ผู้ใช้แอพ Google Play Music สามารถเลือกคุณภาพเสียงขณะสตรีมเพลงผ่าน Wi-Fi ได้แล้ว
ก่อนหน้านี้หากผู้ใช้สตรีมเพลงด้วยแอพ Google Play Music ผ่านเน็ตมือถือ จะสามารถเลือกคุณภาพเสียงได้ว่าจะให้ประหยัดดาต้าขนาดไหน แต่ถ้าสตรีมผ่าน Wi-Fi จะบังคับเลือกคุณภาพเสียงที่ดีที่สุดให้ทันที อัพเดตแอพล่าสุดได้เพิ่มตัวเลือกคุณภาพเสียงเมื่อสตรีมผ่าน Wi-Fi แล้ว สามารถเลือกเป็นแบบ Low, Normal และ High และเลือกให้เป็น High เสมอได้เหมือนเดิม
นอกจากนั้นในเมนูดาวน์โหลดเพลงลงเครื่อง ผู้ใช้สามารถเลือกคุณภาพของไฟล์เสียงที่ดาวน์โหลดมาได้เช่นกัน แต่ตัวเลือกจะไม่บอกว่าคุณภาพดังกล่าวมีขนาดไฟล์เท่าไหร่และคุณภาพการบีบอัดเป็นอย่างไร
อัพเดตแอพ Google Play Music เพื่อใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวได้แล้วทั้งบน iOS และ Android
ที่มา : 9To5Google
Pandora ผู้ให้บริการวิทยุอินเทอร์เน็ต ได้ประกาศเปิดตัวบริการสตรีมมิ่งเพลง Pandora Premium เมื่อปลายปีที่ผ่านมา เและตอนนี้บริการดังกล่าวก็ได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว
ดีไซน์และฟีเจอร์ส่วนใหญ่ของ Pandora Premium จะออกไปในแนวทางเดียวกับ Rdio ที่ Pandora ได้ซื้อกิจการมา นำมาผนวกเข้ากับระบบวิทยุอินเทอร์เน็ตของ Pandora
บริการ Pandora Premium ยังคงมีให้บริการเฉพาะแอพบน iOS และ Android ซึ่ง Chris Becherer รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์กล่าวว่าผู้ใช้จำนวน 85% นั้นใช้งานบนแพลตฟอร์มเหล่านี้ จึงยังไม่มีเวอร์ชันเว็บหรือเดสก์ท็อปในช่วงเปิดตัว
Spotify เปิดเผยยอดผู้ใช้บริการแบบเสียเงินว่า ล่าสุดตอนนี้มีถึง 50 ล้านคนแล้ว และยังคงเติบโตขึ้นอยู่เรื่อย ๆ
ยอดผู้ใช้ของ Spotify แบบเสียเงินนั้น ในปี 2014 มีอยู่ที่ 10 ล้านคน, กลางปี 2015 อยู่ที่ 20 ล้านคน, มีนาคม 2016 อยู่ที่ 30 ล้านคน และกันยายน 2016 อยู่ที่ 40 ล้านคน ซึ่งก็ถือว่าการเติบโตของ Spotify ในแง่ของยอดผู้ใช้งานแบบเสียเงินยังคงสูงขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนผู้ใช้งานแบบฟรีมีโฆษณานั้นมียอดถึง 100 ล้านคนแล้วตั้งแต่มิถุนายน 2016
บริการมิวสิคสตรีมมิ่งทุกวันนี้ Spotify เป็นหนึ่งผู้เล่นในวงการที่อาจไม่ได้ชูเรื่องคุณภาพเสียงเป็นเรื่องใหญ่ ล่าสุดมีผู้ใช้บางรายพบว่ามีตัวเลือกให้สมัครใช้ Spotify Hi-Fi ซึ่งเป็นบริการสตรีมเพลงระดับ lossless CD-quality เทียบเท่าบริการที่ Tidal มี
