การสตรีมวิดีโอสดผ่านโซเชียลกำลังเป็นกระแสนิยม โดยเฉพาะบนทวิตเตอร์ (ทั้ง Meerkat และ Periscope) แต่ล่าสุดเฟซบุ๊กก็เปิดฟีเจอร์แบบเดียวกันแล้ว

ฟีเจอร์ถ่ายวิดีโอสดของเฟซบุ๊กยังจำกัดเฉพาะศิลปิน-ดารา-คนดังเท่านั้น โดยต้องใช้งานผ่านแอพ Facebook Mentions ที่เปิดให้ใช้เฉพาะผู้ได้รับเชิญ วิดีโอที่ถ่ายทอดสดจะถูกแสดงผ่าน News Feed เหมือนวิดีโอปกติ และผู้ใช้สามารถไลค์ แชร์ คอมเมนต์ได้เหมือนวิดีโอปกติ เมื่อถ่ายทอดสดวิดีโอจบแล้วยังสามารถบันทึกไว้ดูย้อนหลังได้อัตโนมัติ

ตัวอย่างคนดังที่ได้ใช้ฟีเจอร์นี้แล้วมีตั้งแต่ นักฟุตบอล Ricardo Kaká, นักเทนนิส Serena Williams, นักร้อง Michael Bublé, นักแสดง Ashley Tisdale และนักมวยปล้ำ-นักแสดง "The Rock" Dwayne Johnson

ที่มา - Facebook

ระบบรักษาความปลอดภัยของ Facebook หลายๆ อย่างนั้นเป็นฟีเจอร์ที่มีให้ใช้มานานแล้ว แต่เพื่อความง่ายและสะดวกในการใช้งาน Facebook จึงมีการปรับ UI ใหม่ให้เข้าใจง่ายขึ้น โดยผู้ใช้ที่ต้องการเช็กความปลอดภัยของบัญชีตัวเองจะสามารถทำสิ่งต่อไปนี้ได้

• ล็อกเอาต์จากแอพที่ไม่ได้ใช้แล้วได้
• ตั้งแจ้งเตือนถ้ามีการล็อกอินผ่านอุปกรณ์ใดๆ
• เปลี่ยนรหัสผ่าน

ดูวิธีการตั้งค่าได้จากวิดีโอท้ายเบรก

ที่มา - Facebook Newsroom

วันนี้ Facebook ประกาศข่าวความคืบหน้าของทีม Connectivity Lab ทั้งในส่วนการพัฒนาโดรนที่สร้างขึ้นมาในขนาดจริงแล้วเสร็จ และระบบสื่อสารด้วยเลเซอร์ที่ประสบความสำเร็จกับการทดสอบในพื้นที่วิจัย ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Internet.org

เฟซบุ๊กเปิดตัวเครื่องบิน Aquila จากห้องวิจัย Connectivity ในบริษัท โดยเครื่องบินไร้คนขับนี้จะสามารถบินวนเป็นวงกลม เพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ได้ถึง 90 วัน ที่ระดับความสูง 60,000 ฟุต (18 กิโลเมตร) ถึง 90,000 ฟุต (27.5 กิโลเมตร) ตัวเครื่องบินมีปีกว้างเท่าเครื่องบิน Boeing 737 แต่น้ำหนักเบากว่านับร้อยเท่า

พร้อมๆ กับเครื่องบินไร้คนขับ ห้องวิจัย Connectivity ยังแสดงเทคโนโลยีเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วยเลเซอร์ สามารถเชื่อมต่อด้วยการยิงเลเซอร์เข้าเป้าหมายขนาดเท่าเหรียญ 10 เซนต์ (เส้นผ่านศูนย์กลาง 17.91 มิลลิเมตร) ในรัศมี 10 ไมล์ (16 กิโลเมตร) ด้วยความเร็ว 10Gbps

ถึงแม้เฟซบุ๊คจะให้ตั้งค่าความปลอดภัยของบัญชีในหน้า setting ก็ตาม แต่ผู้ใช้จำนวนมากยังไม่ค่อยตระหนักถึงความปลอดภัย ไม่รู้และไม่สนใจถึงการตั้งค่านี้ เฟซบุ๊คจึงปล่อย Security Checkup Tool เครื่องมือปรับแต่งและดูแลความปลอดภัยของบัญชีแบบง่ายๆ ให้ผู้ใช้อย่างเป็นทางการแล้ว

