เราเห็นข่าวผู้ผลิตแท็บเล็ตที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows RT ออกมาบ่นว่าขายสินค้าไม่ค่อยออกกันหลายครั้ง คราวนี้เป็นคิวของ Dell ที่ไม่ได้บ่นอะไรแต่ถอดรายการแท็บเล็ต Windows RT ออกจากหน้าเว็บแบบเงียบๆ
แท็บเล็ตที่ว่านี้คือ Dell XPS 10 ซึ่งเปิดราคามาที่ 499 ดอลลาร์ แต่ลดลงเหลือ 299 ดอลลาร์ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีนี้ สถานการณ์ล่าสุดตอนนี้คือ XPS 10 รุ่นความจุ 32/64GB หายไปจากหน้าร้านออนไลน์ของ Dell แล้ว เหลือเพียงรุ่นขายพร้อมคีย์บอร์ดที่ตั้งราคา 479 ดอลลาร์เท่านั้น
หลังจากที่หลุดแบบยืนยันของโน้ตบุ๊กเวิร์กสเตชั่นตัวใหม่ล่าสุดเดลล์ ล่าสุดเดลล์ก็เปิดตัว Precision M3800 โน้ตบุ๊กเวิร์กสเตชั่นในงาน SIGGRAPH
โดยรุ่นนี้มีสเปกคร่าว ๆ ดังนี้
สำหรับสเปกอื่น ๆ และราคายังไม่ได้ระบุไว้
กระแสจอภาพความละเอียดสูง หรือที่เราคุ้นกันในชื่อ 4K ยังคงมาแรง ไม่เว้นแม้แต่รายใหญ่วงการจอภาพสำหรับมืออาชีพอย่าง Dell ก็หยิบจอรุ่นใหม่มาโชว์ในงาน SIGGRAPH 2013 เสียด้วย
โดยเจ้าจอรุ่นที่ว่าคือ UltraSharp 32 รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับความละเอียด 3840x2160 พิกเซล บนหน้าจอขนาด 32" และยังเป็นพาเนล IGZO ที่ขึ้นชื่อเรื่องการแสดงสีสันสมจริง ทั้งยังกินไฟน้อยลงอีกด้วย ในแง่ของคุณภาพ เว็บไซต์ Engadget ได้มีโอกาสไปดูจากจอจริงๆ มาและพบว่าสีสันดีขึ้นจริง โดยเฉพาะสีดำที่เข้มกว่าที่เคย
ข้อมูลหลุดจากเว็บ Tweakers.net ระบุว่า Dell กำลังเปิดตัวโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ Dell M3800 รุ่นเวิร์คสเตชั่นในตระกูลโน้ตบุ๊กของเดลล์ โดยสเปคที่เด่นที่สุดคือหน้าจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด 3200x1800 พิกเซล
สเปคส่วนอื่นๆ ของ M3800 จะใช้ซีพียู Haswell, แรมสูงสุด 16GB, พื้นที่เก็บข้อมูลให้เลือกระหว่าง HDD ขนาด 1TB และ SSD สูงสุด 512GB, กราฟิก NVIDIA Quadro K1100M แรม 2GB, ส่วนหน้าจอมีให้เลือกระหว่าง Full HD และ 3200x1800
ราคาตั้งแต่ 1699 ดอลลาร์ไปจนถึง 1999 ดอลลาร์
Sam Burd ผู้บริหารฝ่ายพีซีของ Dell ให้สัมภาษณ์ว่ากำลังสำรวจไอเดียของตลาด "คอมพิวเตอร์สวมใส่ได้" (wearable computing) กับเขาด้วยเหมือนกัน
Burd บอกว่าปัจจัยชี้ขาดความสำเร็จของผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์แบบสวมใส่ได้คือราคา และประสบการณ์การใช้งานที่ดี ซึ่ง Dell เองก็มองว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า รูปแบบและหน้าตาของคอมพิวเตอร์จะเปลี่ยนไปมาก ถึงแม้คอมพิวเตอร์แบบเดสก์ท็อปจะยังคงอยู่ แต่ก็จะมีความต้องการใช้งานคอมพิวเตอร์แบบใหม่ๆ อีกมาก
เขาบอกว่า Dell ยังไม่ประกาศข่าวผลิตภัณฑ์ใดๆ ทั้งสิ้น แต่ก็กำลังจับตาตลาดนี้อย่างใกล้ชิด โดยเขาบอกว่าเฝ้าดูความเห็นต่อ Google Glass และผลิตภัณฑ์กลุ่มนาฬิกามาโดยตลอดด้วย
