WhatsApp ได้ทำการออกอัพเดตนโยบายความเป็นส่วนตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี โดยรอบนี้ก็จะเน้นเรื่องการเชื่อมต่อกับ Facebook ซึ่งเป็นบริการของบริษัทแม่ให้มากขึ้น

ส่วนหนึ่งที่สำคัญที่สุดของนโยบายความเป็นส่วนตัวใหม่ของ WhatsApp นี้คือ บริการ WhatsApp จะเริ่มแชร์ข้อมูลเบอร์โทรศัพท์กับ Facebook แล้ว เพื่อทำการโฆษณาและแนะนำเพื่อนบน Facebook ได้ดีขึ้น (แต่ WhatsApp ยังฟรีไม่มีโฆษณาต่อไป) นอกจากนี้ยังนำมาใช้เพื่อการปรับปรุงข้อมูลทางสถิติ และป้องกันสแปมด้วย ซึ่งทาง WhatsApp ก็ได้ทำปุ่มปิดการใช้งานเบอร์โทรศัพท์สำหรับการโฆษณาไว้ให้ผู้ใช้ที่ไม่ต้องการให้ใช้ในลักษณะดังกล่าว (แต่ Facebook ก็ยังสามารถนำไปใช้ในการทำอย่างอื่นได้)

Facebook ได้เริ่มทดสอบฟีเจอร์ Add Contact หรือเพิ่มเข้าในรายชื่อสำหรับแอพ Facebook Messenger แล้ว โดยฟีเจอร์นี้คือการให้ผู้ใช้เพิ่มเพื่อนเพื่อติดต่อกันเฉพาะใน Facebook Messenger จากปกติที่ผู้ใช้ Facebook ที่ไม่ได้เป็นเพื่อนกัน หากจะส่งข้อความคุยกันผ่าน Messenger ก็จะต้องใช้ message request

การใส่ฟีเจอร์เพิ่มเพื่อนเพื่อให้ติดต่อเฉพาะใน Facebook Messenger นั้นก็จะทำให้เป็นเพื่อนกันเฉพาะใน Messenger ไม่เกี่ยวกับ Facebook หลัก นอกจากนี้จะยังทำให้ Messenger เป็นอิสระและไม่ขึ้นกับบริการหลักของ Facebook มากขึ้นอีกด้วย

ที่มา - BuzzFeed

Mashable รายงานว่า ผู้ใช้ Facebook ชาวออสเตรเลียบางคนได้เริ่มสังเกตว่า แอพ Facebook บนมือถือนั้นเล่นวิดีโอทุกประเภทอัตโนมัติแบบมีเสียง ไม่ว่าจะเป็นโฆษณา และ Facebook Live จากเดิมที่จะเป็นการเล่นแบบไม่มีเสียงเท่านั้น

โฆษกของ Facebook ก็ได้ยืนยันว่า ทางบริษัทได้เริ่มทดสอบการเล่นวิดีโออัตโนมัติแบบมีเสียงจริง โดยจะเริ่มทดสอบกับผู้ใช้กลุ่มเล็ก ๆ ก่อน โดยผู้ใช้ที่ไม่ต้องการให้เล่นอัตโนมัติแบบมีเสียงก็สามารถปิดได้ในการตั้งค่า

ที่มา - Mashable

กว่าสองปีมาแล้วที่ Facebook พยายามกระตุ้นให้เกิดความหลากหลายของพนักงานในองค์กร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ชายและเป็นคนผิวขาว แต่ตัวเลขที่ออกมาไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร

เดือนที่แล้วทาง Facebook ออกมาบอกว่าในบรรดาพนักงานในสหรัฐฯ นั้น มี 4% เป็นคนเชื้อชาติฮิสแปนิค 2% เป็นคนผิวสี ซึ่งมีจำนวนเท่ากับปีที่แล้ว ส่วนผู้หญิงนับจากสัดส่วนพนักงาน Facebook ทั่วโลก มี 33% กระเตื้องขึ้นมาจากปี 2014 เพียง 2% แม้มีนโยบายกระตุ้นให้รับคนเข้าทำงานที่หลากหลายขึ้นก็ตาม

