ทุกวันนี้ถ้าใครใช้ Chrome OS แล้วทำงานกับฮาร์ดดิสก์หรือการ์ด SD ที่ฟอร์ตแมตมาแบบ ext2/3/4 จะพบว่ามันทำงานได้เป็นอย่างดี แต่ล่าสุดทีมงาน Chrome OS ก็ตัดสินใจถอดฟีเจอร์นี้ออกแล้วเพราะมันทำให้การเพิ่มฟีเจอร์อื่นๆ ช้าลง
ทีมงานยกตัวอย่างฟีเจอร์การเปลี่ยนชื่อดิสก์ (label) ที่ต้องซัพพอร์ตดิสก์หลายๆ แบบ หากถอดการรองรับ ext2/3/4 ออกไปก็จะพัฒนาได้ง่ายขึ้น
การตัดสินใจนี้ทำให้ผู้ใช้ลินุกซ์ออกมาแสดงความไม่พอใจ เพราะการทำงานร่วมกับลินุกซ์จะลำบากขึ้นอย่างมาก โดยผู้ใช้จะถูกบังคับให้ฟอร์แมตดิสก์แบบ VFAT หรือ NTFS ที่รองรับบนลินุกซ์ไม่ดีนัก
แอพ Hangouts เป็นแอพแบบ standalone ทำงานได้ทั้งบน Chrome OS และ Windows ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ง่ายและสะดวกกว่าเดิม คืออยากคุยกับใครก็คลิกรูปคนนั้นจากหน้าจอได้เลย นอกจากนี้ก็ยังมีระแบบแจ้งเตือนเวลาได้ข้อความใหม่ และข้อความสนทนาก็จะถูกซิงก์ให้ตรงกันทุกอุปกรณ์พกพา และยังสามารถโทรผ่านหน้าเดสก์ท็อปได้ด้วย
สนใจก็ดาวน์โหลดใช้งานกันได้ ที่นี่
ที่มา - The Next Web
Chrome 38 เข้า Stable Channel แล้ว โดยใช้เลขเวอร์ชันเป็น 38.0.2125.101
ของใหม่ในเวอร์ชันนี้เน้นไปที่นักพัฒนาเว็บเป็นหลัก (ข่าวเก่า) ได้แก่การรองรับแท็ก picture, รองรับฟีเจอร์บางอย่างของ ECMASrcipt 6, และปรับปรุง API สำหรับแอพและส่วนขยาย ที่เหลือเป็นการแก้บั๊กความปลอดภัยทั้งหมด 159 จุด
ถึงแม้ Chrome เวอร์ชันนี้ไม่มีอะไรใหม่สำหรับผู้ใช้ทั่วไปเลย แต่ก็อัพเกรดกันตามรอบปกติครับ
ที่มา - Google Chrome Releases
Adobe ได้นำ Creative Cloud มาสู่ Chrome OS แล้ว โดยเริ่มจาก Photoshop ภายใต้โครงการ Project Photoshop Streaming โดยผู้ใช้ที่มีไลเซนส์เพื่อการศึกษาในทวีปอเมริกาเหนือจะได้สิทธิสมัครเข้าร่วมทดลองก่อนในระยะ beta
Project Streaming Photoshop นั้นก็เหมือนกับแอพลิเคชันอื่นๆ บน Chrome OS นั่นคือมันรันจากคลาวด์ และจะเป็นเวอร์ชันใหม่ล่าสุดเสมอ ทั้งนี้ผู้ใช้สามารถเปิดและเซฟไฟล์ลงไปใน Google Drive ได้โดยตรงโดยไม่ต้องดาวน์โหลดและอัพโหลดไฟล์ด้วยตัวเอง
Project Streaming Photoshop นั้นจะประกอบไปด้วย
เมื่อปีก่อน Chrome ได้เพิ่มฟีเจอร์แสดงสัญลักษณ์รูปลำโพง เพื่อบอกว่าแท็บของหน้าเว็บไหนที่กำลังเล่นคลิปวิดีโอหรือไฟล์เสียงอยู่ ซึ่งก็ช่วยให้ผู้ใช้ควานหาได้ทันทีว่าในตอนที่เปิดเว็บขึ้นมาหลายแท็บนั้น มีเสียงจากแท็บไหนเข้ามารบกวนบ้าง มาปีนี้ Google มีแผนจะต่อยอดฟีเจอร์ที่ว่านี้ โดยจะอนุญาตให้ผู้ใช้สั่งปิดเสียงเหล่านั้นได้ด้วย
