Craig Federighi รองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมซอฟต์แวร์ของแอปเปิล ได้เผยแพร่วิดีโอสาธิตการใช้งาน iPad Pro รุ่นใหม่ คู่กับ Magic Keyboard ใหม่ ผ่านเว็บไซต์ The Verge เพื่อให้เห็นภาพเวลาใช้งานมากขึ้น เนื่องจากครั้งนี้แอปเปิลไม่ได้จัดงานเปิดตัวในรูปแบบเดิมเพราะปัญหา COVID-19

ในวิดีโอนั้น Craig บอกว่าเคอร์เซอร์ที่แสดงบนหน้าจอ ออกแบบมาสำหรับ iPadOS โดยเฉพาะ บนแนวคิด Touch-First คือต้องแตะ Trackpad ก่อนจึงจะปรากฏเคอร์เซอร์ ไม่เหมือนกับเวลาใช้ Mac ที่แสดงเคอร์เซอร์ค้างตลอด

ไฮไลท์หนึ่งของ iPad Pro รุ่นใหม่ที่แอปเปิลเปิดตัวเมื่อคืนนี้ คืออุปกรณ์เสริม Magic Keyboard ใหม่ ที่มาพร้อมกับ Trackpad พร้อมขาตั้งที่ยกหน้าจอ iPad Pro ให้ลอยขึ้นมา และยังมีพอร์ต USB-C สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริม แต่ข่าวดีคือไม่จำเป็นต้องอัพเกรด iPad Pro เป็นรุ่นใหม่ เพื่อให้รองรับการใช้ Magic Keyboard ใหม่นี้

โดยแอปเปิลระบุว่า Magic Keyboard ใหม่นี้ จะรองรับการใช้งานร่วมกับ iPad Pro ทั้งรุ่นหน้าจอ 12.9 นิ้ว และ 11 นิ้ว ที่วางจำหน่ายในปี 2018 ด้วย (12.9" 3rd Gen และ 11" 1st Gen)

Taika Waititi นักแสดง, ผู้อำนวยการ และนักเขียนบทภาพยนตร์ชาวนิวซีแลนด์ ซึ่งได้รับรางวัลออสการ์ในปีนี้ สาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยมจาก Jojo Rabbit ให้สัมภาษณ์นักข่าวหลังรับรางวัล โดยเมื่อถูกถามว่าผู้เขียนบทควรเรียกร้องอะไรจากผู้ผลิตภาพยนตร์ คำตอบของเขาอาจจะเซอร์ไพรส์สักหน่อย

เพราะเขาบอกว่าแอปเปิลควรแก้ปัญหาคีย์บอร์ด เนื่องจากมันแทบจะใช้เขียนบทไม่ได้เลย คุณภาพมันแย่ลง ทำให้บรรดานักเขียนบทต้องหันกลับไปใช้พีซีแทน เนื่องจากคีย์บอร์ดพีซีมีการตอบสนองที่ดีกว่า

Happy Hacking Keyboard (HHKB) เป็นคีย์บอร์ดขนาดเล็ก (60 คีย์) ที่กลุ่มโปรแกรมเมอร์เฉพาะทางบางกลุ่มให้ความนิยม และตัวคีย์บอร์ดอัพเดตไม่บ่อยนัก ครั้งล่าสุดที่ออกรุ่นใหม่คือปี 2016 และปีนี้ที่งาน CES ทาง Fujitsu ก็อัพเดตรุ่นใหม่ ได้แก่ HHKB Pro 3 Classic, HHKB Pro 3 Hybrid, และ HHKB Pro 3 Hybrid Type-S

HHKB Pro 3 Classic เป็นการอัพเดตพอร์ตให้เป็น USB Type-C อย่างเดียว ส่วน HHKB Pro 3 Hybrid นั้นเปลี่ยนพอร์ตเป็น USB Type-C และรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth กับอุปกรณ์ 4 ตัว ที่เปลี่ยนเยอะที่สุดคือ HHKB Pro 3 Hybrid Type-S ที่ใช้สวิตช์รุ่นใหม่ให้เงียบลงกว่าเดิม

ราคาเริ่มต้น 217 ดอลลาร์ จนถึงรุ่น Type-S ราคา 320 ดอลลาร์ เริ่มวางขายออนไลน์แล้ว

