Apple, Inc.
สำนักงานใหญ่อันมีชื่อเสียงของแอปเปิลคือ เลขที่ 1 ถนน Infinite Loop ในเมือง Cupertino รัฐแคลิฟอร์เนีย แต่ช่วงหลังสถานที่เริ่มคับแคบไม่พอต่อจำนวนพนักงานที่เพิ่มขึ้น ทางแก้ชั่วคราวของบริษัทคือไปเช่าอาคารสำนักงานตามจุดต่างๆ ใน Cupertino
สตีฟ จ็อบส์นั้นไม่ค่อยพอใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ และเตรียมการสร้างสำนักงานแห่งที่สองเพื่อให้พนักงานที่กระจัดกระจายย้ายมาอยู่รวมกัน
แอปเปิลเริ่มซื้อที่ดินในย่านที่เรียกว่า Pruneridge ใน Cupertino มาตั้งแต่ปี 2006 สะสมกันหลายแปลง ปัญหาคือที่ดินบริเวณนั้นเคยเป็นโรงงานมาก่อน และสภาของเมืองได้วางผังเอาไว้ให้เป็นย่านที่อยู่อาศัย เตรียมสร้างคอนโดและทาวน์เฮาส์
อาจจะเป็นเรื่องชินชากับข่าวโปรแกรมถูกปฏิเสธจาก App Store ด้วยเหตุผลต่างๆ นาๆ มาคราวนี้เมื่อทางบริษัท Swavv Apps ได้ทำโปรแกรมโฆษณาโทรศัพท์มือถือ Droid ของ Motorola ที่ใช้ระบบปฏิบัติการคู่แข่งอย่าง Android และใช้เครือข่ายคู่แข่งอย่าง Verizon โดยใช้ชื่อโปรแกรมว่า iDroid ส่งขึ้นไปยัง App Store ก็ต้องถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย พร้อมกับเหตุผลอย่างตรงไปตรงมาว่า "เป็นการโฆษณาคู่แข่ง"
แอปเปิลกำลังถูกกล่าวหาจากผู้ไม่ประสงค์ออกนามในอุตสาหกรรมการผลิตหน่วยความจำ NAND Flash ว่ามีพฤติกรรมในการปั่นราคา NAND Flash ให้ถูกกว่าความเป็นจริง
ในการกล่าวหานี้ได้ระบุว่า แอปเปิลมักจะทำการสั่งซื้อหน่วยความจำ NAND จากบริษัทเจ้าใหญ่ๆ อย่างซัมซุงในปริมาณมากๆ แต่พอถึงเวลาซื้อจริงกลับรอให้สินค้าล้นตลาดและลดลงถึงจุดที่แอปเปิลพอใจ แล้วจึงจะซื้อมาใช้จริงๆ โดยแหล่งข่าวได้ระบุด้วยว่า เพียงในเดือนที่ผ่านมาเดือนเดียวราคาของ NAND Flash ลดลงถึง 4%
ที่มา - AppleInsider
จากที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าผลทดสอบของซีพียูอินเทลรหัส Gulftown ที่น่าจะมีชื่อทางการตลาดว่า Core i9 ถูกเผยแพร่ ก่อนที่จะถูกนำออกอย่างรวดเร็ว (ดูข่าวเก่า) ทางเว็บไซต์ Hardmac ได้รายงานว่ามีแหล่งข่าวที่อาจระบุได้ว่า Core i9 จะปรากฏบน Mac Pro ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2010 โดยน่าจะมาในรูปแบบของการใช้ Core i9 สองตัว ทำให้สามารถมีคอร์จริงได้สูงสุด 12 คอร์ และคอร์เสมือน 24 คอร์
หลังจากบุกประเทศจีนไปแล้วก็ถึงคิวของเกาหลีใต้บ้าง iPhone วางขายกับเครือข่ายของ KT Corp ซึ่งเป็นโอเปอเรเตอร์อันดับสองของเกาหลีใต้
ราคาของ iPhone 3GS รุ่น 32GB คือตัวเครื่อง 396,000 วอน (ประมาณ 12,000 บาท) โดยจ่ายค่ารายเดือน 45,000 วอน (1,300 บาท) ในข่าวไม่ได้บอกว่าสัญญากี่ปี แต่ถ้าจ่ายค่ารายเดือนแพงกว่านี้ก็จะต้องจ่ายค่าเครื่องน้อยลงลดหลั่นกันไปครับ
KT เผยตัวเลขว่ามีคนสั่งจองเครื่อง 65,000 ราย และคาดว่ายอดขายทั้งหมดจะอยู่ระหว่าง 2-5 แสนเครื่อง
