ไมโครซอฟท์ได้อัพเดต Bing บนมือถือ (m.bing.com) ใน 31 ประเทศที่เปิดให้ใช้ มีผลตั้งแต่ 30 ต.ค. ตามเวลาสหรัฐฯ นอกจากนั้นยังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ดังนี้

• National Football League (NFL) (เฉพาะสหรัฐฯ) สามารถค้นหาเกมการแข่งขัน สถิติ และผลคะแนน นอกจากนั้นยังสามารถติดตามผลแบบเรียลไทม์กรณีมีการแข่งขันดังกล่าวอยู่

• Flight status ค้นหาเวลาเข้าหรือออกของเที่ยวบินที่อัพเดตล่าสุด รวมถึงประตูและเทอร์มินัลของเที่ยวบินดังกล่าว

ความนิยมของทวิตเตอร์นั้นสร้างแหล่งข้อมูลที่เป็นตัวอักษรจำนวนมาก ทำให้ผู้ให้บริการค้นหาล้วนพยายามติดต่อทวิตเตอร์เพื่อได้รับช่องทางพิเศษทั้งสิ้น ล่าสุด Qi Lu (ผู้อยู่เบื้องหลัง Bing) ก็ได้ขึ้นเวที Web 2.0 Submit เพื่อประกาศว่าไมโครซอฟท์ได้บรรลุข้อตกลงกับทางทวิตเตอร์แล้ว

ข้อความที่เกิดขึ้นบนทวิตเตอร์นั้นมีประมาณ 40 ล้านข้อความต่อวันและกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

อย่างไรก็ตามการประกาศครั้งนี้ไม่ได้เป็นการเปิดตัวความสามารถใหม่ใดๆ ของ Bing โดยคาดว่าต้องรอไปนับเดือนกว่าจะได้เห็นความสามารถที่เกี่ยวกับทวิตเตอร์จริงๆ

กูเกิล และเฟชบุ๊กก็กำลังทำข้อตกลงในรูปแบบเดียวกันกับทวิตเตอร์อยู่

ช่วงนี้มีข่าว Windows Mobile 6.5 ในนาม Windows Phone, บัญชี Hotmail นับหมื่นถูกโพสต์บนอินเทอร์เน็ต, เปิดตัว Microsoft Security Essentials หรือข่าวที่เกี่ยวข้องกับไมโครซอฟท์อื่นๆ มากลบกระแส Bing ไปเลย มาตามดูกันดีกว่ายอดผู้ใช้ Bing ไปถึงไหนแล้ว...

ตอน Bing เปิดตัวใหม่ๆ คนเข้าเพิ่มขึ้นเยอะมากเพราะอยากลองของใหม่ แต่หลังจากเวลาผ่านไป 1 เดือนแรรก ส่วนแบ่งตลาดค้นหาของไมโครซอฟท์ (เฉพาะในสหรัฐ) เพิ่มจาก 6.2% มาเป็น 6.5% เท่านั้น (ข่าวเก่า)

แต่พอเวลาผ่านมาอีกสักพัก ความพยายามของไมโครซอฟท์เริ่มเห็นผล เพราะเดือนสิงหาคม 2009 ไมโครซอฟท์มีส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐ 10.7% แล้ว ถ้านับอัตราเติบโตเทียบกับเดือนก่อนหน้า Bing โตถึง 22.1%

ส่วนแบ่งตลาดที่ Bing ได้มา ส่วนใหญ่มาจากยาฮู ซึ่งในระยะเวลาเท่ากันคนเข้าน้อยลง 4.2% ตอนนี้มีส่วนแบ่งตลาดที่ 16%

ส่วนแชมป์อย่างกูเกิลยังมีส่วนแบ่งที่ 64.6% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า ถ้ามองจำนวนผู้ค้นหาข้อมูลทั้งหมดของสหรัฐ โตขึ้น 2.9%

ดูเหมือนสงครามของเว็บภาษาจะค่อนข้างเงียบในช่วงนี้ แต่สำหรับคนไทยน่าจะดีใจสักเล็กน้อยว่าภาษาไทยก็มีการให้ความสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะจากไมโครซอฟท์

