Hewlett Packard Enterprise
Hewlett Packard Enterprise (HPE) รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท สิ้นสุดเดือนตุลาคม 2016 รายได้รวม 12,478 ล้านดอลลาร์ ลดลง 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 302 ล้านดอลลาร์
กลุ่มธุรกิจฮาร์ดแวร์ที่เรียกว่า Enterprise Group มีรายได้รวมทั้งกลุ่มลดลง 9% กลุ่ม Enterprise Service ลดลง 6% และซอฟต์แวร์ลดลง 6%
ซีอีโอ Meg Whitman กล่าวว่าปีที่ผ่านมาของ HPE ถือเป็นปีประวัติศาสตร์ เพราะบริษัทสามารถดำเนินงานได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ และเปลี่ยนผ่านองค์กรได้ตามกลยุทธ์ พร้อมกับผลการดำเนินงานที่ดี
ที่มา: HPE และ Tech Trader Daily
Hewlett Packard Enterprise (HPE) ประกาศแผนขายและควบรวมธุรกิจซอฟต์แวร์ ที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักออกไปตรงตามข่าวลือ ให้กับ Micro Focus โดยรายละเอียดของดีลนี้ HPE จะได้เงินสด 2.5 พันล้านดอลลาร์ และหุ้นของ Micro Focus 50.1% คิดเป็นมูลค่า 6.3 พันล้านดอลลาร์ รวมแล้วราว 8.8 พันล้านดอลลาร์
Meg Whitman ซีอีโอ HPE ระบุว่าดีลนี้จะทำให้บริษัทสามารถโฟกัสกับธุรกิจที่เติบโตได้ดีมากขึ้น ขณะที่ซอฟต์แวร์ตัวสำคัญก็ไม่ได้ขายออกไป อาทิ OneView หรือ Synergy นอกจากนี้ HPE ยังเพิ่มความร่วมมือโดยประกาศให้ SUSE เป็น Linux ที่ HPE แนะนำ (Micro Focus เป็นเจ้าของ SUSE ปัจจุบัน)
นอกจากนี้ HPE ยังประกาศผลการดำเนินงานไตรมาสที่ผ่านมา (พฤษภาคม-กรกฎาคม) มีรายได้ลดลงจากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน % อยู่ที่ 12,210 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 2,272 ล้านดอลลาร์
ที่มา: HPE 1, 2 และ Business Insider
มีข่าวลือว่า Hewlett Packard Enterprise (HPE) ธุรกิจด้านไอทีองค์กรที่แยกตัวมาจาก HP เดิม เตรียมขายธุรกิจด้านซอฟต์แวร์ออกไป โดยผู้ซื้อคือบริษัทลงทุน Thoma Bravo และราคาน่าจะอยู่ระหว่าง 8-10 พันล้านดอลลาร์
เหตุผลที่ HPE อยากขายธุรกิจซอฟต์แวร์ออกไป เป็นเพราะ HPE อยากโฟกัสที่ธุรกิจด้านเครือข่าย สตอเรจ ศูนย์ข้อมูล และบริการด้านไอที เป็นหลัก แหล่งข่าวยังบอกว่า HPE มอบหมายให้ธนาคารวาณิชธนกิจ Goldman Sachs หาผู้ซื้อกิจการให้ และ Thoma Bravo เสนอราคาเข้ามาสูงสุด
ตัวอย่างธุรกิจซอฟต์แวร์ของ HPE คือบริษัท Autonomy ที่ซื้อมาในปี 2011 ด้วยราคาถึง 10.3 พันล้านดอลลาร์
Hewlett Packard Enterprise (HPE) ประกาศซื้อกิจการ SGI (หรือ Silicon Graphic เดิม) เพื่อนำธุรกิจคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง (HPC หรือ high performance computing) มาเสริมทัพ
บริษัท Silicon Graphic เดิมก่อตั้งเมื่อปี 1981 และสร้างชื่ออย่างมากจากคอมพิวเตอร์ workstation สำหรับงานประมวลผลขั้นสูง แต่ภายหลังบริษัทประสบปัญหาจนล้มละลายในปี 2009
