Motorola ออกมายืนยันว่าจะปิดโรงงานประกอบและบรรจุของตัวเองซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเชนไน ประเทศอินเดีย ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ซึ่งจะส่งผลให้พนักงาน 76 คนต้องตกงาน
นับตั้งแต่เริ่มเปิดโรงงานตั้งแต่ปี 2008 ด้วยเงินลงทุนราว 31.7 ล้านดอลลาร์ โรงงานนี้ได้เป็นกำลังสำคัญในระบบการผลิตและจัดส่งของ Motorola มาโดยตลอด ด้วยจุดแข็งคือค่าแรงราคาถูก
อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (R&D) ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองบังกาลอร์ จะไม่ถูกปิดไปด้วย
ที่มา - ZDNet
Amit Gujral ผู้บริหารฝ่ายอุปกรณ์พกพาของ LG India ไปแถลงข่าวเปิดตัว Optimus Vu ในอินเดีย เขาตอบคำถามเรื่อง LG Nexus อย่างชัดถ้อยชัดคำว่า กูเกิลจะเปิดตัว LG Nexus (ในข่าวต้นฉบับใช้ชื่อนี้) ในวันที่ 29 ตุลาคมนี้ และมือถือจะวางขายในอินเดียช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน
นอกจากนี้เขายังพูดถึงข้อมูลทางเทคนิคของ LG Nexus ว่าใช้หน้าจอ 4.7" ซีพียูควอดคอร์ 1.5GHz และระบบปฏิบัติการ Android 4.2
ข้อมูลส่วนของ LG Nexus คงไม่น่าตื่นเต้นอะไรนักเพราะข่าวหลุดออกมาเยอะมากแล้ว แต่กำหนดการ "ปลายเดือนพฤศจิกายน" น่าจะช่วยให้เราพอทราบแผนคร่าวๆ ของ LG ว่าจะทำตลาด LG Nexus นอกสหรัฐเมื่อไรกันแน่ครับ
จากกรณี ซัมซุงจะไม่ออกค่าตั๋วเครื่องบินขากลับจากงาน IFA ให้บล็อกเกอร์ถ้าไม่ยอมโปรโมทสินค้าให้ จนเป็นข่าวดังไปทั่วโลก ทางต้นเรื่องคือซัมซุงอินเดียออกมาแถลงการณ์แล้วครับ (ซึ่งก็ยังมีประเด็นขัดแย้งอยู่ดี)
อย่างแรกคือซัมซุงได้ส่งอีเมลขอโทษไปยัง Clinton Jeff บล็อกเกอร์ที่ประสบเหตุดังกล่าว โดยในอีเมลก็ยอมรับว่าซัมซุงพาเขาไปสู่สถานกาณ์ที่ยากลำบาก และขอแก้ไขปัญหานี้
“I would like to reach out to you and deeply apologize to you for your experience in Berlin at IFA. We put you through undue hardship and we are trying to rectify the situation.”
