ก่อนหน้านี้ Chrome Apps แอพแบบออฟไลน์ที่สร้างด้วย HTML5 และรันบน Chrome (ข่าวเก่า) ยังใช้ได้เฉพาะบนวินโดวส์และ Chrome OS เท่านั้น
ล่าสุดกูเกิลประกาศว่า Chrome Apps สามารถใช้งานกับ Chrome บนแมคได้แล้ว โดยเมื่อเราติดตั้ง Chrome Apps ตัวแรกก็จะเห็นไอคอนของ Chrome App Launcher โผล่ขึ้นมาใน Dock ของ Mac OS X (ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่า Chrome เวอร์ชันลินุกซ์จะได้ฟีเจอร์นี้เมื่อไร)
Chrome OS เตรียมปรับปรุงแอพกล้องถ่ายภาพ โดยเพิ่มฟีเจอร์ที่สำคัญทั้งการบันทึกวิดีโอ, การซิงก์ภาพถ่ายข้ามสู่อุปกรณ์อื่นที่ติดตั้ง Chrome ไว้เหมือนกัน และการอัพโหลดวิดีโอและภาพถ่ายจากแอพสู่ YouTube และ Google+
ข้อมูลข้างต้นทั้งหมดนี้มาจาก François Beaufort นักพัฒนาและจอมแงะโค้ดของโครงการ Chromium ที่ตอนนี้ทำงานให้แก่ Google เอง ทว่าฟีเจอร์ทั้งหมดนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันจาก Google อย่างเป็นทางการว่าจะปล่อยให้ใช้งานได้เมื่อไหร่
นอกจากนี้ยังมีภาพตัวอย่างที่เผยให้เห็นว่ามีการปรับเปลี่ยนส่วนติดต่อผู้ใช้งานของแอพกล้องถ่ายภาพใหม่ทั้งหมดด้วย โดยสามารถดูภาพดังกล่าวได้ท้ายข่าว
ข่าวนี้ต้องย้อนกันหลายชั้นหน่อยครับ เริ่มจาก โครงการ asm.js ของ Mozilla, Mozilla จับมือ Epic Games ทำเดโม Unreal Engine 3 บนเบราว์เซอร์, Chrome ประกาศรองรับ asm.js บ้าง
สำหรับข่าวนี้ ล่าสุด Chrome และเบราว์เซอร์อีกรายคือ Opera รองรับ asm.js ได้ดีขึ้นเยอะมากแล้ว (Chrome 31 และ Opera 18) สามารถรันเดโม Epic Citadel ได้แล้ว และทาง Epic เองก็ขึ้นชื่อของ Chrome/Opera เป็นเบราว์เซอร์ที่สามารถรันเดโมได้แล้ว
Chrome Beta เพิ่มฟีเจอร์สำหรับนักพัฒนาเว็บสองฟีเจอร์ใหม่เพื่ออำนวยให้นักพัฒนาสามารถพัฒนาเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้สะดวกยิ่งขึ้น ได้แก่ การจำลองหน้าจอสำหรับอุปกรณ์โมบาย และการดีบั๊กเว็บในอุปกรณ์แอนดรอยด์โดยตรง
การจำลองหน้าจอนั้นจะสามารถจำลองการใช้งานบนโทรศัพท์และแท็บเล็ตได้หลายอย่าง ทั้งการปรับความละเอียดพิกเซล, ขนาดหน้าจอ, จำลองการแตะหน้าจอ, ไปจนถึงเซ็นเซอร์ที่มีในอุปกรณ์เคลื่อนที่
สำหรับการดีบั๊กแบบรีโมต เมื่อเราต่อสาย USB เข้ากับเครื่องจะสามารถสั่งระยะไกลได้ โดยภาพที่เรนเดอร์มาแล้วจะนำมาแสดงบนหน้าจอของ Chrome เหมือนเดิม และรับอินพุตจากพีซี ความได้เปรียบของการดีบั๊กแบบนี้คือการดูประสิทธิภาพการเรนเดอร์บนอุปกรณ์จริง รวมไปถึงการดูบั๊กของเบราว์เซอร์ที่อาจจะไม่เหมือนกัน
