แม้ตลาดไอทีกำลังบูมอีกครั้งในสหรัฐด้วยกระแส Web 2.0 แต่ตอนนี้ดูเหมือนสื่อแบบเก่าๆ กำลังกระอักเลือดอย่างหนัก เมื่อบรรดาบล็อกทั้งหลายกำลังเข้ามาช่วงชิงพื้นที่โฆษณากันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน โดยในปีนี้นิตยสารเช่น Business 2.0 มียอดโฆษณาตกลงไปร้อยละ 21.8 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ส่วน PC Magazine นั้นตกลงไปถึงร้อยละ 38.8

เว็บที่เริ่มเข้ามาแทนที่สื่อเดิมๆ อย่างหนักๆ ในช่วงหลังๆ ก็เป็นบล็อกที่เราได้ยินชื่อบ่อยๆ เช่น TechCrunch, GigaOM เป็นต้น โดยตอนนี้สื่อที่โดยกระทบหนักๆ คือสื่อด้านไอทีเป็นหลัก แต่ในอนาคตก็ไม่แน่ว่าสื่อด้านอื่นๆ จะโดนตามไปด้วย

Blognone ก็เปิดรับโฆษณานะครับ :P

เดือนพฤษภาคม 2007 มีผู้เข้าชมวิกิพีเดียจำนวน 46.8 ล้าน UIP ซึ่งเพิ่มขึ้นมาถึง 72% เมื่อเทียบกับตัวเลขเดือนมิถุนายน 2006 ซึ่งทำให้วิกิพีเดียกลายเป็นเว็บไซต์อันดับหนึ่งในหมวดข้อมูลข่าวสาร (news and information) เหนือแชมป์เก่าอย่าง Weather Channel

รองประธานของบริษัทวิจัยการตลาด Nielsen BuzzMetrics ให้ความเห็นว่า การมีส่วนร่วมของผู้ใช้วิกิพีเดีย ทำให้เว็บไซต์โตขึ้นเรื่อยๆ เหมือนอะมีบา (เป็นคำชมที่แปลกดี)

สิ่งที่เร่งอัตราการเติบโตของวิกิพีเดียคือพวกข่าวเด่นประเด็นร้อนทั้งหลาย เช่น การก่อการร้ายที่ลอนดอน, สึนามิปี 2004, ฆาตกรรมที่สถาบันเทคโนโลยีเวอร์จิเนีย, iPhone และการฆ่าตัวตายของนักมวยปล้ำ Chris Benoit เป็นต้น

เทคโนโลยี VoIP นั้นแม้จะมีการพูดถึงกันมานานแล้ว แต่สุดท้ายในตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าคนที่ได้ประโยชน์หลักๆ จะเป็นกลุ่มบริษัทข้ามชาติเสียมากกว่า โดยเฉพาะกลุ่มผู้ให้บริการ Call Center ทั้งหลาย

วันนี้เข้าไปดูเว็บโอเปร่ามินิดูเล่นๆ ปรากฏว่า "โอเปร่ามินิ เวอร์ชัน 4 เบต้า" ออกมาให้ยลโฉมเรียบร้อยแล้ว ตัวอย่างคุณสมบัติใหม่ๆ ที่เพิ่มมาก็คือ

หลายคนอาจเคยได้ยินตัวเลขว่าทราฟฟิกของ P2P กินแบนด์วิธไปเกินครึ่งของอินเทอร์เน็ต ผลสำรวจล่าสุดในสหรัฐบอกว่า HTTP พลิกกลับมาแซงได้แล้ว ด้วยอิทธิพลของ YouTube

ในสหรัฐ HTTP อยู่ที่ 46% ส่วน P2P มี 36% ถ้าคิดเฉพาะทราฟฟิกแบบ HTTP คนโหลดวิดีโอจาก YouTube มีถึง 20% (เมื่อเทียบกับเว็บแบบดั้งเดิม 45%)