อดีตเจ้าหน้าที่สรรหาพนักงานของ Facebook บอกว่า มาตรการกระตุ้นดังกล่าวยังไม่สามารถเอาชนะอคติที่มีอยู่ทั่วไปในองค์กรได้ และอีกอย่าง Facebook (สำนักงานใหญ่) ก็คัดคนที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯเท่านั้น

Facebook และ Unity เจ้าของเอนจินพัฒนาเกมยอดนิยม จับมือกันเพื่อสนับสนุนนักพัฒนาเกม ให้สามารถเข้าถึงคนเล่นเกมได้มากขึ้นผ่านช่องทางของ Facebook ซึ่งมีคนเชื่อมต่อบัญชี Facebook เข้ากับเกมต่างๆ กว่า 650 ล้านคน ต่อเดือน

Facebook จะเปิดให้ผู้พัฒนาเกมจำนวนหนึ่ง เข้าร่วมทดสอบฟังก์ชันของ Facebook บนซอฟต์แวร์ Unity 5.4 โดยสามารถลงทะเบียนได้ถึงวันที่ 31 สิงหาคม ที่นี่

ที่มา - Facebook for Developers

เมื่อสองเดือนก่อน Facebook ได้ปล่อยแอพ Facebook แบบ UWP ออกเวอร์ชันเบต้า บน Windows 10 Mobile แล้ว ที่สำคัญคือ Facebook ได้เป็นผู้พัฒนาด้วยตนเอง ซึ่งเวอร์ชันก่อนหน้านี้จะเป็นไมโครซอฟท์

ล่าสุดวันนี้ ฤกษ์งามยามดี Facebook ได้ปลดป้ายเบต้าออกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมก้าวเข้าสู่เวอร์ชันเสถียร หมายเลขเวอร์ชันที่ได้จะเป็น 61.556.55225.0 ส่วนรายละเอียดการปรับปรุงดูได้จากที่มาข่าว

สำหรับผู้ใช้งาน Windows 10 Mobile สามารถดาวน์โหลดได้จาก ที่นี่

ที่มา - WinBeta

Facebook’s Artificial Intelligence Research (FAIR) หน่วยวิจัยของเฟซบุ๊กเปิดซอร์สโค้ด fastText ระบบกลุ่มประโยค (text classification) และหาคำสำคัญ (representation)

จุดขายอย่างหนึ่งของ fastText คือการทำงานด้วยความเร็วสูง ทางเฟซบุ๊กระบุว่าสามารถฝึกกับข้อมูลมากกว่าพันล้านคำได้ภายในสิบนาที บนเครื่องมัลติคอร์ธรรมดา เทียบกับระบบจัดกลุ่มข้อความอื่นๆ ที่อาจจะต้องใช้เวลานับชั่วโมงหรือนาที

สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้จาก GitHub ตัวโค้ดเป็น C++ ที่ต้องการคอมไพล์เลอร์ใหม่สักหน่อย เพราะใช้ฟีเจอร์ของ C++11

Facebook ได้ปรับนโยบายการใช้งานของบอทใน Messenger ใหม่ เพื่อเป็นการเปิดกว้างสำหรับการใช้งานบอทในแพลตฟอร์มส่งข้อความมากขึ้น โดยรอบนี้จะอนุญาตให้แชทบอทส่งข้อความที่เป็นแบบการบอกรับสมาชิก, ส่งข้อความเกี่ยวกับโปรโมชั่นได้แล้ว และปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบบอท

Adblock Plus เพิ่งจะออกฟิลเตอร์ใหม่สำหรับกรองโฆษณาบน Facebook ได้ไม่นานนัก ล่าสุดนี้ทาง Facebook ก็โต้กลับว่า ฟิลเตอร์ใหม่ของ AdBlock Plus นี้จะทำการปิดกั้นโพสต์อื่น ๆ ที่ไม่ใช่โฆษณาด้วย และเตรียมจะปิดการทำงานอีกครั้ง

