Michael Dell ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Dell โพสต์ภาพว่ากำลังผลิตเครื่องเซิร์ฟเวอร์ให้กับ Grok บริการ AI ของ xAI ธุรกิจในเครือ Elon Musk
ซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้เป็นตัวที่ Elon ให้ข่าวเอาไว้ ว่าจะใช้จีพียู NVIDIA H100 เป็นหลักแสนตัว แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าระบบที่ Dell กำลังทำให้มีจำนวนจีพียูกี่ตัวกันแน่
หลังจาก Dell ให้ข่าว ฝั่งของ Elon ก็ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า Dell สร้างเพียงครึ่งหนึ่งของระบบทั้งหมดเท่านั้น ส่วนอีกครึ่งหนึ่งเป็นงานของ Supermicro (SMC) ผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์รายใหญ่อีกเจ้านั่นเอง
ที่มา - Fast Company
Michael Dell ซีอีโอของ Dell Technologies ให้สัมภาษณ์ถึงแผนการแยกหุ้นของ Dell กับ VMware ที่จะทำให้ VMware เป็นอิสระจาก Dell อีกครั้ง (EMC ซื้อ VMware ในปี 2003 แล้วนำหุ้นบางส่วนมาขาย IPO ก่อนที่ EMC จะถูก Dell ซื้อในปี 2016)
เขาให้เหตุผลว่าการที่ VMware เป็นอิสระจาก Dell ทำให้ทั้งสองบริษัทมีอิสระในการเลือกโซลูชันมากขึ้น โดย Dell จะยังเลือกใช้โซลูชันของ VMware ต่อไปในหลายส่วน แต่ก็เปิดโอกาสให้ทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์รายอื่นได้ด้วย
ตามที่มีข่าวลือในตอนเช้า เดลล์ได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วถึงแผนเตรียมนำบริษัท Dell Technologies กลับเข้าตลาดหุ้นอีกครั้ง หลังจากที่ ไมเคิล เดลล์ ซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัท และกองทุน Silver Lake ได้ร่วมกันซื้อหุ้นคืนเพื่อนำหุ้นออกจากตลาดเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เพื่อให้การบริหารงานคล่องตัวขึ้น
เดลล์ได้จัดงาน Dell Technologies World 2018 ซึ่งเป็นครั้งแรกของการใช้ชื่องานนี้ (ปีก่อนใช้ชื่อว่า Dell EMC World) เพื่อสะท้อนยุทธศาสตร์ของเดลล์ที่ต้องการนำเทคโนโลยีมาใช้ ในระดับ end-to-end ทั้งหมดภายใต้เครือของ Dell Technologies
สำหรับเนื้อหาของงานวันแรก เป็นการนำเสนอภาพรวมในระดับองค์กร และจับประเด็นสำคัญบางอย่าง ที่เดลล์มองว่าเป็นโอกาสใหม่ๆ ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation) ได้ตามยุทธศาสตร์ของเดลล์ มีประเด็นน่าสนใจดังนี้ครับ
Michael Dell ซีอีโอเดลล์ กล่าวในงานสัมมนาที่จัดโดย Pivotal พูดถึงประเด็นความกังวลของผู้คนเกี่ยวกับ AI ที่อาจส่งผลรุนแรง บางคนกลัวถึงขนาดว่าสงครามโลกครั้งถัดอาจเป็นการสู้กันของคอมพิวเตอร์ โดยเขามองว่า AI จะนำมาซึ่งสิ่งดีกับมนุษยชาติมากกว่าใน 30 ปีข้างหน้า
เขายังบอกว่าหลายคนติดภาพจากหนังแนววิทยาศาสตร์มากเกินไป แต่อยากให้ดูสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ว่า AI ให้ผลออกมาในทางบวกต่อผู้คนมากกว่า และจะยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป
