Starlink เริ่มให้บริการเชื่อมต่อสัญญาณจากดาวเทียมกับสถานีโทรศัพท์มือถือ (Cell-Tower) แบบทั่วประเทศเป็นครั้งแรกแล้วในนิวซีแลนด์ โดยเป็นความร่วมมือกับ One NZ ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ
บริการ One NZ ที่ใช้การเชื่อมต่อกับดาวเทียม Starlink ในช่วงแรกจะรองรับเฉพาะการรับ-ส่งข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือก่อน ส่วนบริการอื่นจะตามมาในอนาคต ทั้งนี้ One NZ บอกว่าการรับส่งข้อความผ่านดาวเทียมจะใช้เวลานานกว่าปกติ โดยจะอยู่ภายใน 3 นาที
โทรศัพท์ที่รองรับในตอนนี้จำกัดอยู่เพียง 4 รุ่นเท่านั้นคือ Samsung Galaxy Z Flip 6, Samsung Galaxy Z Fold 6, Samsung Galaxy S24 Ultra และ OPPO Find X8 Pro
คณะกรรมการยุโรป (European Commission เปรียบได้กับรัฐบาลของยุโรป) เซ็นสัญญาสัมปทานโครงการฝูงดาวเทียมวงโคจรกลาง-ต่ำชื่อ IRIS² (อ่านว่า "ไอริสสแควร์" ขื่อเต็มคือ Infrastructure for Resilience, Interconnectivity and Security by Satellite) ลักษณะเดียวกับดาวเทียม Starlink ของ SpaceX ที่เราคุ้นเคยกัน
IRIS² เป็นโครงการดาวเทียมของยุโรป ประกอบด้วยฝูงดาวเทียม 290 ดวง มีทั้งดาวเทียมวงโคจรระดับกลาง (MEO / Medium Earth Orbit) และวงโคจรต่ำ (LEO / Low Earth Orbit) เป้าหมายเพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมกับหน่วยงาน บริษัท และประชาชนในยุโรป โดยเฉพาะพื้นที่อับสัญญาณประเภทอื่น
ดาวเทียมดวงแรกของโลกที่ทำจากไม้ได้ถูกส่งขึ้นสู่อวกาศไปแล้วเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการสำรวจดวงจันทร์และดาวอังคาร
ดาวเทียมที่ทำจากไม้นี้มีชื่อว่า LignoSat พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยเกียวโต และบริษัท Sumitomo Forestry ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ด้วยวัสดุจากไม้ โดยดาวเทียมถูกส่งไปยังสถานีอวกาศนานาชาติด้วยจรวดของ SpaceX ก่อนจะถูกปล่อยเข้าสู่วงโคจรที่ระดับ 400 กิโลเมตรเหนือพื้นโลก
Globalstar ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านดาวเทียม เปิดเผยว่าบริษัทได้ทำข้อตกลงกับแอปเปิล โดยแอปเปิลจะจ่ายเงินล่วงหน้า เป็นการร่วมลงทุนขยายโครงสร้างพื้นฐานให้รองรับบริการ เป็นเงินสูงสุด 1,100 ล้านดอลลาร์ โดย Globalstar จะนำเงินลงทุนนี้ไปขยายและเพิ่มเติมดาวเทียม
บริษัทบอกว่าเครือข่ายที่เกิดจากส่วนการลงทุนดาวเทียมเพิ่มเติมนี้ จะถูกจัดสรรไว้ 85% ให้กับแอปเปิล ที่เหลือจะให้สำหรับลูกค้าของบริษัทรายอื่น
นอกจากนี้แอปเปิลยังทำข้อตกลงซื้อหุ้นของ Globalstar เป็นจำนวน 20% ที่มูลค่า 400 ล้านดอลลาร์อีกด้วย
จากที่ T-Mobile เคยประกาศไว้ว่าจะให้บริการมือถือ Direct to Cell ผ่านดาวเทียมรุ่นใหม่ของ SpaceX Starlink ในช่วงปลายปี 2024 หรือต้นปี 2025 แต่ด้วยเหตุการณ์ภัยพิบัติคือ พายุเฮอริเคนเข้าชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐในช่วงนี้หลายลูก ทำให้แผนการถูกเร่งให้เร็วขึ้น