Facebook ได้ให้ข้อมูลกับ TechCrunch ว่า บริษัทที่ทำ ad blocker ไม่ใช่แค่เพียงปิดกั้นโฆษณาบน Facebook แต่ยังปิดกั้นโพสต์จากเพื่อนและเพจด้วย ซึ่งมันไม่ใช่ประสบการณ์ที่ดีสำหรับผู้ใช้ และทางบริษัทเตรียมจะแก้ปัญหานี้แล้ว

นอกจากนี้ Facebook ยังบอกอีกว่า พวกตัวปิดกั้นโฆษณาเป็นอุปกรณ์ที่ทื่อ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ Facebook เลือกโฟกัสกับการทำอย่างอื่น เช่น เครื่องมือปรับค่าโฆษณาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถควบคุมได้

ไม่กี่วันก่อน Facebook เพิ่งจะออกประกาศแสดงโฆษณาให้คนใช้โปรแกรมปิดกั้นโฆษณา และล่าสุดอีกฝั่งก็คือฝ่ายที่ทำโปรแกรมปิดกั้นโฆษณาเริ่มออกมาตอบโต้แล้ว

ทาง Adblock Plus ได้โพสต์รายละเอียดว่า ตอนนี้ได้ทำฟิลเตอร์ใหม่สำหรับกรองโฆษณาใส่เข้าไปใน EasyList เมื่อ 15 นาทีที่แล้ว โดยวิธีใช้คือให้อัพเดตรายการฟิลเตอร์ได้เลย หรือรออีกไม่กี่วันก็จะอัพเดตให้เองอัตโนมัติ โดยฟิลเตอร์ล่าสุดนี้ยังไม่ได้ทดลองใช้มากนัก ฉะนั้นอาจจะทำให้ยังไม่ได้ผลที่ดี

Facebook ประกาศเตรียมจะปรับปรุง News Feed อีกครั้ง เพื่อให้เน้นการแสดงเรื่องราวที่ให้ข้อมูลมากกว่าเดิม ซึ่งจากที่สอบถามผู้ใช้ผ่านทาง Feed Quality Program ว่าจะปรับปรุงสิ่งที่เห็นบน Facebook ได้อย่างไร เช่น เมื่อเจอเรื่องราวที่มีคนสนใจมาก ก็จะถามว่าทำไมถึงสนใจเรื่องเหล่านี้ ซึ่งส่วนใหญ่ตอบว่าเรื่องราวเหล่านั้นทำให้พวกเขาได้ข้อมูลเกี่ยวกับโลกรอบตัว

Facebook 360 เปิดตัวคุณสมบัติใหม่สำหรับผู้เผยแพร่วิดีโอ 360 องศา ที่น่าจะมีประโยชน์สำหรับนักการตลาดและผู้สร้างเนื้อหา อย่าง:

• Guide เจ้าของวิดีโอสามารถปักจุดตำแหน่งของวิดีโอให้กล้องหมุนไปตามตำแหน่งที่ต้องการตลอดทั้งเส้นเรื่องได้
• Heatmap เมื่อวิดีโอถูกเผยแพร่แล้ว สิ่งนี้จะช่วยส่วนไหนของวิดีโอ 360 องศาที่ผู้ใช้รับชมมากที่สุดเป็นเส้นแถบสี ซึ่งจะพร้อมใช้กับทุกวิดีโอที่โพสต์หลังวันที่ 1 พฤษภาคมที่มีผู้ชมแบบ unique visitor มากกว่า 50,000 คน

และอีกหนึ่งบล็อกโพสต์จาก Facebook ว่าด้วยเรื่องวิดีโอรวมทั้งระบบ ระบุว่าได้เพิ่มตัวชี้วัดใหม่ ทั้ง:

