ลินุกซ์เดสท็อปครองส่วนแบ่งทางการตลาดของระบบปฏิบัติการเดสท็อปในประเทศไทยเกิน 4% ได้เป็นครั้งแรก ตามข้อมูลสถิติจากเว็บ StatCounter ที่เป็นเว็บเก็บข้อมูลสถิติต่าง ๆ
จากหัวข้อ "Desktop Operating System Market Share Thailand" ได้แสดงส่วนแบ่งทางการตลาดของระบบปฏิบัติการเดสท็อปในประเทศไทย พบว่า ลินุกซ์เดสท็อปสามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดได้มากถึง 4.42% เมื่อเดือนธันวาคม 2023 ที่ผ่านมา ถือเป็นครั้งแรกที่ลินุกซ์เดสท็อปครองส่วนแบ่งในประเทศไทยเกิน 4% ตั้งแต่เว็บ StatCounter ได้บันทึกสถิตินี้มาเมื่อมกราคม 2009 จนถึงปัจจุบัน
ไมโครซอฟท์ออก Windows 11 Insider Preview Build 26020 (Canary Channel) มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญสำหรับผู้ใช้ทั่วไปดังนี้
ไมโครซอฟท์อัพเดต Windows 11 ให้กับกลุ่มทดสอบ Windows Insider เบต้า ซึ่งมีรายงานฟีเจอร์ใหม่ใน Windows Update ผู้ใช้สามารถเลือกลง Windows ใหม่ได้ผ่านคำสั่ง Fix Problems using Windows Update โดยไฟล์ข้อมูล โปรแกรม และการตั้งค่ายังคงอยู่ทั้งหมด
เดิมหากผู้ใช้พบปัญหา Windows และต้องการลง Windows ใหม่ ต้องใช้วิธี in-place upgrade ซึ่งจะมีขั้นตอนเพื่อสำรองข้อมูล โปรแกรม และการตั้งค่าเดิมไว้ แต่ต้องใช้เวลามาก วิธีการใหม่ที่ไมโครซอฟท์เพิ่มมาผ่าน Windows Update น่าจะช่วยแก้ปัญหาที่หลายคนเคยประสบให้ง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตามตอนนี้คำสั่งดังกล่าวยังปรากฏเพียงปุ่มคำสั่งเท่านั้น แต่ยังไม่สามารถใช้งานได้ตอนนี้ โดยคาดว่าฟีเจอร์นี้จะมีกับผู้ใช้งานทั่วไป เร็วที่สุดภายในอัพเดตช่วงไตรมาส 1 ปี 2024
จากที่ระบบปฏิบัติการ Android 14 QPR1 สามารถดู Battery Information ที่ระบุวันที่ผลิตแบตเตอรี่ และจำนวนรอบการชาร์จที่แบตเตอรี่ได้ แล้วปล่อยออกมาให้ผู้ใช้งานทั่วไปใช้ในอัปเดต Pixel Feature Drop รอบธันวาคมที่ผ่านมา
ล่าสุดใน Android 14 QPR2 Beta 2 ทาง Android Authority เว็บไซต์ข่าวเกี่ยวกับ Android พบว่ามีตัวเลือกใหม่ในเมนู Battery ของ System Setting ชื่อว่า Battery Health หรือการดูสุขภาพแบตเตอรี่แบบ iPhone
Xiaomi เผยรายชื่ออุปกรณ์ที่จะได้ใช้ HyperOS ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2024 หลังจากที่นำร่องเปิดให้ใช้งานบน Xiaomi 14 และ 14 Pro ที่เพิ่งเปิดตัวไป โดยจะเน้นไปที่โทรศัพท์ และแท็บเล็ตรุ่นปัจจุบันของ Xiaomi, Redmi และ POCO ก่อน ได้แก่ Xiaomi 13 Ultra, Xiaomi 13 Pro, Xiaomi 13, Xiaomi 13T Pro, Xiaomi 13T, Redmi Note 12, Redmi Note 12S, Xiaomi Pad 6 และ POCO F5
