Chrome OS ถูกออกแบบมาเพื่อบุกตลาดองค์กรเป็นหลัก (และประสบความสำเร็จค่อนข้างดีในตลาดการศึกษา) ตอนนี้เพิ่มความสามารถใหม่ให้กับผู้ดูแลระบบขององค์กรสามารถล็อกเครื่องจากระยะไกลได้แล้ว
ปกติแล้ว Chrome OS จะเข้ารหัสดิสก์ตลอดเวลา และล็อกด้วยรหัสผ่านผู้ใช้อยู่แล้ว หากรหัสผ่านแข็งแรงพอแม้ผู้ร้ายจะได้เครื่องไปก็เข้าถึงข้อมูลไม่ได้ แต่หากถูกล็อกจากผู้ดูแลระบบ จะทำให้เข้าใช้งานใดๆ ไม่ได้เลย แม้แต่โหมด Guest โดยหน้าจอจะขึ้นวิธีติดต่อเจ้าของเครื่องเท่านั้น
ตอนนี้ยังใช้ได้เฉพาะองค์กรที่ซื้อไลเซนส์การจัดการเครื่อง Chrome OS เอาไว้เท่านั้น เมื่อเครื่องล็อกแล้วองค์กรจะได้ไลเซนส์คืนกลับไปใช้งานในเครื่องใหม่ได้ด้วย
หน้าจอเตือนการเข้ารหัส TLS/SSL ผิดพลาดของ Chrome เปลี่ยนมาตั้งแต่ Chrome 37 โดยเปลี่ยนข้อความเป็น "Your connection is not private" หรือ "การเชื่อมต่อของคุณไม่เป็นส่วนตัว" จากเดิมที่ข้อความเตือนการเชื่อมต่อผิดพลาดมักเป็นข้อความทางเทคนิคระบุความผิดพลาด เช่น ใบรับรองเป็นแบบรับรองตัวเอง
กูเกิลออกอัพเดต Google Chrome for Android Beta ในเวอร์ชัน 41.0 โดยสิ่งที่เพิ่มเข้ามาใหม่ก็คือฟีเจอร์การลากลงเพื่อรีเฟรช (pull-to-refresh) ขณะที่หน้าการตั้งค่าในรุ่นบน Android 4.4 KitKat ได้ปรับให้มีความเป็น Material Design ให้มากขึ้น รวมถึงแก้ไขบั๊กบางจุดในแอพ
สำหรับผู้ใช้งาน Android สามารถดาวน์โหลดและทดสอบ Google Chrome for Android Beta ได้แล้วที่ Play Store ครับ
Chrome Beta for Android ออกรุ่น 41.0.2272.34 เพิ่มฟีเจอร์สำคัญคือ "ดึงเพื่อโหลดใหม่" (pull to refresh) ช่วยให้การท่องเว็บบนโทรศัพท์มือถือง่ายขึ้นกว่าเดิม ส่วนของใหม่อื่นๆ เน้นการแก้บั๊กและปรับปรุงประสิทธิภาพตามปกติ
คนที่ใช้ Chrome for Android รุ่นปกติคงต้องรอกันอีกหน่อย แต่ถ้าอยากลองของใหม่ก็สามารถดาวน์โหลดมาติดตั้งคู่กันได้
ที่มา - Google Chrome Releases via Android and Me
แนวทางที่เบราว์เซอร์ทั้งหลายเสนอกันในช่วงหลัง คือ พยายามให้การเชื่อมต่อทั้งหมดเข้ารหัสเป็นปกติ เช่น HTTP2 ที่เข้ารหัสแทบตลอดเวลาแม้จะไม่สามารถยืนยันตัวตนปลายทางได้ เป้าหมายสุดท้ายของการทำเช่นนี้คือการแจ้งเตือนเว็บที่ไม่เข้ารหัสทั้งหมดว่าเป็นเว็บไม่ปลอดภัย ตอนนี้ทาง Chrome ก็เริ่มทดสอบฟีเจอร์นี้แล้ว
ฟีเจอร์ใหม่นี้เปิดเป็น flag ที่ต้องเข้าไปกดเปิดเองชื่อว่า "Mark non-secure origins as non-secure" หลังเปิดฟีเจอร์นี้ Chrome จะถือว่าเว็บที่เข้ารหัสธรรมคาคือเว็บปกติ ไม่มีการชมเชยด้วยกุญแจสีเขียวอีกต่อไป แต่ตรงกันข้ามคือเว็บที่ไม่เข้ารหัสทั้งหมดจะถูกแจ้งเตือนไม่ปลอดภัย
จากที่ปั๊มเลขรุ่นมาตลอด ตอนนี้ Chrome ก็ได้ออกรุ่นเสถียรรุ่นที่ 40 มาแล้วครับ