Bing Translator ได้เพิ่มการสนับสนุนการแปล "ภาษาไทย" เมื่อไม่นานมานี้ ส่งผลให้ Bing รองรับถึง 20 ภาษาแล้ว ในขณะที่กูเกิลมีถึง 51 ภาษา (รวมถึงภาษาไทยที่มีได้สักพัก) ในขณะที่ยาฮูนั้นรองรับเพียง 13 ภาษาไม่เปลี่ยนแปลง

แต่ Ars Technica ได้เน้นว่า ไม่ใช่แค่ดูว่าแต่ละผู้ให้บริการจะรองรับกี่ภาษา แต่จะต้องดูถึง "คุณภาพ" ด้วย

ที่มา: Ars Technica

ไมโครซอฟท์ได้ปล่อยอัพเดตให้กับ Bing "decision engine" แล้ว โดยฟีเจอร์แรกที่เปิดตัวคือ Visual Search (เบต้า) ส่วนฟีเจอร์อื่นนั้นจะเปิดตัวหลังจากนี้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง

Visual Search เป็นฟีเจอร์ที่ให้ผู้ที่ค้นหาข้อมูลสามารถค้นหาโดยการ "คลิก" แทนการ "พิมพ์" ต้องการซิลเวอร์ไลท์ 3.0 และสามารถใช้ได้กับหน้า Bing ประเทศสหรัฐฯ เท่านั้น (ถ้าหากเข้าถึงไม่ได้ก็ไปเปลี่ยนเป็น "สหรัฐอเมริกา - อังกฤษ" หรือ "United States - English" ก่อน)

ข่าวลือนี้เริ่มขึ้นหลังจากมีการทวีตผ่าน Twitter ว่าไมโครซอฟท์จะปล่อย Bing 2.0 ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ (ดูการทวีตได้ที่นี่) โดยมีคนบางคนถึงกับอ้างว่า ไมโครซอฟท์จะเริ่มปล่อยอัพเดต Bing ในช่วงสัปดาห์ของวันที่ 14 ก.ย. ที่จะถึงนี้

สำหรับฟีเจอร์ใหม่ยังไม่เป็นที่ชัดเจน แต่จากการทวีต เราน่าจะได้เห็น แผนที่ที่สามารถแสดงภาพถ่ายได้ รวมถึงใช้ซิลเวอร์ไลท์กับการแสดงแผนที่

หลังจาก ZDNet ถามทางไมโครซอฟท์ไป โฆษกก็ออกมายืนยันแล้วว่าเตรียมเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในช่วงไม่กี่เดือนนับจากนี้ แต่ยังไม่ได้บอกวันอย่างเป็นทางการ

ทีมพัฒนา Bing เตรียมทดสอบฟีเจอร์ใหม่ Bing & Ping กับผู้ที่เป็นแฟนบนหน้า Bing ของ Facebook (คลิกที่นี่เพื่อ Become a fan)

Bing & Ping ทำให้ผู้ใช้สามารถแบ่งปันผลลัพธ์การค้นหาผ่าน Facebook, Twitter, และอีเมลได้ นอกจากนั้นยังมีปุ่ม Copy เพื่อให้ผู้ใช้แบ่งปันผลัพธ์กับบริการอื่นได้ด้วย หน้าตาเป็นอย่างไรดูรูปได้จากข้างล่าง

อัพเดต ตอนนี้ลิงก์สมัคร Bing & Ping ได้ถูกส่งออกไปยังผู้ที่เป็นแฟน Bing บน Facebook แล้ว หากใครยังไม่ได้ก็ในช่วงสองถึงสามวันนี้

A link to sign up for the Bing & Ping preview has been sent out to all those that signed up to become fans of Bing on Facebook.

มีข่าวลือว่า ไมโครซอฟท์ได้บรรลุข้อตกลงกับ Wolfram Research ผู้พัฒนา Wolfram Alpha ในการใช้ผลลัพธ์การคำนวณโดยการประมวลผลบางอย่างจากทาง Wolfram Alpha ไปแสดงบน Bing ได้

โดยทั้งสองได้ปฏิเสธที่จะให้ความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับข่าวดังกล่าว

นอกจากนั้นคุณ Stephen Wolfram ผู้ก่อตั้งยังกล่าวในบล็อกส่วนตัวของเขาว่าปัญหาทางด้านภาษาศาสตร์ทำให้ Wolfram Alpha ไม่เข้าใจคำค้นที่ส่งเข้ามา จึงไม่สามารถส่งผลลัพธ์กลับไปได้ แต่ทางทีมพัฒนากำลังการปรับปรุงอยู่ คงต้องใช้เวลาซักพักหนึ่ง

เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้ปล่อย Bing SDK สำหรับระบบปฏิบัติการแมคอินทอชและไอโฟนผ่าน CodePlex ภายใต้ MS-PL (Microsoft Public License) โดยนักพัฒนาสามารถ:

• ส่งคิวรีไปยัง Bing ได้โดยไม่ต้องผ่าน Cocoa หรือ Cocoa Touch (Cocoa เป็น APIs ของบริษัทแอปเปิล)
• รองรับการส่งคิวรีแบบอะซิงโครนัสและซิงโครนัส
• รองรับฟีเจอร์การค้นหาเว็บ รูปภาพ วีดีโอ ข่าว และสมุดบันทึกรายชื่อ

หากใครสนใจสามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่ CodePlex

หลังจากมีข่าวออกมานานตั้งแต่ต้นปีที่แล้วและไม่สามารถตกลงกันได้เสียที วันนี้ไมโครซอฟท์ก็เผยแล้วว่าทำข้อตกลงกับยาฮูสำเร็จครับ

ข้อตกลงในคราวนี้นั้นสรุปได้ง่ายๆ ว่าไมโครซอฟท์จะดูแลระบบค้นหาของยาฮู (โดยใช้ Bing เป็นเทคโนโลยีเบื้องหลังในการค้นหา) ในขณะที่ยาฮูนั้นจะดูแลในส่วนของโฆษณาต่างๆ แทน โดยข้อตกลงนั้นมีกำหนดระยะเวลาทั้งหมด 10 ปี ในส่วนของการเปลี่ยนแปลงนั้นจะค่อยเป็นค่อยไปในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้าสำหรับระบบค้นหาและ 12 เดือนข้างหน้าสำหรับส่วนของโฆษณา

นอกจากไมโครซอฟท์จะฉลองงานใหญ่ กับการเสร็จสิ้นกระบวนการพัฒนาวินโดวส์ 7 และวินโดวส์เซิร์ฟเวอร์ 2008 R2 แล้ว (ดูข่าวเก่า) ก็ยังมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์สำหรับนักพัฒนาอีก 3 ตัวและนักออกแบบอีก 1 ตัวดังนี้

• Bing# คือ API ที่สร้างขึ้นมาครอบตัว Bing API 2.x XML requests อีกทีหนึ่ง โดยจะคอยติดต่อ Bing API ให้ นักพัฒนาไม่จำเป็นต้องมาจัดการ XML, JSON หรือ SOAP เอง

• Gestalt คือไลบรารี่ที่พัฒนาขึ้นนักพัฒนาสามารถใช้ไพธอนและรูบี้นอกเหนือจากจาวาสคริปต์ในการเขียน HTML หรือ XHTML บน PCs หรือ Macs

ต่อจากข่าว Bing มีทราฟฟิกมากกว่า Digg, Twitter และ CNN ตอนนี้ถึงคิว Bing เปิดเผยสถิติของตัวเองแล้วว่าผ่านวันครบรอบ 1 เดือน Bing เป็นยังไงบ้าง

Bing บอกว่าจำนวน UIP รวมของตัวเองโตขึ้น 8% เมื่อเทียบกับ Live Search และจากโพลของ Bing เอง จำนวนที่ผู้ใช้ Bing บอกว่าจะ "บอกต่อ" ให้เพื่อนของตัวเองเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า (ไม่มีตัวเลขบอกว่าเท่าไร)

แม้ว่า Bing จะไม่สามารถโค่นกูเกิลลงได้ในชั่วข้ามคืน แต่ด้วยเวลาเพียง 1 เดือน Bing ก็เริ่มจากศูนย์จนมีทราฟฟิกโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และตอนนี้กลายเป็นเว็บที่มีคนเข้ามากเป็นอันดับ 13 จากการวัดของ Compete.com แล้ว (เป็นสถิติเฉพาะในสหรัฐ)

ตัวเลข UIP รวมของเดือนแรกที่เปิดตัวอยู่ที่ 49.57 ล้าน ซึ่งมากกว่า Digg (38.96 ล้าน), Twitter (23 ล้าน), CNN (28.54 ล้าน) และใกล้แซง Craigslist (53 ล้าน) รวมถึง Microsoft เอง (55 ล้าน)

อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์อื่นๆ ของไมโครซอฟท์ยังอยู่ในอันดับสูงกว่านี้ คือ MSN (114 ล้าน) และ Live.com (79.4 ล้าน) เหตุที่ Live.com ยังแรงอยู่ก็เพราะบริการอื่นๆ ในตระกูล Live โดยเฉพาะ Windows Live Hotmail ยังใช้โดเมน live.com อยู่นั่นเอง

เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ได้เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ที่อาคารศูนย์ข้อมูล Fisher Plaza ในเมืองซีแอตเทิล ประเทศสหรัฐฯ ทำให้รบกวนการจ่ายพลังงานเข้าเซิร์ฟเวอร์หลายบริษัทด้วยกัน รวมถึงเซิร์ฟเวอร์ของไมโครซอฟท์ที่ให้บริการ Bing Travel ต้องหยุดชะงักลงจนถึงวันนี้ (4 ก.ค. ตามเวลาสหรัฐฯ) โดยในขณะนี้ (เวลาที่ประกาศข่าวใน Blognone) เว็บไซต์ Bing Travel ได้แสดงข้อความว่า:

"A fire occurred at Fisher Plaza in downtown Seattle just after midnight on Friday morning. The blown transformer knocked out power to the entire building, which is home to the Bing Travel servers. We're hard at work to restore service following this unexpected event."

สำหรับระบบไฟในอาคารศูนย์ข้อมูลดังกล่าวได้รับการแก้ไขแล้ว ตามการประกาศในเว็บไซต์ของบริษัท AdHost ผู้ที่ดูแลศูนย์ข้อมูลดังกล่าว

คุณ Tom Krazit ซึ่งจะเน้นทำข่าวเกี่ยวด้านการค้นหาข้อมูล การโฆษณาออนไลน์ของสำนักข่าว C|Net ได้ออกมาให้ความเห็นว่าไมโครซอฟท์ควรปรับปรุง Bing ให้รองรับในกรณีที่มีขาวแพร่กระจายบนอินเทอร์เน็ต ดังเช่นข่าวของคุณไมเคิล แจ็คสัน ที่เสียชีวิตไปเมื่อไม่นานมานี้ โดยคุณ Tom ได้ระบุไว้ตอนต้นว่า "ข่าวใหญ่ที่สุดของปีข่าวหนึ่งไม่ได้รับความสนใจจากไมโครซอฟท์"

One of the biggest news stories in years caught Microsoft's Bing a little off guard.

โดยหลังจากข่าวการเสียชีวิตได้แพร่กระจายออกไป กูเกิลถือเป็นรายแรกที่ถูกกระหน่ำด้วยด้วยการค้นหาข่าวดังกล่าวอย่างฉับพลัน สำหรับสถิติการค้นหาที่ตีพิมพ์โดยไมโครซอฟท์ก็ยืนยันเหตุการณ์นี้ดวยเช่นกัน (ดูรูปข้างล่าง) แต่สถิติดังกล่าวได้แสดงให้เห็นว่าฟีเจอร์ Bing News ควรได้รับการปรับปรุงให้สามารถนำเสนอผลลัพธ์ที่ตรงประเด็นและเกี่ยวเนื่องกันมากกว่านี้ในช่วงฟีคที่จะมีการร้องขอการค้นหาข่าว

สำหรับ Bing นั้นได้มีฟีเจอร์ที่เรียกว่า "news go big" โดยที่มันจะสามารถแสดงผลข้อมูลที่เกี่ยวเนื่องกับข่าวในช่วงที่ข่าวนั่นแพร่กระจายไปอย่างรุนแรงได้อย่างรวดเร็ว (เช่นในกรณีของการเสียชีวิตของคุณไมเคิล แจ็คสัน) โดยทั่วไปแล้ว รูปภาพจะเป็นสิ่งแรกที่ Bing สนใจ แต่ผลลัพธ์ของฟีเจอร์ดังกล่าวสามารถถูกปรับลดให้น้อยลงได้หากในช่วงเวลาที่การแพร่กระจายของข่าวดังกล่าวสร้าง "กิจกรรมที่ไม่เป็นปกติ" (ในข่าวใช้คำว่า unusual activity) ขึ้นมา