ที่เยอะแบบไม่น่าเชื่อคือ Newsgroup 9% ส่วน VoIP มีแค่ 1% เท่านั้น

ที่มา - Ars Technica

ข่าวแถมมี 2 ข่าว

Opera Mini เว็บเบราว์เซอร์ที่พัฒนาสำหรับใช้บนโทรศัพท์มือถือได้ฤกษ์ปล่อยตัวทดสอบของ Dimension ซึ่งก็คือ Opera Mini 4 รุ่นเบต้ามาให้ลองใช้กันแล้ววันนี้ โดยฟีเจอร์ใหม่ที่เป็นจุดเด่นของรุ่นนี้เลยก็คือ การแสดงผลเว็บเหมือนบนหน้าจอคอมพิวเตอร์จริง

นอกจากนี้ยังสามารถซูมเพื่อดูเลย์เอาท์ของหน้าทั้งหน้า เพื่อหาส่วนที่จะอ่านได้ด้วย พร้อมกับมีเมาส์เพื่อช่วยในการใช้งาน (เอาไว้คลิก.. คลิกขวาได้ด้วย!) และสุดท้าย คือการเลือกให้แสดงผลแบบเดิม (Small Screen Rendering) เพื่อความสะดวกที่ไม่ต้องเลื่อนทางแนวนอน

หลายๆ คนแม้ชอบ Gmail กับ Google Reader แต่คงต้องยอมรับว่าข้อด้อยหลักๆ ของทั้งสองบริการนี้คือเราต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลาการใช้บริการ แต่ข้อจำกัดนี้กำลังหายไป เมื่อ Google Gears จะทำให้เว็บโปรแกรมเมอร์สามารถเรียกใช้บริการ Javascript API เพิ่มเติมเพื่อขอให้มีการเก็บข้อมูลไว้ในบราวเซอร์ได้

บริการแรกที่ได้รับอานิสงส์จาก Google Gears คือ Google Reader ที่จะดึงเอา 2000 ข้อความล่าสุดมาไว้ในเครื่องเราให้เราอ่านได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะออนไลน์หรือไม่

Google Gears รองรับ Firefox 1.5 และ IE6 ขึ้นไป ทั้ง ลินุกซ์, วินโดวส์ และ OSX ที่สำคัญคือมันเป็นโครงการโอเพนซอร์สให้เราเข้าไปช่วยกันแก้ไขได้อีกด้วย

เชื่อว่าทุกคนคงคุ้นเคยกับ CAPTCHA กันอยู่แล้ว (ถ้าไม่เคยได้ยินชื่อ กดเข้าไปตามลิงก์ก็น่าจะอ๋อ) มีการคำนวณว่าแต่ละวันมีคนต้องแก้ปัญหา CAPTCHA ประมาณ 60 ล้านครั้ง ถ้าแต่ละคนใช้เวลา 10 วินาทีในการคิดและพิมพ์ เราก็จะเสียเวลาในการทำงานไปเปล่าๆ 150,000 ชั่วโมงต่อวัน มีวิธีเอาแรงงานตรงนี้มาใช้ประโยชน์ได้หรือเปล่า

โครงการ reCAPTCHA จึงเกิดมาด้วยแนวคิดนี้ ไหนๆ ผู้ใช้ต้องแก้ปัญหาตัวหนังสือที่อ่านยาก และมีโครงการสแกนหนังสือเพื่อทำ OCR จำนวนมาก ที่ผลการสแกนบิดๆ เบี้ยวๆ ต้องใช้แรงคนมานั่งแปลอีกครั้ง ก็เอาสองงานนี้มารวมร่างกันเสีย นั่นแปลว่าทุกครั้งที่เราแก้ปัญหา reCAPTCHA เรากำลังทำประโยชน์โดยการแปลงภาพหนังสือเป็นข้อความกันอยู่

ไมโครซอฟท์เปิดตัวเว็บ 2.0 เว็บใหม่ชื่อ Popfly สิ่งที่น่าสนใจคือโดเมนเนมนั้นเป็น popfly.ms

.ms เป็น Top-level domain ของประเทศ Montserrat ซึ่งเป็นเกาะในทะเลแคริบเบียน ถ้าสนใจอยากมีโดเมน .ms กันก็สามารถจดได้เลย (2 ปี 180 เหรียญ)