ของใหม่ในรุ่นนี้ก็คงเป็น Bookmark Manager ที่หลายคนอาจจะได้สัมผัสมาแล้วจากรุ่น Beta ในข่าวเก่า นอกจากนี้การอัพเดตนี้ยังได้เพิ่มการล็อกใบรับรอง (public-key pinning) ของเว็บ Facebook เพื่อป้องกันการโจมตีแบบ MITM ด้วยการออกใบรับรองปลอมเหมือนที่มีข่าวว่ากำลังจะมีคนทำเข้ามาด้วย
นอกเหนือจากนี้ยังเป็นการอุดช่องโหว่ด้านความปลอดภัยอีกถึง 62 รายการ ซึ่งมีหลายสิบรายการที่เป็นปัญหาความปลอดภัยระดับสูงอีกด้วยครับ
เมื่อนานมาแล้ว กูเกิลเคยมีส่วนเสริมชื่อ Chrome to Mobile สำหรับส่งเว็บเพจจาก Chrome เวอร์ชันเดสก์ท็อปไปยัง Chrome บนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต
แต่เมื่อเวลาผ่านไป Chrome มีฟีเจอร์ "tab sync" สามารถซิงก์แท็บระหว่าง Chrome ทุกแพลตฟอร์มได้โดยตรง ทำให้ความจำเป็นที่จะต้องมี Chrome to Mobile เริ่มหมดไป และกูเกิลก็ประกาศหยุดสนับสนุน Chrome to Mobile (รวมถึงฟีเจอร์ Print to my Phone ที่เป็นส่วนหนึ่งของ Google Cloud Print) ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2015 นี้
ปีที่แล้วเราเห็นกูเกิลผลักดันผลิตภัณฑ์เวอร์ชันสำหรับองค์กรใต้แบรนด์ Google for Work หลายตัว เช่น Android Work และ Google Drive for Work
ดูเหมือนว่าผลิตภัณฑ์ตัวล่าสุดที่มีคำว่า Work ติดมาด้วยจะเป็น Chrome โดยกูเกิลเผลออัพโหลดแอพชื่อ Work Chrome ขึ้นมาบน Play Store แล้วลบออกไปในภายหลัง ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่า Work Chrome มีความแตกต่างจาก Chrome รุ่นปกติอย่างไร (คาดว่าน่าจะเป็น Chrome เวอร์ชันพิเศษที่ให้องค์กรติดตั้งเพื่อให้บริหารจัดการจากระยะไกลได้ง่ายขึ้น)
วันนี้ Google ออกอัพเดตแอพ Chrome บน iOS เวอร์ชัน 40.0.2214.61 โดยมีการเปลี่ยนแปลงที่แจ้งไว้ดังนี้
ที่มา - Chrome Release Blog
กูเกิลได้รับสิทธิบัตรกระบวนการปรับให้เบราว์เซอร์ทำงานในโหมดส่วนตัว หรือที่ Chrome ใช้ชื่อว่าโหมด Incognito โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องกดเลือกโหมดเองอีกต่อไป
กูเกิลระบุว่าโมดูลเลือกเปิดโหมดส่วนตัวนี้จะตัดสินใจจาก URL ที่ผู้ใช้กำลังเข้าใช้งาน, metadata บนเว็บเอง, และเนื้อหาของเว็บ
ตัวอย่างการใช้งานเช่นหากผู้ใช้เข้าเว็บที่มี metadata ระบุว่าเป็นเว็บเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ ตัวเบราว์เซอร์ก็จะเปิดเว็บในโหมดส่วนตัวให้ทันที
ข้อมูลนี้ออกมาเพราะเป็นการประกาศสิทธิบัตร ทางกูเกิลเองยังไม่ได้ระบุว่าจะนำสิทธิบัตรนี้มาใช้ในเบราว์เซอร์จริงหรือไม่
Google ออกแอพ Chrome Remote Desktop สำหรับ Android มาได้เกือบปี คราวนี้เวอร์ชัน iOS ออกตามมาแล้วครับ
รูปแบบการใช้งานก็เหมือนกันคือเราต้องติดตั้งส่วนขยาย Chrome Remote Desktop ลงบน Chrome ฝั่งพีซีก่อน จากนั้นก็ลงแอพควบคุมจากฝั่งอุปกรณ์พกพาอีกชั้นหนึ่ง (iOS, Android)