ผู้ใช้ Chrome คงคุ้นเคยกันดีกับหน้าจอไดโนเสาร์ T-Rex เวลาไม่สามารถเข้าเน็ตได้ ล่าสุดกูเกิลเพิ่มของเล่นใหม่ จากไดโนเสาร์ยืนนิ่งๆ กลายมาเป็นเกมไดโนเสาร์วิ่งแบบ endless run ไปซะแล้ว
ผู้ที่อยากทดสอบจำเป็นต้องใช้ Chrome Canary หรือ Chromium เวอร์ชันล่าสุด ให้ปิด Wi-Fi แล้วลองเข้าเว็บ เราจะเจอกับหน้าจอไดโนเสาร์ที่คุ้นเคย ถ้าต้องการเล่นเกมให้กด spacebar แล้วไดโนเสาร์จะกระโดดและเริ่มวิ่ง อุปสรรคที่พบในเกมคือต้นกระบองเพชรที่ต้องกระโดดหลบโดยกด spacebar และเก็บแต้มไปเรื่อยๆ
ที่มา - OMG Chrome
ในงาน Google I/O 2014 เมื่อตอนกลางปี ทาง Google ได้แสดงความสามารถของ ChromeOS ในการรันแอพแอนดรอยด์ได้ มาถึงตอนนี้ก็มีนักพัฒนาถอดฟีเจอร์นี้มาให้ลองเล่นได้ในพีซีและเบราว์เซอร์ Google Chrome แล้วในชื่อ chromeos-apk
หลักการทำงานของ chromeos-apk จะเป็น runtime environment ตัวเดียวกับที่มีใน Chrome OS แต่เอามาเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ซึ่ง runtime ตัวนี้จะรันในเบราว์เซอร์ Chrome อีกทีนึง และผู้ใช้จะต้องโหลดแพกเกจแอพแอนดรอยด์ apk มาแตกและแปลงไฟล์ด้วยเครื่องมือที่ให้มาก่อนรัน เมื่อติดตั้งลงไปแล้วก็จะสามารถเรียกใช้แอพแอนดรอยด์ดังกล่าวได้ผ่านหน้า chrome://apps เสมือนเว็บแอพอื่นๆ ได้ทันที
ความน่ากลัวของคนทำเว็บในตอนนี้คือหากมีใครใส่ภาพหรือ iframe จากเว็บที่มีมัลแวร์ Chrome จะบล็อคเว็บที่ใช้ภาพเหล่านั้นไปด้วยเพื่อป้องกันผู้ใช้ ฟีเจอร์นี้มีมาตั้งแต่ Chrome รุ่นแรกๆ และมีการถกเถียงมาตลอดเวลาเป็นมาตรการที่สมเหตุสมผลหรือไม่ โดยมีการพูดคุยกันในทีมงาน Chrome เองในบั๊ก 16245
กูเกิลออกมาประกาศนโยบายการทำ Chrome รุ่น 64 บิตบนแมค (ปัจจุบันมีสถานะเป็น Beta Channel) ว่าเมื่อ Chrome บนแมคออกรุ่น 64 บิตเรียบร้อยแล้ว กูเกิลจะไม่ทำรุ่น 32 บิตอีกต่อไป ซึ่งจะต่างกับ Chrome for Windows ที่กูเกิลยังทำทั้ง 32/64 บิตควบคู่กันไป
นโยบายนี้จะเริ่มมีผลตั้งแต่ Chrome 39 (ออกช่วงเดือน พ.ย.) เป็นต้นไป โดย Chrome 39 จะเป็นรุ่นแรกที่มีเวอร์ชัน 64 บิตเพียงรุ่นเดียวบน OS X
การเปลี่ยนสถาปัตยกรรมครั้งนี้จะมีผลให้ปลั๊กอินเก่า (ที่ใช้ NPAPI) ที่คอมไพล์แบบ 32 บิตไม่สามารถใช้กับ Chrome for Mac ได้อีกแล้ว (ซึ่งไม่มีผลกับ Flash ที่ย้ายมาใช้ปลั๊กอินแบบใหม่แล้ว)