พี่ใหญ่อย่าง Xperia S ได้อัพเดตเป็น Android 4.0 ICS ตั้งแต่เดือนมิถุนายน คราวนี้อาจใกล้ถึงคิวของพี่รอง Xperia P กับเขาบ้าง
Sony Mobile India โพสต์ข้อมูลนี้ผ่าน Facebook ว่าผู้ใช้ Xperia P จะเริ่มได้อัพเดต Android 4.0 ICS ระหว่างวันที่ 19-25 สิงหาคมนี้ ส่วนประเทศอื่นๆ ยังไม่มีข้อมูลแต่ก็คาดว่าจะไม่หนีกันมากครับ
ที่มา - Android Central
เมื่อไม่กี่วันมานี้เพิ่งมีข่าว ซีอีโออินเทลประกาศ สมาร์ทโฟน x86 จะเปิดตัวสัปดาห์นี้ ซึ่งสื่อต่างประเทศคาดว่ามันคือ Lenovo K800
ความคืบหน้าจากข่าว Datawind อัพสเปคแท็บเล็ตเพื่อการศึกษาในอินเดีย พร้อมส่งชุดแรกหนึ่งแสนเครื่องในเดือนหน้า ตอนนี้ข้อมูลอย่างเป็นทางการออกมาแล้ว
แท็บเล็ต Aakash 2 ที่ผลิตโดยบริษัท Datawind จะมีสเปกดังนี้
เป็นเวลากว่าสองปีหลังจากที่รัฐบาลอินเดียได้ขีดเส้นตายให้กับ BlackBerry ในการอนุญาตให้ทางรัฐบาลสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ซึ่งเมื่อวานนี้เอง RIM บริษัทต้นสังกัดของ BlackBerry ออกมาเปิดเผยว่า ทางบริษัทได้อนุญาตให้รัฐบาลอินเดียสามารถเข้าถึงข้อมูลของบริการต่างๆ บน BlackBerry servers ที่ตั้งอยู่ที่เมืองมุมไบได้แล้ว
จากการยืนยันโดยหน่วยงานด้านความปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์ รัฐบาลอินเดียยังสามารถเข้าถึงบริการ BBM (BlackBerry Messenger) ได้อย่างสมบูรณ์แบบโดยใช้กระบวนการการถอดรหัสแบบ 256-bit ซึ่งทำให้รัฐบาลอินเดียสามารถอ่านข้อความใดๆ ก็ได้ที่ถูกส่งผ่านกันภายในบริการนี้ โดยอ้างถึงความมั่นคงภายในประเทศและการต่อต้านผู้ก่อการร้าย
หลังจากก่อนหน้านี้โครงการแท็บเล็ตเพื่อการศึกษาของอินเดีย ประสบกับปัญหาเครื่องช้า และจอ resistive ใช้งานลำบาก และอาจถูกอินเดียยกเลิกสัญญาเพื่อหาผู้ผลิตรายใหม่ ล่าสุดบริษัทแม่ของโครงการแท็บเล็ตราคาถูก Datawind ในประเทศอังกฤษได้เพิ่มสเปคของเจ้า Aakash (ชื่อโครงการแท็บเล็ตนี้แท็บเล็ต) ให้ดีขึ้น โดยมีราคาเพิ่มขึ้นเป็น 2000 รูปี กลายเป็น 40 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 1,200 บาท)
สเปคที่เปลี่ยนไปคืออัพซีพียูเป็น Cortex-A8 ความเร็ว 700 MHz เปลี่ยนหน้าจอแบบ resistive เป็น capacitive และเพิ่มแบตเตอรี่เป็น 3,300 mAh และพร้อมส่งชุดแรกหนึ่งแสนเครื่องภายในเดือนหน้านี้
โนเกียประกาศปิดบริการการเงินบนมือถือ Nokia Money ที่ให้บริการในอินเดีย โดยให้เหตุผลว่าไม่ใช่ธุรกิจหลักของบริษัท และต้องการโฟกัสที่ธุรกิจมือถือและบริการเชิงพิกัดแทน
แผนการนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างองค์กรที่ริเริ่มโดย Stephen Elop ตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา โดยโนเกียเพิ่งเปิดบริการ Nokia Money ในอินเดียเมื่อปีที่แล้ว และไม่ได้รับความนิยมอย่างที่คาดไว้