หลังจากที่ Chrome รองรับคำสั่งเสียง OK Google โดยไม่ต้องแตะเมาส์มาตั้งแต่รุ่น 35 ที่ออกเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา ตอนนี้ก็ถึงเวลาของ Chromebook บ้าง โดยในฝั่งของ Chromebook นั้นผู้ใช้สามารถพูดคำสั่ง OK Google เพื่อเริ่มการทำงานได้ตลอดเวลาที่หน้าจอติดและเครื่องถูกปลดล็อกอยู่ แต่ในตอนนี้จะสามารถใช้งานได้เฉพาะ Chrome OS Dev Channel เท่านั้น
ความลักลั่นอย่างหนึ่งในระบบความปลอดภัยเว็บคือเว็บที่เข้ารหัสอย่างไม่ถูกต้อง เช่น ใช้ใบรับรองที่ไม่น่าเชื่อถือ หรือเข้ารหัสด้วยกระบวนการที่ล้าสมัย จะถูกแจ้งเตือนว่าเป็นเว็บที่ไม่ปลอดภัย พร้อมหน้าจอเตือนผู้ใช้อย่างชัดเจน ขณะที่เว็บทั่วไปที่ไม่ได้เข้ารหัสกลับสามารถใช้งานได้โดยไม่มีการเตือนใดๆ ทั้งที่จริงมีความเสี่ยงมากกว่าคือสามารถโดนโจมตีทั้งแบบคั่นกลาง (man-in-the-middle) หรือดักฟังโดยไม่แก้ไขข้อมูลก็ได้ ตอนนี้มีข้อเสนอจากทั้งฝั่งโครมและไฟร์ฟอกซ์ ให้แจ้งเตือนเว็บไม่เข้ารหัสในระดับเดียวกับการเข้ารหัสอย่างไม่ปลอดภัย
Ilya Grigorik พนักงานของกูเกิลโพสต์ข้อมูลลง Google+ ว่าหน้าเว็บ Google Search เวอร์ชันอุปกรณ์พกพาจะทำงานเร็วขึ้นอีก 0.1-0.15 วินาที ถ้าใช้งานบน Chrome for Android
เหตุผลมาจากกูเกิลนำเทคนิคการดึงข้อมูลล่วงหน้า (prefetch) มาใช้กับหน้าผลการค้นหาของ Google Search ก่อนผู้ใช้คลิกลิงก์ไปยังเว็บปลายทาง ซึ่ง Chrome for Android จะดักข้อมูลว่าหน้าผลการค้นหาถูก unload ออกจากแท็บเมื่อไร จากนั้นจะนำข้อมูลบางส่วนจากเว็บปลายทางที่ดาวน์โหลดรอไว้แล้วมาเริ่มเรนเดอร์ทันที ผลคือการเรนเดอร์เว็บเพจปลายทางจะเร็วขึ้นอีกเล็กน้อย
ฟีเจอร์นี้สามารถใช้ได้เฉพาะ Chrome for Android เท่านั้น แต่กูเกิลสัญญาว่าจะรองรับเบราว์เซอร์อื่นๆ เมื่อเบราว์เซอร์เหล่านั้นรองรับเทคนิค prefetch ลักษณะนี้ด้วย
กูเกิลกำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตัวเองอาทิเช่นโครมและยูทูบสำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 13 ปี โดยตั้งใจจะปล่อยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในปีหน้าและมีจุดมุ่งหมายที่จะช่วยให้เด็กสามารถเป็นผู้บริโภคเทคโนโลยีอย่างบริสุทธิ์และสร้างสรรค์
ในตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่าโครมและยูทูบสำหรับเด็กนั้นจะทำงานยังไง แต่เข้าใจว่าน่าจะเลือกเฟ้นคอนเทนต์ที่้เหมาะสำหรับเด็กมาแสดงเมื่อเด็กค้นหาคำต่างๆ มากกว่าเดิม
อย่างไรก็ดีกูเกิลไม่ใช่บริษัทแรกที่คิดจะทำอะไรที่เป็นมิตรสำหรับเด็ก Apple นั้นก็มีฟีเจอร์ Family Sharing เพื่อให้บัญชีนั้นสามารถอนุญาตให้เด็กซื้อหรือดาวน์โหลดแอพที่อยู่ในความควบคุมจากผู้ปกครองเช่นเดียวกัน ซึ่งฟีเจอร์นี้อาจจะมีประโยชน์ในแง่ของการปกป้องความเป็นส่วนตัวของเด็ก