อุปกรณ์เสริมที่น่าสนใจสำหรับแฟนๆ คีย์บอร์ด ThinkPad คือคีย์บอร์ดไร้สาย ThinkPad TrackPoint Keyboard II ที่ใช้ปุ่มแบบเดียวกัน มีปุ่มแดง TrackPoint มาให้ในตัว เชื่อมต่อไร้สายทั้งแบบ 2.4GHz และ Bluetooth 5

แบตเตอรี่ชาร์จได้ผ่านสาย USB-C ชาร์จครั้งละ 15 นาทีอยู่ได้นาน 1 สัปดาห์ หรือถ้าชาร์จแบบเต็มๆ อยู่ได้นาน 2 เดือน, รองรับทั้งการเชื่อมต่อ Windows/Android และเชื่อมอุปกรณ์ได้ 2 ตัว

ราคา 99.99 ดอลลาร์ เริ่มวางขายเดือนพฤษภาคม 2020

iFixit ได้ทดลองแกะ Magic Keyboard ของ MacBook Pro 16” รุ่นล่าสุด ที่เป็นแบบเดียวกับที่ใช้ใน iMac และพบว่าเป็นคีย์บอร์ดแบบเก่าที่แอปเปิลเคยใช้ มีระยะกดที่ลึกและแข็งแรงกว่าแบบ Butterfly

ในคลิปแกะคีย์บอร์ด MacBook Pro 16 นิ้ว ของ iFixit ช่วงนาทีที่ 13:36-14:06 นั้น ทางทีมงานก็ทดลองสลับปุ่มพิมพ์ (Keycap) ระหว่างคีย์บอร์ดของ iMac กับของ MacBook Pro 16 นิ้ว ให้ดู ปรากฏว่าสามารถใช้งานแทนกันได้แต่ปุ่มจาก iMac จะสูงกว่าเล็กน้อย

Phil Schiller หัวหน้าฝ่ายการตลาดของแอปเปิล ให้สัมภาษณ์กับ CNET หลังแอปเปิลเปิดตัว MacBook Pro รุ่นจอ 16 นิ้ว โดยตอบคำถามหลายประเด็น ทั้งเรื่องเปลี่ยนมาใช้ Magic Keyboard และการนำปุ่ม Esc กลับมา

ประเด็นคีย์บอร์ดซึ่งแอปเปิลเปลี่ยนมาใช้แบบ butterfly หลายปีก่อนตั้งแต่ MacBook แต่มีผู้พบปัญหาในการใช้งาน จนแอปเปิลต้องออกโครงการซ่อมคีย์บอร์ดให้ฟรีนั้น Schiller บอกว่าคีย์บอร์ด butterfly มีทั้งลูกค้าที่ชอบและไม่ชอบตั้งแต่เปิดตัว จึงมีการปรับปรุงแก้ไขโดยตลอด จนมาถึงคีย์บอร์ด butterfly รุ่น 3 การตอบรับของลูกค้าก็ดีมากขึ้น

Fleksy เป็นคีย์บอร์ดที่ได้รับความนิยมสูง มีดาวน์โหลด 5 ล้านครั้ง จากชื่อเสียงเรื่องพิมพ์ได้เร็ว ถูก Google Play ปรับเรทอายุผู้ใช้ จากเดิม PEGI 3 ที่เหมาะกับทุกคน เป็นสำหรับอายุ 12 ปีขึ้นไป

เรื่องเกิดจาก Fleksy ส่งอัพเดตแอพขึ้น Play Store กลับถูกบล็อคโดยไม่ทราบสาเหตุ ทาง Fleksy จึงเมล์ไปถามกูเกิลเกี่ยวกับประเด็นนี้ถึงทราบว่า "อีโมจินิ้วกลาง" เป็นต้นเหตุ อย่างไรก็ตาม Fleksy ชี้ว่าคีย์บอร์ด Gboard ของกูเกิลเองที่มีอีโมจิเดียวกัน ยังได้รับเรท PEGI 3 แบบเดิมอยู่