อีกซักพักเราคงเห็น .ms แพร่หลายตาม .us, .ws หรือ .tv ละมั้ง จริงๆ .th เป็นโดเมนที่สวยมาก ผสมคำได้เยอะ เพียงแต่ THNIC ยังไม่ยอมเปิดให้จดโดเมนที่ลงท้ายด้วย .th โดยตรงเหมือนโดเมนที่กล่าวมาข้างต้น

ข่าวนี้เป็นข่าวโดเมนเนม Popfly มีอะไรบ้างก็ไปเล่นกันเองเน้อ

หลังจากเป็นข่าวลือมานาน Amazon ก็เปิดตัวบริการเพลงออนไลน์อย่างเป็นทางการแล้ว ที่สำคัญคืองานนี้มีแต่ MP3 อย่างเดียวเท่านั้นไม่มีไฟล์อย่างอื่นเจือปน

งานนี้ก็ได้รับการสนับสนุนจากทางค่าย EMI ที่ประกาศไปก่อนหน้านี้แล้วว่าจะขายเพลงแบบไม่มี DRM ไปก่อนหน้านี้ แต่การประกาศตัวว่าจะขายเฉพาะเพลงที่ไม่มี DRM ทำให้ทาง Amazon ไม่สามารถขายเพลงจากค่ายอื่นๆ ได้มากเท่าทาง iTunes ผู้ครองตลาดรายใหญ่ที่กำลังพยายามกดดันค่ายเพลงในมือให้ยกเลิกการใช้ DRM เช่นกัน

วันก่อนเห็นแผ่นนิโคลแล้วอยากซื้อนะ แต่แผ่นอัสนี-วสันต์ ยังหลอนผมไม่หาย เลยขอบายดีกว่า

ยาฮูผู้ให้บริการเว็บรายใหญ่ของโลกสร้างความประหลาดใจด้วยการลงมือเปิดบ่อนด้วยตัวเองในอังกฤษ แต่ทั้งนี้ตัวเว็บเองไม่ได้มีการป้องกันการสมัครจากประเทศอื่นๆ แม้เป็นประเทศที่การพนันออนไลน์เป็นเรื่องผิดกฏหมายแต่อย่างใด

ในปี 2004 ทั้งยาฮูและกูเกิลเคยออกมาประกาศที่จะไม่รับโฆษณาที่เกี่ยวกับการพนันมาก่อน การเข้ามาครั้งนี้ของยาฮูคงก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอีกมาก

เรื่องพนันออนไลน์นี่เท่าที่ผมได้ยินมาบ้านเราก็เป็นหนึ่งในลูกค้าที่เข้าไปใช้เยอะเอาเหมือนกันนะ

แหล่งข่าวกล้องดิจิตอลที่ใหญ่และน่าเชื่อถือที่สุดอันหนี่งได้ถูกเข้าซื้อจาก Amazon ร้านค้าปลีกบนอินเทอร์เน็ตไปแล้ว หลังจากที่สยายปีกเข้าไปในธุรกิจอื่นๆ ค่อนข้างมาก ครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งแรกที่ Amazon เริ่มแสดงตัวว่าจะบุกเข้าตลาดข่าว

Amazon ระบุว่าคนของ Amazon นั้นเป็นแฟนของ DPReview มายาวนานและยินดีที่จะได้ร่วมงานกันในที่สุด ส่วนทาง DPReview เองก็ระบุว่าการเข้ามาของ Amazon จะทำให้การเพิ่มความสามารถของเว็บทำได้อย่างเต็มที่ โดยทีมงานเดิมจะสามารถมุ่งหน้าผลิตเนื้อหาได้เต็มเวลากว่าเดิมต่อไป

Blognone ขอผมกับ mk คนละล้านอย่างน้อยนะครับ :P

ที่มา - DPReview.com

ผลการสำรวจตามโรงพยาบาลเด็กในรัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา พบว่าผู้ปกครองให้ความใส่ใจเรื่องความปลอดภัยในการใช้อินเทอร์เน็ตมากขึ้น โดยสิ่งที่ผู้ปกครองให้ความใส่ใจอันดับที่ 1 และ 2 คือบุหรี่ และยาเสพติดตามลำดับ ส่วนความปลอดภัยในการใช้อินเทอร์เน็ตติดอันดับที่ 7 (ดูอันดับอื่นๆ ได้จากกราฟ) ผลการสำรวจพบว่าผู้ปกครองร้อยละ 26 มองว่าภัยจากอินเทอร์เน็ตเป็นปัญหาใหญ่ (ก่อให้เกิดปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นร้อยละ 28 และความรุนแรงในโรงเรียนร้อยละ 24) ทั้งนี้ได้ทำการสำรวจเมื่อเดือนมีนาคม 2007 ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์สังหารหมู่ที่เวอร์จิเนียร์เทค