กูเกิลจัดงาน Chrome Dev Summit เมื่อช่วงกลางเดือนที่แล้ว เผยสถิติน่าสนใจคือผู้ใช้ Chrome บนอุปกรณ์พกพาทุกประเภท (Android และ iOS) แตะหลัก 400 ล้านคนแล้ว เพิ่มมาอีก 100 ล้านคนจากยอด 300 ล้านที่ประกาศในงาน Google I/O ตอนกลางปี
กูเกิลยังระบุว่า Chrome เป็นยุทธศาสตร์สำคัญของบริษัทในการผลักดันให้ "เว็บ" มีความสำคัญทัดเทียมกับแอพ ซึ่งจะใช้เยอะในกรณีเว็บขายสินค้ารายย่อยต่างๆ (คงไม่มีใครขยันโหลดแอพของแบรนด์เพื่อมาซื้อสินค้า) แนวทางของกูเกิลมีทั้งฟีเจอร์ใหม่ของ Android 5.0 Lollipop ที่เปลี่ยนให้แท็บของ Chrome มีสถานะเท่าแอพ และนโยบายอัพเดต WebView ผ่าน Play Services เพื่อให้ได้เอนจินเวอร์ชันใหม่ที่สุดเสมอ
ใครที่ใช้เว็บเบราว์เซอร์ Safari อยู่คงคุ้นเคยกับ Reader Mode หรือก็คือโหมดสำหรับนักอ่านเป็นอย่างดี ซึ่งไม่กี่เดือนก่อน Microsoft ก็เพิ่งจะเพิ่มโหมดนี้ให้แก่เว็บเบราว์เซอร์สำหรับ Windows Phone ตอนนี้ Google ก็เป็นอีกค่ายหนึ่งที่เพิ่มโหมดสำหรับนักอ่านนี้ให้แก่เว็บเบราว์เซอร์ของตนเองอย่าง Chrome แล้ว ประเดิมด้วยรุ่นสำหรับอุปกรณ์ Android
กูเกิลประกาศแผนหยุดรองรับปลั๊กอินแบบ NPAPI มาได้สักพักใหญ่ๆ โดยตอนนี้ Chrome ปิดการทำงาน NPAPI เป็นค่าดีฟอลต์ แต่ยังเปิดใช้งานแบบ whitelist สำหรับปลั๊กอินบางตัว
ล่าสุดกูเกิลออกมาเผยแผนการยกเลิกปลั๊กอิน NPAPI อย่างสมบูรณ์ ดังนี้
กูเกิลออก Chrome 39 ตัวจริงเรียบร้อย ก็ได้เวลาของ Chrome 40 ที่จะเข้าสถานะ Beta
ของใหม่ที่เพิ่มเข้ามาใน Chrome 40 คือ ระบบจัดการบุ๊กมาร์กแบบใหม่ ที่เคยออกให้ทดสอบเป็นส่วนเสริม Bookmark Manager เริ่มถูกผนวกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ Chrome แล้ว ระบบบุ๊กมาร์กแบบใหม่มีฟีเจอร์หลายอย่างทั้งการแสดงผล thumbnail สวยงามกว่าเดิม, ระบบค้นหาที่พัฒนาขึ้น และการแยกเก็บลิงก์ตามหัวข้อที่สนใจให้อัตโนมัติ
คนที่ต้องการใช้ฟีเจอร์นี้จำเป็นต้องล็อกอิน Chrome ด้วย Google Account ด้วยครับ
กูเกิลได้ปล่อยเกม A Journey through Middle-Earth ในโครงการ Chrome Experiment โดยอิงกับภาพยนตร์เรื่อง The Hobbit และ The Lord of the Rings
ผู้เล่นจะได้ท่องไปในมัชฌิมโลก ตามรอยเหตุการณ์และสถานที่ต่างๆ ที่เกิดขึ้นผ่านแผนที่ ขณะเดียวกันสามารถเข้าร่วมสงครามใหญ่ที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์ได้ด้วยเช่นกัน และที่สำคัญคือรองรับภาษาไทยด้วยครับ
หากสนใจและคิดว่าเครื่องแรงพอ เข้าไปเล่นกันได้ที่นี่ครับ
ที่มา - The Next Web
Chrome 39 เลขเวอร์ชัน 39.0.2171.65 เข้าสู่ Stable Channel แล้ว
ของใหม่ในเวอร์ชันนี้จะเป็นการรองรับ 64-bit บน Mac ซึ่งเป็นไปตามที่ Google ได้ประกาศไว้ว่า Chrome บน Mac จะมีเฉพาะรุ่น 64-bit เท่านั้น เริ่มต้นที่ Chrome 39