ผู้ใช้จะเห็นแถบแจ้งเตือน Stay Secure on Facebook ด้านบนไทม์ไลน์ เมื่อกด Get Started อันดับแรกเฟซบุ๊คจะให้ผู้ใช้เลือกล็อคเอ้าท์จากเครื่องที่เคยล็อคอินไว้ กรณีที่ล็อคอินไว้หลายๆ เครื่องแล้วลืม

ถัดมาเฟซบุ๊คจะให้ผู้ใช้เลือกว่าจะให้แจ้งเตือนทุกครั้งที่มีการล็อคอินในเครื่องหรือเบราว์เซอร์ที่ไม่เคยล็อคอินมาก่อนหรือไม่ และสุดท้ายคือเตือนผู้ใช้เรื่องพาสเวิร์ดและแนะนำให้ตั้งพาสเวิร์ดที่คาดเดายาก

จากสถิติต่างๆ ที่ชี้ไปในทางเดียวกันว่าการดูวิดีโอบนเฟซบูีคเริ่มสูงมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ท่าทีของเฟซบุ๊คในช่วงหลังๆ เริ่มปรับและเพิ่มฟีเจอร์ให้กับการเล่นวิดีโออยู่เนืองๆ เพื่อหวังท้าชนกับ YouTube นั้นล่าสุดเริ่มที่จะชัดเจนมากขึ้น เมื่อเฟซบุ๊คขึ้นแถบแจ้งเตือนตอนโพสต์ลิงก์ YouTube ให้อัพโหลดขึ้นเฟซบุ๊คโดยตรงจะดีกว่า

The Next Web รายงานว่าเมื่อผู้ใช้พยายามจะโพสต์ลิงก์ YouTube บนลงเพจของตัวเอง เฟซบุ๊คจะขึ้นแถบเตือนว่าอัพโหลดวิดีโอโดยตรง จะส่งผลดีต่อเพจมากกว่าโดยเฉพาะยอดไลค์ของเพจและการดูจำนวนผู้เข้าชม

Facebook รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2015 มีรายได้รวม 4,042 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 39% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 1,437 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 28%

รายได้หลักของ Facebook มาจากการโฆษณา โดยไตรมาสที่ผ่านมาเป็นรายได้จากโฆษณาบนมือถือถึง 76% เพิ่มขึ้นมาจากไตรมาสก่อนหน้านี้ที่ตัวเลขคือ 73%

ตัวเลขผู้ใช้งาน Facebook แบบเป็นประจำทุกเดือน (Monthly active users - MAUs) อยู่ที่ 1,490 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับปีก่อน และ 3.47% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ ขณะที่การใช้งานผ่านมือถือผู้ที่ 1,310 ล้านคน เพิ่มขึ้นมา 23%

The Hamburg data protection authority หน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่อง Facebook ในเยอรมันกล่าวว่า Facebook ไม่สามารถบังคับให้ผู้ใช้ต้องใช้ชื่อนามสกุลจริง และห้ามขอหลักฐานแสดงความเป็นตัวตน (เช่น บัตรประชาชน) ด้วย

ที่มาเริ่มจากมีผู้หญิงไปร้องเรียนหน่วยงานดังกล่าวว่าถูก Facebook ระงับบัญชีเนื่องจากไม่ได้ใช้ชื่อจริง และต้องการให้เธอส่งหลักฐานยืนยันตัวตนเพื่อที่จะเปลี่ยนชื่อให้เป็นชื่อจริง โดยเหตุผลที่เธอไม่ต้องการใช้ชื่อจริงนั้นเพราะกลัวกระทบกับหน้าที่การงานนั่นเอง

ทางหน่วยงานเยอรมันได้กล่าวว่า การบังคับใช้ชื่อจริงก็เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลเช่นกัน

