Hulu บริการสตรีมมิ่งดูรายการทีวี-ซีรีย์ออนไลน์ของสหรัฐฯ เตรียมจะปิดบริการฟรีสำหรับผู้ใช้ โดยจะทำให้บริการมีแต่การจ่ายเงินเพื่อบอกรับสมาชิกเท่านั้น คือ บริการที่ถูกกว่าที่ยังมีโฆษณาบ้าง จ่ายที่ราคา 7.99 ดอลลาร์ และบริการที่แพงกว่าและไม่มีโฆษณา จ่ายที่ราคา 11.99 ดอลลาร์ต่อเดือน
นอกจากนี้ Yahoo ก็เพิ่งจะเปิดตัวบริการสตรีมมิ่งใหม่ชื่อว่า Yahoo View ซึ่งบริการนี้จะมี Hulu ด้วย โดยจะให้ผู้ชมดูรายการย้อนหลังได้ 5 รายการล่าสุดฟรี ซึ่งจากบริการใหม่ของ Yahoo นี้ก็น่าจะทำให้ Hulu ย้ายบริการฟรีทั้งหมดไปอยู่ได้ไม่ยาก (คือเป็นบริการฟรีเหมือนเดิม แต่ย้ายที่อยู่) และ Hulu จะเหลือแค่สมาชิกที่จ่ายเงินเท่านั้น และผู้ที่ต้องการดูฟรีก็ให้ไปดูผ่าน Yahoo View
IBM Cloud Video ได้ทำผลสำรวจผู้สมัครบริการบอกรับสมาชิกวิดีโอ เช่น Netflix, Hulu, Amazon โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 1,007 คนในสหรัฐเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยคำถามในแบบสอบถามก็มีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานบ่อย ๆ, การยกเลิกสมาชิก ฯลฯ
ผลสำรวจของ IBM นั้นเผยว่า 31% ของผู้สำรวจบอกว่าพวกเขาได้ยกเลิกสมาชิกวิดีโอไปแล้ว ซึ่งเมื่อสนใจเฉพาะที่บริการของ Amazon หรือ Hulu นั้น ยอดยกเลิกบริการมีสูงถึง 40% และเมื่อถามถึงเหตุผลว่าทำไมผู้ใช้จึงยกเลิกบริการ 27% ตอบว่าเพราะมีโฆษณามากเกินไป, 25% เลิกเพราะเหตุผลด้านราคา, 20% บอกว่าเพราะมีวิดีโอน้อยไป และ 17% บอกว่าเพราะปัญหาด้านเทคนิค โดย 73% ในนั้นกล่าวถึงปัญหาการรอโหลดวิดีโอ
ไมโครซอฟท์ยังเดินหน้าผลักดันแอพที่เป็น Universal Windows Platform (UWP) ตามแผนการของ Windows 10 โดยแอพชื่อดังตัวล่าสุดที่มาลงคือ Hulu แอพดูรายการทีวี-ซีรีส์ออนไลน์ของสหรัฐ (ผู้ใช้ในไทยยังใช้งานไม่ได้)
Hulu เวอร์ชัน Windows 10 รองรับการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Cortana (เช่น “Hey Cortana, Hulu play Family Guy”) และอัพเดตข้อมูลผ่าน Live Tiles ได้ด้วย
สหรัฐอเมริกามีบริการสตรีมมิ่งทั้งภาพยนตร์และเพลงที่โด่งดังหลายตัว เช่น Netflix หรือ Hulu อย่างไรก็ตาม บริการเหล่านี้ถูกจำกัดให้เข้าถึงได้ (แม้จะเสียเงินแล้วก็ตาม) จากภายในประเทศที่ให้บริการเท่านั้น ด้วยเหตุผลด้านลิขสิทธิ์ของภาพยนตร์ที่ซื้อมาครอบคลุมเฉพาะประเทศนั้นๆ
ทางออกของคนที่อยู่ต่างประเทศและอยากดูวิดีโอบน Netflix หรือ Hulu จึงเป็นการต่อผ่าน VPN ไปโผล่ที่เครื่องภายในสหรัฐก่อน จากนั้นค่อยส่งข้อมูลผ่าน VPN กลับมายังเครื่องของเราอีกทีหนึ่ง
สุดท้ายก็ไปไม่รอดในญี่ปุ่นสำหรับ Hulu บริการดูทีวีผ่านอินเทอร์เน็ตที่ขยายบริการจากสหรัฐฯ ไปสู่ญี่ปุ่นเมื่อปี 2011 แต่จากทิศทางของบริษัทที่จะเน้นไปที่สหรัฐฯ มากขึ้น ล่าสุด Mike Hopkins ซีอีโอของ Hulu ประกาศผ่านบล็อกของบริษัทว่าได้ออกจากธุรกิจในญี่ปุ่น และขายบริการดังกล่าวให้กับ Nippon TV ช่องทีวีเบอร์หนึ่งของญี่ปุ่น โดยไม่ได้ระบุวงเงินออกมา
