ไมโครซอฟท์ขอจดสิทธิบัตร Transparent Display for Mobile Device ที่ประกอบด้วยจอภาพแล็ปท็อปที่มีลักษณะโปร่งใส (ต้นฉบับเรียก holographic optical element หรือ HOE) และมีโปรเจกเตอร์ขนาดเล็กอยู่บริเวณคีย์บอร์ดภาพฉายขึ้นไปสะท้อน HOE ไปปรากฏหลังแล็ปท็อปในลักษณะภาพโฮโลแกรมได้ โดยภาพที่ปรากฏจะมีลักษณะกึ่งโปร่งแสง จากภาพในสิทธิบัตร (ดูได้ที่ท้ายข่าว) ผู้ใช้สามารถมองทะลุหน้าจอแล็ปท็อปไปเห็นภาพโฮโลแกรมข้างหลังได้

ไมโครซอฟท์กล่าวถึงการประยุกต์ใช้สิทธิบัตรนี้ อาทิ การแสดงผลจากแอพประเภท augmented reality บริษัทยังกล่าวเป็นนัยในเอกสารว่านี่อาจกลายเป็นอุปกรณ์พกพาประเภท HUD (heads-up display) ได้ด้วย

กระแสจอภาพความละเอียดสูง หรือที่เราคุ้นกันในชื่อ 4K ยังคงมาแรง ไม่เว้นแม้แต่รายใหญ่วงการจอภาพสำหรับมืออาชีพอย่าง Dell ก็หยิบจอรุ่นใหม่มาโชว์ในงาน SIGGRAPH 2013 เสียด้วย

โดยเจ้าจอรุ่นที่ว่าคือ UltraSharp 32 รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับความละเอียด 3840x2160 พิกเซล บนหน้าจอขนาด 32" และยังเป็นพาเนล IGZO ที่ขึ้นชื่อเรื่องการแสดงสีสันสมจริง ทั้งยังกินไฟน้อยลงอีกด้วย ในแง่ของคุณภาพ เว็บไซต์ Engadget ได้มีโอกาสไปดูจากจอจริงๆ มาและพบว่าสีสันดีขึ้นจริง โดยเฉพาะสีดำที่เข้มกว่าที่เคย

มีการเปิดเผยวันนี้กูเกิลได้เข้าซื้อหุ้นร้อยละ 6.3 ในบริษัท Himax ที่ทำหน้าที่ผลิตหน้าจอ แสดงผลใน Google Glass ของทางกูเกิลเอง ส่วนที่กูเกิลเข้าไปชื้อหุ้นนั้นเป็นส่วนของบริษัทย่อยของ Himax อีกทีก็คือ Himax Display Inc (HDI)

Himax เป็นบริษัทจากไต้หวันมีโรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่มีหลายกลุ่มถือหุ้นอยู่ หนึ่งในนั้นคือกลุ่มอินเทล การเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้อาจเป็นสัญญาณว่ากูเกิลเตรียมขยายการผลิต Google Glass ให้ทันขายปีหน้าครับ

ที่มา - Engadget

LG เปิดตัวหน้าจอชนิด LCD ที่ขนาด 5.2 นิ้ว ด้วยความละเอียดที่ 1080x1920 พิกเซล ซึ่งบางที่สุดในโลก โดยความบางจะอยู่ที่ 2.2 มิลลิเมตร และมีความกว้างของขอบจอที่ 2.3 มิลลิเมตร

LG ได้เรียกเทคโนโลยีนี้ว่า Advanced One-Glass-Solution (OGS) ซึ่งเป็นการใส่แผงวงจรคู่แบบยืดหยุ่นให้อยู่ระหว่าง LCD panel และ touch film และไม่มี sub-pixel ทำให้เม็ดสีแสดงผลที่ได้เป็นแบบ RGB อีกทั้งให้ความสว่างสูงสุดที่ 535 nit ซึ่งมากกว่าทุกจอแสดงผลแบบ 1080p ในตลาดปัจจุบัน

ภาพประกอบท้ายข่าว

ที่มา: Android Police

Apple ได้รับการอนุมัติสิทธิบัตรเทคนิคการใช้ตัวเรือน หรือขอบหน้าจอของอุปกรณ์ รับคำสั่งโดยการสัมผัส รวมทั้งแสดงผลเสมือนเป็นหน้าจอย่อย