ต่อเนื่องจากกิจกรรมหวย Blognone รอบ 70,000 ได้แจกรางวัลใหญ่เป็นไพ่จากสำนักงานใหญ่ Facebook ที่ซิลิคอนวัลเลย์ และผู้ชนะรางวัลคือผมเอง พอผมได้รับของเลยเมนชั่นไปขอบคุณคุณมาร์ค และทางนั้นบอกว่าที่จริงก็อยากเห็นข้างในแต่ไม่กล้าแกะ รวมถึงตอนประกาศผลมีสมาชิกบางท่านอยากเห็นเหมือนกัน ผมเลยเขียนรีวิวสั้นๆ ให้อ่านกันครับ

ที่จริงกล่องไพ่จะมีซีลพลาสติกหุ้มอยู่ แต่ในรูปได้แกะออกไปแล้ว อันนี้เป็นด้านหน้า

เพื่อต้อนรับการเปิดตัวของ Super Mario Maker เกมสร้างด่านของซีรีส์ Super Mario ด้วยตัวเองที่รองรับตั้งแต่ Super Mario Bros ภาคแรกยัน Super Mario Bros U ภาคล่าสุด ในวันที่ 11 กันยายนนี้ ทาง Nintendo ก็ประกาศจัดงาน hackathon โดยร่วมมือกับ Facebook ในวันที่ 28-29 กรกฎาคมนี้

ในงาน hackathon ที่ร่วมมือโดย Nintendo และ Facebook ครั้งนี้ จะเปิดให้พนักงานของ Facebook ได้มาใช้วัฒนธรรมการ hackathon เพื่อสร้างด่านพิเศษที่ผู้ชนะจะได้บรรจุลงไปในตัวเกมด้วย พนักงานของ Facebook จะได้ใช้เครื่องมือรุ่นเดโมภายในเกม Super Mario Maker โดยในระหว่างวันงานจะมีการถ่ายวิดีโอมาเผยแพร่ในภายหลังอีกด้วย

ทุกวันนี้การเปิด Facebook Page กลายเป็นเรื่องปกติสำหรับธุรกิจทุกระดับไปแล้ว (อ่านถึงตรงนี้อย่าลืม เพจ Blognone) ส่วนแนวทางการใช้เพจอย่างไรให้เวิร์คคงขึ้นกับรูปแบบของธุรกิจแต่ละแห่ง

วันนี้ผมได้รับเชิญจาก Allianz Ayudhya บริษัทขายประกัน (ใช่ครับ ขายประกัน) ให้ไปฟังประสบการณ์ด้านโซเชียลของตัวแทนขายประกัน (ใช่ครับ ตัวแทนขายประกัน) ว่ามีแนวทางการดำเนินงานและประสบความสำเร็จอย่างไรบ้าง

หลายคนเห็นคำว่า "ขายประกัน" อาจเริ่มรังเกียจหรือไม่สนใจ แต่อ่านต่อไปเถอะครับ เพราะแนวทางของ Allianz ทำออกมาดีถึงขนาดยกเป็นกรณีศึกษาเชิงธุรกิจได้เลยทีเดียว (และบทความนี้ไม่ใช่ advertorial)

บริษัทวิจัยตลาด Ipsos สำรวจแบรนด์ยอดนิยมของแต่ละประเทศมานาน และปีนี้เป็นครั้งแรกที่ Ipsos เข้ามาสำรวจข้อมูลของประเทศไทย ผลออกมาเป็น The Top Ten Most Influential Brands in Thailand ที่ผู้ชนะอันดับหนึ่งคือ Facebook

Jerome Hervio กรรมการผู้จัดการของ Ipsos Thailand ระบุว่ากรุงเทพเป็นเมืองหลวงของโลกแห่ง Facebook และปัจจุบันมีคนไทยใช้งาน Facebook ถึง 30 ล้านคนต่อปีแล้ว

ประเด็นที่น่าสนใจคือผลสำรวจของ Ipsos มีแบรนด์ไอทีเข้ามาติดอันดับหลายราย เช่น Facebook, Google, Apple, Microsoft, YouTube, Samsung (รวมถึง DTAC ที่เป็นแบรนด์โทรคมนาคมรายเดียวที่ติดเข้ามาในชาร์ต) ส่วนบริษัทอื่นๆ ที่ติดอันดับคือ 7-Eleven, Tesco Lotus, VISA