แต่เมื่อถามว่าแล้ว AI จะแทนที่คนได้หรือไม่ Dell บอกว่าสุดท้ายแล้วคอมพิวเตอร์ก็ไม่สามารถแทนที่สมองได้ ใน 15-20 ปีข้างหน้า เราอาจมีคอมพิวเตอร์ที่ทำงานคิดคำนวณได้เท่ากับสมองเป็นหมื่นล้านชิ้น แต่สุดท้ายมันก็คือคอมพิวเตอร์ ซึ่งแทนที่สมองที่ทำงานเป็นอวัยวะไม่ได้
Michael Dell ซีอีโอ Dell Technologies ได้กล่าวในงาน Dell EMC World ว่าบริษัทพบลูกค้าบางส่วน เริ่มกลับมาซื้ออุปกรณ์ติดตั้งและใช้งานเองแทนที่จะซื้อบริการคลาวด์ เนื่องจากพบว่าผู้ให้บริการคลาวด์นั้นมีรูปแบบที่ซับซ้อน และค่าใช้จ่ายก็สูงมากกว่าที่คาดไว้
เขาบอกว่าเมื่อเทียบราคาของผู้ให้บริการคลาวด์สาธารณะ (Public Cloud) ชื่อดังในท้องตลาดแล้ว ราคาอาจสูงกว่าซื้ออุปกรณ์มาใช้เองถึง 2 เท่าเลย
อย่างไรก็ตาม Dell บอกว่าการที่เขาบอกพูดเช่นนี้ไม่ได้หมายความว่าคลาวด์สาธารณะจะไม่มีโอกาสเติบโต เพียงแต่มันไม่ได้เหมาะกับทุกเงื่อนไขการทำงาน และทุกอย่างจะไม่ย้ายขึ้นไปอยู่บนคลาวด์สาธารณะ
ในงาน Dell EMC World ประจำปี 2017 Michael Dell ซีอีโอของ Dell Technologies ตอบคำถามผู้ร่วมงานว่าเขามีคำแนะนำอย่างไรที่จะบอกกับธุรกิจ และผู้ประกอบการขนาดกลาง-เล็ก จากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่รวดเร็ว และเข้ามารุกรานในธุรกิจดั้งเดิม
Michael Dell บอกว่าโลกในอนาคตนั้น ไอทีไม่ใช่หน่วยงานที่ผลิตเครื่องมือให้องค์กรใช้งานอีกต่อไป แต่ไอทีจะเป็นหัวใจของการทำธุรกิจซึ่งมีบทบาทความสำคัญสูงขึ้น ธุรกิจควรมองหาเทคโนโลยีใหม่ และเลือกมาใช้งานเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งเตรียมความพร้อมด้านทักษะและความรู้ของบุคลากรในองค์กร
Michael Dell ซีอีโอของ Dell Technologies ตอบคำถามสื่อมวลชนที่งาน Dell EMC World
เมื่อถูกถามว่า Dell จะกลับไปทำสมาร์ทโฟนหรือไม่ Michael Dell ตอบทันทีว่า "Nope" โดยเขาให้เหตุผลว่าโลกคงไม่ต้องการผู้ผลิตสมาร์ทโฟนเพิ่มอีกรายแล้ว
Michael Dell ยังอธิบายยุทธศาสตร์ของ Dell ว่า จะเน้นไปที่การบริหารจัดการอุปกรณ์สมัยใหม่ๆ ซึ่งไม่ได้มีแค่สมาร์ทโฟนเพียงอย่างเดียว แถมปัจจุบันสมาร์ทโฟนยังต้องพึ่งพาการติดต่อกับศูนย์ข้อมูลตลอดเวลา ธุรกิจของบริษัทคงให้ความสำคัญกับฝั่งศูนย์ข้อมูลมากกว่า
ที่มา - Dell EMC World
Dell ได้ทำการซื้อหุ้นคืนและออกจากตลาดหุ้นไปตั้งแต่ปี 2013 ทำให้บริษัทไม่ต้องรายงานผลการดำเนินงานทุกไตรมาส อย่างไรก็ตามเมื่อ Dell ได้ประกาศซื้อกิจการ EMC ก็ทำให้ Dell ต้องรายงานข้อมูลผลการดำเนินงานช่วงที่ผ่านมาต่อสาธารณะอีกครั้ง เพื่อให้ผู้ถือหุ้น EMC มีข้อมูลเจ้าของกิจการรายใหม่ประกอบการพิจารณา
โดยผลประกอบการของ Dell ในช่วงปี 2014 และ 2015 มีรายได้รวม 58,119 และ 54,886 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ และทั้งสองปีขาดทุนสุทธิ 1,221 และ 1,104 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ
ในภาพรวมผลประกอบการปี 2015 ผ่านมา Dell ระบุว่ารายได้จากการขายสินค้าลดลง 7% เมื่อเทียบกับปี 2014 เนื่องจากไม่มีปัจจัยบวกของการอัพเกรดพีซีจาก Windows XP ที่เกิดขึ้นในปี 2014 ส่วนยอดขายแยกรายประเทศนั้นโดยรวมลดลง แต่มีตลาดประเทศเกิดใหม่, อินเดีย และจีนที่เพิ่มขึ้น
ยังมีข้อมูลน่าสนใจว่าซีอีโอ Michael Dell ได้รับค่าจ้างผลประโยชน์ตลอดปีที่ผ่านมา 2.4 ล้านดอลลาร์เท่านั้น ซึ่งลดลงอย่างมาก เมื่อเทียบกับช่วงปี 2011 ที่เขาได้มากขึ้น 16 ล้านดอลลาร์ แม้จะอยู่รูปของหุ้นบริษัทเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่ตัวเลขเงินเดือนไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ที่มา: Tech Insider
Michael Dell ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Dell ให้สัมภาษณ์ในหลายประเด็น เรื่องที่น่าสนใจคือเขาพูดถึงบทสัมภาษณ์ของ Tim Cook เรื่อง Post-PC โดยยืนยันว่าพีซียังเป็นสิ่งสำคัญสำหรับโลกธุรกิจ
เขาบอกว่าชอบ "ยุคหลังพีซี" เพราะขายพีซีได้มากขึ้น ปัจจุบันโลกของเรามีพีซีใช้งานประมาณ 1.8 พันล้านเครื่อง ซึ่ง 600 ล้านเครื่องมีอายุกว่า 4 ปีแล้ว แนวทางของ Dell คือออกพีซีที่แรงกว่า สวยกว่า บางกว่ารุ่นที่ขายเมื่อ 5 ปีก่อนเพื่อให้คนอัพเกรดมาใช้รุ่นใหม่แทน
เดลล์รายงานว่า หลังจากบริษัทได้ประกาศขอซื้อหุ้นคืนทั้งหมดเพื่อออกจากตลาดหลักทรัพย์ไปเป็นบริษัทเอกชน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเมื่อผู้ถือหุ้นอนุมัติแผนการนี้ในเดือนกันยายน บัดนี้กระบวนการทั้งหมดเสร็จสิ้นแล้ว โดยใช้เงินทั้งหมด 24.9 พันล้านดอลลาร์
หุ้นของเดลล์ได้ทำการซื้อขายในตลาดหุ้นวันสุดท้ายวันที่ 29 ตุลาคม จากนี้เมื่อบริษัทเปลี่ยนสภาพเป็นบริษัทเอกชนก็จะมีความคล่องตัวในการบริหารจัดการมากขึ้น
Michael Dell ผู้ก่อตั้งและซีอีโอเดลล์กล่าวว่าวันนี้ถือเป็นการเข้าสู่บทใหม่ของเดลล์ ซึ่งทีมงานทั้งหมด 110,000 คนทั่วโลกพร้อมแล้วที่จะร่วมกันดำเนินงานตามกลยุทธ์ระยะยาวขององค์กร
ข่าวนี้ต่อจาก เดลล์ประกาศซื้อหุ้นคืนทั้งหมด เพื่อเตรียมออกจากตลาดหุ้นอย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้
หลังจากผู้บริหารของ Dell ประกาศแผนซื้อหุ้นคืน ก็มีปัญหาตามมามากมาย เพราะผู้ถือหุ้นจำนวนหนึ่งไม่พอใจแผนการนี้และพยายามสกัดทุกทาง แต่สุดท้ายหลังจากเจรจากันนานเกินครึ่งปี ทุกฝ่ายก็ตกลงกันได้ โดยการประชุมผู้ถือหุ้นนัดพิเศษก็อนุมัติให้ Michael Dell ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ ร่วมกับกลุ่มนักลงทุนพันธมิตร Silver Lake Partners ซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นทั้งหมดแล้ว
กลุ่มของ Michael Dell จะเสนอซื้อหุ้นที่ราคาหุ้นละ 13.75 ดอลลาร์ และจ่ายปันผลให้อีก 0.13 ดอลลาร์ มูลค่าการซื้อกิจการทั้งหมด 24.9 พันล้านดอลลาร์
