ปัญหายอดนิยมตลอดกาลของโทรศัพท์มือถือคือ "การป้อนข้อมูล" โดยเฉพาะในยุคมือถือจอสัมผัส การยัดปุ่มตัวอักษรลงในจอขนาดเล็กๆ ทำให้ปุ่มมีขนาดเล็กและกดยากตามไปด้วย ซึ่งข้อจำกัดเรื่องจำนวนตัวอักษร (ภาษาอังกฤษ 26 ตัว ภาษาไทยเยอะกว่านั้นเยอะ) คงทำให้จำนวนปุ่มลดลงจากนี้ไม่ได้เยอะนัก

ทางเลือกหนึ่งในการแก้ปัญหาคือป้อนข้อมูลด้วยภาษาหรือวิธีการแบบอื่น ซึ่งวิธีการที่กลับเหมาะมากบนพื้นที่หน้าจอจำกัดคือ "รหัสมอร์ส" เพราะมีตัวอักษรเพียงสองตัวคือ "สั้น" (dot) และ "ยาว" (dash) เท่านั้น ดังนั้นถ้ามือถือสามารถป้อนข้อมูลด้วยรหัสมอร์สได้ ปัญหาเรื่องพื้นที่หน้าจอก็หมดไป (เพียงแต่ผู้ใช้ต้องฝึกรหัสมอร์สกันเล็กน้อย)

ปัจจุบันเรามีการป้อนข้อมูลตัวอักษรหลายรูปแบบ แต่ในวิธีเหล่านั้นล้วนแต่จำเป็นต้องอาศัยแป้นพิมพ์ด้วยทั้งสิ้น
จึงเป็นปัญหาเมื่อเราจำเป็นต้องเขียนคำขณะที่เรายุ่งๆ

หลายคนแถวนี้คงรู้จักแอพ SwiftKey X คีย์บอร์ดบน Android ที่มีเทคโนโลยี "ช่วยเดาคำต่อไป" ซึ่งช่วยประหยัดเวลาการพิมพ์ได้มาก (รองรับ 40 ภาษาแต่ไม่มีสำหรับภาษาไทยนะครับ)

ล่าสุดทางต้นสังกัดคือบริษัท TouchType ประกาศเปิดเทคโนโลยีการช่วยเดาคำ (SwiftKey ไม่มี X) ให้พาร์ทเนอร์รายอื่นๆ นำไปใช้งานแล้ว ผลลัพธ์ที่คาดหวังคือเราอาจเห็นคีย์บอร์ดเฉพาะทางบางตัวที่ทำคีย์บอร์ดเอง แต่ฝังเอนจินเดาคำของ SwiftKey ลงไปแทน หรือระบบปฏิบัติการ-แอพบางตัวอาจฝังเอนจิน SwiftKey ลงไปได้เช่นกัน

นักวิจัยจาก Georgia Tech ได้พัฒนาระบบ BrailleTouch ซึ่งเป็นการป้อนตัวอักษรบนมือถือจอสัมผัส ที่ใช้ตำแหน่งรูปร่างของอักษรเบรลล์ (ตัวอักษรแทนภาษาหรือสัญลักษณ์ต่างๆ ด้วยการจุดหรือไม่จุดบนตารางขนาด 2x3) มาแทนการพิมพ์ตัวอักษรแต่ละตัว

ถึงแม้ว่าแอพนี้จะมีเป้าหมายหลักสำหรับผู้พิการทางสายตา แต่ว่ามันก็น่าจับตามองในเรื่องของความเร็วเป็นอย่างมาก ผู้ที่ผ่านการฝึกฝนการป้อนอักษรด้วยระบบนี้ สามารถทำความเร็วได้ถึง 32 คำต่อนาทีที่ความแม่นยำ 92% เลยทีเดียว (นักวิจัยเคลมว่า เร็วกว่าการป้อนคำบนมือถือจอสัมผัสด้วยวิธีทั่วไปถึงหกเท่า)

