อันนี้ไม่รู้จะพูดยังไงเลย ผมเห็นแล้วอึ้งไปสามวินาที กับการโฆษณาเปิดตัววินโดวส์ 7 ที่ประเทศญี่ปุ่น
ไมโครซอฟท์ได้ร่วมกับเบอร์เกอร์คิงส์ (Burger King) ออกรายการส่งเสริมการขายชื่อ "Windows 7 Whopper" เป็นแฮมเบอร์เกอร์ที่มีความสูงประมาณ 13 ซม. มีชิ้นเนื้อถึง 7 ชิ้น ราคาที่ 777 เยน (ราว 290 บาท) เริ่มตั้งแต่ 22-28 เดือนนี้ แต่ราคาพิเศษนี่เฉพาะ 30 คนแรกต่อวันเท่านั้น (รูปป้ายโฆษณาดูได้จากเว็บที่มา)
เพิ่มเติม เลข 13 ดูเหมือนคนญี่ปุ่นจะไม่ค่อยให้ความสำคัญว่าเป็นเลขอัปมงคลของฝรั่งมากนัก แต่เลข 4 กับ 9 เป็นเลขอัปมงคลของชาวญี่ปุ่นครับ
ทำไมไม่ทำกับแมคโดนัลด์ล่ะเนี่ย แมคโดนัลด์ดังมากในญี่ปุ่นมิใช่หรือ หึหึ
อารยธรรมโซนี่อย่าง Walkman นั้นถูกบดบังจาก iPod มาเป็นเวลาถึงสี่ปีเต็ม แต่การลดราคาลงอย่างต่อเนื่องก็ทำให้ส่วนแบ่งตลาดของโซนี่กลับมาอยู่ที่ร้อยละ 43 และ iPod ตกลงไปอยู่ที่ร้อยละ 42.1 ได้สำเร็จ
ข่าวร้ายสำหรับโซนี่คือตลาดเครื่องเล่นเพลงดิจิตอลนี้กำลังหดตัวลงเรื่อยๆ ซ้ำร้ายส่วนแบ่งที่โซนี่ทำได้นี้ถ้านับในแง่มูลค่าแล้วยังห่างไกลกันหลายช่วงตัว โดยที่หนึ่งของญี่ปุ่นในตอนนี้ยังเป็น iPod nano 8GB ที่ราคาถึง 17,400 เยน แพงกว่าเครื่องเล่นของโซนี่แทบทุกรุ่น แต่ก็ยังขายดีกว่าที่สอง อย่าง NW-E042 กว่าสามเท่าตัว
การนับยอดนี้ไม่นับโทรศัพท์มือถือเช่น iPhone และ Sony Ericcson Walkman ทั้งหลาย แต่เราคงเดาได้ไม่ยากว่าโซนี่ก็กำลังลำบากในตลาดโทรศัพท์สำหรับฟังเพลงอยู่ไม่น้อย
ในวันที่ 3 ก.ย. ซึ่งเป็นวันเกิดของ "โดราเอมอน" กูเกิลญี่ปุ่นก็ร่วมฉลองวันเกิดโดยการเปลี่ยนโลโก้ในหน้าแรก เป็นรูปโดราเอมอนและ "ของวิเศษจากกระเป๋า 4 มิติ" ต่างๆ โดยมีรายละเอียดดังนี้
ตามเนื้อเรื่องนั้นโดราเอมอนเกิดเมื่อวันที่ 3 กันยายน ค.ศ. 2112
บริษัทฟูจิสึได้เปิดเผยว่า ตอนนี้บริษัทกำลังพัฒนาซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มีพลังประมวลผลสูงถึง 10 เพตาฟลอป ซึ่งคาดว่าจะพัฒนาให้แล้วเสร็จภายในต้นปี พ.ศ. 2554 และจะถูกใช้งานโดยศูนย์วิจัย RIKEN ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระบบนี้ติดตั้งโปรเซสเซอร์ SPARC64 VIIIfx (ใช้โค้ดเนมว่า "วีนัส") ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์แบบ 8 คอร์ มาพร้อมกับความเร็วสัญญาณนาฬิกา 2 กิกะเฮิร์ต และมีพลังประมวลผล 128 กิกะฟลอป
ดูเหมือนว่า Social Network กำลังตามเราไปในทุกๆ ที่ไม่เว้นแม้แต่เครื่องเล่นเกมมือถือ เมื่อเฟิร์มแวร์รุ่น 1.4 ของ Nintendo DSi เริ่มจะรองรับการเชื่อมต่อกับ Facebook แล้ว
