ไมโครซอฟท์ออกแคมเปญโฆษณาใหม่สำหรับ Bing โดยคราวนี้มุ่งโจมตีบริการค้นหาสินค้า Google Shopping โดยเฉพาะ ซึ่งไมโครซอฟท์อธิบายว่าแทนที่กูเกิลจะให้น้ำหนักผลการค้นหาในหน้า Google Shopping โดยเน้นความสัมพันธ์ของคำค้นเหมือนระบบเสิร์ชในหน้าอื่น แต่หน้า Shopping กลับให้น้ำหนักผลลัพธ์ที่จ่ายเงินค่าโฆษณาสูงกว่าเป็นหลัก ถึงแม้กูเกิลจะเขียนอธิบายว่าการจ่ายค่าโฆษณาเป็นปัจจัยหนึ่งในการคำนวณเท่านั้น แต่ไมโครซอฟท์บอกว่าเอาเข้าจริงผลลัพธ์ที่แสดงขึ้นมาล้วนจ่ายค่าโฆษณาทั้งสิ้น ทำให้ Google Shopping ไม่ควรเรียกตัวเองว่าเป็นเสิร์ชแต่เป็นหน้ารวมโฆษณามากกว่า

หลังจากที่ Bing ได้ปรับโฉมเมื่อหลายปีก่อนด้วยการแสดงภาพพื้นหลังที่แสนจะงดงาม (ในสายตาผม) จนหลาย ๆ คนต้องตามดูเกือบทุกวัน ไมโครซอฟท์เองก็ทราบถึงจุดแข็งนี้จึงได้เพิ่มปุ่ม Like สำหรับเฟซบุ๊กและโปรแกรม Bing Desktop สำหรับเปลี่ยนพื้นหลังเดสก์ทอปให้เป็นภาพเดียวกับหน้าเว็บทุกวันอัตโนมัติ และล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ก็มีปุ่มขยายเพื่อกำจัดสารพัดรูปและตัวหนังสือไม่จำเป็นที่คอยบดบังภาพพื้นหลังออกจากหน้าจอด้วย

อีก 1 แอพพลิเคชั่นที่ขาดไม่ได้เลยบน Windows Phone 8 และเป็นคำสั่งหลักที่ผู้ผลิตต้องใส่มาด้วย นั่นก็คือ Bing ครับ โดย Bing เวอร์ชันปัดฝุ่นใหม่บน Windows Phone 8 นั้น จะมีความสามารถที่เพิ่มขึ้นจากเวอร์ชัน Windows Phone 7.x อย่างมากเลยทีเดียว โดยรายละเอียดของฟีเจอร์ใหม่ๆ บน Bing for Windows Phone 8 สรุปมาได้ก็ประมาณนี้ครับ

ถ้ายังจำกันได้ เมื่อไม่นานมานี้ ไมโครซอฟท์ออกแคมเปญ Blind Test ระบบค้นเว็บชื่อ Bing It On ให้ผู้ใช้ทดสอบ Bing กับ Google Search โดยไม่รู้ว่าเป็นยี่ห้ออะไร

ตอนนี้แคมเปญจบเรียบร้อย ไมโครซอฟท์บอกว่ามีผู้เข้าชมเว็บ Bing It On กว่า 5 ล้านครั้ง และผลออกมาว่าผู้ทดสอบเลือก Bing มากกว่า Google Search ด้วยสัดส่วน 2:1

นอกจากการทดสอบผ่านหน้าเว็บแล้ว Bing ยังจ้างบริษัทวิจัยภายนอกสำรวจความเห็นของผู้ใช้ โดย 64% ของผู้ตอบแบบสอบถามประหลาดใจกับคุณภาพของ Bing และ 33% ของคนที่ตอบว่า Google Search ดีกว่าบอกว่าจะลองกลับไปใช้ Bing ดูบ้าง

ไมโครซอฟท์ประกาศลงทุนใน Klout บริษัทที่คำนวณอิทธิพลของผู้ใช้สื่อออนไลน์ โดยไม่เปิดเผยมูลค่าว่าลงทุนเป็นจำนวนเงินเท่าไร

นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังเซ็นสัญญากับ Klout นำคะแนนอิทธิพลหรือ Klout Score และหัวข้อที่ผู้ใช้เครือข่ายสังคมคนนั้นๆ เชี่ยวชาญ (ที่คำนวณโดย Klout อีกเช่นกัน) ไปแสดงในแถบ People Who Know ของ Bing ด้วย (Bing ช่วงหลังรุกตลาดสังคมออนไลน์ โดยจับมือกับ Twitter/Facebook, Foursquare นำข้อมูลพวกนี้มาแสดงในผลการค้นหา)

ท่ามกลางกระแสข่าวปัญหา Apple Maps vs Google Maps เราก็เห็นโปรแกรมแผนที่ยี่ห้ออื่นๆ ออกมาฉวยโอกาสทำตลาดกันมากมาย (โดยเฉพาะ Nokia Maps) แต่โปรแกรมรายหนึ่งที่ทุกคนลืมมันไปเลยคือ Bing Maps ของไมโครซอฟท์

ไมโครซอฟท์เลยต้องเร่งประชาสัมพันธ์ Bing บนไอโฟนให้มากขึ้น โดยตัว Bing App for iPhone เป็นแอพตัวเดียวครอบจักรวาลของ Bing ทำได้ทั้งแผนที่ สภาพจราจร สถานที่-ร้านค้า ข้อมูลภาพยนตร์ ค้นหาข้อมูล ภาพ วิดีโอ และ Bing Vision ช่วยสแกน QR code รวมถึงค้นหาด้วยรูปภาพได้ด้วย

ดังนั้นใครที่ใช้ iOS 6 ก็ฝาก Bing App ไว้ในใจอีกสักตัวนะครับ

สัญญาณเล็กๆ ที่เป็นข่าวดีของ Bing และไมโครซอฟท์ครับ สถิติส่วนแบ่งตลาดค้นหาในสหรัฐอเมริกา ประจำเดือนกรกฎาคม 2012 โดยบริษัท Compete ระบุว่า Bing กินส่วนแบ่งตลาดของกูเกิลมาได้อีก 0.2 จุด (percentage point) เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน

ส่วนแบ่งตลาดล่าสุดคือ

• Google 65.1%
• AOL (ใช้เอนจิน Google) 0.9%
• Bing 18.9%
• Yahoo! (ใช้เอนจิน Bing) 15.1%

ถ้าดูแนวโน้มระยะยาวแล้ว Bing มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ (แม้ว่าจะเพิ่มแบบช้าๆ ก็ตาม) โดย 1 ปีก่อนหน้านี้ กูเกิลมีส่วนแบ่งตลาด 68% ส่วน Bing มี 13.9%

เมื่อครั้งที่ไมโครซอฟท์เสนอซื้อยาฮู สื่อทั่วโลกก็ประดิษฐ์ชื่อเรียกการเสนอซื้อกิจการรอบนั้นด้วยชื่อของทั้งสองบริษัทมารวมกัน เช่น MicroHoo (หรือแบบอื่นๆ แล้วแต่จะคิดกันออก)

ถึงแม้ไมโครซอฟท์จะซื้อยาฮูไม่สำเร็จ แต่ผลการเจรจาก็ยังลงเอยด้วยข้อตกลงด้านระบบการค้นหาระหว่างยาฮูและไมโครซอฟท์ โดยยาฮูจะนำเอนจินดัชนีเว็บจาก Bing มาใช้แทน แลกกับผลประโยชน์อื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง จากนั้นเรื่องก็เงียบหายไป

ล่าสุดทั้งสองบริษัทออกมาประกาศความร่วมมือใหม่ในชื่อว่า Yahoo! Bing Network ซึ่งอธิบายง่ายๆ ว่าเป็นการขายโฆษณาบนผลการค้นหาร่วมกัน ลูกค้าที่ซื้อโฆษณาบน Yahoo! Bing Network สามารถเลือกลงได้บน Bing หรือ Yahoo! Search ได้ภายในระบบเดียว

Google ซึ่งขึ้นชื่อในด้าน Search Engine มานาน แต่รายรอง ๆ อย่าง Bing ก็ไม่ยอมแพ้ ซึ่งตอนนี้ Amazon ได้ใช้ Bing เป็น Search Engine หลักใน Kindle Fire HD แล้ว ซึ่งนี่เป็นการเรียกลูกค้าเข้ามายัง Bing ได้มากขึ้นนั่นเอง