Firefox เคยออกเครื่องมือพัฒนาเว็บชื่อ WebIDE มีความสามารถดีบั๊กเว็บจากระยะไกล (remote debugging) โดยเบื้องต้นรองรับการทดสอบเว็บด้วย Firefox for Android และ Firefox OS ผ่านโพรโทคอล Firefox Developer Tools Protocol
ล่าสุด Mozilla ขยายฟีเจอร์การดีบั๊กระยะไกลโดยเพิ่ม Chrome, Chrome for Android, Safari for iOS ด้วย ดังนั้นนักพัฒนาเว็บสามารถเขียนเว็บและดีบั๊กด้วย WebIDE/Firefox Developer Tools ของ Firefox บนคอมพิวเตอร์ และส่งเว็บนั้นไปทดสอบบนเบราว์เซอร์อื่นๆ ข้างต้น โดยที่ยังสามารถ inspect ชิ้นส่วนต่างๆ ได้จาก Firefox ครับ (ดูวิดีโอประกอบ)
เว็บไซต์ Neowin อ้างว่าได้เห็น Internet Explorer 12 ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาแล้ว รายละเอียดมีดังนี้
เมื่อวานนี้กูเกิลเริ่มปล่อยแอพพลิเคชั่นแอนดรอยด์บน Chrome ชุดแรกที่รันผ่าน App Runtime for Chrome (ARC) ตอนนี้ซอร์สโค้ดของโครงการก็เปิดให้ดาวน์โหลดแล้ว โดยสามารถคอมไพล์เป็นโครงการแยกบนลินุกซ์ได้ รองรับการคอมไพล์บน Ubuntu 12.04 และ 14.04
ตอนนี้ ARC ที่เปิดออกมาเป็นเพียงไฟล์ไลบรารีบางส่วนเท่านั้น โดยเปิดออกมาเพื่อให้นักพัฒนาทดสอบแก้ไขบางส่วน การคอมไพล์บนลินุกซ์ได้แต่การใช้งานจริงก็ต้องใช้งานบน Chromebook ในโหมดพัฒนาเป็นหลัก โดยนำไฟล์ที่คอมไพล์แล้วไปวางแทน ARC ที่ดาวน์โหลดมากับตัวแอพ
งาน Google I/O ปีนี้กูเกิลประกาศว่าแอพพลิเคชั่นบนแอนดรอยด์จะสามารถไปรันบน Chrome OS ได้ แต่ไม่เปิดเผยรายละเอียดอื่นๆ ว่าจะทำได้อย่างไร ต้องแก้ไขตัวแอพพลิเคชั่นหรือไม่ ตอนนี้แอพพลิเคชั่นชุดแรกจากแอนดรอยด์ก็มีให้ดาวน์โหลดบน chrome web store แล้ว ได้แก่ Duolingo, Evernote, Sight Words, และ
ส่วนประกอบของใบรับรอง SSL มีสองส่วนสำคัญได้แก่ กุญแจสาธารณะ และลายเซ็นดิจิตอล โดยลายเซ็นดิจิตอลที่ได้รับความนิยมกันมากคือการใช้ค่าแฮช SHA-1 มาเข้ารหัสด้วยกุญแจ RSA ของหน่วยงานที่รับรองใบรับรองนั้นๆ ที่ผ่านมา SHA-1 เริ่มมีงานวิจัยแสดงว่ามันอ่อนแอกว่าที่ออกแบบไว้ ตอนนี้ทางกูเกิลประกาศแล้วว่าจะเริ่มถือว่าใบรับรองที่ใช้ SHA-1 ไม่ปลอดภัยตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นไป
กูเกิลระบุแผนบันไดสามขั้นเพื่อกดดันให้เว็บที่เข้ารหัสเปลี่ยนใบรับรองเป็นใบรับรองใหม่ที่ใช้ลายเซ็นดิจิตอลที่หนาแน่นกว่าเดิม
Google กำลังทดสอบซอฟต์แวร์สร้างรหัสผ่านคล้าย LastPass หรือ 1Password โดยซอฟต์แวร์ของ Google นี้เป็นส่วนหนึ่งของ Chrome Canary (Chrome เวอร์ชั่นทดสอบ) รุ่นล่าสุด