ยังไม่แน่ชัดว่าเฟิร์มแวร์ใหม่นี้ทำอะไรได้บ้างนอกจากการอัพโหลดภาพขึ้น Facebook แต่ที่แน่ๆ โดยทางนินเทนโดระบุแค่ว่าตัวเครื่องจะแสดงภาพจากกล้องได้เร็วขึ้นเท่านั้น
เฟิร์มแวร์รุ่นใหม่นี้เปิดให้ใช้เฉพาะในญี่ปุ่นส่วนในสหรัฐฯ นั้นจะได้รับภายในปีนี้
ที่มา - Joystiq
สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นคงจะคุ้นเคยกับชื่อของ KDDI ผู้เป็นเจ้าของเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่แบรนด์ au เป็นอย่างดี ล่าสุดมีรายงานว่า KDDI ร่วมกับสถาบันวิจัยข้อมูลและการสื่อสารแห่งประเทศญี่ปุ่น (NICT) กำลังพัฒนาใยแก้วนำแสงที่สามารถส่งข้อมูลได้เร็วที่สุดในโลก คือสามารถส่งข้อมูลได้ถึง 30Tbps (1Tbps = 1,000,000,000,000 bps) เทียบเป็นดีวีดีภาพยนตร์ที่มีความยาว 2 ชั่วโมง ได้ถึง 720 เรื่อง ซึ่งจะมีความเร็วกว่าใยแก้วนำแสงที่ใช้กันในปัจจุบันถึง 9 เท่า (ปัจจุบันใยแก้วนำแสงมีความเร็วสูงสุดที่ 3.2Tbps)
ดิสนีย์สาขาญี่ปุ่นเตรียมขายภาพยนตร์ที่บรรจุใน microSD เดือนพฤศจิกายนนี้ โดยจะขายรวมเป็นแพ็กเกจเดียวกับดีวีดี (ซื้อหนึ่งกล่องได้สองอย่าง) ราคาทั้งชุดอยู่ที่ 4,935 เยน (1,800 บาท) ซึ่งแพงกว่าแบบดีวีดีอย่างเดียว 1,000 เยน
กลุ่มเป้าหมายของตลาดภาพยนตร์ microSD คือผู้ใช้มือถือ, เครื่องเล่นมัลติมีเดียพกพา และกลุ่มดูหนังในรถ หนังสองเรื่องแรกที่จะลง microSD คือชุด Pirates of the Caribbean และ National Treasure ส่วน microSD ใช้ของ Panasonic ยังไม่มีแผนการใดๆ สำหรับประเทศอื่นนอกจากญี่ปุ่น
ที่มา - Yahoo! News, Hot Hardware
พักจากเรื่องของ 3G บ้านเรามาดูที่ญี่ปุ่นกันบ้าง เพราะว่าไม่นานมานี้ทางค่ายบริการมือถือที่ญี่ปุ่นอย่าง DoCoMo และ KDDI ที่เปิดให้ใช้บริการใช้งานการเชื่อมต่อแบบ 3G กำลังทำให้รูปและหนังอนาจารกระจายตัวมากขึ้นอีก
โดยหนุ่มชาวญี่ปุ่นชื่อทาเคชิ ได้เปิดเผยว่าตัวเขานั้นสมัครใช้บริการ 3G แบบไม่จำกัดซึ่งอนุญาตให้ดาวน์โหลดวิดิโอผู้ใหญ่ด้วยมือถือ ที่มีค่ารายเดือนอยู่ที่ ¥6,300 (ประมาณ 2,200 บาท) อีกทั้งยังกล่าวว่า การดาวน์โหลดคอนเทนต์จำพวกนี้ผ่านมือถือสะดวกกว่าการใช้คอมฯที่บ้านเป็นไหน ๆ
จากผลในครั้งนี้ส่งผลให้ธุรกิจการดาวน์โหลดคอนเทนต์อนาจารออนไลน์มีการขยายตัวถึง 1,000 คนต่อวัน