จากนั้นบริษัท Rackable Systems ผู้ขายฮาร์ดแวร์เซิร์ฟเวอร์และสตอเรจ มาซื้อกิจการต่อ แถมเปลี่ยนชื่อตัวเองเป็น SGI โดยหันมาเน้นทำซูเปอร์คอมพิวเตอร์และระบบคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่แทน ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นหน่วยงานภาครัฐหรือแวดวงการวิจัย
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งมหากาพย์การฟ้องร้องกันระหว่าง HPE (ตั้งแต่ยุคที่ยังรวมกับฝั่งธุรกิจพีซี) และ Oracle โดยล่าสุดศาลเขต San Jose รัฐแคลิฟอร์เนียตัดสินว่า Oracle มีความผิดจากการละเมิดสัญญากับ HPE กรณีที่ระงับการพัฒนาซอฟต์แวร์ฐานข้อมูล สำหรับเซิร์ฟเวอร์ไฮเอนด์ที่รันด้วยชิป Itanium ของ Intel ซึ่งเป็นชิปที่ HPE ใช้งานเป็นส่วนใหญ่ และต้องจ่ายค่าเสียหายให้ HPE เป็นเงินกว่า 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ
HPE โชว์เทคโนโลยีส่งข้อมูลด้วยแสงในงาน HPE Discover 2016 เมื่อต้นเดือนนี้ อุปกรณ์ต้นแบบใช้ชื่อว่า X1 เป็นชิปสำหรับเสียบลงเมนบอร์ด สามารถส่งข้อมูลได้สูงถึง 1.2Tbps (Thunderbolt 3 ในปัจจุบันทำได้ 40Gbps)
อุปกรณ์ตัวนี้ยังอยู่ในขั้นทดสอบ สามารถส่งข้อมูลได้ไกล 30-50 เมตร นอกจากนี้ HP ยังมีเทคโนโลยีส่งข้อมูลด้วยแสงตัวอื่น ที่ส่งได้ไกลถึง 50 กิโลเมตร โดยลดอัตราการส่งข้อมูลลงมาเหลือ 200Gbps
เป้าหมายหลักของ HPE คือนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้กับเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่มีปัญหาคอขวดในการส่งข้อมูล ในอนาคตเราอาจเห็นระบบเซิร์ฟเวอร์ที่แยกกันระหว่างซีพียู หน่วยความจำ สตอเรจ โดยมีเทคโนโลยีส่งข้อมูลด้วยแสงเป็นตัวเชื่อม
HPE (Hewlett Packard Enterprise) ประกาศความร่วมมือกับ Docker ทำให้เซิร์ฟเวอร์ x86 ทุกตัวหลังจากนี้จะมาพร้อม Docker CS Engine (commercially supported engine) ตั้งแต่แรก และจะได้รับการซัพพอร์ตจากทาง HPE
นอกจากการซัพพอร์ตตามปกติแล้ว HPE Technology Services Consulting Services ก็ยังให้บริการออกแบบและอิมพลีเมนต์บริการสำหรับ Docker สำหรับลูกค้าที่มีความต้องการเฉพาะด้าน
จากข่าวก่อนหน้านี้ว่า Dropbox ย้ายระบบจาก AWS มาใช้ศูนย์ข้อมูลของตนเอง ล่าสุด Dropbox เปิดเผยว่า Hewlett Packard Enterprise หรือ HPE คือพาร์ทเนอร์ที่ให้ความร่วมมือในการออกแบบและพัฒนาฮาร์ดแวร์เพื่อการนี้
Drew Houston ซีอีโอ Dropbox ระบุว่าการได้ร่วมมือกับ HPE นี้ เป็นประโยชน์ต่อ Dropbox ในการเข้าสู่ลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ เพราะมี HPE ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในระบบการดูแลข้อมูล ซึ่งทาง HPE เองก็เป็นลูกค้าแบบองค์กรของ Dropbox ด้วย
Houston ยังเผยว่าในการออกแบบฮาร์ดแวร์สำหรับใช้งานนั้น ทาง HPE ได้ช่วยปรับเซิร์ฟเวอร์ให้สามารถบรรจุดิสก์ต่อเครื่องเพิ่มมากขึ้น เพราะ Dropbox ต้องการประหยัดต้นทุนให้มากที่สุด
IDC ออกรายงานประเมินยอดขายอุปกรณ์กลุ่มสตอเรจสำหรับองค์กร (enterprise storage) ประจำไตรมาสแรกของปี 2016 พบว่า Hewlett Packard Enterprise (HPE) มาแรง ขึ้นมาเทียบชั้นกับ EMC เจ้าตลาดเดิมได้แล้ว