เว็บ MacRumors รายงานว่าพบประกาศรับสมัครงานบนเว็บแอปเปิลที่ต้องการหา Software Engineer ที่จะเข้าร่วมทีมพัฒนาโปรแกรม Maps บนไอโฟนให้ "เจ๋งขึ้นไปอีกระดับ" โดยในรายละเอียดนั้นแอปเปิลบอกว่าการพัฒนาเพิ่งที่จะเริ่ม
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าใครชนะ แต่อยากดูเพียงแค่สภาพซากของ MacBook Air เท่านั้นว่าเป็นอย่างไร
เหตุการณ์พลีชีพครั้งนี้เกิดจากเจ้าของได้ทำ MacBook Air หล่นไปใต้รถบัสและตรงจุดที่ล้อต้องผ่านด้วยทำให้ MacBook Air เครื่องนี้โดนรถทับ ผลทีได้เลยออกมาตามนี้ แต่อึดเหลือเชื่อเพราะยังสามารถเปิดเครื่องได้
คงจะเปิดติดแต่ไม่สามารถบูทเครื่องได้ปกติเพราะดูจากรูปแล้วคิดว่าแผงวงจรหักแน่ๆครับ แหมเครื่องนี้พังยังเปิดติด แต่สำหรับบางคนแล้วซื้อ iMac Core i7 มาแพงแกะกล่องครั้งแรกเครื่องก็เปิดไม่ติดซะแล้ว
ที่มา - Engadget
ตามปกติแล้ว iPhone สามารถดูวิดีโอใน YouTube ได้แม้ว่าจะไม่มี Flash วิธีการคือ YouTube จะแปลงไฟล์วิดีโอต้นฉบับเป็น H.264 นอกเหนือไปจาก .flv ให้เราด้วย เมื่อ iPhone เจอวิดีโอจาก YouTube ฝังในเว็บเพจก็จะไปเรียกโปรแกรมสำหรับเล่นไฟล์ H.264 ไฟล์นั้นขึ้นมาแทน
Silverlight เป็นซอฟต์แวร์ RIA ที่ไมโครซอฟท์ดันเต็มที่ และจุดขายหลักของมันคือวิดีโอ ด้วยความสามารถในการตลาดของไมโครซอฟท์ทำให้ช่วงหลังเริ่มมีเว็บที่ใช้ Silverlight ถ่ายทอดวิดีโอเยอะพอสมควร เมื่อบวกกับความนิยมของ iPhone เลยเริ่มมีปัญหาว่า iPhone ดูวิดีโอใน Silverlight ไม่ได้
MacRumors รายงานว่าหลังจากที่มีการเปิดตัว iMac ใหม่มานั้น ทำให้เว็บ Mac4Ever ที่รายงานข่าวลือเกี่ยวกับ iMac ก่อนใครนั้นกลายเป็นเว็บข่าวลือที่แม่นยำที่สุด โดยในคราวนี้นั้นเว็บ Mac4Ever ได้กล่าวถึงข่าวด้านซอฟต์แวร์ของแอปเปิลว่าคราวนี้ชุดโปรแกรม iLife และ iWork จะรันบน 64-bit และสามารถใช้ได้เฉพาะกับเครื่องอินเทลแมคเท่านั้น
หากแอปเปิลเลือกที่ออกชุด iLife และ iWork ทุก ๆ 18 เดือนเหมือนที่เคยทำมาตลอด เราอาจจะได้เห็น iLife และ iWork ในช่วงกลางปีหน้า โดยใช้ชื่อว่า iLife '11 หรือ iWork '11
มีรายงานว่าผู้สั่งซื้อ iMac รุ่นใหม่ที่ใช้ซีพียู Core i7 จำนวนมาก รายงานว่าเมื่อได้รับเครื่องทางไปรษณีย์ กลับไม่สามารถเปิดเครื่องให้ทำงานได้ เท่าที่ผมนับๆ ดูใน Macrumors Forum มีเกือบสิบราย ทั้งกลุ่มบูตไม่ขึ้นตั้งแต่ต้น และกลุ่มที่บูตขึ้นครั้งแรกครั้งเดียว จากนั้นค้างและบูตไม่ขึ้นอีกเลย ทางทีมของ Engadget ก็เจอปัญหานี้ โดย iMac หนึ่งในสองเครื่องที่สั่งซื้อมาบูตไม่ขึ้นเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีรายงานปัญหาจอภาพแตกที่มุมซ้ายล่างอีกด้วย เท่าที่ผู้ใช้ในเว็บบอร์ดรายงาน แอปเปิลยินดีเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้ เพียงแต่ต้องรอกันอีกนานหน่อย