TechRadar ได้อ้างข่าวจาก Nikkei ว่าคุณ Kevin Thau ตำแหน่ง Mobile director ของ Twitter ได้กล่าวยอมรับว่าบริษัทมีแผนที่จะเปิดเว็บไซต์สำหรับชาวญี่ปุ่น เนื่องด้วยยอดผู้ใช้ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้คอนเทนต์ทั้งหมดใน Twitter จะเป็นภาษาอังกฤษก็ตาม (แต่เนื่องด้วยหน้า Twitter ภาษาญี่ปุ่นมีอยู่แล้ว จึงหมายความได้ว่าเขากำลังพูดถึงการเปิดเว็บสำหรับโทรศัพท์มือถือ)
ข่าวนี้เหมือนจะเก่าไปหน่อยเมื่อมาลงเอาตอนที่จะหมดเดือนมิถุนายนปี ๕๒ อยู่แล้ว แต่ผมว่าก็เป็นเรื่องน่าดีใจเล็กๆ สำหรับคนไทยนะครับ เมื่อทาง Sony Japan เลือกเอาภาพถ่ายจากสุโขทัย ไปเป็น Special Wallpapers ประจำเดือนมิถุนายน ๒๕๕๒ ในโครงการ α CLOCK จำนวน ๑๒ ภาพ ๑๒ เวลาด้วยกัน แม้ว่าจะเป็นภาพจากสถานที่เดียวกัน (ไม่ย้ายกล้องเลย) แต่ก็ทำให้ได้เห็นความสวยงามของสถานที่ในเวลาต่างๆ กันอย่างชัดเจน
เดี๋ยวผมจะใช้ Wallpapers อันนี้แทนปลากัดไทย Windows 7 กับ VAIO ที่ติดมากับเครื่อง ตั้งเปลียนรูปทุก ๑๐ วินาทีโลด
ข่าวต่อเนื่องจากข่าวเดิม ยาฮูญี่ปุ่นใช้ Silverlight โชว์คลิปการสร้างกันดั้มขนาดเท่าจริง
ตอนนี้หุ่นกันดั้มขนาด 1:1 สูง 18 เมตรที่ว่า ก็สร้างใกล้เสร็จเป็นรูปเป็นร่างแล้ว (ดูเผินๆ ก็เหมือนเสร็จแล้ว)
เข้าไปดูรูปได้ที่นี่ นี่ และ นี่ (สวยงามมากๆ อยากไปยลโฉมด้วยตัวเองใกล้ๆ ชะมัด)
ข่าวว่าชิ้นส่วนที่ทำจากเส้นใยแก้วหลายๆ ส่วนผลิตจากโรงงานในไทย
หมายเหตุ
หลังๆ ข่าว Android เยอะมาก ผมเลยรวมข่าวสองข่าวหลักเข้าทีเดียว
ข่าวแรกคือพานาโซนิคที่ปรกติแล้วไม่ค่อยได้ทำตลาดสมาร์ทโฟนนอกญี่ปุ่นนัก ประกาศจะเปิดตัวโทรศัพท์ Android ในปี 2010 พร้อมการทำตลาดนอกญี่ปุ่น
ในช่วงหน้าร้อนนี้ทางพานาโซนิคจะเปิดตัวโทรศัพท์อีก 6 รุ่นให้กับทาง NTT DoCoMo และทาง SoftBank ตัว NTT DoCoMo เองนั้นเพิ่งว่าจ้างทาง HTC ให้ผลิตเครื่อง HTC Magic ให้ นับเป็นการนำ Android เข้าไปบุกตลาดญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก
ที่มา - Tech-On
อีกข่าวหนึ่งคือ Lenovo OPhone ที่ประกาศไปก่อนหน้านี้นานแล้ว ได้มีการเลี้ยงอาหารค่ำให้กับสื่อเพื่อเปิดตัวโทรศัพท์ OPhone ให้สื่อได้ลองเล่นกัน
ยาฮูประเทศญี่ปุ่นได้นำวิดีโอคลิปสารคดีเบื้องหลังการสร้างรูปปั้นกันดั้มขนาดเท่าตัวจริง (1/1) ความสูง 18 เมตรขึ้นบนเว็บ โดยผู้ชมต้องใช้ Silverlight จากไมโครซอฟท์ในการชมสารคดีเบื้องหลังการสร้างหุ่นยักษ์นี้
วิดีโอเหล่านี้สามารถดูได้ในช่วงวันที่ 23 เม.ย. - 23 ก.ค. และจะอัพเดตทุกวันพฤหัสบดี (ขณะเขียนข่าวมีแล้ว 4 คลิป ครั้งหน้าจะอัพเดตในวันที่ 28 พ.ค.)