ระบบอัพโหลดวิดีโอของ Facebook ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในงาน f8 ก็ได้ฤกษ์ออกสู่สาธารณะแล้ว โดยความสามารถของระบบคือ

• เลือกอัพโหลดวิดีโอแบบไม่พับลิชขึ้นเพจก็ได้ (คล้าย Unlist ของ YouTube คือสามารถดูได้ผ่าน URL เท่านั้น)
• ตั้งค่าให้ดูได้เฉพาะกลุ่มอายุหรือเพศ (หรือโลเกชั่นและภาษา)
• ตั้งวันหมดอายุในวิดีโอได้
• พับลิชวิดีโอในวิดีโอแท็บของเพจได้โดยไม่จำเป็นต้องพับลิชขึ้นฟีด
• ตั้งค่าอนุญาตให้ฝังวิดีโอลงที่อื่นได้
• เพิ่มทัมบ์เนลจากรูปได้

ในหน้าจัดการวิดีโอสามารถแก้ไขข้อมูลวิดีโอ รวมถึงฝังซับไตเติลเข้าไปภายหลังได้ รวมถึงค้นหาและจัดการวิดีโอได้ง่ายกว่าเดิม

ฟีเจอร์ทั้งหมดจะเปิดให้ใช้ทั่วโลกในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้

ถึงแม้จะมีสถิติมากมายบ่งชี้ว่า วิดีโอที่อัพโหลดใน Facebook นั้น มีแนวโน้มที่จะมียอดคนดูสูงกว่าอัพโหลดขึ้น YouTube แต่ผู้สร้างวิดีโอตัวท็อปใน YouTube ก็ยังไม่สนใจที่จะอัพโหลดวิดีโอขึ้น Facebook อยู่ดี ยกตัวอย่างเช่น PewDiePie ที่มีคนตามใน YouTube มากที่สุด (มากกว่า 38 ล้านคน) อัพโหลดวิดีโอใน YouTube มากถึง 333 คลิป ในขณะที่อัพใน Facebook ราวๆ 10 คลิปเท่านั้น

เหตุผลที่ผู้สร้างวิดีโอไม่อัพโหลดวิดีโอขึ้น Facebook ก็เพราะว่ายังไม่มีระบบการให้ส่วนแบ่งค่าโฆษณานั่นเอง (ถึงแม้จะมีข่าวว่า Facebook เตรียมเปิดบริการนี้แล้วก็ตาม) นั่นแปลว่าหากวันใดที่ Facebook ให้ส่วนแบ่งค่าโฆษณาแบบเป็นทางการ ผู้สร้างวิดีโอก็อาจจะเปลี่ยนใจก็ได้

นอกจาก Facebook จะทำตัวเป็นแหล่งรวบรวมคอนเทนต์ให้สรรหาและเลือกแชร์ตามใจชอบแล้ว ยังอยากเป็นร้านค้าให้คนช้อปปิ้งได้ตามกำลังทรัพย์ด้วย เมื่อมีคนพบว่า Facebook ทดสอบระบบร้านค้าในหน้าเพจ (ไม่ได้บอกว่าสามารถซื้อของได้ทันทีหรือไม่ อาจจะมีปุ่มซื้อได้ทันทีก็เป็นได้)

ซึ่งถ้า Facebook ทำระบบนี้ออกมาจริง ระบบอีคอมเมิร์ซทั้งหลายก็อาจมีร้อนๆ หนาวๆ ได้

ที่มา - BuzzFeed

เฟซบุ๊คกำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่สำหรับการดูวิดีโออีกครั้ง โดยการเพิ่มปุ่ม Watch Later บริเวณขวาบนของวิดีโอ สำหรับเก็บวิดีโอไว้ดูในภายหลังเหมือนของทาง YouTube

ฟีเจอร์นี้คล้ายๆ กับฟีเจอร์ Save เคยเฟซบุ๊คปล่อยให้ใช้มาเกือบปี เป็นอีกความพยายามของเฟซบุ๊คในการเพิ่มประสบการณ์ของผู้ใช้ในการดูวิดีโอบนโซเชียลมีเดีย