ทีมนักพัฒนาของกูเกิลกำลังร่วมกันพัฒนาเครื่องมือที่ชื่อว่า Mobile Chrome Apps โดยพัฒนาอย่างเปิดเผยใน GitHub โดยอาศัยการพัฒนาส่วนเสริมจาก Apache Cordova
การพัฒนาโครงการนี้ค่อนข้างแปลก เพราะกูเกิลเองไม่เคยประกาศโครงการนี้ออกมาเป็นทางการ และการพัฒนาก็ใช้ GitHub แทนที่จะเป็น Google Code เหมือนโครงการอื่นๆ แต่ใน Google Group ของโครงการนี้ก็ยืนยันว่ามีนักพัฒนาจากกูเกิลร่วมอยู่ในโครงการนี้หลายคน
Chrome Apps นั้นพัฒนาด้วย HTML และ Javascript เป็นหลัก โดยอาศัย API ที่หลายครั้งจะไม่เปิดให้เว็บทั่วไปเข้าใช้
คาดว่าโครงการนี้จะเปิดตัวเป็นเบต้าภายในเดือนมกราคมนี้
กูเกิลโชว์ความสามารถนี้ไว้ตั้งแต่งาน Google I/O เมื่อกลางปี แล้วก็เปิดให้ใช้งาน Google Search ด้วยเสียงพูดบนคอมพิวเตอร์ (แต่ต้องคลิกเมาส์เพื่อกดปุ่มไมโครโฟนก่อนพูด ยังไม่สามารถสั่งงานด้วยเสียงแบบไม่ต้องกดปุ่มได้)
เมื่อไม่กี่วันมานี้ Chrome OS รุ่นสำหรับนักพัฒนาได้ฟีเจอร์สั่งงานด้วยเสียงโดยตรง และวันนี้ฟีเจอร์นี้มาถึง Chrome รุ่นปกติผ่านส่วนเสริมของโปรแกรมแล้ว
กูเกิลออก Chrome 32 Beta ทั้งบนเดสก์ท็อปและบนแอนดรอยด์ ของใหม่ที่เพิ่มเข้ามาทั้งสองเวอร์ชันคือรองรับฟอร์แมต WebP ที่เป็นภาพเคลื่อนไหวแล้ว โดยกูเกิลคุยว่าภาพเดียวกัน WebP มีขนาดเล็กกว่า animated GIF ถึง 57% แถมเหนือกว่าที่รองรับความโปร่งใสหรือ alpha channel แบบ 8 บิตด้วย (GIF รองรับเพียง 1 บิต)
การเปลี่ยนแปลงอีกอย่างใน Chrome 32 คือปิดการทำงานของปลั๊กอินแบบ NPAPI ของเดิม ตามนโยบายของ Chrome ที่เปลี่ยนมาใช้ปลั๊กอินแบบ PPAPI แทน
PNaCl หรือพินนาเคิล แพลตฟอร์มสำหรับรันไฟล์ไบนารีผ่านเว็บเบราว์เซอร์ ที่กำลังมาเป็นอาวุธสำคัญของ Chrome ที่จะรันซอฟต์แวร์แบบเนทีฟได้บนทุกแพลตฟอร์ม ตอนนี้เปิดเป็นค่าเริ่มต้นแล้วบน Chrome 31
PNaCl ตอนนี้รองรับสามสถาปัตยกรรม ได้แก่ x86, ARM, และ MIPS โดย Chrome จะติดคอมไพล์เลอร์สำหรับการคอมไพล์ไฟล์กลาง มาเป็นสถาปัตยกรรมของเครื่องที่เราใช้งานอยู่
การตัดสินใจเปิด PNaCl เป็นค่าเริ่มต้นใน Chrome 31 แสดงว่าจะมีเบราว์เซอร์จำนวนมากรองรับ PNaCl ในการอัพเดตรอบหน้าอีกประมาณสองเดือนข้างหน้า ตอนนี้กูเกิลก็เริ่มผลักดันให้นักพัฒนามาใช้งาน PNaCl กันมากขึ้น โดยเตรียมหน้าเว็บนักพัฒนา และจะมีการสัมมนานักพัฒนาในวันที่ 14 นี้