ถึงแม้ว่าโตชิบานั้นจะอยู่อันดับ 6 ของญี่ปุ่นที่ครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ร้อยละ 7 แต่ทว่าผลพวงจากยอดขายโทรศัพท์มือถือที่ตกลงมาถึงร้อยละ 30 ในปีที่ผ่านมา อีกทั้งผลประกอบการในช่วงไตรมาสแรกยังขาดทุนไปถึงหมื่นล้านเยน (3.5 พันล้านบาท) ทำให้ทางโตชิบาตัดสินใจประกาศถอนตัวออกจากตลาดญี่ปุ่น
โดยทางโตชิบาวางแผนที่จะถอนตัวภายในเดือนกันยายน โดยมีเหตุผลในด้านของการลดต้นทุนทางธุรกิจ และไม่สามารถครองตลาดมือถือของญี่ปุ่นได้เท่าที่ควร
หลังจากที่ประกาศออกไป หุ้นของโตชิบาตกลงมาร้อยละ 3 จาก 351 เยน ซึ่งถือว่าไม่น่าเป็นห่วงเพราะมีการเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก
บ้านเราคนแถวๆ นี้บ่นเรื่องการทำ SEO แบบ black hat กันเยอะ แต่ล่าสุดคนที่ทำแบบนี้กลายเป็นกูเกิลไปซะแล้ว
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อกูเกิลของญี่ปุ่น (ประเทศซึ่ง Yahoo! ครองตลาดสูงมาก) ได้ว่าจ้างบริษัท Cyberbuzz โปรโมทเว็บของตนด้วยการให้บล็อกเกอร์จำนวนมากเขียนบล็อกเพื่อโปรโมทและส่งผลให้เกิดการดันค่า Pagerank ของ Google.co.jp ให้สูงขึ้นกว่าปรกติ
ตำรวจในคานางาวะ ประเทศญี่ปุ่น ใช้โปรแกรม Mii ซึ่งเป็นโปรแกรมสำหรับสร้างตัวอวตาร (Avatar) ซึ่งเป็นตัวละครเล็กๆ ของผู้เล่นเกม ภายในเครื่องเล่นเกม Wii เพื่อสเก็ตช์ภาพคนร้าย และลงประกาศในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นเพื่อความคืบหน้าของคดีแทนวิธีการให้ศิลปินมาสเก็ตช์ภาพแบบที่เคยปฏิบัติกันมา
หลังจากผลกำไรดิ่งเหวแบบหยุดไม่อยู่ในไตรมาสที่สี่ไปถึงร้อยละ 84 บริษัทพานาโซนิคก็ประกาศเลิกจ้างพนักงานประมาณ 15,000 คนจากทั้งหมด 300,000 คนทั้งบริษัทพร้อมกับเตรียมปิดโรงงานอีก 27 แห่งทั่วโลก
การปรับโครงสร้างขนานใหญ่ครั้งนี้ ทำให้พานาโซนิคต้องสำรองงบประมาณไว้ถึง 3.85 พันล้านดอลลาร์ อีกทั้งมีประมาณการว่าจะมียอดขาดทุนจากมูลค่าทรัพย์สินอีกกว่า 800 ล้านดอลลาร์ทำให้ปีนี้จะเป็นปีแรกในรอบเจ็ดปีที่พานาโซนิคขาดทุน
ยังไม่มีความแน่ชัดว่าโรงงานใดอยู่ในแผนการปรับโครงสร้างครั้งนี้บ้าง โดยที่ประกาศในตอนนี้นั้นมีโรงงานในญี่ปุ่นสองโรงงาน และโรงงานแบตเตอรี่ในฟิลิปปินส์อีกหนึ่งโรงงาน ส่วนอีกเป้าหมายหนึ่งคือการรวมโรงงานชิ้นส่วนในมาเลเซียจากสองโรงงานให้เหลือโรงงานเดียว
