Amrish Goyal ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจวินโดวส์ของไมโครซอฟท์อินเดีย ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Times of India ว่าเราจะได้เห็นแท็บเล็ตวินโดวส์ราคาประมาณ 10,000 รูปี (5,500 บาท) ช่วงกลางปีนี้
Goyal บอกว่าไมโครซอฟท์ลดสเปกขั้นต่ำของวินโดวส์ลงเพื่อให้แข่งขันกับแอนดรอยด์ได้ แต่ก็ยังรักษาประสบการณ์ในการใช้งานที่ดีอยู่ อย่างไรก็ตาม เขาปฏิเสธไม่แสดงความเห็นต่อข่าวว่าไมโครซอฟท์ลดราคาไลเซนส์วินโดวส์ลง
ปัจจุบันแท็บเล็ตวินโดวส์ในอินเดียตั้งราคาขายที่ประมาณ 30,000 รูปี (16,000 บาท) ซึ่งแพงกว่าแท็บเล็ตแอนดรอยด์อยู่มาก
XOLO ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจากอินเดีย (เป็นแบรนด์ลูกของ Lava ที่เน้นจับตลาดบน) นำแท็บเล็ตวินโดวส์ตัวแรกของบริษัทคือ XOLO Win ออกมาโชว์แล้ว
ราคาขาย 22,000 รูปี หรือประมาณ 12,000 บาท วางขายในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ภาพดูได้ตามลิงก์
มีรายงานข่าวว่า John Sculley อดีตซีอีโอแอปเปิลเตรียมเปิดตัวบริษัทสมาร์ทโฟนเพื่อจำหน่ายในประเทศอินเดียเดือนเมษายนนี้ โดยมีทั้งสมาร์ทโฟนและฟีเจอร์โฟน ส่วนชื่อแบรนด์นั้นยังไม่มีการเปิดเผยออกมา วางราคาขายราวเครื่องละ 5,000-15,000 รูปี (2,600-8,000 บาท)
บริษัทแห่งนี้จะบริหารงานโดย Ajay Sharma ซึ่งเป็นคนอินเดียและเคยเป็นหัวหน้าส่วนธุรกิจ HTC ในประเทศอินเดีย
อินเดียเป็นอีกประเทศซึ่งมีอัตราการเติบโตของผู้ใช้สมาร์ทโฟนสูงต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็มีแบรนด์สมาร์ทโฟนท้องถิ่นอยู่หลากหลายยี่ห้อเช่นกัน
ที่มา: BGR
ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ Windows ให้สัมภาษณ์กับ The Times of India ว่า บริษัทกำลังปรับลดความต้องการขั้นต่ำด้านฮาร์ดแวร์รัน Windows ให้ต่ำที่สุดแต่ยังเพียงพอที่จะให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีอยู่ เพื่อให้ฮาร์ดแวร์มีราคาที่แข่งกับฮาร์ดแวร์รัน Android ได้ และบริษัทจะขายแท็บเล็ตที่ราคาราว 10,000 รูปี (ราว 5,240 บาท) ภายในกลางปีนี้
อย่างไรก็ตาม เขาปฏิเสธที่จะยืนยันข่าวลือว่า Microsoft ลดค่าลิขสิทธิ์ Windows 8.1 ที่ขายให้ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ลงร้อยละ 70
The Times of India คาดว่า แท็บเล็ตที่ Microsoft กล่าวถึงจะถูกผลิตโดยผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ชั้นนำอย่าง HP และ Dell รวมถึงผู้ผลิตในอินเดียอย่าง Karbonn และ Lava