กูเกิลออก Chrome 31 Stable มีของใหม่ ดังนี้
รองรับทั้งบนวินโดวส์, แมค และลินุกซ์
เลขเวอร์ชันคือ 31.0.1650.48
ที่มา - Chrome Releases
ถ้ายังจำข่าวนี้กันได้ มาเนียน Chrome Metro บน Windows 8 ใส่อินเทอร์เฟซแบบ Chrome OS มาด้วย ล่าสุดฟีเจอร์นี้เข้ามาใน Chrome 32 Beta เรียบร้อยแล้วครับ
กูเกิลเรียกมันว่าเป็นการใส่ app launcher เข้ามาเพื่อให้เรียกใช้งาน Chrome Apps ได้ง่าย โหมดนี้จะแสดงผลเฉพาะใน Chrome Metro ที่รันบน Windows 8.x เท่านั้น
Chrome 32 Beta ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ อีกคือ บล็อคการดาวน์โหลดไฟล์ที่น่าจะเป็นมัลแวร์ และแสดงไอคอนเล็กๆ บนแท็บเพื่อบอกว่าแท็บไหนเปิดเสียง บันทึกภาพด้วยเว็บแคม หรือถูกแสดงผลบนทีวีผ่าน Chromecast อยู่ในขณะนั้น
ที่มา - Chrome Blog
ข่าวนี้ต่อจากข่าว Chrome เพิ่มตัวเลือกป้องกันไม่ให้ลงส่วนเสริมนอก Web Store ย้อนกลับไปอ่านข่าวเก่ากันก่อนนะครับ
ล่าสุดทีม Chrome ออกมาประกาศว่าจะเริ่มใช้นโยบาย "ห้ามติดตั้งส่วนเสริมนอก Web Store" ตั้งแต่เดือนมกราคม 2014 โดยจะเริ่มจาก Chrome บนวินโดวส์รุ่น stable/beta เป็นต้นไป (แปลว่าอยากลงส่วนเสริมจะต้องผ่าน Store เท่านั้น) ส่วนเหตุผลที่กูเกิลอ้างก็เป็นเรื่องความปลอดภัยจากส่วนเสริมที่ไม่ได้รับการตรวจสอบนั่นเอง
หนึ่งในฟีเจอร์สำคัญของ Android 4.4 KitKat คือการปรับแต่งระบบปฏิบัติการให้สามารถใช้งานบนสมาร์ทโฟนที่มีแรมเพียง 512MB ได้ ตอนนี้ฝั่งแอพก็เริ่มปรับแต่งให้ใช้งานได้กับสมาร์ทโฟนแรมน้อยบ้างแล้ว โดยแอพตัวแรกที่นำทีมมาคือ Chrome นั่นเอง
รายละเอียดของ Chrome 31 beta มาจาก François Beaufort ที่ปรับแต่งหน้าจัดการแท็บเบราว์เซอร์จากเดิมที่เป็นเอฟเฟกต์สามมิติอลังการแต่กินแรม ให้กลายเป็นหน้าที่เรียบง่ายกว่าเดิม กินทรัพยากรน้อยกว่าเดิม โดยทีมพัฒนาเรียกฟีเจอร์นี้ว่า Simpler tab switcher ที่นอกจากหน้าตาจะเปลี่ยนไป ไม่แสดงพรีวิวเว็บไซต์แล้ว การใช้งานอื่นๆ ยังคงเดิม สามารถปัดแท็บเพื่อปิดได้เช่นเคย
หลังจากได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์รุนแรงเรื่องความหละหลวมในการเก็บรักษารหัสผ่านเว็บไซต์และบริการต่างๆ บนตัวเว็บเบราว์เซอร์ ดูเหมือน Chrome เตรียมจะเพิ่มระบบยืนยันตัวตนของผู้ใช้เพื่อป้องกันการเข้าถึงบรรดารหัสผ่านทั้งหลายโดยง่ายแล้ว