ข่าวค่อนข้างเก่าไปซักหน่อยครับ พอดีพึ่งเห็นผลิตภัณฑ์จริงตอนไปเดินห้าง

Logitech Wireless Touch Keyboard K400 คือคีย์บอร์ดไร้สายขนาดมาตรฐานที่มาพร้อมกับทัชแพดในตัวทางด้านขวามือ (ต่างจากคอมพิวเตอร์วางตักที่ทัชแพดอยู่ข้างล่าง) ทางผู้ผลิตเคลมว่าแบตเตอรี่สามารถอยู่ได้นานถึง 12 เดือน ทัชแพดสามารถรองรับการสัมผัสหลายจุด ตัวรับสัญญาณเป็น Logitech Unifying ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Logitech อื่นๆ ได้ด้วยตัวรับสัญญาณเพียงชิ้นเดียว นอกจากนี้ยังสามารถวางคีย์บอร์ดในแนวตั้งเพื่อประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บได้อีกด้วย

ราคา 1590 บาทถือว่าค่อนข้างแพงไปซักหน่อย แถมตอนนี้ยังไม่สกรีนแป้นไทยครับ

ผู้ใช้ Swype Beta for Android คงจะทราบดีว่า ในการอัพเดตเวอร์ชั่นใหม่ของ Swype ทุกๆ ครั้งนั้น จะต้องถอดเอา Swype Keyboard ตัวเก่าออกก่อนเสมอ จากนั้นจึงอัพเดทตัว Swype Installer ก่อน แล้วจึงค่อยใช้ตัว Installer ที่อัพเดตแล้วเพื่อดาวน์โหลด Swype Keyboard ตัวใหม่มาลงต่อไป ซึ่งวิธีอัพเดตแบบนี้จะทำให้พจนานุกรมที่ผู้ใช้กำหนดหายไปทุกครั้งที่มีการถอดเอา Swype Keyboard ออก

Swype ผู้พัฒนาคีย์บอร์ดแบบนิ้วลากบนมือถือ ขายกิจการให้กับบริษัท Nuance Communications มูลค่าประมาณ 102.5 ล้านดอลลาร์

ผู้อ่าน Blognone คงรู้จัก Swype กันดีอยู่แล้ว ส่วน Nuance ชื่อบริษัทอาจจะไม่ดังนัก แต่เป็นเจ้าของวิธีป้อนข้อมูลแบบ T9 บนมือถือ และซอฟต์แวร์สั่งงานด้วยเสียงแบรนด์ Dragon ที่ทำตลาดมายาวนาน

Mike McSherry ซีอีโอของ Swype ให้สัมภาษณ์กับ TechCrunch ว่าการขายกิจการครั้งนี้จะทำให้เทคโนโลยีการป้อนข้อมูล (input method) ของ Nuance/Swype รวมตัวกันเพื่อเป็นเจ้าแห่งการป้อนข้อมูลบนอุปกรณ์ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็นหรือรถยนต์

เมื่อวานนี้ ทางบริษัท Minebea (เป็นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักรและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของญี่ปุ่น) ได้วางขายคีย์บอร์ดที่มีชื่อว่า "COOL LEAF" ตามตัวแทนจำหน่ายในญี่ปุ่น ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูเผินๆ เหมือนแผ่นกระจกเงา

จริงๆการสะท้อนที่ดูเหมือนกระจกนี้ เกิดจากเแผ่นฟิลม์สะท้อนแสง PET กว่า 2,000 ชั้นข้างใต้คีย์บอร์ด นอกจากนั้นคีย์บอร์ดตัวนี้ยังมาพร้อมกับระบบสัมผัสแบบ Multi-Touch จึงทำให้การกดปุ่มพร้อมๆ กันอย่าง Crtl+Alt+Del สามารถทำได้สบายๆ และยังสามารถปรับแต่งความละเอียดของการสัมผัสได้ตามต้องการอีกด้วย

