Apple, Inc.
หลาย ๆ คนอาจจะจำได้ว่าสตีฟ จ็อบส์เคยออกมาบ่นตอนเปิดตัวไอโฟนว่าเขาไม่ชอบ Stylus แค่ไหน มาตอนนี้แอปเปิลได้ทำการยื่นขอจดสิทธิบัตร Stylus สำหรับจอสัมผัสแบบ Capacitive แล้ว
โดยในเอกสารที่นำไปยื่นนั้นก็ไม่มีอะไรมาก นอกจากจะระบุว่า Stylus นี้สามารถนำไปใช้ได้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่นไอโฟนที่ได้ผลิตมาสำหรับการใช้งานด้วยน้ิวมือ
แม้ว่ามันค่อนข้างจะชัดเจนว่า Stylus นี้ไม่ได้ถูกผลิตมาเพื่อไอโฟน แต่ Stylus จะต้องเป็นสิ่งสำคัญในการใช้งาน Tablet อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่นอน
ใบยื่นขอจดทะเบียนสิทธิบัตรในครั้งนี้นั้น ถูกเขียนขึ้นโดยนาย John Elias หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัท Fingerworks ที่แอปเปิลซื้อเมื่อก่อน
Valleywag ได้ออกมาประกาศว่าจะมอบรางวัลเป็นเงินสดสำหรับผู้ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับ iSlate หรือ Tablet ตัวใหม่จากแอปเปิลที่ได้ลือกันว่ากำลังอยู่ในช่วงพัฒนาหรือเตรียมวางขายกันแล้ว
24/7 Wall St. รายงานว่าแอปเปิลกับนักพัฒนาโปรแกรมลงบน App Store นั้นได้สูญเสียรายได้ที่ควรจะได้รับกว่า 450 ล้านดอลลาร์จากการละเมิดลิขสิทธิโปรแกรมบนไอโฟนและ iPod touch ตั้งแต่ที่ได้ทำการเปิด App Store เมื่อเดือนกรกฎาคม 2008 โดยตัวเลขที่ได้นั้นมาจากการดูอัตราส่วนยอดการดาวน์โหลด App ที่ต้องเสียเงินบน App Store กับอัตราส่วนการละเมิดลิขสิทธิ App ที่ต้องเสียเงิน และอัตราส่วนของจำนวนผู้ใช้ที่ดาวน์โหลด App ละเมิดลิขสิทธิที่จะซื้อ App หากไม่มีวิธีการละเมิดลิขสิทธิในท้องตลาด
โดยรวมทั้งหมดแล้วทั้งแอปเปิลและนักพัฒนาโปรแกรมให้กับ App Store ทั้งหมดสูญเสียรายได้โดยรวมประมาณ 459 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 15,000 ล้านบาท
ปัญหาเรื่องการควบคุมโปรแกรมบน App Store ของแอปเปิลดูจะไม่จบง่ายๆ เพราะล่าสุดบริษัทสั่งลบโปรแกรมดูรูปภาพ ForChan ออกจากหน้าร้านแล้ว
กรณีของ ForChan นี่หมิ่นเหม่มากครับ สามารถมองได้ทั้งสองทาง คือโปรแกรม ForChan ซึ่งทำโดย iHustleApps เป็นโปรแกรมที่ชูจุดขายด้านการดูภาพโป๊บน iPhone เพียงแต่เทคนิคที่โปรแกรมนี้ใช้หลบเลี่ยงเงื่อนไขของแอปเปิลคือในทางเทคนิคแล้ว มันเป็นแค่โปรแกรมดูรูปภาพธรรมดาเท่านั้น ส่วนที่มาของภาพคือแกลเลอรีต่างๆ บนอินเทอร์เน็ต ซึ่งในทางปฏิบัติมันสามารถใช้ดูภาพอะไรก็ได้ ในตัวโปรแกรมไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับภาพโป๊แต่อย่างใด
