Tags:
Node Thumbnail

EFF และ ACLU สององค์กรไม่หวังผลกำไรด้านสิทธิการแสดงออกชนะคดีที่ฟ้องร้องกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (DHS) พร้อมกับหน่วยงานดูแลชายแดน CBP (U.S. Customs and Border Protection) และ ICE (U.S. Immigration and Customs Enforcement) จากการตรวจค้นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของผู้เดินทางเข้าประเทศจำนวน 11 รายโดยไม่สามารถแจ้งเหตุผลอันสมควรได้

การตรวจค้นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์มือถือหรือโน้ตบุ๊ก มีมากขึ้นเรื่อยๆ ในสหรัฐฯ โดยปี 2018 ที่ผ่านมามีการตรวจค้นกว่า 33,000 ครั้ง เพิ่มขึ้นสี่เท่าตัวในห่วงสามปี

Tags:
Node Thumbnail

ออสเตรเลียกำหนดกลุ่มความสามารถพิเศษสำหรับโครงการมอบวีซ่าถาวรให้กับแรงงานที่จะมีความสำคัญในอนาคต โดยกลุ่มอาชีพ เช่น เทคโนโลยีการเกษตร, เทคโนโลยีอวกาศ, พลังงาน, เทคโนโลยีการแพทย์, ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์, คอมพิวเตอร์ควอนตัม, วิทยาศาสตร์ข้อมูล เป็นต้น

Tags:
Node Thumbnail

เมื่อเดือนมีนาคม 2018 กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เสนอไอเดียให้ผู้ขอวีซ่าเข้าสหรัฐฯ ต้องเปิดเผยข้อมูลบัญชีโซเชียลมีเดียร่วมด้วย ล่าสุดข้อบังคับดังกล่าวเกิดขึ้นจริงและมีผลแล้ว

ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ผู้ที่ยื่นขอวีซ่าเข้าสหรัฐอเมริกาต้องระบุชื่อบัญชีโซเชียลมีเดียของตนย้อนหลัง 5 ปี โดยในแบบฟอร์มคำร้องจะมีรายชื่อโซเชียลมีเดียอยู่จำนวนหนึ่งเอาไว้ให้ผู้ขอวีซ่ากรอกชื่อบัญชีลงไป และหากผู้ขอวีซ่ามีการใช้งานโซเชียลมีเดียอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อข้างต้นก็สามารถเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมได้โดยสมัครใจ

Tags:
Node Thumbnail

โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตรียมลงนามในคำสั่งยกเลิกโครงการ DACA (Deferred Action for Childhood Arrivals) อนุญาตให้เยาวชนที่หลบเข้ามาในประเทศตั้งแต่ยังเด็ก สามารถอาศัย ศึกษาและทำงานได้อย่างถูกกฎหมายในสหรัฐฯ ต่อไปได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อคนในโครงการหรือ Dreamer เกือบ 800,000 คน และเป็นอีกครั้งที่เหล่าผู้บริหารบริษัทเทคโนโลยีระดับบิ๊กต้องออกมาประกาศจุดยืน ไม่เห็นด้วยกับนโยบายของประธานาธิบดี

Tags:
Node Thumbnail

ทันทีที่นโยบายปิดกั้นผู้อพยพจาก 7 ประเทศมุสลิมไม่ให้เข้าสหรัฐฯเป็นการชั่วคราวได้รับการอนุมัติ และอาจมีการทบทวนวีซ่าทำงาน H-1B บรรดาบิ๊กบอสวงการไอทีต่างก็ประสานเสียงไม่เห็นด้วย ล่าสุดวันนี้มีเอกสารอย่างเป็นทางการจาก 162 บริษัทไอทีระบุข้อโต้แย้งทางกฎหมาย และเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนนโยบายใหม่อีกครั้ง

Tags:
Node Thumbnail

วันที่ 1 พ.ค. นอกจากเป็นวันแรงงานแล้ว ที่สหรัฐฯยังมีจัดการประท้วงโดยกลุ่มสนับสนุนผู้อพยพ เป็นการประท้วงเชิงสัญลักษณ์ต่อประธานาธิบดีโดยตรง และ Facebook ประกาศว่าจะไฟเขียวให้พนักงานเข้าร่วมการประท้วงดังกล่าวได้ โดยจะจัดดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นรถบัส เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย

โฆษก Facebook บอกว่า บริษัทส่งเสริมบรรยากาศที่พนักงานสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างเสรี สนับสนุนให้พนักงานตระหนักถึงความสำคัญของวันแรงงานสากล และตระหนักในเงื่อนไขอื่นที่ก่อให้เกิดความเป็นธรรมในการจ้างงาน

บริษัทไอทีหลายแห่งไม่เห็นด้วยกับนโยบายแบนผู้อพยพของทรัมป์ และแนวคิดอนุรักษ์นิยมสุดโต่งของทรัมป์ด้วย Mark Zuckerberg เองก็เคยประกาศจุดยืนต่อต้านนโยบายดังกล่าว

Tags:
Node Thumbnail

ช่วงนี้ซีอีโอบริษัทเทคโนโลยีสองแห่งคือ Travis Kalanick แห่ง Uber กับ Elon Musk แห่ง Tesla กำลังโดนโจมตีอย่างหนัก เนื่องจากรับตำแหน่งที่ปรึกษาให้ประธานาธิบดี Donald Trump (Presidential Advisory Forum) จึงถูกมองว่าให้การสนับสนุนรัฐบาล (ตอนนี้ฝั่ง Travis ลาออกแล้ว)