ช่วงนี้ไมโครซอฟท์ขยันสร้างแคมเปญโฆษณาดันวินโดวส์ 8 อยู่เสมอ และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือการกัดคู่รักคู่แค้นอย่างแอปเปิล ซึ่งเหมือนเป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติต่อกันไปเรียบร้อยแล้ว (หากใครไม่ทันโฆษณาตัวเก่าๆ แนะนำให้ดูโฆษณาชุด Mac vs PC ก่อนเลยครับ)
ล่าสุดไมโครซอฟท์ปล่อยโฆษณา Dell Tablet vs. iPad ซึ่งโชว์จุดแข็งของแท็บเล็ตวินโดวส์ 8 ว่าสามารถบีบนิ้วเข้าเพื่อดูแอพทั้งหมด, ใส่ SD card ได้, ทำงานและดูวิดีโอไปพร้อมๆ กันได้ และที่สำคัญราคาเพียงแค่ 399 เหรียญเท่านั้น ทั้งหมดทั้งมวลนี้คงไม่น่าแปลกใจอะไร แต่สิ่งที่แสบสุดๆ ในโฆษณาชิ้นนี้คือเสียงพากย์ในคลิปทั้งหมดดันใช้เสียง Siri ครับ (รับชมได้ท้ายเบรค)
ที่งาน E3 2013 เดลล์ได้ประกาศเปิดตัวไลน์โน้ตบุ๊คเกมเมอร์ตัวใหม่ สำหรับนำมาทดแทนตระกูล MX เดิมที่เดลล์ยังคงทำตลาดอยู่ โดยไลน์ใหม่จะไม่มีชื่อรุ่นกำกับ แต่จะเรียกจากขนาดหน้าจอของเครื่องเลย คือ Alienware 14/17 และ 18 ครับ
เส้นสายการออกแบบของ Alienware 1x นั้น จะออกไปในทางเส้นสายการออกแบบของเดลล์มากขึ้น แต่ก็ยังคงประทับตราเอเลี่ยนเรืองแสงอยู่บริเวณกลางจอ เพื่อให้ระบุว่าโน้ตบุ๊คตัวนี้ ไม่ใช่โน้ตบุ๊คธรรมดาๆ ของเดลล์นั่นเองครับ
นอกจากการเปิดตัว XPS 11 ทางเดลล์ก็ได้อัพเกรดฮาร์ดแวร์รุ่นเก่าและเปิดตัวฮาร์ดแวร์ใหม่ ดังนี้
XPS 12 โน้ตบุ๊กที่หมุนจอเพื่อเป็นแท็บเล็ตได้ ได้รับการอัพเกรดโดยปรับซีพียูอินเทลเป็นรหัส Haswell, เพิ่มชิป NFC และแบตเตอรี่ใหญ่ขึ้น เดลล์กล่าวว่า XPS Duo 12 รุ่นปรับปรุงจะอยู่ได้ 8 ชั่วโมง 43 นาทีต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งมากกว่ารุ่นเดิม 2 ชั่วโมง
บริษัทเริ่มวางขายรุ่นนี้ในวันที่ 9 กรกฎาคมเป็นต้นไป สนนราคาเริ่มต้นที่ 1,200 ดอลลาร์ (ราว 36,600 บาท)
ในงาน Computex ปีนี้ แม้แต่ผู้ผลิตพีซีสัญชาติสหรัฐฯ อย่างเดลล์ก็มาโชว์ตัวโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่เช่นกัน แม้จะไม่ได้มาเป็นโขยงเหมือนคู่แข่ง แต่ก็จัดหนักมาเน้นๆ รุ่นเดียว แต่ครบเครื่องอย่าง XPS 11 รุ่นใหม่ที่มาในสไตล์ convertible พับหน้าจอกลับไปด้านหลังได้เกือบ 360 องศา (แบบเดียวกับ Lenovo Yoga) โดยตัวคีย์บอร์ดจะถูกปิดการใช้งานเมื่อหน้าจอถูกเอนไปมากกว่า 180 องศา
วัสดุเครื่อง XPS 11 มาตามแบบฉบับของเดลล์คือใช้อลูมิเนียมร่วมกับคาร์บอนไฟเบอร์ ตัวสเปคเท่าที่เผยมาคือใช้หน้าจอสัมผัสขนาด 11.6" ความละเอียด 2560x1440 พิกเซล (253 PPI) ซีพียูอินเทล Core-i5 Haswell
ตัวเครื่อง XPS 11 หนาประมาณ 15 มม. ใส่พอร์ตมาให้ครบครันทั้ง USB 3.0 สองพอร์ต, Thunderbolt, ช่องอ่านการ์ด SD และมีสไตลัสมาให้ด้วย