อันนี้ไม่รู้ถือเป็นความพลาดอย่างแรงของอินเทลหรือเปล่าที่ทำให้เกิดข่าวลือนี้ โดยอินเทลได้ปล่อยโปรโมชั่นโฆษณาเว็บไซต์ Retail Edge Program (http://retailedge.intel.com) ในประเทศสเปน อังกฤษ และฝรั่งเศส หากลูกค้าซื้อสินค้าในเว็บไซต์ดังกล่าวจะได้สิทธิ์ชิงรางวัล MacBook Pro ใหม่ที่มาพร้อมกับอินเทล Core i5 รูปแบนเนอร์โฆษณาในประเทศอังกฤษดูได้ท้ายข่าว
วันนี้เว็บไซต์ AppleInsider ได้มีการรายงานว่าหลังจากที่แอปเปิลได้ปิดบริการในส่วนของการรับโปรแกรมเข้าบน App Store ช่วงหยุดยาวที่ผ่านมา (23 - 28 ธันวาคม) การตรวจสอบต่างๆ ก็เป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้นมาก โดย Jared Judd ผู้พัฒนาโปรแกรม Cootie Lert ได้ระบุว่าโปรแกรมเขาส่งไปเมื่อวันเสาร์ที่ 9 มกราคมที่ผ่านมาได้ถูกนำขึ้น App Store ในวันจันทร์ที่ 11 ซึ่งจุดที่น่าสนใจคือการดำเนินการนี้เป็นช่วงหยุดสุดสัปดาห์เกือบทั้งหมด
ทาง Korea Times มีรายงานจากแหล่งข่าวหนึ่งได้ระบุว่า iPhone รุ่นถัดไปของแอปเปิลจะใช้จอ OLED, มีฟังก์ชันการสนทนาด้วยวีดีโอ, ใช้ซีพียูที่มีสองคอร์ และน่าจะถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้
แหล่งข่าวนี้ระบุว่า แอปเปิลน่าจะเปิดให้ลูกค้าองค์กรใช้อุปกรณ์นี้ก่อนในช่วงเดือนเมษายนเพื่อทดสอบ ก่อนที่จะขายให้กับบุคคลทั่วไปในช่วงเดือนมิถุนายนซึ่งเป็นเวลาออกรุ่นใหม่ของ iPhone ตามปกติ
ถ้าข่าวนี้เป็นจริง มีความเป็นไปได้สูงที่ iPhone จะใช้ซีพียูสถาปัตยกรรม Cortex-A9 จาก ARM ที่มีขีดความสามารถในการเพิ่มสัญญาณนาฬิกาสูงสุดที่ 2GHz
Jon Rubinstein คืออดีตหัวหน้าทีม iPod ของแอปเปิล ภายหลังลาออกจากแอปเปิล และกลายมาเป็นซีอีโอของ Palm ผลงานสำคัญคือชุบชีวิตบริษัทขึ้นมาใหม่ด้วย Palm Pre
เราเห็นกลิ่นอายสไตล์แอปเปิลอยู่ใน Palm Pre และ webOS อย่างชัดเจน นอกจากนี้เรายังเห็นเกมแมวไล่จับหนูระหว่าง Palm Pre กับ iTunes กันมาหลายรอบ
ในงาน CES 2010 เว็บไซต์ AllThingsD โดย Kara Swisher ได้สัมภาษณ์ Rubinstein เกี่ยวกับปัจจุบันและอนาคตของ Palm แน่นอนว่าหลีกเลี่ยงการพูดถึงแอปเปิลได้ลำบาก และบทสนทนาช่วงสำคัญ (แบบคร่าวๆ) เป็นดังนี้
ในช่วงที่กระแสแอปเปิลกำลังมาแรง ไม่ว่าข่าวลือเกี่ยวกับแท็บเล็ตจะเป็นเช่นไร มีหนังสารคดีเรื่องหนึ่งที่เป็นที่สนใจจากทั้งสื่อในต่างประเทศและกลุ่มผู้สนใจบริษัทแอปเปิล นั่นก็คือเรื่อง "MacHeads the Movie" ซึ่งออกฉายแบบจำกัดโรงตามหัวเมืองใหญ่ในสหรัฐไปเมื่อกลางปีที่แล้ว
