บริษัท Noelios Technologies ซึ่งเป็นบริษัทที่พัฒนาโอเพ่นซอร์สด้านเว็บเทคโนโลยี (REST, SaaS และเว็บเซอร์วิส) บนจาวา ได้อัพเดตโปรเจค Restlet เป็นรุ่น 2.0 Milestone 5 (M5) ซึ่งเป็น REST Framework ที่เพิ่ม Restlet Extension for ADO.NET Data Services โดยได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากไมโครซอฟท์
โดย Restlet Extension for ADO.NET Data Services ได้จัดเตรียม API เพื่อเข้าถึง data service จากระยะไกลที่ทำงานบน IIS หรือ Windows Azure บริการประมวลผลบนกลุ่มเมฆ สำหรับรูปสถาปัตยกรรมดูได้จากที่มา
ScottGu ได้เผยความสามารถใหม่ของ Visual Studio 2010 ด้านการสนับสนุน Multi-Monitor ซึ่งปกติแล้วใน Visual Studio รุ่นก่อนหน้านี้ จะมีการจัดวางหน้าต่างย่อย เช่น editor, designer, properties ฯลฯ ไว้ในหน้าต่างหลักอันเดียว (single top-level window) ซึ่งนักพัฒนาไม่สามารถดึงหน้าต่างย่อยออกมาข้างนอกได้
ปัญหาสำคัญมากอันหนึ่งของโครงการ Mono (.NET เวอร์ชันโอเพนซอร์ส) คือไมโครซอฟท์ถือครองสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีใน .NET Framework อยู่หลายชิ้น และไม่มีอะไรรับประกันว่าในอนาคตไมโครซอฟท์จะไม่ใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญาเหล่านี้ (เช่น ฟ้องบริษัทที่นำ Mono ไปใช้งานว่าละเมิดสิทธิบัตรของ .NET)
ไมโครซอฟท์เคยสัญญาว่าจะไม่ดำเนินการในเรื่องนี้ แต่นั่นก็เป็นแค่สัญญาลมปาก (ยกเว้นสัญญาที่เคยตกลงกับ Novell แต่นั่นก็คุ้มครองแค่ Novell) ล่าสุดไม่เป็นแค่ลมปากแล้ว
หลังจากเปิดตัวโปรแกรมรุ่นใหม่ไปเมื่อปีก่อน ไมโครซอฟท์ออก Visual Studio 2010 และ .NET Framework 4.0 รุ่นเบต้า 1 แล้ว
เมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว ไมโครซอฟท์ออก ASP.NET MVC 1.0 ตัวจริงที่งาน MIX'09 (อ่านข่าวเก่าเกี่ยวกับ ASP.NET MVC) มาวันนี้เปิดซอร์สโค้ดแล้ว โดยใช้สัญญาอนุญาตแบบ MS-PL ของไมโครซอฟท์เอง (แต่ OSI รับรองว่าเป็นสัญญาอนุญาตแบบโอเพนซอร์ส เช่นเดียวกับพวก GPL, MIT, BSD)
ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มได้ดังนี้
ค่าย Novell ยังคอยส่ง Mono ซึ่งเป็น .NET Framework เวอร์ชันโอเพนซอร์สออกมาเป็นระยะ
Mono 2.4 เป็นการปรับปรุงด้านประสิทธิภาพและเสถียรภาพขึ้นมาจาก Mono 2.2 โดยในบางจุด เช่น ส่วนของ XPath มีประสิทธิภาพดีขึ้น 15%, ปรับปรุงฟีเจอร์ของคอนโทรล DataGridView และตอนนี้ Mono 2.4 สามารถรัน ASP.NET ที่คอมไพล์มาจาก Visual Studio ได้แล้ว รายละเอียดดูใน Release Notes ของ Mono 2.4 ดาวน์โหลดได้บนวินโดวส์ แมค ลินุกซ์
MonoDevelop คือ IDE สำหรับ Mono ซึ่งมันพัฒนาต่อมาจาก SharpDevelop บนวินโดวส์ (แต่ MonoDevelop ใช้ได้บนลินุกซ์อย่างเดียว) ฟีเจอร์ใหม่ๆ ของ MonoDevelop 2.0 มีดังนี้
IronPython ซึ่งเป็นหัวหอกของภาษาไดนามิคบน .Net Framework ได้ออกเวอร์ชัน 2.0 มาแล้วครับ