ด้านราคา บางผู้ใช้พบว่าต้องจ่ายเพิ่มจากแพคเกจปกติ 5 และ 10 เหรียญสหรัฐฯ ต่อเดือนครับ และคนของ Spotify ยังไม่ระบุข้อมูลอะไรเพิ่มเติมนอกจากบอกว่ากำลังทดสอบฟังก์ชั่นนี้อยู่จริง
สถานีวิทยุออนไลน์ Beats 1 ซึ่งสามารถรับฟังได้ผ่าน Apple Music โดยเป็นการจัดรายการสดจาก 3 เมืองนั้น เปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2015 และสามารถรับฟังได้ในเกือบทั่วโลก แต่ที่น่าสนใจคือสิงคโปร์ เป็นประเทศที่ไม่สามารถฟังรายการสด Beats 1 ได้ (มีเฉพาะรายการย้อนหลัง)
แต่ล่าสุดแอปเปิลได้อัพเดตข้อมูลในเว็บไซต์ ซึ่งระบุว่า Beats 1 มีให้บริการในประเทศสิงคโปร์เรียบร้อยแล้ว ถือเป็นประเด็นน่าสนใจเพราะปัจจุบันสิงคโปร์ จัดอยู่ในประเทศกลุ่มที่ 1 เวลาแอปเปิลเริ่มจำหน่ายสินค้าใหม่อย่างเช่น iPhone
ข้อมูลจาก Reddit บอกว่าเหตุผลที่ Beats 1 ไม่มีบริการในสิงคโปร์นานเกือบ 2 ปี น่าจะมาจากกฎหมายที่เข้มงวดด้านสื่อของสิงคโปร์ และแอปเปิลน่าจะยังไม่มีใบอนุญาตออกอากาศนั่นเอง
ที่มา: Mashable
บริการสตรีมเพลง Tidal ขายหุ้นหนึ่งในสามให้กับ Sprint ผู้ให้บริการโทรคมนาคมอันดับ 4 ของสหรัฐฯ ในราคา 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ดีลนี้จะทำให้ลูกค้าของ Sprint 45 ล้านรายเข้าถึงบริการของ Tidal รวมไปถึง exclusive content ที่ยังไม่ประกาศที่เตรียมจะให้แก่ลูกค้า Sprint โดยเฉพาะ
การเข้าซื้อหุ้นนี้ถือเป็นการต่อสายป่านเงินทุนให้กับ Tidal ที่ต้องแข่งกับรายใหญ่อย่าง Amazon, Apple และ Spotify โดย Tidal พยายามสร้างความแตกต่างให้บริการของตัวเองผ่าน exclusive content ซึ่งในปีที่ผ่านมา Kanye West และ Rihanna ได้ปล่อยอัลบั้มใหม่ให้สตรีมบน Tidal ก่อนบริการอื่น
Joox แอพพลิเคชั่นสตรีมมิ่งเพลงแถลงแนวทางการตลาดในปี 2017 ว่า จะลุยโลกออฟไลน์มากขึ้น หลังจากประสบคามสำเร็จเป็นแอพเพลงที่คนไทยนิยมฟังมากเป็นอันดับต้นๆ ของไทย แนวทางการทำตลาดโลกออฟไลน์เน้นจัดอีเวนท์ คอนเสิร์ต และเดือนมีนาคมนี้จะจัดงาน Joox Music Award เป็นครั้งแรก
Nielsen บริษัทวิจัยเรตติ้งออกรายงานวิจัยปี 2016 ออกมา พบว่า สตรีมมิ่งเพลงกลายเป็นช่องทางหลักของคนอเมริกันในการฟังเพลงและอุดหนุนเพลงไปแล้ว ข้อมูลทั้งปี 2016 ระบุว่ามียอดซื้อขายกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า76% และมีสัดส่วนคิดเป็น 38% ของอุตสาหกรรมเพลงทั้งหมด
Nielsen เพิ่มเติมว่าส่วนหนึ่งที่สตรีมมิ่งประสบความสำเร็จคือ เป็นแพลตฟอร์มสำหรับแฟนเพลงฮิปฮอปและ R&B เป็นแนวเพลงที่มีการดาวน์โหลดสูง คิดเป็น 22% ของเพลงทั้งหมดบนสตรีมมิ่ง รองลงมาเป็นเพลงร็อค