แม้ว่าข่าวเกี่ยวกับ Tablet ของแอปเปิลระยะหลังๆ จะมุ่งไปในลักษณะที่ว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับอ่านหนังสือหรือดูมัลติมีเดียเป็นหลักแบบ Kindle ผสม iPod แต่ในรายงานล่าสุดของ New York Times ได้ระบุว่าจากการสนทนากับอดีตวิศวกรของแอปเปิลบางคน พบว่า Tablet นี้อาจมีจุดมุ่งหมายในการทำคอมพิวเตอร์แบบสมบูรณ์แบบ
วิศวกรเหล่านั้นได้ระบุว่า แอปเปิลได้พยายามพัฒนารูปแบบการติดต่อกับคอมพิวเตอร์โดยใช้นิ้วสัมผัสมากมายหลายรูปแบบหลังจากที่ได้ซื้อบริษัท FingerWorks มาในปี 2007 ซึ่งการใช้งานจริงอาจมีรูปแบบที่ซับซ้อนเช่นการลากนิ้วมือสามนิ้วลงและเป็นวงกลมเพื่อเปิดไฟล์ โดยมีวิศวกรอีกคนหนึ่งระบุว่า แอปเปิลได้ใช้เวลาในช่วงสองสามปีมานี้เพื่อพัฒนา iWork เวอร์ชันสำหรับมัลติทัช
Mercury News สื่อท้องถิ่นของซานฟรานซิสโก รายงานว่าแอปเปิลกำลังดำเนินการย้ายร้าน Apple Retail Store สาขา Palo Alto อย่างเงียบๆ โดยร้านแห่งใหม่นั้นอยู่ห่างจากร้านเดิมไม่ไกล แต่จะเป็นร้านต้นแบบของ Apple Retail Store แนวใหม่ของบริษัท
ข้อมูลจากเอกสารที่แอปเปิลยื่นขอก่อสร้างกับหน่วยงานท้องถิ่นบอกว่า ชั้นล่างจะเป็นผนังโปร่งใสทั้งหมด ปลูกต้นไม้ภายใน และรับแสงอาทิตย์จากหลังคา สถาปนิกของอาคารนี้คือ Bohlin Cywinski Jackson ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่ออกแบบร้าน Apple Store สาขา Fifth Avenue ในนิวยอร์ก ซึ่งเป็นร้านที่โดดเด่นในแง่สถาปัตยกรรมอย่างมาก
ส่วนโฆษกของแอปเปิลยังปฏิเสธ ไม่ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ตามคาด
นับย้อนไปตั้งแต่ปี 2006 ที่กรีนพีซเริ่มโจมตีบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแอปเปิลถึงเรื่องการไม่เอาใจใส่สิ่งแวดล้อมในผลิตภัณฑ์ของตัวเอง ตั้งแต่การใช้สารพิษ ไปจนถึงระบบการรีไซเคิลผลิตภัณฑ์เมื่อหมดอายุขัยแล้ว จากการเคลื่อนไหวดังกล่าวบริษัทต่างๆ ก็เริ่มตื่นตัวมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแอปเปิลที่ถูกโจมตีอย่างหนักในช่วงแรก จนเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2007 จ็อบส์ต้องเขียนจดหมายเปิดผนึกเกี่ยวกับแผนการด้านสิ่งแวดล้อมของตนเอง ล่าสุดทางกรีนพีซได้ออกมาชื่นชมแอปเปิลที่สามารถกำจัดสารอันตรายในระดับสูงออกไปจากสายผลิตภัณฑ์ของทั้งบริษัทได้เป็นผลสำเร็จ