รายงานของสมาคมผู้ให้บริการโทรคมนาคม (TCA) ของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า เมื่อสิ้นเดือนธันวาคม 2551 ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกรายมียอดผู้ใช้รายใหม่เพิ่มขึ้นรวมกัน 400,200 ราย ทำให้ ณ สิ้นปี 2551 ญี่ปุ่นมีจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งประเทศ 105.825 ล้านราย
ในจำนวนผู้ให้บริการรายใหม่ที่เกิดขึ้นในเดือนธันวาคมนั้น เป็นของบริษัท Softbank Mobile จำนวน 135,200 รายเมื่อเทียบกับแบรนด์ “au” ของบริษัท KDDI ที่มีจำนวนเพียง 36,000 ราย
รัฐบาลญี่ปุ่นเล็งจัดทำแนวทางการคิดค่าธรรมเนียมต่อเชื่อมโทรศัพท์เคลื่อนที่ฉบับใหม่แล้วเสร็จในปี 2553 ซึ่งคาดว่าจะต่ำลงสำหรับผู้ใช้บริการรายใหม่ ทั้งนี้ปัจจุบันกฎหมายมิได้ระบุไว้ชัดเจนว่ารูปแบบการตั้งราคาค่าธรรมเนียมต่อเชื่อม (ซึ่งผู้ให้บริการจ่ายซึ่งกันและกัน) ควรเป็นอย่างไร และมีราคาค่อนข้างสูงคือ 35 เยนต่อนาที (13.16 บาทต่อนาที) จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ว่าทำไมค่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายในประเทศจึงมีอัตราค่าบริการสูง
ขณะนี้การคิดค่าธรรมเนียมต่อเชื่อมของโทรศัพท์เคลื่อนที่สูงกว่าของโทรศัพท์ประจำที่ถึง 7 เท่า ทำให้กระทรวงมีแผนจัดทำรูปแบบการตั้งราคาที่เป็นมาตรฐานเพื่อใช้กับผู้ให้บริการทุกราย
รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพิจารณาการบังคับห้ามนำโทรศัพท์เคลื่อนที่ไปโรงเรียนหลังจากเกิดเหตุวิวาทเกี่ยวกับเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่บ่อยครั้ง ทั้งนี้สำนักงานสถิติของรัฐรายงานว่าในปี 2550 เกิดเหตุทะเลาะวิวาทหรือปัญหาร้ายแรงต่างๆเกี่ยวกับเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่เกือบ 6,000 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2549กว่า 1,000 ราย เช่น เมื่อปีที่แล้วนักเรียนชายคนหนึ่งในโกเบฆ่าตัวตายโดยมีสาเหตุจากภาพเปลือยของเขาที่ถ่ายไว้เล่นๆในเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ถูกนำไปเปิดเผยทั่วโรงเรียน
บริษัท วิลล์คอม (Willcom) ผู้ให้บริการโทรศัพท์ PHS (Personal Handy-phone System) ของญี่ปุ่นประกาศเตรียมเปิดบริการสื่อสารข้อมูลในฤดูใบไม้ผลิปี 2552 บนโครงข่ายไร้สาย 3G ของบริษัท เอ็นทีที โดโคโม
ทั้งนี้เนื่องจากความต้องการใช้บริการสื่อสารข้อมูลไร้สายในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นบริษัทจึงหาช่องทางเพิ่มฐานลูกค้าโดยตกลงเลือกใช้โครงข่าย FOMA ของโดโคโม ภายใต้ความตกลง MVNO