คีย์บอร์ดเป็นปัจจัยสำคัญตอนเล่นเกม Razer ที่ขึ้นชื่อเรื่องเกมมิ่งเกียร์ก็พัฒนาคีย์บอร์ดโน้ตบุ๊กที่ใช้ optical switch แบบใหม่ ทาง Razer อ้างว่าตอบสนองไวเพราะใช้แสงอินฟาเรดจับว่าปุ่มไหนถูกกด มีระยะตอบสนอง (actuation point) เพียง 1 มิลลิเมตร และให้สัมผัสตอนพิมพ์เหมือนใช้คีย์บอร์ดแมคคานิค

จุดเด่นของปุ่ม optical คือระยะปุ่มลึก 1.7 มิลลิเมตร (ลึกกว่าคีย์บอร์ดอื่นๆ 50%) แต่ตอบสนองตั้งแต่ 1 มิลลิเมตรแรกที่กดลงไป ใช้แรงกดเพียง 55g ทำให้ผู้เล่นสามารถรัวปุ่มในจังหวะสำคัญในเกมได้ดีกว่าเดิม

หลังจากปล่อยให้ปุ่ม Windows กับ menu ที่ฝั่งขวาของคีย์บอร์ดถูกลืมมานาน ตอนนี้ Microsoft ก็เปลี่ยนปุ่ม Windows กับ menu เป็นปุ่มใหม่สองปุ่มด้วยกัน คือปุ่ม Office กับ emoji โดยจะติดตั้งมาให้กับคีย์บอร์ดรุ่นใหม่ของทาง Microsoft ทั้ง 2 รุ่น แบ่งเป็นรุ่น Ergonomic และรุ่น Bluetooth

ทั้งสองปุ่มจะมีหน้าที่ต่างกัน คือปุ่ม Office จะเอาไว้เรียกโปรแกรมสำหรับทำงานของ Microsoft ที่ติดตั้งอยู่ในเครื่องโดยกดควบคู่กับปุ่มบนคีย์บอร์ดอีกปุ่ม เช่น ปุ่ม Office กับ W เรียก Microsoft Word ขึ้นมาหรือปุ่ม Office กับปุ่ม X เพื่อเรียก Microsoft Excel เป็นต้น

เชื่อว่าหลายคนคงชอบสัมผัสการพิมพ์บนแป้นคีย์บอร์ด แต่จากสิทธิบัตรล่าสุดของ Apple ที่ทางเว็บไซต์ Engadget นำมารายงาน จะเห็นว่าทาง Apple ได้จดสิทธิบัตรวิธีการสร้างสัมผัสการพิมพ์บนหน้าจอให้คล้ายกับแป้นคีย์บอร์ดจริง ๆ อยู่ และอาจจะนำมาใช้งานกับสินค้าที่จะเปิดตัวในอนาคต

หลักการทำงานคือผสานการทำงานระหว่าง Haptic motor เข้ากับการปล่อยประจุไฟฟ้าสถิต โดยแต่ละปุ่มจะปล่อยประจุของตัวเองด้วยตัวเองและสร้างแรงสั่นตอบสนองกับนิ้วของเรา หรือจะใช้วิธีพิมพ์แบบแตะตามปกติก็ได้เช่นกัน

ถ้าถามว่าความเร็วในการพิมพ์ข้อความผ่านคีย์บอร์ดบนคอมพิวเตอร์ เทียบกับการพิมพ์ผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟน วิธีไหนเร็วกว่ากัน เชื่อว่าคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ก็ยังเป็นคำตอบอยู่ แต่เมื่อเราอยู่ในยุคสมัยที่สมาร์ทโฟนกลายเป็นอุปกรณ์หลักของหลายคน จนอาจไม่เคยใช้คีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ด้วยซ้ำ คำตอบนี้อาจไม่เหมือนเดิมแล้วก็ได้

Logitech เปิดตัวคีย์บอร์ดแมคคานิครุ่น PRO X ที่สามารถถอดปุ่มคีย์บอร์ดได้ทั้งปุ่มแล้วเปลี่ยนเป็นสวิตช์สีอื่นได้ตามความถนัดของแต่ละคน (สวิตช์ขายแยกต่างหาก) โดยสวิตช์จะเป็นแบบ GX switchs ที่ Logitech พัฒนาเอง มีบราวน์สวิตช์ (ให้สัมผัสการกดสองจังหวะแบบสวิตช์น้ำเงินแต่เสียงเบากว่า), เรดสวิตช์ (คล้ายคีย์บอร์ดทั่วไปแต่การตอบสนองจะนุ่มนวลและเร็วกว่า) และบลูสวิตช์ (ให้สัมผัสการกดสองจังหวะและมีเสียงชัดเหมาะกับคนชอบพิมพ์ดีด) ให้เลือก