เว็บไซต์ Windows Central รายงานข่าววงในของ Windows รุ่นปีหน้า 2024 ที่ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่าจะเรียก Windows 12 หรือไม่ เพราะฝ่ายการตลาดของไมโครซอฟท์ยังไม่ตัดสินใจเรื่องนี้
การเปลี่ยนแปลงสำคัญของ Windows ปี 2024 เกิดจากปัจจัยผู้บริหาร Panos Panay ที่ดูแลทีม Windows ลาออก โดยแนวทางที่ Panos วางเตรียมเอาไว้คือ กลับมาออกตัวแกนหลักของระบบปฏิบัติการ (platform) ทุกสามปี แล้วออกอัพเดตฟีเจอร์ย่อยให้บ่อยๆ ปีละ 2-3 ครั้ง (ภาษาภายในไมโครซอฟท์เรียก Moment updates) ดังที่เราเห็นใน Windows 11 ช่วงหลัง
ไมโครซอฟท์ให้รายละเอียดเพิ่มเติมของ Windows 10 ที่จะหมดระยะซัพพอร์ตในวันที่ 14 ตุลาคม 2025 หรืออีกเกือบสองปีข้างหน้า ซึ่งจะไม่มีการออกอัพเดตแก้ไขบั๊ก แพตช์ช่องโหว่ความปลอดภัย และอื่น ๆ จึงแนะนำให้องค์กรและผู้ใช้งานวางแผนอัพเดตเป็น Windows 11
Windows 10 ออกอัพเดตส่วนฟีเจอร์การใช้งานรุ่นสุดท้าย Windows 10 22H2 เมื่อเดือนเมษายน และจากนี้จะมีเฉพาะแพตช์ความปลอดภัยจนถึงปี 2025 ตามกำหนด
ถึงแม้ Windows 11 ใช้แกนภายในตัวเดียวกับ Windows 10 แต่ก็มี shell บางส่วนที่แตกต่างกัน จุดสำคัญคือ Start Menu และ Taskbar แบบใหม่ที่เป็นคนละโปรแกรมกันเลย
ที่ผ่านมา ผู้ใช้ Windows 11 มีวิธีเรียก Taskbar ตัวเดิมของ Windows 10 กลับมาใช้งานได้ เพราะไมโครซอฟท์แค่ซ่อนไว้เฉยๆ เท่านั้น แต่ล่าสุดมีคนค้นพบว่าใน Windows 11 Insider Preview Build 26002 (Canary Channel) ไมโครซอฟท์ปิดไม่ให้ใช้งาน Taskbar ตัวเดิมแล้ว โดยมีการตั้งค่าแบบใหม่ชื่อ DisableWin10Taskbar เพิ่มเข้ามาในระบบ
ไมโครซอฟท์เป็นเจ้าของระบบปฏิบัติการฝังตัว ThreadX จากการซื้อบริษัท Express Logic ในปี 2019 แล้วนำมาให้บริการกับลูกค้าองค์กรภายใต้ชื่อ Azure RTOS (real-time operating system)
ล่าสุดไมโครซอฟท์ประกาศเปิด ThreadX เป็นโอเพนซอร์ส และยกให้มูลนิธิ Eclipse Foundation ดูแลต่อ ภายใต้ชื่อใหม่ว่า Eclipse ThreadX
เมื่อวานนี้ทาง FreeBSD ได้ปล่อย FreeBSD 14.0 รุ่นเสถียรอย่างเป็นทางการตัวแรกของรุ่น 14 โดยรุ่นนี้มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญดังนี้
ใครที่ใช้งาน FreeBSD อยู่สามารถปรับรุ่นได้แล้ววันนี้
ที่มา: FreeBSD 14.0-RELEASE Announcement - FreeBSD และ Phoronix
ไมโครซอฟท์ประกาศปรับ Windows 11 ตามกฎหมายการแข่งขัน Digital Markets Act (DMA) ของเขตเศรษฐกิจยุโรป (European Economic Area หรือ EEA) โดยมีสาระสำคัญดังนี้
