คณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นประธานคณะกรรมการ) มีมติ มอบหมายให้ กทช. หารือกับสำนักงานกฤษฎีกา พิจารณาข้อกฏหมาย เกี่ยวกับอำนาจของ กทช. ในการออกใบอนุญาต 3G โดยสำทับว่า ถ้ามีข้อขัดข้อง จะเชิญคณะกรรมการกฤษฎีกามาชี้แจงในการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรี
สรุปแล้วคือ รัฐบาลสั่งให้ กทช. ไปดูข้อกฏหมายเพิ่มนั่นเอง ทั้งๆที่เคยประกาศว่าเรื่องการทำ 3G ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ กทช. (ดูได้ในข่าวเก่าด้านล่าง) และ กทช. ก็ทำประชาพิจารณ์กันมานานแล้ว
เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทีมงาน TIGR ซึ่งเป็นทีมงานพัฒนาประเทศของรัฐบาลกลางสหรัฐเคยนำเสนอว่า TIGR จะใช้ cloud computing ในการปฎิรูปภาครัฐ [ข่าวเก่า] จนเมื่อเร็วๆนี้ รัฐบาลกลางก็ได้ประกาศเปิดเว็บไซต์ Apps.Gov ที่รวบรวมบริการแอพพลิชันออนไลน์ไว้มากมาย โดยบริการเหล่านี้อาศัย cloud computing ในการให้บริการ ซึ่งหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐสามารถค้นหาและซื้อบริการแอพพลิเคชันออนไลน์ที่ต้องการผ่านทาง Apps.Gov ได้เลย
ในขณะที่ทั่วทั้งโลกกำลังให้ความสนใจกับการมาของ Windows 7 และ MS Office 2010 แต่ทว่ากลับมีรายงานของกองทัพสหรัฐฯ เกี่ยวกับการเปลี่ยนระบบปฏิบัติการของคอมพิวเตอร์ที่ใช้อยู่ในกองทัพไปเป็น Windows Vista
นอกจากการเปลี่ยนไปใช้ Windows Vista แล้วยังเปลี่ยน MS Office 2003 เป็น MS 2007 อีกด้วยและคาดว่าการเปลี่ยนแปลงระบบจะเริ่มต้นตั้งแต่สิ้นปีนี้เป็นต้นไป
โดยเหตุผลที่เปลี่ยนมาใช้ Windows Vista เนื่องจากมีการทดสอบว่าระบบปฏิบัติการนี้สามารถทำงานร่วมกับโปรแกรม Army Golden Master ซึ่งเป็นโปรแกรมเฉพาะทางที่ใช้ภายในกองทัพสหรัฐฯ ได้เช่นเดียวกับ Windows XP
เมื่อเช้าวันพฤหัสที่ผ่านมา ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของ FBI และ U.S. Marshals ที่อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ถูกไวรัสไม่ทราบชนิดโจมตี เป็นผลทำให้ทั้งสองหน่วยงานจำเป็นต้องปิดระบบเครือข่ายและอีเมลของตัวเองบางส่วนที่เชื่อมต่อกับกระทรวงยุติธรรรมสหรัฐฯ เพื่อเป็นการป้องกันเบื้องต้นและเร่งดำเนินการแก้ไข
ทางการสหรัฐฯ ยังไม่ได้ระบุความเสียหาย อีกทั้งยังกำลังประเมินผลกระทบกับเครือข่ายภายนอกระบบและหน่วยงานอื่นๆ ด้วย ทางการสหรัฐฯ ระบุอีกว่าหน่วยงานด้านกฏหมายส่วนใหญ่อยู่นอกระบบเครือข่ายของสองหน่วยงานนี้ และต่างก็มีวงเครือข่ายภายในเป็นของตัวเองเพื่อป้องกันการโจรกรรมข้อมูลอยู่แล้ว
ขณะนี้ยังไม่ได้ระบุว่าเป็นไวรัสชนิดใด
หลังจากที่รัฐบาลคุณอภิสิทธิ์ขึ้นมาทำงาน ก็มีแนวการบริหารงบประมาณแบบโปร่งใส โดยมีการมอบหมายให้นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจเป็นผู้ดูแลการจัดทำเว็บไซท์ ช่วยชาติ.com หรือ chuaichart.com หลังจากดำเนินการมาเดือนกว่า เว็บไซท์ก็สามารถที่จะเปิดตัวได้