ล่าสุด Elon Musk ได้ทวีตเกี่ยวกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์นี้ โดยยืนยันว่าเขารับตำแหน่งที่ปรึกษาให้ Trump เพราะต้องการให้คำแนะนำในประเด็นที่เขาคิดว่าสำคัญสำหรับประเทศและสำหรับโลก และในวันพรุ่งนี้เขาและที่ปรึกษาคนอื่นจะเข้าพบประธานาธิบดีเพื่อคัดค้านคำสั่งแบนผู้อพยพ และเสนอการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับนโยบายดังกล่าว

Tags:
Node Thumbnail

พนักงานกูเกิลกว่า 2,000 คนรวมตัวประท้วงที่สำนักงานทั่วโลก แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับนโยบายแบนผู้อพยพจากประเทศมุสลิม 7 ประเทศเป็นการชั่วคราว โดยผู้ประท้วงต่างโพสต์รูป วิดีโอ และข้อความบนทวิตเตอร์ โดยใช้แฮชแทกว่า #GooglersUnite

การประท้วงเกิดขึ้นหลังจากพนักงานร่วมกันระดมทุนกว่าสองล้านดอลลาร์ จ่ายให้องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร เพื่อสนับสนุนการทำงานเรื่องผู้อพยพโดยเฉพาะ มีรายงานว่า Sundar Pichai ซีอีโอกูเกิลก็อยู่ในเหตุการณ์ประท้วงที่สำนักงานใหญ่ในเมือง Mountain View ด้วย โดยเขากล่าวกับพนักงานว่าการต่อสู้ของเราต้องดำเนินต่อไป

Tags:
Node Thumbnail

ไม่ได้มีแต่ Uber เท่านั้นที่ถูกวิจารณ์ว่าเข้าไปช่วยงาน Donald Trump ซีอีโอคนดังคนล่าสุดที่โดนถล่มคือ Elon Musk ที่เข้าไปนั่งอยู่ในคณะที่ปรึกษาของ Trump ชุดเดียวกับซีอีโอของ Uber

Musk ออกมาวิจารณ์นโยบายต่อต้านผู้อพยพของ Trump ผ่านทวิตเตอร์ เขาบอกว่าการแบนผู้อพยพครั้งนี้ไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้อง และเขาจะหาโอกาสพูดคุยเรื่องนี้กับคณะที่ปรึกษา แล้วนำเสนอประเด็นไปยังประธานาธิบดี Trump

Tags:
Node Thumbnail

นโยบายสกัดกั้นผู้อพยพของ Donald Trump อาจเป็นเพียงแค่ปัญหาเล็กๆ ของวงการไอที เพราะก้าวต่อไปของ Trump อาจเป็นการเปลี่ยนนโยบายวีซ่าทำงาน H-1B แบบยกเครื่อง ส่งผลกระทบต่อบริษัทไอทีในสหรัฐที่ใช้แรงงานจากต่างประเทศจำนวนมาก

สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าววงในว่าทีมงานของ Trump กำลังร่างนโยบายวีซ่าทำงานแบบใหม่ บังคับให้บริษัทอเมริกันต้อง "จ้างคนอเมริกันก่อน" (hire American first) และถ้าจำเป็นต้องจ่ายคนต่างชาติ รัฐบาลจะจัดลำดับความสำคัญตามค่าจ้าง คนที่มีค่าจ้างสูงก็มีโอกาสจะได้รับการอนุมัติวีซ่ามากกว่านั่นเอง

Tags:
Node Thumbnail

บรรดาผู้นำโลกไอทีสหรัฐต่างออกมาคัดค้านนโยบายผู้อพยพของ Donald Trump ที่ดูเป็นเอกภาพ แต่กรณีของ Uber กลับแตกต่างออกไป

Travis Kalanick ซีอีโอของ Uber เคยเข้าร่วมเป็นที่ปรึกษาให้กับ Trump มาก่อน (คนอื่นที่เข้าร่วมคือ Elon Musk และซีอีโอของบริษัทใหญ่อื่นๆ เช่น Disney, IBM, Wal-Mart, GM, PepiCo รวม 19 คน) ทำให้เขาถูกวิจารณ์มาก่อนแล้วว่าเข้าไปช่วย Trump และในแถลงการณ์ของเขาเรื่องผู้อพยพ ก็ไม่ได้แสดงท่าทีชัดเจน (เท่ากับซีอีโอคนอื่นๆ) ในการคัดค้าน Trump

Tags:
Node Thumbnail

เมื่อวานนี้ ประธานาธิบดี Donald Trump เซ็นคำสั่งห้ามผู้อพยพเข้าประเทศ สร้างเสียงวิจารณ์มากมาย แต่ผลกระทบคือชาวต่างชาติจากประเทศมุสลิมที่ระบุในคำสั่งทั้งหมด 7 ประเทศ จะถูกห้ามเข้าสหรัฐอเมริกาชั่วคราว 90 วัน (ยกเว้นผู้อพยพจากซีเรียที่ถูกสั่งห้ามแบบไม่มีกำหนด)

หลังคำสั่งนี้มีผลบังคับใช้ หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐก็ห้ามคนจากประเทศเหล่านี้เดินทางเข้าสหรัฐทันที และคนที่จะเดินทางเข้าสหรัฐจะไม่ได้รับการอนุญาตให้ขึ้นเครื่องจากต้นทาง แม้ว่ามีวีซ่าหรือกรีนการ์ดแล้วก็ตาม (ข้อมูลยังสับสนว่าผู้ถือกรีนการ์ดเข้าประเทศได้หรือไม่)