ทั้ง T-Mobile และ SpaceX ได้รับอนุมัติจาก FCC (กสทช. สหรัฐ) เป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้บริการข้อความ SMS ผ่านดาวเทียมในพื้นที่ประสบภัย หากผู้ใช้มือถือในพื้นที่รัฐฟลอริดา มีปัญหาไม่สามารถเชื่อมต่อสถานีฐานของ T-Mobile ได้ตามปกติ ก็สามารถมองหาเครือข่ายชื่อ T-Mobile SpaceX และส่งข้อความ SMS ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้
Starlink บริการอินเทอร์เน็ตดาวเทียมของ SpaceX ประกาศหลักไมล์สำคัญว่าตอนนี้มีลูกค้าแล้วมากกว่า 4 ล้านคนทั่วโลก ในมากกว่า 100 ประเทศหรือพื้นที่
ตัวเลขนี้สะท้อนการเติบโตของผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นสูงและรวดเร็ว บริการ Starlink เริ่มทดสอบกับลูกค้ามาตั้งแต่ตุลาคม 2020, มีลูกค้า 1 ล้านคน ในเดือนธันวาคม 2022, 2 ล้านคน ในเดือนกันยายน 2023 และ 3 ล้านคน เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีดาวเทียมรองรับกว่า 6,000 ดวง
บริษัทคาดการณ์รายได้ในปีนี้อยู่ที่ราว 6.6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่ง Starlink เป็นธุรกิจสำคัญของ SpaceX เพื่อสร้างกระแสเงินสดรองรับโครงการด้านอวกาศต่าง ๆ ของบริษัท
Mike Sievert ซีอีโอของเครือข่าย T-Mobile ไปออกรายการสัมภาษณ์กับ Jim Cramer พิธีกรด้านเศรษฐกิจของสถานีทีวี CNBC มีพูดถึงความร่วมมือระหว่าง T-Mobile กับ SpaceX ที่ประกาศในปี 2022 ว่าจะเปิดให้ลูกค้าของ T-Mobile สื่อสารผ่านดาวเทียมชุดใหม่ของ SpaceX Starlink ได้ในพื้นที่ไม่มีสัญญาณมือถือ อย่างไรก็ตาม แผนการนี้ดูล่าช้ากว่าที่ประกาศไว้เดิมว่าจะเปิดทดสอบช่วงปลายปี 2023
Sievert บอกว่าตอนนี้ T-Mobile ยังอยู่ระหว่างการเตรียมเปิดบริการ direct-satellite-to-cellular แบบ Beta ซึ่งจะเริ่มได้ปลายปี 2024 หรือต้นปี 2025
กูเกิลประกาศเข้าลงทุนในดาวเทียม FireSat ที่สร้างขึ้นเพื่อถ่ายภาพไฟป่าโดยเฉพาะ
โครงการดาวเทียม FireSat เป็นโครงการดาวเทียมวงโคจรต่ำ (low earth orbit หรือ LEO) ของกลุ่มไม่หวังผลกำไร Earth Fire Alliance ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาหน่วยงานด้านไฟป่าทั่วโลก ที่ขาดแคลนข้อมูลสภาพพื้นที่ป่าแบบเรียลไทม์
ฝูงดาวเทียม FireSat จะมีทั้งหมด 50 ดวง สามารถถ่ายภาพความละเอียดสูง ความแม่นยำระดับเมตร ได้ทุก 20 นาที ช่วยให้การแก้ปัญหาและต่อสู้กับไฟป่ามีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นมาก ดาวเทียมจะผลิตโดยบริษัท Muon Space โดยได้เงินสนับสนุนจาก Google.org หน่วยงานไม่หวังผลกำไรของกูเกิล 13 ล้านดอลลาร์ และอีกส่วนจาก Moore Foundation ของ Gordon Moore
เราเห็นข่าวการสร้างระบบไอทีใช้กันเองในองค์กร หรือที่เรียกกันว่า Shadow IT กันอยู่บ่อยครั้ง แต่ Shadow IT เคสล่าสุดยกระดับไปอีกขั้น เพราะเกิดขึ้นในเรือรบของกองทัพเรือสหรัฐ