ตรงตามข่าวลือ ไมโครซอฟท์ประกาศอัพเดตฟีเจอร์ใหม่ให้ Windows 10 ที่หยุดเพิ่มฟีเจอร์ใหม่มานานแล้ว (และกำลังจะหมดอายุในปี 2025 ถ้าไม่มีประกาศต่อในภายหลัง) มันคือ Copilot ที่กำลังแทรกซึมเข้ามาอยู่ในทุกอณูของจักรวาลไมโครซอฟท์
รูปแบบการใช้งาน Copilot ใน Windows 10 นั้นไม่ต่างอะไรจากบน Windows 11 นั่นคือมีแถบ sidebar ด้านขวาของเดสก์ท็อป กดแล้วพิมพ์คุยกับ Bing เอ้ย Copilot ได้ตามปกติ
Copilot บน Windows 10 ยังอยู่ในช่วงพรีวิว เปิดใช้งานแล้วสำหรับกลุ่มผู้ทดสอบ Windows Insider ก่อน
จากข่าวก่อนหน้านี้ว่า Amazon กำลังทำระบบปฏิบัติการใหม่ Vega ใช้แทน Fire OS ล่าสุดมีคนค้นพบว่าระบบปฏิบัติการตัวนี้ถูกใช้แล้วในหน้าจออัจฉริยะ Echo Show อย่างน้อยหนึ่งรุ่น
Dave Zatz จากเว็บไซต์ Zatz Not Funny! โพสต์ภาพของหน้าจออัจฉริยะรุ่นจอเล็ก Echo Show 5 ที่เป็น 3rd Gen รุ่นของปี 2023 แสดงข้อมูลเวอร์ชันระบบปฏิบัติการใช้คำว่า "OS 1.1" แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้านี้ที่ระบุเป็น Fire OS ชัดเจนพร้อมเลขเวอร์ชัน 6.5
ไมโครซอฟท์ออก Patch Tuesday รอบเดือนพฤศจิกายน 2023 โดยแพตช์รอบเดือนนี้ นอกจากเป็นแพตช์ความปลอดภัยตามปกติแล้ว ยังมีอัพเดตฟีเจอร์ Windows 11 23H2 ที่รวมฟีเจอร์รอบเดือนกันยายน 2023 มาด้วย คนที่ยังไม่ได้กดอัพเดตช่วงก่อนหน้านี้ หากมากดอัพเดตแพตช์เดือนพฤศจิกายนตามรอบปกติ ก็จะได้ทุกอย่างไปด้วย
ส่วนคนที่อัพเดตฟีเจอร์ไปหมดแล้ว รวมถึงคนที่ใช้ Windows 10 ก็จะได้แพตช์ความปลอดภัยอย่างเดียว
Huawei เคยประกาศไว้เมื่อกลางปีว่าจะออกระบบปฏิบัติการ HarmonyOS Next (นับเป็นเวอร์ชัน 5) ในช่วงต้นปี 2024 ตอนนี้เริ่มมีรายละเอียดออกมาแล้วว่า มันจะรันแอพ APK จาก Android ไม่ได้อีกต่อไป
HarmonyOS แท้จริงแล้วคือการ fork ระบบปฏิบัติการ Android เป็นเวอร์ชันของตัวเอง แต่หลังจากปรับแต่งมาสักระยะเวลาหนึ่ง ดูเหมือนว่า Huawei พร้อมแล้วสำหรับการปลดแอกจาก Android (อย่างน้อยก็ในจีน)
เว็บไซต์ Android Police รายงานว่ามีผู้ใช้ Pixel 6/7 ที่อัพเกรดเป็น Android 14 รายงานว่าแบตเตอรี่ใช้ได้ยาวนานขึ้นกว่าเดิม และจัดการความร้อนของระบบได้ดีขึ้น
แนวทางของ Android 14 ที่เข้มงวดกับแอพทำงานเบื้องหลังมากขึ้น เป็นสิ่งที่กูเกิลประกาศอยู่แล้ว แต่ก็มีการค้นพบว่ากูเกิลแอบปรับบางอย่างเพิ่มโดยไม่ได้ประกาศแต่แรก
Mishaal Rahman นักขุดฟีเจอร์จากซอร์สโค้ดของ Android รายงานว่า Android 14 ช่วยเพิ่มการใช้งานแบตเตอรี่ขึ้นอีกพอสมควร เหตุเพราะปรับวิธีการไม่ยอมให้แอพทำงานเบื้องหลังได้มากเหมือนเดิม อุดช่องโหว่ในการทำงานของเคอร์เนลที่คุมการเกิดของโพรเซส