สำหรับเวอร์ชัน 2.0 นี้ถือเป็นการเปลียนแปลงครั้งใหญ่ คือเปลี่ยนจากทำงานบน CLI ไปเป็นทำงานบน Dynamic Language Runtime (DLR) แทน ซึ่ง DLR นี้ถูกออกแบบมาสำหรับพัฒนาภาษาไดนามิคบน .Net โดยเฉพาะ
จุดเปลี่ยนแปลงอื่นๆ จาก 1.1.2 ก็เช่น ปรับปรุงให้เข้ากันได้กับ Python 2.5 (จากเดิม 2.4.4), แก้บั๊กกว่า 500 จุด, มีตัว Installer มาให้, รองรับการทำงานกับ Silverlight และปรับปรุงให้ทำงานได้เร็วขึ้นครับ
สำหรับเวอร์ชัน 2.0 นี้ต้องอาศัย .NET 2.0 SP1 ครับ
ถึงไมโครซอฟท์จะออก ASP.NET MVC มานานแล้วแต่ว่ากว่านักพัฒนาจะศึกษาและนำไปใช้งานก็คงกินเวลานาน ไมโครซอฟท์จึงได้ปล่อยซอร์สโค้ดของ CMS ที่ใช้กับเว็บไซต์ MIX Online ที่ชื่อ Oxite ให้นักพัฒนาได้นำไปเป็นตัวอย่างและศึกษาเพื่อกระตุ้นให้เกิดการนำเอาเทคโนโลยีไปใช้เร็วขึ้น
เป้าหมายของ Oxite มีสองประการคือ
เพื่อเป็นตัวอย่างในการใช้งาน ASP.NET MVC ในการสร้างฟังก์ชันต่างๆ ที่นำมาใช้ซ้ำได้เช่น ในบล็อกซึ่งประกอบด้วยฟังก์ชันส่วนสำคัญที่ยากในการพัฒนาเช่น trackbacks, RSS, และส่วนแสดงความคิดเห็น เป็นต้น
หลังจากที่ออกสู้ตลาดมา 8 ปี ไมโครซอฟท์ก็ได้ทำการออกแบบโลโกของ .NET ใหม่ด้วยโทนสีน้ำเงินตามสีของบริษัท โดยจุดประสงค์ของการออกแบบในครั้งนี้คือเพื่อทำช่วยให้แบรนด์ .NET นั้นแสดงออกถึงจุดเด่นของ .NET และทำให้แบรนด์ดูเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับผลิตภัณฑ์อื่นๆอย่าง Silverlight และ Surface มากขึ้น โดยตัวโลโกใหม่จะมีลักษณะเป็นคลื่นสีฟ้าเขียนเป็นรูปตัว N ซึ่งหมายถึง .NET สำหรับรูปสามารถดูได้จากที่มาของข่าว
อ่านข่าวนี้เลยทำให้นึกถึงบล็อกที่คุณเทพพิทักษ์เขียนเรื่องโลโกของ GNOME ขึ้นมาทันที
Packtpub Award สำหรับ CMS โอเพนซอร์ส ปี 2008 ได้แก่ (แท่น แท้น)
เป็นการป้องกันตำแหน่งได้สำเร็จของ Drupal โครงการโอเพนซอร์สนี้ถือกำเนิดในปี 2001 โดย Dries Buytaert Drupal ได้เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว มีคนดาวน์โหลด 1.5 ล้านครั้งใน 12 เดือน ตัวอย่างบางส่วนของผู้ใช้ในบริษัทยักษ์ใหญ่เช่น Warner Brothers Music, MTV UK, และ the New York Observer (หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่)
เขียนรวบสองข่าวเลยแล้วกัน
จริงๆแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน ไมโครซอฟท์ออกโปรแกรมที่ชื่อ Web Platform Installer ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเริ่มต้นการสร้างเว็บแอพพลิเคชันได้ด้วยการลงโปรแกรมเพียงครั้งเดียว โดยโปรแกรมจะลงโปรแกรมต่างๆที่จำเป็นเช่น IIS7, Visual Web Developer 2008 Express Edition, .NET Framework, SQL Server 2008 Express Edition ให้หรือจะเลือกลงเองเป็นส่วนๆก็ได้