IDC ประเมินว่า HPE ขายอุปกรณ์สตอเรจได้ 1.42 พันล้านดอลลาร์ ครองส่วนแบ่งตลาด 17.3% มากกว่า EMC ที่ขายได้ 1.39 พันล้านดอลลาร์ (ส่วนแบ่ง 16.4%) อยู่เล็กน้อย แต่ทางสถิติแล้วถือว่าต่างกันไม่มาก จึงถือว่าเป็นอันดับ 1 ร่วมกัน
อันดับสามคือ Dell ครองส่วนแบ่งตลาด 10.3%, อันดับสี่ NetApp ครองส่วนแบ่งตลาด 7.9% และอันดับห้าร่วมคือ Hitachi (6.3%) กับ IBM (5.8%) ถ้านับเฉพาะในกลุ่มท็อป บริษัทที่มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นคือ HPE, Dell, NetApp
Hewlett Packard Enterprise (HPE) ประกาศแยกธุรกิจบริการด้านไอที Enterprise Services Business ไปควบรวมกับบริษัท Computer Sciences Corporation (CSC) ด้วยมูลค่า 8.5 พันล้านดอลลาร์ (ใช้วิธีแลกหุ้นทั้งหมด)
CSC จะควบรวมกับธุรกิจบริการไอทีของ HPE กลายเป็นบริษัทใหม่ที่ยังไม่ประกาศชื่อ โดย HPE ถือหุ้นประมาณ 50% โดย Mike Lawrie ซีอีโอของ CSC จะนั่งเก้าอี้ซีอีโอของบริษัทใหม่ต่อไป คาดว่าการควบรวมจะเสร็จสิ้นในเดือนมีนาคม 2017
CSC เป็นบริษัทบริการไอทีรายใหญ่ของสหรัฐ ก่อตั้งในปี 1959 และอยู่ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก มีพนักงานประมาณ 56,000 คน ธุรกิจหลักของบริษัทคือพัฒนาระบบไอที โดยมีลูกค้าเป็นหน่วยงานรัฐบาลของสหรัฐหลายราย เช่น NASA, FBI, กระทรวงกลาโหม
Mesosphere สตาร์ตอัพด้านระบบปฏิบัติการ "คลัสเตอร์" สำหรับศูนย์ข้อมูล ระดมทุนรอบใหม่ (Series C) อีก 73.5 ล้านดอลลาร์ ความน่าสนใจอยู่ที่มีบริษัทใหญ่ทั้ง Microsoft และ HPE มาร่วมลงทุนด้วย
ผลิตภัณฑ์หลักของ Mesosphere คือ Datacenter Operating System (DCOS) ที่พัฒนาต่อมาจาก Apache Mesos อีกทีหนึ่ง แนวคิดของมันคือมองเซิร์ฟเวอร์ทุกตัว (ไม่ว่าจะเป็นเซิร์ฟเวอร์จริง หรือ VM ในคลาวด์ใดๆ) เป็นคอมพิวเตอร์เครื่องเดียว การนำแอพพลิเคชันใดๆ ไปรันจึงไม่ต้องคำนึงว่าจะรันบนเครื่องไหน เพราะ DCOS สามารถจัดการทรัพยากรให้เราอัตโนมัติ การใช้ทรัพยากรจึงมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่มี VM ตัวไหนที่อยู่ว่างจนเกินไปและเปลืองพลังประมวลผลเสียเปล่า
HPE (Hewlett Packard Enterprise) เปิดตัว Haven OnDemand แพลตฟอร์มที่ให้บริการ machine learning ที่นักพัฒนาแอพสามารถนำ API ไปใส่เพื่อเรียกใช้บริการสมองกลได้
Haven OnDemand นั้นจะให้บริการบนกลุ่มเมฆผ่านทางแพลตฟอร์ม Microsoft Azure เท่านั้น โดยมี API มากกว่า 60 ตัวให้นักพัฒนาสามารถเลือกนำไปใช้งาน ด้วย API เหล่านั้นนักพัฒนาสามารถเรียกใช้บริการ machine learning ให้ช่วยศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นข้อความ, ภาพ, เสียง, วิดีโอ, เว็บ และข้อมูลทางเครือข่ายสังคมออนไลน์ต่างๆ
ตัวอย่างบริการที่สามารถเรียกใช้งานได้ เช่น