Starlink อัปเดตเงื่อนไขการใช้งาน โดยบอกว่าเพื่อป้องกันปัญหาการซื้อชุดอุปกรณ์รับสัญญาณอินเทอร์เน็ตดาวเทียมข้ามประเทศ ที่บางกรณีมีราคาถูกกว่า บริษัทจะคิดค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมหากอุปกรณ์ถูกเปิดใช้งานข้ามพื้นที่
พื้นที่ของ Starlink ที่กำหนดแยกกันแบ่งเป็น สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, ยุโรป, เอเชีย, แอฟริกา, ลาตินอเมริกา และโอเชียเนีย โดยหากอุปกรณ์ถูกเปิดและตรวจจับได้ว่าข้ามพื้นที่ซึ่งอุปกรณ์นั้นระบุเป็นพื้นที่ขาย อาจมีการคิดค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น ทำให้ราคารวมสูงกว่าการซื้อตรงในพื้นที่
บริษัทแนะนำให้ลูกค้าที่ต้องการใช้งาน ซื้อ Starlink ผ่านตัวแทนจำหน่ายในประเทศ แนวทางการออกค่าธรรมเนียมนี้เพื่อหวังลดการซื้อของข้ามพื้นที่นั่นเอง
เก็บตกฟีเจอร์ใหม่อย่างหนึ่งของ Pixel 9 ที่ไม่ถูกพูดถึงมากนัก (โดนกระแส AI กลบหมด) คือ Satellite SOS ขอความช่วยเหลือฉุกเฉินผ่านดาวเทียม ในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณมือถือหรือ Wi-Fi
ฟีเจอร์นี้คงไม่ต่างอะไรจาก Emergency SOS ที่มีใน iPhone ตั้งแต่เวอร์ชัน 14 โดยบริการนี้ใช้ได้กับ Google Pixel 9 ทุกรุ่นย่อย ใช้ฟรีเป็นเวลา 2 ปี และยังรองรับเฉพาะพื้นที่สหรัฐอเมริกาเท่านั้น
วิธีการใช้งานให้กดโทรออกเบอร์ฉุกเฉิน 911 ตามปกติ ถ้าไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ จะมีข้อความว่า Use Satellite SOS โผล่ขึ้นมาแทน ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าจะให้แจ้ง emergency contact ของเรา หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ผ่าน Google Messages
แอปเปิลประกาศเพิ่มประเทศที่รองรับฟีเจอร์ Emergency SOS ที่เชื่อมต่อขอความช่วยเหลือกรณีฉุกเฉินผ่านดาวเทียม รองรับพื้นที่ซึ่งไม่มีสัญญาณมือถือ โดยญี่ปุ่นเป็นประเทศล่าสุดที่แอปเปิลประกาศรองรับ และเป็นประเทศแรกในทวีปเอเชีย
ฟีเจอร์ Emergency SOS ผ่านดาวเทียมนี้ เปิดตัวมาตั้งแต่ iPhone 14 ในปี 2022 โดยแอปเปิลให้ใช้งานได้ฟรีใน 2 ปีแรก นับตั้งแต่เปิดใช้งาน iPhone เครื่องใหม่ ปัจจุบันรองรับทั้งหมด 16 ประเทศ ใช้งานได้ใน iPhone 14 และ iPhone 15
SpaceX เปิดตัวอุปกรณ์รับสัญญาณอินเทอร์เน็ตดาวเทียม Starlink รุ่นใหม่ที่มีขนาดกะทัดรัดเล็กลงในชื่อ Starlink Mini ซึ่งเหมาะกับผู้ใช้งานที่ต้องเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ มีความสะดวกในการพกพามากขึ้น สามารถใส่ในเป้สะพายหลังได้
ขนาดของจานรับสัญญาณ Starlink Mini ประมาณ 12x10 ตารางนิ้ว หนา 1.5 นิ้ว น้ำหนักประมาณ 2 ปอนด์ ขนาดของจานเล็กลงครึ่งหนึ่งของ Starlink ปกติ และเบาลงเหลือ 1 ใน 3
Starlink Mini จะขายในช่วงแรกแบบจำกัดจำนวนสำหรับลูกค้า Early Access ในราคา 599 ดอลลาร์ หรือประมาณ 22,000 บาท ค่าบริการรายเดือนคิดที่ 150 ดอลลาร์ ตอนนี้มีเฉพาะในสหรัฐอเมริกา
Amazon ประสบความสำเร็จในการทดสอบดาวเทียมวงโคจรต่ำ (low Earth orbit หรือ LEO) ภายใต้ Project Kuiper