เราคงได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมของการตรวจโปรแกรมที่จะถูกนำไปวางขายบน App Store รวมถึงถูกใช้บน iPhone ของแอปเปิลได้เป็นระยะๆ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ทาง BusinessWeek ได้มีการสัมภาษณ์ Phil Schiller เกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยมีประเด็นสาระสำคัญดังต่อไปนี้ครับ
จากที่ Verizon ได้พยายามโจมตี AT&T แบบตรงๆ และเครื่องไอโฟนของแอปเปิลแบบอ้อมๆ ผ่านโฆษณาชุดใหญ่เมื่อไม่นานมานี้ ล่าสุดทั้งทางแอปเปิลและ AT&T ได้มีโฆษณาชุดใหม่เพื่อตอบโต้เพิ่มเติม
ชุดแรกเป็นของโฆษณาไอโฟนของแอปเปิล โดยมีเนื้อหาหลักๆ เป็นการแสดงถึงคุณสมบัติในการใช้อินเทอร์เน็ตในระหว่างการคุยโทรศัพท์ ซึ่งเป็นคุณสมบัติของ 3G ทางฝั่ง GSM ที่ CDMA ทำไม่ได้ (AT&T ทำได้ แต่ Verizon ทำไม่ได้) โดยมีคำเปรยทิ้งท้ายโฆษณาว่า "โทรศัพท์และเครือข่ายของคุณทำได้ไหม?" (Can your phone and your network do that?) ซึ่งนี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่แอปเปิลออกโฆษณาที่มีการโจมตีเครือข่ายอื่นๆ ด้วย จากที่แต่เดิมจะเน้นแต่ตัวคุณสมบัติของไอโฟนอย่างเดียว
Ars Technica รายงานว่ามีข่าวลือตามบล็อกต่าง ๆ ว่าแอปเปิลเริ่มการพัฒนาระบบปฏิบัติการตัวต่อไป Mac OS X 10.7 ตั้งแต่วันประกาศเปิดตัว Mac OS X 10.6 หรือ Snow Leopard แล้ว นั่นหมายความว่าแอปเปิลได้พัฒนา Mac OS X 10.7 ก่อนที่ Snow Leopard จะออกมาเป็นเบต้าเสียอีก
โดย MacRumors ได้พบบักที่มีการกล่าวถึงตัวเลข Build Number ของ Mac OS X รุ่น 11A47 โดยปกติแล้วตัวเลขเหล่านี้นอกจากที่จะบอกว่าเป็น Build ที่ใหม่แค่ไหนแล้ว แต่ยังบอกตัวเลขรุ่นของระบบปฏิบัติการอีกด้วย เช่น Mac OS X 10.6 มี Build Number 10A432 และ 10.6.2 มี Build Number 10B504 โดยตัวเลขชุดแรกของ Build Number ก็คือเวอร์ชั่นหลัก เพราะฉะนั้น Build Number 11Axx จะต้องเป็น Mac OS X 10.7 ตามตรรกะนี้
ส่วนแบ่งตลาดของไอโฟนพุ่งปรี๊ดทันทีเมื่อสัญญาในการขายไอโฟนแต่เพียงผู้เดียวของเครือข่ายในสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสหมดลง โดยตัวเลขจาก Bernstein อ้างว่าส่วนแบ่งตลาดยอดขายของแอปเปิลในวงการมือถือเพิ่มขึ้นจาก 21% มาเป็น 32% ภายในไตรมาสเดียว
โดยยอดขายส่วนใหญ่ที่เพิ่มขึ้นมาของแอปเปิลนั้นกระทบกับยอดขายของ RIM โดยตรง โดยภายในไตรมาสที่สามปีนี้ปีเดียวแอปเปิลสามารถขายไอโฟนในฝรั่งเศสได้มากถึง 600,000 เครื่อง
น่าสนใจเหมือนกันหากไอโฟนจะขายบนเครือข่ายใหญ่ ๆ อย่าง Verizon ในสหรัฐ ยอดขายจะเพ่ิมขึ้นขนาดไหน
ที่มา - Engadget
มีเรื่องราวแปลกๆ เกิดขึ้น เมื่อมีลูกค้าแอปเปิล 2 รายที่ซื้อเครื่องแมคพร้อมกับประกัน AppleCare แต่ถูกปฏิเสธการรับประกัน เนื่องจากเครื่องคอมพิวเตอร์ถูกปนเปื้อนด้วย "ควันบุหรี่"