Spotify ประกาศปล่อยแอพลงแพลตฟอร์ม Tizen ของซัมซุงรองรับการใช้งานบน Samsung Gear S2 และ S3 แล้ว สำหรับการฟังเพลงผ่านสมาร์ทวอทช์โดยไม่ต้องพึ่งสมาร์ทโฟน
อย่างไรก็ตาม Spotify บน Gear S2, S3 ไม่รองรับฟีเจอร์ดาวน์โหลดเพลง ถึงแม้จะเป็นสมาชิกพรีเมียมก็ตาม ผู้ใช้จะต้องฟังผ่าน Wi-Fi หรือ LTE เท่านั้น โดยผู้ใช้พรีเมียมยังสามารถเลือกเพลงได้เหมือนเดิม ขณะที่ผู้ใช้ฟรีสามารถสุ่มเพลงได้อย่างเดียว พร้อมรองรับการค้นหาเพลงผ่านคำสั่งเสียงด้วย
ที่มา - GSMArena
ก่อนหน้านี้เคยมีรายงานว่า Spotify กำลังสนใจซื้อ SoundCloud ด้วยมูลค่าประมาณ 700 ล้านดอลลาร์
ล่าสุดก็มีรายงานจาก TechCrunch เผยว่าดีลนี้กำลังจะถูกล้ม ในขณะที่ Spotify กำลังจะเตรียมตัวเข้า IPO ในช่วงใดช่วงหนึ่งของปีหน้า ซึ่งทำให้ Spotify ไม่ต้องการให้มีปัญหาเรื่องเงินหรือเรื่องอื่นที่จะสร้างความปวดหัวให้กับบริษัทในช่วงนั้น
ทั้งนี้ TechCrunch ได้สอบถามเข้าไปยัง Spotify และ SoundCloud แต่ทั้งสองบริษัทก็ยังไม่ได้ให้ความเห็นใด ๆ กลับมา
ที่มา - TechCrunch
Pandora บริการวิทยุสตรีมมิ่งทางอินเทอร์เน็ตได้ขยับขยายมาเปิดบริการใหม่คือ Pandora Premium ซึ่งเป็นบริการสตรีมมิ่งเพลงแบบเต็มตัวเหมือนกับ Spotify และ Apple Music ซึ่งเป็นเวลาเพียง 1 ปีหลังจากที่ได้เข้าซื้อบริการสตรีมมิ่ง Rdio
เมื่อวานนี้ YouTube เปิดเผยอย่างภาคภูมิใจว่าบริษัทสนับสนุนศิลปิน จ่ายส่วนแบ่งค่าโฆษณาให้ค่ายเพลงถึงพันล้านดอลลาร์ วันนี้ สมาพันธ์ผู้ผลิตสิ่งบันทึกเสียงระหว่างประเทศ หรือ IFPI ออกมาบออกว่า YouTube นี่แหละ ทำประโยชน์และรายได้ให้ศิลปินน้อยที่สุด
IFPI กล่าวเพิ่มเติมว่า YouTube มีผู้ใช้กว่า 800 ล้าน สร้างรายได้เฉลี่ยให้ผู้ใช้ต่อคนคิดเป็น 1 ดอลลาร์ ในขณะที่ Spotify ในปี 2015 จ่ายให้ค่ายเพลงถึง 2 พันล้าน เทียบจ่ายต่อคน 18 ดอลลาร์
ในขณะที่ Apple, Deezer, Spotify จ่ายเงินให้ค่ายเพลงเยอะมหาศาล YouTube ทำแค่นั่งเฉยๆ รอให้คนมาอัพโหลดคอนเทนต์ หรือบางครั้งก็เป็นคอนเทนต์ละเมิดลิขสิทธิ์ด้วยซ้ำ YouTube ไม่ต้องจ่ายอะไร และสามารถหารายได้จากการลงโฆษณาควบคู่ไปด้วย
YouTube เผยภาพรวมอุตสาหกรรมเพลง การสตรีมมิ่งเพลงมีแนวโน้มดีขึ้นจากกลยุทธ์ให้คนฟังซื้อเพลงและติดตามศิลปินผ่านช่องทางต่างๆ นอกจากนี้ โฆษณายังมีส่วนช่วยชีวิตอุตสาหกรรมเพลงได้ด้วย
