คู่มากับการเปิดตัวชิป Snapdragon Ride/Cockpit Elite สำหรับรถยนต์ Qualcomm ยังประกาศความร่วมมือกับกูเกิล พัฒนาระบบแสดงผลในหน้าจอรถยนต์ (digital cockpit) ร่วมกัน
ฝั่ง Qualcomm มีแพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์สำหรับรถยนต์ที่เรียกรวมๆ ว่า Snapdragon Digital Chassis (มีทั้ง Ride, Cockpit และส่วนอื่นๆ) ส่วนกูเกิลมีระบบปฏิบัติการรถยนต์ Android Automotive OS (AAOS) ภายใต้ข้อตกลงนี้ ทั้งสองบริษัทจะร่วมมือกันให้ฝั่งฮาร์ดแวร์-ซอฟต์แวร์ทำงานร่วมกันได้ดีขึ้น อัพเกรดง่ายขึ้น ส่งข้อมูลจากรถยนต์ขึ้นคลาวด์สะดวก กลายเป็นแพลตฟอร์มมาตรฐานสำหรับบริษัทรถยนต์นำไปใช้ต่อได้ง่าย
Volvo Cars ประกาศอัพเดตระบบความบันเทิงภายในรถยนต์ (infotainment) เวอร์ชันใหม่ให้กับรถยนต์รุ่นเก่า ย้อนไปถึงปี 2020
ระบบความบันเทิงในรถยนต์เวอร์ชันใหม่ ปรับปรุงให้ใช้งานง่ายขึ้น กดหน้าจอน้อยลง เริ่มใช้งานมาแล้วในรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น EX90 และ EX30 และจะใช้กับ XC90 SUV รุ่นปี 2025 ที่อัพเกรดจอเป็นขนาดใหญ่ขึ้น 11.2" และความละเอียดจอเพิ่มขึ้น 21% ด้วย
หลังจากนั้น Volvo Cars จะทยอยอัพเกรดย้อนหลังให้กับรถยนต์ที่ใช้ระบบความบันเทิงในรถยนต์ Android Automotive (Google built-in) รุ่นที่วางขายตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา ที่ระบุชื่อรุ่นได้แก่ C40, XC40, EX40, EC40, S60, V60, V60 Cross Country, XC60, S90, V90, V90 Cross Country, XC90 แต่ยังไม่ระบุช่วงเวลาแน่ชัด
กูเกิลประกาศรองรับแอพเพิ่มเติมบน Android Automotive ได้แก่แอพกลุ่มสตรีมมิ่ง Max, Peacock และเกม Angry Birds ที่สามารถเล่นได้ตอนรถจอด
ส่วน Android Auto ที่เป็นการส่งภาพจากมือถือขึ้นจอ รองรับแอพ Uber Driver สำหรับคนขับรถแล้ว เท่ากับว่าคนขับ Uber จะสามารถรับงานผู้โดยสารและดูการนำทางได้จากจอใหญ่ของรถยนต์ แทนที่จะเป็นจอมือถือแบบเดิม
กูเกิลประกาศว่าระบบปฏิบัติการสำหรับรถยนต์ Android Automotive OS รองรับโปรโตคอล Google Cast แล้ว แปลว่าเราจะสามารถแคสต์หนังจากในสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ไปดูในหน้าจอรถยนต์ตอนที่จอดอยู่ได้ เหมือนกับการแคสต์บนจอสมาร์ททีวีหรือทีวีที่ต่อ Chromecast
รถยนต์แบรนด์แรกที่รองรับฟีเจอร์นี้คือ Rivian แต่ยังไม่ระบุว่าจะใช้ได้เมื่อไร
ที่มา - Android Developers Blog
เมื่อช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา Ford เปิดตัวระบบปฏิบัติการสำหรับหน้าจอแสดงผลในรถยนต์ (Ford ใช้คำว่า Digital Experience) ที่พัฒนาต่อยอดจาก Android Automotive ตามที่ Ford เซ็นสัญญากับกูเกิลไว้ตั้งแต่ปี 2021 และโครงการนี้รับผิดชอบโดย Doug Field อดีตหัวหน้าทีม Apple Car ที่ย้ายไปอยู่กับ Ford ในปีเดียวกัน