ลูกค้าทั้งสองรายต่างอยู่กันคนละพื้นที่ และไม่ได้ใช้บริการจากศูนย์แอปเปิลที่เดียวกัน แต่ได้รับการปฏิเสธจากทางแอปเปิลที่จะบริการซ่อมเครื่องให้ในกรณีใดๆ แม้ว่าจะจ่ายเงินก็ตาม โดยทางแอปเปิลได้อ้างว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ส่งซ่อมมีการปนเปื้อนของน้ำมันทาร์ที่มาจากบุหรี่ ซึ่งอยู่ในรายชื่อสารอันตรายของ OSHA (Occupational Safety and Health Administration) ดังนั้นแอปเปิลจึงไม่สามารถให้พนักงานของตนทำงานกับสารอันตรายเหล่านี้ได้
เรื่องราวก็มีอยู่ว่า บริษัท The Little App Factory ได้รับการติดต่อจากบริษัททนายของแอปเปิล เกี่ยวกับชื่อของซอฟต์แวร์ iPodRip ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับดึงเพลงจาก iPod หรือ iPhone เซฟมาไว้บนเครื่องคอมพิวเตอร์ เนื่องจากว่ามีการละเมิดเครื่องหมายการค้าของแอปเปิล หรือนั่นก็คือ "iPod"
แน่นอนว่าทางบริษัทผู้พัฒนาในตอนแรกก็พยายามเจรจากับบริษัททนายตัวแทนของแอปเปิล เพื่อหาข้อยุตินี้โดยไม่ต้องเปลี่ยนชื่อซึ่งสื่อถึงคุณสมบัติของซอฟต์แวร์ แต่ก็ไม่เป็นผล จึงตัดสินใจเขียนอีเมลยาวยืดหาจ็อบส์ โดยหวังว่าจะช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้ (ดูได้ในที่มา)
บริษัท Psystar เป็นบริษัทที่ผลิตเครื่องแมคโคลนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากแอปเปิล ก่อนหน้านี้แอปเปิลเคยฟ้อง Psystar ในข้อหาละเมิด EULA ของ Mac OS X ซึ่ง Psystar แก้เกมด้วยการฟ้องกลับ แต่แอปเปิลก็ยื่นฟ้อง Psystar อีกคดีด้วยข้อหาผิดกฎหมาย DMCA (กฎหมายลิขสิทธิ์ของสหรัฐ) เพราะละเมิดลิขสิทธิ์ของ Mac OS X
หลังจากมหากาพย์ Google Voice ข่าวความขัดแย้งใน App Store ดูจะเบาๆ ลงไปหน่อยแต่ยังไม่หมดซะทีเดียว รอบล่าสุดเป็นคิวของบริษัท Rogue Amoeba ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์บนแมคที่มีชื่อในด้านโปรแกรมเกี่ยวกับเสียง
จากข่าว Google ซื้อ AdMob และ Gizmo5 มีรายงานจาก "คนที่เกี่ยวข้อง" ว่าสองสามสัปดาห์ก่อนที่ข่าวกูเกิลซื้อกิจการจะถูกประกาศออกมา บริษัทแอปเปิลได้เข้ามาเจรจาขอซื้อ AdMob เช่นกัน (ซึ่งเราก็รู้กันแล้วว่าไม่สำเร็จ)
ทาง AdMob ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นกับข่าวนี้ ส่วนนักวิเคราะห์มองว่าการชิง AdMob ระหว่างแอปเปิลกับกูเกิลนั้นแสดง "ความเป็นคู่แข่ง" ของทั้งสองบริษัทในอุตสาหกรรมมือถืออย่างชัดเจน หลังจากกูเกิลได้ AdMob ไปทำให้เป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดโฆษณาบนมือถือ มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 30-40%
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ทางช่อง CNBC ได้มีการนำเสนอรายการ Warren Buffett and Bill Gates: Keeping America Great โดยเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้ถามคำถามกับหนึ่งในสองคนที่เรียกได้ว่า "รวยที่สุดในโลก" โดยมีคำถามหนึ่งที่น่าสนใจที่มีผู้ชมถามเกตส์ว่า คิดอย่างไรกับการทำงานของจ็อบส์ในฐานะ CEO ของแอปเปิลบ้าง