หลังจากโดนกูเกิลถล่มในกิจการด้านเว็บของตนอย่างหนัก ตอนนี้ก็มีข่าวลือสะพัดทั้งอินเทอร์เน็ตว่าไมโครซอฟท์เข้าทาบทามยาฮูเพื่อขอซื้อกิจการอย่างเป็นมิตรแล้ว ทันที่ที่ข่าวนี้แพร่ออกมา ทำให้ฒหุ้นของยาฮูพุ่งขึ้นไปกว่า 17% แล้วในตอนนี้

แหล่งข่าวระบุว่าเคยมีการเจรจากันมาก่อนหน้าแล้วแต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากมูลค่าของยาฮูนั้นสูงถึง 4 หมื่นล้านดอลลาร์ และมีการเรียกราคาเป็นเงินถึง 5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งการซื้อไม่ว่าจะเป็นเงินสด หรือการแลกหุ้นนั้นก็ดูเหมือนจะแพงเกินไปสำหรับไมโครซอฟท์ ข่าวที่ออกมาจึงไปในแนวทางที่ระบุว่าทั้งสองบริษัทเตรียมสร้างบริษัทร่วมทุนขึ้นมา โดยไมโครซอฟท์จะแยกเอาส่วนของ MSN มารวมกับทางยาฮู

หลังการเข้าซื้อ Flickr ก็มีคำถามจำนวนมากถึง Yahoo! ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงบริการทั้ง Flickr และ Yahoo! Photos อย่างไรบ้าง ในช่วงแรกเองทาง Yahoo! ยืนกรานมาตลอดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดที่กระทบฐานผู้ใช้เดิม แต่หลังจากการบังคับให้ผู้ใช้ Flickr ทั้งหมดเปลี่ยนไปใช้ Yahoo! ID คำมั่นที่ทาง Yahoo! ให้ไว้ก็เหมือนจะไม่มีความหมายอีกต่อไป โดยล่าสุดทาง Yahoo! เตรียมปิดบริการ Yahoo! Photos ลงแล้ว

Yahoo! Photos ยังคงครองตลาดเป็นอันดับสองอยู่จนทุกวันนี้ แต่ด้วยสัดส่วนการครองตลาดที่ลดลงอย่างต่อเนื่องทำสวนทางกับบริการ Flickr อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ทาง Yahoo! ตัดสินใจปิดบริการนี้ลงไป

เราๆ ท่านๆ คงรู้กันดีว่าบุหรี่นั้นมีโทษมากมาย แต่โทษล่าสุดนี่อาจจะเข้าใกล้ผู้อ่าน Blognone อย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อมันเป็นต้นเหตุของเพลิงไหม้ในเมืองบอสตัน ทำความเสียหายให้รถไฟสาย Red Line ต้องหยุดลง พร้อมกันสาย OC-192 ที่เป็นหนึ่งในแกนหลักของ Internet2 ที่อยู่ในขั้นทดลองในทุกวันนี้

การซ่อมแซมลิงก์ดังกล่าวใช้เวลามากกว่า 48 ชั่วโมง โดยคาดว่าเป็นการสับเปลี่ยนไปใช้ลิงก์สำรองในทางอื่นๆ แทน

ก่อนหน้านี้ทีมวิจัยของ Internet2 ได้สร้างความสำเร็จในการส่งข้อมูลด้วยความเร็ว 9.08 กิกะบิตต่อวินาทีมาแล้ว

บ้านเราเน็ตล่มสองวันอาจจะเป็นเรื่องที่ชินชาไปซะแล้ว....