หลังจากที่โอบามานั้นขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดี ก็มีความเปลี่ยนแปลงในด้านการติดต่อกับประชาชนทางอินเทอร์เน็ตมากขึ้น วันนี้เว็บไซต์ Whitehouse.gov นั้นเปิดให้ถามคำถามผ่านระบบ Moderator ของกูเกิลแล้วครับ (ลองอ่านรูปแบบการทำงานที่ข่าวเก่า)
คำถามที่เริ่มการทดลองในโครงการ Open For Questions นี้เน้นในด้านที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจเท่านั้น แต่อาจหมายความรวมถึงแง่มุมต่างๆ เช่นด้านการศึกษา, พลังงานหรือระบบสาธารณสุข โดยผู้ถามและผู้โหวตจะต้องลงทะเบียนก่อน (ซึ่งอาศัยรหัสไปรษณีย์ในประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น) ส่วนบุคคลภายนอกสามารถดูคำถามได้ที่หน้าเว็บไซต์ดังกล่าว
กรมสรรพากรเตรียมปรับปรุงเว็บไซต์ชำระภาษีผ่านอินเตอร์เน็ตเป็น Web 2.0 มีเป้าหมายสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ยื่นภาษีผ่านอินเตอร์เน็ต กรมสรรพากรหวังว่าจะเพิ่มจำนวนผู้เสียภาษีผ่านช่องทางดังกล่าวเพิ่มขึ้น ปัจจุบันบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลมีการยื่นภาษีผ่านอินเตอร์เน็ตเฉลี่ยประมาณ 7 ล้านราย
แหล่งข่าวจากกรมสรรพากรคาดว่าการปรับปรุงดังกล่าวจะทำให้เว็บน่าสนใจ และมีการใช้งานง่ายขึ้น โดยจะลงทุนในงบประมาณที่ไม่มาก เพราะภาวะเศรษฐกิจถดถอย กรมสรรพากรจะประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการลดต้นทุนด้านการบริหารจัดการ เช่น Cloud Computing หรือการ Outsourcing ระบบไอทีให้กับบริษัทผู้เชี่ยวชาญภายนอก คาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้เร็วๆนี้
แผนกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ American Recovery and Reinvestment Act เน้นเรื่องความโปร่งใสของการใช้จ่ายเป็นพิเศษ ทางสำนักงานของประธานาธิบดี ส่วนของการจัดการและงบประมาณ (Office of Management and Budget) ได้ออกคู่มือการเตรียมระบบไอทีสำหรับรายงานความคืบหน้าของการใช้งบประมาณ (Initial Implementing Guidance for the American Recovery and Reinvestment Act of 2009 - pdf) สำหรับหน่วยงานรัฐบาลทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องให้ปฏิบัติตาม
ความผิดทางเพศใน Social Network ทั้งหลายนั้นไม่ได้มีปัญหาเฉพาะในบ้านเรา ล่าสุดด้วยความร่วมมือระหว่างอัยการรัฐ North Carolina และเว็บ MySpace ได้มีการแถลงตัวเลขว่าตลอดปี 2008 ที่ผ่านมา MySpace ลบผู้ใช้ออกไปจากระบบกว่าเก้าหมื่นคนด้วยเหตุจากความผิดทางเพศ
ตัวเลขนี้สูงกว่าปีที่แล้วเกือบๆ เท่าตัว ยังไม่นับความร่วมมืออื่นๆ ที่อัยการร่วมกับ MySpace เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้เว็บอีกนับสิบรายการ รวมถึงการจำกัดความสามารถในการค้นหาข้อมูลของผู้ใช้ที่มาอายุน้อยกว่า 18 ปี