นักวิเคราะห์ Jeffrey Fidacaro จาก Susquehanna Financial ได้ทำการวิเคราะห์และคาดเดาอุปกรณ์ภายในต่างๆ ที่น่าจะใช้ในอุปกรณ์ Tablet ของแอปเปิล และสรุปว่าน่าจะมีราคาต้นทุนเฉพาะอุปกรณ์ ไม่รวมการผลิต การขนส่ง การจัดจำหน่าย และการตลาดอยู่ที่ $340 ต่อชิ้น (ดูตารางที่นี่)
ทางเว็บไซต์ AppleInsider ได้มีรายการเกี่ยวกับสิทธิบัตรของแอปเปิลที่มีการจดไว้ตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2008 ที่มีชื่อว่า "Display with Dual-Function Capacity Elements" ซึ่งเป็นการรวมเอาตัวเก็บประจุเข้าไปไว้ในส่วนแสดงผลของแต่ละจุดบนหน้าจอ LCD และสามารถทำงานแยกกันได้ตามปกติ
เทคนิคนี้จะสามารถทำให้ผลิตอุปกรณ์ที่มีจอภาพสัมผัสแบบประจุ (capacitive) ได้บางขึ้น เบาขึ้น และสว่างมากขึ้น เพราะเป็นการเปลี่ยนจากการใช้จอ LCD แยกกับแผงเซนเซอร์สัมผัสแบบเดิมที่ใช้กันอยู่ทั่วไป ซึ่งสิทธิบัตรนี้สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับผลิตภัณฑ์หลักๆ ของแอปเปิลได้เกือบทั้งหมด
เมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา แอปเปิลได้เปิดเว็บไซต์ iTunes Preview ที่สามารถให้ผู้ใช้ค้นหาเพลงใน iTunes Store ผ่านหน้าเว็บด้วยเบราว์เซอร์ได้โดยไม่ต้องใช้โปรแกรม iTunes ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แอปเปิลได้แอบเพิ่มฟีเจอร์ในการทดลองฟังตัวอย่างเพลงความยาว 30 วินาทีผ่านหน้าเว็บไซต์แล้ว อย่างไรก็ตามหากผู้ใช้ต้องการจะซื้อเพลง ก็ยังคงต้องคลิกลิงค์เพื่อไปเปิดโปรแกรมและดำเนินการต่อใน iTunes อยู่ดี
คงเป็นที่ทราบกันดีเกี่ยวกับมาตรการเกี่ยวกับการรักษาความลับของแอปเปิลที่ออกจะเวอร์เมื่อเทียบกับบริษัทอื่นๆ ในอุตสาหกรรมสักหน่อย ก่อนหน้านี้อาจเคยมีข่าวเกี่ยวกับการที่พนักงานถูกควบคุมหรือทำโทษจากบริษัทเพื่อรักษาความลับต่างๆ ถึงกระนั้นเราก็จะเห็นว่ามีข่าวลือหลุดมาจากตามแหล่งต่างๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลตลอดเวลา อย่างเช่นข่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (ดูข่าวเก่า) ล่าสุดอดีตผู้จัดการฝ่ายการตลาดของแอปเปิล John Martellaro ระบุกับทาง The Mac Observer ว่าแอปเปิลอาจจงใจปล่อยข่าวลือเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ที่แอปเปิลและกูเกิลเคยแย่งกันซื้อ AdMob (ดูข่าวเก่า) และพลาดท่าให้กับกูเกิลไปแล้ว ในวันนี้แอปเปิลได้ประกาศซื้อ Quattro Wireless ซึ่งเป็นบริษัททำระบบโฆษณาบนแพลตฟอร์มโมบายเช่นเดียวกับ AdMob เรียบร้อยแล้ว