ในบรรดาสื่อทั้งหมด เพลงถือเป็นสื่อแขนงที่มียอดการติดตาม (subscription) มากที่สุด และ YouTube เผยว่าช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา YouTube จ่ายส่วนแบ่งค่าโฆษณาให้ค่ายเพลงรวมกันมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์
Google อัพเดต Google Play Music เวอร์ชันใหม่ที่มาพร้อมอินเทอร์เฟสแนะนำเพลย์ลิสต์เพลงโดย Machine Learning ที่อิงจากสิ่งที่ผู้ใช้สนใจ สถานที่ กิจกรรมที่กำลังทำ รวมถึงประวัติเพลงเก่าๆ ที่ผู้ใช้เคยฟังมาด้วย
นอกจากนี้ตัวแอพ Play Music เวอร์ชันใหม่ยังมาพร้อมฟีเจอร์ดาวน์โหลดเพลงให้ผู้ใช้อัตโนมัติ ไว้ฟังเวลาไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตด้วย
ที่มา - The Keyword
เว็บไซต์ Digital Music News รายงานอ้างอิงแหล่งข่าววงนอก ที่ไม่ได้อยู่ในแอปเปิลแต่ทำงานร่วมกับ Apple Music ว่า แอปเปิลกำลังพิจารณาลดราคาค่าสมาชิกรายเดือนของ Apple Music ลงจาก $9.99 เหลือ $7.99 และโปรโมชันครอบครัวจาก $14.99 เหลือ $12.99
แหล่งข่าวระบุว่าราคานี้จะเป็นราคาโปรโมชันช่วงคริสต์มาส (Holiday Promotional Discount) อย่างไรก็ตามไม่ทราบเหมือนกันว่า แอปเปิลจะลดราคาลงในระยะยาว หรือลดเป็นโปรโมชันเท่านั้น ขณะที่ราคาค่าสมาชิกรายเดือนสำหรับนักเรียนที่ $4.99 จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ก่อนหน้านี้ก็เคยมีข่าวลือว่า Amazon เตรียมจะเปิดตัวบริการสตรีมมิ่งเพลง ซึ่งตอนนี้ทาง Amazon ก็ได้เปิดตัวบริการนี้อย่างเป็นทางการในชื่อ Amazon Music Unlimited
บริการ Amazon Music Unlimited นี้เป็นบริการสตรีมมิ่งเพลงเต็มรูปแบบจาก Amazon โดยเพลงในคลังของ Amazon นั้นทางบริษัทบอกว่ามีนับสิบล้านเพลง โดยรวมเพลงจากค่ายเพลงใหญ่ ๆ สามแห่งคือ Sony, Universal และ Warner ไว้ในคลังเรียบร้อยแล้ว
ในการเปิดตัวบริการ Amazon ยังได้ปรับปรุงแอพ Music สำหรับ iOS, Android, Fire และเดสก์ท็อปใหม่ทั้งหมด ซึ่งสามารถใช้งานได้กับผู้ใช้ทั้ง Prime Music และ Music Unlimited โดยมีการปรับปรุงให้ง่ายต่อการใช้งานมากขึ้น
ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวลือเรื่องบริการสตรีมมิ่งเพลงจาก Amazon มาได้สักพักใหญ่ ๆ และตอนนี้ก็เริ่มมีรายละเอียดของบริการออกมาบ้างแล้ว
บริการใหม่ของ Amazon นี้จะใช้ชื่อว่า Amazon Music Unlimited โดยจะมีค่าบริการเท่ากับ Apple Music และ Spotify คือ 10 ดอลลาร์ต่อเดือน (แยกจาก Amazon Prime) และมีบริการสำหรับ Amazon Echo คิดราคาที่ 5 ดอลลาร์ต่อเดือน สามารถเข้าถึงคลังเพลงได้เหมือนกับบริการที่จ่ายราคาเต็ม แต่จำกัดให้เล่นได้เฉพาะ Amazon Echo เท่านั้น