• แตกย่อยเป็นดู demographic ทั้งอายุและภูมิลำเนาของผู้ชมแต่ละวิดีโอได้
• Live video ก็วัด engagement ทั้งการคอมเมนต์, แสดงอารมณ์ และแชร์ได้แล้ว ดูเป็นกราฟได้ตั้งแต่เริ่ม live จนจบ
• เทียบได้ระหว่างวิดีโอต้นทางและที่แชร์ออกไป บอกได้อีกว่าคนดูแบบเปิดหรือปิดเสียงมากกว่ากัน
• ตัวชี้วัดเหล่านี้กดดูได้จาก Video Detail, Insight API และ export ออกไปทำงานต่อได้ด้วยครับ

อย่างที่ทราบกันว่ารายได้สำคัญของเฟซบุ๊กคือโฆษณา ขณะที่ Ad Block ก็กำลังเป็นหนามยอกอกสำหรับผู้ผลิตคอนเทนท์ต่างๆ ที่หารายได้จากโฆษณา

ล่าสุดเฟซบุ๊กเปิดเผยว่าจะใช้ซอฟต์แวร์เพื่อแสดงโฆษณา กับผู้ใช้ที่ใช้ Ad Block บนเดสก์ท็อป แตกต่างจากผู้ผลิตคอนเทนท์หลายเจ้า ที่เลือกจะไม่แสดงเนื้อหา และให้ผู้ใช้ปิด Ad Block เพื่อเข้าชมเว็บไซต์

ทั้งนี้ถึงแม้รายได้กว่า 84% ของเฟซบุ๊กจะมาจากโฆษณาบนโทรศัพท์มือถือ แต่หากคิดเป็นตัวเลขแล้ว รายได้จากโฆษณาบนเดสก์ท็อปก็สูงถึงกว่า 1 พันล้านเหรียญเลยทีเดียว

ที่มา - Recode

สืบเนื่องจาก Internet.org ถูกสั่งแบนในอินเดียเมื่อปลายปีที่แล้ว ล่าสุดเฟซบุ๊กพยายามเข้าถึงการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของชาวอินเดียอีกครั้ง ด้วยการร่วมมือกับ ISP, โอเปอเรเตอร์และนักลงทุนท้องถิ่น ในการทดสอบการให้บริการ Express Wifi by Facebook แต่คราวนี้ไม่ฟรีเหมือนเดิม

Express Wifi เป็นบริการ Wi-Fi สาธารณะที่ชาวอินเดียจะต้องซื้อแพ็คเกจจากผู้ให้บริการท้องถิ่นเพื่อใช้งาน โดยในช่วงการทดสอบให้บริการนี้ ได้มีการติดตั้ง HotSpot กว่า 125 จุดในพื้นที่ชนบทด้วย

ที่มา - Express Wifi by Facebook via BBC

เฟซบุ๊กเปิดเผยผลการสำรวจข้อมูลจากการแสดงความรู้สึกบนสเตตัสจากคนที่เลี้ยงแมวและสุนัข เนื่องในวันแมวโลกเมื่อวานนี้ โดยเฟซบุ๊กให้เหตุผลในการสำรวจครั้งนี้ว่า อยากรู้ว่าภาพลักษณ์ของแมวที่ดูเก็บตัว โดดเดี่ยว และของสุนัขที่ร่าเริง เข้าสังคมมากกว่า จะส่งผลหรือมีสะท้อนได้จากตัวเจ้าของมากน้อยแค่ไหนและพบว่า คนเลี้ยงแมวส่วนใหญ่มีแนวโน้มจะแสดงความรู้สึกด้านลบอย่างเหนื่อย หงุดหงิด และเศร้ามากกว่าคนที่เลี้ยงสุนัข

เหมาทั้งบริษัทอีกราย เมื่อ Eyegroove แอพถ่ายวิดีโอเซลฟี่ประกาศที่หน้าเว็บตนว่า ทั้งทีมกำลังจะไปร่วมพัฒนาสิ่งใหม่กับ Facebook ครับ

