บอกว่าเขาอ่านจนเจ็บตาแล้ว (My eyes are bleeding)
ข้อความที่มีฟอร์แมตตัวหนา ตัวเอียงเหล่านี้ จะยังแสดงผลเหมือนเดิมเมื่อกดเข้าไปยังหน้าของโพสต์นั้นๆ
แน่นอนว่าขณะที่การเปลี่ยนแปลงยังไม่เกิดขึ้น ก็มีชาวติ๊กฟ้าไปลองดู เขียนตัวหนาตัวเอียงใต้โพสต์ของ Elon กันมากมาย
ความคืบหน้าล่าสุดของ X ถูกสั่งบล็อกในบราซิล หลังจาก X เปิดเผยว่าบริษัทจะปฏิบัติตามคำสั่งศาล และจ่ายเงินค่าปรับ แต่ก็ดูจะยังไม่จบในทันที
ศาลสูงสุดของบราซิลแจ้ง X ว่า บริษัทต้องจ่ายเงินค่าปรับเพิ่มเติมอีก 10 ล้านเรอัล หรือประมาณ 60 ล้านบาท เนื่องจากไม่ทำตามคำสั่งศาลเป็นเวลา 2 วัน จากการเปิดให้ผู้ใช้งานในบราซิลเข้าถึงแพลตฟอร์มได้ ซึ่งหาก X จ่ายเงินค่าปรับส่วนนี้ ศาลจะยกเลิกคำสั่งบล็อกทันที
ค่าปรับนี้เป็นส่วนที่เพิ่มมาจากค่าปรับจากความผิดแรก 18.35 ล้านเรียล (110 ล้านบาท) ที่บราซิลหักเงินออกมาจากบัญชีของ X และ Starlink ที่อายัดไว้
X เตรียมปรับวิธีการแสดงโพสต์ให้กับบัญชีที่ผู้ใช้งานบล็อกไว้ โดยถ้าโพสต์นั้นเป็นโพสต์สาธารณะ จากเดิมบัญชีที่ถูกบล็อกจะไม่สามารถดูโพสต์ได้เลย จะเปลี่ยนเป็นสามารถดูเนื้อหาของโพสต์ได้ แต่ไม่สามารถโต้ตอบกับโพสต์นั้นได้ (Engage) ทั้งรีพลาย, โควท, ถูกใจ หรือรีโพสต์
ข้อมูลนี้ถูกรายงานโดยนักวิจัยแอป Nima Owji ซึ่งต่อมา Elon Musk เจ้าของ X มาโพสต์ตอบยืนยันการเปลี่ยนแปลงนี้ ว่าจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ ที่คำสั่งบล็อกจะเป็นการบล็อกไม่ให้บัญชีนั้นโต้ตอบได้เท่านั้น แต่ไม่ได้บล็อกการเห็นโพสต์สาธารณะ
The New York Times รายงานว่าหลังจาก X ได้ต่อสู้กับศาลสูงสุดของบราซิล ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จนทำให้บราซิลสั่งบล็อกการใช้งาน X ล่าสุด X ตัดสินใจยอมทำตามคำสั่งศาลบราซิลแล้ว
ทนายความของ X เปิดเผยว่าบริษัทตัดสินใจปฏิบัติตามคำสั่งศาล ซึ่งเป็นสิ่งที่ Elon Musk เจ้าของ X เคยออกมาปฏิเสธว่าจะทำตามก่อนหน้านี้ โดย X จะปิดบัญชีผู้ใช้งานที่ศาลบราซิลระบุว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ รวมทั้งยินยอมจ่ายเงินค่าปรับตามที่ศาลระบุ และแต่งตั้งตัวแทนฝ่ายกฎหมายในประเทศ
Linda Yaccarino ซีอีโอ X ได้ส่งอีเมลแจ้งฟีเจอร์ใหม่ในแอปเรียกว่า Video Tab ซึ่งจะแทรกเพิ่มเป็นอีกหัวข้อในแอป X โดยเนื้อหาส่วนนี้จะแสดงวิดีโอแบบแนวตั้ง สามารถปัดเลื่อนดูต่อเนื่องแบบ TikTok
คอนเทนต์ที่แสดงให้ส่วนวิดีโอนี้จะเปิดตัวด้วยรายการเรียลลิตี้ Offseason ที่นำนักฟุตบอลหญิงจากลีกฟุตบอลในสหรัฐ 11 คน มาใช้ชีวิตในบ้านเพื่อแชร์ประสบการณ์ร่วมกัน
เมื่อต้นสัปดาห์ Yaccarino ได้จัดงานแถลงข่าวกับพาร์ตเนอร์ที่สำนักงานของ X ในนิวยอร์ก โดยพูดถึงรายการ Offseason ที่จะเริ่มตอนแรกวันที่ 18 ตุลาคมนี้ และจะมีรายการจากผู้ผลิตรายอื่นเพิ่มเติมที่จะทำคอนเทนต์เอ็กคลูซีฟเฉพาะใน X
มีข่าวล่าสุดของ X กับบราซิล หลังจาก X ถูกศาลสูงสุดบราซิลสั่งบล็อกการใช้งาน แต่ต่อมาผู้ใช้งาน X ในบราซิลพบว่าสามารถกลับมาใช้งานได้แล้ว เนื่องจาก X เปลี่ยนวิธีเชื่อมต่อเครือข่าย เป็นไดนามิกไอพี
โดยศาลสูงสุดบราซิลออกคำสั่งปรับเงิน X จำนวน 5 ล้านเรียลต่อวัน (ประมาณ 30 ล้านบาท) เนื่องจาก X พยายามหาวิธีหลีกเลี่ยงคำสั่งบล็อกให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ รวมทั้งอาจให้ Starlink บริษัทอินเทอร์เน็ตดาวเทียมของ Elon Musk ต้องร่วมจ่ายเงินค่าปรับส่วนนี้ด้วย