แม้ว่าโนเกียจะครองตลาดทั่วโลกถึงร้อยละ 40 แต่ตลาดญี่ปุ่นนั้นนับว่าเป็นตลาดที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก โทรศัพท์มือถือในญี่ปุ่นนั้นมีหน้าจอความละเอียดสูงเป็นพิเศษ ฟีเจอร์แปลกๆ เป็นของที่เราๆ อาจจะไม่เคยเห็นกัน สิ่งเหล่านี้ทำให้โนเกียนั้นครองตลาดเพียงร้อยละ 0.3 ในญี่ปุ่น
ล่าสุดโนเกียได้ออกมาประกาศแล้วว่าจะปิดการทำตลาดในญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ เนื่องจากส่วนแบ่งที่น้อยอยู่แล้ว และตลาดอิ่มตัวมาก โดยชาวญี่ปุ่นมีโทรศัพท์มือถือถึงร้อยละ 85 แล้ว
หลังการถอนตัวแล้วโนเกียจะยังคงทำตลาดแบรนด์ Vertu ซึ่งเป็นตลาดชั้นสูงต่อไป
ที่มา - Yahoo! Tech
เอ็นทีที โดโคโม ประเทศญี่ปุ่นตกลงเลือกฟูจิตสึจัดหาเทคโนโลยีของ NSN สำหรับโครงข่ายหลัก Super 3G/LTE
บริษัท ฟูจิตสึ และ NSN (Nokia Siemens Networks) ตกลงร่วมมือกันในการพัฒนาเกตเวย์ SAE (Service Architecture Evolution) ซึ่งประกอบด้วย เซอร์วิส เกตเวย์ และ PDN Gateway สำหรับใช้งาน LTE ในโครงการ Super 3G ของเอ็นทีที โดโคโม ซึ่งการตัดสินใจเลือกผู้จัดหา SAE gateway ครั้งนี้หมายความว่า เอ็นทีที โดโคโม จะทำให้บริษัทเป็นผู้ให้บริการรายแรกของโลกที่ให้บริการด้วยเทคโนโลยี LTE ซึ่งผู้ใช้บริการของบริษัทจะได้ใช้บริการบรอดแบนด์ที่ดีขึ้นกว่าปัจจุบัน
ปล่อยให้เป็นข่าวหลุดมาแล้วสิบกว่าวัน ตอนนี้เดลล์ก็เปิดตัว Inspiron Mini 12 อย่างเป็นทางการแล้วในประเทศญี่ปุ่น สเปคนั้นไม่มีอะไรต่างจากในข่าวหลุดออกมา มีเฉพาะเรื่องกำหนดวางจำหน่ายที่ญี่ปุ่นเป็นประเทศแรกในโลก และกำลังตามมาด้วยสหรัฐฯ ที่จะวางจำหน่ายกลางเดือนหน้า
ที่น่าสนใจสักหน่อยคือ Netbook ตัวนี้จะเป็นหนึ่งในไม่กี่รุ่นที่มาพร้อมกับ Windows Vista Business อาจจะแสดงกลุ่มเป้าหมายของสินค้าชิ้นนี้ว่าเป็นอุปกรณ์ธุรกิจมากกว่ามุ่งผู้ใช้ตามบ้าน
ราคาเริ่มต้นในญี่ปุ่นอยู่ที่ประมาณ 550 ดอลลาร์หรือประมาณ 19,000 บาทไทย สำหรับรุ่น Vista ส่วนรุ่นอื่นๆ นั้นยังไม่มีราคาแจ้งออกมา
เชื่อว่าผู้อ่าน Blognone คงรู้จัก Dell Inspiron Mini 9 กันหมดแล้ว ล่าสุดเดลล์จับมันมาเปลี่ยนสีเป็นสีดำทั้งเครื่อง เปลี่ยนชื่อรุ่นเป็น Vostro ซึ่งเป็นแบรนด์ที่จับตลาดองค์กร (แต่จับตลาดต่ำกว่า Latitude) สเปกไม่เปลี่ยนแปลง และวางขายเฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น
แต่ที่น่าสนใจคือราคากลับเพิ่มขึ้นมาจากเดิมที่ขายอยู่ประมาณ 300 ปอนด์นิดๆ กลายมาเป็น 92,830 เยน (606 ปอนด์ หรือประมาณ 35,000 บาท) แพงขึ้นอีกเท่าตัว รุ่นที่ขายในญี่ปุ่นมีแต่แบบ Windows XP เท่านั้น
ที่มา - RegHardware