Patch Tuesday หรือธรรมเนียมการออกแพตช์ความปลอดภัยรายเดือน ทุกวันอังคารที่ 2 ของเดือน มีอายุครบ 20 ปีแล้ว หลังออกแพตช์ครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน 2003
ไมโครซอฟท์เริ่มแนวคิดการอัพเดตแพตช์ความปลอดภัยรายเดือนให้ระบบปฏิบัติการ จากบันทึกของบิล เกตส์ ชื่อ Trustworthy Computing ช่วงต้นปี 2002 ที่เขียนขึ้นเพื่อรับมือปัญหาช่องโหว่ความปลอดภัยระบาดบนวินโดวส์ (ในยุคนั้น)
Janko Roettgers นักข่าวสายไอทีที่เคยทำงานสื่อใหญ่หลายแห่ง (ปัจจุบันมีจดหมายข่าวของตัวเองชื่อ Lowpass) รายงานข่าวยังไม่ยืนยันว่า Amazon กำลังพัฒนาระบบปฏิบัติการของตัวเอง เพื่อใช้แทน Fire OS ระบบปฏิบัติการ Android fork ที่ใช้ในอุปกรณ์ตระกูล Fire
ระบบปฏิบัติการตัวนี้มีชื่อโค้ดเนมว่า Vega ใช้แกนหลักเป็นลินุกซ์ ส่วนติดต่อผู้ใช้เป็นเทคโนโลยีเว็บสร้างด้วย React Native ออกแบบมาเพื่ออุปกรณ์สมาร์ทโฮม เช่น Fire TV เพื่อใช้แทน Fire OS ในปัจจุบัน และในอนาคตจะขยายไปยังอุปกรณ์ประเภทอื่นด้วย เช่น ระบบความบันเทิงในรถยนต์
เว็บไซต์ Windows Central รายงานข่าวลือว่าไมโครซอฟท์จะขยายฟีเจอร์ Copilot ของ Windows 11 ไปยัง Windows 10 ด้วย เพื่อเพิ่มฐานผู้ใช้งาน Copilot ให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
Windows 10 ไม่ได้อัพเดตฟีเจอร์ใหม่ๆ มานานแล้ว และจะหมดระยะซัพพอร์ตในปี 2025 (ครบ 10 ปีหลังออก Windows 10 เวอร์ชันแรก) แต่ก็ยังมีฐานผู้ใช้งานจำนวนมากถึง 1 พันล้านเครื่อง (เทียบกับ Windows 11 มีราว 400 ล้านเครื่อง) ด้วยเหตุผลสำคัญคือฮาร์ดแวร์เก่าไม่สามารถอัพเกรดไปเป็น Windows 11 ได้
ไมโครซอฟท์เริ่มส่งสัญญาณ "ถอด" แอพบางตัวออกจาก Windows 11 โดยในรุ่นทดสอบล่าสุด Build 25987 (Canary Channel) จะไม่ติดตั้งแอพสองตัวคือ แอพแผนที่ Windows Maps และแอพดูวิดีโอ Movies and TV ให้แล้วหากติดตั้งแบบ clean install โดยผู้ใช้ยังสามารถติดตั้งผ่าน Microsoft Store เองได้ถ้าต้องการ
ไมโครซอฟท์ไม่ได้อธิบายเหตุผลว่าทำไมถึงไม่ติดตั้งแอพสองตัวนี้ กรณีของแอพ Movies and TV น่าจะเป็นเพราะแอพ Media Player ตัวใหม่ของ Windows 11 (คนละตัวกับ Windows Media Player คนดีคนเดิม) มาทดแทนให้ ส่วนกรณีของ Windows Maps น่าจะเป็นเพราะมีคนใช้น้อย และผู้ใช้สามารถเข้าถึง Bing Maps ผ่านเบราว์เซอร์ได้อยู่แล้ว
ไมโครซอฟท์ประกาศปล่อย Windows 11 อัพเดต 23H2 โดยที่ไม่มีฟีเจอร์อะไรใหม่มากนัก