แม้ว่า Hulu สาขาญี่ปุ่นจะถูกเข้าซื้อโดย Nippon TV แต่บริการดังกล่าวก็จะยังให้บริการต่อไป รวมถึงหน้าเว็บไซต์ก็คงอยู่ดังเดิมอีกด้วย
ส่วน Hulu ญี่ปุ่นนั้น แม้ว่าจะขายไปแล้ว แต่ Hopkins ก็บอกว่าเป็นส่วนที่เติบโตสูง เมื่อปี 2013 มียอดผู้สมัครเพิ่มขึ้นเท่าตัว และการมาของ Nippon TV จะยิ่งทำให้บริการนี้ไปต่อได้ไกลยิ่งขึ้น
อาจไม่น่าตื่นเต้นนักสำหรับคนไทยส่วนใหญ่ แต่สำหรับคอทีวีที่อเมริกา ตอนนี้ Hulu Plus เวอร์ชันสำหรับเครื่อง Wii ได้ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้คอทีวีทั้งหลายสามารถดูรายการที่อยู่บน Hulu ผ่านทางทีวีที่ต่อกับเครื่อง Wii ได้ โดยมีค่าบริการเพียง $7.99 ต่อเดือน ซึ่งก็คือค่าสมาชิกรายเดือนของ Hulu นั่นเอง
จากที่มีข่าวว่า Hulu บริการทีวีผ่านเน็ตที่สื่อใหญ่ในสหรัฐหลายเจ้าลงขันกันทำ ต้องการขายกิจการให้กับเจ้าของรายใหม่ และมีข่าวลือออกมามากมายว่ามีคนสนใจซื้อหลายราย (ทั้งกูเกิล ไมโครซอฟท์ ยาฮู แอปเปิล มากันครบ - ข่าวเก่าหมวด Hulu)
ข่าวนี้ขยายความจาก งาน Facebook f8 วันนี้: Timeline และ Open Graph รุ่นใหม่ ในส่วนของ Open Graph ใครยังไม่ได้อ่านข่าวเก่าก็ย้อนไปอ่านก่อนครับ
นอกจากเรื่อง Timeline แล้ว สิ่งที่ Facebook ประกาศในงาน F8 คือ Open Graph API แบบใหม่ที่แอพสามารถโพสต์เนื้อหาบนวอลล์ของเราได้มากขึ้น โดยจะแสดงอัตโนมัติในส่วนของ Ticker ที่แสดงกิจกรรมแบบเรียลไทม์ และ "อาจจะ" ไปแสดงผลต่อบน News Feed กับ Timeline ได้
ข่าวการเสนอซื้อ Hulu ยังไม่จบง่ายๆ (ข่าวเก่าหมวด Hulu) ล่าสุดมีข่าววงในออกมาอีกว่า แอปเปิลกำลังพิจารณาจะร่วมประมูลซื้อ Hulu กับเขาด้วย
แอปเปิลนั้นมีเงินสดในมืออยู่มหาศาลจากผลประกอบการที่ดีเยี่ยมในช่วงปีหลังๆ การเข้าซื้อ Hulu จะช่วยให้แอปเปิลสามารถกระจายภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ไปสู่อุปกรณ์ของตัวเองได้สะดวกขึ้น อย่างไรก็ตาม Hulu ก็มีส่วนทับซ้อนกับ iTunes Store อยู่มาก ก็ต้องจับตาดูต่อไปว่าถ้าแอปเปิลซื้อ Hulu ได้จริง จะจัดการเรื่องนี้อย่างไร
ที่มา - Bloomberg
ความคืบหน้าของข่าวการขายกิจการ Hulu ซึ่งยักษ์ใหญ่ทั้งไมโครซอฟท์ ยาฮู กูเกิล มีข่าวว่าสนใจซื้อ
ตอนนี้ Hulu กำลังเปิดประมูลราคาเสนอซื้อเป็นการภายใน ซึ่งข่าววงในอีกเช่นกันบอกว่าไมโครซอฟท์เสนอราคารอบแรกหนึ่งครั้ง แต่จะไม่เสนอราคารอบที่สอง โดยไม่ระบุเหตุผลว่าเพราะอะไร
Hulu กลายเป็นบริษัทเนื้อหอมที่สุดในขณะนี้ หลังจากมีข่าวยาฮูและไมโครซอฟท์สนใจซื้อ ในที่สุดก็มีข่าวของ "กูเกิล" ออกมาอย่างที่ทุกคนคาดไว้
หนังสือพิมพ์ LA Times รายงานข้อมูลจากวงในว่า กูเกิลกำลังเจรจาซื้อ Hulu อยู่เช่นกัน โดย LA Times ประเมินว่ากูเกิลต้องการ Hulu มาเสริมทัพวิดีโอออนไลน์ที่รายการมาจากบริษัทสื่อใหญ่ๆ ซึ่งตรงนี้ยังเป็นจุดอ่อนของกูเกิลอยู่ (เพราะ YouTube เลือกแนวทางวิดีโอจากผู้ผลิตอิสระ)