ฟีเจอร์การสั่งงานอุปกรณ์โดยสัมผัสบริเวณตัวเรือนหรือขอบด้านข้างของหน้าจอนั้นมีใช้งานอยู่ในอุปกรณ์หลายหลายรุ่นและยี่ห้อในปัจจุบัน แต่สิ่งที่ Apple ได้รับสิทธิบัตรในคราวนี้ถือเป็นการต่อยอดจากฟีเจอร์เดิม โดยนอกจากจะฝังเซ็นเซอร์รับการสัมผัสไว้ใต้พื้นผิวบริเวณขอบหน้าจอแล้ว Apple ยังจะใช้ขอบจอส่วนนั้นแสดงผลเหมือนเป็นส่วนต่อขยายของหน้าจอหลักด้วย

มีข่าวเล็ดรอดว่า Google กำลังพัฒนาฮาร์ดแวร์ของตนเองที่ชื่อ Chromekey ซึ่งมันคืออุปกรณ์สำหรับเสียบจอทีวีหรือจอคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ เพื่อแสดงภาพจากสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นที่มีหน้าจอขนาดเล็ก

Chromekey จะสามารถแสดงหน้าต่างเว็บเบราว์เซอร์ Chrome หรือฉายเนื้อหาต่างๆ เช่น คลิปวิดีโอจาก YouTube, Google Play, Netflix รวมทั้งการใช้เว็บแอพต่างๆ บนหน้าจอทีวี หรือหน้าจอคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถรับชมเนื้อหาและข้อมูลต่างๆ ได้สะดวกสบายตายิ่งขึ้น แทนที่จะต้องเพ่งดูจากหน้าจอขนาดเล็กของสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์หน้าจอเล็ก

ทางเว็บไซต์ข่าวจากจีน Weiphone.com ได้ออกมารายงานว่า แอปเปิลได้เพิ่มจำนวนพิกเซลของหน้าจอ iPhone 5S ถึงสองเท่า เมื่อเทียบกับ iPhone 5 ทีมีอยู่ 730,000 พิกเซล จึงทำให้ iPhone 5S มีจำนวนพิกเซลของหน้าจอถึง 1.5 ล้านพิกเซล โดยที่ขนาดของหน้าจอยังคงเท่าเดิม (4 นิ้ว) ซึ่งทำให้สามารถดูรายละเอียดต่างๆ ของหน้าจอได้ชัดเจนและสวยงามมากยิ่งขึ้น

หลังจากที่มีข่าว Qualcomm โชว์หน้าจอ Mirasol ความละเอียดสูง ออกมาแล้ว ฝ่ายเจ้าตลาดกระดาษอิเล็กทรอนิกอย่าง E Ink ก็ได้เปิดตัวหน้าจอชนิดใหม่ E Ink Spectra เช่นกัน

E Ink Spectra เป็นหน้าจอชนิดสามสี โดยยังคงใช้หลักการเดิมเหมือนกับ E Ink ที่เราคุ้นเคยกันดี คือการใช้ประจุไฟฟ้าในการสลับสีขึ้นมาด้านบนให้เราเห็นเป็นภาพ โดยมีสีขาว, ดำ และสีอื่น ๆ อีกหนึ่งสี ซึ่งขณะนี้มีเพียงสีแดงเท่านั้น ทางบริษัทจะเพิ่มเติมสีอื่น ๆ ขึ้นมาในภายหลัง

แม้จะใช้หลักการเดิม แต่มีส่วนหนึ่งที่ต่างออกไปจากเดิม นั่นคือ E Ink Spectra จะใช้ถ้วยสีขนาดจิ๋วแทน (microcup ink) แทนการใช้แคปซูลสีขนาดจิ๋ว (microcapsules ink)

แม้ว่า Qualcomm ได้ประกาศเลิกผลิตจอ Mirasol ไปตั้งแต่กลางปีที่แล้ว โดยจะเน้นไปที่การขายสิทธิให้เจ้าอื่นไปผลิตแทน และในงาน SID ของปีนี้ Qualcomm ก็หยิบหน้าจอรุ่นใหม่ๆ ของ Mirasol มาแสดงในงานด้วย