Hewlett Packard Enterprise (HPE) ประกาศเปิดตัวแพลตฟอร์มและโซลูชันด้าน Internet of Things (IoT) ของตนเอง มีสองส่วนประกอบในโซลูชั่น คือ Edgeline และเทคโนโลยีจาก Aruba Sensors บริษัทลูกของ HPE
ส่วนแรกที่เป็น Edgeline คือเกตเวย์ที่รวมเอาข้อมูลต่างๆ จากตัวเซนเชอร์และนำมาวิเคราะห์ พัฒนาร่วมกับทาง Intel โดยแบ่งเป็นสองรุ่นคือ IoT System EL10 ที่เหมาะกับงานพื้นฐาน และ EL20 ซึ่งมีความสามารถมากกว่าตัวแรก รองรับการประมวลผลได้มากกว่า ทั้งสองตัวรองรับ Microsoft Azure IoT Suite และ Windows 10 IoT
อีกส่วนหนึ่งเป็นเทคโนโลยีด้าน beacons และการบริหารจัดการเซนเซอร์ต่างๆ รวมไปถึงตัวเซนเซอร์แบบใหม่ของ Aruba ที่ทำให้การเก็บข้อมูลต่างๆ ง่ายขึ้นกว่าเดิม
Naver พอร์ทัลรายใหญ่ของเกาหลีใต้ อาจฟ้อง Hewlett Packard Enterprise (HPE) ในเรื่องโลโก้ของ HPE ที่อาจซ้ำซ้อนกับทรัพย์สินทางปัญญาของตัวเอง
สีประจำบริษัทของ Naver คือสีเขียว และการที่บริษัทเน้นพอร์ทัลที่มีระบบค้นหาด้วย ทำให้ Naver ใช้สัญลักษณ์รูปกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีเขียวมาโดยตลอด (ตั้งแต่ปี 2006) ในขณะที่ HPE เลือกใช้สี่เหลี่ยมผืนผ้าสีเขียวเช่นกัน แม้สีเขียวที่ใช้จะคนละโทนกันก็ตาม
HPE เผยโฉมโลโก้ใหม่เมื่อเดือนเมษายน โดยอธิบายความหมายของรูปสี่เหลี่ยมว่าต้องการให้ดูเรียบง่าย และหมายถึงหน้าต่างที่เชื่อมอดีต ปัจจุบัน อนาคต ไว้ด้วยกัน
Hewlett Packard Enterprise (HPE) ประกาศข้อตกลงกับไมโครซอฟท์ ว่าจะช่วยขาย Azure ให้กับลูกค้าองค์กรของตัวเอง โดย Azure จะมีสถานะเป็น "preferred cloud alternative" หรือบริการคลาวด์ที่ HP แนะนำให้เลือก ส่วนไมโครซอฟท์จะตั้ง HP เป็นผู้ให้บริการคลาวด์ที่แนะนำให้ลูกค้าใช้งาน
เมื่อเดือนตุลาคม HP (ก่อนแยกบริษัท) ประกาศยอมแพ้ เลิกทำบริการคลาวด์ Helion Public Cloud ของตัวเอง ให้กับลูกค้าทั่วไปในตลาด public cloud เพราะตลาดแข่งขันสูง ไม่สามารถต่อสู้กับ AWS, Azure, Google Cloud Platform และ IBM SoftLayer ได้ จนสุดท้าย HP จึงหันมาจับมือกับไมโครซอฟท์ตามข่าวนี้
เส้นทางชีวิตของบริษัท HP ที่ประกาศแยกบริษัทเป็น 2 ซีกคือ HP เดิม และ Hewlett Packard Enterprise มีผลในวันนี้ (1 พ.ย.)
บริษัทใหม่ใช้ตัวย่อว่า HPE โดยสินค้าและโซลูชันฝั่งไอทีองค์กรจะย้ายมาอยู่กับ HPE ทั้งหมด และ Meg Whitman ซีอีโอคนปัจจุบันของ HP จะย้ายมาเป็นซีอีโอของ HPE ส่วนซีอีโอใหม่ของ HP จะโปรโมทผู้บริหาร Dion Weisler มารับตำแหน่งแทน
Trend Micro ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ความปลอดภัยชื่อดัง ประกาศซื้อซอฟต์แวร์ความปลอดภัยเครือข่ายตระกูล Tipping Point ของ HP ด้วยมูลค่าประมาณ 300 ล้านดอลลาร์
ผลิตภัณฑ์หลักของ Tipping Point คือระบบตรวจจับ-ป้องกันผู้บุกรุก (intrusion prevention system หรือ IPS), ไฟร์วอลล์ และระบบบริหารจัดการความปลอดภัยของเครือข่าย
การซื้อกิจการครั้งนี้ทำให้ Trend Micro ได้ผลิตภัณฑ์ความปลอดภัยองค์กรไปเสริมทัพให้ครบเครื่องยิ่งขึ้น ส่วน HP ก็ได้ประโยชน์ในการขายกิจการบางส่วนที่ไม่จำเป็น เพื่อโฟกัสกับบริษัทใหม่ Hewlett Packard Enterprise ที่จะเน้นตลาดไอทีองค์กรโดยเฉพาะ
