รวมข่าว Browser ทั้งหมด มีอะไรใหม่บ้าง

Opera ออกอัพเดตเบราว์เซอร์ Opera Touch ใหม่พร้อมระบบบล็อคหน้าจอแจ้งเตือนคุกกี้บน iOS ด้วย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ Opera Touch บน Android ได้ฟีเจอร์นี้ไปแล้ว

Opera ระบุว่า ตั้งแต่เปิดตัวกฎด้านความเป็นส่วนตัวของข้อมูล GDPR ของยุโรปนั้น ทำให้เว็บไซต์เลือกแสดงหน้าจอแจ้งเตือนคุกกี้ แต่หน้าจอเหล่านี้บางทีก็น่ารำคาญไม่แพ้โฆษณา ทำให้ Opera เพิ่มตัวเลือกนี้ให้ผู้ใช้เลือกได้ว่าอยากจะให้หน้าจอเหล่านี้แสดงหรือไม่ ซึ่งหากเปิดใช้งานแล้วจะทำให้การเข้าเว็บสมูทขึ้น ผู้ใช้โฟกัสกับคอนเทนต์ได้ดีขึ้น ไม่ต้องมากดปิดหน้าจอแจ้งเตือนนี้ทุกครั้งที่เข้าเว็บไซต์

Google ได้แก้ไขการเรียกใช้งาน FileSystem API ของเว็บเมื่อใช้งานผ่าน Chrome ทำให้ตัวเว็บไม่สามารถรับรู้ได้แล้วว่าผู้ใช้อยู่ใน Incognito Mode หรือไม่

เดิม FileSystem API ที่เอาไว้สำหรับเก็บแคชของเว็บต่างๆ จะไม่สามารถใช้งานได้บน Incognito Mode ทำให้ตัวเว็บรู้ว่าผู้ใช้อยู่ใน Incognito Mode เมื่อไม่สามารถเรียกใช้ FileSystem API ได้ ล่าสุด Google ได้ปรับให้ FileSystem API สามารถเรียกใช้งานเมื่ออยู่ใน Incognito Mode แล้ว

ทั้งนี้ เดิมตัว FileSystem API จะสร้างแซนด์บ็อกซ์ขึ้นมาเพื่อเก็บไฟล์แคชบนสตอเรจในเครื่อง แต่ตอนนี้เมื่อเข้า Incognito Mode ตัว API จะสร้างแซนด์บ็อกซ์บนแรมแทน เพื่อที่เมื่อปิดเบราว์เซอร์ ไฟล์ดังกล่าวจะหายตามไปด้วย

Vivaldi เบราว์เซอร์ทางเลือกเพื่อผู้ใช้ power user ออกอัพเดตเวอร์ชัน 2.3 โดยได้เพิ่มความสามารถที่น่าสนใจอย่าง ฟีเจอร์ช่วยจัดกลุ่มแท็บที่เกี่ยวข้องกันให้อัตโนมัติ

และสำหรับท่านที่ใช้งานฟีเจอร์จับภาพสกรีนช็อต บ่อยๆ อัพเดตนี้ยังได้เพิ่มตัวเลือกให้สามารถตั้งแพทเทิร์นให้กับชื่อไฟล์สกรีนช็อตที่ Vivaldi บันทึกได้อีกด้วย

Opera Desktop เปิดตัวดีไซน์โฉมใหม่ (อีกแล้ว) ในชื่อโค้ดเนมว่า R3 หรือ Reborn 3 โดยจะเริ่มใช้จริงใน Opera 59 (เวอร์ชันล่าสุดตอนนี้คือ 58)

แนวคิดทางการออกแบบของ Reborn 3 คือเว็บเบราว์เซอร์จะเป็นเหมือน "กรอบรูป" (frame) ที่ไม่แย่งความสนใจจากเนื้อหา แนวทางการออกแบบจะดูมินิมัลกว่าของเดิม ลดเส้นแบ่งเส้นคั่นต่างๆ ที่ไม่จำเป็นออกไป