ไมโครซอฟท์เริ่มจริงจังกับ Twitter มากขึ้น เดิมทีแต่ละทีมภายในไมโครซอฟท์จะมีบัญชี Twitter ของตัวเอง และทำงานไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ว่าตอนนี้ไมโครซอฟท์ได้ตั้งทีมประชาสัมพันธ์องค์กร ซึ่งมีพนักงานเต็มเวลา 4 คน ดูแลบัญชี @microsoft แล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังไม่อัพเดตอะไรกันมาก แต่ก็คาดว่าไมโครซอฟท์จะเริ่มอัพเดตอย่างต่อเนื่องในเร็วๆ นี้

นับถึงวันนี้ Bing ได้กลายเป็นกระแสใหม่มาแรงชนิดที่ยาฮู! หรือกูเกิลยังต้องหันมามอง เนื่องจากยอดผู้ใช้งานที่เพึ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (ถึงแม้จะห่างไกลจากคู่แข่งทั้งสองก็ตาม) แต่ทว่าไมโครซอฟท์คงไม่หยุดอยู่เพียงให้ Bing เป็นเครื่องมือค้นหาผ่านคอมพิวเตอร์เท่านั้น ดูเหมือนในตอนนี้ทีมพัฒนากำลังพัฒนาให้ Bing สามารถเข้าถึงผ่านอุปกรณ์พกพา เช่น โทรศัพท์มือถือได้สะดวก และให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับ Bing บนคอมพิวเตอร์อีกด้วย

หลังจากช่วงแรกของการเปิดตัว Bing ไปนั่นฟีเจอร์ SafeSearch ยังทำงานได้ไม่สมบูรณ์ (ดูรีวิวฟีเจอร์ดังกล่าวได้ที่ รีวิว Bing เสิร์ชเอนจิ้นใหม่จากไมโครซอฟท์) โดยเฉพาะการค้นหาวีดีโอที่ยังแสดงวีดีโอที่ไม่เหมาะสมในผลลัพธ์ของการค้นหา (จนทำให้ Norton ออกมาบอกว่าให้บล็อกการเข้าถึง Bing ไปก่อน (ดูข่าวเก่า)) เมื่อวานนี้ (15 มิ.ย.) ผู้จัดการทั่วไปของ Bing ได้เปิดเผยผ่าน Bing Blog ว่าได้เปลี่ยนการแสดงเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ (โดยได้ข่าวได้นิย

Eric Schmidt ซีอีโอของกูเกิล ให้สัมภาษณ์กับ Fox Business Network ถล่ม Bing เป็นชุด คัดมาเฉพาะอันเด็ดๆ

"It’s not the first entry for Microsoft. They do this about once a year."

แปล (นี่ไม่ใช่ความพยายามครั้งแรกของไมโครซอฟท์ พวกเขาออก search engine ใหม่ทุกปี (หมายถึง MSN กับ Live Search)

“We think search is about comprehensiveness, freshness, scale and size for what we do. It’s difficult for them to copy that.”

แปล (เราคิดว่าหัวใจสำคัญของ search คือต้องเพียบพร้อม, สดใหม่, รองรับผู้ใช้ที่ขยายตัวได้ ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เราทำได้และประสบความสำเร็จ ไมโครซอฟท์อยากทำแบบเดียวกันแต่มันไม่ง่ายหรอก)

มาแรงทีเดียว หลังจากเปิดให้บริการเพียง 1 สัปดาห์ สำหรับน้องใหม่ Search Engine อย่าง Bing ของ Microsoft ตามรายงานของ "StatCounter Global Status" Bing สามารถมีส่วนแบ่งตลาดนำหน้า Yahoo ขึ้นเป็นอันดับสองได้ในสัปดาห์แรกหลังเปิดให้บริการทั้งตลาดสหรัฐอเมริกา และทั่วโลก โดยตัวเลขส่วนแบ่งตลาดที่ "StatCounter Global Status" รายงาน เป็นดังนี้ ตลาดสหรัฐอเมริกา Bing(16.28%) Yahoo(10.22)โดยผู้นำ Google มี (71.47%)มาดูตลาดรวมทั่วโลกกันบ้าง Bing(5.62%) Yahoo(5.62%)และผู้นำ Google มี (87.62%) ลองคิดดูเล่นว่าหาก Bing ของ Microsoft ยังแรงต่อไปเรื่อยๆ ยังไม่ต้องมองไปถึงอันดับหนึ่งอย่าง Google เลยต้องติดตามกันว่า Yahoo จะรับรู้และตั้งรับหรือตอบโต้ได้มาน้อยเพียงซักสนุกขึ้นมาอีกแล้วสิสงคราม Search Engine รอบใหม