เริ่มต้นกันที่ตัวแรกเป็นพาเนลจอขนาด 1.5" สำหรับใช้งานบน Smart Watch แม้จะไม่บอกความละเอียดมา (แต่ดูด้วยตาก็ละเอียดพอสมควร) หน้าจอตัวนี้ Qualcomm บอกว่ากำลังจะมีผู้ผลิตบางรายนำไปใช้กับอุปกรณ์ของตัวเองด้วย

มีข่าวลือว่าแอปเปิลเริ่มทดสอบหน้าจอ OLED ขนาด 1.5" สำหรับใช้กับ Smart Watch โดยข้อมูลดังกล่าวออกมาจากบล็อกภาษาญี่ปุ่น Macotakara ที่รวบรวมข้อมูลมาจากหนังสือพิมพ์ไต้หวัน Economic Daily News

หน้าจอ OLED ขนาด 1.5" นี้ไม่ใช่หน้าจอขนาดที่แอปเปิลตั้งใจจะใช้ตั้งแต่ต้น แต่เป็นการลดขนาดลงมาจาก 1.8" ที่ดูจะใหญ่เกินไป และหน้าจอล็อตนี้จะสั่งจาก RiTdisplay เพื่อมาผลิตสินค้าตัวอย่างจำนวน 1,000 ชิ้น โดยมีผู้ผลิตเป็น Foxconn นั่นเอง

ในงาน Society for Information Display (SID) งานเดียวกับที่ซัมซุงมาเปิดตัวจอภาพรุ่นใหม่ คู่แข่งอย่างแอลจีเองก็ไม่ได้น้อยหน้า และหยิบเทคโนโลยีจอภาพใหม่ของตัวเองมาแสดงในงานเช่นกัน คัดเฉพาะๆ อันที่น่าสนใจก็มีดังนี้ครับ

เริ่มต้นกันที่จอภาพ OLED บิดงอได้ที่ได้รับความสนใจมาเนิ่นนาน โดยตัวที่แอลจีนำมาแสดงเป็นขนาด 5" ที่ใช้พลาสติกแทนกระจก ดูจากภาพที่ออกมานอกจากจะมีความยืดหยุ่น ไม่แตกง่ายๆ แล้ว ขอบหน้าจอก็ยังบางมากอีกด้วย

ถัดมาเป็นหน้าจอขนาด 5" และ 7" ที่ใช้พาเนลแบบ Oxide TFT ทำให้ตัวจอภาพมีความเบากว่า กินไฟน้อยกว่า ที่สำคัญคือขอบบางเพียง 1 มม. เท่านั้น

ในที่สุดแอปเปิลก็ใกล้จะได้คู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อในตลาดโน้ตบุ๊กหน้าจอความละเอียดสูงแล้ว หลังจากซัมซุงเพิ่งเปิดตัวหน้าจอสำหรับโน้ตบุ๊กที่มีความละเอียดสูงถึง 3200x1800 พิกเซล (QHD) บนหน้าจอขนาดเพียง 13.3" เท่านั้น

ด้วยความละเอียดขนาดนี้บนหน้าจอ 13.3" ทำให้พาเนลหน้าจอของซัมซุงจะมีความหนาแน่นของพิกเซลสูงถึง 276 PPI ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งในขนาดใกล้เคียงกันอย่าง Retina MacBook Pro 13" (227 PPI) และ Chromebook Pixel (239 PPI) อยู่มากโข

นอกจากจะละเอียดกว่าแล้ว ซัมซุงยังเคลมว่าหน้าจอแบบใหม่นี้กินไฟน้อยกว่าหน้าจอ LCD ทั่วไปราว 30% อีกด้วย

อย่างไรก็ตามซัมซุงยังไม่ได้เผยข้อมูลว่าจะเริ่มใช้หน้าจอตัวนี้กับโน้ตบุ๊กของตัวเองเมื่อไหร่ครับ

ทางอเมซอนยอมรับเมื่อวันจันทร์ว่าได้ซื้อกิจการบริษัท Liquavista จากซัมซุง ด้วยวงเงินที่ไม่เปิดเผย (ลือกันว่าน้อยกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งน้อยกว่าที่ซัมซุงซื้อบริษัทนี้มาจาก Philips เมื่อต้นปี 2011)