ผมว่าประเด็นการเข้าไปทำความร่วมมือ เพื่อช่วยลดปัญหาระหว่างภาครัฐและเอกชนนี่นับเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก
ที่มา - PhysOrg
คิดว่าเกือบทุกคนคงรู้จัก SourceForge กันแล้ว คงไม่ต้องอธิบายนะครับ
กระทรวงกลาโหมสหรัฐ ภายใต้การนำของ DISA (Defense Information Systems Agency - หน่วยงานด้านไอทีของกลาโหม) ได้เปิดเว็บไซต์ชื่อว่า Forge.mil เพื่อเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ใช้ในกระทรวงกลาโหม
แม้ว่าทำเนียบขาวถูกจัดว่าเป็นสถานที่โลว์เทค (ข่าวเก่า) แต่ทีมงานบริหารประเทศของโอบามากำลังปฏิรูปการดำเนินงานและการใช้เทคโนโลยีของหน่วยงานภาครัฐ โดยกลุ่มทีมงานที่อยู่เบื้องหลังการปฏิรูปครั้งนี้มีชื่อว่า Technology, Innovation, and Government Reform หรือ TIGR
ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2550 ให้ข้าราชการและพนักงานของรัฐยุติการใช้จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ฟรีของเอกชน โดยเฉพาะของต่างประเทศภายใน 1 ปี นั้น กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจึงได้เปิดบริการอีเมลของภาครัฐ ภายใต้โดเมน @mail.go.th
โดยที่พนักงานและข้าราชการของรัฐยังสามารถใช้ฟรีเมลในการติดต่อส่วนตัวได้ แต่สำหรับเอกสารและข้อมูลของราชการแล้วให้ส่งผ่านเฉพาะระบบอีเมลภาครัฐเท่านั้น เพื่อเป็นการรักษาความลับทางราชการและความปลอดภัยของข้อมูล ซึ่งขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขแสดงความจำนงขอใช้ถึง 2 หมื่นรายชื่อแล้ว ส่วนกระทรวงการต่างประเทศยังไม่ได้ขอเข้ามา
ประชาชนชาวสหรัฐฯ นั้นบ่นกันมานานแล้วว่าแม้ประเทศตัวเองจะเป็นจุดเริ่มต้นของอินเทอร์เน็ต แต่ประชาชนกลับไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตด้วยความเร็วสูงเท่ากับประเทศทางเอเชียและยุโรปหลายๆ ประเทศได้ แผนการล่าสุดของเทศบาลนอร์ท แคโรไลนาจึงรวมเอาแผนการสนับสนุนให้มีการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้เข้าถึงประชาชนอย่างทั่วถึง โดยย้ำภาพว่าอินเทอร์เน็ตเป็นสาธารนูปโภคจำเป็นต่อความเจริญไม่ต่างจากไฟฟ้า
แผนการนี้นอกจากจะพูดถึงแผนการเฉพาะในนอร์ท แคโรไลนาเองแล้วยังระบุว่าสหรัฐฯ ทั้งประเทศก็ควรเร่งเพิ่มความเร็วและสร้างบริการราคาถูกให้กับประชาชนด้วยเช่นกัน
แนวทางการเมืองการปกครองของทุกประเทศในโลกตอนนี้คงเดินหน้าไปทางเดียวกันหมด คือการพยายามเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจต่างๆ และได้รับรู้ถึงการทำงานของรัฐให้มากขึ้น ปัญหาคือรัฐบาลนั้นมักมีเอกสารเป็นจำนวนมาก และมีการจัดเก็บที่แย่ทำให้ไม่สามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้งานได้ เรื่องนี้เป็นปัญหาในเกือบทุกประเทศแม้แต่สหรัฐฯ เองก็ตาม