มีผู้พบข้อมูล จากเอกสารในคดีฟ้องร้องที่ศาลแคลิฟอร์เนียระหว่างนักเคลื่อนไหว Laura Loomer กับ Twitter และ Facebook เมื่อวันที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา ระบุตอนหนึ่งว่า "บริษัท Twitter Inc. ได้ควบรวมกิจการ มาเป็นส่วนหนึ่งของ X Corp. และไม่มีบริษัทนี้อีกแล้ว"
ปัจจุบัน Twitter เป็นบริษัทนอกตลาดหุ้น หลังการซื้อกิจการของ Elon Musk ทำให้ไม่ต้องรายงานเปิดเผยข้อมูลต่อ SEC หรือ กลต. สหรัฐ หากมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในบริษัท ซึ่งรวมถึงการควบรวม-เปลี่ยนชื่อธุรกิจ
Twitter Circle หรือทวีตวงในที่คนไทยเรียกกัน เป็นฟีเจอร์ของทวิตเตอร์ที่สามารถทวีตและเลือกได้ว่าอยากให้เพื่อนสนิทหรือบุคคลที่เราเลือกมองเห็นข้อความที่เราทวีตได้ในหน้า For You ส่วนคนอื่นที่ไม่ได้เลือกก็จะไม่เห็นข้อความที่เราทวีต ซึ่งการใช้งานเหมือน IG Story ที่มี Close Friends และ Facebook ที่ให้เลือก Close Friends ตอนจะกดโพสต์
ผู้ใช้ Twitter รายงานว่ามีการปิดการมองเห็นข้อความที่เกี่ยวข้องกับ LGBTQ+ ในช่อง DM ของ Twitter ซึ่งทางสำนักข่าว Insider ได้ทำการทดสอบโดยส่งลิงก์ข้อความ “Here's a test tweet that has the word gay in it" ซึ่งผลปรากฏว่าลิงก์ข้อความที่มีคำว่า trans, transgender, gay, lesbian, queer, bisexual, และ intersex จะปรากฏเป็นลิงก์ URL ที่ไม่แสดงพรีวิวเว็บไซต์ แต่กลับเป็นลิงก์ข้อความอย่างเดียว ยกเว้นคำว่า "bisexuality" ที่ยังโชว์พรีวิวได้อยู่ (แต่พอลองในประเทศไทยข้อความทั้งหมดยังคงปรากฏช่องพรีวิวตามปกติอยู่ทั้งในภาษาไทยและภาษาอังกฤษ)
Tesla บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ยืนยันว่าความเป็นส่วนตัวของลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญแต่ในบทความของ Reuters ได้เขียนถึงภาพและวิดีโอในกล้องหน้ารถยนต์ที่หลุดมาจากพนักงานของ Tesla นำมาซึ่งข้อสงสัยเรื่องความปลอดภัยและการละเมิดความส่วนตัวของผู้ใช้
ช่วงปี 2019-2022 มีกลุ่มพนักงาน Tesla ได้แชร์ภาพและวิดีโอ ที่บันทึกจากกล้องหน้ารถยนต์ผ่าน Mattermost ช่องแชตภายในของบริษัท มีตั้งแต่ภาพทั่วไปเช่น ป้ายจราจร, สุนัข, ภาพคนล้ม ที่พนักงานนำมาทำเป็นมีมตลกและพูดเป็นเรื่องขำขันกัน หรือเหตุการณ์อุบัติเหตุรุนแรงที่เกิดในปี 2021 โดยเนื้อหาแสดงภาพรถ Tesla ขับด้วยความเร็วสูงอยู่ในชุมชนที่มีเด็กขี่จักรยานอยู่และเกิดอุบัติเหตุชนเข้าอย่างแรง ซึ่งวิดีโอตัวนี้ได้กระจายไปทั่วออฟฟิศ Tesla
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Twitter ได้ประกาศว่าจะทำการลบเครื่องหมาย Verified แบบเก่าและเริ่มเปิดใช้ Twitter Blue โดยการให้ผู้ใช้จ่ายเงินรายเดือน ซึ่งตามมาด้วยกระแสของบุคคลที่มีชื่อเสียงไม่พึงพอใจต่อเงื่อนไขดังกล่าวจำนวนมาก และเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา Washington Post ได้รายงานว่า Elon Musk ได้สั่งลบเครื่องหมายติ๊กถูกของสำนักข่าว New York Times หลังจากทราบว่าสำนักข่าวดังกล่าวไม่มีแผนชำระเงิน Twitter Blue