เดิมที่แอพนี้ถูกขนานนามว่าเป็น "Instagram for interactive music" ที่เปิดทางให้ผู้ใช้ได้ถ่ายเซลฟี่เป็นวิดีโอตนร้องคลอไปกับเพลง พร้อมใส่ลูกเล่นวิดีโอแชร์ให้เพื่อนได้ Eyegroove เป็นผลงานของ Scott Snibbe ศิลปินคนเดียวกับที่ทำแอพ Biophilia ให้กับ Bjork ศิลปินสุดติสต์ชาวไอซ์แลนด์

ทั้งทีม Eyegroove มีกันไม่ถึง 12 คน แต่ตลอดทางที่ผ่านมาได้เงินลงทุนรอบ seed funding กว่า 3.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนดีลแบบ acqui-hire กับ Facebook รอบนี้ไม่ปรากฏตัวเลขเม็ดเงินครับ

หลังจากที่ Facebook ซื้อแอพ MSQRD ไปเมื่อเดือนมีนาคม ล่าสุดก็ได้นำฟีเจอร์จากแอพดังกล่าวมาผนวกเข้ากับแอพของ Facebook เองแล้ว

เริ่มจากการทำ Live Filter ด้วยธีมโอลิมปิคขึ้นมาเพื่อให้ผู้ใช้ร่วมเชียร์กันได้ผ่านทาง Facebook ในช่วงนี้ เพียงผู้ใช้เปิดหน้าแรกของแอพ Facebook บนมือถือขึ้นมา ก็จะพบกับส่วนใช้งานฟีเจอร์ด้านบนสุดของ News Feed จากนั้นเลือกเปิดกล้องหน้าเพื่อใช้งานฟีเจอร์ Live Filter ได้ทันที ปัดซ้ายขวาเพื่อเปลี่ยนภาพหรืออนิเมชันต่างๆ ที่ Facebook เตรียมไว้ และเลือกบันทึกเป็นวิดีโอหรือภาพนิ่งเพื่อโพสต์ลง Facebook ได้อีกด้วย

สำหรับฟีเจอร์นี้ยังอยู่ในระหว่างการทดสอบการใช้งาน โดยปล่อยให้ในประเทศแคนาดาและบราซิลเท่านั้น และสามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ได้จนถึงวันสุดท้ายของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคนั่นเอง

เฟซบุ๊กประกาศมาตรการเพิ่มเติมในการลดการแสดงเว็บ clickbait บน timeline โดยอาศัยการวิเคราะห์หัวข่าว ระบบของเฟซบุ๊กวิเคราะห์ว่าหัวข่าวมีแนวทางปิดบังข้อมูลที่ควรบอกให้คนอ่านได้รับรู้ หรือหัวข่าวชี้นำให้เข้าใจผิด

กระบวนการจับหัวข่าวแบบนี้เป็นรูปแบบเดียวกับการจับสแปมในอีเมลที่มักจับรูปแบบของประโยคที่คล้ายๆ กัน

จากนั้นเฟซบุ๊กจะหาเว็บต้นทางและเพจที่โพสหัวข้อมีแนวโน้ม clickbait เช่นนี้บ่อยๆ และเมื่อข้อมูลมากพอ เว็บเหล่านั้นจะถูกลงโทษด้วยการแสดงผลในพื้นที่ด้านล่าง timeline ลงไปทำให้คนเห็นได้น้อยลง ระบบนี้จะปรับตัวไปเรื่อยๆ หากเว็บหรือเพจหยุดโพสหัวข่าวที่ตรงเงื่อนไขของเฟซบุ๊กค่าจะกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง

ไม่แน่ใจว่าระบบนี้อ่านภาษาไทยได้ไหม เสี่ยงกันเองครับ

ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเท่าไหร่เมื่อโฆษณาคือรายได้หลักของเฟซบุ๊ก หลังเว็บไซต์ Advertising Age รายงานว่าเฟซบุ๊ก กำลังทดสอบการแสดงโฆษณา ในช่วงการถ่ายทอดสด (Facebook Live)