หลังจากประกาศให้นักพัฒนาเตรียมตัวกันมาซักระยะหนึ่ง วันนี้ไมโครซอฟท์ก็เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปดาวน์โหลด Silverlight 2.0 และชุดสำหรับนักพัฒนาได้แล้วที่เว็บไซต์ Silverlight.net
สำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่เคยติดตั้ง Silverlight 2.0 Beta 2 ไว้แล้วนั้น ในช่วงระยะนี้ไปจนถึงสิ้นเดือนผู้ใช้จะพบข้อความเพื่อบอกให้ปรับรุ่นขึ้นไปเป็น Silverlight 2.0 หลังจากนั้นตัวรันไทม์จะเริ่มทำการปรับรุ่นให้เอง
สิ่งที่ออกมาพร้อมกับ Silverlight 2.0 ในครั้งนี้ยังมีเครื่องมือพัฒนาใหม่ที่ไม่ธรรมดา เพราะมันคือปลั๊กอินสำหรับ Eclipse นั่นเอง
เร่งเครื่องสู้เต็มกำลังเลยนะเนี่ย
ที่มา: ScottGu's Blog
ไมโครซอฟท์เปิดตัว Visual Studio 2010 โค้ดเนม Rosario แล้ว โดยฟีเจอร์ใหม่เน้นไปทาง application life-cycle management (ALM) ผลิตภัณฑ์หลักจะเน้นไปที่ชุด Visual Studio Team System ที่เน้นการทำงานเป็นทีม สนับสนุน UML ในตัว และมีฟีเจอร์ทำนองเดียวกับ "กล่องดำ" บนเครื่องบิน เพื่อให้โปรแกรมเมอร์สามารถรู้ข้อมูลที่จำเป็นในการเกิดบั๊ก จะได้แก้ได้ถูกจุดมากขึ้น ยังไม่มีการระบุวันที่แน่ชัดว่า Visual Studio 2010 จะออกเมื่อไร
เว็บไซต์ Messenger Stuff เปิดเผยข้อมูลจากคนในไมโครซอฟท์ว่า Windows Live Messenger ตัวหน้า จะมีเอฟเฟ็กต์แบบหรูหราที่ใช้พลังของ Windows Presentation Foundation (WPF) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ .NET Framework 3.0
รายละเอียดของเรื่องนี้ยังมีไม่มากนัก มีแค่ว่าถ้าผู้ใช้ WLM 9.0 มีระบบที่สนับสนุน (Vista และการ์ดจอดีๆ หน่อย) ก็จะแสดงเอฟเฟ็กต์จาก WPF ให้ แต่ถ้าเครื่องแรงไม่พอก็คงเป็นอินเทอร์เฟซแบบปกติ
WPF นั้นถูกรวมมาให้กับ Vista แล้ว และคนที่ใช้ XP สามารถดาวน์โหลด .NET 3.0 มาติดตั้งได้ แต่โปรแกรมที่นำ WPF มาใช้มีน้อยมาก ซึ่งรวมถึงโปรแกรมของไมโครซอฟท์เอง ถ้าโปรแกรมในสาย Windows Live ขยับตัวมาใช้ WPF กันมากขึ้น เราก็อาจจะเห็นโปรแกรมจากบริษัทอื่นๆ ขยับตัวตามก็เป็นได้
MonoDevelop คือ IDE ของแพลตฟอร์ม Mono ซึ่งมีฐานมาจาก SharpDevelop (IDE ของ .NET แบบโอเพนซอร์ส เป็นทางเลือกนอกเหนือจาก Visual Studio) ได้ออกรุ่น 1.0 แล้ว
MonoDevelop เน้นนักพัฒนาสาย .NET ที่ใช้ภาษา C# เป็นหลัก และพัฒนาซอฟต์แวร์ด้วย GTK หรือ ASP.NET (เพราะว่า Win.Forms กับ VB.NET ยังสนับสนุนไม่เต็มที่นัก) ฟีเจอร์ที่น่าสนใจมีดังนี้
Ruby เป็นภาษาที่ได้รับความสนใจไม่น้อย จนกระทั่งมีคนอยากให้ใช้งานกับ .NET ได้ด้วย ทางด๊อกเตอร์เคลลี่ ผู้พัฒนา Ruby.NET ได้ประกาศผ่านทางกูเกิ้ลกรุ๊ปแล้วว่าเขาจะเลิกพัฒนา Ruby.NET โดยเหตุผลว่า IronRuby นั่นประสพความสำเร็จและไปได้ไกลกว่า