อุตสาหกรรมดนตรีแบบสตรีมมิ่งในไทยต้องสูญเสียผู้เล่นไปอีกหนึ่งราย เมื่อ KKBOX ประกาศหยุดให้บริการแล้ว โดยผู้ใช้บริการจากแต่ละเครือข่ายสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์นี้ได้ทันที ข้อจำกัดคือไม่สามารถโอนถ่ายรายชื่อเพลงไปยังแอพอื่นได้
KKBOX เป็นแอพฟังเพลงแบบสตรีมมิ่งสัญชาติไต้หวัน ก่อตั้งเมื่อปี 2004 และเข้ามาทำตลาดในไทยเมื่อปี 2013 พร้อมสิงคโปร์และมาเลเซีย ตามหลังฮ่องกง มาเก๊า และญี่ปุ่น
มีรายงานข่าวล่าสุดจาก Financial Times ว่า ตอนนี้ Spotify กำลังพูดคุยถึงการเข้าซื้อ SoundCloud โดยการซื้อครั้งนี้น่าจะมีมูลค่าอยู่ที่ราว 700 ล้านดอลลาร์
ปัจจุบัน SoundCloud นั้นมีเพลงกว่า 125 ล้านเพลง ซึ่งถ้ามองในมุมของ Spotify ถือว่าเป็นคลังเพลงที่ใหญ่มาก และนอกจากจะเป็นการซื้อคลังเพลงแล้วยังเป็นการลดคู่แข่งในบริการสตรีมมิ่งลงได้อีกด้วย รวมถึงความสามารถด้าน social ของ SoundCloud ก็น่าจะช่วยเสริม Spotify ได้
ฟังเพลงกันแบบไร้รอยต่อได้เลย เมื่อล่าสุด Spotify เปิดตัวเพลย์ลิสต์ใหม่ในชื่อ Daily Mix ที่จะร้อยเรียงเพลงที่ผู้ใช้แต่ละรายฟังบ่อยๆ มาร้อยเรียงเป็นทำนองต่อเนื่องยาว (near-endless playback) และอัพเดตใหม่สม่ำเสมอ ตามข่าวระบุ ยิ่งฟังเพลงมากเท่าไร ระบบจะเรียนรู้และคัดสรรเพลงในเพลย์ลิสต์นี้ได้ฉลาดขึ้นเท่านั้น หากมีเพลงใดในเซ็ตที่ไม่ชอบ สามารถแบนออกได้ คุณสมบัตินี้พร้อมใช้แล้วทั่วโลกทั้งแบบฟรีและเสียเงิน ผู้ใช้ใหม่ระบบขอเวลาสองสัปดาห์ในการเรียนรู้เพลงที่ฟังครับ
มีตัวเลขจาก RIAA (Recording Industry Association of America - สมาคมอุตสาหกรรมสื่อบันทึกแห่งอเมริกา) ระบุว่าปีนี้ตัวเลขรายได้ของอุตสาหกรรมดนตรีดีที่สุดตั้งแต่กลางทศวรรษ 2000 เป็นต้นว่าครึ่งปีแรกของ 2016 มียอดรายได้จากการบอกรับสมาชิกฟังเพลงสตรีมมิ่งแล้วว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งปีที่แล้วยอดทั้งปีอยู่ที่ 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เท่านั้น ส่งผลจากยอดผู้บอกรับสมาชิกที่มากถึง 18.3 ล้านราย เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว
โชว์รสนิยมทางดนตรีกันได้สะดวกขึ้นแบบไม่ต้องเอ่ยปากถามตอน match กัน เมื่อแอพหาคู่อย่าง Tinder ประกาศความร่วมมือกับแอพสตรีมเพลง Spotify ให้แสดงชื่อเพลงที่ผู้ใช้อีกฝ่ายฟังบ่อยสุด และใช้ข้อมูลนี้ในแอพในการจับคู่ด้วย