Samsung Internet เว็บเบราว์เซอร์ของซัมซุงบนแพลตฟอร์ม Android ที่ตอนแรกมีให้ใช้เฉพาะบนอุปกรณ์ของซัมซุง แต่ในปี 2017 ก็เปิดให้อุปกรณ์ทุกยี่ห้อดาวน์โหลดได้จาก Play Store ล่าสุดมีผู้ใช้เกิน 1,000 ล้านอุปกรณ์แล้ว

ตัวเลขนี้ถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับเบราว์เซอร์อื่นๆ บน Play Store เช่น Opera และ Firefox ที่มียอดผู้ใช้งาน 100+ ล้านอุปกรณ์ หรือถ้าเทียบกับเบราว์เซอร์ยอดฮิตอย่าง UC Browser (ปัจจุบันเป็นของ Alibaba) ที่มีฐานผู้ใช้หลักอยู่ในอินเดีย ก็มีตัวเลขที่ 500+ ล้าน

จุดยืนในการดีไซน์ UI ของแอป Google ในช่วงหลังคือซัพพอร์ท Dark Mode หรือ Dark Theme ล่าสุดเป็นคิวของ Chrome แล้วโดยมีรายงานว่า Google กำลังทดสอบโหมดนี้อยู่บนทั้ง 3 แพลตฟอร์มคือวินโดวส์, แมคและแอนดรอยด์

ในส่วนของวินโดวส์และแมคนั้น ธีมของ Chrome จะปรับไปตามโหมดที่ผู้ใช้เลือกทั้งบนวินโดวส์และแมค โดยเวอร์ชันที่ทดสอบคือ Chrome 74 บน Canary และธีมสีมืดของ Chrome จะไม่ได้ส่งผลต่อหน้าเว็บ แต่จะเป็นแค่สีของอินเทอร์เฟสบน Chrome เท่านั้น

ขณะที่เวอร์ชันบนมือถือที่กำลังทดสอบคือ Chrome 73 Beta​ โดยจะทำงานก็ต่อเมื่อ Night Mode (ใน Dev Mode) บน Android Pie ถูกตั้งเป็น Always On ทว่าการแสดงผลสีดำตอนนี้มีเฉพาะหน้าป๊อปอัพเท่านั้น แต่ก็คาดว่าเวอร์ชันจริงจะครอบคลุมอินเทอร์เฟสทั้งหมดเช่นกัน

เมื่อประมาณปลายเดือนที่แล้ว Opera Touch เว็บเบราว์เซอร์จากค่าย Opera ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้งานบนอุปกรณ์พกพาโดยเฉพาะ ได้ออกอัพเดตใหม่ให้กับแพลตฟอร์ม iOS เพื่อเพิ่ม private mode ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าชมเว็บไซต์โดยไม่ทิ้งร่องรอยและประวัติเหลือไว้บนตัวเบราว์เซอร์

สำหรับวิธีการใช้งานก็เพียงแค่เรียกเมนูสามจุดที่มุมบนขวาของตัวเบราว์เซอร์ จากนั้นเลือกเมนู Private Mode หรือ Leave Private Mode เพื่อเข้าใช้งานหรือเลือกออกจาก private mode

นอกจากนี้ยังได้เพิ่มการรองรับ iPad เข้ามาในเวอร์ชันนี้อีกด้วย

ท่านใดสนใจเข้าไปดาวน์โหลด Opera Touch สำหรับ iPhone ได้แล้วที่ App Store ครับ

Chris Jackson พนักงานของไมโครซอฟท์ เขียนลงบล็อกของบริษัท เชิญชวนให้องค์กรทั่วโลกเลิกใช้งาน IE กันอย่างจริงจัง

เขาเล่าจากประสบการณ์ที่พบกับลูกค้าจำนวนมาก และได้คำถามอยู่เสมอว่าจะใช้งานเว็บไซต์เดิมด้วย IE ได้อย่างไร ซึ่งเขามองว่าการเลือกใช้ IE ต่อไปเป็นทางเลือกที่ "ง่าย" แต่ก่อหนี้ทางเทคนิค (technical debt) ตามมามากมาย