การมีเฉพาะรุ่น 64-bit หมายความว่า Chrome บน Mac ตั้งแต่รุ่น 39 เป็นต้นไปก็จะไม่มีเวอร์ชัน 32-bit บน Mac อีก มีผลให้ปลั๊กอินเก่าที่ใช้ NPAPI ที่คอมไพล์แบบ 32-bit ไม่สามารถใช้กับ Chrome บน Mac ได้อีก ซึ่ง Chrome บน Windows ก็จะเลิกรองรับ NPAPI ปลายปีนี้เช่นกัน
นอกนั้นก็จะเป็นการเพิ่ม API สำหรับแอพ และอุดช่องโหว่ 42 จุด
ก่อนหน้านี้เคยมีข่าว Google Stars ฟีเจอร์สำหรับจัดการบุ๊กมาร์กและบันทึกเว็บไซต์ไว้อ่านภายหลัง อย่างไรก็ตาม ข่าวของ Google Stars เงียบหายไปนาน และตอนนี้มันกลายร่างมาเป็นส่วนเสริมชื่อ Bookmark Manager บน Chrome Web Store แบบเงียบๆ
เมื่อเราติดตั้งส่วนเสริม Bookmark Manager แล้ว มันจะแทนที่ระบบบุ๊กมาร์กเดิมของ Chrome (chrome://bookmarks) โดยจะยังใช้ข้อมูลบุ๊กมาร์กเดิม แต่แสดงให้อยู่ในรูป thumbnail ของเว็บไซต์แทน (คล้ายกับ Pocket) ฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาคือระบบค้นหาที่ดีขึ้น การแชร์ให้เพื่อน และตัวช่วยจัดหมวดบุ๊กมาร์กให้อัตโนมัติ
ปัญหาช่องโหว่ POODLE ในโปรโตคอล SSLv3 ทำให้มีทางแก้เดียวคือการเปลี่ยนไปใช้ TLS 1.0 ขึ้นไปเท่านั้น ตอนนี้ทาง Chrome ก็ออกมาประกาศแล้วว่าใน Chrome 39 ที่กำลังจะออกเร็วๆ นี้จะปิดการใช้งาน SSLv3 เป็นค่าเริ่มต้น
กูเกิลให้เวลาเว็บต่างๆ ที่ยังต้องใช้เวลาปรับตัวอีกสองเวอร์ชั่น โดยใน Chrome 39 ทุกเว็บที่มีการเชื่อมต่อเป็น SSLv3 (แม้จะเป็นภาพใดภาพหนึ่งในเว็บ) ไอคอนหน้า URL จะกลายเป็นไอคอนเตือนสีเหลืองว่ามีข้อผิดพลาด ส่วนใน Chrome 40 จะไม่สามารถเข้าใช้งานได้เลย
แม้ว่า Chrome จะเป็นเว็บเบราว์เซอร์ตัวหนึ่งที่ได้รับความนิยมบนหลายแพลตฟอร์ม แต่ผู้ใช้ชาวไทยหลายคนก็เจอปัญหาเรื่องการใช้งานกับภาษาไทยที่ไม่สามารถลบพยัญชนะหรือสระได้ตามที่ต้องการ จนต้องหนีไปใช้เว็บเบราว์เซอร์ตัวอื่นเพื่อเลี่ยงความยุ่งยากดังกล่าว
แต่ล่าสุดบัญชี Twitter ของ Google Thailand ได้ทวีตข้อความระบุว่า Chrome สำหรับอุปกรณ์ Android รุ่นล่าสุดได้รับการแก้ไขปัญหานี้แล้ว โดยผู้ใช้สามารถอัพเดต Chrome เป็นรุ่นใหม่นี้ได้ทันที
ที่มา - @GoogleThailand
กูเกิลออกอัพเดตส่วนขยาย Google Translate สำหรับ Chrome เพิ่มความสามารถไฮไลท์ข้อความบนหน้าเว็บแล้วรับคำแปลได้ทันที โดยเมื่อผู้ใช้ไฮไลท์ข้อความบนหน้าเว็บ แล้วคลิกที่ไอคอนแปลภาษาที่ปรากฏขึ้นมา ก็จะมีป๊อปอัพคำแปลแสดงขึ้นมาทันที (ภาพท้ายข่าว) หรือจะเลือกแปลภาษาจากเมนูคลิกขวาก็ได้
นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มช่องสำหรับแปลข้อความเมื่อคลิกบนไอคอนแปลภาษาบนแถบส่วนขยาย ทำให้สามารถแปลข้อความใดๆ จากส่วนขยายนี้ได้ทันที ไม่ต้องเปิดเว็บ Google Translate อีกต่อไปครับ