Meg Whitman ซีอีโอของ HP ออกมาให้ข้อมูลความคืบหน้าของแผนการแยก HP ออกเป็น 2 ส่วน โดย Hewlett Packard Enterprise จะแยกตัวออกจาก HP ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2015
Whitman ยังเผยวิสัยทัศน์ของ Hewlett Packard Enterprise ว่าจะหันไปโฟกัสตลาด cloud computing, mobility, big data มากขึ้น จากเดิมที่เน้นขายฮาร์ดแวร์เซิร์ฟเวอร์-สตอเรจ-อุปกรณ์เครือข่าย
เธอบอกว่าปัจจุบันนี้โลกเราอยู่ในยุค idea economy ใครมีไอเดียดีๆ สามารถเปลี่ยนมันเป็นธุรกิจได้ง่ายมาก เพราะโครงสร้างพื้นฐานทางไอทีพร้อมมาก โดย Hewlett Packard Enterprise จะเน้นจับลูกค้าที่อยู่ในโลกไอทีเก่าและกำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่โลกใหม่นั่นเอง
Meg Whitman ซีอีโอของ HP ได้เผยโฉมโลโก้ของ Hewlett-Packard Enterprise บริษัทใหม่ที่จะเกิดขึ้นหลังจากการแยกบริษัทอย่างเป็นทางการ ผ่านบล็อกของบริษัทเมื่อวานนี้
โลโก้ใหม่ของบริษัท (ภาพดูได้ท้ายข่าว) ค่อนข้างเป็นโลโก้ที่เรียบง่ายและแทบจะไม่มีอะไรเลย โดยมีเพียงกล่องสี่เหลี่ยมด้านบน อยู่เหนือชื่อบริษัทเท่านั้น โดยเธออธิบายว่าบริษัทใหม่ต้องการโลโก้ที่เรียบง่ายเพื่อแสดงให้เห็นถึงความง่ายในการทำธุรกิจด้วย
ทั้งนี้ ยังไม่มีการระบุว่าการแยกบริษัทจะเสร็จสิ้นเมื่อใด
ที่มา - HP next
เอชพีประกาศเข้าซื้อบริษัท Aruba Networks เสริมทัพสินค้าฝั่งเครือข่าย โดยมูลค่าการเข้าซื้อครั้งนี้อยู่ที่สามพันล้านดอลลาร์ ตรงตามข่าวลือที่ออกมาก่อนหน้านี้
เอชพีระบุว่าแบรนด์ Aruba จะยังคงอยู่ต่อไปหลังจากเข้าซื้อแล้ว แต่จะเป็นแผนกอยู่ภายใต้ HP Enterprise Group
Aruba มีรายได้ปี 2014 อยู่ที่ 729 ล้านดอลลาร์ ส่วนเอชพีเฉพาะไตรมาสล่าสุดที่ 26.8 พันล้านดอลลาร์
ที่มา - The Inquirer
HP เผยรายละเอียดเพิ่มเติมของแผนการแยกบริษัทเป็น 2 ส่วนที่เคยประกาศมาก่อนหน้านี้ โดย Meg Whitman ซีอีโอคนปัจจุบันของ HP จะไปนั่งคุมบริษัท Hewlett-Packard Enterprise ที่เจาะตลาดองค์กร ส่วน HP Inc. ที่ขายพีซีและเครื่องพิมพ์ จะขยับ Dion Weisler ที่ดูแลหน่วยธุรกิจนี้อยู่แล้วขึ้นมาเป็นซีอีโอ
Dion Weisler เคยมีประสบการณ์ที่ Acer, Lenovo รวมถึง Telstra โอเปอเรเตอร์จากออสเตรเลีย จุดที่น่าสนใจคือเขาเคยคุมธุรกิจพีซีมาหลากหลาย ทั้งแถบเอเชีย-แปซิฟิก และยุโรป-ตะวันออกกลาง จึงน่าจับตาดูว่า HP Inc. ภายใต้บังเหียนของเขาจะสามารถรุกตลาดใหม่ๆ นอกสหรัฐอเมริกาได้มากน้อยแค่ไหน
จากข่าวลือเมื่อเช้า ล่าสุด HP ได้แถลงอย่างเป็นทางการถึงแผนการแยกธุรกิจออกมาเป็น 2 บริษัท มีรายละเอียดดังนี้
มีรายงานว่า HP เตรียมแถลงประกาศแยกออกเป็นสองบริษัทในวันจันทร์นี้ (เวลากลางคืนประเทศไทย) โดยบริษัทแรกจะรับผิดชอบธุรกิจพีซีและปริ๊นเตอร์ ส่วนอีกบริษัทเน้นไปที่ฮาร์ดแวร์, ซอฟต์แวร์ และส่วนบริการลูกค้าองค์กร