Francois Beaufort จอมขุดคุ้ยข้อมูลเชิงลึกของโครงการ Chromium ที่ปัจจุบันเป็นพนักงานของ Google ได้เปิดเผยว่า Chromium สำหรับ Mac เวอร์ชันล่าสุดมีการสอบถามผู้ใช้ให้กรอกชื่อบัญชีและรหัสผ่านของผู้ใช้ Mac เพื่อยืนยันตัวตนก่อนเข้าสู่หน้าแสดงรายการรหัสผ่านของเว็บต่างๆ ที่ Chrome ได้เก็บบันทึกไว้ (เป็นฟีเจอร์แบบเดียวกับเว็บเบราว์เซอร์ของ Apple อย่าง Safari)
แม้ว่า Chrome จะพยายามเพิ่มฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ เช่น sandbox แต่ช่องโหว่สำคัญคือหากผู้ใช้ลงซอฟต์แวร์ภายนอกที่เข้ามาเปลี่ยนค่าต่างๆ ใน Chrome เสียเองแล้วกระบวนการป้องกันก็แทบหมดความหมาย ทางแก้ของเรื่องนี้คือทำเหมือนแท็บเล็ตและโทรศัพท์มือถือที่เราสามารถตั้งค่ากลับไปค่าเริ่มต้นของโรงงานได้ และติดตั้งทุกอย่างใหม่อีกครั้ง ตอนนี้การล้างค่าแบบเดียวกันนี้ก็มีใน Chrome แล้ว
ปุ่ม "Reset browser settings" จะอยู่ในหน้า "Advanced Settings" ให้ผู้ใช้กดปุ่มเพื่อล้างทุกอย่างเหมือนลงเบราว์เซอร์ใหม่
ต่อจากข่าว Cisco ใจดีเตรียมปล่อยโค้ด H.264 เป็น open source ทางค่าย Mozilla ที่มีปัญหากับ H.264 ด้วยเหตุผลด้านค่าสิทธิการใช้งานมายาวนาน ก็ประกาศว่า Firefox จะรองรับ OpenH.264 ของ Cisco ในเร็วๆ นี้
Mozilla อธิบายว่าปัญหาของการใช้ H.264 คือต้องจ่ายเงินค่าใช้งานสิทธิบัตรให้กับ MPEG LA แต่เมื่อ Cisco ใจป้ำยอมจ่ายเงินส่วนนี้ให้แทน (ครอบคลุมถึงใครก็ได้ที่นำ OpenH.264 ไปใช้งาน ไม่เฉพาะ Firefox) ปัญหานี้จึงหมดไป
ก่อนหน้านี้มีข่าว Chrome กำลังพัฒนาฟีเจอร์ให้มีผู้ใช้ที่ถูกควบคุม (supervised users) แต่หน้าเว็บควบคุมที่ผ่านเว็บของกูเกิลนั้นยังใช้งานไม่ได้ วันนี้กูเกิลก็เปิดฟีเจอร์นี้ออกมาแล้วในเบต้า
ฟีเจอร์ผู้ใช้แบบถูกควบคุมนี้จะใช้งานได้ทั้งใน Chromebook และ Chrome ปกติ เมื่อเปิดใช้งานแล้วผู้ดูแลจะสามารถควบคุมเว็บห้ามเข้าและการตั้งค่าค้นหาแบบปลอดภัยได้ หรือจะตั้งให้เข้าได้เฉพาะเว็บที่เปิดอนุญาตไว้เท่านั้นก็ได้เช่นกัน
ที่มา - Chrome Blog
หลังจากทีทาง Google ได้เปิดฟอรั่มให้คนเข้าไปพูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูลข่าวสารในส่วนของ Google Maps และ Gmail ตอนนี้ทาง Google ได้เปิดฟอรั่มของ Chrome ขึ้นมาอีกอันนึงแล้ว หากคนไหนสนใจมีคำถาม ความเห็น หรือข้อแนะนำ ลองเข้าไปพูดคุยในห้องที่ทาง Google จัดไว้ให้ได้เลยนะครับ