Amazon ยิงดาวเทียมต้นแบบสองดวง KuiperSat-1 และ KuiperSat-2 ขึ้นสู่วงโคจรเมื่อเดือนตุลาคม 2023 และช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาก็ทดสอบเทคโนโลยีหลายอย่าง และประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย เหลือเพียงขั้นสุดท้ายคือการทดสอบปลดดาวเทียมทั้งสองดวงออกจากวงโคจร ซึ่งจะเกิดขึ้นภายใน 1 ปีหลังจบภารกิจ
Elon Musk ในฐานะซีอีโอ SpaceX เดินทางไปอินโดนีเซียเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อเปิดตัวบริการอินเทอร์เน็ตดาวเทียม Starlink ในประเทศ โดยเริ่มที่ศูนย์สุขภาพชุมชนในเมือง Denpasar ซึ่งเป็นเมืองหลักของบาหลี
ตามแผนงานในช่วงแรก Starlink จะติดตั้งในศูนย์สุขภาพตามเกาะต่าง ๆ ซึ่งมีอุปสรรคในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ที่อินเทอร์เน็ตดาวเทียมจะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้
Musk กล่าวว่าการให้บริการ Starlink นี้จะช่วยชีวิตผู้คนได้อีกมาก นอกจากนี้ยังเพิ่มโอกาสเข้าถึงทางการศึกษา ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นประโยชน์ต่อทุกคน
ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขของอินโดนีเซียระบุว่ามีศูนย์สุขภาพมากกว่า 10,000 แห่งทั่วประเทศ และกว่า 2,700 แห่งที่ไม่ได้เข้าถึงอินเทอร์เน็ต
กูเกิลเผยรายละเอียดของโครงการแก้ปัญหาโลกร้อน ด้วยการใช้ AI ตรวจจับตำแหน่งของการปล่อยก๊าซมีเทนจากภาพถ่ายดาวเทียม
ก๊าซมีเทน (methane) เป็นหนึ่งในตัวการสำคัญของภาวะเรือนกระจก และการปล่อยก๊าซมีเทนมักมาจากกระบวนผลิตเชื้อเพลิงฟอซซิล เช่น น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
กูเกิลร่วมกับ Environmental Defense Fund (EDF) หน่วยงานไม่หวังผลกำไรที่ทำด้านสิ่งแวดล้อมมายาวนาน และกำลังจะปล่อยดาวเทียม MethaneSAT ของตัวเองสู่ชั้นบรรยากาศในเดือนมีนาคมนี้ ดาวเทียม MethaneSAT จะโคจรรอบโลกวันละ 15 รอบแล้วถ่ายภาพที่เห็นระดับของกีาซมีเทนกลับมาวิเคราะห์
Telstra ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือในออสเตรเลียเริ่มเชื่อมสถานีฐานในพื้นที่ห่างไกลด้วยดาวเทียม OneWeb ที่เป็นดาวเทียมวงโคจรต่ำทดแทนดาวเทียมเดิมที่ใช้ดาวเทียมวงโคจรค้างฟ้า
Iskra Nikolova ผู้บริหาร Telstra ฝ่ายโครงสร้างเครือข่ายระบุว่าสถานีฐานในพื้นที่ห่างไกลเหล่านี้มักเจอกับภัยธรรมชาติจนชุมชนในพื้นที่เหล่านั้นขาดการติดต่อสื่อสาร โดยตอนนี้ Telstra ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในพื้นที่ห่างไกลโดยเสาสัญญาณเชื่อมต่อผ่านดาวเทียมกว่า 300 เสาที่เดิมใช้ดาวเทียม GEO และจะเปลี่ยนมาใช้ OneWeb ภายใน 18 เดือนข้างหน้า ภายใต้แบนวิดท์ 25Gbps ที่ซื้อจาก OneWeb เอาไว้ ทำให้ latency ของเสาโทรศัพท์เหล่านี้ลดลงจาก 250ms เหลือเพียง 50-70ms เท่านั้น