กูเกิลอัพเกรดฟีเจอร์ใหม่ให้ Android Auto ระบบแสดงข้อมูลบนหน้าจอรถยนต์ ฟีเจอร์สำคัญคือ Android Auto สามารถแสดงแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ของรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้แล้ว สามารถสั่งให้นำทางด้วย Google Maps แล้วพยากรณ์ได้ว่าแบตเตอรี่จะเหลือกี่เปอร์เซนต์ตอนเดินทางถึงที่หมาย รวมถึงแนะนำจุดชาร์จระหว่างทางให้ด้วย
ฟีเจอร์แสดงแบตเตอรี่จะใช้ได้กับรถยนต์ไฟฟ้าค่าย Ford ก่อนคือ Ford Mustang Mach-E และ Ford F-150 Lightning ส่วนรถยนต์รุ่นอื่นๆ จะตามมาในภายหลัง
Porsche ประกาศเซ็นสัญญากับกูเกิล นำแอพในจักรวาลกูเกิลได้แก่ Google Maps, Google Assistant, Google Play Store ไปใช้งานกับรถยนต์ของตัวเองในอนาคต รถยนต์กลุ่มนี้จะเริ่มผลิตประมาณช่วง "กลางทศวรรษ" (middle of the decade) หรือราวปี 2025-2026
Porsche บอกว่าจะยังใช้งานอินเทอร์เฟซ Porsche Communication Management (PCM) แบบเดิมต่อไป แต่จะผนวก ecosystem ของบริษัทอื่นๆ เข้ามาด้วย
กูเกิลประกาศเพิ่มแอพที่รองรับในรถยนต์ ทั้งผ่านระบบ Android Auto (ส่งภาพจากมือถือไปยังจอรถยนต์) และ cars with Google built-in ชื่อใหม่ของ Android Automotive (รัน Android จากคอมพิวเตอร์ในรถยนต์เลย)
Android Auto
รองรับการประชุมออนไลน์ผ่าน Cisco Webex และ Zoom จากในรถยนต์ ตามที่เคยประกาศไว้ใน Google I/O โดยยังมีแค่การประชุมด้วยเสียงอย่างเดียวเพื่อความปลอดภัย สามารถกด join ห้องประชุมได้จากหน้าจอรถยนต์เลย ไม่ต้องล้วงโทรศัพท์ให้อันตราย
ในประกาศเดิมของกูเกิลพูดถึง Teams ด้วย แต่ไม่มีกล่าวถึงในประกาศล่าสุด ส่วน Meet ของตัวเองนั้นเหมือนไม่มีตัวตนอยู่ในจักรวาลนี้
กูเกิลประกาศข่าวของระบบปฏิบัติการ Android Automotive OS ว่าจะรองรับหลายหน้าจอ (multi-screen) สำหรับรถบางรุ่นที่อาจมีจอสำหรับผู้โดยสาร จะเริ่มใช้ใน Android Automotive OS 14 ที่จะออกช่วงปลายปีนี้
สำหรับรถยนต์รุ่นที่ใช้ Android Automotive OS และมีแอพของกูเกิลด้วย (cars with Google built-in) ผู้ผลิตรถยนต์ยังสามารถเลือกติดตั้งแอพหมวดชมวิดีโอ (เช่น YouTube) และเกมในระบบหน้าจอแสดงข้อมูลของรถยนต์ได้ด้วย เกมที่ระบุชื่อได้แก่ (Beach Buggy Racing 2, Solitaire FRVR, My Talking Tom Friends) โดยแอพสองกลุ่มนี้จะใช้ได้เฉพาะตอนจอดรถ (parked apps) เท่านั้น
บริษัทรถยนต์เครือ GM ประกาศว่าจะเลิกสนับสนุนระบบยิงมือถือขึ้นจอภาพรถยนต์ (phone projection systems) ทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ในรถยนต์รุ่นปี 2024 เพื่อไปใช้ระบบปฏิบัติการ Android Automotive ที่รันจากคอมพิวเตอร์ภายในรถยนต์แทน