ส่งเข้าไปกันเยอะๆ ทาง Google จะได้มีข้อมูลและคำแนะนำจากคนไทย บริการต่างๆ จะได้พัฒนาได้ดีขึ้นครับ
เมื่อเดือนที่แล้ว Chrome เพิ่งยกเลิก NPAPI ออกไป แม้ว่าผลกระทบหลักคือปลั๊กอิน เช่น Flash, Google Talk, Java แต่ยังมีแอพพลิเคชั่นอื่นๆ ที่ใช้งาน API ชุดเดียวกัน เช่น โปรแกรมเก็บรหัสผ่าน ตอนนี้กูเกิลก็ออก API ชุดใหม่มาให้แอพพลิเคชั่นเหล่านี้ทำงาน ชื่อว่า Native Messaging API
การทำงานของ API ชุดนี้จะต้องให้แอพพลิเคชั่นแบบเดสก์ทอปมาลงทะเบียนด้วยไฟล์ manifest ไว้ในโฟลเดอร์ของ Chrome ล่วงหน้า จากนั้นจึงสามารถเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่นผ่านทาง stdin และ stdout ได้ โดยกระบวนการจะเลียนแบบมาจาก API สำหรับการเชื่อมต่อระหว่าง extension ที่มีอยู่ก่อนหน้านี้
Windows XP นั้นเป็นวินโดวส์ที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่ง (เป็นวินโดวส์รุ่นแรกที่ผมอัพเกรดแล้วพบว่าคอมพิวเตอร์ของผม "เร็วขึ้น") แม้ว่ามันจะวางตลาดมาตั้งแต่ปี 2001 แต่ผู้ใช้จำนวนมากก็ยังใช้งานอยู่จนทุกวันนี้ ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าไมโครซอฟท์ก็จะหยุดการอัพเดตทั้งหมดของ Windows XP ซึ่งจะทำให้บั๊กใหม่ๆ ไม่ได้รับการแก้ไขอีกต่อไป แต่ทางกูเกิลกลับออกมาประกาศว่าจะซัพพอร์ต Chrome บน Windows XP ต่อไปจนถึงเดือนเมษายน 2015 หนึ่งปีหลังไมโครซอฟท์หยุดซัพพอร์ต
บริษัทโฆษณา Chitika เผยสถิติของเว็บเบราว์เซอร์บน iOS จากข้อมูลในเครือข่ายโฆษณาของตัวเองว่าตอนนี้ Chrome มีส่วนแบ่งตลาดราว 3% แล้ว เพิ่มจาก 1.5% เมื่อหนึ่งปีก่อนขึ้นมาอีกเท่าตัว
Chitika ชี้ว่าตัวเลขเป็นเปอร์เซ็นต์อาจดูน้อย แต่ถ้าพิจารณาว่า iOS ไม่อนุญาตให้เบราว์เซอร์อื่นใดนอกจาก Safari เป็นเบราว์เซอร์ดีฟอลต์เมื่อเปิดลิงก์ ก็น่าสนใจว่าสถิติของ Chrome ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าจะโตแบบช้าๆ ก็ตาม
ที่มา - Chitika
ไม่ใช่แค่นักพัฒนาทั่วไปที่เบื่อกับการต้องมากดรีเฟรชทุกครั้งที่ปรับหน้าเว็บบนมือถือไป เพราะแม้แต่คนในกูเกิลเองก็คงเป็นเหมือนกัน ล่าสุดได้ François Beaufort อดีตนักปล่อยข่าว Chrome ที่โดนกูเกิลดึงตัวไปแล้ว ได้โชว์ฟีเจอร์ใหม่ของ Chrome Beta ที่ช่วยให้นักพัฒนาเว็บไซต์มือถือทำงานได้สบายขึ้นเยอะ