ในขณะที่ไมโครซอฟท์เริ่มปล่อยโฆษณา Bing (ดูข่าวเก่า โดยคุณ pawinpawin) บริษัท Symantec ผู้เป็นเจ้าผลงานบริการตัวกรองและติดตามการใช้งานอินเตอร์เน็ตอย่าง OnlineFamily.Norton ได้ประกาศออกมาว่า Bing นั่นก็ไม่สามารถบล็อกการเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมได้ (ลองดูเทคโนโลยี Safe Search ของ Bing ได้ที่ รีวิว Bing เสิร์ชเอนจิ้นใหม่จากไมโครซอฟท์ โดยผมเอง) โดยได้แนะนำให้ผู้ปกครองใช้ OnlineFamily.Norton บล็อกการเข้าถึงเว็บไซต์ Bing ในช่วงเวลานี้ไปก่อน!

หลังจาก Bing ได้เปิดทดลองมาหลายวันแล้ว (ใครยังไม่รู้จักกรุณาอ่านรีวิวโดยคุณ nuntawat: รีวิว Bing เสิร์ชเอนจิ้นใหม่จากไมโครซอฟท์) วันนี้ไมโครซอฟท์ก็เริ่มปล่อยโฆษณาทางโทรทัศน์ที่มุ่งเป้าหมายในประชาสัมพันธ์เพื่อแข่งกับกูเกิล (ตามข่าวเก่า) ออกมาแล้วครับ

โดยโฆษณานี้เสนอมุมมองว่าข้อมูลที่มีอยู่บนอินเทอร์เน็ตในปัจจุบันนั้นมีอยู่มากมายเกินไป, การค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดต่างๆ นั้นทำให้สับสน, เสนอว่านับตั้งแต่นี้ต่อไป Bing จะมาช่วยในการตัดสินใจของผู้ใช้แทน และจบลงด้วยสโลแกน It's time to bing and decide. ครับ

คนแถวๆ นี้น่าจะเล่น Bing กันหมดแล้ว (ถ้ายังก็ลองซะ ไม่ธรรมดาเลยล่ะ แต่ต้องเซ็ตประเทศเป็น USA ก่อนนะครับ) ตอนนี้เรามารู้จักกับหัวเรือสำคัญผู้สร้าง Bing กันดีกว่า

Qi Lu (น่าจะอ่านว่า "ฉี ลู่" ใครแม่นภาษาจีนช่วยยืนยัน) ฟังชื่อดูก็รู้ว่าเป็นจีน ปัจจุบันอายุ 47 ขวบ อดีตเคยเป็นหัวหน้าฝ่าย search technology ให้กับยาฮู เขาเป็นลูกหม้อของยาฮูมาตั้งแต่ยุค 1998 ช่วงหลังเขาเริ่มท้อแท้กับอนาคตของบริษัทเลยวางแผนจะพับเสื่อกลับเมืองจีน ระหว่างที่กำลังลังเลอยู่นั้น เขาก็ได้รับโทรศัพท์สายหนึ่งจากผู้ชายที่ชื่อว่าสตีฟ บัลเมอร์ และเรื่องทุกอย่างก็เริ่มต้นขึ้น

มาแล้ว Bing เสิร์ชเอนจิ้นใหม่จากไมโครซอฟท์ ไม่ต้องรอถึงวันที่ 3 มิ.ย. (ข่าวเก่า) โดยเมื่อเข้าเว็บไซต์ www.live.com (รวมถึงการค้นหาผ่านทาง Search Bar บน Internet Explorer 7 ขึ้นไป และ Windows Live Toolbar) จะถูกโยนไปยังเว็บไซต์ www.bing.com โดยอัตโนมัติ

ลองดูรูปตัวอย่างที่ผมจับภาพหน้าจอมาแล้วกัน