ผู้ใช้งาน Chrome Canary สามารถเข้าถึงระบบสร้างรหัสผ่านนี้ได้โดยการเปิดเรียก flag จำนวน 2 ตัว
หลังจากนั้นเมื่อใดก็ตามที่ผู้ใช้คลิกเลือกช่องใส่รหัสผ่าน ก็จะมีกล่องข้อความขนาดเล็กปรากฎขึ้นมาเพื่อให้คำแนะนำและสร้างรหัสผ่านให้กับผู้ใช้
ที่มา - SlashGear
หลังจากที่กูเกิลได้ทดลองใช้ Material Design บน Chrome เวอร์ชัน Beta ในแอนดรอยด์ไปเมื่อปลายเดือนกรกฎาคม ล่าสุดเวอร์ชันเต็มกำลังจะมาแล้ว เมื่อกูเกิลประกาศว่าจะอัพเดต Chrome บนแอนดรอยด์เป็นเวอร์ชัน 37.0.2062.117 ในอีกไม่กี่วัน (a few days)
เวอร์ชันใหม่นี้การเปลี่ยนแปลงหลักๆ ก็คือปรับปรุงหน้าตาส่วนติดต่อผู้ใช้ให้เป็น Material Design และเมื่อผู้ใช้ล็อกอินเข้า Chrome โดยใช้บัญชีกูเกิล เบราว์เซอร์จะลงชื่อเข้าใช้บริการของกูเกิลให้อัตโนมัติ
อัพเดต อัพเดตเป็นเวอร์ชันใหม่ได้แล้ววันนี้ครับ
Chrome 38 เพิ่งออกรุ่นเบต้าไม่กี่วันก่อน มีฟีเจอร์บางส่วนที่ประกาศว่าจะเปิดเพิ่มเข้ามา ซึ่งถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็น่าจะออกมาเป็นฟีเจอร์มาตรฐานในรุ่นเสถียร
หลังจาก Google ปล่อย Chrome 37 รองรับ 64-bit บน Windows ไปก่อนหน้า ก็ถึงคราวของ Mac บ้างแล้วที่ตอนนี้ Chrome for Mac เวอร์ชัน 64-bit ได้เข้าสู่ Beta Channel ไปเป็นที่เรียบร้อย
สำหรับ Chrome เวอร์ชัน 64-bit จะรองรับ Intel Mac เกือบทั้งหมด ยกเว้น Intel Mac รุ่นแรกเท่านั้น และ Chrome 64-bit บน Mac จะไม่รองรับปลั๊กอิน NPAPI แบบ 32-bit เช่นเดียวกับบน Windows ซึ่ง Chrome ก็จะเลิกรองรับ NPAPI ภายในปลายปีนี้แล้ว
ใครสนใจ สามารถดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้งได้ที่ Chrome Beta
กูเกิลออก Chrome 37 รุ่น Stable ซึ่งของใหม่รุ่นนี้เน้นไปที่แพลตฟอร์มวินโดวส์เป็นหลัก
นักพัฒนาสาย Android คงไม่มีใครไม่รู้จัก ADB หรือชื่อเต็ม Android Debug Bridge ซึ่งเป็นเครื่องมือแบบคอมมานด์ไลน์ที่ช่วยให้นักพัฒนาเข้าถึงฮาร์ดแวร์ Android และแอพที่รันอยู่บนฮาร์ดแวร์เหล่านี้ได้ อย่างไรก็ตาม จุดอ่อนสำคัญของ ADB คืออินเทอร์เฟซแบบคอมมานด์ไลน์ที่อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคนเสมอไป
งานนี้เลยมีคนพยายามทำ GUI สำหรับ ADB ขึ้นมา ผลออกมาเป็น ChromeADB ซึ่งเป็น client สำหรับ ADB ที่เขียนด้วย HTML (Node.js) และเผยแพร่ในรูปแบบส่วนเสริมของ Chrome (มีเวอร์ชัน Android ด้วย)