ฟีเจอร์ที่ว่านี้คือการ screencast หน้าจอของอุปกรณ์แอนดรอยด์ขึ้นไปบนจอภาพของพีซีในขนาดเท่ากับของจริง ทั้งสองหน้าจอจะแสดงผลเหมือนกันแบบเรียลไทม์ โดยหน้าจอมือถือบนพีซีจะอยู่ในฟังก์ชัน Inspect element ใหม่ ในแถบ screencast ครับ
การทำงานของฟีเจอร์นี้ทำผ่าน Chrome DevTool การจะเปิดใช้ฟีเจอร์นี้ต้องมีขั้นตอนนิดหน่อย ดูได้จากที่มาครับ
เว็บไซต์ The Verge ค้นพบว่า Chrome รุ่นสำหรับนักพัฒนาบนวินโดวส์ตัวล่าสุด เมื่อนำไปรันบน Windows 8 และเปิดโหมด Metro หน้าตามันกลับเปลี่ยนไปจาก Chrome Metro รุ่นก่อนๆ หน้านี้ แต่ไปเหมือนกับหน้าตาของ Chrome OS แทน
จุดต่างที่สำคัญคือ Chrome Metro ไม่ได้มีแค่หน้าต่างเบราว์เซอร์แบบเต็มหน้าจอ (ตามที่ไมโครซอฟท์อยากให้เป็น) แต่มันกลายเป็น shell ของระบบปฏิบัติการทั้งชุด สามารถเปิดเบราว์เซอร์ Chrome ได้หลายหน้าต่างพร้อมกัน และมีทาสก์บาร์ของตัวเองสำหรับเรียกเว็บแอพ แบบเดียวกับที่ Chrome OS มี
กูเกิลยังไม่ประกาศข่าวใดๆ เกี่ยวกับฟีเจอร์นี้ แต่ดูแนวแล้วก็คงเป็นหนึ่งในแผนการที่จะยึด Windows 8 ไปเป็น Chrome OS ครับ (ภาพเพิ่มเติมดูจากที่มา)
หลังจากออก Chrome 30 ไปไม่กี่วัน กูเกิลก็เดินหน้าต่ออย่างรวดเร็วกับ Chrome 31 Beta ทั้งเวอร์ชันเดสก์ท็อปและมือถือ
ฟีเจอร์สำคัญที่เพิ่มเข้ามาใน Chrome 31 รุ่นบนวินโดวส์, Android, Chrome OS (บนแมคยังไม่มี) คือ requestAutocomplete() (เป็นฟีเจอร์ของ HTML5) ที่จะช่วยกรอกฟอร์มบนหน้าเว็บในส่วนที่เกี่ยวกับการจ่ายเงิน (เช่น เลขบัตรเครดิต วันหมดอายุ) ให้เราเหมือนกับ auto complete ของฟอร์มตามปกติ โดยข้อมูลการจ่ายเงินจะเก็บไว้ในตัวเบราว์เซอร์เลย
กูเกิลออก Chrome 30 Stable มีของใหม่ ดังนี้
รองรับทั้งบนวินโดวส์, แมค และลินุกซ์
เลขเวอร์ชันคือ 30.0.1599.66
ที่มา - Chrome Releases, Google Chrome Blog
"ปลั๊กอิน" ของเว็บเบราว์เซอร์ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ ถูกออกแบบมาตั้งแต่สมัยของ Netscape จากนั้นเบราว์เซอร์ยุคหลังๆ ก็ใช้ API ของปลั๊กอินตามกันเพื่อความเข้ากันได้ โดย API ตัวนี้เรียกว่า Netscape Plug-in API (NPAPI)
API ของปลั๊กอินตัวนี้เก่ามากและมีข้อจำกัดหลายอย่างที่ไม่เหมาะกับเว็บยุคปัจจุบัน ทำให้เบราว์เซอร์บางตัวอย่าง Chrome เริ่มพัฒนา API แบบใหม่ที่ชื่อว่า Pepper (หรือ PPAPI) มาได้สักระยะหนึ่งแล้ว และปัจจุบัน Flash ใน Chrome ก็ใช้งาน API แบบใหม่นี้แล้ว (ข่าวเก่า)