Karbonn Mobiles ผู้ผลิตมือถือสัญชาติอินเดีย ประกาศทำมือถือสองระบบปฏิบัติการ Android/Windows Phone มีกำหนดวางขายเดือนมิถุนายนนี้
Karbonn ระบุว่าเพิ่งเซ็นสัญญากับไมโครซอฟท์ในการผลิตมือถือที่ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows Phone โดยจะทำให้มันใช้งาน Android เป็นระบบปฏิบัติการอีกตัวหนึ่งได้ด้วย (ในข่าวไม่ได้บอกรายละเอียดแต่ใช้คำว่า dual-OS phone) กลุ่มเป้าหมายคือผู้นิยมเทคโนโลยีและกลุ่มคนทำงาน
เดิมที Karbonn ใช้วิธีผลิตสินค้าในเกาหลีใต้และไต้หวัน แต่บริษัทก็ประกาศว่ากำลังสร้างโรงงานแห่งแรกในอินเดีย ซึ่งมีกำลังผลิต 1 ล้านเครื่องต่อเดือน ช่วยให้ลดต้นทุนสินค้าได้มากกว่าเดิม
Google Street View ยังทยอยเพิ่มสถานที่สำคัญของโลกให้เราไปเยี่ยมชมกันแบบง่ายๆ ล่าสุดเป็นคิวของอินเดีย ที่กูเกิลส่งคนไปลุยเก็บภาพอนุสาวรีย์และสถานที่สำคัญรวม 29 แห่ง เช่น ทัชมาฮาล, ป้อม Red Fort, ป้อม Agra Fort, หอคอย Qutb Minar,
เว็บไซต์ BGR India รายงานว่า โนเกียเริ่มส่งสมาร์ทโฟนโค้ดเนม Normandy ให้นักพัฒนารายสำคัญในอินเดีย เพื่อที่หวังจะเพิ่มจำนวนแอพบนสโตร์ของตัวเองแล้ว
แหล่งข่าวบอกด้วยว่า Normandy จะมากับ Android เวอร์ชัน AOSP แต่ไม่มีบริการจากกูเกิลเลย ในส่วนของสโตร์สำหรับวางขายแอพมีชื่อเรียกเป็นการภายในบริษัทว่า Asha on Linux (AoL) โดยโนเกียประสบความสำเร็จในการทำให้แอพหลายตัวที่อยู่ใน 100 แอพยอดนิยมทั้งบน Play Store และ App Store มาลง AoL ได้ สำหรับบริการอื่นจะใช้ Outlook, Bing กับบริการกลุ่ม HERE และคาดว่าเครื่องจะมากับแอพ Skype
แอปเปิลยังไม่ประสบความสำเร็จมากนักกับยุทธศาสตร์ iPhone ราคาถูกในประเทศกำลังพัฒนาหลายแห่ง (ต่อให้ลดราคา iPhone รุ่นเก่าแบบ 4S แล้วก็ยังแพงเกินไปสำหรับบางประเทศ)
ล่าสุดหนังสือพิมพ์ The Economic Times ของอินเดียรายงานข่าวที่ยังไม่ยืนยันว่า แอปเปิลจะคืนชีพ iPhone 4 กลับมาวางขายในประเทศกำลังพัฒนา 3 ประเทศที่มีประชากรมากๆ คือ อินเดีย อินโดนีเซีย บราซิล เพื่อมาต่อสู้กับ Galaxy Grand และ Galaxy S4 Mini ของซัมซุงโดยเฉพาะ
Lava Mobiles ผู้ผลิตมือถือชื่อดังของอินเดีย ให้ข้อมูลว่าบริษัทเตรียมออกสมาร์ทโฟนสาย Windows Phone ภายในปีนี้ โดยจะเป็นมือถือราคาถูก (budget phone) แต่ยังไม่ให้รายละเอียดมากกว่านี้ (น่าจะออกมาชนกับพวก Lumia 520)