ที่มา - Reuters
อินเดียเตรียมตั้งศูนย์ความร่วมมือทางไซเบอร์แห่งชาติ (National Cyber Coordination Centre) เพื่อสแกนทุกข้อความที่ผ่านอินเทอร์เน็ตเกตเวย์
ตามกฏหมายของอินเดีย การกระทำเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องผิดกฏหมายเพราะทุกวันนี้เองก็มีการติดตั้งเครื่องตรวจข้อความตามศูนย์ข้อมูลของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตอยู่แล้ว แต่ศูนย์นี้จะรวมกำลังคนเข้ามาไว้ในที่เดียวกัน
ศูนย์นี้จะใช้งบประมาณ 800 ล้านรูปีย์หรือ 500 ล้านบาทไทย จะใช้ตรวจสอบทวีต, ข้อความแชต, อีเมล, ตลอดจนข้อความในเว็บเครือข่ายสังคมออนไลน์ทั้งหมด โดยตัวเจ้าหน้าที่ในโครงการนี้เองก็รับรู้ว่าระบบนี้จะไม่สามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด แต่หวังว่าโครงการนี้จะช่วยลดความเสี่ยงลง
โครงการแท็บเล็ตของอินเดียนับเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ถูกจับตามองไปทั่วโลก โดยตั้งเป้าหมายไว้ที่ 1 ล้านเครื่อง แต่ตอนนี้ก็ต้องเจอปัญหาหลายอย่างจนอาจจะต้องเปลี่ยนผู้ผลิต และกำหนดมาตรฐานเครื่องเสียใหม่
แท็บเล็ตราคา 35 ดอลลาร์ที่อินเดียใช้งานนั้นผลิตโดยบริษัทสัญชาติอังกฤษที่ชื่อว่า DataWind โดยตอนนี้ได้ส่งมอบไปแล้ว 10,000 เครื่อง แต่กลุ่มผู้ใช้ก็บ่นว่าเครื่องที่ได้รับมานั้นทำงานช้าเกินไป, แบตเตอรี่มีอายุสั้น, และจอแบบ resistive นั้นทำให้ทำงานลำบาก โดยสัญญาชุดแรกของ DataWind นั้นต้องส่งมอบเครื่องจำนวน 100,000 เครื่อง
การเจรจาระหว่าง RIM ผู้ผลิต BlackBerry และให้บริการ BBM กับรัฐบาลอินเดียคงใกล้ถึงจุดยุติเมื่อทาง RIM ระบุว่าบริษัทได้ติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ BBM ในเมืองมุมไบ และพร้อมให้รัฐบาลอินเดียเข้าตรวจสอบ
การติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ไว้ในประเทศจะทำให้เจ้าหน้าที่สามารถติดตั้งเครื่องดักฟังข้อมูลที่วิ่งผ่านเครือข่าย BBM ได้ โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลอินเดียเคยขอไปถึงบริการ BES ที่บริษัทขนาดใหญ่ซื้อซอฟต์แวร์ไปติดตั้งไว้ใช้งานเอง แต่ทาง RIM ก็ยืนยันว่าไม่สามารถดักฟังให้ได้เพราะ BES นั้นเข้ารหัสโดยกุญแจของแต่ละบริษัทเอง ในกรณีนี้เมื่อรัฐบาลอินเดียสามารถดักฟัง BBM ได้ก็ดูจะพอใจ และยอมถอยจากความพยายามดักฟัง BES แล้ว
กลุ่มแฮกเกอร์ Bangladesh Cyber Army ได้ทำการขู่ประเทศอินเดียผ่าน YouTube ว่าจะทำการโจมตีระบบการเงินและตลาดหลักทรัพย์ของอินเดียอีกครั้ง เพื่อเป็นการเรียกร้องให้กองกำลังป้องกันแนวชายแดนของอินเดีย (BSF) หยุดเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ชาวบังคลาเทศตามแนวชายแดน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทางกลุ่ม Bangladesh Cyber Army ได้ทำการโจมตีเว็บไซต์สำคัญที่เกี่ยวกับตลาดหลักทรัพย์ด้วยวิธี DDoS ไปแล้วถึง 3 เว็บไซต์ โดยทั้งหมดล่มไปในช่วงเวลาที่มีการใช้งานหนาแน่น ทำให้ไม่สามารถดำเนินธุรกรรมใดๆ ได้เป็นเวลา 10 ชั่วโมง การโจมตีครั้งนี้อาจสร้างความเสียหายให้กับระบบการเงินในอินเดียอย่างรุนแรง ซึ่งอาจมีค่าเสียหายหลายล้านรูปีเลยทีเดียว