ที่มา - The Register

ไม่รู้เพราะีข่าวลือตั้งแต่ปีกลายว่า AOL อาจรวมกับ Yahoo! รึเปล่า จึงทำให้หน้าเว็บของ AOL ตัวล่าสุด เหมือนกับของ Yahoo! ที่พึ่งออกแบบใหม่เมื่อปีก่อนอย่างกับถอดกันมา (รูป) จน ผู้ใช้ AOL บางคนเรียกหน้าตาใหม่นี้ว่า "the Yahoo Portal" แทนชื่ออย่างเป็นทางการคือ AOL 3.0

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ยักษ์ใหญ่ในวงการได้รับ "แรงบันดาลใจ"(ลอก)จากคู่แข่ง กูเกิลเองก็เคย ในอนาคตเราคงได้เห็นส่วนติดต่อผู้ใช้ที่เป็นมาตราฐาน เหมือนร้านขายคอมในพันทิพย์ ชัวร์

blog นี้ไม่เป็นข่าวไม่เป็นไร เพราะค่อนข้างหมิ่นเหม่ไปทางการเมือง (อีกแล้ว) พอดีผมพึ่งไปเจอข้อความนี้ในเว็บไซต์ของพรรคการเมืองของอดีตผู้นำ ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นข้อความแสดง วิสัยทัศน์เรื่องเทคโนโลยีของไทย

ซึ่งคำพูดทั้งหมดนี้เป็น คำพูดเมื่อปี 2542 เลยอยากลองเอามาให้ดูกันว่าถึงทุกวันนี้ มีเรื่องใดบ้างที่เป็นจริงไปแล้ว มีเรื่องใดบ้างที่ยังไม่เป็นจริง และมีเรื่องใดบ้างที่คาดว่าจะเป็นจริงในอนาคต

"...

หลังจากที่นาย Aaron Staton ได้เริ่มโครงการ กูเกิล !! ได้ยินผมมั้ย ซึ่งจบภารกิจแรกคือ ได้นำเสนองานกับคนของกูเกิลไปแล้ว และตอนนี้เค้ากำลังทำภารกิจที่สองคือ การสร้างบริษัทที่ไม่ต้องใช้เงิน และไม่มีลูกจ้าง

หลังความพยายามในการประกาศใช้ .xxx สำหรับเว็บผู้ใหญ่โดยเฉพาะมาหลายต่อหลายครั้ง ทาง ICANN ก็มีมติไม่รับ .xxx อีกครั้งด้วยคะแนนโหวต 9 ต่อ 5 หลังจากมีการเสนอเข้าสู่บอร์ดของ ICANN ครั้งแรกเมื่อเจ็ดปีก่อน นับว่าเป็น TLD ที่มีการต่อสู้ยาวนานที่สุดอันหนึ่ง

การพิจารณาในหัวข้อนี้นับเป็นการพิจารณาที่มีความเห็นหลากหลายมาก ทั้งกลุ่มศาสนา (ที่มีทั้งอยากได้และไม่อยากได้) กลุ่มอุตสาหกรรมเหล่านั้นเอง ที่ความเห็นค่อนข้างกระจาย ส่วนทางบอร์ดของ ICANN บางคนระบุว่าเขาไม่เห็นด้วยเนื่องจากการอนุมัติ .xxx อาจจะทำให้ทาง ICANN กลับต้องมีหน้าที่คัดกรองเนื้อหาในอนาคตก็เป็นได้

Yahoo! Mail หนึ่งในผู้ให้บริการฟรีอีเมลรายใหญ่ของโลก ได้ฉลองครบรอบ 10 ปีของ Yahoo! Mail โดยการประกาศว่าจะให้เนื้อที่อีเมลไม่จำกัด สำหรับผู้ใช้ทุกรายในเดือนพฤษภาคมนี้ ยกเว้นผู้ใช้ในจีน และญี่ปุ่นที่จะยังใช้ระบบการจ่ายเงินเพื่อซื้อเนื้อที่เพิ่มต่อไป

โดย David Filo ผู้ร่วมก่อตั้ง Yahoo! ได้บอกว่าเค้าต้องการให้ผู้ใช้สามารถเก็บอีเมลได้มากเท่าที่ต้องการ โดยไม่ต้องลบอีเมลเก่าๆ เลย (เหมือนกับที่ Gmail เคยบอกมาก่อนเลย) นอกจากนี้ Filo ยังบอกว่าเค้าอาจจะเพิ่มเนื้อที่ให้กับบริการอื่นเช่น Flickr ด้วย