Lava บอกว่าสถานะตอนนี้คือกำลังประเมินสเปกของฮาร์ดแวร์ ขนาดหน้าจอ และชิปเซ็ตที่จะใช้งาน นอกจากนี้บริษัทก็กำลังดูความเป็นไปได้ในการเข้าสู่ตลาดอุปกรณ์สวมใส่ได้ (wearable) ด้วยเช่นกัน
ตลาดอินเดียถือว่าน่าสนใจมากสำหรับแฟนๆ Windows Phone เพราะเมื่อปีที่แล้วก็มีข่าวว่า Micromax บริษัทมือถืออินเดียอีกรายก็เตรียมทำ Windows Phone เช่นกัน
และข่าวลือว่าเอชพีจะคืนวงการสมาร์ทโฟนก็กลายเป็นความจริง เมื่อเว็บไซต์ Re/code ได้รับการยืนยันจาก Ron Coughlin รองประธานบริษัทว่าเอชพีจะเปิดตัว phablet ที่รองรับการสั่งการด้วยเสียง (ต้นฉบับเรียก voice-enabled) ชื่อ Slate 6 VoiceTab และ Slate 7 VoiceTab ในอินเดียเป็นที่แรก พร้อมเปิดเผยภาพเฉพาะรุ่น Slate 6 VoiceTab (ดูที่ท้ายข่าว) ส่วนสเปคทั้งสองรุ่นเป็นดังนี้
Notion Ink บริษัทผู้ผลิตแท็บเล็ตสัญชาติอินเดียที่สร้างชื่อจากแท็บเล็ตรุ่นแรก Notion Ink Adam ที่ใช้หน้าจอ Pixel Qi แม้ว่าจะมีปัญหาค่อนข้างมาก แต่ปีนี้ก็ยังสามารถเปิดตัวรุ่นใหม่มาได้ในชื่อรุ่น Notion Ink Adam II
ในรุ่นใหม่นี้ การออกแบบของ Notion Ink Adam II เปลี่ยนไปค่อนข้างมาก ย้ายลำโพงมาไว้ด้านหน้า เพิ่มเป็นสองตัว และเพิ่มหน้าจอที่สองตรงขอบเข้ามาเพื่อแสดงผลการแจ้งเตือน
สเปคของ Notion Ink Adam II ไม่สูงมากนัก ดังนี้ครับ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กูเกิลอินเดียออกโฆษณาชุดใหม่ที่ชื่อ Reunion ซึ่งกล่าวถึงเรื่องของชายชราชาวอินเดีย-ปากีสถานสองคน ที่เคยเป็นเพื่อนวัยเด็กในเมือง Lahore (เมืองใหญ่อันดับสองของปากีสถานในปัจจุบัน) แต่หลังจากอังกฤษกำหนดเขตแดนของอินเดียกับปากีสถานในปี 1947 (สนใจอ่านเพิ่ม Partition of India) ทั้งสองคนก็แยกจากกันไปโดยไม่เคยเจอกันอีกเลย
พอมาถึงรุ่นหลาน เทคโนโลยีช่วยแก้ปัญหาได้ โฆษณาชิ้นนี้ก็แสดงให้เห็นว่าหลานสาวของชายแก่คนหนึ่งใช้การค้นหาข้อมูลจากกูเกิล ช่วยให้เพื่อนในอดีตทั้งสองคนกลับมาพบกันอีกครั้งได้อย่างไร
สำหรับแอปเปิลแล้ว ตลาดอินเดียคงไม่ง่ายนักที่จะเจาะเข้าไปได้ ยอดการจำหน่าย iPhone ก็ยังน้อยนิดทำได้เพียงแค่ 5% สาเหตุหลักก็มาจากราคาเครื่องที่ขายแบบไม่ติดสัญญาแต่ก็ยังแพงเกินไปสำหรับคนอินเดีย
ล่าสุดแอปเปิลได้ร่วมมือกับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์อันดับสามในอินเดียอย่าง Reliance Communications เปิดจำหน่าย iPhone 5s และ 5c แบบติดสัญญา 2 ปี โดยจ่ายรายเดือนผ่านบัตรเครดิตเท่านั้น ซึ่ง iPhone 5s มีราคา 2,999 รูปี (48.5 ดอลลาร์สหรัฐ) และ iPhone 5c ราคา 2,599 รูปี โดยราคานี้สามารถโทรได้ไม่จำกัดรวมบริการอินเทอร์เน็ตด้วย โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