เราพูดถึงเทคโนโลยีหน้าจอบิดงอได้บนสมาร์ทโฟนกันมาเนิ่นนาน แต่ในเมื่อยังไม่มีเจ้าไหนทำของจริงๆ ออกมา จึงยังไม่รู้ว่าเอาเข้าจริงแล้ว หน้าจอที่บิดงอได้นี้เมื่อนำมาใช้กับสมาร์ทโฟนแล้วจะทำอะไรได้บ้าง

ผลงานของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Queens อาจตอบคำถามนี้ได้บ้างเมื่อทีมวิจัยที่ว่าได้โชว์ MorePhone สมาร์ทโฟนต้นแบบที่ใช้หน้าจออีเปเปอร์บิดงอได้ ซึ่งแน่นอนว่านอกจากจะตกแล้วไม่แตก MorePhone ยังบิดเปลี่ยนทรงเพื่อแจ้งเตือนเมื่อยามมีสายเข้า หรือพับขอบจอเมื่อยามมีข้อความเข้ามา เป็นต้น

แน่นอนว่าด้วยสภาพของ MorePhone ตอนนี้ยังห่างไกลกับคำว่าใช้งานจริงได้มากนัก แต่แนวคิดบิดตัวเพื่อแจ้งเตือนนับว่าน่าสนใจสำหรับการนำหน้าจอบิดงอได้ไปใช้กับสมาร์ทโฟนครับ

DisplayMate บริษัทที่เชี่ยวชาญเรื่องการประมวลผลและเปรียบเทียบคุณภาพของจอภาพได้ออกมาประกาศว่าหลังจากเปรียบเทียบความแม่นยำการแสดงผลของสี, ความสว่าง, color gamut, ความประหยัดพลังงานและประสิทธิภาพการทำงานในที่แสงจ้าพบว่าจอภาพ LCD ของ iPhone 5 มีคะแนนเท่ากับจอภาพ OLED ของ Galaxy S4

ทาง DisplayMate บอกว่า iPhone 5 มีหน้าจอที่มีคุณภาพมาก แม้ว่าจะมีอายุครึ่งหนึ่งของ product cycle แล้ว ต่างจากซัมซุงที่เพิ่งปล่อยสินค้าออกมา อย่างไรก็ตามเชื่อว่าแอปเปิลจะไม่เปลี่ยนไปใช้หน้าจอที่แตกต่างในมือถือรุ่นต่อไป

ซัมซุง Galaxy S4 นั้นเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกที่ได้ใช้กระจก Gorilla Glass 3 ซึ่งได้ขึ้นชื่อว่าเป็นกระจกที่ทนทานที่สุด ณ เวลานี้ เรามาดูการทดสอบกันครับว่ามันจะทนทานขนาดไหน ด้วยการใช้ทั้งมีด กุญแจ และเหรียญขูดไปขูดมาอย่างเมามัน

ที่มา iClarified

OLED-A เว็บข่าวสำหรับวงการจอภาพ ให้ข้อมูลที่ยังไม่ยืนยันว่าซัมซุงจะเปิดตัวจอภาพ OLED ที่ใช้วัสดุเป็นพลาสติกใสแทนกระจกในงาน IFA 2013 เดือนกันยายนนี้ และจอภาพตัวนี้จะถูกใช้ใน Galaxy Note III ที่จะวางขายในไตรมาสที่สี่ของปี

การเปลี่ยนวัสดุทำจอภาพจากกระจกเป็นพลาสติก จะช่วยให้ชั้นของหน้าจอบางลง น้ำหนักเบาลง และมีความยืดหยุ่นสูงกว่า (ตกแล้วแตกยากกว่า) โดยน้ำหนักของ OLED พลาสติกจะอยู่ราว 50 กรัม ในขณะที่จอ OLED ปกติขนาดเท่ากันหนักประมาณ 100 กรัม

ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลความละเอียดของหน้าจอ แต่คาดว่าจะเป็น 1920x1080 (Full HD) ครับ

ผู้ผลิตทีวีรายใหญ่สัญชาติญี่ปุ่น Panasonic เตรียมการเลิกพัฒนา และผลิตจอภาพพลาสมาแล้ว หลังจากมีข่าวลือมาตั้งแต่ช่วงปีก่อน จนกระทั่งมีรายงานว่า Panasonic ได้ปิดศูนย์พัฒนาเกี่ยวกับจอภาพพลาสมาไปเมื่อเดือนก่อน

จากเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ทีวีพลาสมารุ่น ZT60 จะกลายเป็นรุ่นสุดท้ายของ Panasonic ที่จะใช้จอภาพพลาสมา แต่ถึงอย่างนั้นแล้ว Panasonic ก็ยังยืนยันว่าจะยังขายทีวีพลาสมาไปอีกอย่างน้อยจนถึงปี 2014

ส่วนอนาคตของธุรกิจทีวี Panasonic จะทุ่มกำลังไปที่จอภาพ OLED โดยมีแผนโยกคนส่วนหนึ่งจากฝั่งพลาสมามาเสริมทัพที่ฝั่ง OLED และภายในปีสองปีนี้ทีวี OLED จะเข้าไปทดแทนไลน์เดิมของทีวีพลาสมาทั้งหมด

เมื่อตลาดเดินมาแบบนี้ คงถึงเวลาโบกมือลาทีวีพลาสมากันจริงๆ แล้วล่ะครับ

เว็บไซต์ SamMobile รายงานข้อมูลของ Galaxy S IV ว่ามันจะใช้จอภาพ AMOLED แบบใหม่ที่เรียกว่า Green PHOLED โดยเป็นวัสดุทำแผงจอชนิดใหม่ที่ใช้สีเขียว-เหลือง ช่วยให้ AMOLED ประหยัดพลังงานกว่าเดิม 25%

นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่า S IV มีฟีเจอร์ floating touch แบบเดียวกับ Air View ของ Galaxy Note (เอาปากกาชี้โดยไม่ต้องแตะจอ) แต่ใช้กับนิ้วมือได้ด้วย ฟีเจอร์นี้คล้ายกับที่โซนี่ทำมาก่อนใน Xperia Sola

ข้อมูลอื่นๆ ได้แก่ระบบปฏิบัติการ Android 4.2.1 และอัพเป็น 4.2.2 หลังวางขายไม่นาน ส่วนติดต่อผู้ใช้ TouchWiz Nature อาจนับรุ่นเป็น Nature UX 2.0

ซัมซุงประกาศเข้าถือหุ้นในชาร์ป 3% หรือคิดเป็นเงินมูลค่า 10.4 พันล้านเยน เป้าหมายของซัมซุงคือการันตีกำลังการผลิตจอภาพแอลซีดีของชาร์ป ส่วนชาร์ปเองที่กำลังประสบภาวะการเงินก็ได้เงินมาสนับสนุนอีกก้อนใหญ่

ชาร์ปเองระบุว่าการเป็นพันธมิตรกับซัมซุงครั้งนี้ ทำให้บริษัทสามารถลงทุนในเทคโนโลยีแอลซีดีใหม่ๆ ได้ อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งในแผนปรับปรุงกิจการของตัวเองด้วย ก่อนหน้านี้ชาร์ปเพิ่งขายหุ้นส่วนหนึ่งให้ Qualcomm และมีแผนจะขายหุ้นให้อินเทลกับ Foxconn อีกด้วย

นักวิเคราะห์สายการเงินประเมินว่าเงินก้อนนี้ถือว่าน้อยมากสำหรับชาร์ป แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดีต่อแผนการฟื้นฟูบริษัท

เมื่อปลายปีที่แล้ว Dell เปิดตัวโน้ตบุ๊กพลัง Ubuntu อย่างเป็นทางการในชื่อ XPS 13 Developer Edition

สิ่งที่ลูกค้าของ XPS 13 Developer Edition บ่นมากที่สุดคือความละเอียดหน้าจอเพียง 1366x768 ซึ่งถือว่าน้อยไปแล้วสำหรับโน้ตบุ๊กไฮเอนด์

ล่าสุด Dell จึงปรับสเปกของ XPS 13 Developer Edition โดยเปลี่ยนเป็นจอ HD 1920x1080 แทน ส่วนราคาคงเดิมที่ 1,549 ดอลลาร์

Dell ยังประกาศว่าจะขาย XPS 13 Developer Edition ในยุโรป โมร็อคโค รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย ตุรกี และแอฟริกาใต้อีกด้วย ส่วนประเทศอื่นๆ ในเอเชียนั้นกำลังมองหาความเป็นไปได้อยู่ครับ