ICAO อนุญาตให้ใช้ดาวเทียม Galileo สำหรับงานระดับความปลอดภัยแก่ชีวิต (Safety-of-Life operations) ซึ่งหมายถึงระบบการบินอาจจะพึ่งพิงกับระบบเหล่านี้อย่างมาก จนหากระบบมีปัญหาก็อาจจะสร้างความเสียหายใหญ่หลวงได้ การรับรองนี้ทำให้เครื่องบินสามารถใช้ระบบ Galileo สำหรับขึ้นบิน, เดินทาง, และลงจอดได้ครบ
กระบวนการรับรองของ ICAO อาศัยการดูประวัติการบริการของระบบดาวเทียมว่ามีความน่าเชื่อถือเพียงใด และที่ผ่านมา Galileo มีประวัติการทำงานผิดพลาดจนเกินมาตรฐาน ICAO เพียง 6 ครั้ง โดยแต่ละครั้งเป็นความผิดพลาดของดาวเทียมไม่เกิน 1 ดวง ทาง Galileo พัฒนาเครื่องรับใหม่ให้สามารถตรวจพบความผิดพลาดนั้นได้ และตัดข้อมูลจากดาวเทียมที่ทำงานผิดพลาดได้
กูเกิล, AT&T, และ Vodafone ประกาศลงทุนในบริษัท AST SpaceMobile บริษัทพัฒนาดาวเทียมยิงคลื่นโทรศัพท์มือถือ ทั้ง 2G, 4G LTE, และ 5G สู่โทรศัพท์มือถือในพื้นโลกโดยตรง
AST ทดสอบดาวเทียมสำเร็จเมื่อปี 2023 โดยโทรศัพท์สามารถดาวน์โหลดข้อมูลตรงที่แบนวิดท์ 14Mbps และคาดว่าจะสามารถขยายแบนวิดท์ไปถึง 120Mbps ได้ สำหรับฝั่งเครือข่ายโทรศัพท์มือถือนั้น AT&T และ Vodafone เริ่มสั่งซื้ออุปกรณ์เพื่อเตรียมให้บริการจริงในอนาคต
การลงทุนครั้งนี้มีแนวทางค่อนข้างซับซ้อน โดยเงิน 110 ล้านเป็น convertible notes เงินกู้ดอกเบี้ย 5.5% สามารถแปลงเป็นหุ้นได้ AT&T สัญญาสั่งซื้อสินค้ามูลค่า 20 ล้านดอลลาร์เมื่อสามารถเปิดบริการจริง และ Vodafone สัญญาว่าจะซื้อสินค้าอีก 25 ล้านดอลลาร์
T-Mobile บริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในสหรัฐ ประกาศว่าจรวด Falcon 9 ของ SpaceX ได้ส่งดาวเทียม 6 ดวง ขึ้นสู่วงโคจร ซึ่งเป็นดาวเทียมชุดแรกที่ทำหน้าที่ส่งสัญญาณโทรศัพท์ตรงสู่พื้นโลกไปที่อุปกรณ์สมาร์ทโฟน
เป้าหมายคือการเชื่อมต่อผู้ใช้งานแบบ Direct to Cell (D2C) ให้ได้ทุกที่ในโลก แม้ในจุดที่ไม่มีสัญญาณ โดยนอกจาก T-Mobile แล้ว SpaceX ยังร่วมทดสอบบริการนี้กับผู้ให้บริการโทรศัพท์อีก 6 ราย ใน 6 ประเทศ ได้แก่ Optus (ออสเตรเลีย), Rogers (แคนาดา), One NZ (นิวซีแลนด์), KDDI (ญี่ปุ่น), Salt (สวิตเซอร์แลนด์) และ Entel (ชิลี)
D2C ในช่วงแรกจะทดสอบด้วยการส่งข้อความตัวหนังสือก่อน จากนั้นจึงขยายมาทดสอบบริการคุยเสียง และการรับส่งข้อมูล ซึ่งจะต้องใช้เวลาอีกหลายปี
Amazon ประกาศความก้าวหน้าของ Project Kuiper โครงการอินเทอร์เน็ตดาวเทียม โดยประสบความสำเร็จในการทดสอบสร้าง optical mesh network ด้วยเทคโนโลยีการติดต่อระหว่างดาวเทียมผ่าน optical inter-satellite links หรือ OISL
เดิมการติดต่อระหว่างดาวเทียมด้วย OISL ต้องจับคู่ดาวเทียมและส่งข้อมูลกลับภาคพื้น จึงมีข้อจำกัดด้านความเร็วและความหน่วง แต่ด้วยการออกแบบใหม่ของ Kuiper ทำให้ดาวเทียมสามารถติดต่อหากันได้พร้อมกันจำนวนมากเป็นเครือข่าย mesh จึงได้ throughput ที่มากขึ้น และลดความหน่วงลง ผลทดสอบพบว่าเครือข่ายสามารถให้บริการที่ระดับความเร็ว 100Gbps บนระยะทางที่ห่างไกลถึง 1,000 กิโลเมตร เป็นเวลาต่อเนื่อง 1 ชั่วโมง