Micromax ผู้ผลิตมือถือสัญชาติอินเดีย ประกาศว่าจะวางขายมือถือ Windows Phone ช่วงกลางปีหน้า 2014
ที่ผ่านมา Micromax เน้นสมาร์ทโฟนสายแอนดรอยด์มาตลอด แต่บริษัทก็ไม่ได้ระบุเหตุผลว่าทำไมถึงสนใจมาทำ Windows Phone กับเขาด้วย
Rahul Sharma ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทให้สัมภาษณ์ว่าเป้าหมายของ Micromax คือการเป็นบริษัทมือถือระดับโลก โดยจะเริ่มขยายธุรกิจจากอินเดียไปยังรัสเซีย-ปากีสถาน-ยุโรปตะวันออก, ออกมือถือ LTE ภายในปีนี้ และตั้งเป้ายอดขาย 50 ล้านเครื่อง ก่อนจะบุกไปยังตลาดสหรัฐในระยะต่อไป
ที่มา - Times of India
เว็บไซต์ Google Official Blog เปิดเผยเรื่องราวอันน่าประทับใจจากหนังสือ "A Long Way Home" เมื่อ Google Earth ได้ช่วยเหลือหนุ่มอินเดียหาทางกลับบ้านเกิดได้สำเร็จ หลังจากหายไปนานถึง 26 ปี
จากการเปิดเผยหนุ่มคนนี้ชื่อว่า Saroo Munshi Khan เป็นชาวเมือง Berhanpur เมื่ออายุ 5 ขวบ เขาได้พลัดหลงกับพี่ชายของเขาบนรถไฟที่เมือง Calcutta จากนั้นก็ถูกส่งไปอยู่กับครอบครัวชาวออสเตรเลียในเมือง Hobart เกาะ Tasmania ทางใต้ของออสเตรเลีย โดยได้ชื่อและนามสกุลใหม่เป็น Saroo Brierley
คนไอทีชาวอินเดียกลุ่มหนึ่งอยากให้รหัสของ Android ที่ตั้งตามชื่อขนมและของหวาน มาเลือกใช้ชื่อขนมของอินเดียบ้าง
ก่อนหน้านี้ตอนที่ Android รหัส K ยังไม่เปิดเผยชื่ออย่างเป็นทางการ กลุ่มนี้เคยผลักดันให้กูเกิลเลือกใช้ขนม Kaju Katli มาแล้ว ถึงขนาดว่าเคยมอบ Kaju Katli ให้กับ Amit Singhal ผู้บริหารของกูเกิลที่เป็นชาวอินเดีย และส่งขนมชนิดนี้ไปให้ทั้ง Larry Page และ Andy Rubin ทางไปรษณีย์
รัฐบาลอินเดียเตรียมประกาศห้ามข้าราชการและพนักงานของรัฐ ไม่ให้ใช้บริการอีเมลจากต่างประเทศในการติดต่อสื่อสารงานของรัฐ หลังจากมีข่าวการสอดแนมครั้งใหญ่ของรัฐบาลสหรัฐผ่าน NSA
ทางออกของรัฐบาลอินเดียคือให้ใช้ระบบอีเมลของรัฐที่ให้บริการโดยศูนย์ National Informatics Centre แทน
ตัวแทนของรัฐบาลอินเดียยอมรับว่าอีเมลอย่าง Gmail ใช้ง่ายกว่าอีเมลของรัฐบาล และไม่ต้องผ่านกระบวนการขอเปิดบัญชีผู้ใช้ที่ยุ่งยาก แต่การเลือกเก็บข้อมูลสำคัญๆ บนเซิร์ฟเวอร์ภายในประเทศก็เป็นสิ่งสำคัญกว่าการยอมให้ข้อมูลเหล่านี้อยู่บนเซิร์ฟเวอร์นอกประเทศ