ที่มา - TechCrunch

หลังจากที่มี Siri, Cortana หรือ virtual assistant ที่ใช้งานได้ดีและเป็นที่รู้จักอย่าง Google Now ออกสู่ท้องตลาดแล้ว ก็มีข่าวว่า Facebook เตรียมทำ virtual assistant เป็นของตัวเองเหมือนกันโดยมีแผนจะใช้ชื่อว่า Moneypenny โดยฟีเจอร์การใช้งานหลักๆ คือมาช่วยผู้ใช้ค้นหาหรือซื้อสินค้าและบริการได้ง่ายและสะดวกขึ้น

ยังไม่ปรากฎแน่ชัดว่าฟีเจอร์นี้จะเปิดให้ใช้ ณ ที่ใด (จะเปิดให้ใช้ในหน้าเว็บหรือเฉพาะแอพ Messenger) ก็ต้องมาติดตามกันต่อไป

ที่มา - Engadget

ในยุคที่ใครๆ รับชมสื่อผ่านวิดีโอออนไลน์ คงปฏิเสธไม่ได้ว่า YouTube เป็นเว็บไซต์ที่หลายคนใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆ แทบทุกวัน แต่การขยายตัวของ Facebook เข้ามาสู่ตลาดวิดีโอออนไลน์นั้นดูจะแข็งแรงขึ้นทุกวัน ล่าสุด Susan Wojcicki ซีอีโอของ YouTube ระบุว่าตัวเธอเองไม่ได้กังวลถึงการคุกคามของ Facebook ในตลาดวิดีโอออนไลน์แต่อย่างใด

Alex Stamos หัวหน้าฝ่ายความปลอดภัย (Chief Security Officer) ของ Facebook ออกมาแสดงความเห็นในประเด็นรูรั่วของ Flash โดยเขาเสนอว่า Adobe ควรมีระบบตั้งเวลาหมดอายุของ Flash ทุกเวอร์ชัน และเมื่อหมดอายุแล้วก็ขอให้เบราว์เซอร์ปิดการทำงานของ Flash อัตโนมัติ

Stamos บอกว่าไม่จำเป็นที่ Flash จะต้องหมดอายุทันทีเมื่อเจอช่องโหว่ แต่อยากให้ Adobe มีนโยบายชัดเจน เช่น หมดอายุ 18 เดือนหลังออกเวอร์ชัน ซึ่งจะช่วยให้กระบวนการอัพเดต Flash ของคนทั้งโลกทำได้ง่ายขึ้น

ตอนที่สี่ของซีรีส์ "สัมภาษณ์คนไทยในซิลิคอนวัลเลย์" มาคุยกับคุณวิโรจน์ จิรพัฒนกุล คนไทยใน Facebook ที่ทำงานเป็น Data Scientist ตำแหน่งงานสุดฮ็อตของวงการไอทีในรอบไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ในบทสัมภาษณ์นี้ คุณวิโรจน์จะมาแนะนำวงการวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Science) รวมถึงงานในสาขาใกล้เคียงกันทั้ง Data Visualization, Machine Learning และประสบการณ์ทำงานใน Facebook ครับ หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับน้องๆ ที่กำลังสนใจศึกษาในสาขาวิชาเหล่านี้

หลายคนคงได้เห็นแถบโฆษณาข้างๆ ของ Facebook กันเป็นประจำอยู่แล้ว ซึ่งนั่นคือหนึ่งในช่องทางการหาเงินของ Facebook และยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยโฆษณาให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ตรงกลุ่มมากขึ้น ในวันนี้ Facebook ก็ได้ประกาศปรับเปลี่ยนวิธีการคิดค่าโฆษณาแบบ Cost per Click (CPC)

Facebook เปลี่ยนวิธีการคิดค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ลงโฆษณาแบบ CPC และการปรับปรุงนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของการปล่อย API ตัวล่าสุดด้วย จากเดิมที่ Facebook คิดค่าโฆษณาทั้งหมด ไม่ว่าจะคลิกลิงก์, กดไลค์, แชร์โพสต์หรือแสดงความคิดเห็น แต่ตอนนี้จะคิดค่าโฆษณาก็ต่อเมื่อมีคนคลิกลิงก์เข้าสู่เว็บไซต์, คลิกที่ Call-to-Action ไปที่หน้าเว็บไซต์อื่น, คลิกเพื่อติดตั้งแอพ หรือและคลิกเพื่อดูวิดีโอบนเว็บไซต์เท่านั้น