แม้ว่าจะมีการคาดเดาจากหลายสำนักถึงการที่แอปเปิลกำลังจะทำ iPhone ในระบบ CDMA ที่จะสามารถใช้กับ Verizon ที่สหรัฐฯ ได้ จนนำไปสู่ทฤษฎีที่ว่าเราน่าจะได้เห็น Verizon ขาย iPhone ในกลางปี 2010 เมื่อสัญญาระหว่างแอปเปิลกับ AT&T หมดลงนั้น Maynard J. Um จาก UBS Investment Research ระบุว่าแอปเปิลกับ Verizon อาจไม่สามารถหาข้อตกลงในเรื่องของราคากันได้
หากเปรียบเทียบกันแล้ว ปัจจุบันแอปเปิลได้รายได้จากการขาย iPhone กับ AT&T อยู่ที่ประมาณ $700 ต่อเครื่อง ซึ่งหากเปรียบเทียบกับตัวเลข $450 ที่ Motorola ทำได้จาก Droid ที่ขายกับ Verizon แล้ว คงเป็นไปได้ยากที่สองบริษัทจะหาข้อตกลงเรื่องส่วนแบ่งนี้กันได้
ความคืบหน้าล่าสุดของแท็บเล็ตจากแอปเปิลที่ทุกคนรอคอย
เว็บไซต์ AllThingsD ในเครือ Wall Street Journal รายงานว่า แอปเปิลมีนัดแถลงข่าววันที่ 27 มกราคมนี้ โดยสถานที่เป็น Yerba Buena Center for the Arts ในซานฟรานซิสโก ซึ่งเป็นสถานที่ที่แอปเปิลใช้แถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์อยู่บ่อยๆ - AllThingsD
ด้าน Wall Street Journal รายงานว่าขนาดหน้าจออยู่ที่ 10-11 นิ้ว ราคาน่าจะอยู่ที่ 1,000 ดอลลาร์ และเริ่มส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าได้ในเดือนมีนาคม - WSJ
ดูเหมือนว่าการต่อสู้เรื่องสิทธิบัตรขอโนเกียและแอปเปิลจะเผ็ดร้อนขึ้นอีกเท่าตัว เมื่อโนเกียได้ทำยื่นคำร้องแก่ International Trade Commission หรือหน่วยงานรับผิดชอบการค้าระหว่างประเทศว่าแอปเปิลได้ละเมิด "สิทธิบัตรเกี่ยวกับการติดตั้งและใช้งาน" โดยสิทธิบัตรนี้ครอบคลุมเกือบทุกอย่างตั้งแต่เซ็นเซอร์ของกล้องไปจนถึงจอสัมผัส
หากนับการฟ้องร้องเกี่ยวกับสิทธิบัตรมาตราฐาน GSM และการยื่นคำร้องถึง ITC ครั้งแรกเกี่ยวกับ UI, กล้อง, เสาอากาศและอื่น ๆ ของสินค้าแอปเปิลทุกชนิดนั้น นี่เป็นก้าวที่สามสำหรับโนเกียในการต่อสู้กับแอปเปิลในครั้งนี้
วันนี้ก็วันที่ 2 มกราคมของปี 2010 ซะแล้ว หากมาดูจากประกาศที่แอปเปิลเคยประกาศไว้ว่า...
Apple will support Microsoft Windows 7 (Home Premium, Professional, and Ultimate) with Boot Camp in Mac OS X Snow Leopard before the end of the year. This support will require a software update to Boot Camp.