ผู้อ่าน Blognone คงคุ้นเคยกับคีย์บอร์ด Swype ซึ่งที่ผ่านมายังเป็น closed beta เปิดเป็นช่วงๆ หรือไม่ก็พรีโหลดมากับมือถือบางรุ่น

วันนี้ Swype เปลี่ยนสถานะเป็น open beta อีกครั้งแล้ว ผู้ที่สนใจต้องลงทะเบียนบนเว็บไซต์ Swype Beta เพื่อดาวน์โหลด รุ่นนี้มีเลขเวอร์ชันเป็น 2.15.56.14870 ซึ่งมีของใหม่คือ Double-Tap-to-Edit และปุ่ม Voice-to-Text (ต้องลง Google Voice Search ก่อน)

ข่าวรั่วระลอกสุดท้ายก่อน งานแถลงข่าว 7 ธ.ค. ของกูเกิล ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัว Chrome OS อย่างเป็นทางการ

เว็บไซต์ Engadget ได้ภาพ "คีย์บอร์ด" ที่จะใช้ในเน็ตบุ๊ก Chrome OS สาเหตุที่เป็นข่าวเพราะว่ามันไม่ใช่คีย์บอร์ดธรรมดาแบบที่เราใช้กัน แต่ปุ่มต่างๆ ถูกปรับเปลี่ยนไปพอสมควร

จุดสำคัญมี 2 อย่าง อย่างแรกคือไม่มีปุ่ม Caps Lock และมันถูกเปลี่ยนเป็นปุ่ม Search แทน อย่างที่สองคือปุ่มแถวบนสุดซึ่งเป็นปุ่ม F1-F12 ในปัจจุบัน กลายเป็นปุ่มสำหรับงานเฉพาะ เช่น ปรับเสียง ปรับความสว่างจอ และปุ่มควบคุมหน้าต่าง (ดูภาพประกอบ)

จากการเปิดตัว 8Pen คีย์บอร์ดแนวใหม่สำหรับ Android ซึ่งนำเสนอวิธีการพิมพ์ข้อมูลแบบใหม่ (และยากสุดๆ) ใน Android ด้วยราคา 0.99 ปอนด์ และหาได้เฉพาะใน Paid Market เท่านั้น

ตอนนี้ 8Pen ได้ออกอัพเดตใหม่เวอร์ชั่น 1.1 แล้ว พร้อมกับปล่อยให้ดาวน์โหลดได้ฟรีใน Market ลองไปโหลดมาเล่นกันดูได้ครับ ค้นหาด้วยคำว่า 8Pen ได้เลย ผมทดลองแล้วยอมรับว่ายากจริงๆ แฮะ

ความเปิดของ Android นั้นส่งผลดีชัดเจนต่อพัฒนาการของวิธีการป้อนข้อมูล ที่ผ่านมาเราเห็นซอฟต์แวร์คีย์บอร์ดแบบใหม่ๆ มากมาย เช่น Swype, BlindType ฯลฯ ตอนนี้มีของใหม่มาอีกแล้ว

คีย์บอร์ดอันนี้มีชื่อว่า 8Pen แนวคิดของมันคือแบ่งจอเป็น 4 ส่วน และลากนิ้วเป็นวงกลมไปทีละส่วนเพื่อเลือกตัวอักษร อธิบายเป็นข้อความยากมากดูวิดีโอกันเองดีกว่า

Logitech เปิดตัว "Wireless Solar Keyboard K750" คีย์บอร์ดไร้สายที่ไม่ต้องใช้ถ่าน เพราะมันใช้พลังงานแสงแทน