เมื่อคืนนี้ราคา Dogecoin (DOGE) ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 30% หลังจาก Elon Musk ซีอีโอ Twitter ได้ทดลองเปลี่ยนโลโก้ Twitter บนเว็บไซต์ จากนกสีฟ้ามาเป็นหมาชิบะ ที่เป็นโลโก้ของ Dogecoin มีผลกับผู้ใช้งานบางส่วน
ทั้งนี้ Twitter ไม่ได้ชี้แจงเหตุผลที่เปลี่ยนโลโก้ดังกล่าวอย่างเป็นทางการ
Dogecoin เป็นเงินคริปโตที่ Elon Musk เป็นผู้สนับสนุนในการพัฒนา ทำให้ถูกคาดการณ์ว่าเขาน่าจะนำเหรียญนี้มาใช้ประโยชน์บนแพลตฟอร์มของ Twitter แบบที่สินค้าที่ระลึกบางอย่างของ Tesla ก็รับเฉพาะเงินสกุล Dogecoin นี้เท่านั้น
บัญชีทวิตเตอร์ของสื่อใหญ่อย่าง The New York Times (@nytimes) โดนถอดเครื่องหมายติ๊กถูกสีฟ้า Verified ออกแล้ว หลังพ้นกำหนดเลิกใช้งาน Verified แบบเก่า เปลี่ยนมาเป็น Twitter Blue ในวันที่ 1 เมษายน
Elon Musk ได้โพสต์อธิบายเรื่องนี้ (แล้วลบข้อความทิ้งไป) ว่าบัญชี Verified แบบเก่าจะได้ใช้เครื่องหมายถูกสีฟ้าต่อไปอีกระยะหนึ่ง (grace period) เพื่อรอจ่ายเงินซื้อแพ็กเกจแบบใหม่ แต่ถ้าบัญชีไหนประกาศตัวว่าจะไม่ซื้อ (ซึ่ง The New York Times ประกาศ) ก็จะนำเครื่องหมาย Verified ออกทันที
หลังจาก Twitter เปิดซอร์สโค้ดอัลกอริทึมของตัวเองขึ้น GitHub เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็มีคนแกะโค้ดดูอย่างรวดเร็วว่าการทำงานของ Twitter ในยุค Elon เป็นอย่างไร
สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคงเป็นการแยกประเภทของผู้ใช้งานตามมุมมองทางการเมือง (ในสหรัฐ) มีผู้ใช้ 4 กลุ่ม ได้แก่ตัว Elon เอง (author_is_elon), กลุ่มผู้ใช้ระดับสูง (power_user), พรรคเดโมแครต (democrat) และพรรครีพับลิกัน (republican) ซึ่งจะได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างกัน มีฟีเจอร์แตกต่างกันไป (ลิงก์ไปดูโค้ดส่วนนี้)
กรณีของ Elon นั้นจะมีการเก็บสถิติด้วยว่าข้อความของเขาถูกมองเห็นมากแค่ไหน ซึ่งตรงตามข่าวหลุดก่อนหน้านี้ ว่า Elon ไม่พอใจที่ข้อความของเขามีคนเห็นน้อยกว่าที่คาด
Twitter ได้โอเพนซอร์สระบบคัดเลือกแนะนำทวีตสำหรับผู้ใช้งานแล้ว (Recommendation) ตามที่เคยประกาศก่อนหน้านี้ โดยเผยแพร่โค้ดทาง GitHub ของ Twitter ซึ่ง Twitter บอกว่าเป็นแนวทางเปิดเผยและโปร่งใสมากที่สุดเท่าที่ทำได้ ทั้งนี้มีโค้ดบางส่วนที่ไม่ได้นำมาเผยแพร่ ในส่วนที่เกี่ยวกับการจัดการความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัยผู้ใช้งาน ขณะที่ส่วนของระบบแนะนำโฆษณายังไม่ได้เผยแพร่ในรอบนี้
ตอนนี้เรียกได้ว่าเป็นช่วงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ Twitter เลยก็ว่าได้ หลังจากที่ Elon Musk ได้เข้ามาบริหาร ล่าสุดมีผู้ใช้งานสังเกตว่า Twitter ได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของ UI ในหน้าตอบกลับข้อความ โดยตัดส่วน Replying to ที่จะบอกชื่อโปรไฟล์ของคนที่เรากำลังตอบกลับอยู่ทิ้ง ทำให้ตอนนี้เวลาที่เราตอบกลับโพสต์ของคนอื่นจะไม่แสดงชื่อ รวมไปถึงหน้าตากล่องข้อความก็ไม่เหมือนกับว่าเรากำลัง Reply ใครอยู่ แต่กลับเหมือนกำลัง Tweet โพสต์ใหม่อยู่ ซึ่งตอนนี้ถ้าใครเล่นในสมาร์ตโฟนระบบ iOS จะเห็นว่าไม่ขึ้น Replying to แล้ว แต่ถ้าเล่นในเบราว์เซอร์จะยังปรากฏอยู่