เดลล์ประกาศอย่างเป็นทางการวันนี้ว่าจะมีการขอซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นเดิมเพื่อทำเรื่องออกจากตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งตรงกับข่าวก่อนหน้านี้ โดยจะทำการซื้อหุ้นคืนในราคา 13.65 ดอลลาร์ต่อหุ้น สูงกว่าราคาเฉลี่ย 90 วันย้อนหลัง 37% ซึ่งทำให้ขนาดของดีลซื้อหุ้นคืนครั้งนี้สูงถึง 24.4 พันล้านดอลลาร์
จากข่าวลือ เดลล์กำลังพิจารณาออกจากตลาดหุ้น และ ไมโครซอฟท์อาจจะเข้าหุ้นซื้อเดลล์ออกจากตลาด
ข่าววงในใหม่ล่าสุดคือ ไมเคิล เดลล์ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของเดลล์ ซึ่งปัจจุบันถือหุ้นอยู่ 15.7% อาจพิจารณาใช้เงินส่วนตัว 500-1,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อซื้อหุ้นของเดลล์คืนจากผู้ถือหุ้นในตลาดหลักทรัพย์จนสัดส่วนหุ้นของเขามากกว่า 50%
แหล่งข่าวยังบอกด้วยว่าหุ้นส่วนอื่นๆ ที่เหลือจะมีไมโครซอฟท์ และบริษัทลงทุน Silver Lake ร่วมกันลงขันรายละ 1-2 พันล้านดอลลาร์อีกด้วย
Michael Dell ที่เรารู้จักกันดีในฐานะผู้ก่อตั้งบริษัท Dell ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับ The Sunday Telegraph ว่า เขาเคยได้รับข้อเสนอเข้าซื้อกิจการจาก Autonomy มาก่อนแล้ว แต่ได้ปฏิเสธไป ก่อนที่จะถูก HP ซื้อไปในภายหลัง
สาเหตุที่ Dell ปฎิเสธเพราะ "ราคามันสูงเกินจริงอย่างยิ่ง" โดยเขายังบอกด้วยว่า มนุษย์สติดีๆ คนอื่น ก็คงคิดเหมือนกัน
Michael Dell ให้สัมภาษณ์ในรายการทีวี Bloomberg West เกี่ยวกับ Windows 8 ดังนี้
นอกจากนี้ Amit Midha ประธานของ Dell Asia ก็บอกว่า Dell จะยังทำตลาดทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตต่อไป เพียงแต่จะเน้นแท็บเล็ตมากกว่า และยังใช้ทั้งระบบปฏิบัติการจากกูเกิลและไมโครซอฟท์
ซีอีโอ Michael Dell ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวที่งาน Dell World 2011 บอกว่าบริษัทของเขากำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใช้ Windows 8 ร่วมกับไมโครซอฟท์อย่างใกล้ชิด และเราจะได้เห็นผลิตภัณฑ์ Windows 8 ที่หลากหลายจาก Dell อย่างแน่นอน
เขาพูดถึง Android ว่าเป็นโอกาสอีกทางหนึ่งของบริษัท แต่ตลาดกลับไม่ตอบรับอย่างที่คาด เขาพูดถึงความล้มเหลวของ Dell Streak ว่าบริษัทจะไม่สนใจผลิตภัณฑ์ตัวใดตัวหนึ่ง แต่จะสนใจเรื่องโซลูชันครบวงจรสำหรับลูกค้ามากกว่า
เขายังพูดถึงธุรกิจพีซีของ Dell ว่ายังเป็นยุทธศาสตร์หลักของบริษัท โดยบอกว่าตอนนี้ในโลกของเรามีพีซีจำนวน 1.5 พันล้านเครื่อง และตัวเลขนี้จะเพิ่มเป็น 2 พันล้านภายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า แสดงให้เห็นว่าพีซียังมีความสำคัญอยู่มาก
Michael Dell ซีอีโอของ Dell ออกมา "สอนมวย" คู่แข่งตัวฉกาจอย่าง HP อีกครั้ง (รอบที่เท่าไรไม่รู้) โดยบอกว่า HP ควรจะอยู่ในธุรกิจพีซีต่อไป เพราะ 95% ของซีพียู (และชิ้นส่วนอื่นๆ) ในโลกนี้อยู่ในพีซี มีเพียงแค่ 5% ที่ไปอยู่ในเซิร์ฟเวอร์ ดังนั้นถ้า HP ออกจากธุรกิจพีซี ก็จะเสียการต่อรองในเรื่องขนาด จนต้องขึ้นราคาเซิร์ฟเวอร์ของตัวเอง