เนื่องจาก Ruby.NET เองแรกเริ่มก็เป็นโครงงานที่แตกตัวออกมาจาก IronRuby ซึ่งถ้าจะทำ Ruby.NET ให้เข้าได้กับ DLR (Dynamic Language Runtime) ต้องทำการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง และด๊อกเตอร์เคลลี่มั่นใจว่ามันจะดีกว่า CLR (Common Language Runtime) ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
ทางผู้พัฒนา Ruby.NET ก็มีทีท่าจะไปช่วยพัฒนา IronRuby อยู่ด้วย
ไมโครซอฟท์ได้เปิดให้คนทั่วไปเข้าถึงชุดไลบรารีของ .NET Framework โดยจะสามารถเข้าไปอ่านซอร์สโค้ดของไลบรารีต่าง ๆ หรือว่าจะอ้างอึงถึงผ่านทาง Visual Studio 2008 ซึ่งเมื่อทำการดีบักโปรแกรมใด ๆ ที่มีการเข้าถึงชุดไลบรารีดังกล่าว Visual Studio ก็จะเรียกซอร์สโค้ดของไลบรารีนั้นมาให้ดูได้เลย เรียกว่าสามารถตรวจสอบได้ว่าบักนั้นเกิดจากโปรแกรมที่เราเขียน หรือว่าเป็นปัญหาในชุดไลบรารี
ชุดไลบรารีที่อนุญาตให้เข้าถึงได้ก็ประกอบไปด้วย.NET Base Class Library, ASP.NET, Win.Forms, WPF และ ADO.NET/XML
ข่าวจาก ASP.Net
ในช่วงหลังนี้มีการอพยพย้ายค่ายของนักพัฒนาเว็บแอพลิเคชันไปใช้ Ruby on Rails เป็นจำนวนมาก ทำให้ความนิยมในการใช้งานเฟรมเวิร์ก Model-View-Controller สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงมีนักพัฒนาจำนวนมากได้สร้างเฟรมเวิร์ก MVC สำหรับ ASP.NET มากมาย จนล่าสุด ไมโครซอฟท์เองก็ได้ทำการเร่งพัฒนาเฟรมเวิร์กขึ้นมาสำหรับ MVC ด้วยเช่นกันโดยใช้ชื่อวา ASP.NET MVC
ในระยะแรก ตัว ASP.NET MVC จะอยู่รวมกันกับส่วนต่อขยายอื่นๆในชื่อ ASP.NET 3.5 Extension ผู้ที่สนใจอยากใช้งานสามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ที่ เว็บไซท์ของ ASP.NET 3.5 Extension Preview
หลังจากออกเวอร์ชัน 1.0 ตัวจริงมาเมื่อเดือนกันยา (ข่าวเก่า) ค่าย Silverlight ก็ดูเนือยๆ ลงไป รวมถึงข่าวคราวการพัฒนาของเวอร์ชัน 1.1 ซึ่งเป็นทีเด็ดของจริงของ Silverlight ด้วย (1.0 สนับสนุนแค่ JavaScript ส่วน 1.1 เขียนภาษาในตระกูล .NET ได้)
ล่าสุดไมโครซอฟท์ออกมาประกาศแล้วว่าจะเปลี่ยนเลขเวอร์ชันจาก 1.1 เป็น 2.0 เพื่อสะท้อนฟีเจอร์สำคัญหลายอย่างที่เพิ่มเข้ามา (โดยเฉพาะด้าน UI ที่ใช้ WPF) เวอร์ชัน 2.0 รุ่นเบต้าน่าจะเปิดตัวในงาน MIX08 ที่ลาสเวกัสต้นเดือนมีนาคมปีหน้า
สำหรับคนที่ไม่รู้จัก Silverlight สามารถอ่านรายละเอียดได้ใน Special Report ของเรา
ไมโครซอฟท์เตรียมออก Visual Studio 2008 และ .NET Framework 3.5 ปลายเดือนพฤศจิกายนนี้
.NET 3.5 เป็นการปรับปรุงที่ตัวไส้ในเสียเยอะ (ต่างจาก .NET 3.0 ที่เป็นการเพิ่มองค์ประกอบอื่นๆ แต่ยังใช้แกนของ .NET 2.0 เหมือนเดิม) ในเวอร์ชันนี้จะใช้ CLR 2.0 SP1 ซึ่งสนับสนุน C# 3.0 และ VB.NET 9.0 นอกจากนี้ยังมี LINQ ที่เปิดตัวมาได้ซักระยะแล้ว
ส่วน Visual Studio 2008 หรือที่เราเรียกกันว่า Orcas นั้นนอกจากจะสนับสนุนฟีเจอร์ของ .NET 3.5 แล้ว ยังมี visual designer สำหรับ WPF มาด้วย ไมโครซอฟท์โฆษณาว่าจุดขายของ VS2008 คือการพัฒนาบน Vista, Office 2007, Silverlight และ .NET Compact Framework
เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทางไมโครซอฟท์ได้เปิดให้ดาวน์โหลด Microsoft Sync Framework Services 1.0 alpha แล้ว หลังจากที่มีการซุ่มทำ Microsoft Synchronization Services for ADO.Net และ Microsoft P2P mesh service for synchronization ในชื่อโค้ดเนมว่า Harmonica (ตอนหลังเปลี่ยนเป็น Ibiza) มาซักพัก ขนาดไฟล์ก็เล็กๆ ประมาณ 2 - 3 MB (
หลังจากอยู่ในศูนย์วิจัยของไมโครซอฟท์มานาน ในที่สุดภาษา F# ก็จะได้รับการผลักดันให้ทำงานร่วมกับ Visual Studio ได้แล้ว
ภาษา F# นั้นเป็นภาษาสคริปต์ที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยศูนย์วิจัยของไมโครซอฟท์สำหรับสร้างภาษาแบบ Functional Programming ด้วย .NET ตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว ซึ่งแต่ก่อนทำงานได้กับ .NET SDK เท่านั้น ทำงานร่วมกับ Visual Studio ได้ไม่ดีนัก (ผมเคยลองแล้วครับ ยากมากๆ เลย)
การผลักดันให้มาเป็นหนึ่งในภาษาหลักสำหรับ Visual Studio ทำให้นักพัฒนา .NET มีทางเลือกสำหรับภาษา Functional มากขึ้น
ที่มา - TheServerSide.NET
ไมโครซอฟท์ใจป้ำ เปิดซอร์สโค้ดของ .NET Framework 3.5 ให้นักพัฒนาเอาไปใช้ศึกษาและอ้างอิงภายใต้สัญญาอนุญาตแบบ Microsoft Reference License โดยจะเปิดเผยซอร์สโค้ดในหลายๆส่วนดังต่อไปนี้
และจะทยอยเปิดซอร์สในส่วนอื่นๆเช่น WCF และ LINQ ตามมาในภายหลัง โดยทั้งหมดจะต้องดาวน์โหลดมาติดตั้งในรูปแบบของ Stand-alone Installer แยกต่างหากจาก .NET Framework และ Visual Studio นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ยังแถม Debugger Symbol เพื่อใช้งานร่วมกับ Visual Studio 2008 ด้วย
โครงการโปรแกรมออกแบบ Windows.Form เพื่อเป็นปลั๊กอินสำหรับ MonoDevelop ได้เริ่มตัวทดสอบมาให้ใช้งานแล้ว โดยในขณะนี้ยังเป็นรุ่นแยกออกจากตัวโปรแกรม MonoDevelop อยู่ โครงการนี้พัฒนาโดย Ivan Zlatev โดยได้รับการสนับสนุนจากกูเกิลในโครงการ Summer of Code ของทางกูเกิล
โครงการนี้ทำไปได้ไม่เท่าที่เป้าหมายตั้งไว้ในตอนแรก โดยยังติดปัญหาทางเทคนิคอีกจำนวนมาก แต่ก็นับว่าน่าประทับใจมากสำหรับช่วงเวลาเพียงไม่กี่เดือนที่สร้างความคืบหน้าได้ในระดับนี้
หวังว่าหลังจบโครงการแล้วจะมีคนมาพัฒนาโครงการนี้ไปเรื่อยๆ จะได้มี GUI Designer ดีๆ ใช้กันเพิ่มขึ้นอีกตัว
เพิ่งจะปล่อย IronRuby ไปได้ไม่กี่วัน มาวันนี้คุณ Scott Guthrie ก็ออกมาบอกว่า Visual Studio 2008 เบต้า 2 ออกแล้ว สำหรับผู้ีที่อยากลองสามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่ ถ้าดูจากสถิติในรุ่นก่อนๆแล้ว คาดว่าตัวนี้น่าจะเป็นเบต้าตัวสุดท้ายก่อนจะออกตัวจริงในช่วงต้นปีหน้า
Visual Studio 2008 เบต้า 2 มาพร้อมกับ .NET Framework 3.5 เบต้า 2 ซึ่งมีความสามารถเด่นๆที่ถูกพัฒนาเพิ่มขึ้นจาก Visual Studio 2005 มากมายเช่น