รถยนต์ในเครือ GM เริ่มใช้ Android Automotive มาได้สักพักแล้ว เช่น GMC และ Cadillac ที่เริ่มในปี 2021 แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ GM ยืนยันว่าจะเลิกรองรับ CarPlay และ Android Auto ด้วย
Volkswagen Group เป็นค่ายรถยนต์รายล่าสุดที่เข้าร่วมจักรวาล Android Automotive ของกูเกิล
เมื่อปี 2021 เครือ Volkswagen Group ประกาศทำระบบ infotainment ของตัวเองชื่อ One.Infotainment ซึ่งจะอิงอยู่บนฐานของ Android Automotive และจะเปิดให้ใช้งานในปี 2023 ตัวซอฟต์แวร์เป็นส่วนหนึ่งของระบบปฏิบัติการรถยนต์ VW.OS รับผิดชอบโดยบริษัทลูก Cariad ที่ทำซอฟต์แวร์ให้รถยนต์ทั้งเครือ
จุดเด่นอย่างหนึ่งของ One.Infotainment คือมีแอพสโตร์ของตัวเอง (แยกจากของกูเกิล) ที่ร่วมพัฒนากับบริษัท HARMAN ตอนนี้มีข้อมูลแล้วว่าจะมีแอพ TikTok, Spotify, Yelp, Webex, The Weather Channel, Home Assistant, Vivaldi ให้ใช้งาน
กูเกิลเปิดตัวอินเทอร์เฟซโฉมใหม่ของ Android Auto ที่ใช้ฉายขึ้นจอภาพในรถยนต์ อินเทอร์เฟซแบบใหม่นี้ถูกนำมาโชว์ตั้งแต่งาน Google I/O 2022 แล้วเงียบหายไปนาน ในที่สุดกูเกิลก็เริ่มปล่อยอัพเดตให้ผู้ใช้แล้ว
Android Auto เวอร์ชันใหม่มี UI ที่ยืดหยุ่นขึ้น รองรับจอภาพหลายสัดส่วนทั้งแบบแนวตั้งและแนวนอนกว้างๆ ใช้ดีไซน์แบบการวาง widget ข้อมูลหลายๆ ชนิดลงในหน้าจอเดียว เพื่อลดความจำเป็นในการสลับแอพลงไป (เช่น ดูแผนที่ ฟังเพลง แสดงข้อความ ในหน้าจอเดียวกัน)
Honda เปิดตัวหน้าจอของ Honda Accord รุ่นย่อยตัวท็อป Touring ปี 2023 ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android Automotive OS (AAOS) ตามข้อตกลงกับกูเกิลที่เซ็นไว้ตอนกลางปี 2021
Honda Accord Touring 2023 ถือเป็นรถยนต์รุ่นแรกของ Honda ที่ใช้ Android Automotive โดยมีบริการในเครือกูเกิลทั้ง Google Assistant, Google Maps, Google Play มาให้ในตัว (เรียกรวมๆ ว่า Google Automotive Services หรือ GAS) ดีไซน์หน้าจอให้แบบเรียบๆ ไม่ได้ตกแต่งธีมอะไรเป็นพิเศษเหมือนกับรถยนต์รุ่นอื่น เช่น GMC Hummer EV
กูเกิลออกระบบปฏิบัติการสำหรับจอแสดงผลในรถยนต์ Android Automotive 13 มาแบบเงียบๆ หลังการออก Android 13 รุ่นสายหลัก เมื่อกลางเดือน
ของใหม่ใน Android Automotive 13 เน้นไปที่ฟีเจอร์ระดับแพลตฟอร์ม เช่น การเปิด camera2 API ให้ใช้งาน, ปรับปรุงสถาปัตยกรรมส่วนติดต่อกับฮาร์ดแวร์รถยนต์ vehicle HAL หรือ VHAL, การเชื่อมต่อกับ Ultra Wide Band (UWB) เช่น แท็กหรือมือถือที่ใช้เป็นกุญแจรถยนต์, Bluetooth stack ตัวใหม่ที่รองรับการใช้งานในรถยนต์ดีขึ้น เป็นต้น
ตอนนี้มีบริษัทรถยนต์รายใหญ่ของโลกประกาศใช้งาน Android Automotive แล้วหลายราย เช่น Volvo/Polestar, GM, Ford, Stellantis, Honda, BMW โดยรถยนต์หลายรุ่นจะทยอยออกมาในช่วงปี 2023-2024