ที่ผ่านมา เราเห็นอุปกรณ์จำพวก GameStick ซึ่งเป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กฝังหน่วยประมวลผลและติดตั้งระบบปฏิบัติการ Android ใช้เสียบเข้ากับทีวีเพื่อเพิ่มความสามารถด้านการเล่นเกม
ล่าสุด Dell กำลังพัฒนาอุปกรณ์คล้ายๆ กันในชื่อ "Project Ophelia" โดยเป็นฮาร์ดแวร์แบบ stick ขนาดพกพา ใช้เสียบเข้ากับทีวีผ่านพอร์ต HDMI ทำหน้าที่เป็นกล่องเซ็ตท็อปแบบกลายๆ นอกจากนี้ยังเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi และอุปกรณ์อื่นๆ ผ่าน Bluetooth ได้ด้วย ราคาอยู่ที่ 100 ดอลลาร์
Dell ประกาศเข้าซื้อกิจการบริษัท Enstratius ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์บริหารจัดการกลุ่มเมฆ โดยให้เหตุผลว่าต้องการซื้อมาเสริมทัพซอฟต์แวร์ฝั่งกลุ่มเมฆ Active System Manager ที่มีอยู่แล้วจากการซื้อบริษัท Gale Technologies
ซอฟต์แวร์ของ Enstratius ช่วยให้องค์กรสามารถติดตั้งแอพของตัวเองบนกลุ่มเมฆได้ง่ายขึ้น ทั้งกลุ่มเมฆแบบ private/public/hybrid โดยตัวซอฟต์แวร์ Enstratius ก็ทำงานได้ทั้งบนกลุ่มเมฆและติดตั้งบนเซิร์ฟเวอร์ภายในองค์กร
ที่มา - Dell
เมื่อพูดถึง Dell หลายๆ คนคงนึกถึงคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊กมาเป็นอันดับแรก และอาจมีฮาร์ดแวร์เซิร์ฟเวอร์ตามมาเป็นลำดับถัดไป
แต่บริษัทไอทีสายองค์กรทุกวันนี้จะขายเพียงฮาร์ดแวร์อย่างเดียวคง "อยู่ยาก" และหลายบริษัทก็ปรับตัวไปเป็นการขายโซลูชันครบวงจนตั้งแต่ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และการบริหารจัดการระบบ เพื่อสร้างความแตกต่างและมูลค่าของสินค้า-บริการให้มากขึ้น
เดลล์นำเสนอโซลูชั่นครบวงจรในงานระดับโลกที่ชื่อว่างาน Dell World เป็นปีที่ 2 นำเสนอถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ
ที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับองค์กรตามเทรนด์เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป และในระดับภูมิภาค ทางเดลล์ยังมีงาน Dell Solutions Tour ที่แสดงเทคโนโลยีล่าสุดในรูปแบบเดียวกัน แต่เป็นการนำผู้เชี่ยวชาญทั้งของเดลล์เองและของพันธมิตรต่างๆ มาพบกับผู้ใช้ในแต่ละประเทศ และสำหรับประเทศไทย ในปีนี้ทางเดลล์ก็นำงาน Dell Solution Tours มาจัดในประเทศไทย ในวันที่ 3 พฤษภาคมนี้
Dell ส่งแท็บเล็ต Latitude 10 (ที่เปิดตัวขายในประเทศไทยแล้ว) มาให้ผมทดสอบ
Latitude 10 เป็นแท็บเล็ตสาย x86 ที่ใช้ Atom และรัน Windows 8 Pro (เป็นรุ่น 32 บิตนะครับ) เน้นจับตลาดองค์กรเป็นหลักตามชื่อแบรนด์ Latitude
รุ่นที่ได้มาทดสอบเป็น Latitude 10 Standard ราคาอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 24,900 บาทครับ
หมายเหตุ: เพื่อความสะดวกของคนเขียน ขอใช้ภาพเก่าบางส่วนจากข่าวงานเปิดตัวที่ถ่ายโดยคุณ Blltz นะครับ