นักธุรกิจ นักวิชาการ นักเขียน จำนวนมากกว่า 1,100 คน ร่วมกันเข้าชื่อในจดหมายเปิดผนึกให้วงการ AI หยุดเทรนโมเดลที่มีขนาดใหญ่กว่า GPT-4 เป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อเว้นวรรคให้สังคมโลกเตรียมพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ก่อน
รายชื่อบุคคลที่ร่วมลงชื่อมีตั้งแต่ Elon Musk, Steve Wozniak, Yuval Noah Harari ไปจนถึงอาจารย์ นักวิชาการ และพนักงานของบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้ง Microsoft, Google
นอกจากนี้ยังมีคนจากวงการ AI เอง เช่น Emad Mostaque ซีอีโอของ Stability AI, Julien Billot ซีอีโอของ Scale AI และนักวิจัยจาก DeepMind อีกหลายคน
Elon Musk ซีอีโอ Twitter ประกาศการเปลี่ยนแปลงสำคัญบนแพลตฟอร์ม มีผลตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน เป็นต้นไป ดังนี้
Musk บอกถึงสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงนี้ ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะต่อสู้กับบัญชีบอตซึ่งมีการพัฒนารูปแบบมากขึ้น
The Information และ The New York Times อ้างว่าได้เอกสารภายในของ Twitter ที่ Elon Musk พูดถึงการจ่ายผลตอบแทนเป็นหุ้นให้กับพนักงานในปัจจุบัน โดยเขาตีมูลค่าบริษัท ณ ปัจจุบันไว้ที่ 20 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งลดลงจากที่เขาซื้อกิจการมา 44 พันล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว
นอกจากนี้ Musk ยังย้ำว่าสถานะการเงินของบริษัทยังไม่มั่นคง และมีอยู่ช่วงหนึ่งที่บริษัทมีเงินสดเหลืออยู่ได้เพียง 4 เดือนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่าเห็นเส้นทางสู่เป้าหมายทำให้บริษัทมีมูลค่า 250 พันล้านดอลลาร์อย่างชัดเจน แม้เป็นเส้นทางที่ยากลำบากก็ตาม (a clear but difficult path)
เว็บข่าว Semafor มีบทความอธิบายเบื้องหลังเหตุการณ์ปี 2018 ที่ Elon Musk ลาออกจากกลุ่ม OpenAI ที่เขาร่วมก่อตั้งเมื่อปี 2015 ว่าจริงๆ แล้วเกิดจากความขัดแย้งระหว่าง Musk กับ Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI
กลุ่ม OpenAI ก่อตั้งด้วยไอเดียว่าต้องการสร้างทีมวิจัย AI ที่ก้าวหน้าโดยไม่ต้องพึ่งพาบริษัทยักษ์ใหญ่ ตัวองค์กรได้การสนับสนุนจากมหาเศรษฐี Elon Musk และ Reid Hoffman (ผู้ก่อตั้ง LinkedIn) ที่สัญญาไว้ในปี 2015 ว่าจะให้เงินสนับสนุน 1 พันล้านดอลลาร์
หลังจาก Elon Musk ประกาศนโยบาย Twitter Blue พร้อมเปิดเผยว่ามีแผนจะยกเลิกระบบ “ติ๊กถูกสีฟ้า” แบบเก่า (legacy) ล่าสุดทาง Twitter ได้ประกาศว่าวันที่ 1 เมษายน 2566 จะมีการยุติเครื่องหมายสีฟ้าแบบเดิมออก โดยจะมีการแจ้งเตือนไปยังผู้ใช้ที่มีเครื่องหมายสีฟ้าแบบเก่า