BMW Group ประกาศขยายการใช้ระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8 ที่ผนวกเอาระบบปฏิบัติการ Android Automotive OS (AAOS) ของกูเกิล มาใช้งานในรถยนต์หลายรุ่นมากขึ้น โดยจะเริ่มมีผลในเดือนมีนาคม 2023
เดิมทีระบบปฏิบัติการของ BMW อิงมาจากลินุกซ์เวอร์ชันคัสตอมเองเป็นหลัก ซึ่งจะยังใช้งานต่อไป แต่ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่ารถรุ่นไหนจะได้ AAOS หรือลินุกซ์กันแน่ ตัวแทนของ BMW ให้ข้อมูลเรื่องการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ว่า BMW เลือกซอฟต์แวร์ที่เหมาะกับโซลูชันนั้นๆ มากที่สุดมาใช้งานเสมอ ไม่ว่าจะเป็นซอฟต์แวร์ของตัวเอง โอเพนซอร์ส หรือจากพาร์ทเนอร์รายอื่น
รถยนต์ไฟฟ้า Polestar 2 รุ่นปี 2021 และ 2022 ได้อัพเดตซอฟต์แวร์รอบสอง เป็นซอฟต์แวรเวอร์ชั่น P2.0 ที่รัน Android Automotive 11 แล้ว หลัง Polestar 2 รุ่นปี 2021 เปิดตัวโดยรัน Android 9 และได้อัพเดตเป็น Android 10 ภายหลัง
Polestar ระบุการอัพเดตนี้มาพร้อมหมวดแอปใหม่ ปรับปรุงวิทยุ แก้บั๊ก GPS ถูกรบกวนเมื่อเปลี่ยนโปรไฟล์รถ และปรับปรุงรายละเอียดต่างๆ ในแอป Polestar โดยสามารถดูรายละเอียดการอัพเดตได้ที่ลิงก์นี้
กูเกิลมีระบบปฏิบัติการ Android Automotive OS (AAOS) สำหรับหน้าจอแสดงข้อมูลในรถยนต์มาได้สักพักใหญ่ๆ (เป็นคนละอย่างกับ Android Auto ที่ประมวลผลในมือถือแล้วยิงภาพขึ้นจอรถยนต์)
เดิมที Android Automotive รองรับเฉพาะแอพบางประเภท เช่น ฟังเพลง แชท ล่าสุดกูเกิลประกาศเปิดแพลตฟอร์ม Automotive รองรับแอพประเภทใหม่ๆ คือ นำทาง, จอดรถ และชาร์จไฟรถ
กูเกิลเซ็นสัญญา Honda เป็นบริษัทรถยนต์รายล่าสุดที่จะใช้ระบบปฏิบัติการ Android Automotive ในรถยนต์ ผลคือรถยนต์ของ Honda รุ่นที่ขายในอเมริกาเหนือ นับตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2022 เป็นต้นไป (ยังไม่ระบุชื่อรุ่น) จะมี Android Automotive ฝังมาให้ตั้งแต่โรงงาน ใช้งานแอพอย่าง Google Maps, Google Assistant, Google Play ได้ในตัวโดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเลย
General Motors เปิดจองรถยนต์ไฟฟ้า Cadillac Lyriq รุ่น Debut Edition เมื่อวานนี้ และมีผู้จองจนเต็มภายใน 19 นาที ก่อนเตรียมจัดส่งภายในไตรมาสที่สองของปี 2022
Cadillac Lyriq รุ่น Debut Edition มาพร้อม Android Automotive มี Google Assistant และ Play Store บนหน้าจอสัมผัสแนวนอนขนาด 33 นิ้ว ใช้แบตเตอรี่ 100.4 kWh ระยะทำการโดยประมาณราว 480 กิโลเมตร (ยังไม่มีระยะเป็นทางการจากหน่วยงานสิ่งแวดล้อม EPA ของสหรัฐ)