ดีไซน์จะเป็นแบบคีย์บอร์ดสั้นแบบ Tenkeyless ส่วนปุ่มสำหรับเปลี่ยนจะขายแยกเป็นแพ็คมี 92 สวิตช์ ส่วนรุ่นธรรมดาที่ถอดปุ่มไม่ได้จะใช้บลูสวิตช์อย่างเดียว

Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์ขาประจำที่มีประวัติให้ข้อมูลสินค้าใหม่แอปเปิลได้แม่นยำที่สุด ออกรายงานใหม่วันนี้ โดยให้ข้อมูลว่าแอปเปิลจะเปลี่ยนดีไซน์ของคีย์บอร์ดใน MacBook ใหม่ มาเป็นแบบ Scissor Switch ซึ่งทนทานมากกว่า และเป็นแบบเดิมที่แอปเปิลเคยใช้ เริ่มที่ MacBook Air รุ่นใหม่ของปีนี้ ส่วน MacBook Pro คาดว่าจะเริ่มเปลี่ยนในปีหน้า

ช่วงหลายปีที่ผ่านมาแอปเปิลเปลี่ยนคีย์บอร์ดมาเป็นแบบ Butterfly ซึ่งสร้างปัญหาและมีลูกค้าร้องเรียนจำนวนมาก แต่แอปเปิลก็พยายามแก้ไขปัญหาจนมีรุ่นปรับแก้ออกมาหลายรุ่น

ผู้ใช้ทวิตเตอร์บัญชี @h0x0d หรือชื่อในวงการว่า WalkingCat มักมีข่าวหลุดสายไมโครซอฟท์ออกมาเรื่อยๆ ล่าสุดเขาไปค้นพบลิงก์บนเว็บไซต์ office.com ของไมโครซอฟท์ เป็นฟอร์มให้พนักงานของไมโครซอฟท์กรอกเพื่อทดลองใช้ปุ่มคีย์บอร์ดรูป Office แทนปุ่ม Menu ในปัจจุบัน (ข้างปุ่ม Control ด้านขวา)

พนักงานของไมโครซอฟท์จะได้ปุ่ม Office ไปสับเปลี่ยนกับปุ่ม Menu ที่คนทั่วไปไม่ค่อยใช้งานกันนัก ความแตกต่างคือเราสามารถกดช็อตคัต Office + ตัวอักษรต่างๆ ได้ (เช่น Office + O หรือ Office + T) และแบบฟอร์มของไมโครซอฟท์ก็ถามความเห็นหลังใช้งานว่าเป็นอย่างไร อยากให้เพิ่มช็อตคัตอื่นอีกไหม และสอบถามความเป็นไปได้หากจะมีปุ่ม Office บนคีย์บอร์ดของโน้ตบุ๊กด้วย

iFixit ได้ทำการแกะ MacBook Pro รุ่นใหม่ปี 2019 ที่เพิ่งเปิดตัวไป แม้รายละเอียดสำคัญของ MacBook Pro รอบนี้ จะเป็นการอัพเกรดซีพียู แต่เนื่องจากแอปเปิลก็ระบุเองว่ามีการเปลี่ยนวัสดุที่ใช้ในคีย์บอร์ดแบบ butterfly ซึ่งคาดว่าเพื่อแก้ไขปัญหาคีย์บอร์ดที่มีรายงานมาเป็นระยะ

ผลของการแกะนั้น iFixit พบสองรายการสำคัญที่น่าสนใจ อย่างแรกคือแผ่นยางซิลิโคนกันฝุ่น มีการเปลี่ยนวัสดุซึ่งจากเดิมซิลิโคนดูกึ่งทึบแสง มาเป็นแบบโปร่งแสง เบื้องต้น iFixit คาดว่าจะเป็นไนลอน

แอปเปิลประกาศขยายโปรแกรมแก้ไขปัญหาคีย์บอร์ดแบบ butterfly จากเดิมที่ครอบคลุม MacBook รุ่นปี 2015-2017 โดยเพิ่ม MacBook รุ่นที่เริ่มวางจำหน่ายในปี 2018 จนถึงต้นปี 2019 ด้วย หลังจากที่มีรายงานว่ายังมีผู้พบปัญหานี้เช่นกัน