โดยมีคุณสมบัติใหม่อย่าง Anthem ที่ให้คุณโชว์เพลงที่คุณชื่นชอบและฟังบ่อยในขณะนั้นขึ้นบนหน้าโปรไฟล์ พร้อมตัวอย่างให้ผู้ใช้อีกฝ่ายลองฟังด้วย เริ่มใช้ได้แล้ววันนี้ใน 59 ประเทศที่ Spotify เปิดให้ใช้บริการ
The New York Times รายงานว่า Amazon และ Pandora เตรียมจะเปิดตัวบริการสตรีมมิ่งเพลงใหม่ในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยตั้งราคาที่ 5 ดอลลาร์ต่อเดือนเพื่อเป็นการตัดราคากับคู่แข่งอย่าง Spotify และ Apple Music โดย Pandora จะเปิดบริการก่อน ส่วน Amazon จะเปิดตัวตามมาทีหลังโดยเป็นบริการทางเลือกสำหรับผู้ใช้ Echo
ก่อนหน้านี้ Wall Street Journal เคยรายงานถึงแผนของ Pandora แล้ว คือ Pandora เป็นบริการวิทยุอินเทอร์เน็ต แต่บริการสตรีมมิ่งเพลงใหม่นี้จะทำงานบนแพลตฟอร์มของ Pandora เลย คือจะมีสองเวอร์ชัน ได้แก่ เวอร์ชันฟรีมีโฆษณา และเวอร์ชันเสียเงินไม่มีโฆษณา
แหล่งข่าวของ Bloomberg ซึ่งใกล้ชิดกับ Spotify ได้รายงานว่า ทาง Spotify เริ่มการลงโทษกับศิลปินที่ออกเพลงแบบ exclusive ให้กับบริการสตรีมมิ่งบางแห่งในช่วงแรก ก่อนที่จะเอามาลงบริการอื่น ๆ ในช่วงหลัง โดยจะลดยอดการมองเห็น ทำให้ผู้ใช้หาเพลงบนแพลตฟอร์ม Spotify ได้ยากขึ้น และจะไม่มีการแสดงเพลงใน featured playlist ส่งผลให้จำนวนครั้งในการเล่นเพลงลดลง และจะทำให้เงินที่ศิลปินได้จากบริการลดลงด้วย
แหล่งข่าวของ Bloomberg กล่าวไว้ว่า Spotify ได้เริ่มกระทำการนี้มาประมาณ 1 ปีแล้ว แต่ผลลัพธ์เพิ่งจะเริ่มเห็นแบบชัดเจนเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งไม่ใช่เฉพาะเพลงที่ลงเป็นคอนเทนต์แบบ exclusive บน Apple Music เท่านั้น เพราะคอนเทนต์ exclusive ที่ลงบน Tidal ก็โดนด้วย
LINE แจ้งข่าวแก่ผู้ใช้แอพสตรีมมิ่งเพลง LINE MUSIC ว่าจะให้บริการจนถึงวันที่ 30 กันยายนและจะหยุดให้บริการในวันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป ส่วนวันที่ 31 สิงหาคม LINE MUSIC จะหยุดจำหน่ายตั๋วฟังเพลงทุกรูปแบบแก่ผู้ใช้ และหากผู้ใช้ที่สมัครบริการแพ็คเกจตั๋วแบบต่อเนื่อง ให้ยกเลิกแพ็คเกจดังกล่าวเพื่อป้องกันการตัดรอบบิลต่อไป ส่วนเนื้อหาประเภทมิวสิควิดีโอและการถ่ายทอดสดคอนเสิร์ตต่างๆ ยังสามารถรับชมผ่านได้ทางแอพ LINE TV ส่วน Official Account ของ LINE MUSIC จะนำเสนอข่าวสารเกี่ยวกับแวดวงดนตรีต่อไป
ที่มา : ข่าวประชาสัมพันธ์จาก LINE MUSIC ผ่าน 9tana