เหตุผลเป็นเพราะไมโครซอฟท์เปลี่ยนมาใช้วิธีออกฟีเจอร์แยกจากตัว OS ผ่านอัพเดตรายเดือนมาได้สักพักแล้ว ฟีเจอร์ใหม่ส่วนใหญ่ เช่น Windows Copilot เพิ่งออกผ่านอัพเดตรอบเดือนกันยายน (ที่อยู่บน 22H2) ทำให้ตัว 23H2 มีสถานะเป็นเพียงแกนระบบปฏิบัติการ (baseline OS) ลักษณะเดียวกับ Android เวอร์ชันหลังๆ ที่ตัวแกน OS แทบไม่มีอะไรใหม่ที่ผู้ใช้มองเห็น เป็นการเปลี่ยนเทคโนโลยีฐานเท่านั้น
หากผู้ใช้กดอัพเดตรอบเดือนกันยายนไปแล้ว จะแทบไม่เห็นอะไรใหม่ใน 23H2 แต่ถ้ายังไม่อัพเดตรอบเดือนกันยายน มากดรอบพฤศจิกายน (23H2) ทีเดียว ก็จะได้ของใหม่ทั้งหมด
Xiaomi เปิดตัวระบบปฏิบัติการใหม่ HyperOS ตามนัดหมาย โดยระบุว่าจะเป็นระบบปฏิบัติการเดียวสำหรับสินค้าทุกตัวของ Xiaomi ตั้งแต่อุปกรณ์พกพา รถยนต์ อุปกรณ์สมาร์ทโฮม ภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่ของบริษัท "Human x Car x Home"
มาถึงจุดนี้แล้วหลายคนอาจสงสัยว่าตกลงแล้วมันคือระบบปฏิบัติการอะไรกันแน่ คำอธิบายของ Xiaomi บอกว่าแกนหลักของมันใช้เคอร์เนลลินุกซ์ ผสมกับระบบปฏิบัติการ Xiaomi Vela ที่พัฒนาขึ้นเอง (Vela เป็นการนำระบบปฏิบัติการเรียลไทม์ Apache NuttX สำหรับอุปกรณ์ IoT มาดัดแปลงต่อ โดย Xiaomi เปิดตัว Vela มาตั้งแต่ปี 2020)
กูเกิลฉลอง Android ครบ 15 ปี (นับจากวันวางขาย T-Mobile G1 ฮาร์ดแวร์ชิ้นแรก) ถึงแม้ไม่มีอีเวนต์อะไรพิเศษ แต่ก็มีการระลึกความหลังของทีมงาน Android รุ่นแรกๆ ทำให้เรารู้เบื้องหลังของข้อมูลบางอย่างเพิ่มเติม
ไมโครซอฟท์ประกาศแผนการระยะยาวของ Windows ที่ต้องการลดการล็อกอินระยะไกลผ่าน NT LAN Manager (NTLM) ที่ใช้มายาวนานตั้งแต่ยุค Windows NT เปลี่ยนมาใช้โปรโตคอลที่ใหม่กว่าคือ Kerberos แทน
NTLM เป็นโปรโตคอลเก่าแก่ที่ใช้กันมานาน มีข้อดีเรื่องใช้ง่าย แต่ก็ถือว่าล้าสมัยแล้วตามมาตรฐานปัจจุบัน ขาดฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและการต่อขยายหลายอย่าง
Xiaomi ได้ประกาศเปิดตัวระบบปฏิบัติการใหม่ที่เรียกว่า HyperOS โดย Xiaomi ยืนยันว่าจะวางจำหน่ายทั่วโลก และจะเปิดตัวใน Xiaomi 14 ซีรี่ส์ ซึ่ง HyperOS จะค่อย ๆ เข้ามาแทนที่ระบบปฏิบัติการ MIUI ของ Xiaomi ที่มีมานานกว่า 13 ปี
HyperOS ออกแบบมาเพื่อรองรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของ Xiaomi และจะเชื่อมโยงกับระบบนิเวศทั้งหมด (ecosystem) ของผลิตภัณฑ์ทั้ง 200 หมวดหมู่ ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์สมาร์ทโฮม รถยนต์ และอื่น ๆ ต่างจาก MIUI ที่รองรับแค่ในโทรศัพท์ และแท็ปเล็ต