ในวันนี้ Video Electronics Standard Association (VESA) ได้ประกาศให้ Mini DisplayPort ของแอปเปิลเป็นหนึ่งในมาตรฐานการเชื่อมต่อจอภาพอย่างเป็นทางการของ VESA โดยในมาตรฐานได้กำหนดให้อุปกรณ์ทุกชิ้นที่จะใช้ Mini DisplayPort ต้องตรงตามข้อกำหนดมาตรฐาน DisplayPort 1.1a และ Mini DisplayPort จะถูกรวมบรรจุเข้าในมาตรฐาน DisplayPort เวอร์ชัน 1.2 อย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้
DisplayPort เป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อจอภาพของทาง VESA ที่ร่วมมือกับผู้ผลิตหลายๆ เจ้าโดยมีคู่แข่งที่เทียบเคียงกันได้ในบางแง่มุมคือ HDMI โดยสามารถรองรับการส่งข้อมูลได้สูงสุดถึง 21.6GB/s ซึ่งอาจสามารถขยายการใช้งานไปถึงการแสดงผลรูปแบบอื่นๆ รวมถึงข้อมูลเสียงได้ในอนาคต
ในที่สุด เวิร์มตัวแรกบนแพลตฟอร์ม iPhone OS ก็ได้เผยโฉมโดยแฮกเกอร์นามว่า ikex ได้สร้างเวิร์มที่จะเปลี่ยนภาพพื้นหลังของเครื่องเป็น Rick Astley ดาราเพลงป๊อปในยุค 1980 ผู้เป็นเจ้าของเพลง "Never Gonna Give You Up" ซึ่งเวิร์มตัวนี้ก็มีข้อความติดมาด้วยว่า "ikee is never gonna give you up." โดยที่เวิร์มตัวนี้จะแพร่กระจายเฉพาะใน iPhone ที่ jailbreak แล้วเท่านั้น
เวิร์มขี้เล่นตัวนี้ถูกพัฒนาขึ้นโดยอาศัยช่องโหว่ที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่ไม่เปลี่ยนพาสเวิร์ดของ root เครื่องตัวเองหลังจาก jailbreak แล้ว จึงทำให้ไวรัสสามารถส่งไฟล์คำสั่งมาทำงานผ่าน SSH ได้ ซึ่งช่องโหว่นี้จะไม่มีใน iPhone ปกติที่ไม่ได้ทำการ jailbreak เพราะจะไม่มีการเปิด SSH แต่แรกอยู่แล้ว
ข่าวลือครั้งนี้มีต้นตอมาจากแหล่งข่าวในไต้หวัน โดยมีข่าวว่าแอปเปิลนั้นได้ทำสัญญาว่าจ้างบริษัท Pegatron ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Asus ให้ผลิต iPhone ตัวใหม่ที่สนับสนุนทั้งระบบ CDMA2000 และ UMTS 3G โดยอาศัยชิปตัวใหม่จาก Qualcomm ในการทำงาน
นอกจากนี้แหล่งข่าวยังกล่าวว่า iPhone ตัวใหม่จะมีหน้าจอเล็กเพียง 2.8 นิ้ว (ของเดิม 3.5 นิ้ว) อีกด้วย โดยคาดว่าอาจจะออกในไตรมาสที่สามของปีหน้าครับ
ที่มา: AppleInsider
John Carmack แห่ง id Software ผู้สร้างเกม Doom ที่แสนโด่งดังและแสนคลาสสิกได้ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Kotaku ว่าการทำงานกับแอปเปิลเปรียบเสมือนการนั่งรถไฟเหาะ และเหล่าผู้บริหารแอปเปิลไม่ได้ยินดีกับการให้ iPhone OS เป็นแพลตฟอร์มสำหรับเกม
เนื่องในโอกาสใกล้ขึ้นทศวรรษใหม่ (2010s) ในวันที่ 1 มกราคมนี้ นิตยสาร Fortune ได้มอบตำแหน่ง "CEO แห่งทศวรรษ" (CEO of the decade) ให้กับสตีฟ จ็อบส์ CEO ของแอปเปิล
เรื่องราวของสตีฟ จ็อบส์ คงไม่ต้องเล่าซ้ำ เหตุผลที่ Fortune ยกตำแหน่งนี้ให้กับจ็อบส์เป็นเพราะเขาสามารถมีอิทธิพลอย่างสูงใน 4 อุตสาหกรรม ได้แก่ คอมพิวเตอร์ ดนตรี ภาพยนตร์ และมือถือ ซึ่งไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน แถมทุกอุตสาหกรรมที่จ็อบส์บุกเข้าไปยังเป็นตลาดที่มีการแข่งขันกันสูงอยู่แล้วด้วย