Logitech บอกว่ามันถูกออกแบบมาอย่างดีสำหรับสภาพแสงจำกัด แม้จะเป็นแถบขั้วโลกก็ยังใช้งานได้ การชาร์จไฟจะทำโดยอัตโนมัติเมื่อมีแสงสว่าง (ใช้แสงหลอดไฟก็ได้) และการชาร์จไฟหนึ่งครั้งสามารถทำงานได้ในที่มืดสนิทถึง 3 เดือน

ตัวต่อสัญญาณไร้สายใช้ Logitech Unifying Receiver ตามมาตรฐานของอุปกรณ์ Logitech และใช้คลื่นวิทยุ 2.4GHz แทน Bluetooth ซึ่งช่วยให้รับสัญญาณได้ไกลขึ้น ราคาตัวละ 80 ดอลลาร์ (2,400 บาท)

ที่มา - Logitech

ไมโครซอฟท์ได้จดสิทธิบัตรใหม่ "Keyboard Gesturing" (จดตั้งแต่เดือนเมษายน แต่เพึ่งขึ้นออนไลน์เมื่อไม่กี่วันนี้) รายละเอียดมีดังนี้

กูเกิลเข้าซื้อกิจการบริษัท BlindType ซึ่งพัฒนาคีย์บอร์ดเสมือนบนหน้าจอมือถือ มีจุดขายที่พิมพ์ได้แบบไม่ต้องเล็ง

การทำงานของ BlindType คล้ายกับ Swype ครับ คือตัวคีย์บอร์ดจะเช็คตำแหน่งของปุ่มที่เราสัมผัส แล้วมาคำนวณดูว่าเราต้องการจะกดปุ่มนั้นจริงๆ หรือเป็นปุ่มอื่นที่ใกล้เคียงกันแน่ เมื่อพิมพ์ไปหลายๆ ปุ่ม BlindType จะนำมาต่อเป็นคำให้ ดูวิดีโอสาธิตได้ท้ายข่าว

ในเดโม BlindType ทำงานบน Android และ iPhone แต่ยังไม่เคยมีซอฟต์แวร์ตัวจริงๆ ออกสู่สาธารณะ ส่วนการซื้อครั้งนี้ก็หวังว่ากูเกิลจะนำมันรวมมากับ Android ให้เลย

ที่มา - TechCrunch

แม้ว่าเราจะคุ้นเคยกันดีกับคีย์บอร์ดที่มีไฟ backlit ในอุปกรณ์พกพาทั้งหลาย แต่สำหรับคอมพิวเตอร์ตามบ้านแล้ว เราคงไม่ค่อยได้เห็นคีย์บอร์ดที่มีไฟ backlit ในตัวมากเท่าไรนัก เนื่องจากเรามักใช้คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอเสมอ

แต่สถานการณ์นี้ก็กำลังเปลี่ยนไป เพราะในปัจจุบันได้มีการนำคอมพิวเตอร์มาใช้งานเป็น media center มากขึ้น ทำให้อุปกรณ์ที่สามารถส่องแสงได้ในที่มืดได้รับความสนใจมากขึ้นเช่นกัน

โดยเจ้า Logitech K800 นั้นมีดีตรงที่ไฟ backlit จะปรับระดับความสว่างตามสภาพแสงภายนอกโดยอัตโนมัติ พร้อมทั้งมีเซ็นเซอร์ตรวจจับมือเพื่อการประหยัดพลังงานเมื่อไม่ได้ใช้อีกด้วย

SteelSeries (ผู้ผลิตอุปกรณ์เล่นเกมส์ชั้นนำของโลก) ร่วมมือกับ Blizzard (ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเกม StarCraft II Wings of Liberty) จัดทำคีย์บอร์ดสำหรับชาว StarCraft II

SteelSeries ส่ง SteelSeries StarCraft II Limited Edition ZBoard Keyset สำหรับเล่น StarCraft II มาโดยเฉพาะ เรียกได้ว่าเอาใจเกมเมอร์กันเลยทีเดียว ลักษณะเด่นของตัวคีย์บอร์ดนี้ที่แตกต่างกับคีย์บอร์ดธรรมดาก็คือ จะมีปุ่ม Command shortcuts สำหรับสั่งการยูนิตต่างๆ