เว็บไซต์ Tech in Asia รายงานส่วนแบ่งตลาดยี่ห้อมือถือ (ตลาดรวม ไม่ใช่เฉพาะสมาร์ทโฟน) ในประเทศอินเดียประจำปีงบประมาณ 2013 (เข้าใจว่านับ 1 เมษายน 2012 ถึง 31 มีนาคม 2013 - อ้างอิง) ตลาดรวมโตขึ้น 14.7% จากปีก่อน
ผู้ขายมือถืออันดับหนึ่งคือซัมซุง 31.5% ตามด้วยโนเกีย 27.2%, ส่วนอันดับสามและสี่เป็นบริษัทท้องถิ่นคือ Micromax 8.7% และ Karbonn 6.4%, อันดับห้าเป็นของแอปเปิล 3.6%
บริษัทเกือบทุกรายมียอดขายโตขึ้น ยกเว้นโนเกียที่มียอดขายลดลงจากปีก่อน
ที่มา - Tech in Asia
กูเกิลมีร้านขาย Android ของตัวเองชื่อ Android Nation อยู่ในอินโดนีเซีย 2 ร้าน รูปแบบของร้านเป็นการโชว์ผลิตภัณฑ์ Android จากผู้ผลิตหลายๆ ราย โดยใช้วิธีจับมือกับพันธมิตรท้องถิ่นเป็นร้านขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ Erafone ของอินโดนีเซีย
ล่าสุดมีข่าวว่ากูเกิลเตรียมขยายร้าน Android Nation ไปยังอินเดีย วิธีการของกูเกิลในอินเดียนั้นเหมือนกันคือจับมือกับโอเปอเรเตอร์ Spice
Spice จะเปิดสาขาแรกในกรุงนิวเดลีและมีแผนจะเปลี่ยนร้านสาขาของตัวเองจากเดิมชื่อ Spice Hotspots เป็น Android Nation อีกกว่า 50 สาขาทั่วอินเดีย และนอกจากนี้ Spice ยังจับมือกับแบรนด์มือถือ-แท็บเล็ตของจีน CoolPad ซึ่งจะช่วยให้สินค้าของ CoolPad วางขายในร้าน Android Nation ด้วย
บทความนี้เป็นตอนต่อของซีรีส์ พาสำรวจวงการไอทีพม่า โดยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ผมไปเที่ยวประเทศอินเดียพอดีเลยเก็บบรรยากาศ-ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับวงการไอทีของอินเดีย (รอบนี้เน้นไปที่มือถือเสียเยอะ) มาฝากกันครับ
แน่นอนว่าการเดินทางของผมไปในฐานะนักท่องเที่ยวเต็มขั้น รับรู้ข้อมูลเฉพาะเท่าที่ตาเห็นซึ่งก็คงไม่ละเอียดเท่าไรนัก ถ้าสมาชิก Blognone มีใครอยู่ที่อินเดียหรือมีข้อมูลเพิ่มเติมก็คอมเมนต์ได้เต็มที่
หมายเหตุ: ภาพเยอะมากครับ ใครใช้เน็ตแบบมีข้อจำกัดก็พึงระวัง
ส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนของประเทศที่เศรษฐกิจกำลังบูมอย่างอินเดีย จากบริษัท CyberMedia Research (CMR) โดยนับยอดรวมของปี 2012 ครับ
หนังสือพิมพ์ India Times รายงานว่าแอปเปิลมีแผนที่จะเปิดร้านเพื่อขายสินค้าแอปเปิลในอินเดียให้ครบ 200 แห่งภายในปี 2015 โดยในอินเดีย แอปเปิลได้ใช้กลยุทธการวางตลาดไม่ต่างจากประเทศไทย นั่นก็คือการใช้ระบบแฟรนไชส์ผ่านตัวแทนจำหน่ายที่แอปเปิลเรียกว่า Premium Reseller