อัพเดต App ใหม่มาแรงน่าสนใจ โดยใช้ชื่อว่า "Who Deleted Me"
โดยเปิดให้ดาวน์โหลดได้บน iOS และ Android

โดยองค์ประกอบของ App จะมีดังนี้

• missing Friends
  จะแสดงการอันแฟรนด์ล่าสุด พร้อมบอกว่าใคร และ เมื่อไหร่

• deactivated
  จะแสดงเพื่อนที่ปิดบัญชีผู้ใช้งาน หรือทำการ Block เรา

• new friends
  จะแสดงรายชื่อเพื่อนใหม่ของเรา

และจะมี Option เพิ่มอีกหลายตัว เช่น
- เพื่อนคนไหนที่ลบเรา
- เราลบเพื่อนคนไหนไปบ้าง
- เพื่อนคนไหนที่ปิดบัญชี หรือทำการ Block

หลังจากมีเสียงบ่นมานานเรื่องของการพลาดข่าวสารจากเพื่อนหรือเพจที่ชอบไป Facebook เปิดให้ควบคุม News Feed ของตัวเองได้มากขึ้นจากในหน้า News Feed Preferences โดยสิ่งที่สามารถทำได้เพิ่มเติม (หรือจัดการทำให้ได้ง่ายกว่าเดิม) คือ

• เลือกได้ว่าจะดูโพสต์จากเพื่อนหรือเพจที่ชอบเป็นอันดับแรกในฟีด
• เลิกติดตามหรือซ่อนโพสต์ได้ง่ายกว่าเดิม
• กลับมาตามคนที่เราเลิกตามไปแล้วได้ง่ายกว่าเดิม
• ปรับปรุงระบบค้นหาเพจใหม่ๆ

การตั้งค่าเหล่านี้เปิดให้ใช้แล้วใน iOS ส่วน Android และบนเว็บจะตามมาเร็วๆ นี้

ที่มา - Facebook Newsroom

ล่าสุด Facebook วิดีโอบน Facebook ถูกรับชมกว่า 4 พันล้านครั้งต่อวัน และกำลังจะขายโฆษณาโดยแบ่งรายได้กับผู้ใช้ที่อัพโหลด ในขณะที่ระบบตรวจจับลิขสิทธิ์ยังไม่มีประสิทธิภาพมากพอ และไม่สามารถค้นหาวิดีโอที่อาจถูกละเมิดลิขสิทธิ์ได้ จึงเกิดปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ลักษณะ freebooting ขึ้น เป็นการนำเอาเนื้อหาของผู้อื่นที่เผยแพร่ในที่ๆ หนึ่ง ไปเผยแพร่ที่อื่นในนามของผู้เผยแพร่แทนที่จะเป็นในนามของเจ้าของเนื้อหา ในกรณีนี้คือ การนำเอาวิดีโอของผู้อื่นบน YouTube มาอัพโหลดใหม่ลงบน Facebook ของตัวเอง

ดูเหมือนผู้ใช้กำลังจะได้ดู MV เพลงผ่าน Facebook กันจริงๆ แล้ว หลังจากเมื่อสัปดาห์ก่อนมีข่าวออกมาว่า Facebook กำลังคุยกับค่ายเพลงว่าจะมาร่วมมือกันทำอะไรซักอย่าง วันนี้เว็บไซต์ข่าวเพลง Music Ally ออกมารายงานว่า Facebook กำลังจะให้บริการฟังเพลงผ่านเครือข่ายของตัวเองในเร็ววัน

แหล่งข่าวระบุว่าการให้บริการฟังเพลง-ดู MV ของ Facebook ในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการก้าวไปสู่แพลตฟอร์มที่ให้บริการคอนเทนต์แบบ on-demand โดยบริการในช่วงแรกจะเน้นในส่วนของ MV แบบมีโฆษณาก่อน และจะให้บริการฟังเพลงตามมาภายหลัง