Michael Dell ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Dell ยังออกมาบลัฟคู่แข่งตลอดกาล HP อยู่เรื่อยๆ โดยเฉพาะหลังการประกาศแยกธุรกิจพีซีของ HP เป็นอีกบริษัท (รอบแรก,
ข่าวการแยกธุรกิจพีซีของ HP ทำให้กระแสว่า "ยุคของพีซีจบลงแล้ว" และการก้าวเข้าสู่ "ยุคหลังพีซี" กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง
ข่าวร้อนในวันนี้คงหนีไม่พ้นข่าวเรื่อง HP กับการแยกธุรกิจพีซีออกไป (1,
Google+ ยังเป็นประเด็นข่าวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดไมเคิล เดลล์ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Dell โพสต์ข้อความสั้นๆ ลงใน Google+ ของเขา แต่มีความหมายสั่นสะเทือนทั้ง Dell กูเกิล และคู่แข่งของทั้งสองบริษัท
ไมเคิลโพสต์ว่า
I am thinking about hangouts for business. Would you like to be able to connect with your Dell service and sale teams via video directly from Dell.com?
ถ้า Google+ เปิด Business Profile Page เมื่อไร เราคงเห็น Dell เป็นพาร์ทเนอร์รายแรกๆ
Michael Dell ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Dell ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Wall Street Journal ถึงมุมมองของเขาต่อตลาดแท็บเล็ต และที่ยืนของบริษัท Dell ในอุตสาหกรรมไอที
Michael Dell ยอมรับว่าสิ่งที่เขาไม่คาดคิดมาก่อนคือการเติบโตอย่างรวดเร็วของแท็บเล็ต แม้มันจะไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการไอทีก็ตาม เขามองว่าผู้ใช้กลุ่มธุรกิจจะไม่ทิ้งพีซีหรือสมาร์ทโฟนเพื่อหันมาใช้แท็บเล็ต ทำให้เป็นผลดีต่ออุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์ที่ตลาดรวมเติบโต ไม่ได้แข่งกันเองจนผลิตภัณฑ์อย่างใดอย่างหนึ่งมียอดขายลดลง
Michael Dell บอกว่าแท็บเล็ต Android จะแซง iPad ในที่สุด แม้ระยะเวลาจะไม่ใช่ในเร็วๆ นี้ แต่ถ้ามองย้อนกลับไปเมื่อ 18 เดือนก่อน ก็ไม่มีใครเชื่อว่ามือถือ Android จะขึ้นมาเป็นที่หนึ่งของตลาดได้เช่นกัน
แม้ว่า Dell จะขายเน็ตบุ๊กและยอดขายก็ไปได้สวย แต่ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Michael Dell กลับมีความรู้สึกไม่ค่อยดีนักต่อเน็ตบุ๊ก
เขาบอกว่า "ถ้าคุณใช้โน้ตบุ๊กขนาด 14-15 นิ้วมาก่อน พอคุณไปเจอเน็ตบุ๊ก 10 นิ้ว ตอนแรกคุณจะรู้สึกว่ามันเยี่ยมมาก เล็กน่ารัก เบาสบาย แต่พอคุณใช้มันไปสัก 36 ชั่วโมง ความรู้สึกจะเปลี่ยนเป็นจอเล็กไปนะ เอาโน้ตบุ๊กตัวเก่าคืนมา"
Michael Dell ให้ข้อมูลว่าลูกค้าของเขาจำนวนไม่น้อยยังไม่พอใจกับจอที่เล็กและประสิทธิภาพที่ต่ำของเน็ตบุ๊ก มันเหมาะแก่การเป็นคอมเครื่องที่สอง หรือคอมเครื่องแรกในชีวิตเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนโน้ตบุ๊กปกติสำหรับคนที่เคยใช้โน้ตบุ๊กมาก่อนได้ Dell ไม่แนะนำให้ผู้ใช้กลุ่มนี้ซื้อเพราะคงไม่มีความสุขมากนัก