ผู้ที่ใช้บริการของ AT&T ตามบ้านและไร้สายจะสามารถเข้าไปใช้บริการดาวน์โหลดเพลงของ Napster ฟรี ซึ่งบริการนี้จะเริ่ม 1 เมษายนนี้ ทำให้ลูกค้าของ AT&T สามารถดาวน์โหลดเพลงเข้าไปในมือถือผ่านทางบริการของ Napster ซึ่งโดยทั่วไปต้องจ่ายค่าบริการแก่ Napster เป็นจำนวน $14.95 ต่อเดือน ซึ่งถ้าคนที่เป็นลูกค้าของ AT&T นั้นไม่ต้องจ่ายค่าบริการนี้เป็นเวลา 1 ปีสำหรับปีแรก

ที่มา - TG Daily

ICANN (Internet Corporation for Assigned Names and Numbers) เตรียมที่จะขอรับการลงมติในวันศุกร์นี้ (30 มีนาคม 2550) เพื่อยุติข้อโต้แย้งในเรื่องของโดเมน .xxx ซึ่งใช้สำหรับเว็บลามกอนาจาร

ทางฝ่ายที่สนับสนุนนั้นบอกว่าเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ควรที่จะง่ายต่อการควบคุมเมื่อมีการแบ่งเป็สัดเป็นส่วนอย่างถูกต้องโดยการกำหนดตัวโดเมนให้ชัดเจน แต่ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากผู้นำทางศาสนาถึงว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ทำให้เนื้อหาเหล่านี้สามารถค้นหาและเข้าถึงได้โดยง่ายในขณะที่อีกส่วนนึงบนว่าการสกรีนเว็บไซต์นั้นผิดหลักเสรีภาพทางความคิด

ที่มา - Techworld

ที่ประเทศอังกฤษ ได้มีผู้ชายวัยกลางคนทำการฆ่าตัวตายโชว์บน webcam ในห้องแชทต่อหน้าเพื่อน ๆ ต่อจากนั้นคนอื่น ๆ ในห้องแชทที่ได้เข้าไปเห็นได้แจ้งตำรวจเพื่อเข้าไปช่วยเหลือแต่ท้ายสุดก็ไม่ทัน ตรวจสอบภายหลังทราบว่าชายผู้นี้ชื่อ Kevin Whitrick อายุ 42 ปี ซึ่งสาเหตุการตายนั้น หนังสือพิมพ์ Shropshire Star บอกไว้คืออาจจะเป็นไปได้ว่าเป็นผลกระทบทางด้านจิตใจอย่างรุนแรง เนื่องจากว่าเมื่อปีที่แล้ว Kevin ได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างรุนแรงจนทำให้ร่างกายไม่สามารถกลับมาทำงานได้อย่างสมบูรณ์

ทางตำรวจยังไม่ระบุสาเหตุการตายของนาย Kevin ซึ่งตอนนี้กำลังพยายามสอบสวนคนที่เล่นอยู่ในห้องแชทนั้นซึ่งอาจจะได้หลักฐานเพิ่มเติมจากการฆ่าตัวตายออนไลน์

เว็บธนาคารกสิกรไทย (KBANK)ได้แจ้งว่ามีผู้ไม่หวังดีสร้างเว็บไซต์(ตัวปลอม)ชื่อ www.kasikornbank.cd/enroll/enroll.aspx โดยจงใจจดทะเบียนโดเมนเนมให้มีชื่อคล้ายกับ kasikornbank.com ซึ่งเป็นเว็บของธนาคารกสิกรไทย

เว็บปลอมแห่งนี้อ้างตัวเองว่าเป็นบริการของธนาคารตัวใหม่ชื่อว่า K-sDebit พฤติกรรมของเว็บปลอมแห่งนี้คือหลอกล่อให้ผู้ใช้ใส่หมายเลขบัตรเครดิตลงไปเพื่อให้บริการคุ้มครองการถูกฉ้อฉล