Jimmy Pike ผู้บริหารฝ่ายศูนย์ข้อมูลของ Dell ให้ความเห็นต่อกระแสเซิร์ฟเวอร์สาย ARM ที่กำลังเริ่มมาแรงว่าคงต้องรอซีพียู ARM สถาปัตยกรรม 64 บิท (ARMv8 หรือ Cortex-A50) วางตลาดอย่างจริงจังเสียก่อน เราน่าจะเริ่มเห็นเซิร์ฟเวอร์ ARM วางขายในปีหน้า และกว่าจะเริ่มขายในจำนวนมากก็อาจต้องรอถึงปลายปี 2014 หรือต้นปี 2015
Pike บอกว่าการผลักดัน ARM ในโลกของเซิร์ฟเวอร์จำเป็นต้องให้ฝั่งซอฟต์แวร์สนับสนุนด้วย นอกเหนือจากซอฟต์แวร์ฝั่งลินุกซ์พื้นฐานอย่างสาย LAMP ที่รองรับอยู่แล้ว ก็ยังต้องมีระบบการบริหารจัดการ แพกเกจซอฟต์แวร์ด้านอื่นๆ รวมถึงระบบ BIOS กลางสำหรับเซิร์ฟเวอร์ ARM ทุกยี่ห้อใช้ร่วมกัน ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้มีในโลกของ x86 มานานมากแล้ว
Dell เป็นผู้ผลิตพีซีที่ค่อนข้างจริงจังกับระบบปฏิบัติการลินุกซ์ ซึ่งเราก็เห็น Dell ออกโน้ตบุ๊ก XPS 13 Developer Edition ไปแล้ว
เดลล์เคยเปิดตัว Lattitude 10 แท็บเล็ต Windows 8 พลัง Atom ไปเมื่อปีก่อน โดยตอนนั้นเปิดตัวเฉพาะรุ่น Standard เน้นตลาดองค์กรโดยเฉพาะด้วยความทนทาน และพอร์ตเชื่อมต่อครบครัน อ่านสเปคได้จากข่าวเก่าเลยครับ
วันนี้เดลล์ ประเทศไทยนัดบล็อกเกอร์มาให้ลองจับแท็บเล็ตรุ่นนี้อีกรอบ คราวนี้มีรุ่น Essential ที่ราคาถูกกว่ามาด้วย
ว่ากันด้วยสเปครุ่น Standard กับ Essential นั้นแทบไม่ต่างกันยกเว้นรายละเอียดภายนอกเครื่องอย่างพอร์ต micro HDMI, ช่องใส่ซิมการ์ด และแบตถอดได้ซึ่งเป็นฟีเจอร์เฉพาะของรุ่น Standard ขึ้นไปเท่านั้น ราคาทั้งสองรุ่นเปิดมาที่ 24,900 บาท และ 21,900 บาท (ราคายังไม่รวมภาษี)
iFixit เจ้าพ่อการแกะอุปกรณ์เปิดเผยอันดับ "แท็บเล็ตซ่อมแซมเองได้ง่าย" โดยใช้เกณฑ์ให้คะแนนตามความง่ายในการแกะแยกชิ้นส่วน ความซับซ้อนภายใน ความประหยัดในการหาอะไหล่มาซ่อมแซมด้วยตนเอง ไปจนถึงความสามารถในการอัพเกรด
ผลการจัดอันดับนั้น ไม่มีแท็บเล็ตรุ่นใดได้คะแนนเต็ม 10 แต่คะแนนสูงสุดอยู่ที่ 9 คะแนนเป็นของ Dell XPS 10 โดย iFixit บอกว่าแท็บเล็ตรุ่นนี้เปิดออกง่าย เปลี่ยนแบตเตอรี่ง่าย นอตแยกสีและมีป้ายกำกับสายเคเบิ้ล แต่มีข้อเสียคือจอแอลซีดีเชื่อมติดกับกระจก
สำหรับกลุ่มคะแนนต่ำ Microsoft Surface Pro คว้าที่โหล่เพียง 1 คะแนนเท่านั้น ด้วยเหตุผลว่าชิ้นส่วนแทบทั้งหมดในกาวติด และการแกะออกมาก็เสี่ยงทำสายเคเบิ้ลขาดได้ง่ายมาก ส่วน iPad ทุกรุ่นคว้าตำแหน่งรองโหล่ด้วย 2 คะแนนเท่ากันทั้งหมด
เดลล์รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท 2013 มีรายได้ 14.3 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 11% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน กำไรสุทธิอยู่ที่ 530 ล้านดอลลาร์ ลดลงถึง 31% โดยรายได้จากธุรกิจบริการและลูกค้าองค์กรเติบโต 6% ขณะที่กลุ่มสินค้าสำหรับลูกค้าทั่วไปลดลง 24%
เมื่อปลายปีที่แล้ว Dell เปิดตัวโน้ตบุ๊กพลัง Ubuntu อย่างเป็นทางการในชื่อ XPS 13 Developer Edition