ร้านไมโครซอฟท์ออนไลน์สโตร์อินเดียถูกแฮกโดยกลุ่มแฮ็กเกอร์ชาวจีนชื่อ EvilShadow team – 7z1&Ancker หลังจากแฮกสำเร็จทางกลุ่มแฮ็กเกอร์ได้อ้างว่าสามารถเข้าถึงฐานข้อมูลของลูกค้า และได้ทำการเปิดเผยข้อมูลผู้ใช้และรหัสผ่าน รวมถึงข้อมูลการชำระเงินที่ได้มา
นอกจากนี้กลุ่มแฮ็กเกอร์ชาวจีนยังเปิดเผยอีกว่ารหัสผ่านที่ได้มานั้นไม่มีการเข้ารหัสใดๆ และเก็บไว้ด้วยรูปแบบ plain text อีกด้วย
จนถึงตอนนี้ไมโครซอฟท์ออนไลน์สโตร์อินเดียก็ยังอยู่ในสถานะออฟไลน์และยังไม่มีแถลงการณ์ใดๆ ออกมาจากทางไมโครซอฟท์เกี่ยวกับเรื่องนี้
โครงการแท็บเล็ตราคาถูกของอินเดียนั้นผลิตโดยเอกชนและได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเต็มที่ แต่ที่ผ่านมาก็ยังไม่แน่ชัดว่ารัฐบาลจะนำแท็บเล็ตไปใช้อย่างไรบ้างแม้ตัวรัฐมนตรีจะเป็นคนให้ข่าวเวลามีความคืบหน้าในการผลิตอยู่เรื่อยๆ
แต่วันนี้ความชัดเจนก็เพิ่มมากขึ้นเมื่อนาย Kapil Sibal รัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ออกมาให้ข่าวว่าแผนการของรัฐบาลคือการแจกให้กับนักเรียน โดยโรงเรียนที่จะแจกแท็บเล็ตเหล่านี้จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลครึ่งหนึ่ง และโรงเรียนเองต้องออกเงินอีกครึ่งหนึ่ง โดยในตอนนี้ที่ตัวแท็บเล็ตเริ่มส่งมอบแล้วแต่ราคาที่นักเรียนต้องจ่ายนั้นขึ้นกับว่าสถานศึกษาจะช่วยออกได้มากน้อยแค่ไหน
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมามีรายงานว่าผู้บริหารกูเกิล, เฟชบุ๊ก, ยาฮู, และไมโครซอฟท์ได้เข้าประชุมร่วมกับรัฐมนตรีกระทรวงการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศอินเดีย เพื่อหารือความเป็นไปได้ที่จะตัดกรองเนื้อหาออกจากเว็บเหล่านี้
รัฐมนตรี Kapil Sibal ระบุว่ามีการขอให้มีการคัดกรองเนื้อหาจริง แต่ไม่ได้เป็นการเซ็นเซอร์แต่อย่างใด แต่เป็นการขอให้คัดกรองเนื้อหารุนแรงที่ทำร้ายความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ในชุมชน
ทางเฟชบุ๊กนั้นระบุว่าจะลบเนื้อหาที่ผิดต่อข้อตกลงการใช้งาน นั่นคือเนื้อหาที่เป็นความเกลียดชัง, การข่มขู่, กระตุ้นความรุนแรง, และอนาจาร
ส่วนทางกูเกิลนั้นระบุว่าจะลบเนื้อหาต่อเมื่อมันผิดกฏหมายและมาตรฐานของกูเกิล โดยกูเกิลจะไม่ลบเนื้อหาเพียงเพราะมันทำให้เกิดการโต้แย้ง
รัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (Human Resource Development) นาย Kapil Sibal ประกาศเตรียมเปิดตัวคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตราคา 35 ดอลลาร์สำหรับใช้งานเพื่อการศึกษาในโรงเรียนประถมไปจนถึงมหาวิทยาลัย โดยงานเปิดตัวจะมีขึ้นวันที่ 5 ตุลาคมที่จะถึงนี้
นอกจากการใช้งานเพื่อการศึกษาแล้ว นาย Sibal ยังหวังให้แท็บเล็ตนี้เป็นเครื่องมือในการลดการคอรัปชั่น
แม้นาย Sibal จะเป็นคนหนึ่งที่สนับสนุนแท็บเล็ตแต่เขาก็แสดงความเป็นห่วงปัญหาคุณภาพครูไปพร้อมๆ กัน โดยเขาระบุว่าจำนวนครูที่มีคุณภาพนั้นยังไม่มากพอ
เมื่อปีที่แล้วเรามีมหากาพย์ระหว่างรัฐบาลอินเดียกับ RIM เรื่องการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกส่งผ่านเครือข่าย BlackBerry (รายอื่นที่โดนด้วยคือ Skype และ Gmail แต่ไม่เด่นเท่า RIM) ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้ข้อยุติ
ล่าสุดกรมโทรคมนาคม (Department of Telecommunications) ของอินเดียกำลังขยายผลจาก BlackBerry ไปยังระบบ push mail ของโนเกียด้วย โดยสั่งให้ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมหยุดให้บริการ Nokia Push Mail จนกว่าโนเกียจะยอมให้หน่วยงานรัฐบาลเข้าถึงทราฟฟิกได้
31 มกราคม 2554 คือกำหนดวันที่ RIM ต้องให้คำตอบแก่รัฐบาลอินเดียเรื่องการยอมให้รัฐบาลเข้าถึงบริการอีเมลของลูกค้าประเภทองค์กร ซึ่งทางบริษัทก็ได้ออกมาชี้แจงเมื่อวันที่ 28 มกราคมว่ามันเป็นไปไม่ได้
ก่อนหน้านี้ RIM ยอมทำข้อตกลงให้รัฐบาลอินเดียเข้าถึงข้อมูลที่รับส่งผ่านระบบ BlackBerry Messenger (BBM) และ BlackBerry Internet Services (BIS) แต่สำหรับบริการแบบ BlackBerry Enterprise Server (BES) นั้น ลูกค้าเป็นผู้ดำเนินการเข้ารหัสเอง บริษัทไม่มีวิธีไขรหัสดังกล่าว
ผลสำรวจ Brand Trust Report ของประเทศอินเดียประจำปี 2011 ได้ผลว่าโนเกียเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งที่คนอินเดียเชื่อถือ แซงหน้าแบรนด์ในประเทศอย่าง Tata ที่ได้อันดับสอง
ส่วนอันดับสามถึงห้าได้แก่ โซนี่ แอลจี และซัมซุง การสำรวจนี้มีกลุ่มตัวอย่าง 2,310 คนใน 9 เมืองใหญ่ของอินเดีย
ข่าวนี้เมื่อรวมกับข่าว Ovi Store คือร้านขายแอพอันดับหนึ่งของจีน ก็อาจบอกสรุปได้ว่าโนเกียยังเข้มแข็งดีอยู่ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ทั้งหลาย
ช่วงหลังๆ รัฐบาลอินเดียหันมาเน้นเรื่องความมั่นคงของระบบสารสนเทศมากขึ้นเยอะ นอกจากเรื่องข้อตกลงกับ RIM, กูเกิลและ Skype หรือ การประกาศทำระบบปฏิบัติการเอง แล้ว ล่าสุดยังมีแผนจะให้ซิมการ์ดต้องเข้ารหัสด้วย
ตามแผนของรัฐบาลอินเดียจะกำหนดให้ซิมการ์ดในโทรศัพท์มือถือ ต้องมีใบรับรองดิจิทัล เพื่อให้การติดต่อสื่อสารถูกเข้ารหัส ตัวแทนของรัฐบาลอินเดียให้ความเห็นว่าการทำธุรกรรมผ่านมือถือจะน่าเชื่อถือขึ้นมาก