ในรายงานมีการพูดถึงส่วนแบ่งตลาดที่ไม่ค่อยดีนักในอินเดีย และส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะระบบกระจายสินค้าที่ซับซ้อน และทำให้ต้นทุนในการค้าสูงขึ้น อีกปัญหาสำหรับแอปเปิลก็คือกฎหมายท้องถิ่นที่บังคับให้ร้านค้าแบรนด์ต่างชาติจะต้องมีสินค้าจากภายในประเทศ 30% วางขายในร้านด้วย
วิธีแก้ปัญหาสำหรับแอปเปิลในตอนนี้ จึงเป็นการขยายจำนวนร้านค้าภายใต้โปรแกรม Premium Reseller
โครงการ Aakash แท็บเล็ตนักเรียนของอินเดียที่วางแผนไว้ว่าขั้นสุดท้ายจะมีการแจกจ่ายแท็บเล็ตจำนวนถึง 50 ล้านเครื่องอาจจะต้องหยุดลงเมื่อ Pallam Raju รัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระบุว่ารัฐบาลควรไปเน้นกับการสร้างโครงสร้างเชื่อมต่อให้เข้าถึงมากกว่าตัวแท็บเล็ต และแท็บเล็ตราคาถูกก็มีอยู่มากมายในตลาดอยู่แล้ว
อินเดียเดินหน้าโครงการขั้นทดลองจำนวน 100,000 ตัวมาเป็นเวลานานและสัญญาจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 มีนาคมที่จะถึงนี้ แต่จนตอนนี้ทางบริษัท Datawind คู่สัญญาผลิตเครื่องกลับส่งมอบเครื่องได้เพียง 20,000 เครื่องเท่านั้น เป็นเหตุผลหนึ่งที่รัฐบาลเริ่มไม่มั่นใจกับโครงการผลิตแท็บเล็ตด้วยตัวเอง
หนังสือพิมพ์ The Times of India รายงานข่าววงในว่ากลุ่มบริษัท Reliance ซึ่งเป็นโอเปอเรเตอร์รายหนึ่งของอินเดีย บรรลุข้อตกลงกับซัมซุงในการพัฒนาโทรศัพท์มือถือ LTE เพื่อวางขายในอินเดีย
สิ่งที่ทำให้มือถือ LTE ซีรีส์นี้น่าสนใจมากคือราคาเริ่มต้นเพียง 100 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 5,500 รูปีเท่านั้น โดยราคานี้เป็นเครื่องเปล่าไม่ติดสัญญาเหมือนโลกตะวันตกนะครับ (แต่ก็จะมีมือถือ LTE ระดับบนๆ ที่แพงกว่านี้ขายด้วย)
ทั้งซัมซุงและ Reliance ยังไม่ได้ประกาศข่าวนี้อย่างเป็นทางการครับ
ในขณะที่แอปเปิลขาย iPhone ได้ 19.6 ล้านเครื่องต่อปีในประเทศจีน ตัวเลขยอดขายในอินเดียกลับมีเพียงแค่ 460,000 เครื่องเท่านั้น
แอปเปิลมีส่วนแบ่งตลาดเพียง 5% ในอินเดีย ถือเป็นผู้ขายอันดับ 6 ในตลาด ส่วนแชมป์เป็นของซัมซุงที่ 40%
ปัญหาของแอปเปิลในอินเดียมาจาก "ราคา" ของ iPhone ที่ถือว่าแพงมากสำหรับคนอินเดีย โดยรุ่นล่าสุดอยู่ที่ 850 ดอลลาร์สหรัฐ และถึงแม้แอปเปิลจะลดราคา iPhone รุ่นเก่าเหลือ 500 ดอลลาร์ ก็ยังสู้กับคู่แข่งรายอื่นๆ ที่ขายสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ 100 ดอลลาร์ลำบาก