ประเทศไทยยังไม่มีกำหนดวางจำหน่าย แต่ถ้าใครอดใจไม่ไหวก็ต้องสั่งจากต่างประเทศกันเอาเอง ราคาของคีย์บอร์ดนี้คือ $24.99

นี่ไม่ได้เขียนผิดนะครับ ABCDE จริงๆ ไม่ใช่ QWERTY

เรื่องมันเป็นอย่างนี้ครับ Lava ผู้ผลิตมือถือในอินเดีย ออกมือถือรุ่น B5 (ไม่ใช่น้ำมันดีเซลนะครับ) ที่มีดีไซน์คล้าย BlackBerry Bold ตัวนี้ มาพร้อมกับ Windows Mobile (เอาภาพเขามาใช้ต่างหาก), CDMA EV-DO (GSM ต่างหาก) แต่ที่แน่ๆ ก็คือ มันมีคีย์บอร์ด ABCDE (ตัวแรกของโลกด้วย) และโปรแกรมแชต Nimbuzz กล้อง 2 ล้านพิกเซล แถม microSD 2GB ด้วย

มันมีสองซิมด้วยนะครับ สนนราคาที่ 4,399 รูปี (ประมาณ 3,020 บาท) ชมภาพได้ท้ายข่าว

ที่มา - Engadget

อินเตอร์เฟส “Slide to Unlock” และ “Keyboard Letter Pop” ที่แอปเปิลได้คิดค้นขึ้นมา และนำมาใช้ครั้งแรกบน iPhone เมื่อปี 2007 นั้นสร้างความฮือฮา และถูกลอกเลียนไปใช้โดยผู้ผลิตรายอื่นๆ หลายราย แต่ต่อไปนี้เราอาจจะได้เห็นมัน (ในสินค้าที่ไม่ใช่ของแอปเปิล) น้อยลงแล้ว

ในงานแข่งขัน UIST (User Interface Software and Technology) Student Innovation Contest ไมโครซอฟท์ได้นำต้นแบบคีย์บอร์ดที่มีชื่อเรียกว่า "Adaptive Keyboard" มาให้นักศึกษาที่ลงแข่งขันทำอะไรก็ได้เพื่อการแข่งขันดังกล่าว

Adaptive Keyboard มีตัวแป้นพิมพ์ที่สามารถปรับเปลี่ยนอักขระและสัญลักษณ์ได้ อาทิ ผู้ใช้สามารถเลือกภาษาที่จะแสดงผลบนแป้นพิมพ์ หรือผู้ใช้สามารถกดคีย์ลัดของ PowerPoint จากแป้นพิมพ์ได้โดยตรง เป็นต้น พร้อมทั้งจอภาพทัชสกรีนด้านบนแป้นพิมพ์ที่รองรับการทำงานได้หลายอย่าง อาทิ เป็นทางลัด (shortcut) เข้าถึงไฟล์ต่างๆ หรือสามารถเลือกดูสไลด์ PowerPoint ได้ เป็นต้น รายละเอียดที่เหลือลองดูได้จากวีดีโอที่ท้ายข่าว

โปรแกรมสำหรับ iOS และ Android ที่จะช่วยเดาคำที่พิมพ์ผิดที่เกิดจากการ "สัมผัส" ปุ่มไม่แม่น สำหรับอุปกรณ์จอสัมผัสที่มี QWERTY คีย์บอร์ดเสมือนในจอ ตัวอย่างเช่นหากคุณกดเฉี่ยวๆ แบบ "hwllp" มันก็จะรู้ได้ว่าคุณต้องการพิมพ์ "hello" ต่างหาก