เขาย้อนประวัติศาสตร์ของ IE ในอดีต และยอมรับว่าแนวทางของ IE ก็เลือกความง่ายที่ก่อหนี้ตามมาในระยะยาวเสมอ ตัวอย่างคือ IE6 ที่มีโหมดเรนเดอร์แบบ quirks ยอมแสดงผลเว็บที่เขียนมาสำหรับ IE5 ซึ่งในกรณีของ IE8 ก็ทำแบบเดียวกันกับโหมดรองรับการแสดงผลแบบ IE7

Opera ประกาศเปิดตัวฟีเจอร์ VPN สำหรับเบราว์เซอร์ Opera for Android ให้ผู้ใช้ได้ใช้งานกันฟรีและใช้งานไม่จำกัดโดยผู้ใช้ไม่ต้องติดตั้งแอพเพิ่ม โดยตอนนี้อยู่ในช่วงการทดสอบแบบเบต้า

Opera ถือเป็นเบราว์เซอร์เจ้าใหญ่รายแรกที่รวม VPN แบบฟรีและใช้งานไม่จำกัดเข้ามาใช้เบราว์เซอร์บนเดสก์ท็อป และตอนนี้ Opera ก็ได้นำมาลงบน Android แล้ว ซึ่ง VPN จะแทนที่ไอพีแอดเดรสจริงของผู้ใช้ด้วยไอพีแอดเดรสเสมือนที่จะทำให้เว็บไซต์ติดตามตำแหน่งหรือระบุตัวอุปกรณ์ของผู้ใช้ได้ยากขึ้น ซึ่งระบบ VPN ของ Opera ไม่มีการเก็บ log หรือหมายความว่า Opera ไม่มีการเก็บข้อมูลใด ๆ ที่ผ่านเซิร์ฟเวอร์ด้วย

ตอนนี้บริการ VPN ใน Opera for Android กำลังเปิดให้ทดสอบสำหรับผู้ใช้เบต้าแล้ว

ควบคู่กับการออก Firefox 65 รุ่นเสถียร ทาง Mozilla ก็ออก Firefox 66 Beta มาพร้อมกัน โดยมีฟีเจอร์สำคัญคือ "บล็อค" การเล่นเสียงอัตโนมัติมาเป็นค่าดีฟอลต์ (block autoplay)

การปรับวิธีเล่นเสียงที่มากับวิดีโอของ Firefox 66 จะช่วยแก้ปัญหาเสียงรบกวนเวลาเว็บไซต์ฝังวิดีโอเล่นอัตโนมัติ โดยครั้งแรกที่เราเข้าไปยังหน้าเพจนั้นๆ Firefox จะถามให้เรายืนยันก่อนว่า อนุญาตให้เปิดเสียงหรือไม่

ผู้ใช้ยังสามารถกำหนดค่าการเล่นเสียงอัตโนมัติได้จากหน้า Options/Preferences และเลือกเปิด-ปิดเป็นรายเว็บไซต์ได้จากหน้า Site Settings

ฟีเจอร์นี้มีผลทั้งบนเดสก์ท็อปและเวอร์ชัน Android

เปิดศึกน้ำลายอีกระลอกหลังการเปลี่ยนเอนจินของ Microsoft Edge มาเป็น Chromium ซึ่งถึงแม้ Opera และ Google จะออกมายินดี แต่ไม่ใช่กับ Mozilla ที่มองว่าไม่เป็นผลดีกับสังคมเว็บโดยรวม

ล่าสุด Kenneth Auchenberg พนักงานของไมโครซอฟท์ในแคนาดาระดับผู้จัดการที่ดูแล Visual Studio Code ทวีตความเห็นส่วนตัวในประเด็นนี้โดยระบุว่า Mozilla ควรลงมาจากหอคอยงาช้าง (มีแต่หลักการแต่ไม่สนโลกความเป็นจริง) ได้แล้ว เพราะ Chromium แทบจะครองวงการเว็บและหาก Mozilla แคร์วงการเว็บจริงๆ ก็ควรจะมาร่วมกันสนับสนุนและช่วยกันสร้างสรรค์ ไม่ใช่สร้างจักรวาลคู่ขนานขึ้นมาและมีคนใช้งานอยู่แค่ไม่ถึง 5%