หรือว่าง่าย ๆ แอปเปิลจะสนับสนุน Windows 7 ที่รันบน Boot Camp โดยการปล่อยอัพเดทไดรเวอร์สำหรับ Windows 7 โดยเฉพาะก่อนสิ้นปี 2009 นั่นเอง ดูเหมือนจะผู้ใช้ Windows 7 บน Boot Camp คงต้องรอต่อไปเสียแล้ว ดูเหมือนจะทุ่มเทให้กับ iSlate มากไปหน่อยกระมัง
หลายคนคงรู้จัก Tim Cook ในฐานะตัวตายตัวแทนของสตีฟ จ็อบส์ ในช่วงที่ลาป่วยไปครึ่งปี ปัจจุบัน Cook ดำรงตำแหน่ง Chief operating officer หรือ COO และตามสายงานเป็นรองแค่จ็อบส์คนเดียวเท่านั้น ระหว่างที่จ็อบส์ลาป่วยไป Cook ก็สามารถบริหารงานแทนได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่มีปัญหาใดๆ
ความสามารถของ Cook เลยไปเข้าตา General Motors อดีตบริษัทผลิตรถยนต์อันดับหนึ่งของโลก (ปัจจุบันโดนโตโยต้าแซงไปแล้ว) ซึ่งเพิ่งล้มละลายหลังวิกฤตเศรษฐกิจสหรัฐ และฟื้นฟูกิจการกลับมาเป็น GM ที่สอง
Kai Fu Lee อดีตผู้จัดการใหญ่ของกูเกิลประเทศจีน (เคยทำงานกับไมโครซอฟท์และแอปเปิลด้วยเช่นกัน ดูข่าวเก่า Kai Fu Lee ลาออกจากกูเกิลไปตั้งบริษัทใหม่, Kai Fu Lee เผยแผนบริษัท Innovation Works ให้ทุนคนรุ่นใหม่ ประกอบ) ได้เขียนลงในบล็อกของตัวเอง เปิดเผยสิ่งที่เขารู้เกี่ยวกับแท็บเล็ตของแอปเปิล
เขาบอกว่าแท็บเล็ตตัวนี้จะมีหน้าจอ 10.1 นิ้ว คล้ายกับ iPhone ขนาดใหญ่ รองรับกราฟฟิกสามมิติ และตั้งราคาขายต่ำกว่า 1,000 ดอลลาร์ แอปเปิลตั้งเป้าว่าจะขายอุปกรณ์ตัวนี้ได้ถึง 10 ล้านเครื่องในปี 2010 ซึ่งเป็นตัวเลขที่นักวิเคราะห์บอกว่าทะเยอทะยานมาก
ดูเหมือนว่างานนี้ศาลซานฟรานซิสโกจะเข้าข้างแอปเปิลในคดีฟ้องเป็นกลุ่ม (Class Action Lawsuit) ระหว่างกลุ่มผู้ใช้ไอพ็อดและแอปเปิล เกี่ยวกับกรณีที่ผู้ใช้ไอพ็อดแล้วมีปัญหาหูหนวก หูตึง และหูไม่ดี โดยศาลได้ทำการปฏิเสธการยื่นฟ้องของกลุ่มที่ต้องการให้แอปเปิลรับผิดชอบ
โดยศาลนั้นได้กล่าวว่าผู้ฟ้องไม่ได้ต้องการฟ้องเพราะว่าไอพ็อดนั้นไม่สามารถทำในสิ่งที่มันถูกดีไซน์ขึ้นมาได้ และผู้ฟ้องเองก็ไม่สามารถแสดงให้เห็นว่าปัญหาหูไม่ดีทั้งหลายจากการใช้ไอพ็อดเป็นปัญหาที่ไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้ ทำให้การฟ้องร้องในครั้งนี้ไม่สามารถนำเข้าชั้นศาลได้
ที่มา - Engadget
ไม่ว่ามันจะชื่อ iPad, MacTablet, iSlate, Magic Slate ก็คิดซะว่าหมายถึงแท็บเล็ตของแอปเปิลละกันนะครับ
นิตยสาร BusinessWeek ได้พยากรณ์ว่าหลังแท็บเล็ตตัวนี้วางขาย จะมีอุตสาหกรรมอะไรที่ถูกเปลี่ยนโฉมไปบ้าง