และแน่นอนว่า Google และ Yahoo! ก็ยังคงเป็นออฟชั่นเสริมที่สามารถเลือกเปลี่ยนทีหลังได้

ที่มา: Gizmodo

เก็บตกประเด็นที่น่าสนใจในงานเปิดตัว Kindle Fire HD ที่ยังไม่ได้ลงเป็นข่าวใน Blognone ครับ

ไมโครซอฟท์ออกแคมเปญโฆษณาตัวใหม่ของ Bing ชื่อว่า Bing It On โดยอ้างงานวิจัยจากบริษัทอิสระชื่อ Answers Research ที่บอกว่าผู้บริโภคพอใจผลการค้นหาจาก Bing มากกว่ากูเกิลด้วยอัตรา 2:1 ถ้าทดสอบกันแบบ blind test ที่ไม่บอกว่ามาจากค่ายไหน

ไมโครซอฟท์เลยทำหน้าเว็บ Bing It On ขึ้นมา เว็บนี้มีกล่องค้นหาอันเดียว เมื่อกรอกคีย์เวิร์ดแล้วเราจะได้ผลลัพธ์แบบแบ่งหน้าจอโดยไม่ระบุว่ามาจากที่ไหน (แต่เอาจริงๆ ก็พอดูออกนะครับ) แล้วให้เราเลือกว่าชอบผลการค้นหาจากฝั่งไหนกันแน่ 5 รอบ ก่อนจะเฉลยว่าจริงๆ แล้วเราเลือก Bing หรือกูเกิล

ความสัมพันธ์ระหว่างไมโครซอฟท์กับเฟซบุ๊กนับวันจะยิ่งแน่นแฟ้นขึ้นเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้เพิ่งแสดงผลภาพจากเฟซบุ๊กในแถบด้านข้างของ Bing (ต้องล็อกอินก่อน) ตอนนี้ประกาศเพิ่มฟีเจอร์สำหรับค้นหารูปภาพเพิ่มอีกแล้ว

ฟีเจอร์ใหม่ที่ Bing ประกาศมาชื่อว่า Friend's Photo ที่สามารถค้นหารูปภาพจากอัลบั้มของตัวเอง และเพื่อนในเฟซบุ๊กได้ โดยใช้ได้ทั้งค้นหาด้วยคีย์เวิร์ด (ลองภาษาไทยแล้วไม่เวิร์ค) หรือค้นหาด้วยชื่อเพื่อนของเรา รวมถึงสามารถปรับดูภาพทั้งหมด และเลือกปรับตามเวลา หรือชนิดของการโพสต์ภาพก็ได้เช่นกัน

เข้าไปลองกันได้ที่ www.bing.com/friendsphotos ครับ

สตีฟ บัลเมอร์ ซีอีโอของไมโครซอฟท์จ้าง Mark Penn ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การเมืองชื่อดัง เขาเคยเป็นที่ปรึกษาของอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน และล่าสุดเพิ่งผ่านงานที่ปรึกษาด้านการเลือกตั้งให้กับฮิลลารี คลินตันด้วย (ซึ่งแพ้ให้กับโอบามาในการชิงชัยภายในพรรค)

Penn บอกว่านอกจากเรื่องการเมืองแล้ว เทคโนโลยีเป็นเรื่องที่เขาสนใจมากถึงขนาดว่าในอดีตเขาเคยสร้างคอมพิวเตอร์ด้วยตัวเองจากชุดพัฒนาฮาร์ดแวร์ สำหรับงานของเขาที่ไมโครซอฟท์จะเป็นการวางยุทธศาสตร์ในภาพรวม และผลิตภัณฑ์ตัวแรกที่เขาอยากเน้นคือ Bing ที่ยังมีศักยภาพซ่อนอยู่อีกมาก