Elon Musk ซีอีโอ Twitter เปิดเผยว่า Twitter จะโอเพนซอร์ส โค้ดทั้งหมดที่ใช้ในระบบแนะนำทวีตกับผู้ใช้งานในวันที่ 31 มีนาคมนี้ แต่ยังไม่ได้ให้รายละเอียดว่าจะเผยแพร่ทางไหน และเวลาใด ทั้งนี้คาดว่าจะผ่านทาง GitHub ของ Twitter
การโอเพนซอร์สอัลกอริทึมที่ใช้คัดเลือกทวีตของ Twitter เป็นหนึ่งในแนวคิดที่ Elon Musk พูดถึงมานานแล้ว ตั้งแต่ก่อนจะซื้อกิจการสำเร็จ ซึ่งเขามองว่าช่วยเพิ่มความโปร่งใส และเพิ่มความเชื่อถือในแพลตฟอร์ม
ผู้ติดตาม Tesla ช่วงหลังอาจไม่ทราบว่าในยุคแรก Elon Musk ได้เขียน "Master Plan" หรือแผนระยะยาวของบริษัท Tesla ไว้ 2 ตอน ซึ่งตอนแรกเขียนไว้เกือบ 20 ปีแล้ว ส่วนตอนที่สองเขียนเมื่อกลางปี 2016 และล่าสุดที่งาน Investor Day เช้าวันนี้ได้กล่าวถึงตอนที่สาม
ผมจะสรุปแผนตอนที่หนึ่งและสองให้คร่าวๆ ดังนี้
The Information รายงานอ้างอิงคนใกล้ชิดว่า Elon Musk กำลังตั้งทีมพัฒนาแชทบอท AI แบบเดียวกับ ChatGPT ออกมา โดยพยายามชวน Igor Babuschkin นักวิจัยที่เพิ่งลาออกจาก DeepMind มาร่วมทีม
ก่อนหน้านี้ Musk เคยวิจารณ์ ChatGPT ที่มีข้อกำหนดว่าจะไม่ให้ตัวแชท ตอบโต้กับผู้ใช้ในเชิงหยาบคายหรือสร้างความไม่พอใจ ว่า OpenAI "เทรน AI ให้ woke" (น่าจะหมายถึงในเชิงการเป็น AI ที่ยึดกับ Political Correctness) พร้อมสื่อว่าอยากจะทำ AI ที่เปิดกว้างในบางเรื่องมากกว่านี้
แม้ Musk จะเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI แต่ก็ลาออก และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทมานานแล้ว
The verge รายงานว่า Twitter ปลดพนักงานออกอีกหลายสิบคน (dozens) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีทั้งฝ่ายวิศวกรรมและฝ่ายขาย หนึ่งในนั้นมีหัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมที่รับผิดชอบด้านโฆษณา ซึ่งรายงานตรงต่อ Elon Musk ด้วย
ตามข่าวยังบอกว่า Musk กำหนดเป้าให้ทีมโฆษณาปรับปรุงหน้าตาของโฆษณาใน feed หลักของ Twitter ใหม่ ให้หน้าตาคล้ายโฆษณาค้นหาของกูเกิลที่อิงจากคีย์เวิร์ด แทนที่จะอิงจากโปรไฟล์และกิจกรรมของผู้ใช้ และกำหนดให้ทำเสร็จภายใน 1 สัปดาห์
Musk ประกาศเรื่องการปรับปรุงโฆษณาผ่านโพสต์ของเขาเอง แต่ไม่ได้พูดเรื่องการปลดคน
Elon Musk ไปพูดที่งาน World Government Summit ที่ดูไบผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เล่าถึง Twitter ว่าอยู่ระหว่างการปรับองค์กรให้เสถียร และกำลังวางแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ กับทำให้สถานะทางการเงินแข็งแรง ซึ่งน่าจะใช้เวลาจนถึงสิ้นปี 2023 และเขาจึงจะหาตัวซีอีโอมาทำหน้าที่แทน
Elon เคยประกาศไว้ในเดือนพฤศจิกายน 2022 ว่าจะหาคนมาเป็นซีอีโอแทน แต่ไม่เคยระบุช่วงเวลาที่แน่ชัด ปัจจุบันเขานั่งตำแหน่งซีอีโอของ 3 บริษัทคือ Twitter, SpaceX, Tesla โดยบอกว่าเขาไม่จำเป็นต้องใช้เวลากับ SpaceX มากนัก ส่วน Tesla ก็จำเป็นต้องพึ่งพาเขาน้อยลงในช่วงหลัง เพราะสถานการณ์ของบริษัทเสถียรขึ้นกว่าช่วงปี 2017-2019 มากแล้ว