เนื่องจากเฟซบุ๊กทดสอบในวงแคบ รายละเอียดของการแสดงโฆษณานี้ยังไม่มีออกมามากนัก Advertising Age ระบุแต่เพียงว่าโฆษณาจะแสดงผลหลัง live ไปได้ประมาณ 5 นาทีและระยะเวลาที่นานที่สุดของโฆษณาคือ 15 วินาที โดยผู้ที่ถ่ายทอดสดสามารถเลือกประเภทของโฆษณาที่จะนำมาแสดงได้ด้วย

ส่วนเรื่องรายได้ของผู้ถ่ายทอดสดจากการแสดงโฆษณา รวมถึงความสามารถในการเลือกพักเบรกเพื่อแสดงโฆษณานั้น ณ ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดที่แน่นอนครับ

ต้องยอมรับว่าถ้าไม่มี Facebook หลายๆ คนก็คงไม่รู้ว่าเพื่อนของเรามีวันเกิดวันไหน ล่าสุด Facebook ปล่อยฟีเจอร์รวบรวมคำอวยพรในวันเกิดที่เพื่อนๆ โพสต์ลงเป็นหน้าวอลล์เราเป็นวิดิโอสรุปประมาณ 45 วินาที เป็นของขวัญวันเกิด โดยเมื่อผู้ใช้เปิดหน้า News Feed หลังจากวันเกิดแล้ว Facebook จะแสดงคลิปดังกล่าวขึ้นมาให้อัตโนมัติด้านบนสุดของ News Feed ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกแก้ไขรายละเอียดของคลิปได้ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ ความเห็นหรือคำอวยพรที่อยากจะให้แสดงในคลิป จากนั้นก็เลือกแชร์ได้ตามปกติเพื่อเป็นคำขอบคุณแก่ผู้ที่มาอวยพรวันเกิดบน Facebook ให้เรานั่นเอง

ที่มา : engadget

ต่อไปนี้หากลูกหลานของครอบครัวไหนได้ซื้อเกมหรือแอพภายใน Facebook โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ปกครอง สามารถขอรับเงินคืนได้แล้ว

เมื่อปี 2012 ศาลแคลิฟอร์เนียรับแจ้งจากผู้ปกครองว่าต้องการขอเงินคืนจาก Facebook เนื่องจากลูกของเค้าได้กดซื้อของในเกมด้วย Facebook Credits โดยหักเงินผ่านบัตรเครดิตของพ่อแม่โดยไม่ได้รับอนุญาต ล่าสุดศาลแคลิฟอร์เนียพิพากษาได้สั่งให้ Facebook คืนเงินให้กับผู้ปกครองตามที่ร้องขอ ทนายความของพ่อแม่ได้บอกกับศาลว่าเด็กเป็นผู้เยาว์และยังไม่เข้าใจถึงการชำระเงินว่าเป็นเงินของพ่อแม่เขาเอง ซึ่งทนายความของฝั่ง Facebook ก็พยายามทำความเข้าใจในเหตุการณ์ดังกล่าวเช่นกัน

จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ Facebook เปิดหน้าช่วยเหลือสำหรับพ่อแม่ที่ต้องการรับเงินคืนหากเด็กๆ อายุต่ำกว่า 18 ปีได้กดซื้อแอพหรือเกมบน Facebook โดยไม่ได้รับอนุญาต สามารถเข้าไปแจ้งเรื่องให้ Facebook ทราบได้ที่ https://www.facebook.com/help/contact/830921593618796

จากข่าว Facebook รายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุด ที่ออกมาเมื่อคืนนี้ มีประเด็นน่าสนใจคือ ซีเอฟโอ Dave Wehner เตือนนักลงทุนว่า "ไม่ควรคาดหวังเห็นรายได้เติบโตในระดับสูงต่อไปเรื่อยๆ เพราะตอนนี้ปริมาณโฆษณาที่ปรากฎใน News Feed ก็มีจำนวนสูงมากแล้ว"