แต่กระนั้นสำหรับผู้ใช้ iOS อาจดีใจหาย เนื่องจากแอปเปิลอาจไม่อนุญาตให้โปรแกรมนี้เข้า App Store เพราะโปรแกรมจะไปแทนที่คีย์บอร์ดเสมือนของระบบ อย่างไรก็ดีผู้พัฒนาก็จะลองส่งให้แอปเปิลเพื่อเป็นการกดดันให้อนุญาตให้โปรแกรมลักษณะนี้ ดูวิดีโอสาธิตหลังเบรค

ที่มา - Engadget

นอกจากไมโครซอฟท์กับแอปเปิลจะแข่งกันในสงคราม OS (ทั้งเดสก์ท็อปและมือถือ) แล้ว สองบริษัทนี้ยังผลิตคีย์บอร์ดขายเหมือนกันอีกด้วย ล่าสุดเว็บไซต์ CrunchGear ได้เอาคีย์บอร์ดของทั้งคู่มารีวิวเปรียบเทียบกันแล้ว คีย์บอร์ดฝั่งไมโครซอฟท์คือ Microsoft Arc Keyboard ส่วนของแอปเปิลเป็น Apple Wireless Keyboard ครับ

การรีวิวแบ่งเป็นส่วน ๆ ดังนี้

เมื่อวานนี้เลอโนโวได้เปิดตัวรีโมตพร้อมคีย์บอร์ดไร้สาย และเมาส์แบบ track ball ในตัว ขนาดประมาณฝ่ามือ รูปร่างออกแนวไม้ปิงปอง (ดูรูปใต้ข่าว) รองรับตั้งแต่วินโดวส์ 2000 ขึ้นไป สนนราคาอยู่ที่ 59.99 ดอลลาร์สหรัฐ (ราวสองพันบาท)

ที่มา: เลอโนโว ผ่าน Engadget

แม้ว่าไมโครซอฟท์จะทำฮาร์ดแวร์เองไม่เยอะนัก แต่ฮาร์ดแวร์ที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพคือคีย์บอร์ดและเมาส์ ล่าสุดไมโครซอฟท์ออก Bluetooth Mobile Keyboard 6000 ที่ออกแบบมาให้เบาและบางโดยเฉพาะ ผมหาข้อมูลเป็นตัวเลขไม่เจอว่าบางแค่ไหน แต่ไมโครซอฟท์บอกว่า "หนากว่าถ่าน AAA นิดเดียว"

คีย์บอร์ดรุ่นนี้ใช้รูปทรงโค้งที่ไมโครซอฟท์เรียกว่า Comfort Curve เช่นเดียวกับคีย์บอร์ดรุ่นอื่นๆ ที่บริษัทผลิตขึ้น นอกจากนี้ยังมี Numpad ขายแยกต่างหาก การเชื่อมต่อใช้ผ่าน Bluetooth โดยไมโครซอฟท์คาดการณ์ว่าในปี 2010 คอมพิวเตอร์ 55% จะมี Bluetooth กันแล้ว

เริ่มวางขายเดือนตุลาคมนี้ ตัวคีย์บอร์ดราคา 89.95 ดอลลาร์ ส่วน Numpad ราคา 44.95 ดอลลาร์ บางแค่ไหนดูภาพได้ด้านใน

จากข่าวเก่า ผลวิจัยพบว่าคีย์บอร์ดที่ใช้งานทั่วไปนั้นมี แบคทีเรียมากกว่่า ที่นั่งในห้องน้ำ เชื่อว่าหลายคนคงรู้สึกว่าเป็นความจริง แต่ว่าการจะเอาคีย์บอร์ดมาล้างทำความสะอาดก็ดูจะยุ่งยากเกินไปสักนิด

ตอนนี้มีคีย์บอร์ดแบบที่ถึงเวลาอยากจะล้าง ก็เอาเข้าเครื่องล้างจานได้ทันทีออกมาขายแล้วครับ