Microsoft Edge บนมือถือ (iOS/Android) เพิ่มฟีเจอร์แจ้งเตือนว่าเว็บไซต์นั้นน่าเชื่อถือหรือไม่ เพื่อแก้ปัญหา Fake News

ไมโครซอฟท์ร่วมมือกับ NewsGuard สตาร์ตอัพที่ทำระบบให้คะแนนความเชื่อถือต่อเว็บไซต์ และตรวจสอบโดยทีมงานสายสื่อมวลชน โดยความร่วมมือนี้เกิดขึ้นตั้งแต่กลางปี 2018 และพัฒนาจนมาเป็นฟีเจอร์ใน Microsoft Edge เวอร์ชันมือถือ

ในการใช้งาน เราต้องเปิดใช้ฟีเจอร์นี้จาก Settings ของ Edge Mobile จากนั้นจะมีไอคอนรูปโล่ปรากฏขึ้นมาในช่อง URL (ลักษณะคล้ายกับไอคอนกุญแจของ SSL) เพื่อบอกว่าเว็บไซต์น่าเชื่อถือเพียงใด หากไอคอนเป็นสีเขียวแปลว่าเป็นเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ และผู้ใช้สามารถกดดูรายละเอียดของเว็บไซต์นั้นบน NewsGuard ได้

ปีที่แล้วเราเห็นไมโครซอฟท์ออก Always Connected PC ที่ใช้ซีพียู Snapdragon บนสถาปัตยกรรม ARM โดยชูจุดเด่นเรื่องอายุแบตเตอรี่ที่ยาวนานกว่า และเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา

แต่ข้อเสียของการใช้ Windows on ARM (ชื่อทางการค้าคือ Windows on Snapdragon) คือแอพพลิเคชันแบบดั้งเดิม จำเป็นต้องคอมไพล์ใหม่เป็น ARM ด้วย

แอพพลิเคชันตัวสำคัญคือเว็บเบราว์เซอร์ ซึ่งปัจจุบันยังมีแต่ Edge ของไมโครซอฟท์เองเท่านั้น ถึงแม้มีข่าวเรื่อง Chrome ออกมา แต่ก็ยังไม่มีของจริงเกิดขึ้นในตอนนี้ กลับเป็นค่าย Firefox ที่ออกเบราว์เซอร์เวอร์ชัน ARM ก่อน

Vivaldi เบราว์เซอร์ทางเลือกเพื่อผู้ใช้กลุ่ม power user ออกอัพเดตเวอร์ชัน 2.2 มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจอย่างเช่น ความสามารถในการจัดกรุ๊ปและบันทึกแท็บเพื่อเก็บไว้เรียกใช้งานในภายหลัง, หน้าต่างเล่นวิดีโอแบบแยกต่างหาก (Pop Out Video) และยังได้ปรับปรุง UI ในหลายส่วน

รายละเอียดของใหม่ทั้งหมดพอสรุปได้ดังนี้

จากข่าวก่อนหน้านี้ Opera เริ่มทดสอบฟีเจอร์ Crypto Wallet บนเบราว์เซอร์ Opera Android ล่าสุดฟีเจอร์นี้ถูกผนวกเข้ามาใน Opera for Android รุ่นล่าสุดแล้ว

Opera เรียกฟีเจอร์นี้ว่า Web 3 เพื่อแสดงให้เห็นว่าเงินคริปโตและบล็อคเชนเป็นอนาคตของเว็บยุคถัดไป (!) ส่วนในแง่การใช้งานจะมีเมนู Crypto Wallet เพื่อเข้ามาจากในตัวเบราว์เซอร์เลย ผู้ใช้สามารถรับเงิน โอนเงิน หรือจ่ายซื้อสินค้าเป็นเงินคริปโตตระกูลต่างๆ เช่น Ethereum ได้

Opera บอกว่า Web 3 ยังต้องผ่านอุปสรรคอีกมากกว่าจะใช้งานได้จริง จึงพยายามทำให้กระบวนการใช้งานง่ายที่สุด ราบรื่นที่สุดจากตัวเบราว์เซอร์เลย