ข่าวลือที่ว่าแอปเปิลจะทำทีวีของตัวเองเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ หลังจากมีรายงานว่าเพิ่งคว้าตัวนักวิจัยสัญชาติเกาหลีใต้ James(Jueng-Gil) Lee จากแอลจีมาร่วมงานแล้ว

ก่อนหน้าที่จะถูกดึงตัวมายังแอปเปิล นอกจากจะทำงานกับแอลจีแล้ว Lee ยังเคยทำงานกับซัมซุง และ Cambridge Display Technology โดยเป็นกำลังหลักในการพัฒนา AMOLED สำหรับทีวีให้กับแอลจีอีกด้วย

ในขณะที่หลาย ๆ คนกำลังยินดีกับการมาของการแสดงผลระดับ 4K ที่ให้ภาพที่มีความละเอียดคมชัดขึ้นมากกว่าเดิม แต่หลายคนคงจะลืมนึกไปว่า ตอนนี้มีการเชื่อมต่อใดบ้างที่รองรับการใช้งานในระดับ 4K จริง ๆ

เมื่อวันที่ 24 ที่ผ่านมา VESA หรือ Video Electronics Standards Association องค์กรที่คอยออกมาตรฐานเกี่ยวกับเรื่องการแสดงผล ได้ประกาศบรรลุข้อกำหนดของมาตรฐาน Display Stream Compression Standard และเปิดรับข้อเสนอของมาตรฐานนี้แล้ว

เป้าหมายของมาตรฐาน Display Stream Compression Standard คือการเพิ่มความละเอียดของการแสดงผลผ่านส่วนเชื่อมต่อที่มีอยู่แล้ว เช่น DisplayPort และปรับปรุงเรื่องของการใช้พลังงานและฮาร์ดแวร์สำหรับอุปกรณ์พกพา

ผู้ใช้สินค้าของซัมซุงคงคุ้นเคยกับการเรียงพิกเซลบนจอภาพแบบ PenTile กันเป็นอย่างดี แต่ข่าวล่าสุดจากเว็บไซต์ DigiTimes บอกว่าซัมซุงจะเปลี่ยนวิธีเรียงพิกเซลแบบใหม่ในจอ AMOLED รุ่นหน้า

การเรียงพิกเซลแบบใหม่ของซัมซุงจะใช้รูปทรงหกเหลี่ยม (hexagon) และสี่เหลี่ยมเอียง 45 องศา (diamond) เรียงกันแบบรังผึ้ง ซึ่งจะช่วยให้เรียงพิกเซลได้แน่นถึง 440ppi ที่ทำได้ยากถ้าเรียงพิกเซลแบบตารางตามปกติ

คาดว่าจอภาพรุ่นนี้จะใช้ใน Galaxy S IV ที่มีข่าวลือออกมาเรื่อยๆ ในช่วงนี้

ที่มา - DigiTimes via Android Authority

Reuters รายงานข่าววงในว่า Sharp ผู้ผลิตจอภาพให้สินค้าของแอปเปิลรายหนึ่ง (นอกจากนี้ยังมี LG/Samsung) เริ่มลดกำลังการผลิตจอภาพขนาด 9.7" ที่ใช้กับ iPad ให้เหลือระดับต่ำสุดที่เปิดสายการผลิตได้

แหล่งข่าวของ Reuters ไม่ระบุชัดเจนว่าเหตุผลเป็นเพราะพ้นฤดูซื้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของโลกตะวันตก หรือเป็นเพราะลูกค้าเริ่มหันไปเลือก iPad mini กันแน่

ทั้งสองบริษัทไม่ให้ความเห็นต่อข่าวนี้ แต่นักวิเคราะห์จาก Macquarie Research ประเมินว่ายอดขาย iPad รุ่นใหญ่ในไตรมาสนี้ลดลงถึง 40% จาก 13 ล้านเครื่องในไตรมาสที่แล้ว เหลือเพียง 8 ล้านเครื่องเท่านั้น อย่างไรก็ตามยอดขายแท็บเล็ตรวมของแอปเปิลใกล้เคียงกับยอดเดิม เพราะ iPad mini ขายดี