Android Automotive OS เป็นโครงการนำ Android ทั้งตัวไปรันในระบบความบันเทิงของรถยนต์ (ต่างจาก Android Auto ที่ประมวลผลบนมือถือ แล้วส่งภาพขึ้นจอในรถยนต์) ช่วงหลังเราเริ่มเห็นแบรนด์รถยนต์เริ่มใช้งาน Android Automotive กันบ้างแล้ว โดยรถยนต์รุ่นแรกที่ใช้คือ Volvo Polestar 2
ล่าสุดกูเกิลเปิดตัวคลิปการใช้งาน Android Automotive ในรถยนต์กระบะไฟฟ้า GMC Hummer EV ของค่าย GM ช่วยให้เราเห็นภาพมากขึ้นว่า Android Automotive มีประสบการณ์ใช้งานอย่างไร
ค่ายรถยนต์ Ford และ Google ประกาศจับมือเป็นพาร์ทเนอร์กันระยะเวลา 6 ปีนับตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไป รถยนต์ Ford และ Lincoln แบรนด์ลูกกลุ่มรถหรู จะขับเคลื่อนด้วย Android (แต่ไม่ได้เจาะจงว่าเป็น Android Automotive), แอปและเซอร์วิสต่าง ๆ จาก Google ขณะที่ระบบหลังบ้าน Ford ก็จะใช้ Google Cloud ด้วย
นอกจากนี้ยังมีการตั้งทีม Upshift ที่ทั้งสองบริษัทจะทำงานร่วมกันพัฒนาโปรเจ็คต่าง ๆ เช่น User Experience หรือโอกาสในการนำข้อมูลการขับขี่มาต่อยอดผ่าน AI/ML ของ Google เป็นต้น
ที่มา - Ford
การเชื่อมต่อระบบแอนดรอยด์เข้ากับรถยนต์ นอกจากแอป Android Auto ของ Google แล้วยังมี Android Automotive OS ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ที่ออกแบบมาเพื่อรถยนต์โดยเฉพาะ ที่เปิดตัวไปในปี 2017 และเปิดให้นักพัฒนาเริ่มทำแอปเมื่อปีก่อน และตอนนี้มีให้ใช้งานใน Polestar 2 รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบของ Volvo ที่เปิดตัวในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และเปิดให้จองในสหรัฐอเมริกาแล้ว
Android Automotive OS เป็นระบบปฏิบัติการที่สร้างขึ้นมาเพื่อรถยนต์ โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์แอนดรอยด์อื่นเพิ่มเติม ผู้ใช้สามารถสั่งการต่างๆ ของเครื่องได้โดยใช้ Google Assistant และใช้งานแอปของ Google เช่น Google Maps และ Play Store ได้
Android Automotive เป็นระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์สำหรับรถยนต์ที่ Google เปิดตัวครั้งแรกในปี 2017 ซึ่งเป็นคนละผลิตภัณฑ์กับ Android Auto ที่เป็นแอปสำหรับเล่นเปิดแอปแอนดรอยด์บนรถยนต์อีกต่อหนึ่ง โดยรถยนต์ไฟฟ้า Polstar 2 เป็นรุ่นแรกที่เปิดตัวมาพร้อม Android Automotive ในตัว
ล่าสุด Google เปิดให้นักพัฒนาภายนอกสามารถพัฒนาแอปบนแพลตฟอร์ม Automotive แล้ว เริ่มจากแอปประเภทสื่ออย่างแอปเพลงหรือพ็อดคาสต์ก่อน ส่วนแอปประเภทอื่นๆ อย่างแอปสื่อสาร (โทรศัพท์, ข้อความ), แอปนำทางและอื่นๆ จะตามมาในภายหลังผ่าน Play Store
เพื่อความง่ายสำหรับนักพัฒนา Google ระบุว่าการพัฒนาแอปของ Android Automotive ยังคงใช้เฟรมเวิร์คเดียวกับ Android Auto โดยจะมีรายละเอียดและเซสชันเพิ่มเติมในงาน Google I/O สัปดาห์หน้า