Firefox 64 ออกแล้ว ของใหม่มีดังนี้

เว็บเบราว์เซอร์ Opera ออกอัพเดตเวอร์ชัน 57 เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่เพิ่งผ่านมา มาพร้อมกับการปรับปรุงฟีดข่าวในหน้า start page โดยได้เพิ่มระบบคัดเลือกข่าวที่ผู้ใช้น่าจะสนใจด้วย AI และยังได้เพิ่มเซสชั่นแนะนำภาพยนตร์และซีรีส์บน Netflix ให้ผู้ใช้เลือกรับชมได้จากหน้า start page โดยตรงอีกด้วย

รายละเอียดของทั้งสองฟีเจอร์พอสรุปได้ดังนี้

จากที่ไมโครซอฟท์ออกมาประกาศเปลี่ยนเอนจินใน Edge เป็น Chromium ซึ่งท่าทีของคู่แข่งในตลาดเบราว์เซอร์อย่าง Mozilla มองว่าเป็นการลดการแข่งขัน และอาจทำให้โลกกลับไปสู่ยุค Internet Explorer คราวนี้ก็มาดูท่าทีจากค่ายอื่นกันบ้าง

โดยตัวแทนของกูเกิลบอกว่า ยินดีต้อนรับไมโครซอฟท์สู่ชุมชนของผู้พัฒนา Chromium เพื่อพัฒนามาตรฐานของเว็บ และพัฒนาตัวเลือกใหม่ ๆ ส่งมอบประสบการณ์ดีที่สุดกับผู้ใช้งานต่อไป

ไมโครซอฟท์ให้รายละเอียดเพิ่มเติมของแผนการ เปลี่ยนเอนจินของ Edge มาใช้ Chromium ดังนี้

หลังจากไมโครซอฟท์ประกาศยอมแพ้ หันไปใช้ Chromium เป็นเอนจินให้ Edge วันนี้ Chris Beard ซีอีโอของ Mozilla ผู้พัฒนาไฟร์ฟอกซ์ก็ออกมาแสดงความเห็น ระบุว่าแม้จะเป็นการตัดสินใจที่เข้าใจได้ในทางธุรกิจ แต่ไม่เป็นผลดีกับสังคมรวม

เขาชี้ถึงอันตรายจากการที่ทุกคนใช้เอนจินเป็น Chromium ไปเสียหมด เมื่อส่วนแบ่งตลาดถึงจุดหนึ่ง นักพัฒนาเว็บจะพากันไม่สนใจเบราว์เซอร์อื่นอีกต่อไปนอกจาก Chromium โดยยกตัวอย่างตลาดช่วงปี 2000 ที่ไมโครซอฟท์ครองตลาดเบราว์เซอร์แทบเบ็ดเสร็จ พร้อมกับเตือนว่าสถานะการณ์แบบเดียวกันจะกลับมาอีกครั้งได้

ไมโครซอฟท์ประกาศเปลี่ยนเอนจินจาก EdgeHTML มาเป็น Chromium ภายในหนึ่งปีข้างหน้า ตรงตามข่าวลือก่อนหน้านี้ โดยระบุว่าจะทำให้เบราว์เซอร์ทำงานตรงกับเบราว์เซอร์อื่นมากขึ้น แต่ยังคงทำตลาดในชื่อ Edge เช่นเดิม และการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงภายใน

นอกจากเปลี่ยนเอนจิน ตัว Edge เองจะอัพเดตถี่ขึ้นกว่าเดิม และคาดว่าจะทำให้ไมโครซอฟท์สามารถออก Edge รุ่น macOS ได้ในอนาคต หลังจากนี้ไมโครซอฟท์จะเข้าไปร่วมกับโครงการ Chromium มากขึ้น

Apple ได้ปล่อย Safari Technology Preview 71 โดยมีฟีเจอร์หนึ่งที่สำคัญคือรองรับ WebAuthentication หรือ WebAuthn ซึ่งเป็น API สำหรับการล็อกอินด้วยกุญแจความปลอดภัยแบบ USB