นอกจากมีข่าวลือก่อนหน้านี้ว่ายาฮูสนใจที่จะซื้อ Hulu (บริการดูรายการทีวีผ่านอินเทอร์เน็ตที่ได้รับความนิยมในสหรัฐฯ) ล่าสุดหนังสือพิมพ์ Los Angeles Times รายงานว่า ไมโครซอฟท์ก็เป็นหนึ่งในบริษัทที่สนใจจะซื้อ Hulu เช่นกัน
หากไมโครซอฟท์สามารถซื้อ Hulu ได้สำเร็จ ก็จะกลายเป็นคนคอนโทรลบริการโทรทัศน์ผ่านอินเทอร์เน็ตในหลากหลายแพลตฟอร์มและอุปกรณ์ อาทิ PlayStation 3, iOS, Android และไมโครซอฟท์ก็จะปรับแต่ง Hulu ให้เข้ากับ Xbox 360 หรือกระทั่งกับ Windows 8 และ Windows Phone อย่างแน่นอน
เช่นเคย ตัวแทนของไมโครซอฟท์ไม่แสดงข้อคิดเห็นต่อข่าวลือดังกล่าวแต่อย่างไร
มีข่าวว่าผู้ถือหุ้น Hulu บริการดูรายการทีวีผ่านเน็ตที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในสหรัฐ เตรียมขายกิจการให้บริษัทสักแห่งที่ยังไม่ระบุนาม
Hulu เป็นบริการที่ร่วมลงขันกันโดยสื่อใหญ่ของสหรัฐอเมริกา 3 รายคือ Disney, NBC Universal และ Fox (ซึ่ง Fox มี News Corp เป็นเจ้าของอีกทีหนึ่ง) ตัวบริการได้รับความนิยมสูง แต่ก็มีปัญหาเรื่องรายได้ไม่เข้าเป้า, ปัญหาการขอสิทธินำเนื้อหามาฉายบน Hulu, สื่อสามเจ้าทะเลาะกันเองว่าควรดำเนินธุรกิจ Hulu อย่างไร และปัญหาเรื่องคนหนีไปดูรายการทีวีบน Hulu จนทีวีแบบปกติรายได้ตกลง
บนเวที CES 2011 นอกจากที่ไมโครซอฟท์ประกาศความสำเร็จของ Kinect กับยอดขาย 8 ล้านเครื่องแล้ว ไมโครซอฟท์ยังประกาศฟีเจอร์ใหม่ของ Kinect อีก 2 อย่าง
อย่างแรก Avatar Kinect ใช้กล้องของ Kinect จับความเคลื่อนไหวแล้วมาทำเป็นคาแรกเตอร์ประจำตัว ที่ไม่ธรรมดาคือมันจับความเคลื่อนไหวได้ถึงระดับส่วนต่างๆ ของใบหน้า (เช่น การยักคิ้ว) รวมไปถึงการขยับนิ้วมือ นอกจากนี้ยังใช้ avatar ประจำตัวสนทนากับเพื่อนๆ avatar ด้วยกันได้ด้วย
ในการเปิดตัวฟีเจอร์นี้ สตีฟ บัลเมอร์ได้ส่ง avatar ของตัวเองขึ้นเวทีทำหน้าที่แทน เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อย
Hulu บริการทีวีออนไลน์ที่สถานีทีวีในสหรัฐลงขันกันสร้างขึ้น และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก (เมืองไทยใช้ไม่ได้ครับ) ได้เปิดตัว Hulu Player รุ่นใหม่ที่มีฟีเจอร์เพิ่มขึ้น เช่น adaptive bitrate, volume normalization ฯลฯ
แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่มุมมองของ Hulu ที่มีต่อ HTML5 ในฐานะผู้ให้บริการวิดีโอรายใหญ่ของสหรัฐ (น่าจะเป็นรองแค่ YouTube นะครับ) ทาง Eugene Wei รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Hulu ระบุว่าความสามารถของ HTML5 ในปัจจุบันยังไม่พอต่อความต้องการของบริษัท เพราะ Hulu ไม่ได้มีแค่วิดีโอ แต่ยังต้องมีเรื่องโฆษณา ปรับคุณภาพของวิดีโอให้เหมาะกับเครือข่าย การทำบัฟเฟอร์ ฯลฯ ซึ่งปัจจุบัน Flash นั้นทำได้