ฟีเจอร์นี้คนไทยอาจยังไม่ได้ใช้แต่ก็รู้ไว้ใช่ว่านะครับ เมื่อเดือนพฤษภาคม Bing ประกาศปรับโฉมครั้งใหญ่ โดยเพิ่มแถบ sidebar ด้านขวาสุดของหน้าจอผลการค้นหา เพื่อแสดงข้อมูลจากเครือข่ายสังคมต่างๆ บอกว่าเพื่อนๆ ของเราแชร์ลิงก์เกี่ยวกับคีย์เวิร์ดที่ค้นหรือไม่ (ออกมาแข่งกับ Search Plus Your World ของกูเกิล) รายละเอียดอ่านกันเองในข่าวเก่า

ก่อนหน้านี้แถบโซเชียลของ Bing ยังรองรับเฉพาะข้อมูลจาก Facebook และ Twitter เท่านั้น ล่าสุดไมโครซอฟท์ประกาศจับมือกับ Foursquare เพื่อเป็นเครือข่ายสังคมรายที่สาม

ให้หลังหนึ่งเดือนตั้งแต่ Bing Maps เพิ่มข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมขนาด 165TB วันนี้ไมโครซอฟท์ประกาศเพิ่มภาพถ่ายมุมสูง (Bird's Eye) เข้าใน Bing Maps อีกขนาด 215TB ภาพส่วนใหญ่อยู่ในประเทศสหรัฐฯ และสถานที่สำคัญของยุโรป ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ รวมถึงโตเกียว กินพื้นที่ถึง 230,004 ตารางกิโลเมตร

จากการเพิ่มข้อมูลครั้งนี้ทำให้ภาพถ่ายมุมสูงของ Bing Maps เพิ่มขึ้นเป็น 1,388,593 ตารางกิโลเมตร และมีขนาดรวมกันมากถึง 302TB

สถานที่สำคัญของแต่ละประเทศได้แก่ โตเกียวดิสนีย์แลนด์ รัฐสภาในเมืองสต็อกโฮล์มของสวีเดน ผมลองเข้าไปดูพบว่าความละเอียดสูงพอตัว (ลองกดลิงก์นี้) หรือจะดูได้จากภาพตัวอย่างในที่มาได้เลยครับ

ไมโครซอฟท์เปิดตัวกองทุน Bing Fund เพื่อสนับสนุนบริษัทไอทีหน้าใหม่ที่พัฒนาซอฟต์แวร์ออนไลน์หรือบนอุปกรณ์พกพา โดย

ในเบื้องต้น Bing Fund ยังเปิดรับเฉพาะบริษัทหน้าใหม่ในสหรัฐ โดยบริษัทที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการจะได้สิทธิ์ดังนี้

ไมโครซอฟท์ประกาศเพิ่มข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมให้กับ Bing Maps ครั้งใหญ่ที่สุด โดยใส่เข้ามาทีเดียวถึง 165TB ครอบคลุมพื้นที่ทุกทวีปในโลก คิดเป็นพื้นที่ 38 ล้านตารางกิโลเมตร

คล้อยหลังยาฮูปรับปรุงระบบค้นหารูปภาพเพียงวันเดียว ฝั่งของ Bing ก็ประกาศปรับปรุง Image Search ของตัวเองบ้าง

ของใหม่ที่เห็นได้ชัดเจนคือการแสดง thumbnail ภาพที่ขนาดใหญ่ขึ้นและลดสัดส่วนของขอบขาวรอบๆ รูปภาพลง (ตามสมัยนิยม) ซูมรูปภาพได้เพียงแค่เอาเมาส์ไปวาง และมีตัวช่วยค้นหาอย่าง search suggestion, related topics และ trending image search มาให้ด้วย

คำว่า "ศัตรูของศัตรูคือมิตร" อาจใช้ได้กับข่าวนี้ เพราะบริการรีวิวสถานที่ Yelp ซึ่งเคยมีเรื่องก

ถึงแม้ Windows Server 2012 จะยังไม่ออกตัวจริง (ล่าสุดคือรุ่น Release Candidate) แต่ล่าสุดก็ได้ลูกค้ารายใหญ่แล้ว ซึ่งไม่ใช่ใครอื่นไกลแต่เป็นทีม Bing ของไมโครซอฟท์นั่นเอง