Amazon ประกาศลงนามข้อตกลงกับบริษัทคู่แข่งด้านบริการอินเทอร์เน็ตดาวเทียม SpaceX เพื่อให้ช่วยส่งดาวเทียมในโครงการอินเทอร์เน็ตดาวเทียม Project Kuiper สู่วงโคจร โดยในข้อตกลงนี้ SpaceX จะใช้จรวด Falcon 9 ทั้งหมด 3 ครั้ง เพื่อส่งดาวเทียมสู่วงโคจร เริ่มต้นในปี 2025
Project Kuiper ปัจจุบันทำข้อตกลงในการส่งดาวเทียมกับสามผู้ให้บริการคือ ULA, Arianespace และ Blue Origin ของ Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง Amazon การเพิ่ม SpaceX เข้ามาเป็นผู้ส่งดาวเทียมอีกรายนั้นอาจไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจนัก เพราะตอนนี้ SpaceX เป็นผู้ให้บริการส่งดาวเทียมสู่วงโคจรรายใหญ่ในตลาด ที่ทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชนเลือกใช้บริการ
แอปเปิลประกาศขยายเวลาทดลองใช้งานฟรี สำหรับ Emergency SOS ฟีเจอร์ขอความช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉินผ่านการเชื่อมต่อกับดาวเทียม รองรับพื้นที่ซึ่งอาจไม่มีสัญญาณมือถือ ซึ่งแอปเปิลเปิดให้กับผู้ซื้อ iPhone 14 และ iPhone 14 Pro เมื่อปีที่แล้ว ใช้งานฟรี 2 ปี
โดยสำหรับผู้ซื้อ iPhone 14 และ iPhone 14 Pro ที่เปิดใช้งานก่อน 15 พฤศจิกายน จากเดิมใช้งานได้ 2 ปี (ครบกำหนดปลายปี 2024 สำหรับผู้ซื้อกลุ่มแรก) จะเพิ่มให้อีก 1 ปี เป็นหมดในปี 2025 ทำให้ช่วงครบกำหนดจะเท่ากับผู้ซื้อ iPhone 15 และ iPhone 15 Pro ที่ได้ใช้งาน 2 ปีเช่นกัน
Hon Hai Technology Group หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ Foxconn รุกเข้ามายังธุรกิจดาวเทียมแบบเงียบๆ โดยเปิดตัวทีเดียวด้วยการประกาศว่าจะยิงดาวเทียม 2 ดวงแรกของบริษัทภายในเดือนพฤศจิกายน 2023 (มาถึงก็พร้อมยิงเลย)
ดาวเทียมสองดวงแรกของ Foxconn ใช้ชื่อว่า PEARL-1H และ PEARL-1C เป็นดาวเทียมวงโคจรต่ำ (LEO) ใช้สื่อสารแบบบรอดแบนด์ ตอนนี้ยังเป็นดาวเทียมต้นแบบ (ใช้คำว่า proof of concept) ทดสอบระบบการสื่อสารยุค beyond 5G (B5G)
Foxconn ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่าการขยายมายังธุรกิจดาวเทียมเป็นการกระจายความเสี่ยง (diversify) ไปยังธุรกิจใหม่ เช่นเดียวกับที่ไปทำรถยนต์ไฟฟ้า โซลูชันสุขภาพดิจิทัล หุ่นยนต์ เพื่อหาโอกาสการเติบโตใหม่ๆ ของบริษัทในอีก 10-15 ปีข้างหน้า
เมื่อต้นปีนี้ Qualcomm เปิดตัว Snapdragon Satellite โซลูชันส่งข้อความผ่านดาวเทียม โดยเป็นพันธมิตรกับ Iridium บริษัทเจ้าของดาวเทียมวงโคจรต่ำที่กระจายตัวอยู่ทั่วโลก
เวลาผ่านมายังไม่ครบปีดี ล่าสุด Iridium ประกาศว่าพันธมิตรล่มไปเรียบร้อยแล้ว โดย Qualcomm เป็นฝ่ายยื่นหนังสือแจ้งเลิกสัญญา มีผลวันที่ 3 ธันวาคม 2023
การเลิกสัญญากับ Qualcomm ทำให้ Iridium สามารถเซ็นสัญญากับผู้ผลิตชิป ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายอื่นได้ ซึ่งบริษัทบอกว่าจะหาทางพูดคุยกับพาร์ทเนอร์รายใหม่ๆ ต่อไป
ฝั่ง Qualcomm แถลงกับ CNBC ว่าต้องการเลือกวิธีสื่อสารดาวเทียมที่เป็นมาตรฐานกลาง (standards-based) มากกว่าการใช้โปรโตคอลปิดของ Iridium