อาจจะสงสัยว่าแล้ว MacBook Pro รุ่นใหม่ที่เพิ่งออกมาวันนี้จะพบปัญหานี้หรือไม่? โดยแอปเปิลยืนยันว่าคีย์บอร์ด butterfly ใน MacBook Pro รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ มีการเปลี่ยนวัสดุของคีย์บอร์ดซึ่งได้แก้ไขปัญหานี้ไปแล้ว

MacBook รุ่นใหม่ที่อยู่กลุ่มรองรับการแก้ไขปัญหาคีย์บอร์ดฟรีเพิ่มเติมมีดังนี้

Acer เปิดตัว Chromebook สองรุ่นใหม่เน้นเจาะตลาดองค์กร ตัวที่น่าสนใจคือ Acer Chromebook 715 หน้าจอ 15.6" พร้อมคีย์บอร์ดที่มีปุ่ม Numpad ให้กรอกตัวเลขกันง่ายๆ เหมาะสำหรับงานที่ต้องกรอกตัวเลขเยอะๆ เช่น ค้าปลีก การเงิน หรือภาคบริการ

Chromebook อีกรุ่นที่เปิดตัวพร้อมกันคือ Chromebook 714 หน้าจอ 14" ที่ขอบจอบาง 6.18 มิลลิเมตร ทำให้เครื่องขนาดเล็กลง พกพาสะดวกขึ้น

กูเกิลญี่ปุ่น ยังคงเดินหน้าโฟกัสการพัฒนาอุปกรณ์สำหรับป้อนข้อมูล (input) ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง สำหรับปี 2019 นี้ กูเกิลญี่ปุ่นได้เปิดตัว Gboard Spoon Bending Version หรือช้อน Gboard เวอร์ชันงอได้ ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าของเครื่องมือป้อนคำสั่งอีกครั้ง

วิธีใช้งานก็แสนง่ายดาย เพียงแค่เรางอช้อนให้ได้องศาที่ต้องการแล้วปล่อย ก็จะเป็นการป้อนตัวอักษรที่ต้องการเข้าไป ใช้ได้ทั้งบนพีซีและสมาร์ทโฟน

ช้อนดังกล่าวผ่านการทดสอบความทนทานว่าสามารถใช้งานได้นานพอ นอกจากนี้กูเกิลกำลังทดสอบการป้อนข้อมูลด้วยวิธีงอนี้กับอุปกรณ์อื่นต่อไปด้วย

ที่มา: Google Japan

แอปเปิลได้ปรับปรุงคีย์บอร์ดใน MacBook Pro และ MacBook Air รุ่นปี 2018 เพื่อแก้ปัญหาคีย์บอร์ดไม่ตอบสนองที่มีผู้ใช้ร้องเรียนจำนวนมาก จนแอปเปิลต้องออกโครงการซ่อมฟรี แต่ล่าสุดมีรายงานว่าผู้ใช้ MacBook Pro รุ่นใหม่ ก็ยังคงเจอปัญหานี้อยู่ดีและแอปเปิลก็ยอมรับ

Razer เปิดตัวคีย์บอร์ดไร้สายและเมาส์ไร้สายอย่างเป็นทางการของ Xbox One ตามที่ไมโครซอฟท์เคยประกาศไว้เมื่อเดือนกันยายน

ชื่อสินค้าอย่างเป็นทางการคือ Razer Turret for Xbox One โดยชูว่าเป็นคีย์บอร์ดและเมาส์ที่ออกแบบมาเพื่อ Xbox One เป็นตัวแรก

จุดเด่นของ Razer Turret คือออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมบนโซฟา ซึ่งเป็นท่านั่งปกติเวลาเล่นเกมคอนโซล และไม่มีโต๊ะรองเมาส์เหมือนการเล่นเกมบนพีซี ทำให้คีย์บอร์ดของ Turret มีฐานรองเมาส์ที่สามารถเลื่อนออกมาไว้ ทำให้เราวางทั้งเมาส์และคีย์บอร์ดบนตักได้อย่างสะดวก (ฟีเจอร์นี้มีในอุปกรณ์ซีรีส์ Turret ของ Razer อยู่แล้ว)