ไมโครซอฟท์ประกาศว่าเซิร์ฟเวอร์นับพันที่รัน Bing.com เปลี่ยนมาใช้ Windows Server 2012 RC แล้ว เหตุผลสำคัญที่เปลี่ยนคือประสิทธิภาพที่ดีกว่า Windows Server 2008 อย่างมาก

ฟีเจอร์ที่ทีม Bing พบว่าใช้ประโยชน์ได้จาก Windows Server 2012 มี 4 อย่าง (ส่วนมากเกี่ยวกับ .NET เพราะโค้ดทั้งหมดของ Bing เป็น managed code) ได้แก่

ช่วงหลังๆ เราเริ่มเห็นบริการ "หาคำตอบ" ให้ผู้ใช้แทนการค้นหาเว็บเพจกันเยอะขึ้น ตัวอย่างที่ชัดๆ คือ Siri ของแอปเปิลที่ดึงข้อมูลจาก Wolfram Alpha หรือล่าสุดคือ Knowledge Graph ของกูเกิล

ฝั่งไมโครซอฟท์เองก็ไม่ยอมน้อยหน้า ล่าสุดประกาศความร่วมมือกับสารานุกรมระดับโลก Britannica Online Encyclopedia ดึงข้อมูลคุณภาพ (รวมถึงภาพของสิ่งที่ค้นหา) จาก Britannica มาแสดงให้หน้าผลลัพธ์ของ Bing แล้ว

นอกจาก Britannica ที่เป็นความร่วมมือระหว่างสองบริษัท Bing ยังดึงข้อมูลจากฐานข้อมูลเสรีอื่นๆ เช่น Wikipedia, Freebase, Qwiki อีกด้วย

หลังจากที่ Bing เพิ่งปรับหน้าค้นหาไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ก็ถึงคิวของการปรับหน้าแรก Bing แล้ว โดยปล่อยให้ผู้ใช้เฉพาะในสหรัฐฯ เท่านั้น ส่วนการเปลี่ยนแปลงมีดังนี้ครับ

• ปรับให้ช่องพิมพ์คำค้นหาเยื้องไปอยู่ด้านซ้ายมือ (จากเดิมอยูตรงกลาง)
• แถบด้านล่างจะมีสี่คอลัมน์ ลักษณะแบบ tiles ที่ใช้ใน Windows Phone แสดงผลคีย์เวิร์ดที่ได้รับความนิยม ประวัติการค้นหา ภาพที่ถูกค้นหาบ่อย และวิดีโอ
• แถบด้านบนสีดำสามารถล็อกอินกับ Windows Live และ Facebook เพื่อเพิ่มผลการค้นหาได้

หน้าตา Bing ใหม่ดูได้ท้ายข่าว ใครที่อยากใช้ให้ปรับประเทศเป็น USA ครับ

ถ้ายังพอจำกันได้ ส่วนหนึ่งใน

หลังจากที่ช่วงหลังเงียบๆ ไปพักใหญ่ วันนี้ไมโครซอฟท์ประกาศยกเครื่องอินเทอร์เฟซระบบค้นหาของบริษัทอย่าง Bing ใหม่ยกชุด แบ่งเป็นสามคอลัมน์ที่เน้นการแสดงผลครบถ้วนในหน้าเดียว โดยมีสามคอร์หลักได้แก่

สองบริการของไมโครซอฟท์อย่าง Bing และ Skype จับมือกันทำแคมเปญโปรโมตทูลบาร์ Bing Bar ที่สามารถแสดงผลข่าว เฟซบุ๊ก และอีเมล์ได้ (รองรับ GMail และ Yahoo! Mail ด้วย) ผู้ที่เข้าร่วมโครงการจะได้เครดิตจาก Bing จำนวน 100 แต้ม ไปแลกเครดิตของ Skype เพื่อใช้บริการที่ไม่ฟรีเช่นการโทรหามือถือ หรือโทรศัพท์บ้าน ส่งข้อความหาโทรศัพท์ เป็นต้น

แคมเปญนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Bing Rewards ที่ผู้ใช้จะได้แต้มสะสมจากการค้นหาด้วย Bing เพื่อนำไปแลกของรางวัลได้ แน่นอนว่าจำกัดอยู่ในสหรัฐฯ เท่านั้น