WebAuthn นั้นเป็นมาตรฐานล็อกอินจาก W3C ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยสำหรับ Safari นั้นจะรองรับการล็อกอินด้วยโปรโตคอล Client to Authenticator Protocol หรือ CTAP เวอร์ชันที่ 2 ซึ่งเบราว์เซอร์หลักเจ้าอื่นอย่าง Firefox และ Chrome นั้นรองรับฟีเจอร์นี้ไปแล้ว

เว็บไซต์ Windows Central อ้างข้อมูลใกล้ชิดไมโครซอฟท์ ระบุว่าไมโครซอฟท์ยอมแพ้ในการเข็น Microsoft Edge และเอนจิน EdgeHTML แล้ว โดยเตรียมสร้างเบราว์เซอร์ตัวใหม่ที่พัฒนาต่อจาก Chromium แทน

Windows Central ให้ข้อมูลว่าโครงการนี้คือ Anaheim มันจะมาเป็นเบราว์เซอร์ตัวใหม่ของ Windows 10 แทน Edge ตัวเดิม แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นการเปลี่ยนแค่เอนจินโดยยังใช้ชื่อ Edge เหมือนเดิม หรือเปลี่ยนชื่อเป็นแบรนด์ใหม่ด้วยเลย

Windows Central วิเคราะห์ว่า Edge มีข้อจำกัดเรื่องเสถียรภาพและประสิทธิภาพ รวมถึงผู้ใช้คาดหวังว่าเว็บไซต์จะมีพฤติกรรมแบบเดียวกับที่แสดงผลบน Chrome นอกจากนี้ Edge บน Android/iOS ในปัจจุบันก็ใช้เอนจินของ Chromium อยู่แล้วด้วย

ไมโครซอฟท์พยายามผลักดัน Windows บนสถาปัตยกรรม ARM มาหลายครั้ง นับตั้งแต่ Windows RT มาจนถึง Windows on ARM ในปัจจุบัน แต่ปัญหาที่เจอมาโดยตลอดคือขาดแอพดังๆ หลายตัวที่รองรับสถาปัตยกรรม ARM ทำให้ไม่ดึงดูดให้คนมาใช้งาน

หนึ่งในแอพสำคัญที่ยังไม่รองรับ Windows on ARM คือ Chrome แต่ล่าสุด มีทีท่าว่ากูเกิลร่วมมือกับไมโครซอฟท์ในเรื่องนี้แล้ว เพราะมีการส่งโค้ดจากวิศวกรของไมโครซอฟท์เข้ามายังโครงการ Chromium ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ Windows ARM64 โดยตรง

นอกจากนี้ Qualcomm ในฐานะพาร์ทเนอร์ฮาร์ดแวร์ ARM ของไมโครซอฟท์ ก็เปิดเผยว่าส่งทีมเข้าไปช่วยพอร์ต Chrome ลง Windows 10 on ARM ด้วยเช่นกัน

หลายคนคงเคยเจอปัญหาเข้าเว็บไซต์บางแห่ง และถูกหลอกให้กรอกเบอร์มือถือ เพื่อสมัครบริการ SMS เสียเงินโดยไม่รู้ตัว แถมยังไม่สามารถพึ่งพาโอเปอเรเตอร์ให้แก้ปัญหานี้ให้เราได้มากนัก

กูเกิลจะช่วยแก้ปัญหานี้ใน Chrome เวอร์ชัน 71 โดย Chrome จะสแกนว่าหน้าเว็บนั้นๆ มีการให้ข้อมูลเรื่องค่าใช้จ่ายต่อผู้ใช้อย่างชัดเจนหรือไม่ หาก Chrome พิจารณาว่าเว็บไซต์นั้นพยายามหลอกให้ผู้ใช้เสียเงิน ก็จะบล็อคการแสดงผลเว็บนั้น ลักษณะเดียวกับเว็บไซต์ประสงค์ร้ายอื่นๆ

การแจ้งเตือนจะมีผลทั้งบนเดสก์ท็อป บนมือถือ และ Android WebView

ที่มา - Chromium Blog