สืบเนื่องจากข่าวลือ Elon Musk ไล่วิศวกร Twitter ออก เหตุเพราะตอบไม่ได้ว่าทำไมยอดวิวของเขาลดลง
เว็บไซต์ Platformer ยังตามประเด็นนี้ต่อ โดยบอกว่าช่วงการแข่ง Super Bowl ระหว่างทีม Philadelphia Eagles และ Kansas City Chiefs ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทย ตัวของ Elon นั้นโพสต์ข้อความเชียร์ทีม Eagles ผ่านทวิตเตอร์ มีคนเห็น 9.1 ล้านครั้ง จากนั้นเขาลบข้อความออกโดยไม่ทราบสาเหตุ
เหตุผลจริงๆ เป็นเพราะประธานาธิบดี Joe Biden ก็โพสต์เชียร์ Eagles ด้วยเช่นกัน แต่ดันมีคนมองเห็นมากถึง 29 ล้านครั้ง ทั้งที่มีจำนวนผู้ติดตามน้อยกว่า (Biden มี 29.5 ล้านคน Elon มี 128.9 ล้าน) ทำให้ Elon ไม่พอใจในเรื่องนี้
Steve Wozniak ผู้ร่วมก่อตั้งแอปเปิล ให้สัมภาษณ์กับรายการ Squawk Box ทาง CNBC โดยช่วงหนึ่งเปรียบเทียบ Elon Musk กับเพื่อนผู้ร่วมก่อตั้งแอปเปิล Steve Jobs ว่ามีความเหมือน-ต่างอย่างไร
Wozniak บอกว่า เขาจัดกลุ่มให้สองคนนี้เหมือนกัน ตรงที่เป็นคนมีความสามารถการสื่อสารโน้มน้าวผู้คน ชอบเป็นผู้นำทางความคิด มีคนพร้อมเชื่อและทำตามไม่ว่าเขาจะบอกอย่างไร
เว็บข่าว Platformer รายงานว่า Elon Musk ไล่วิศวกรรายหนึ่งของ Twitter ออก เนื่องจากไม่พอใจคำตอบว่าทำไมความสนใจในบัญชีของเขาลดลงมาก
เหตุการณ์เริ่มจากสัปดาห์ที่แล้ว บัญชีนักการเมือง-ผู้นำความคิดฝ่ายขวาของสหรัฐ วิจารณ์กันว่า Twitter ลดการแสดงผลข้อความของพวกเขาลง ทำให้ Musk ที่ติดตามบัญชีเหล่านี้หันมาสนใจหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงขั้นเปลี่ยนบัญชีเป็น private ชั่วคราวเพื่อทดลองผลลัพธ์การปรับค่าแบบต่างๆ
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (7 กุมภาพันธ์) Musk เรียกวิศวกรจำนวนหนึ่งเข้ามาประชุม และถามว่าทำไมตัวเลข engagement ของเขาถึงลดลง เขาถามพนักงานว่าบัญชีของเขามีคนติดตามถึง 100 ล้านคน แต่มีตัวเลขจำนวนครั้งที่แสดงผล (impression) แค่หลักหมื่นเท่านั้น
แนวทางหนึ่งที่ Elon Musk ซีอีโอ Twitter พูดมาตลอด คือต้องการหารายได้จากบริการ subscription Twitter Blue ให้มากขึ้น แต่ก็ไม่มีตัวเลขชัดเจนว่าถึงตอนนี้มีคนยอมจ่ายเงินเล่น Twitter โดยสมัครใช้ Twitter Blue แค่ไหน
The Information อ้างเอกสารภายในของ Twitter ระบุตัวเลขช่วงกลางเดือนมกราคม มีผู้สมัครใช้ Twitter Blue เฉพาะในอเมริกาประมาณ 180,000 คน เอกสารอีกส่วนบอกว่า มีผู้สมัครใช้งานในอเมริกา 62% ของทั้งหมด แปลว่ามีผู้สมัครใช้รวมทั่วโลก 290,000 คน โดยประมาณ
ประเด็นหนึ่งที่หลายคนอาจสงสัย ว่าคนที่รับบทซีอีโอทั้ง Tesla, SpaceX และล่าสุดไปซื้อ Twitter มาแล้วก็เป็นซีอีโอเองด้วยอย่าง Elon Musk เขาทำงานวันละกี่ชั่วโมง และได้นอนบ้างหรือไม่?
The Wall Street Journal ไปหาคำตอบเรื่องนี้ ซึ่งเริ่มต้นจากเขาบ่นกับทนายความ ขณะไปให้การที่ศาลซานฟรานซิสโก คดีทวีตซื้อหุ้นคืนเมื่อปี 2018 (ซึ่งสุดท้ายศาลยกคำร้อง) ว่าเมื่อคืนเขานอนไม่หลับ แต่จะพยายามทำดีที่สุดในการให้การ และขอโทษหากอยู่ไม่นิ่ง เพราะตอนนี้ปวดหลังด้วย