กูเกิลมีบริการชื่อ Safe Browsing ช่วยกรองเว็บและการดาวน์โหลดไฟล์ที่อาจเป็นอันตราย (Chrome และ Firefox ใช้ฐานข้อมูลจาก Safe Browsing เพื่อตรวจสอบการเข้าเว็บของผู้ใช้งาน)
ล่าสุด Safe Browsing เตรียมขยายการตรวจสอบจากเดิมที่เช็คว่าไฟล์เป็นมัลแวร์หรือไม่ เพิ่มมาเป็นการตรวจว่าไฟล์นั้นทำตัว "หลอก" ว่าเป็นไฟล์มีประโยชน์ แต่เอาจริงแล้วแอบเปลี่ยนค่าต่างๆ ภายในเครื่อง เช่น ปรับค่าของเบราว์เซอร์หรือเปลี่ยนหน้าโฮมเพจ ซึ่งผู้ใช้ย่อมไม่ต้องการให้เปลี่ยน
จากนี้ไป Chrome จะแจ้งเตือนการดาวน์โหลดไฟล์ลักษณะนี้ โดยระบุว่าเป็นไฟล์ที่ "อาจจะเป็นอันตรายต่อประสบการณ์ท่องเว็บ" (may harm your browsing experience)
เว็บไซต์รีวิวฮาร์ดแวร์ชื่อดัง AnandTech ได้ทำการนำเอาเว็บเบราว์เซอร์หลัก ๆ ในตลาดมาทดสอบโดยการติดตั้งลงบนโน้ตบุ๊ก Dell XPS 15 ที่รันวินโดวส์ 8.1 64 บิต แล้วทำการจำลองการใช้เว็บเบราว์เซอร์แต่ละตัวด้วยซอฟต์แวร์ทดสอบอัตโนมัติที่เขียนขึ้นเอง เพื่อหาว่าจะใช้เวลากี่นาทีก่อนที่แบตเตอรี่จะเหลือเพียง 7%
สำหรับเว็บเบราว์เซอร์ที่เป็นเหยื่อการทดสอบครั้งก็มีดังนี้ครับ
ไม่ช้าไม่นานหลัง Chrome for Windows รุ่น 64 บิต ก็มีคนไปพบว่า Chrome for OS X แบบ Dev Channel เริ่มเปลี่ยนมาเป็นรุ่น 64 บิตแล้ว (นับเลขเวอร์ชันคือรุ่น 38)
ข้อดีของ Chrome แบบ 64 บิตก็อย่างที่เคยลงข่าวไปแล้วหลายรอบคือ ประสิทธิภาพดีขึ้น และรองรับหน่วยความจำมากขึ้นครับ
ที่มา - OMG! Chrome
ต่อจากข่าว Google ปล่อย Chrome เวอร์ชั่น 64 บิตสำหรับ Windows ให้ทดสอบกันแล้ว วันนี้กูเกิลประกาศว่า Chrome 64 บิตเข้าสถานะ Beta เรียบร้อยแล้ว (ใช้งานได้กับ Windows 7/8)
ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้งได้จาก Chrome Beta หรือจะใช้วิธีเปลี่ยน Channel ก็ได้เช่นกันครับ
ที่มา - Chrome Releases
กูเกิลเริ่มค่อยๆ ปรับใช้แนวทางการออกแบบ UI ใหม่บนบริการของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ ตามที่เคยบอกไว้ว่าจะนำการออกแบบนี้มาใช้กับทุกๆ แพลตฟอร์มและบริการของตน โดยการปล่อยอัพเดต Chrome Beta บนแอนดรอยด์ ปรับปรุงหน้าตาให้เป็น Material Design ตามหลัง Google Play แล้ว นอกจากนั้นยังจดจำบัญชีกูเกิลที่บันทึกอยู่ในเครื่อง ในกรณีที่มีมากกว่า 1 บัญชีให้อีกด้วย
การรองรับบัญชีกูเกิลที่เพิ่มขึ้นนี้ เมื่อ sign-in เข้า Chrome แอพจะบันทึกบัญชีอื่นๆ ที่ตั้งค่าไว้อยู่ในเครื่องให้ทันที ทำให้สามารถเลือกเข้าบัญชีอื่นได้ โดยไม่ต้องใส่รหัสใหม่