สิ่งที่ลูกค้าของ XPS 13 Developer Edition บ่นมากที่สุดคือความละเอียดหน้าจอเพียง 1366x768 ซึ่งถือว่าน้อยไปแล้วสำหรับโน้ตบุ๊กไฮเอนด์
ล่าสุด Dell จึงปรับสเปกของ XPS 13 Developer Edition โดยเปลี่ยนเป็นจอ HD 1920x1080 แทน ส่วนราคาคงเดิมที่ 1,549 ดอลลาร์
Dell ยังประกาศว่าจะขาย XPS 13 Developer Edition ในยุโรป โมร็อคโค รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย ตุรกี และแอฟริกาใต้อีกด้วย ส่วนประเทศอื่นๆ ในเอเชียนั้นกำลังมองหาความเป็นไปได้อยู่ครับ
HP ออกแถลงการณ์หลังจากเดลล์ประกาศซื้อหุ้นคืนเพื่อออกจากตลาดหุ้น ว่าเดลล์กำลังเลือกเดินเข้าสู่เส้นทางที่ยากลำบาก และทำให้บริษัทต้องอยู่ในช่วงเวลาของความไม่แน่นอนยาวนานมากขึ้น ซึ่งสุดท้ายแล้วก็ส่งผลเสียต่อลูกค้าของเดลล์เอง
ในแถลงการณ์นี้ยังระบุว่า ปัญหาของเดลล์จากนี้คือดีลนี้ทำให้บริษัทมีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้นมามาก ส่งผลให้การลงทุนกับโครงการใหม่ทำได้อย่างจำกัด การซื้อหุ้นคืนนี้จึงเหมือนการเลือกทิ้งลูกค้าปัจจุบันไว้กลางทาง ตลอดจนทิ้งนวัตกรรมของบริษัทไปอีกด้วย ซึ่ง HP เชื่อว่าลูกค้าปัจจุบันของเดลล์จะมองหาทางเลือกที่แตกต่าง และ HP ก็พร้อมเต็มที่สำหรับโอกาสอันดีนี้
เดลล์ประกาศอย่างเป็นทางการวันนี้ว่าจะมีการขอซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นเดิมเพื่อทำเรื่องออกจากตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งตรงกับข่าวก่อนหน้านี้ โดยจะทำการซื้อหุ้นคืนในราคา 13.65 ดอลลาร์ต่อหุ้น สูงกว่าราคาเฉลี่ย 90 วันย้อนหลัง 37% ซึ่งทำให้ขนาดของดีลซื้อหุ้นคืนครั้งนี้สูงถึง 24.4 พันล้านดอลลาร์
จากข่าวลือ เดลล์กำลังพิจารณาออกจากตลาดหุ้น และ ไมโครซอฟท์อาจจะเข้าหุ้นซื้อเดลล์ออกจากตลาด
ข่าววงในใหม่ล่าสุดคือ ไมเคิล เดลล์ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของเดลล์ ซึ่งปัจจุบันถือหุ้นอยู่ 15.7% อาจพิจารณาใช้เงินส่วนตัว 500-1,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อซื้อหุ้นของเดลล์คืนจากผู้ถือหุ้นในตลาดหลักทรัพย์จนสัดส่วนหุ้นของเขามากกว่า 50%
แหล่งข่าวยังบอกด้วยว่าหุ้นส่วนอื่นๆ ที่เหลือจะมีไมโครซอฟท์ และบริษัทลงทุน Silver Lake ร่วมกันลงขันรายละ 1-2 พันล้านดอลลาร์อีกด้วย
ข่าวลือ Dell ถอนตัวออกจากตลาดหุ้นยังคงต่อเนื่อง โดยล่าสุดมีข่าวลือว่าไมโครซอฟท์อาจจะเข้าร่วมโครงการซื้อหุ้นคืนครั้งนี้ เป็นมูลค่า 1 พันล้านถึง 3 พันล้านดอลลาร์
ไมโครซอฟท์เองมีเงินสดจำนวนมากในมือ และแม้เดลล์เองจะมีผลประกอบการลดลงแต่ฝั่งเซิร์ฟเวอร์ก็ยังแข็งแกร่ง ส่วนตัวตลาดพีซีเองก็ยังครองตลาดใหญ่อยู่ การที่ไมโครซอฟท์เข้าไปถือหุ้นจึงดูสมเหตุสมผลพอสมควร
ไมโครซอฟท์ลงทุนในบริษัทอื่นๆ เสมอ ครั้งใหญ่ที่เราคงจำกันได้คือการลงทุนในแอปเปิลเมื่อสตีฟ จ๊อบส์กลับมารับตำแหน่ง