แอพคีย์บอร์ด SwiftKey ของไมโครซอฟท์ออกอัพเดตใหม่สำหรับเวอร์ชันแอนดรอยด์ โดยได้เพิ่มฟีเจอร์ค้นหาพร้อมแชร์ข้อมูลจากหน้าเว็บให้สามารถเรียกได้จาก toolbar บนตัวคีย์บอร์ดโดยตรง ช่วยอำนวยความสะดวกให้ไม่ต้องคอยสลับแอพไปก๊อปปี้ข้อมูลจากเว็บเบราว์เซอร์อีกที

สำหรับวิธีการใช้งานก็เพียงแค่กดปุ่ม + บนแถบเดาคำตามด้วยปุ่ม search เพื่อเริ่มการค้นหาด้วย Bing หรือพิมพ์ URL เพื่อเข้าเว็บไซต์อื่นๆ และเมื่อได้ผลลัพธ์ที่พอใจแล้ว ผู้ใช้จะสามารถเลือกสร้างลิงก์ที่จะพาไปยังผลการค้นหาหรือจะเลือกจับภาพสกรีนช็อตเพื่อ crop เอาเฉพาะข้อมูลที่ต้องการส่งต่อก่อนนำไปแชร์ให้ผู้อื่นก็ทำได้

จากที่ไมโครซอฟท์เคยประกาศไว้ว่า Xbox One จะรองรับเมาส์และคีย์บอร์ดอย่างเป็นทางการ วันนี้มีความคืบหน้าแล้วว่าอัพเดตตัวนี้จะปล่อยให้ผู้เล่นทั่วโลกในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2018

รายชื่อเกมที่รองรับเมาส์และคีย์บอร์ดชุดแรก ได้แก่ เกมดังอย่าง Fortnite และ Warframe, Bomber Crew, Deep Rock Galactic, Strange Brigade, Vermintide 2, War Thunder, X-Morph Defense

ส่วนเกมที่ประกาศจะรองรับในอนาคต (ยังไม่ระบุช่วงเวลา) คือ Children of Morta, DayZ, Minion Master, Moonlighter, Vigor, Warface, Wargroove

คีย์บอร์ด SwiftKey ที่ปัจจุบันเป็นของไมโครซอฟท์ ออกอัพเดตบนเวอร์ชันแอนดรอยด์ เพิ่มฟีเจอร์แปลภาษาแบบเรียลไทม์โดยใช้เอนจินจาก Microsoft Translator

ฟีเจอร์แปลภาษานี้ทำให้เราสามารถแชทคุยกับคนต่างชาติได้ง่ายขึ้นมาก เพราะข้อความแชทที่ส่งมาในภาษาอื่น จะถูกแปลให้เห็นในหน้าจอคีย์บอร์ดของ SwiftKey และเมื่อเราพิมพ์ตอบกลับในภาษาของเราเอง ก็จะแปลเป็นภาษาของคู่สนทนาให้เราเห็นก่อนส่งเช่นกัน

SwiftKey ระบุว่ารองรับ 60 ภาษาแต่ไม่บอกว่ามีภาษาใดบ้าง ส่วนหน้าเว็บของ Microsoft Translator บอกว่ารองรับภาษาไทย

ไมโครซอฟท์ประกาศรองรับเมาส์และคีย์บอร์ดอย่างเป็นทางการบน Xbox One โดยจะเริ่มทดสอบกับกลุ่ม Insider ก่อน

ส่วนเกมไหนจะรองรับเมาส์และคีย์บอร์ดหรือไม่ ขึ้นกับนโยบายของนักพัฒนาแต่ละรายว่าตัดสินใจอย่างไร แต่สำหรับเกมทั่วๆ ไปจะปิดการรองรับเป็นดีฟอลต์ เกมแรกที่จะรองรับคือ Warframe เกมแอคชันแนว co-op แบบ free-to-play

นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังประกาศความร่วมมือกับ Razer เตรียมวางขายเมาส์และคีย์บอร์ดอย่างเป็นทางการของ Xbox โดยจะเปิดตัวในเร็วๆ นี้ ตอนนี้ยังมีเพียงภาพตัวอย่างให้ดูกันเล็กน้อย