ประโยคดังกล่าวถูกนักลงทุนจำนวนไม่น้อยตั้งคำถามว่าหมายถึงอะไรกันแน่ ซึ่งเว็บไซต์ Recode อธิบายว่าพื้นที่โฆษณาบน News Feed ของ Facebook ใกล้เต็มแล้วเมื่อเทียบกับจำนวนผู้ใช้ในปัจจุบัน

Facebook รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2016 รายได้รวม 6,239 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 63% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 2,055 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 186% โดยรายได้จากการโฆษณาผ่านมือถือนั้นคิดเป็น 84% ของรายได้รวม

จำนวนผู้ใช้งาน Facebook ยังคงรักษาอัตราการเติบโตได้คงที่ มีผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน (Monthly active users - MAUs) 1,712 ล้านคน เพิ่มขึ้น 15% เป็นผู้ใช้งานผ่านมือถือ 1,574 ล้านคน และมีจำนวนผู้ใช้งานเป็นประจำทุกวัน (DAUs – Daily active users) 1,128 ล้านคน เพิ่มขึ้น 17% (ตกลงว่า Facebook ใกล้หมดลมหายใจ?)

ซีอีโอ Mark Zuckerberg กล่าวว่าถือเป็นอีกไตรมาสที่ดีของ Facebook และช่วงที่ผ่านมาการผลักดันเนื้อหาแบบวิดีโอก็เริ่มส่งผลที่มากขึ้น และเขายังเน้นถึงเรื่องนี้ในช่วงชี้แจงกับนักวิเคราะห์ว่าวิดีโอเป็นหัวใจของ Facebook และเขาเห็นว่าจะต้อง "Video First"

ยังมีประเด็นน่าสนใจเพิ่มเติมดังนี้

Facebook เคยเปิดตัวกล้อง Surround 360 เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา และจะเปิดซอร์สโค้ดให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปดาวน์โหลดเพื่อศึกษาวิธีสร้างกล้อง, ติดตั้งและปรับแต่งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ตามความต้องการ

อุปกรณ์ที่ต้องการของ Surround 360 นี้มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 3 หมื่นดอลลาร์ ซึ่งมีสิ่งสำคัญคือกล้องจำนวน 17 ตัวที่แตกต่างกัน ตั้งแต่กล้องปกติไปจนถึงกล้องเลนส์ fisheye โดยทาง Facebook ได้สุ่มวิศวกรขึ้นมาคนหนึ่งมาเพื่อสร้างตัวกล้องนี้จากคำแนะนำที่เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไป พบว่าใช้เวลาเพียงแค่ประมาณ 4 ชั่วโมงเท่านั้น

Facebook ได้ยืนยันว่าทางบริษัทได้ทำการบล็อคลิงก์ไปยัง WikiLeaks ที่เข้าถึงไฟล์อีเมลภายในของ Democratic National Committee หรือ DNC ซึ่ง WikiLeaks ได้วิจารณ์อย่างหนัก จนตอนนี้ทาง Chief Security Officer ของ Facebook ได้ออกมาบอกว่าทางบริษัทได้แก้ไขแล้ว

ทาง Gizmodo จึงได้สอบถามไปยัง Facebook โดยตัวแทนของบริษัทบอกว่าระบบป้องกันสแปมทำการบอกว่าลิงก์นี้ไม่ปลอดภัย และได้แก้ไขไปแล้ว

ครั้งนี้คงไม่ใช่ครั้งแรกที่ Facebook ได้บล็อคเนื้อหาไวรัลที่สร้างความขัดแย้ง โดยก่อนหน้านี้ก็มีกรณีดัง ๆ อย่างการนอนจมกองเลือดของ Philando Castile ซึ่งในครั้งนั้นก็ได้อ้างความผิดพลาดทางเทคนิคในการลบคลิป จากนั้นก็เอาคลิปกลับมาอีกครั้ง