มูลนิธิวิกิมีเดีย (Wikimedia Foundation) เจ้าของโครงการสารานุกรมออนไลน์วิกิพีเดีย เตรียมเปิดสำนักงานในประเทศอินเดีย โดยจะเป็นสำนักงานแห่งแรกที่ตั้งอยู่นอกสหรัฐอเมริกา
จิมมี เวลส์ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิ ให้สัมภาษณ์ว่า ยังไม่ได้เลือกว่าจะตั้งสำนักงานที่ใด แต่น่าจะเริ่มเปิดทำงานได้ในอีกไม่กี่เดือน โดยเริ่มต้นจะมีพนักงานอยู่สองถึงสี่คน
ก่อนหน้านี้ ทวีปยุโรปและแอฟริกาก็ได้รับการพิจารณาเช่นกัน แต่ทวีปยุโรปนั้นพัฒนาไปมากแล้ว ส่วนแอฟริกานั้น ยังขาดความพร้อมทางด้านเทคโนโลยี โดยเวลส์กล่าวว่า เขาชอบอินเดียที่ชุมชนมีความกระตือรือร้นสูง
ที่มา – BBC News
นี่เป็นเรื่องจริงแล้ว ที่อินเดีย เมื่อบริษัทมือถือในอินเดียชื่อ Spice ได้ออกมือถือ 3 มิติรุ่น M67 มีครบทุกฟังก์ชั่น ไม่ว่าจะเป็น จอ 3 มิติ เล่นวีดีโอ 3 มิติได้ ดูรูปภาพแบบ 3 มิติได้ และที่สำคัญ มันมีระบบ Remote Wipe สั่งลบข้อมูลได้ทุกที่ แบบบริการของ GSM Advance เลยทีเดียว ที่สำคัญ มี 2 ซิมด้วย
น่าเสียดาย มันไม่มีกล้อง 3 มิติ ไม่อย่างนั้น มันจะเป็นมือถือ 3 มิติที่สมบูรณ์แบบที่สุดในปัจจุบันตัวหนึ่งเลยทีเดียว
ราคา 4,299 รูปี (ประมาณ US$97 หรือ 2,860 บาท) เท่านั้น ดูภาพได้ท้ายข่าว
Android อาจขายดีในสหรัฐและประเทศพัฒนาแล้ว แต่ราคามือถือในปัจจุบันอาจแพงไปสำหรับประเทศอย่างอินเดีย
แต่จำนวนประชากรของอินเดียก็สูงมากจนกูเกิลไม่อาจมองข้าม ทางออกของกูเกิลคือจับมือกับผู้ผลิตมือถือท้องถิ่น สร้างมือถือ Android ราคาถูกคือ 150 ดอลลาร์ (4,500 บาท) ออกมาขายแทน ผู้ผลิตมือถือเหล่านี้ได้แก่ Micromax Informatics, Spice Mobility, Olive Telecom
ปัญหาของผู้ผลิตมือถือเหล่านี้คือไม่มีประสบการณ์ผลิตสมาร์ทโฟนมาก่อน แต่เน้นผลิตมือถือราคาถูกมากๆ (ต่ำสุดประมาณ 30 ดอลลาร์หรือ 900 บาท) ซึ่งกูเกิลได้ลงไปช่วยผู้ผลิตมือถือเหล่านี้เป็นพิเศษด้วย
ตอนนี้ราคามือถือ Android อยู่ประมาณ 200 ดอลลาร์ ส่วนเป้าหมายของกูเกิลคือกดให้ต่ำกว่า 100 ดอลลาร์
V K Saraswat ผู้อำนวยการหน่วยงานวิจัยของกองทัพชื่อ Defence Research and Development Organisation (DRDO) ประกาศโครงการตั้งศูนย์การพัฒนาซอฟต์แวร์ของ DRDO ในนิวเดลีและบังกะลอร์ เพื่อสร้างระบบปฏิบัติการของอินเดียเอง
เหตุผลสำคัญของการสร้างระบบปฏิบัติการ เป็นเรื่อง "ความมั่นคง" ล้วนๆ โดย Saraswat กล่าวว่าปัจจุบันอินเดียมีช่องโหว่ด้านซอฟต์แวร์มากมาย เพราะไม่มีระบบปฏิบัติการของตัวเอง ต้องใช้ระบบปฏิบัติการจากโลกตะวันตก ทำให้อุตสาหกรรมสำคัญหลายๆ อย่าง เช่น การเงิน กองทัพ มีความเสี่ยงต่อการถูกจารกรรมข้อมูล
โครงการนี้เป็นความร่วมมือของ DRDO กับบริษัทซอฟต์แวร์หลายแห่งในอินเดีย และรวมถึงสถาบันการศึกษาด้วย ตอนนี้ศูนย์วิจัยมีพนักงานประมาณ 50 คน และยังอยู่ในช่วงวางแผน